ตอนที่ 14 : ยอมทุกอย่าง
Smile of : 14
...นับจากชิกามารุจากไปคิบะก็เฝ้ารอให้ถึงเวลานัดหมายด้วยความร้อนรน เพราะยิ่งใกล้ถึงเวลาจริง ๆ จิตใจก็เริ่มไม่มั่นคง นึกหาคำพูดดี ๆ ที่จะเอ่ยกับอีกฝ่ายไม่ได้จนสุดท้ายก็กลายเป็นหวาดกลัวกับเวลาที่ใกล้จะมาถึงเข้าไปทุกขณะ...ฝ่ายนารูโตะนั้นก็ได้แต่ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปอย่างไร้จุดหมาย ไม่ได้กระวนกระวายใจเหมือนใครอีกคน จนกระทั้งถึงเวลานัดหมายแต่ทว่าคนที่นัดหมายไว้ก็ยังไม่มาปรากฏตัวซักที...
“ทำไมชิกามารุยังไม่มาอีกล่ะเนี่ย...บอกว่าเย็น ๆ ไม่ใช่เหรอนี่ก็มืดแล้วนะทำไมยังไม่มา...” นารูโตะบ่นกับตัวเองพร้อมกับเดินไปเปิดประตูมองหาคนที่บอกว่าจะมาอยู่หลายรอบ จนเริ่มเบื่อก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเซ็ง ๆ
“หรือว่างานยังไม่เสร็จ...เฮ้อ คนอื่นเค้ามีอะไรให้ทำแต่ทำไมเราว่างอยู่คนเดียวล่ะเนี่ย...” ขณะที่กำลังนอนบ่นอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ซึ่งนารูโตะในตอนนี้ไม่ได้สนใจเลยว่าคนที่มาเคาะอาจจะไม่ใช่คนที่เค้ารอคอยอยู่ก็ได้ จึงได้ตะโกนตอบกลับไปเบา ๆ
“เข้ามาสิ...ประตูไม่ได้ล็อค...” พอได้ยินเสียงปิดประตูนารูโตะก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะต่อว่าอีกฝ่ายออกไปโทษฐานที่ทำให้เค้าต้องรอนาน
“ทำไมมาช้าจังหัดรักษาเวลาบ้าง...” ประโยคที่เอ่ยออกมาค้างอยู่เพียงเท่านั้นเมื่อนารูโตะเห็นชัดแล้วว่าคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ชิกามารุ
...ชิกามารุที่ยืนมองอยู่ไกล ๆ พอเห็นว่าคิบะเข้าไปในห้องของนารูโตะเรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยอารมณ์แบบใหนก็บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ก่อนจะหมุนกายจากมาเงียบ ๆ เพราะหน้าที่ของเค้าจบลงแล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของสองคนนั้นแล้วล่ะว่าจะลงเอยแบบใหน...
