ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Apink] Luv Forever รักเธอตลอดไป Chomi ft. 2Eun , Hajoo

    ลำดับตอนที่ #15 : เรียกหมอ (มันทั้งเรื่อง)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 229
      1
      10 เม.ย. 58

     

    Fifteen

     

                อื้ออ~”  เสียงร้องของร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ดังขึ้นทำให้ร่างสูงที่นอนเฝ้าอยู่ข้างเตียงสะดุ้งตื่นตามขึ้นมาอย่างตกใจ

     

                โบม! โบมเป็นอะไรรึป่าว ปวดหัวหรอรีบยิงคำถามที่ในตอนนี้ตัวเองพอจะคิดได้ไป

     

                ขอน้ำเสียงแหบๆของคนบนเตียงตอบกลับมา

     

              “อ่ะนี่โชรงรีบรินน้ำใสแก้มที่ข้างเตียงคนไข้ให้โบมีทันที

     

              “ขอบคุณค่ะ เอ่อคุณโบมีกล่าวขอบคุณ ก่อนจะถามชื่อคนที่ยื่นน้ำให้กับเธอ ก็ใช่ซิเธอจำโชรงไม่ได้แม้แต่ชื่อก็จำไม่ได้

     

              “พัค โชรงเรียกฉันว่าโชรงก็พอโชรงแนะนำตัวจบโบมีก็พยักหน้าเข้าใจ

     

              “ค่ะคุณโชรง ว่าแต่พวกนัมจูกับอึนจีกลับไปแล้วหรอค่ะโบมีมองไปรอบๆก่อนจะยื่นแก้มน้ำคืนโชรง

     

              “อื้มกลับไปแล้วโชรงตอบพรางรับแก้มน้ำมาจากโบมี

     

              “แล้วคุณโชรงไม่กลับหรอค่ะ  จะมานอนเฝ้าฉันให้เมื่อยทำไม

     

              “ต่อให้เมื่อยแค่ไหนฉันก็จะเฝ้าเธออยู่ดีแหละ

     

              “ฉันคงทำให้คุณโชรงลำบากมากซินะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ

     

              “ไม่เลยๆ เธอไม่ได้ทำให้ฉันลำบากเลยสักนิดเป็นฉันต่างหากที่ทำให้เธอต้องลำบาก ฉันขอโทษด้วยนะโชรงพูดบอกด้วยสีหน้าเศร้าๆ

     

              “ตกลงว่าคุณกับฉันเรารู้จักกันจริงๆซินะค่ะ ว่าแต่คุณกับฉันเราเป็นอะไรกันหรอค่ะ ฉันจำไม่ได้จริงๆ แหะๆโบมีหัวเราะแห้งๆกลับไปให้โชรง

     

              “นั่นซิเราเป็นอะไรกันนะ สงสัยเป็นแค่คนเคยรู้จักกันมั้งยิ่งพูดใบหน้ายิ่งเศร้าไปกันใหญ่

     

              “คุณโชรงก็พูดซะเศร้าเชียว เราคงจะเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันฉันเดาถูกใช่ไหมค่ะ

     

              “อื้มใช่  แต่ฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะเธอต้องเรียกฉันว่าออนนี่

                                             

     

     

     

     

    แต่ฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะ เธอต้องเรียกฉันว่าออนนี่

     

     

     

     

     

                โบมเป็นอะไรรึป่าวโชรงเขย่าตัวโบมีไปเบาๆเมื่อเห็นโบมีทำหน้าเหม่อลอย

     

              “ป่าวค่ะ แค่รู้สึกคุ้นๆกับประโยคเมื่อกี้ยังไงแปลกๆเหมือนกับว่าเคยได้ยินมาก่อนหน่ะค่ะโบมีบอกก่อนจะทำหน้านึกๆให้ออกว่าเคยได้ยินมันที่ไหน แต่ไม่ว่าเธอพยายามจะนึกเท่าไหร่มันก็นึกไม่ออกสักที

     

              “นี่โบมจำที่ฉันเคยพูดได้ด้วยหรอ แล้วพอจะนึกอะไรออกอีกไหมโชรงทำหน้าตื่นเต้นและดูเหมือนว่าเธอจะสดใสขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ก็แน่ล่ะใครจะไม่ดีใจกันที่โบมีดูเหมือนจะจำอะไรได้บ้างแล้ว

