ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Apink] Luv Forever รักเธอตลอดไป Chomi ft. 2Eun , Hajoo

    ลำดับตอนที่ #16 : ความทรงจำครั้งใหม่ (เริ่ม)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 207
      1
      12 เม.ย. 58

     

    Sixteen

     

                เคสของคุณโบมีหมอก็เพิ่งจะเคยเจอเหมือนกันครับ ดูเหมือนว่าจิตใต้สำนึกของคนไข้ไม่เพียงแต่จะปิดกั้นความทรงจำส่วนที่หายไปเท่านั้นนะครับ แต่ดูเหมือนเธอพยายามที่จะปรับเปลี่ยนและปรุงแต่งความทรงจำของเธอเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่หมอคิดไว้ความทรงจำของคุณโบมีในตอนนี้มันจะเป็นความทรงจำอีกแบบกับความทรงจำที่เคยเกิดขึ้นจริงๆครับ ถ้าจะให้หมออธิบายง่ายๆก็คือมันจะเป็นความทรงจำที่ถูกแต่งขึ้นมาใหม่ทั้งหมด

     

              “ความทรงจำที่ถูกแต่งขึ้นมาใหม่หรอค่ะโชรงพูดทวนสิ่งที่คุณหมอพูดอีกครั้ง

     

              “ใช่ครับ  หมอไม่ทราบหรอกนะครับว่าระหว่างคุณโชรงกับคุณโบมีมันเกิดอะไรขึ้น คนไข้ถึงพยายามที่จะลบทุกความทรงจำที่เกี่ยวกับคุณออกไป ซึ่งเหมือนว่าวิธีที่เธอใช้ลบความทรงจำเหล่านั้นคงจะเป็นการแต่งความทรงจำขึ้นมาใหม่ครับคำพูดของคุณหมอทำให้สีหน้าของโชรงสลดลงไปมาก

     

              “แล้วมันจะส่งผลกระทบอะไรไหมค่ะ แล้ว...แล้วเธอจะกลับมาจำได้ไหมค่ะโชรงพูดอย่างติดๆขัดๆ ในตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งไปหมด มันรู้สึกโหวงๆอย่างบอกไม่ถูก

    พยายามที่จะลบทุกความทรงจำเกี่ยวกับฉันออกไปงั้นหรอ เหอะๆน่าสมเพชตัวเองไหมล่ะโชรง เขาคงจะเกลียดแกมากเลยซินะ โชรงได้แต่ด่าตัวเองในใจ

     

              “อันนี้หมอก็ไม่ค่อยแน่ใจนะครับ เพราะเคสแบบคุณโบมีมันหายากมาครับ อีกอย่างนะครับเพราะความทรงจำของคนไข้ถูกแต่งขึ้นมาใหม่แล้วมันก็เหมือนกับการตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่นั้นแหละครับ ความทรงจำของคนไข้ที่มีก่อนหน้านี้มันก็เหมือนกับถูกลบทิ้งและก็มีความทรงจำอันใหม่เข้ามาแทน หมอคงจะให้คำตอบที่แน่นอนไม่ได้หรอกนะครับ

     

              “แต่เมื่อตอนเช้าหมอก็เห็นใช่ไหมค่ะว่าโบมีดูเหมือนจะนึกอะไรออกแล้ว แบบนี้มันก็ยังมีสิทธิอยู่ซิค่ะที่ความทรงจำจะกลับมาโชรงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า

     

             

              “สิ่งที่คุณโชรงพูดก็ถูกครับ ที่เมื่อเช้าคนไข้มีอาการเหมือนจะนึกอะไรออกนั้นมันเป็นสัญญาณบอกว่าคนไข้ยังพอมีสิทธิที่จะกลับมาจำได้อีกครั้ง แต่ในกรณีของคุณโบมีที่มีความพิเศษมากกว่าเคสของคนอื่นๆนั้น มันคงจะอธิบายอย่างแน่ชัดไม่ได้นะครับว่าความทรงจำของคนไข้จะกลับมาได้จริงๆรึป่าว แต่ยังไงหมอก็อยากให้คุณอย่าเพิ่งหมดหวังไปเลยนะครับยังไงหมอก็จะหาวิธีรักษาคุณโบมีให้ได้ครับคุณหมออธิบายถึงกรณีของโบมี และกล่าวปลอบใจโชรงเพราะเขาไม่อยากให้เธอหมดหวังเพียงเพราะเรื่องแค่นี้

