คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ความทรงจำครั้งใหม่ (2)
Seventeen
ความทรงจำครั้งใหม่
“ไงโบมมาเช้านะเนี้ย” อึนจีทักฉันเมื่อฉันเดิมเข้ามาในโรงเรียน ก็อึนจีอึนจีเป็นรองประธานนักเรียนก็เลยต้องมาเดินตรวจโรงเรียนทุกเช้า
“อื้ม อึนจีก็เหมือนกันนั่นแหละเดี๋ยวนี้ตื่นเช้าได้แล้วหรอ” ฉันถามอึนจีอย่างแปลกใจ ทีตอนเด็กฉันไปปลุกให้ไปโรงเรียนล่ะไม่เคยจะตื่น
“ฉันโตแล้วก็ต้องตื่นเช้าบ้างเป็นธรรมดาซิ”
“โหยๆทีตอนเด็กนะต่อให้ฟ้าผ่าแผ่นดินไหวแค่ไหนก็ไม่ยอมตื่นสักที”
“ก็นั่นมันตอนเด็กไง”
“อย่าพูดว่าเด็กหรือว่าโตแล้วเลย ทุกวันนี้ออนนี่ก็ยังตื่นยากอยู่ดีแหละเมื่อเช้ากว่าฉันจะปลุกได้นะแทบจะเอาน้ำสาด” นาอึนผู้รวมสนทนาคนใหม่
“นาอึนจะไปบอกยัยแองกรี้เบิร์ดทำไมเนี้ย เสียฟอร์มหมด!” อึนจีทำหน้างอนๆใส่นาอึน ฉันมองดูมันก็น่ารักอยู่หรอกถ้าคนที่ทำไม่ใช่อึนจีอ่ะนะ
“เออว่าแต่อึนจีเรียนอยู่ห้องไหนหรอ” ฉันถามอึนจีที่ยังทำหน้างอนๆอยู่เด็กจริงๆเลยนะเพื่อนคนนี้
“ฉันไม่ได้เรียนอยู่ชั้นเดียวกับโบมอ่ะ ฉันดรอปเรียนไปปีนึงตอนนี้ก็เลยเรียนอยู่ปีเดียวกับนาอึน” อึนจีอธิบายให้ฉันฟัง งั้นก็แสดงว่าอึนจีเป็นรุ่นน้องฉันหรอว่าแต่ทำไมต้องดรอปเรียนด้วยล่ะหรือเพราะเรื่องนั้น
“เรื่องนั้นหรอเธอเลยดรอปเรียนอ่ะ” ฉันถามอึนจีไป อึนจีก็ได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงบอกก่อนจะตอบกลับมา
“อื้มถ้าเธอหมายถึงเรื่องที่ฉันเข้าโรงพยาบาลก็ใช่”
“โหยๆไรอ่ะทีฉันถามออนนี่ไม่เคยจะบอกสักทีว่าดรอปเรียนเพราะอะไร” นาอึนทำหน้าน้อยใจใส่อึนจีกับฉัน อ่าวฉันเกี่ยวไรด้วยหว่า?