     

              “อืมมมมันเหมือนจะนึกออกแต่ก็ โอ๊ยย! ปวดหัว!โบมีเอามือกุมที่ขมับตัวเองเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่ศีรษะ

     

                ไม่เป็นไรไม่ต้องนึกแล้ว เดี๋ยวฉันตามหมอให้นะโชรงพูดบอกก่อนจะกดออดเรียกคุณหมอให้โบมี ไม่นานนักคุณหมอก็เดินเข้ามาตรวจอาการของโบมี ก่อนจะคุยกับโชรงเกี่ยวกับอาการของโบมีอยู่ที่หน้าห้องคนไข้ ที่ทั้งสองออกไปคุยหน้าห้องนั้นก็เพราะโชรงกลัวว่าถ้าพูดคุยถึงอาการโบมีในห้องแล้วโบมีได้ยิน เธอแค่กลัวว่าโบมีนั้นจะเป็นกังวล

     

              “คุณหมอค่ะโบมีเป็นอะไรมากไหมค่ะโชรงมีสีหน้าเป็นกังวนนิดหน่อย เธอแค่กลัวว่าโบมีจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้เท่านั้นเอง

     

              “คนไข้ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ อาการปวดศีรษะนั้นเป็นอาการปกติของคนที่ความจำเสื่อม แต่การที่มีอาการแบบนี้ก็ถือว่ามันเป็นสัญญาณที่ดีมากนะครับ เพราะมันบ่งบอกว่าคนไข้เริ่มจะนึกอะไรออกแล้วนั้นก็แสดงว่าเธอเริ่มจะเปิดใจให้คุณแล้วยังไงล่ะครับ แต่ผมก็ขอเตือนไว้หน่อยนะครับถ้าเมื่อไหร่ที่คนไข้เริ่มมีอาการเหมือนเมื่อสักครู่ก็ช่วยให้เธอหยุดนึกทุกอย่างแล้วก็หาอะไรอุ่นๆให้เธอทานหลังจากนั้นก็ให้เธอนอนพักสักหน่อยก็จะดีมากครับ ถ้ารวมๆแล้วก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วนะครับคุณหมออธิบายอาการของโบมีในตอนนี้ให้โชรงฟังอย่างละเอียด

     

              “อย่างนี้ก็มีสิทธิที่ความจำจะกลับมาใช่ไหมค่ะสีหน้าที่ดูเป็นกังวนเมื่อสักครู่ในตอนนี้มันถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มแทนเสียแล้ว

     

              “ครับ แต่ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาและก็ตัวคนไข้เองด้วย

     

              “แล้วไม่ทราบว่าเราจะออกจากโรงพยาบาลได้ตอนไหนค่ะ

     

              “พรุ่งนี้คนไข้ก็กลับบ้านได้เลยครับ เพราะคนไข้ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนอกจากแผลถลอกเล็กน้อยเท่านั้นเอง  ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะครับคุณหมอพูดพร้อมกับยิ้มเป็นมิตรให้กับโชรง

     

              “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอโชรงโค้งขอบคุณคุณหมอตามมารยาท ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่ข้างเตียงคนไข้ของโบมีเช่นเดิม   

     

              “คุณหมอว่ายังไงบ้างค่ะโบมีถามขึ้นเมื่อโชรงนั่งลงที่ข้างเตียง

     

              “หมอบอกว่าพรุ่งนี้เธอก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วโชรงพูดพร้อมกับยิ้มไปให้โบมี ซึ่งโบมีก็ยิ้มตอบโชรงเช่นกัน รอยยิ้มแบบนี้ของโบมีมันเป็นครั้งแรกเลยที่โชรงได้เห็นมัน เป็นครั้งแรกที่โบมียิ้มให้กับเธอแบบนี้ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าที่โบมียอมยิ้มให้เธอมันก็เป็นเพราะอีกฝ่ายนั้นความจำเสื่อม แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ชอบที่โบมียิ้มแบบนี้ให้เธอถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะไม่เคยได้รับรอยยิ้มแบบนี้จากโบมีเลยสักครั้งก็ตาม

     

              “งั้นก็ดีเลย ฉันละคิดถึงแม่แทบแย่แล้วโบมีพูดพร้อมกับทำท่าตื่นเต้นที่จะได้ออกจากโรงพยาบาล

