คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : sf/ how yoongi survive when he's f*cking manly? [2]
Title : Short Fiction – How Yoongi survive when he is f*cking manly? | ซังนัมจามินยุนกิ [2]
Paring : V x Suga
Note : ตอนแรกคิดว่าจะให้สามตอนจบค่ะ แต่ไปๆมาๆ..
ห้าตอนจะพอรึเปล่ายังไม่รู้เลยค่ะ 555555555555 / มีคำหยาบนิดหน่อย
มาจากคุณซังนัมจาทั้งนั้นเลยค่ะ พโถ
ยุนกิก็เป็นแค่เด็กมัธยมปลายปีสามที่
–เอ่อ ค่อนข้างจะไม่ธรรมดา
เอาง่ายๆ
ถ้าพูดถึงโรงเรียนมัธยมปลายอินจอง ทุกคนมักจะพูดชื่อของมินยุนกิขึ้นมาต่อท้ายเสมอ
ไม่ว่าจะแง่ไหน
แม้แต่แง่ที่เขาไม่ชอบใจมากที่สุดก็ตาม
"สัด"
ยุนกิสบถออกมาในขณะที่เขากำลังอยู่ในคาบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ที่เป็นคาบเรียนสุดท้ายของวันนี้
โอเค การเอาวิชานี้มาอยู่คาบสุดท้ายก็ไม่ต่างกับการปล่อยคาบฟรีให้เด็กนอนหรอก
ก่อนที่เจ้าของเรือนผมสีสว่างจะกดล็อกโทรศัพท์และฟุบลงไปนอนทับกระเป๋าเป้ที่วางทับหนังสือประวัติศาสตร์ไว้
ถามว่าครูเห็นมั้ย
ก็เห็นนะ แต่ทำอะไรได้ล่ะ ก็ไม่
ก็บอกแล้วว่ามินยุนกิน่ะ
มีอำนาจที่สุดในโรงเรียนแล้วน่ะ
แต่เสียงสบถก็เรียกความสนใจจากเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ขวามือได้เป็นอย่างดี
ปาร์คจีมินเงยหน้ามาจากหนังสือประวัติศาสตร์ที่พึ่งทำน้ำลายหกเลอะหนังสือไป
เลิกคิ้วสงสัยก่อนที่โทรศัพท์เครื่องบางของยุนกิจะถูกส่งมาให้ถึงมือโดยไม่ต้องปริปากขอ
S :
พี่ครับ
มันอาจจะฟังดูไร้สาระ
แต่ผมชอบพี่ยุนกิจริงๆนะ 4:08 PM
"เชี่ย"
บทสนทนาของแอพลิเคชั่นสุดฮิตฉายอยู่บนจอทำให้จีมินหลุดคำหยาบออกมาเบาๆ
ถึงเขาจะเป็นเพื่อนสนิทยุนกิ ก็ไม่ได้แปลว่าเขามีอำนาจเหมือนมันซักหน่อย
ยุนกิทำหน้าเบื่อที่เป็นซิกเนเจอร์ของเจ้าตัวก่อนจะบ่นออกมา
"กูจะไม่อะไรเลยนะ
ถ้าแม่ง.."
"ทำไมวะ?"
"ช่างเหอะ"
ยุนกิพูด
ก่อนจะคว้าโทรศัพท์กลับไป เจ้าตัวถอนหายใจก่อนจะกดอะไรตรงหน้าจอซักพัก
ปลดล็อกโทรศัพท์และฟุบตัวลงนอนอย่างเก่า
ปล่อยให้ปาร์คจีมินขมวดคิ้วพร้อมกับพกความสงสัยไว้เต็มอก
แต่ถ้ายุนกิไม่เปิดปากพูดออกมา
เขาก็ไม่มีสิทธิ์ถามนี่ จริงมั้ย?
เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้นพร้อมกับการที่มินยุนกิลุกขึ้นมาพร้อมกับถือกระเป๋าเป้ออกจากห้องโดยที่อาจารย์ประจำวิชายังไม่ปล่อย ความจริงเขาไม่อยากแม้แต่เข้าคาบเรียนด้วยซ้ำ
แต่การที่มีเวลาเรียนไม่พอนั่นไม่ใช่เรื่องตลก
ช่วงนี้เขาโดดบ่อยจนจำเป็นต้องเข้าให้มันครบๆไปก่อน
เพราะการโดดเรียนมากๆมันมีผลกระทบไปถึงสภานักเรียนนี่
และเขาเองก็ไม่อยากไปยุ่งกับพวกนั้นเท่าไหร่นัก
ดูเหมือนว่าพระเจ้าอาจจะอ่านใจเขาออก
ทันทีที่ยุนกิก้าวออกจากห้อง ไม่รู้ว่าเขา หรือเป็นเพราะการที่ห้อง 6-E ถูกสร้างอยู่แถวๆมุมตึกพอดีทำให้เขาที่กำลังรีบชนกับผู้ที่พึ่งเข้ามาใหม่อย่างจัง
และขอบคุณอีกครั้งสำหรับส่วนสูงของเขาที่พระเจ้าให้มาสำหรับพอใช้ชีวิตได้
ยุนกิล้มลงไปกับพื้นพร้อมกับหนังสือมากกว่าเจ็ดเล่มตกลงมาทับเขาอย่างจัง
"วันเหี้ยไรวะเนี่ย"
ยุนกิพูด
อย่างน้อยโลกก็ยังใจดีกับเขาเพราะหนังสือนั่นไม่ได้หนักมากหรอก
มันดูเป็นหนังสืออ่านเล่นเวลาชิลๆมากกว่า
และดูเหมือนเจ้าของจะดูแลหนังสือมากด้วยการลงทุนซื้อกระดาษสีทึบมาห่อหนังสืออย่างดี
ก่อนที่มือหนาจะถูกส่งมาอยู่ตรงหน้าเขา
"พี่สาวเป็นอะไรมั้ยครับ?"
สาว.. พ่อง
ยุนกิก็อยากจะตอบไปอย่างนั้น
แต่เพราะสายตาของเขาที่ดันเลื่อนไปมองเจ้าของมือหนานั่นทำให้ยุนกิถอนหายใจออกมาก่อนจะปัดมือหนาทิ้งไปและดันตัวเองออกมาจากพื้นทางเดิน
จอนจองกุก เด็กปีสอง
รอยสัญลักษณ์ตราประทับที่ติดอยู่ตรงอกเสื้อข้างซ้ายทำให้รู้ว่าไอ้เด็กนี่เป็นหนึ่งในสภานักเรียน
จะเผยรอยยิ้มฟันกระต่ายที่เพื่อนผู้หญิงร่วมห้องของเขาหวีดกัน จริงๆแล้ว ยุนกิก็พึ่งเห็นมันชัดๆครั้งแรกนี่แหละ
เพราะงี้เขาเลยคิดคำด่าไม่ออกไง
ให้ตายสิ
"เลิกเรียนแล้วหรอครับ
ครูปล่อยตรงเวลาจัง"
จองกุกพูด
ก่อนที่เจ้าของส่วนสูงที่เขาโคตรจะอิจฉาจะก้มเก็บหนังสือทีละเล่ม โดยที่ยุนกิไม่คิดจะช่วยแม้แต่นิด
เอ่อ มันใช่หน้าที่มั้ยล่ะ แม้ว่าเขาจะก้มไปช่วยหยิบเล่มนึงก็เถอะ
แต่นั่นก็เพราะว่ามันใกล้มือเขาต่างหาก
ไม่ใช่เพราะไอ้รอยยิ้มฟันกระต่ายบ้าบอนั่นหรอก
"โอ๊ะ
ขอบคุณครับพี่สาว"
"พี่สาวบ้านนายหรอว-"
"มึง..
ทำอะไรเหี้ย’ไรเนี่ย?"
ไม่ทันที่ยุนกิจะพูดจบประโยค
แรงสะกิดกับเสียงทักจากด้านหลังทำให้เขาหันไปมอง ปาร์คจีมินเป็นคนสะกิดเขา
ก่อนที่เขาจะเห็นเพื่อนสนิทตัวเล็กที่มีรอยเหงื่อประปราย
เสียงฝีเท้าของหลายๆคนดังขึ้นทำให้ยุนกิรู้ว่าอาจารย์คงจะปล่อยเด็กกลับบ้านแล้ว
และเขาก็ไม่อยากเดินสวนกับคนมากๆระหว่างเปลี่ยนคาบหรอกนะ
"นั่นเพื่อนพี่สาวหรอครับ? สวัสดีครับ
ผมจอนจองกุก ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
ร่างตรงหน้าพูด
รอยยิ้มของจอนจองกุกยังคงถูกฉีกออกแม้จะได้รับใบหน้าเรียบนิ่งของจีมิน
ก่อนที่คนข้างๆเขาจะขมวดคิ้วและมองมาหา ยุนกิถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าไปมา
เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้เด็กนี่มันเฟรนด์ลี่มาจากไหน
หรือว่าสังคมเด็กเนิร์ดมันจะปิดเกินไปจนไม่รู้จักพวกเขากันวะ?
