ตอนที่ 8 : หวั่นไหวเสียแล้ว
Mission : 8
...ราตรีที่ยาวนานผ่านพ้นไปแล้วอรุณรุ่งของวันใหม่ก็มาเยือนเหมือนเช่นทุกครา นารูโตะที่นอนหลับสนิทมาตลอดทั้งคืนค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาช้า ๆ พร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นที่โอบล้อมอยู่รอบกายตนในเวลานี้ เค้าขยับกายด้วยความเคยชินเพราะลืมไปว่าตนเองไม่ได้อยู่เพียงลำพังเหมือนเช่นทุกวันแต่ยามนี้ต้องมาอยู่ร่วมชายคากับใครอีกคนที่ตอนนี้ก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน และพอนารูโตะเริ่มขยับตัวก็ต้องรู้สึกแปลกใจเพราะสัมผัสที่ร่างกายได้รับอยู่ตอนนี้มันเหมือนตัวเองตกอยู่ในที่คับแคบไม่สามารถขยับตัวได้อย่างอิสระเหมือนเช่นเคย จนสุดท้ายดวงตากลมโตก็ต้องเปิดลืมขึ้นเพื่อไขข้อข้องใจของตนเอง แต่แล้ว...
“!!!!!!!!!” ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันทำให้ใครบางคนถึงกับลืมหายใจ ท้องไส้ปั่นป่วน หายใจติดขัด หลงลืมแม้แต่คำพูดและเสียงของตนเองไปชั่วขณะหนึ่ง
“มองแบบนี้หมายความว่ายังไง...นารูโตะ...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนที่ยังตกอยู่ในอ้อมกอดของเค้า พอถูกถามกลับมาแบบนี้เจ้าตัวก็เหมือนกับจะเรียกสติตัวเองกลับมาได้พร้อม ๆ กับความรู้สึกที่ว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าว สองแก้มนวลเริ่มแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“ว่ายังไง...ชั้นถามนายอยู่นะ จ้องกันแบบนั้นหน้าชั้นมันอัปลักษณ์ขนาดนั้นเลยหรือไง...” คาคาชิยังคงเอ่ยถามอย่างใจเย็นหรือจะพูดให้ถูกต้องบอกว่ากำลังสนุกที่ได้เห็นปฏิกิริยาแบบนี้ของอีกฝ่ายมากกว่า
“เอ่อ...คือว่า...” นารูโตะพูดออกมาได้เท่านั้นก็ต้องรีบยันกายลุกออกมาจากอ้อมกอดของอีกฝ่ายเพื่อลดความกระดากอายที่กำลังเป็นอยู่ให้น้อยลง นั่นก็เพราะภาพที่เค้าเห็นยามที่ลืมตาตื่นขึ้นมามันทำให้หัวใจกระตุกวาบ แล้วก็สั่นรัวมาจนถึงตอนนี้นั่นเอง ใบหน้าของอีกฝ่ายที่เค้ามักจะคุ้นเคยกับการมีหน้ากากปิดกั้นไว้มายามนี้มันไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิดจนเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงซึ่ง ณ เวลานี้นารูโตะคงบรรยายได้เพียงคำว่า สุดยอด เท่านั้น คาคาชิที่พอปล่อยอีกฝ่ายให้หลุดออกไปจากอ้อมอกของตนเองแล้วก็ขยับกายลุกขึ้นมานั่งด้วยอีกคนแต่ก็ยังไม่ได้ถอยห่างจากร่างบอบบางไปใหน ตรงข้ามเค้ากลับโน้มกายเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างจงใจด้วยรอยยิ้มที่กระชากหัวใจคนมองให้สั่นไหวมากกว่าที่เป็นอยู่
“จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอนอกจากคำว่า เอ่อ นะ อย่างน้อยก็น่าจะทักทายยามเช้ากันบ้างนะ...” คาคาชิยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงพร้อม ๆ กับท้าวสองแขนลงไปบนเตียงจนร่างของเค้าคร่อมร่างของนารูโตะไว้พอดิบพอดี ฝ่ายนารูโตะที่ไม่ได้ขยับถอยหนีก็เหมือนจะตกอยู่ในวงแขนของอีกฝ่ายกราย ๆ ใบหน้าของคนสองคนอยู่ห่างกันเพียงเล็กน้อย แววตาของคนสองคู่สบประสานกันราวกับว่ากำลังค้นหาบางสิ่งที่ซ่อนไว้ภายในใจผ่านดวงตาคู่นั้น