“ทำไมถึงเป็นนายที่เข้ามา...ออกไปเดี๋ยวนี้...” นารูโตะร้องบอกอีกฝ่ายไปด้วยน้ำเสียงเกรียวกราด ตอนแรกที่เห็นว่าเป็นคิบะไม่ใช่
ชิกามารุจิตใจที่เคยสงบนิ่งก็กลับสั่นไหวขึ้นมาจนน่าตกใจ
“ชั้นแค่อยากจะมา...” คิบะเอ่ยออกมาด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าสำนึกในความผิดที่ตนได้ก่อขึ้นอย่างจริงใจ แต่ก็ยังเอ่ยไม่ทันจบประโยคเสียงใส ๆ ก็ร้องห้ามขึ้นมากลางคัน
“ชั้นไม่อยากฟังออกไป...บอกให้ออกไปไง...” นารูโตะออกไปไล่อย่างไร้เยื่อใย
“นารูโตะ...เรื่องวันนั้นชั้น...” คิบะเอ่ยไม่จบประโยคก็ถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงหมัดเข้าใส่แบบเต็ม ๆ แม้คิบะจะเห็นและสามารถหลบได้แต่ก็ไม่ทำกลับยืนนิ่งรับหมัดนั้นไปอย่างยินดี ฝ่ายนารูโตะเองก็ตกใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายไม่หลบแต่ทว่าการกระทำนั้นกลับยิ่งทำให้ความกรุ่นโกรธในใจของเค้าเพิ่มมากขึ้น
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วชั้นจะยอมฟังที่นายพูดอย่างงั้นเหรอ...งั้นชั้นก็ขอบอกไว้เลยว่านายคิดผิด...” พูดจบนารูโตะก็กระแทกหมัดใส่อีกฝ่ายไปอีกหนึ่งทีและก็เหมือนเดิมคือคิบะไม่หลบหรือปัดป้อง
“นายจะทำอะไรกับชั้นยังไงก็ได้ ขอแค่ช่วยรับฟังสิ่งที่ชั้นจะพูดซักเล็กน้อยเท่านั้น...” คิบะเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ไหลซึม
อยู่มุมปากออกอย่างลวก ๆ
“ชั้นไม่ฟังอะไรทั้งนั้น...ออกไปเดี๋ยวนี้...” ว่าพลางนารูโตะก็เตรียมเงื้อหมัดขึ้นอีกครั้งแต่พอเห็นอีกฝ่ายยังยืนนิ่งก็กลายเป็นตัวเองที่ไม่กล้าลงมือ สุดท้ายก็ต้องลดมือข้างนั้นลงแล้วหันมาผลักอกอีกฝ่ายแทน
“ไปให้พ้นเลย...ชั้นไม่อยากเห็นหน้านาย...ออกไปเดี๋ยวนี้...” นารูโตะออกแรงผลักอีกฝ่ายเต็มที่แต่ดูเหมือนร่างสูงจะไม่ได้สะเทือนหรือขยับไปเลยแม้แต่น้อย พอเห็นแบบนั้นแล้วจึงเปลี่ยนจากผลักมาเป็นทั้งทุบทั้งตีแต่ร่างสูงก็ยังยืนนิ่งราวกับหินผาก่อนที่คิบะจะคว้ามือเล็ก ๆ ทั้งสองข้างนั้นไว้เพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย
“เรื่องวันนั้น...ชั้นไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นเลย...ชั้น...”
“เพี้ยะ !!...” นารูโตะหยุดคำพูดนั้นของคิบะลงด้วยการฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าอีกฝ่ายเต็มแรง ผลจากแรงฟาดนั้นทำให้ใบหน้าของคิบะต้องสะบัดไปตามแรงฟาดนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไม่ได้ตั้งใจ !!...ไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอ !! ทุกอย่างที่นายทำกับชั้น นายกำลังจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นอย่างนั้นใช่มั้ย นายไม่ได้คิดอะไรกับชั้นเลยใช่มั้ย ทั้งหมดมันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบของนายเท่านั้นเองใช่มั้ย...ใช่สิชั้นมันก็เป็นผู้ชายเหมือนกับนายนี่ ไม่ได้น่ารัก น่ากอด น่าทนุถนอมเหมือนสาว ๆ พวกนั้นที่นายชวนไปใหนมาใหนด้วยนี่ใช่มั้ย ในสายตานายชั้นมันก็แค่ที่ระบายอารมณ์เป็นแค่ของเล่นเท่านั้นใช่มั้ย...คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัวที่สุด ถ้าไม่ตั้งใจแต่แรกก็อย่าทำสิ...” นารูโตะพร่างพรูความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมาเพียงแค่ได้ยินคำว่า...ไม่ตั้งใจ...จากอีกฝ่ายเท่านั้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ขณะเดียวกันสองมือที่ยื้อยุดจนหลุดจากการเหนี่ยวรั้งของอีกฝ่ายก็ตรงเข้าทำร้ายร่างสูงที่ยืนนิ่งแบบไม่ยั้ง
“นารูโตะ ฟังชั้นก่อนนะนายกำลังเข้าใจผิด...” คิบะเอ่ยพร้อมกับรวบร่างบางตรงหน้าเข้ามากอดไว้อย่างรวดเร็ว คนถูกกอดก็พยายามดิ้นให้หลุดแต่มันก็ยากเหลือเกินอ้อมแขนแข็งแรงนี้พันธนาการเค้าไว้อย่างหนาแน่น
“ปล่อยนะ...ปล่อยเดี๋ยวนี้ คนใจดำ คนหลายใจ คนเห็นแก่ตัว ทั้ง ๆ ที่มีคนอื่นอยู่แล้วแท้ ๆ แต่กลับมาทำแบบนั้นกับชั้นแล้วยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ตั้งใจอีก ทั้ง ๆ ที่มีสาว ๆ พวกนั้นอยู่แล้วตั้งมากมาย แล้วจะมาสนใจชั้นทำไม จะมาทำให้ชั้นเจ็บช้ำใจเพื่ออะไร คนใจร้าย...” ถ้อยคำตัดพ้อที่เอ่ยออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้นจากร่างบาง ความรู้สึกจากส่วนลึกในจิตใจของอีกฝ่ายที่ได้รับรู้ มันทำให้คนรับฟังเจ็บปวดรวดร้าวไม่ต่างกัน
...ร่างน้อยในอ้อมกอดกำลังสั่นสะท้านไปตามแรงสะอื้น ในเวลานี้คิบะจึงโอบกอดร่างนั้นไว้อย่างอ่อนโยนโดยไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก พร้อมกับลูบไล้เรือนผมสีดวงตะวันของอีกฝ่ายเบา ๆ เป็นการปลอบโยน สองแขนเล็ก ๆ ที่เคยมุ่งร้ายต่อร่างสูงตกลงข้างตัวอย่างอ่อนล้าก่อนจะค่อย ๆ เข้าโอบกอดร่างที่โอบรัดตัวเองไว้โดยที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงทำเช่นนี้...คิบะได้แต่นึกในใจว่าขอเพียงแค่เสียงสะอื้นของคนในอ้อมกอดนี้หยุดลงเท่านั้น เค้าก็พร้อมจะจากไปโดยไม่คิดจะเอ่ยอะไรที่มันทำร้ายอีกฝ่ายออกมาอีก เพียงเท่านั้นเค้าก็รู้แล้วว่าตนเองได้ทำร้ายอีกฝ่ายลงไปมากมายเพียงใด เนิ่นนานกว่าเสียงสะอื้นนั้นจะหยุดลงนารูโตะค่อย ๆ ผล่ะออกมาจากอกกว้างที่เค้าได้รับรู้ว่ามันอบอุ่นเพียงใหน ก่อนจะถอยห่างออกมาจากร่างสูงอีกหลายก้าวแล้วหันหลังให้อีกฝ่าย...
“นายกลับไปเถอะ...ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว...” เสียงที่ยังคงสั่นเครือเอ่ยออกมาช้า ๆ คิบะนิ่งเงียบไม่ได้เอ่ยอะไรเค้ายืนมองแผ่นหลังบาง ๆ ของร่างน้อยด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งเสียใจ เศร้าใจ น้อยใจ ห่วงใย และรักใคร่จนเกินกว่าจะปล่อยมือจากไปได้ คิบะก้าวเข้าไปหาร่างบางตรงหน้าช้า ๆ แล้วโอบรั้งร่างนั้นไว้อย่างอ่อนโยน นารูโตะเองก็ต้องสะดุ้งน้อย ๆ กับการกระทำนั้น ท่อนแขนแข็งแรงที่สอดเข้ามาตรงช่วงเอวของเค้าแล้วโอบรัดไว้อย่างทนุถนอมมันทำให้น้ำตายิ่งรินไหล จิตใจยิ่งสั่นรัวแต่ก็ไม่คิดจะห้ามปราบหรือต่อว่าเหมือนก่อนหน้านี้ เค้ารับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่พิงซบลงมาบนไหล่เล็ก ๆ ของตนอย่างแผ่วเบา...