     

               

              “ขอบคุณคุณหมอมากนะค่ะโชรงกล่าวของคุณคุณหมอจากใจจริง ยังไงเธอก็จะไม่ยอมหมดหวังเพียงเพราะเรื่องแค่นี้แน่นอน เธอจะต้องเชื่อใจและไว้ใจคุณหมอคนนี้ว่าเขาจะต้องหาวิธีรักษาโบมีได้อย่างแน่นอน เธอเชื่ออย่างนั้น มันจะต้องมีวิธีรักษาอย่างแน่นอน

     

               

              “ยังไงก็ช่วยพาคนไข้กลับมาตรวจที่โรงพยาบาลอาทิตย์ละหนึ่งครั้งด้วยนะครับคุณหมอบอกก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ด้านฮาจู

     

                นัมจูร่างสูงที่ขับรถอยู่หันไปเรียกชื่อคนที่นั่งข้างๆเธอ

               

                หืม?ร่างเล็กตอบ

     

              “เรื่องที่ถามเมื่อวานคือถามอีกฝ่ายไปอย่างกล้าๆกลัวๆในคำตอบที่ตัวเองจะได้รับ สายตาที่จดจ้องไปแต่ข้างหน้าด้วยความไม่มั่นใจ ไม่กล้าแม้จะหันไปมองร่างบางที่นั่งเหม่อมองออกไปแต่นอกหน้าต่าง

     

              “อืมตอบสั้นๆและไม่ได้ใจความ(?)

     

              “ห๊ะ?จะบอกว่า งง ที่อีกฝ่ายตอบกลับมาก็คงไม่แปลก อยู่ดีๆก็ตอบแต่อืมกลับมาใครมันจะไปเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะสื่ออะไร

     

                ก็เมื่อวานที่ส่งมาไม่ได้จะสื่อว่าขอคบรึไง ก็ตอบตกลงอยู่เนี้ยหรือว่าฉันเข้าใจผิดไปเองงั้นก็ลืมๆไปเถอะว่าเมื่อกี๊ฉันพูดอะไรไปนัมจูพูดอย่างอารมณ์เสีย คนอุส่าตอบตกลงคบยังจะมามีหน้า งง อะไรก็ไม่รู้

     

              “ไม่ใช่ๆนะ ไม่ได้เข้าใจผิดสักนิดฮายองรีบพูดทันที

     

                อืมสั้นๆและไม่ได้ใจความอีกครั้ง

     

              “นี่ตกลงเราคบกันแล้วใช่ป่ะฮายองพูดพร้อมหันไปมองนัมจูด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่ามีความสุข(โคตร)

     

              “ไม่รู๊~นัมจูบอกเสียงสูง (ก็คนมันเขิน)

     

              “นัมจูววววววววววววไอ้คนพูดก็ไม่เข้าใจตัวเองหรอกว่าทำไมต้องเรียกอีกฝ่ายลากเสียงยาวขนาดนั้น สงสัยจะคิดว่ามันทำตัวอ้อนแล้วน่ารักมั้ง (เข้ากับตัวมากมั้งค่ะ)

     

              “เออๆ ก็ตอบตกลงคบไปแล้วไงจะเอาอะไรอีกโว๊ะ!นัมจูหน้าเริ่มขึ้นสีรู้สึกมันร้อนวาบๆที่ใบหน้าอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นอีกฝ่ายทำตัวอ้อนเหมือนกับเด็กนั้นมันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าเขาน่ารักขึ้นไปอีก (ไอ้นี่ก็ดันชอบซะงั้น - -)

     