"ยุนกิ
ไปเหอะ" จีมินพูด แทบจะลากเขาไปให้หนีจากไอ้เด็กสภานักเรียนแล้วด้วยซ้ำ
"วันนี้มึงกลับไปก่อนเลย
ไม่ต้องรอกู" ยุนกิพูด ก่อนที่เพื่อนตัวเล็กจะลากเขาไปจริงๆเพราะจีมินเอื้อมมาจับแขนเสื้อเขาเหมือนกับมันเป็นแม่ของเขาแล้ว
คำตอบของเขาทำให้จีมินขมวดคิ้วสงสัย
"กูต้องไปทำธุระ"
"พี่สาวจะไปที่ไหนหรอ
ให้ผมไปส่งมั้ย ถือเป็นการขอโทษที่ทำให้พี่สาวเจ็บตัวไง"
"มึงเห็นยุนกิใส่กระโปรงรึไงวะ
เป็นสภานักเรียนโง่ได้ด้วยหรอ?" จีมินพูด ปกติแล้วมนุษยสัมพันธ์ของจีมินจะมีมากกว่าเขานิด
เอ่อ- มากกว่ามากๆด้วยซ้ำ แต่ใบหน้าเรียบนิ่งของมันนี่
เขาก็พึ่งได้เห็นอีกเหมือนกัน
"จะทะเลาะกันทำไมวะ
จีมมึงแวะไปหานัมจุนที่ชมรมด้วย"
"อ้าว
มึงจะไม่เข้าไป?"
โชคดีที่ประโยคของเขามันน่าสนใจมากกว่าไอ้เด็กจอนจองกุกตรงหน้า
จีมินหันมามองเขาที่กำลังพยักหน้าเพื่อตอบคำถามของมัน
"เออ
คงจะแหละ ถ้าเข้าไปคงจะเรียกพวกมึงมากระทืบคนมากกว่า" ยุนกิพูด
แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะผ่อนเสียงในประโยคหลัง ถ้าไอ้เด็กตรงหน้าได้ยินขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องดีนี่
จริงมั้ยล่ะ เขาก็ไม่แน่ใจด้วยว่าสภานักเรียนจะขี้แส่เรื่องชาวบ้านขนาดไหน
แต่รอยยิ้มของมันที่ยังคงฉีกอยู่อย่างไม่กลัวเหงื่อแห้งทำให้ยุนกิพอโล่งใจได้ว่ามันคงไม่สงสัยอะไรหรอก
"ฮะ?"
"ก็ตามนั้น
บาย"
ยุนกิโบกมือให้เพื่อนสนิทของตัวเองที่ทำท่าจะเดินตามมา
ยุนกิส่ายหน้าพลางไล่เพื่อนสนิทให้ทำตามที่เขาสั่งทางสายตา
ก่อนที่จีมินจะถอนหายใจออกมาและเดินออกไป อ่า
แถมยังด่าจอนจองกุกอีกสองสามคำอีกต่างหาก
หวังว่าจีมินมันจะไม่ใช่ชื่อไอ้เด็กนี่ลงในแบลคลิสต์ที่รอเคลียร์บัญชีหรอกนะ
S :
พี่ครับ
มันอาจจะฟังดูไร้สาระ
แต่ผมชอบพี่ยุนกิจริงๆนะ 4:08 PM
SUGA :
ไอ้เวร
4:11 PM มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไง
S :
ผมรู้ว่าพี่คงไม่พอใจ
แต่ผมชอบพี่จริงๆว่ะ 4:11 PM
SUGA :
เลิกเรียน ไปเจอกันอยู่ดาดฟ้า
4:13 PM กูจะต่อยหน้ามึง
อย่าลืมเรียกรถพยาบาลไว้เลย ไอ้สัด
unread message
S :
J
เจอกันครับ พี่ยุนกิ 4:13 PM
ยุนกิกดอ่านข้อความก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง
เท้าเล็กๆนั่นสาวเท้าไปยังดาดฟ้าของตึกสิบที่กำลังอยู่ในการซ่อมแซม
และเหตุผลนั่นทำให้ไม่มีไอ้โง่ที่ไหนไปวุ่นวายหรอก ยุนกิสบถกับสภาพอากาศ
ฟ้าครึ้มๆนั่นคงเป็นสัญญาณเตือนว่าฝนอาจจะตกได้ในไม่ช้า และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาหงุดหงิดคือการที่เขาสาวเท้าเข้าตึกสิบโดยที่สวนทางเด็กนักเรียนนับร้อยทำให้เขาโดนมองในรูปแบบที่ต่างกันไป
แต่ยังไงก็คงไม่พ้นการลากคนมากระทืบ
เออ
จะทำอะไรเขาก็ดูเป็นคนเหี้ยไปแล้วหนิ เหอะ
ในที่สุดเขาก็ขึ้นมาถึงชั้นสุดท้ายของตึก
หยาดเหงื่อที่ประอยู่บนหน้านั่นทำให้ยุนกิอยากด่าตัวเองว่าโง่ซักที
จริงๆแล้วเขาควรนัดเจอมันที่ที่ง่ายกว่านี้
เขาไม่ได้ซีเรียสกับการต่อยคนหน้าโรงเรียนหรอกนะ
แต่เพราะเหตุผลบางประการทำให้ยุนกิต้องสาวเท้ามาถึงชั้นสุดท้ายของชั้น
ยุนกิดันประตูตรงหน้าออก
คนตัวขาวขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นว่ามันยากที่จะเปิด ประตูฝืด เขาสบถก่อนจะใส่แรงเต็มแรงที่จะผลักมัน
และสุดท้ายมันก็ถูกเปิดออก เพราะการช่วยดึงประตูจากคนที่อยู่ตรงหน้า
"เอ่อ..