“แล้วทำไมต้องบอกด้วยล่ะ” อึนจีตอบหน้านิ่ง ฉันเลยต้องรีบพูดบอกนาอึนก่อนที่จะพาลงอนฉันกับอึนจีไปมากกว่านี้
“อึนจีก็แบบนี้แหละนาอึน เรื่องที่เข้าโรงพยาบาลแต่ก่อนก็ชอบมาบ่นกับฉันว่าไม่อยากจะบอกให้ใครรู้เพราะอะไรรู้ไหม” ฉันพูดให้นาอึนอยากรู้และก็ตามคาดนาอึนสนใจสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดอย่างเต็มที่
“เพราะอะไรหรอค่ะ” นาอึนถามพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆฉันเพื่อสื่อว่าพร้อมจะฟังสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดเต็มทนแล้ว (พูดง่ายๆก็พร้อมเจือกแล้ว - .-)
“ย๊า! ยุนโบมีอย่าเล่าเชียวนะ” อึนจีพูดห้ามแต่ก็ต้องเงียบเมื่อโดนนาอึนจี้ปมเข้า
“เล่ามาเลยค่ะอย่าสนใจคนแคระ! แถวนี้เลย” นาอึนเน้นซะ - - ด่าอึนจีแต่มันกระทบฉันนะย่ะ
“ก็ตอนนั้นอึนจีมาเล่าให้ฉันฟังว่า หมอบอกว่าอึนจีจะหยุดโตตอนอายุ 10 ขวบและคือตอนนั้นอึนจีอายุ 7 ขวบแล้วแต่ส่วนสูงยังต่ำกว่าเกณฑ์อยู่เลยนะ พอเล่าเสร็จก็เอาแต่ร้องไห้ใหญ่ ฮ่าๆ” ฉันเล่าไปก็หัวเราะไปจะมีสักกี่คนที่ร้องไห้เพราะตัวเองหยุดสูง แต่ก็น่าสงสารแฮะต้องเตี้ยต้อม่ออยู่แบบนี้ ฮ่าๆ (ไอ้เราก็นึกว่าสงสารจริง -_-)
“ว่าอยู่ทำไมถึงส่วนสูงเหมือนเด็กประถม ที่แท้ก็หลังจากขึ้นม.ต้นมาคงไม่โตอีกเลยซิเนี้ย โอ๋ๆน่าสงสาร” นาอึนพูดพรางเข้ากอดและลูบหัวอึนจีเบาๆอย่างปลอบใจ (หรือซ้ำเติมก็ไม่รู้)
“ย๊าาาา!! ก็เพราะงี้ไงเลยไม่อยากเล่า เชอะ! ไปเดินตรวจแล๊ว!” อึนจีพูดจบก็เดินสะบัดตูด (?) หนีไปอย่างงอนๆ
“งอนเลยอ่ะออนนี่งั้นฉันไปง้อก่อนนะ เออออนนี่เกือบลืมเลยฉันจะบอกว่าวันนี้มีเพื่อนใหม่ห้องออนนี่เพิ่มนะเห็นว่านั่งข้างออนนี่ด้วยแหละ ยังไงก็ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ด้วยนะฉันรู้ว่าออนนี่ไม่ค่อยมีเพื่อน ไปล่ะบายยย” นาอึนพูดจบก็รีบวิ่งตามไปง้ออึนจีทันที ว่าแต่เพื่อนใหม่หรอดีเลยจะได้มีเพื่อนกับเขาสักที สวรรค์คงจะเห็นใจลูกหมีตาดำๆแล้วใช่ไหมค่ะถึงได้ส่งเพื่อนใหม่มาให้ลูก ฮรืออออ~ พูดแล้วโบมอยากจิครายยย…
หน้าห้องเรียน
ฉันยืนทำใจอยู่ที่หน้าห้องเรียน ทำใจมาสักพักแล้วแหละแต่ก็ไม่กล้าเปิดเข้าไปสักทีถ้าเปิดเข้าไปแล้วจะทักว่ายังไงดีนะ ต้องพูดอะไรก่อนดีนะโอ้ยคิดแล้วปวดหัวเปิดเข้าไปเลยล่ะกันเป็นไงเป็นกัน เอาว่ะ!!