                จริงนะ ว่าแต่เธอไม่ได้ชอบโบมีออนนี่แล้วหรอ?ฮายองที่เหมือนจะดีใจแต่ยังไงมันก็ยังตะขิดตะขวงใจอยู่ดี

     

              “ชอบตอบสั้นๆและได้ใจความแต่กลับทำให้คนฟังไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่แถมหัวใจมันยังรู้สึกเจ็บจนชา

     

     

              “แล้วทำไมมาคบกับฉันล่ะ ฮายองพูดต่อในใจ

     

     

              “ก็ชอบโบมแต่ไม่ได้รัก 

     

     

              “แต่ฮายองก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่านัมจูจะสื่ออะไร

     

              “นี่ฟังนะฮายอง ถึงฉันจะชอบโบม ถึงเราจะเคยคบกัน ถึงฉันจะรู้สึกว่ายังตัดใจจากโบมไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะรักโบมนะเข้าใจไหม เพราะตอนนี้ฉันรู้หัวใจของตัวเองแล้วว่ามันอยู่ที่เธอ และก็ตอนนี้ ฉัน! รัก! เธอ!นัมจูพูดเองก็ดันรู้สึกเขินเองซะงั้น รู้สึกกระดากปากยังไงไม่รู้ที่พูดคำว่ารักออกไปรู้สึกไม่ชินเลยแฮะ ส่วนไอ้คำฟังก็ได้แต่ยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อได้ยินคำว่ารักจากปากนัมจู

     

     

                แล้วถามต่ออีกได้ป่ะฮายองเริ่มได้ใจก็เอาใหญ่ ได้ฟังคำว่ารักแล้วนี่ไม่กลัวอะไรแล้วตอนนี้

     

     

              “อะไรอีกฉันก็เขินเป็นนะ เอ่า!รีบๆถามมาแต่แค่คำถามเดียวพอนะนัมจูพูดอย่างเขินๆแต่ก็ยังคงไม่ยอมหันไปมองหน้าคนที่ตัวเองเพิ่งจะตกลงคบเลยสักนิด

     

     

              “รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าชอบฉัน

     

     

              “ก็ตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว

     

     

              “อ่าว! แล้วทำไม? ยังไง?? เอะ!?ไม่เข้าใจอยู่ดีอ่ะอธิบายอีกได้ม่ะถ้ารู้ว่าชอบฉันตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกกันบ้างนะใจร้ายชะมัดปล่อยให้ฉันแอบรักเธอข้างเดียวอยู่ได้แถมพอเจอโบมีออนนี่ก็ฮรือออฮายองเสียจาย T^T  ฮายองได้แต่บ่นนัมจูในใจซะยาวเหยียด

     

     

              “ฉันรู้ตั้งแต่ตอนที่เราจูบกันที่ร้านไอศกรีม แต่ตอนนั้นฉันยังตัดใจจากโบมไม่ได้ เลยสับสนพอใจรึยังเลิกถามได้แล๊วเขินเฟ้ยยย -//-

     

     

              “งั้นตอนนี้คงไม่สับสนแล้วซินะฮายองทำเสียงเย้าแหย่นัมจูเล่น เริ่มได้ใจใหญ่แล้วนะฮายอง

     

     

              “เออ!ทำไมต้องจ้องด้วยสายตาแบบนั้นด้วยนะยัยยีราฟเอ้ย!น่ารักไปแล้ว นัมจูพูดว่าคนตัวสูงในหลังจากที่เธอแอบหันไปมองฮายองแต่ก็ดันไปเจอเข้ากับสายตานั้น สายตาที่ไม่เคยได้เห็นมันมาก่อน หนูนัมพูดได้คำเดียว น่าลั๊คเอาะ! ><

     

     

                เป็นไรอ่ะหน้าแดงเชียวนะยังไม่พอฮายองขอแหย่ต่ออีก ได้เห็นคนตัวเล็กเขินซะน่าแดงแล้วมันยิ่งชอบใจ

     

     

                ปล๊าวววว

     

     

              “หรอออออ

     

     

              “เออ! ขับรถไปจะถึงโรงพยาบาลไหมชาตินี้โมโหใส่แก้เขินแม่ม(?)