เมื่อระยะห่างมีน้อยเพียงนี้นารูโตะเองก็ไม่ได้ละสายตาไปจากใบหน้าเกลี้ยงเกลาและหล่อเหลาปานเทพบุตรตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย แม้ครั้งหนึ่งเค้าจะเคยพยายามค้นหาใบหน้าที่แท้จริงภายใต้หน้ากากของอีกฝ่ายแต่ก็ล้มเหลวจนสุดท้ายก็ล้มเลิกความคิดไป ทว่ายามนี้สิ่งที่เค้าเคยพยายามค้นหากลับมาปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างง่ายดาย เพียงแค่เอื้อมมือคว้าก็สามารถสัมผัสได้...คาคาชิเองพอเห็นว่านารูโตะกำลังให้ความสนใจกับใบหน้าของตัวเองก็อมยิ้มน้อย ๆ ด้วยอารมณ์แบบใหนก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน...เค้าปล่อยให้อีกฝ่ายสำรวจใบหน้าตัวเองต่อไปอย่างไม่ถือสา เช่นเดียวกันตัวเค้าเองก็เฝ้ามองใบหน้านวลใสของอีกฝ่ายไปเงียบ ๆ เช่นกัน...จนกระทั้ง...
“นายจะจ้องหน้าชั้นอีกนานมั้ย...” คาคาชิเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาหลังจากปล่อยให้ตัวเองทำตามใจมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งพอนารูโตะได้ยินแบบนั้นก็หันกลับมาสบตากับอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มสดใสเหมือนเช่นทุกครั้ง ซึ่งคาคาชิเองก็ยิ้มรับรอยยิ้มนั้นไว้โดยอัตโนมัติเช่นกัน
“ขอผมจับหน้าครูได้มั้ยครับ...ผมอยากรู้ว่ามันเป็นของจริงหรือเปล่า...” จากประโยคนั้นมันยิ่งทำให้คนฟังฉีกยิ้มกว้างมากขึ้นด้วยความขบขัน
“ทำไม...นายคิดว่าหน้าชั้นมันเป็นของปลอมรึยังไง...”
“เปล่าครับ...” นารูโตะตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มอาย ๆ พร้อมกับสั่นศรีษะน้อย ๆ อย่างเขิน ๆ แล้วจู่ ๆ คาคาชิก็คว้ามือเล็ก ๆ ของคนตรงหน้ามากุมไว้ นารูโตะเองก็ตกใจจนต้องชักมือหนีแต่คาคาชิก็ยังรั้งมือน้อย ๆ นั้นมากุมไว้ไม่ยอมปล่อย
“ครูครับ...” เสียงใส ๆ ร้องเรียกขึ้นมาอย่างตื่น ๆ
“อยากจะดูว่าเป็นของจริงหรือเปล่าใช่มั้ย...” คาคาชิเอ่ยตอบไปทันทีพร้อม ๆ กับยกมือเล็ก ๆ ที่ตนกอบกุมไว้มาวางแนบที่แก้มของตนอย่างนุ่มนวล ทันที่ที่ฝ่ามือเล็ก ๆ สัมผัสกับผิวแก้มของอีกฝ่ายใบหน้าของนารูโตะก็เปลี่ยนเป็นสีแดงจัดอย่างชัดเจน
“เป็นไง...รู้หรือยังว่าของจริงหรือว่าของปลอม...” นารูโตะไม่ได้เอ่ยตอบกลับไป แต่กลับค่อยๆ ไล่ฝ่ามือของตนไปตามรูปหน้าคมเข้มเบาๆ สายตาของนารูโตะเองก็เลื่อนไปตามฝามือของตนเช่นกันก่อนจะไปหยุดนิ่งอยู่ที่ดวงตาคู่คมที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้ว นารูโตะรู้สึกเหมือนว่าร่างกายตัวเองกำลังถูกสายตาคมวาวคู่นั้นดึงดูดเอาไว้ทำให้ไม่อาจละสายตาไปจากอีกฝ่ายได้
“นารูโตะ...” เสียงเรียกที่ฟังดูอ่อนหวานจนน่าหวั่นไหวนี้ มันทำให้นารูโตะจำต้องเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาโดยไว้
“ครับ...” เสียงหวาน ๆ ที่เอ่ยรับไปนั้นฟังดูไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ พร้อม ๆ กับที่นารูโตะละมือของตนออกมาจากใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยทีท่าขัดเขินอย่างบอกไม่ถูกก่อนจะขยับตัวถอยห่างออกมาอีกเล็กน้อยพร้อมกับรีบเบือนหน้าหนี ฝ่ายคาคาชิเองก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกเค้าทำเพียงแค่เฝ้ามองใบหน้าด้านข้างของคนขี้อายด้วยรอยยิ้มที่นารูโตะไม่อาจเข้าใจได้ว่ามันกำลังสื่อความหมายว่าอย่างไร