“หมีน้อย!!” และนั่นเป็นคำทักทายแรกที่ฉันได้ยิน
“นัมจูหรอ” ใช่แล้วนั่นคือคิม นัมจูอดีตคนรักของฉันเอง ว่าแต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงนะ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“ก็หลังจากนั้นนัมจูก็ย้ายไปเรียนต่างประเทศเลยจะให้เจอกันยังไงล่ะ” ก็เล่นย้ายไปหลังจากที่เลิกกันแบบนี้จะให้ติดต่อไปยังไงล่ะ ทั้งๆที่ตกลงหันไว้แล้วว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและจะติดต่อกันอยู่เสมอๆ แต่พอมารู้ข่าวอีกทีก็เล่นบินไปเรียนต่างประเทศซะแล้วนี่ซิ
“นั้นซินะฮ่าๆ ขอโทษล่ะกันที่ไปโดยไม่ได้บอกอะไรเลย -3-”
“ไม่เป็นไร แล้วนี่นัมจูคือนักเรียนที่มาใหม่ใช่ไหม”
“ช่ายยยย”
“งั้นนัมจูก็นั่งข้างฉันดิ โหยดีเลย”
“ดีเลยเราจะได้คุยกันเยอะๆทดแทนเวลาที่ไม่ได้คุยกันตั้งสองปี แล้วก็ตอนเที่ยงเดี๋ยวฉันจะแนะนำเพื่อนอีกคนให้รู้จักนะ” ฉันกับนัมจูยิ้มให้กันอย่างดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้ง แต่เดี๋ยวก่อนนะเหมือนมันมีอะไรแปลกๆ
“เฮ้ย! แต่เดี๋ยวนะ นัมจูอายุน้อยกว่าฉันไม่ใช่หรอแล้วทำไมถึงเรียนปีเดียวกันได้อ่ะ” เกือบลืมไปเลยนะว่านัมจูอายุน้อยกกว่าฉัน แต่เอ๊ะ!? คือยังไง งง
“ก็ตอนไปเรียนที่ LA ที่นู้นเขาเรียนเร็วกว่าที่เกาหลีปีนึง พอกลับมาเรียนที่เกาหลีมันก็เลยได้เลื่อนชั้นขึ้นมาหนึ่งปีไง” นัมจูอธิบายให้ฉันฟัง เพิ่งรู้ว่าแบบนี้ก็มีด้วยเลื่อนชั้นกันง่ายๆแบบนี้เลยว่างั้น
“โหยมีงี้ด้วย”
“มีไม่มีแต่มันก็มีแล้วแหละ หรือไม่ก็เพราะฉันมันสวย รวย เก่ง และฉลาดมั้งก็เลยได้เลื่อนชั้น คิคิ” นัมจูตอบฉันกลับมาอย่างกวนตริง(?)
“กวนล่ะ พอๆเรียนๆครูมาแล้ว” ก่อนที่ฉันกับนัมจูจะเริ่มสงความประสาทกันดีนะที่ครูเข้ามาซะก่อน ไม่งั้นได้เจอฉันกวนตริงกลับแน่ถึงจะไม่ได้เจอกันตั้งสองปีแต่ความมโนนางก็ยังไม่ลดละลงเลยแม้แต่นิดเดียวแถดูเหมือนมันจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมซะด้วยซิ
พักเที่ยง
“โย่วฮายองงี้ มานี่เดี๋ยวฉันจะแนะนำใครให้รู้จัก” นัมจูแหกปาก(?) เรียกเพื่อนคนหนึ่งให้เดินมายังโต๊ะที่ฉันกับนัมจูนั่งอยู่ เธอคนนั้นตัวสูงสุดๆสูงกว่านาอึนซะอีกนะเนี้ยที่สำคัญสวยมากด้วยซิแต่ก็สวยน้อยกว่าฉันอยู่ดีหึหึ
“ใครหรอ” เธอคนนั้นถามนัมจูเมื่อเดินมาถึง
“นี่โบมีเพื่อนฉันเอง ส่วนโบมีนี่ฮายองนะเพื่อนที่บอกจะแนะนำให้รู้จักไง” นัมจูเริ่มแนะนำให้ฉันรู้จักกับฮายอง สาวตัวสูงโย่งหน้าสวยสไตล์ยุโรปคนนี้
“อ่า สวัสดีค่ะฉันยุน โบมีนะค่ะ” ฉันแนะนำตัวเองอีกรอบหนึ่ง
“ฉันโอ ฮายองนะค่ะ” ฮายองก็เช่นกัน
“ฮายองโบมีเป็นรุ่นพี่เรานะรู้ใช่ไหม” นัมจูถามฮายอง
“รู้ซิ ทุกคนในสายชั้นเราเขาก็อายุมากกว่าเราทุกคนแหละ” อ่าวงั้นก็แสดงว่าฮายองก็อายุน้อยกว่าฉันซินะ ไม่อยากจะเชื่อทั้งๆที่ฮายองดูอายุเกินหน้าไป(มาก)ซะขนาดนี้ -__-
“ฮ่าๆ นั้นซิเนอะ” นัมจูขำให้ตัวเอง ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว่าทุกคนในสายชั้นอายุมากกว่าเธอทั้งสองแต่ก็ดันลืมตัวไปซะได้
“งั้นฮายองก็ย้ายมาจาก LA เหมือนกับนัมจูซินะ”ฉันถามฮายองไป จริงๆก็พอจะเดาออกอยู่แหละว่าฮายองคงย้ายมาพร้อมกับนัมจูแต่ก็ยังอยากจะถามอยู่ดี ทำไมก็ไม่รู้ -..- (เขาเรียกอาการอยากเต๊าะเด็กคะทุกท่าน)
“ใช่ค่ะ” ฮายองตอบฉันกลับมาอย่างสุภาพ
“ฮายองเป็นลุกครึ่งหรอ” สุดท้ายฉันก็อดถามคำถามนี้ไม่ได้จริงๆ ก็ดูซิฮายองหน้ายุโรปสวยซะขนาดนี้ความอยากรู้มันห้ามกันได้ที่ไหนล่ะ จริงไหม?