     

     

              “คร้าบ

     

     

     

     

     

     

     

    โรงพยาบาล

     

     

              “ไงทุกคน เป็นอะไรกันอ่ะทำหน้าซะเครียดเชียวนัมจูทักทายและกล่าวถามทันทีที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมๆกับฮายอง

     

              “เป็นซิเป็นหนักด้วยนาอึนเป็นคนตอบแทนทุกคนในห้อง ก่อนจะเล่าทุกอย่างให้นัมจูและฮายองฟัง

     

     

     

     

                งั้นโบมช่วยเล่าทุกอย่างให้พวกเราฟังได้ไหม เอาตั้งแต่วันแรกที่โบมเข้ามาในโรงเรียนของเราเลยนะอึนจีเป็นคนเริ่มถามโบมีคนแรก หลังจากที่ทุกคนมานั่ง (มามุง) อยู่ที่เตียงของโบมี

     

             “โหยถ้าให้เล่าวันนี้จะจบไหมเนี้ยอึนจี

     

              “เอาเหอะเล่ามาเร็วๆ

     

              “ก็ได้งั้นตั้งใจฟังนะ

     

     

             

     

     

              ความทรงจำครั้งใหม่

     

    ต่อไปเราก็ขอเชิญนักเรียนที่สอบชิงทุนเข้ามาคนแรกของโรงเรียนเรากันนะค่ะ  ขอเรียงปรบมือหน่อยค่ะ  นั้นเป็นวันแรกที่ฉันได้เข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้

     

    เอ่ออสวัสดีค่ะฉัน  ยุน  โบมี  ค่ะยินดีทีได้รู้จักนะ ”  ฉันกล่าวทักทายทักคนในหอประชุมอย่างเป็นมิตร แต่ดูเหมือนว่าพวกผู้ชายข้างล่างเวทีจะดูคึกคักเป็นพิเศษ

     

    ย๊าาาา!!  เงียบหน่อยไม่ได้หรอ”  ลองประธานนักเรียนตะโกนด่าพวกข้างล่างเวทียกใหญ่แถมยังทำท่าเหมือนกับจะกระโดดไปเตะปากพวกนั้นอีก แต่ดีนะที่ประธานนักเรียนตัวสูงๆนั้นห้ามไว้ทัน

     

    เชิญต่อเลยค่ะคุณโบมี ประธานนักเรียนตัวสูงหันกลับมาบอกฉัน

     

    ค่ะ..ตอนนี้ฉันก็อยู่ปีหนึ่งแล้วนะค่ะ  ยังไงฉันก็จะตั้งใจเรียนให้มากค่ะและยังไงฉันก็ขอฝากตัวกับทุกคนด้วยนะค่ะ  ฉันยังคงส่งยิ้มหวานให้กับทุกคนจนจบงาน ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปเรียนตามห้องของตัวเอง

     

     

                         กริ๊งงงงงงง!!!       

     

    ออดพักเที่ยงดังขึ้นนักเรียนส่วนใหญ่พากันไปทานอาหารสุดหรูที่โรงอาหาร  ไม่ซิต้องเรียกว่าภัตคารห้าดาวย่อมๆก็ว่าได้  มีแต่ฉันคนเดียวที่เดินหลบฝูงชนออกมานั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ไกลห่างจากผู้คนฉันเปิดข้าวกล่องที่ทำมาจากที่บ้านนั่งกินคนเดียวอย่างเงียบสงบจนเวลาของพักเที่ยงผ่านไป ทุกอย่างยังคงสงบและราบเรียบดี

     

    จะเสียแค่อย่างเดียวแหละ คือฉันยังหาเพื่อนไม่ได้แม้แต่คนเดียวไม่ใช่ว่าไม่มีใครอยากคบกับฉันหรอกนะ แต่คงจะเป็นเพราะฉันเองซะมากกว่าที่ไม่ยอมเข้าไปทักทายคือทำความรู้จักกับคนอื่นเลย ที่นั่งข้างฉันก็ดันเป็นที่ว่างอีกเลยยิ่งไม่มีเพื่อนเข้าไปใหญ่

     

     

     

    กริ๊งงงงงงงง!!!