“วันนี้ชั้นมีงานต้องทำอยู่นิดหน่อย...แต่ก็สามารถพานายไปด้วยได้ไม่ต้องกังวลว่าชั้นจะทิ้งนายให้อยู่คนเดียวหรอกนะ...” ในที่สุดคาคาชิก็เป็นฝ่ายเปิดปากออกมาก่อนหลังจากที่เฝ้ามองอีกฝ่ายมาเนิ่นนาน
“ครับ...” นารูโตะเองก็ยังคงเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านั้นเพราะใช่ว่าเค้าจะไม่รับรู้ว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องตนมาตลอดจนถึงตอนนี้
“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเตรียมตัวเถอะ...จะได้รีบไปกัน...” พูดจบคาคาชิก็ขยับกายลงจากเตียงแล้วหันไปคว้าเสื้อผ้าของตนออกมาใส่อย่างไม่รีบร้อน ฝ่ายนารูโตะเองก็แอบมองแผ่นหลังของร่างสูงด้วยความรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูกสุดท้ายก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องพาตัวเองหลบเข้าไปในห้องน้ำแทน
“นายจะรู้ตัวหรือเปล่านะ...ว่าสิ่งที่ชั้นทำมันมีความหมายว่าอย่างไร...” คาคาชิบอกกับตัวเองเบา ๆ เมื่อเห็นใครบางคนผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
...พอออกมาจากบ้านของคาคาชิแล้วนารูโตะก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก มีเพียงคาคาชิที่คอยถามนั่นถามนี้จนตอนนี้คนที่เงียบกลับกลายเป็นนารูโตะไปเสียแล้ว...
“เอ่อ...ครูครับ...” จู่ ๆ นารูโตะก็เอ่ยขึ้นมาเบา ๆ
“มีอะไรเหรอ...”
“ผมขอแวะไปหาซากุระกับซาอิซักหน่อยจะได้มั้ยครับ...”
“ไปทำไม...” คาคาชิเอ่ยถามเสียงเข้มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ส่งผลให้คนร้องขอเริ่มหวั่น ๆ
“ก็แบบว่า...มีเรื่องอยากปรึกษานะครับ...” นารูโตะรีบหาข้ออ้างที่คิดว่าน่าจะสมเหตุสมผลมากที่สุด
“ทำไมต้องไปปรึกษาสองคนนั้น...ปรึกษาชั้นก็ได้ หรือว่ามีความลับอะไรที่บอกให้ชั้นรู้ไม่ได้...” พอได้ยินอีกฝ่ายพูดมาแบบนี้นารูโตะก็แอบสะดุ้งน้อย ๆ เพราะว่ามันเป็นอย่างที่คาคาชิสงสัยจริง ๆ นั่นแหละ
“............................” สุดท้ายนารูโตะก็หาคำตอบดี ๆ ไม่ได้จนต้องนิ่งเงียบไป
“ถ้านายตอบไม่ได้ ชั้นก็ไม่ให้นายไปใหนทั้งนั้นแหละ...” คาคาชิสรุปเองทันทีพร้อมกับหันมาคว้าข้อมือเล็ก ๆ ของคนตัวบางให้ตามติดไปอย่างถือวิสาสะ นารูโตะเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเพราะดูเหมือนสถานการณ์ในตอนนี้มันจะผิดแผนไปเสียหมด ส่วนตัวคาคาชิเองขณะที่มือของตนเกาะกุมมือน้อย ๆ ของคนตัวเล็กไว้ ในใจก็รู้สึกหวั่นไหวกับอารมณ์ของตนที่แปรเปลี่ยนไปอย่างง่ายดายเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำของอีกฝ่าย เค้าชำเลืองมองใครบางคนพร้อมกับคิดในใจ
“นี่เรากำลังกังวลกับอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้หวั่นไหวง่ายดายถึงเพียงนี้ เพียงแค่อีกฝ่ายเอ่ยปากอยากไปพบเจอใครคนอื่น จิตใจของเรากลับร้อนรุ่มขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ...ดูท่าว่าจิตใจและความรู้สึกมันจะหวั่นไหวมากมายเกินกว่าจะหยุดรั้งได้อีกแล้วสินะ...คาคาชิเอ๋ย...”