     

              “ฉันยังไม่ได้บอกเธอซินะ ใช่ซิเธอความจำเสื่อมนิ่

     

              “บอกเรื่องอะไรค่ะโบมีถามด้วยสีหน้าสงสัย

     

              “ก็ตอนนี่เธออยู่บ้านฉัน เรื่องนี้แม่เธอก็รู้แล้วด้วยโชรงบอกเรื่องที่เธอและโบมีอยู่บ้านเดียวกัน ก่อนจะรีบบอกว่าแม่ของโบมีก็รู้เรื่องนี้แล้วเช่นกัน ก็เธอกลัวนี่ กลัว กลัวว่าโบมีจะปฏิเสธเธอเมื่อครั้งนั้นและก็หนีเธอไปอีก

     

              “ทำไมฉันถึงไปอยู่บ้านคุณได้ล่ะค่ะ แปลกจังฉันชักอยากจะนึกเรื่องของเราให้ออกเร็วๆซะแล้วซิโบมีไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพียงแต่ถามโชรงกลับด้วยสีหน้าสงสัยปนความทะเล้นเล็กน้อยตามนิสัยปกติของเธอเอง แต่ก็ใช่ว่าเธอจะยอมทำหน้าทะเล้นแบบนี้กับใครก็ได้หรอกนะ คนที่เธอจะทำแบบนี้ด้วยก็คงจะมีแต่คนที่เธอสนิทเท่านั้นหรือไม่ก็คนที่เธออยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจจริงๆ ซึ่งโชรงก็เป็นหนึ่งในนั้น

                โบมีรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่อยู่กับโชรง เธอไม่เคยรู้สึกเกร็งเวลาที่ต้องอยู่กับโชรงแค่สองคนแต่เธอกลับรู้สึกสนุกและคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก และนั้นก็ทำให้เธอพอจะรับรู้และรู้สึกได้ว่าเธอกับโชรงนั้นรู้จักกันจริงๆ ถึงแม้ว่าเธอจะจำไม่ได้ก็ตามว่าเธอและโชรงเป็นอะไรกัน แล้วทำไมเธอถึงจำโชรงไม่ได้

     

              “เรื่องของเราหรอช่างเถอะอย่าเพิ่งนึกอะไรตอนนี้เลยนะ นอนพักไปก่อนเถอะตอนนี้เพิ่งตี 5 เองพวกอึนจีคงยังไม่มาเยี่ยมเธอตอนนี้หรอก พวกนั้นตื่นสายจะตายโชรงพูดบอกปนสั่งเพื่อให้โบมีนอนพัก ก็ถ้าโบมีมัวแต่นั่งนึกจนเกิดปวดหัวขึ้นมาอีกจะทำยังไงล่ะเธอก็เป็นห่วงโบมีเหมือนกันนะ ถึงแม้ว่าในใจเธอก็อยากที่จะให้ความทรงจำของโบมีรีบๆกลับมาก็เถอะ

     

              “แต่ฉันไม่อยากนอนนี่ค่ะ แถมไม่ปวดหัวแล้วด้วยโบมีเริ่มดื้อ

     

              “เธอนี่ดื้อได้ตลอดเลยนะโชรงพูดยิ้มๆให้กับดื้อของโบมี

     

              “ช่วยไม่ได้ก็ฉันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่นา อีกอย่างฉันก็อยากจะนึกถึงความทรงจำส่วนที่หายไปนั้นให้ออกเร็วๆด้วย

     

              “เอาแบบนี้นะถ้าเธอนอนพักแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเล่าเกี่ยวกับความทรงจำที่หายไปของเธอให้ฟังเผื่อเธอจะได้นึกอะไรออกบ้าง โอเคไหมโชรงยื่นขอเสนอเพื่อให้โบมียอมนอนพัก และนั้นก็ทำให้โบมียอมเป็นเด็กดีเชื่อฟังเธออย่างว่าง่าย

     

              “จริงหรอค่ะ งั้นฉันจะนอนพักเดี๋ยวนี้แหละโบมีรีบพูดบอกก่อนจะรีบนอนลงและหลับตาปี๋ทันที (เด็กจริงๆ -__-)

     