    ออดของเวลาเลิกเรียนทำให้นักเรียนที่นั่งเบื่อกับการเรียนอยู่นั้นถึงกับร้องเฮกันทั้งสายชั้น

     

    เฮ้ออออ  ในที่สุดก็จบสักทีวันนี้สุดท้ายก็หาเพื่อนไม่ได้สักคน”  ฉันบ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิด ไม่ใช่ว่าเพื่อนคนอื่นๆไม่อยากจะคบกับฉันหรอกนะแต่เพราะฉันอายเกินไปจนไม่กล้าจะทักคนอื่นๆมากกว่า น่าอายชะมัดเลยยุน โบมีบ่นไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักหน่อยกลับบ้านดีกว่า

     

     

     

    บ้านโบมี

     

              แม่ค่ะหนูกลับมาแล้ว ฉันตะโกนบอกแม่ที่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าอยู่

     

              “จ้าๆ เป็นไงลูกว่านี้เรียนเป็นไงบ้างแม่เดินเข้ามาถามฉันด้วยสีหน้าตื่นเต้น แม่จะตื่นเต้นทำไมแค่ลูกสาวผู้น่ารักแสนสวยไปเรียนวันแรกเนี่ย

     

              “ก็สนุกดีค่ะแม่แต่หนูยังหาเพื่อนไม่ได้สักคนเลย งื้ออ ฉันทำท่าอ้อนๆใส่แม่ ก็มันเศร้าอ่ะหาเพื่อนไม่ได้สักคน

     

              “พรุ่งนี้ค่อยหาก็ได้ลูกอย่าทำหน้าแบบนั้นซิ มานี้มาช่วยแม่เสิร์ฟอาหารหน่อยแม่พูดปลอบๆฉันก่อนจะยื่นถาดอาหารมาให้ฉัน ฉันก็รับมาก่อนจะถามแม่กลับ

     

              “ค้า ว่าแต่ของโต๊ะไหนค่ะแม่

     

              “โต๊ะ 13 ลูก

     

              “คะฉันตอบกลับไปก่อนจะเดินไปเสิร์ฟอาหารตามที่แม่บอก แต่พอเดินมาถึงฉันก็ต้องตกใจก็นั่นมันชุดของโรงเรียนเดียวกันกับฉันนี่

     

              “อ่าวคุณประธานนักเรียนกับคุณรองประธานนักเรียนสวัสดีค่ะที่แท้ก็ประธานนักเรียนตัวสูงกับรองประธานนักเรียนตัวเตี้ยนี่เอง

     

              “ตอนนี้เราอยู่นอกโรงเรียนไม่ต้องเรียกซะเต็มยศขนาดนั้นก็ได้นะค่ะคุณโบมี ว่าแต่นี้ร้านของคุณหรอประธานนักเรียนตัวสูงเป็นคนพูดก่อน

     

              “ใช่ค่ะนี้ร้านของแม่ฉันเอง อ๊ะลืมเลยนี้ค่ะทงคัตสึที่สั่งฉันตอบคำถามของประธานนักเรียนตัวสูงก่อนจะเพิ่งนึกได้ว่าฉันเอาทงคัตสึมาเสิร์ฟนิ่หว่า

     

              “ขอบคุณนะค่ะเรียกฉันนาอึนก็ได้ ส่วนนี่อึนจีออนนี่ค่ะประธานนักเรียนตัวสูงแนะนำตัวกับฉันก่อนจะแนะนำรองประธานนักเรียนตัวเตี้ยให้ฉันรู้จัก

             

    ไงโบมีจำฉันได้ไหมฉันจอง อึนจีไงรองประธานนักเรียนตัวเตี้ยถามฉัน อืมจะว่าไปชื่ออึนจีก็คุ้นแหะ แต่จำไม่ได้อ่ะ