...ฝ่ายซากุระกับซาอิที่คอยเฝ้าติดตามคาคาชิกับนารูโตะอยู่ห่าง ๆ ก็เริ่มสงสัยถึงทีท่าที่แปลก ๆ ของคาคาชิ จนต้องพยายามเข้ามาใกล้ ๆ กับสองคนนั้นให้มากขึ้นเพราะอยากได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกัน จะได้ประเมินสถานการณ์ได้ถูก...แต่ว่า...
“เข้าใกล้มากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ...เดี๋ยวครูคาคาชิจับได้ล่ะก็จบแน่เลย...” เสียงหวาน ๆ ของซากุระร้องบอกใครอีกคนด้วยความกังวลใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับสถานการณ์ในเวลานี้
“ผมก็เข้าใจครับ...แต่ว่าเราก็ยังไม่ได้ยินอยู่ดีว่าสองคนนั้นเค้าคุยอะไรกัน มันลำบากตรงที่เป็นครูคาคาชิเนี่ยแหละ ถ้าเป็นคนอื่นคงเข้าไปใกล้ได้มากกว่านี้...” ซาอิบ่นออกมาอย่างเสียดายเพราะฝีมือของคาคาชินั้นมันทำให้คนสะกดรอยทำได้ลำบาก
“เรื่องนั้นชั้นก็เข้าใจ...แต่ชั้นเป็นห่วงนารูโตะนี่นา ครูคาคาชิก็มีทีท่าแปลก ๆ เหมือนจะกันท่าไม่ยอมให้นารูโตะมาพบพวกเราได้ง่าย ๆ...” จากคำพูดนั้นของซากุระทำให้ซาอินึกเอะใจขึ้นมา
“หรือว่า...เค้าจะรู้ตัวแล้วว่าเป้าหมายที่เราส่งนารูโตะเข้าไปหาเค้าคืออะไร...” คำสันนิษฐานของซาอิยิ่งทำให้ซากุระหนักใจมากขึ้นไปอีก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“อาจจะเป็นไปได้...แต่ชั้นก็ภาวนาขออย่าให้มันเป็นแบบนั้นเลย ไม่งั้นนารูโตะแย่แน่...”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แต่ก็อยากเห็นเหมือนกันน้า....ใบหน้าเต็มๆของเซนเซย์น่ะ น่าอิจฉานัตจังเนอะ
ปลื้มๆๆชอบๆๆ
คาคาชิหวงโตะมากอะ
หนุกมากเลยคะ
ขอตัวไปอ่านตอนต่อไปก่อนนะคะ
ในเรื่องก็คงจะหล่อจริงอ่ะแหละ เฮ้อออ ฟินจัง
ว่าแต่ คาคาชิหวงโตะเกินไปป้ะ >
อัพต่อเร็วๆนะ รออ่านอยู่ ^^
ฟินสุดๆๆๆๆๆ
คาคาชิหวงเกินเหตุป่ะ
นารุโตะ ทำตัวน่ารักเกินๆไปแล้วนะ
ซาอิกะซากุระ ฝากกล้องไปถ่าย คาคานารุ ด้วย ปลื้มมากกกคู่นี้
ฟิคสนุกมากกกก ขอบคุณค่ะ
คาคาชิปล่อยน้องออกมาบ้างก็ได้ น้องหายตาไม่ได้เลยหรอ
ต้องขออภัยไว้ด้วยนะ ถ้ามีคำผิดมากมายจน
รู้สึกรำคาญ เพราะแทบไม่มีเวลามาทวนเลย
ว่าเขียนอะไรไป นึกอะไรได้ก็เขียนไปตามที่
วางพล๊อตไว้เท่านั้นเอง ขอบคุณหลาย ๆ คน
ที่ยังไม่ลืมกันแล้วแวะเวียนเข้ามาทักทายจ้า