“ขอโทษนะกับเรื่องคืนนั้นที่ทำรุนแรงกับนาย...ขอโทษที่ทำให้นายต้องเจ็บช้ำ...ขอโทษที่ทำตัวน่ารังเกียจ...ขอโทษที่เห็นแก่ตัว...ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ชั้นรู้ว่านายโกรธและเกลียดชั้นมากแค่ใหน แต่มันก็สมควรแล้วเพราะทุกอย่างที่ชั้นทำมันไม่สมควรจะให้อภัยและชั้นก็ไม่ขอให้นายยกโทษให้ด้วย ที่ชั้นมาวันนี้ก็เพื่อจะบอกว่าชั้นเสียใจที่ทำเรื่องนั้นลงไปด้วยการฝืนใจนาย...แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชั้นอยากจะบอกกับนายมาตลอดก็คือ...ชั้นรักนาย...มันอาจจะฟังดูแปลก ๆ ที่ชั้นบอกรักผู้ชายด้วยกันแต่ว่ามันเป็นความจริงที่สุดในใจของชั้นและจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เรื่องข่าวลือที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านตอนนี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะชั้นไม่เคยคิดจะรักใครนอกจาก อุสึมากิ นารูโตะ คนนี้คนเดียวเท่านัน ชั้นไม่เคยคิดจะทำให้นายต้องเสียใจ แต่ว่ามันก็เป็นไปไม่ได้แล้วเพราะตอนนี้คนที่ทำให้นายเสียใจที่สุดก็คือชั้น...ขอโทษนะนารูโตะ...ขอโทษจริง ๆ...” คำขอโทษที่สุดท้ายแล้วก็สามารถเอ่ยออกมาได้นั้นมันทำให้จิตใจของคนที่ได้รับฟังต้องหวั่นไหว คำว่ารักที่ถูกส่งมาให้พร้อมกับคำขอโทษนั้นกลับมีน้ำหนักในจิตใจของนารูโตะมากกว่าคำใด ๆ ที่ได้รับฟังมาทั้งหมด...ใบหน้าคมคายที่ซุกซบอยู่บนไหล่แบบบางนั้นค่อย ๆ เงยขึ้นช้า ๆ วงแขนที่โอบรัดอยู่รอบกายก็คลายตัวออกแล้วเช่นกัน จากการกระทำนี้มันทำให้นารูโตะรู้สึกใจหายวาบขึ้นมาในทันที
...คิบะปล่อยร่างบางที่เคยโอบกอดไว้ให้เป็นอิสระแล้วค่อย ๆ ถอยห่างออกมาจากร่างนั้นช้า ๆ สายตาของเค้าจับจ้องไปยังร่างที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจหมุนกายเตรียมจากไป แต่แล้วขาที่กำลังก้าวเดินจากมานั้นก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะคำพูดของใครบางคน...
“ทำกับคนอื่นเค้าไว้ซะมากมายขนาดนั้น...คิดว่าแค่ขอโทษก็จบเรื่องงั้นเหรอ ไม่คิดจะรับผิดชอบเลยรึไงคนไม่มีความรับผิดชอบ...” จากคำที่ได้ยินทำให้คิบะต้องหันกลับไปมองร่างบางที่ยังยืนหันหลังให้เค้าด้วยสีหน้าแปลกใจ ด้วยไม่คาดคิดว่าจะได้ยินประโยคแบบนี้จากอีกฝ่ายในสถานการณ์เช่นนี้
“นารูโตะ...” คิบะเอ่ยเรียกอีกฝ่ายออกไปเบา ๆ
“ที่บอกว่ารักชั้น...ก็โกหกใช่มั้ย...” ร่างบางเอ่ยพร้อมกับค่อย ๆ หันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายด้วยแววตาตัดพ้อ
“ไม่ได้โกหก...ชั้นรักนาย...มันเป็นความจริง...” คิบะยังยืนยันหนักแน่นกับความรู้สึกของตนเองที่มีต่ออีกฝ่าย
“ถ้าอย่างนั้นนายก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเองที่ทำไว้กับชั้น...” เสียงใส ๆ เอ่ยออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงขึ้นน้อย ๆ สุดท้ายก็ต้องเบือนหน้าหนีไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย จากปฏิกิริยานี้ทำให้ใบหน้าที่เคยเศร้าหมองของคิบะต้องปรากฏรอยยิ้มสดใสขึ้นมาในทันที แล้วร่างสูงก็ตรงเข้าไปคว้าร่างบางที่ยืนเอียงอายอยู่ตรงหน้าเข้ามากอดไว้อย่างรักใคร่เป็นที่สุด
“นายไม่โกรธไม่เกลียดชั้นแล้วเหรอ...” คิบะเอ่ยถามด้วยแววตาวาวระยับเมื่อมีร่างน้อยอยู่ในอ้อมกอดของตน
“โกรธ...แต่ไม่ได้เกลียด...” คำตอบรับอาย ๆ ที่อีกฝ่ายมีให้นั้นสามารถเรียกรอยยิ้มที่มีอยู่แล้วให้กว้างขึ้นไปอีก
“แปลว่าจะยกโทษให้ใช่มั้ย...” คิบะยังถามต่อพร้อมกับกระชับอ้อมแขนของตนให้แน่นขึ้นส่งผลให้ร่างสองร่างแนบสนิทกันมากยิ่งขึ้น แล้วใบหน้าของอีกฝ่ายก็ยิ่งแดงมากขึ้นอีก
“ขอดูความประพฤติก่อนแล้วจะตัดสินใจทีหลัง...” เพียงเท่านี้ก็มากเกินพอแล้วสำหรับคนที่สิ้นหวังไปแล้วอย่างคิบะ เค้าไล่ปลายนิ้วเรียว ๆ ไปเช็ดคราบน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้านวลสวยของอีกฝ่ายออกให้อย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปจูบเบา ๆ ที่หน้าผากกลมมนของอีกฝ่ายด้วยอีกหนึ่งที นารูโตะไม่ได้ขัดขืนกับการกระทำของร่างสูงเค้าหลับตาพริ้มรอรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ
“ที่บอกว่าให้ชั้นรับผิดชอบนาย...ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่มั้ย...” คิบะเอ่ยถามย้ำอีกทีให้แน่ใจ
“ทำไมหรือว่าจะปฏิเสธ...” เสียงใส ๆ เริ่มขุ่นเคือง
“ไม่ใช่แบบนั้น...ชั้นยินดีและเต็มใจอย่างที่สุด แค่อยากมั่นใจว่านายจะไม่เสียใจภายหลังเท่านั้นเอง…”
“ชั้นไม่มีอะไรจะต้องเสียใจอีกแล้ว...ที่ผ่านมามันก็มากพอแล้วล่ะ...”
“ขอโทษนะ...”
“อย่าทำแบบนั้นอีกก็แล้วกัน...ที่สำคัญเรื่องสาว ๆ ในหมู่บ้านจะอธิบายว่ายังไง...” นารูโตะถามเรื่องที่ตัวเองคาใจมากที่สุดออกไป
“เรื่องมันเกิดมาจากตอนแรกที่ชั้นรู้ตัวเองว่าเกิดไปหลงรักนายที่เป็นผู้ชายด้วยกันเข้านะสิ แต่ว่ายังไม่อยากยอมรับความจริงก็เลยหาทางพิสูจน์หัวใจตัวเองดูเท่านั้นแหละ ก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาแบบนี้หรอกนะ...” คิบะเอ่ยตอบไปตามตรงเพราะจะว่าไปตัวเองก็ก่อเรื่องยุ่งเอาไว้มากมายจนน่าปวดหัวจริง ๆ
“งั้นขอถามอีกเรื่องได้หรือเปล่า...” นารูโตะยังมีเรื่องคาใจอีกมากมายแต่วันนี้ขอถามเรื่องที่คิดเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้ซักทีนี่เสียก่อน ซึ่งคิบะก็พยักหน้ารับเป็นเชิงอนุญาติ
“คืนนั้นนายพูดเหมือนว่าชั้นชอบชิกามารุอะไรทำนองนั้น...ทำไมถึงคิดแบบนั้น...”