                       เธอจะรับได้ไหมนะถ้าฉันเล่าให้ฟัง แล้วถ้าเธอกลับมาจำฉันได้แล้ว เธอจะยังเกลียดฉันอยู่ไหมนะ ขอร้องอย่าให้มันเป็นแบบนั้นเลย

     

     

     

     

     

     

    11:34

     

              “แองกรี้เบิร์ดจ้า ฉันมาเยี่ยมแล้วน้าเสียงของอึนจีแหกปากมาแต่ไกล

     

              “ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะอึนจีโบมีที่กำลังนั่งทานแอปเปิ้ลที่โชรงเป็นคนปอกให้อยู่พูดกวนอึนจีอย่างหมั้นไส้ ใช่ก็เธอตื่นมาอีกทีก็เมื่อตอน 10 โมงแต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่อึนจีเพื่อนจะมาเยี่ยมเธอสักที

     

              “ป่วยแล้วยังจะกวนอีกนะอึนจีเดินไปยืนข้างเตียงคนไข้ของโบมีพร้อมกับนาอึน

     

              “ฉันปกติดีนะ ดูดิออกจะแข็งแรงโบมีทำท่าเบ่งกล้ามให้อึนจีดู

     

              “จ๊ะๆฉันเชื่อ เออโบมฉันมีเรื่องจะบอกด้วยนะเพื่อนเลิฟอึนจีทำหน้าตากรุ่มกริ่มใส่โบมี ทำเอาทั้งโชรงและโบมีขนลุกไปตามๆกันกับสายตาแปลกๆของอึนจี

     

              “บอกอะไรโบมีตอบกลับด้วยสีหน้าขยะแขยง (?) =__=

     

              “ฉันกับนาอึน เราเป็นแฟนกันแล้วนะพูดพร้อมกับโอบเอวคนที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างอารมณ์ดี ทำให้หน้านาอึนแดงเป็นลูกมะเขือเทศอีกแล้ว

     

              “ห๊ะ!!โชรงกับโบมีตะโกนขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจในสิ่งที่อึนจีบอก

     

              “ไม่ต้องห๊ะ เราเป็นแฟนกันแล้วจริงๆ เนอะนาอึนอึนจีพูดย้ำอีกครั้งก่อนจะกระชับกอดที่เอวของนาอึนให้แน่นกว่าเดิมเพื่อยืนยันสิ่งที่ตัวเองพูด นาอึนก็ได้แต่พยักหน้าขึ้นลงอย่างเขินๆ

     

              “ฉันคิดว่านาอึนจะขายไม่ออกซะอีกนะเนี้ยโชรงเริ่มทำการกวนประสาทนาอึนทันที ดูท่าแล้วสองพี่น้องคู่นี้คงจะไม่มีวันเป็นมิตรกันได้สักทีซิน่า

     

              “ย๊า! วันนี้ฉันอุส่าอารมณ์ดีนะพัค โชรงเดี๋ยวแม่ก็ฆ่าให้นาอึนขู่พร้อมตั้งท่าจะหยิบมีดที่โชรงใช้ปอกแอปเปิ้ลให้โบมีเมื่อกี๊ฆ่าไอ้ลูกพี่ลูกน้องปากดีคนนี้

     

              “อู้ยยยย น่ากลัวเฟ่ออออร์โชรงทำท่ากลัวนาอึน แต่ไอ้หน้าตากวนตริงนั้นมันไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเจ้าตัวกำลังกลัวจริงๆ ก็แค่ทำให้มันดูกวนมากขึ้นเท่านั้นเอง

     

              “ย๊ากกกกไอ้ ไอ้ อ้ากกกกนาอึนที่ไม่รู้จะด่าไอ้ลูกพี่ลูกน้องคนนี้ยังไงดี ถึงจะด่าไปมันก็ไม่ได้สะทบสะท้านไอ้คนตรงหน้าเลยนิดเดียว

     

              “ชู้ววว ทั้งสองคนเลยเบาๆซิ มันรบกวนคนไข้ห้องอื่นนะเป็นอึนจีที่ยุติสงครามเสียงนี้ลง ถ้าไม่ห้ามสองพี่น้องไว้ตอนนี้มีหวังอีกไม่นานโรงพยาบาลคงได้ไล่พวกเธอออกไปเป็นแน่

     

              “ฝากไว้ก่อนเถอะนาอึนยอมหยุดเสียงดังแล้ว นี้เพราะอึนจีออนนี่ห้ามหรอกนะไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่ ชิส์!!