     

    ขอโทษนะค่ะเรารู้จักกันด้วยหรอค่ะ  ฉันจำไม่ได้จริงๆค่ะ

     

    เราเราจะไม่ทิ้งกันเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป อึนจีร้องเพลงที่ทำให้ความจำของฉันถูกรื้อฟื้นขึ้นมา

     

    อึนจีย๊าาาใช่ไหม จำแทบไม่ได้แหนะสวยขึ้นเป็นกองเลย”  ฉันดีใจจนแทบอยากจะกระโดนทับอึนจีเลยล่ะ (?)

     

    ก็ใช่นะซิยัยแองกี้เบิร์ด

     

    นี่เลิกเรียกฉันแบบนั้นได้แล้ว -3-”  ฉันทำหน้างอนๆใส่อึนจี ก็รู้อยู่ว่าฉันไม่ชอบให้คนอื่นเรียกแบบนี้แต่ก็มีแค่อึนจีเท่านั้นแหละที่ฉันยังพอจะยอมให้ แต่มันก็แอบเคืองนะย่ะ

     

    นี่รู้จักกันด้วยหรอ”  นาอึนพูดขึ้นถามฉันกับอึนจีอย่าง งงๆ

     

    ฉันกับแองกี้เบิร์ดไม่ใช่ซิโบมีเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันหน่ะ

     

    ตอนนั้นอึนจีมาสารภาพรักกับฉันด้วยแหละฮ่าๆก็ใช่ที่ตอนนั้นอึนจีมาสารภาพรักกับฉันเฉยเลย ตอนแรกก็ตกใจนะแต่พอเจ้าตัวอธิบายว่ามาสารภาพรักทำไมเท่านั้นแหละซึ้งเลย นางมาซ้อมสารภาพรักกับฉันเพราะจะเอาไปสารภาพรักรุ่นพี่ที่แอบชอบ -_-

     

             “โบมีก็อย่าพูดซิอายนาอึนนะ แถมตอนนั้นฉันยังเด็กอยู่ด้วยอึนจีพูดพร้อมทำท่าบิดไปบิดมาอย่างเขินอาย เขินอะไรของแก

     

    ตอนนั้นอึนจีน่ารักจะตายไปร้องเพลงเพราะด้วย  เธอยังชอบแต่งเพลงให้ฉันฟังบ่อยๆเลย

     

              “หูยยยย โรแมนติกนะค่ะออนนี่นาอึนเอยแซว

     

    จะว่าไป อึนจีทำไมตอนที่เราเจอกันเมื่อเช้าทำไมถึงไม่บอกฉันล่ะว่าเธอคืออึนจียัยเพื่อนตัวเตี้ยของฉัน

     

    ก็ฉันกำลังทะเลาะกับไอ้พวกผู้ชายข้างล่างเวทีไงเลยไม่ได้ทัก แถมอีกอย่างฉันก็ไม่เตี้ยแล้วตอนนี้ฉันสูงเท่าโบมแล้วนะอึนจีพูดก่อนจะยืนขึ้นเทียบความสูงกับฉัน ยัยนี่เหมือนแต่ก่อนไม่มีเปลี่ยนเลย

    หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งคุยกันซะเพลินอย่างสนุกสนาน อุส่าเจอเพื่อนใหม่และเพื่อนเก่าทั้งที

     

    และนี้เป็นครั้งแรกที่ฉันกับอึนจีและนาอึนเราได้รู้จักกัน


    ___________________________________________




    ตอนนี้ไรท์แอบแถมฮาจูให้นิดๆหน่อยๆ ในที่สุดก็ได้คบกันสักที

    คงจะเหลือแต่คู่โชมีที่ยังไม่ได้สมหวังสักที ช่วงนี้คงจะมีแต่ดราม่านะโชมี

    อ่านจบก็คอมเม้นหน่อยน้า ไรท์กำลังใจหดหมด (คราวนี้ไม่งอนแต่ดราม่าแทน)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×