“พูดก็พูดเถอะต้นเหตุที่แท้จริงของเรื่องคืนนั้นก็คงจะมาจากเจ้าชิกามารุนั่นแหละ...” คิบะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เข้าใจ...หมายความว่าไง...” นารูโตะเอียงคอมองมาด้วยความสงสัย มันช่างเป็นกิริยาที่น่ารัก น่าฟัดอย่าบอกใครจนคิบะอดไม่ได้ต้องขโมยหอมแก้มเนียน ๆ ที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าไปเสียก่อนหนึ่งที
“อ๊ะ...ทำอะไรอีกเนี่ย ตอบมาก่อนสิว่ามันหมายความว่ายังไง ทำไมชิกามารุถึงเป็นต้นเหตุล่ะ...” นารูโตะอุทานเบา ๆ ก่อนจะทุบอีกฝ่ายไปเสียหนึ่งทีโทษฐานที่ก่อกวนไม่ดูเวลา พอโดนทุบเข้าไปอีกหนึ่งทีคิบะจึงต้องหยุดแล้วตอบอีกฝ่ายไปตามตรง
“ก็วันนั้นชั้นเห็นนายอยู่กับคิบะทั้งวัน คุยกันกระหนุงกระหนิง ทั้งโอบทั้งกอดแล้วยังจะมีการพาเข้าบ้านอีก ถ้ามันมีแค่นี้ชั้นก็ยังจะพอทำใจได้ แต่ที่ทนไม่ได้ก็คือนายยอมให้มันจูบเนี่ยสิ พอเห็นแล้วมันก็ฉุนขาดสุดท้ายแล้วดันมาได้ยินนายพูดจาไม่เข้าหูอีกเรื่องมันก็เลยเลวร้ายอย่างที่เป็นนั่นแหละ...” คิบะเล่าแบบรวดรัดตัดตอนเพราะไม่อยากนึกถึงเท่าไหร่
“เดี๋ยวนะ...นายบอกว่าเห็นชั้นจูบกับชิกามารุงั้นเหรอ ??...”
“ใช่...”
“เมื่อไหร่ ??...”
“ก็ตอนออกมาจากบ้านของชิกามารุไง พอนายล้มเจ้านั่นก็ทำทีท่าเข้าไปดูแล้วก็ทำอย่างว่านั่นแหละ...” คิบะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง
“ไม่น่ะ !!...ตอนนั้นชั้นหกล้มก็จริง ชิกามารุก็แค่เข้ามาดูแผลให้เฉย ๆ ไม่ได้จูบกันซักหน่อยแล้วชั้นก็ไม่เคยคิดจะไปจูบกับชิกามารุเลยด้วยซ้ำ...” นารูโตะเอ่ยแย้งออกมาเนื่องจากเหตุการณ์ตอนนั้นมันไม่ได้เป็นอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจเลยแม้แต่น้อย
“หือ...แต่ว่าจากจุดที่ชั้นยืนอยู่มันเห็นเหมือนนายสองคนกำลังจูบกันอยู่เลยนะ...”
“เห็นเหมือน ??...งั้นเหรอ...”