     

              “อย่าลืมมาเอาคืนนะยัยคุณน้องโชรงตอบกลับนาอึนอย่างกวนๆพร้อมแลบลิ้นใส่นาอึนเหมือนเด็กๆ

     

              “พอๆ เลยทั้งสองเป็นอึนจีที่ห้ามทั้งสองอีกครั้ง

     

              “นาอึนกับคุณโชรงดูสนิทกันดีนะค่ะโบมีพูดขึ้นหลังจากที่ดูโชรงกับนาอึนเล่นกัน (ทะเลาะมากกว่านะไรท์ว่า)

     

              “โบมจำนาอึนได้ใช่ไหม แล้วรู้ไหมว่านาอึนกับโชรงเป็นอะไรกันอึนจีหันมาถามโบมีหลังจากที่ทำให้สองพี่น้องนั้นสงบได้แล้ว

     

              “เป็นอะไรกันหรอ นั้นซิฉันก็ไม่รู้หรอก ฮ่าๆโบมีตอบพรางหัวเราะให้ตัวเองที่ดันจำอะไรไม่ได้เลย ก่อนจะมองไปยังโชรงกับนาอึนสลับกัน

     

              “อะไรของเธอทำไมจำฉันได้แต่ดันจำพี่ฉันไม่ได้เนี้ยนะ  แล้วเธอจำอะไรเกี่ยวกับฉันได้บ้างล่ะไหนลองเล่ามาซิ้นาอึนพูดถามอย่างหงุดหงิด แต่เดี๋ยวนะนาอึนเรียกโชรงว่าพี่หรอโอโห้! โลกจะแตกฟ้าจะผ่าไหมเนี้ย? (เว่อร์นะไรท์ : นาอึน - -*)

     

                เอ๋~ พี่น้องกันหรอค่ะ เท่าที่ฉันจำได้ก็แค่นาอึนเป็นลูกคนเดียวนะ แล้วก็เป็นเพื่อนกับอึนจีไม่ซิตอนนี้ต้องบอกว่าแฟนซินะ คิคิ

     

              “ทำไมความทรงจำส่วนที่มีโชรงออนนี่มันหายไปล่ะเนี้ยอึนจีพูดอย่าง งงๆ ก็เข้าใจอยู่นะว่าโบมีจำโชรงไม่ได้แต่ไม่คิดว่าจะลืมแม่กระทั้งนาอึนมีลูกพี่ลูกน้อง แถมอีกอย่างก่อนหน้านี้โบมีก็มีท่าทีกลัวนาอึนสุดๆแต่ไหงตอนนี้กลับพูดกับนาอึนเหมือนกับสนิทกันซะอย่างนั้น

     

              “ฉันว่ามันผิดปกติแล้วนะนาอึนพูดเสริมอึนจี

     

              “นั้นซิ ดูเหมือนกับว่าความทรงจำที่เกิดขึ้นจริงๆ กับความทรงจำตอนนี้มันดูผิดเพี้ยนไปหมดโชรงพูดเสริมต่อจากนาอึน

     

              “เรียกหมอไหม?นาอึนหันไปถามโชรง

     

              “เรียกซิรออะไร” 

     

    ____________________________


    เรียกหมอมันทั้งเรื่อง5555555 ไรท์ขอโทษน้าที่มาลงช้า พอดีมีเรียน -.-

    ช่วงนี้อาจจะลงช้าบ้างเร็วบ้างยังไงก็ทนๆอ่านกันหน่อยเน้อ เดือนหน้าไรท์ถึงจะว่าง

    แล้วก็ไม่ต้อง งง กับอาการของโบมีที่มันแปลกๆนะ ไรท์มโนอาการนี้ขึ้นมาเองแหละ -.,-

    มโนเท่านั้นที่ครองโลก นอกเรื่องไปไกลล่ะ - - ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ของไรท์ไว้ด้วยน้า ช่วยอยู่อ่าน

    เรื่องนี้จนจบด้วยเถิด ไรท์สัญญา (เอานิ้วไขว้หลัง -3-) ว่าจะแต่งให้จบจริงจริ๊งงง ถ้าไม่ขี้เกียจ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×