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันเกาหลีแท้ล้านเปอร์เซนต์ไม่มีชาติอื่นผสม”
“จริงหรอเนี่ย ถ้าฮายองไม่บอกฉันคงต้องคิดว่าฮายองเป็นคนยุโรปหรือไม่ก็ลูกครึ่งแน่ๆเลย” ฉันพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนตรงหน้านี้เป็นคนเกาหลีจริงๆ
“ฉันชินแล้วแหละค่ะ ทุกวันนี้เดินไปไหนมาไหนก็มีแค่คนคิดว่าฉันเป็นคนยุโรปหมดแล้ว” ฮายองพูดอย่างเซ็งๆ
“พี่ว่ามันก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่หรอกนะ ฮ่าๆ” ฉันกับนัมจูขำให้ฮายองยกใหญ่ เอาจริงๆใครได้เจอฮายองก็คงต้องคิดว่าเป็นคนยุโรปหรือไม่ก็ต้องเป็นลูกครึ่งกันทั้งนั้นแหละ ดูจมูกที่คมเป็นสันนั้นซิ ดวงตาที่ดูเป็นประกานเหมือนคนอินเดีย ปากที่ดูเข้ารับกับจมูกและดวงตา ส่วนสูงที่บ่งบอกว่าเป็นสาวยุโรปชัวร์ (ปกติคนยุโรปจะตัวโตกว่าคนเอเชียเยอะเลย รึเปล่า?)
“อย่าขำซิค่ะ ว่าแต่นัมจูทำไมไม่ชวนออนนี่ไปเที่ยวสวยสนุกกับเราล่ะ”
“ฉันกะจะชวนโบมอยู่แล้ว แต่ก็อยากพามาทำความรู้จักกันก่อนนี่ไง”
“อ้อแบบนี้เอง งั้นตกลงออนนี่จะไปกับเราใช่ไหมค่ะ” ฮายองทำพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันมาถามฉัน
“อื้มไปซิ แต่พี่ขอชวนเพื่อนไปด้วยอีกสองคนได้ไหม” ฉันตอบตกลงไปก่อนจะถามฮายองกับนัมจูว่าชวนคนไปเพิ่มอีกได้ไหม ก็อยากให้อึนจีกับนาอึนไปด้วยจะได้สนุกๆ
“ได้เลยค่ะชวนมาเยอะๆจะได้สนุกไง” ฮายองตอบกลับอย่างตื่นเต้น ฉันกับนัมจูได้แต่มองหน้ากันยิ้มๆกับท่าทางความเป็นเด็กที่ขัดกับส่วนสูงและใบหน้าของฮายองอย่างมาก
_____________________________________
ไรท์กลับมาแล้วจ้าโซซอรี่มากมายนะครัชที่ลงช้า ไรท์กะจะลงเมื่อวานแต่ดันลืม
ขอโทษอีกครั้งน้า (-/\-) เพิ่งผ่านสงกรานต์มายังไงก็ขอสุขสันต์วันปีใหม่ไทยเด้อ มาช้าไปนิด(มาก)
ยังไงก็ช่วยติดตามเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆนะ คอมเม้นด้วยน้าต้องการแค่นี้จริงๆ55555555 อย่าเป็นนักอ่านเงานะ ไม่ต้องทำตัวเป็นนินจาเลย =__=
ความคิดเห็น