“อ้าว...ไม่ใช่เหรอ งั้นชั้นก็เข้าใจผิดคิดไปเองสินะ...” คิบะสรุปความหลังจากเห็นปฏิกิริยาและได้ฟังเรื่องราวจากอีกฝ่ายทั้งหมด
“ยังจะมาอ้าวอีก...คนบ้าอะไรเนี่ย...ทำคนอื่นเดือดร้อนเพราะตัวเองคิดเองเออเองเนี่ยน่ะ...” นารูโตะตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายเมื่อรู้แน่ชัดแล้วว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนบานปลายมันมาจากความงี่เง่าของคนตรงหน้านี่เอง
“ก็มันเห็นแบบนั้นจริง ๆ นี่นาทำไงได้ล่ะ...”
“นายยังกล้าพูดแบบนี้อีกเหรอ...เจ้าคนงี่เง่า...คนไม่มีหัวคิด...” นารูโตะพูดพร้อมกับรัวกำปั้นใส่อีกฝ่ายด้วยความโมโห
“โอ๊ย...ขอโทษ...ชั้นผิดไปแล้ว...” คิบะร้องบอกไปพลางหลบมือที่ฟาดใส่มาไปพลางจนดูวุ่นวายไปหมด
“ชั้นเจ็บตัวเพราะความงี่เง่าของนายคนเดียวเลย...เจ้าลูกหมาคิบะ...อย่าอยู่เลย...” เสียงใส ๆ ขู่อาฆาตก่อนจะเหวี่ยงหมัดไปกระแทกใบหน้าอีกฝ่ายแบบเต็ม ๆ ส่งผลให้คนที่หลบไม่ทันถึงกับเห็นดาวชัดเจนมากในเวลานี้ สุดท้ายคิบะก็ทรุดลงไปกองกับพื้นเนื่องจากวันนี้เค้าโดนอะไรต่อมิอะไรมาเยอะแยะจนช้ำไปทั้งตัวเสียแล้วในเวลานี้ นารูโตะเองแม้จะยังโมโหอยู่แต่พอเห็นอีกฝ่ายไม่สู้หรือว่าหลบหลีกก็ฮึดฮัดทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวไม่ลง ก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไปยืนสงบสติอารมณ์อยู่ห่าง ๆ ฝ่ายคิบะพอเห็นร่างบางยืนนิ่งไม่พูดอะไรก็พยุงกายลุกขึ้นมาแล้วลังเลว่าจะทำยังไงต่อไป
“นารูโตะ...อย่าโกรธเลยนะ ชั้นขอโทษ ชั้นยอมรับผิดทุกอย่างก็ได้...จะให้ชั้นทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นชั้นยอมทุกอย่างเลย...ดีกันเถอะนะ...”
คิบะขยับเข้าไปใกล้ร่างบางช้า ๆ นารูโตะหันมามองด้วยแววตาขุ่นเคืองเล็กน้อย
“ทุกอย่างเลยใช่มั้ย...” เสียงใส ๆ ร้องถามกลับมา คิบะจึงรีบพยักหน้ารับในทันทีเพราะมันหมายความว่าอีกฝ่ายกำลังจะใจอ่อนกับเค้าแล้วนั่นเอง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทีนี้ก็เหลือให้คุณแม่มาสู่ขอนารุจัง
คืนดีกันแล้วสินะTWT
กว่าจะคืนดีกัน ลุ่นแทบขาดใจ^_^
555 สะใจนิดๆๆๆ
อ่านแล้วฉีกกระชากอิมเมจบ้าๆต๊องๆของคิบะมากมายค่ะพี่ริโกะ คิบะแมนมาก!!!!
ตอนต่อไป...เรียกเลือด หุหุ
ดีใจด้วยนะคิบะ
ดีใจด้วยย่ะคิบะ ชิชิชิ - -* ว่าเเต่น่ารักจุงเบยยยยย ฮิฮิๆ
หวานมากค่ะ
>///////<
ในที่สุดก็ลงเอยกันซะที
ว่าแต่คิบะนายเข้าใจผิดเองนะ ไหงไปโทษชิกาของชั้น(?)แบบนั้นยะ=O=**
ไปอ่านตอนต่อไปอย่างด่วน
แต่งหนุกมากค่า