ครูปล่อยแล้วหรอครับ?"
ความเงียบถูกจำกัดด้วยประโยคโง่ๆจากคนตรงหน้า
ยังไม่ปล่อยกูจะออกมาได้ไงวะ? ก่อนจะปิดประตูลงเมื่อเขาก้าวเท้าออกมาแล้ว
ยุนกิถอนหายใจก่อนจะยืนกอดอกและมองหน้าคิมซึงฮยอน
ไอ้เด็กที่ทำให้เขาหงุดหงิดมาตลอดสามวัน
ก็เพราะมันคือไอ้เด็กเวรที่เป็นแฟนของน้องสาวเขายังไงล่ะ
โอเค
ในตอนแรกเขาอาจจะหงุดหงิดที่ยูนาไม่ยอมลงมาทานข้าวด้วย เขาจึงคุยกับน้องสาวตัวดีนี่อย่างจริงจัง
ใบหน้าหงอยๆของยัยนั่นทำให้เขาต้องยอมแพ้ แต่ก็นั่นล่ะ
เขาก็ไม่ใช่คนหวงน้องสาวจนเป็นประสาทอย่างนิยายรักซักหน่อย
เขาจึงขอรูปไอ้หนุ่มนั่น ข้อมูลนิดๆหน่อยๆ เผื่อไว้ว่าต้องใช้ กันไว้ดีกว่าแก้
จริงไหม?
จนกระทั่งยูนาขออนุญาตไปทานข้าวกับแฟนหนุ่มของเธอ
เขาบอกให้น้องสาวกลับก่อนสี่ทุ่ม สาวเจ้ารับปาก
แต่เพราะเขารู้ทันอีกนั่นแหละว่ายูนายอมไม่ยอมเชื่อฟังเขาขนาดนั้นหรอก
ยุนกิเลยส่งข้อความไปหาซึงฮยอนผ่านไลน์ให้พาน้องสาวเขากลับก่อนสี่ทุ่ม
แน่นอนว่านักเรียนในรั้วโรงเรียนอินจองจะมีใครบ้างล่ะที่ไม่รู้จักเขา
ยุนกิเลยใช้เหตุผลข้อนี้ในการกดดันให้น้องสาวกลับบ้านให้ตรงเวลา
แน่นอนว่ามันใช้ได้ผลอย่างดี
ซึงฮยอนมาส่งยูนาตรงเวลา จนบางทีเร็วไปด้วยซ้ำ
รู้ตัวอีกทีเขาก็เห็นหน้าไอ้เด็กเวรทุกสามทุ่มไปแล้ว
และเรื่องบ้าๆแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าสามวันก่อน
ยูนาไม่ร้องไห้มาหาเขา ยัยตัวเล็กนั่นตัวสั่นไปหมด
ทุกๆสามนาทีต้องมีชื่อคิมซึงฮยอนออกมาทำให้เขาค่อนข้าง เอ่อ รำคาญ
เลยถามเหตุผลพร้อมบอกว่าจะบุกไปหามันเลย เรื่องมันจะได้จบๆ
สุดท้ายยูนาก็ยอมบอกเหตุผลเขา โอเค
เขาอาจจะห่างไกลจากเรื่องความรักมากเกินไปจนไม่รู้ว่าการตอบไลน์ช้าทำให้เกิดเรื่องใหญ่ได้ขนาดนี้
ตอนนั้นยุนกิกุมขมับ
เขาไม่รู้จะกร่นด่าใครดีระหว่างซึงฮยอนที่ตอบไลน์น้องสาวเขาช้า
หรือยูนาน้องสาวของเขาที่ทำเหมือนไม่รู้ว่าคนเราต่างมีธุระส่วนตัวขนาดนั้น
ในขณะที่น้องสาวของเขาร้องไห้จนหลับไปที่ตักของเขานี่แหละ ยุนกิเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดแชทของคนในความคิด
ส่งสติกเกอร์ไปตัวนึงเพื่อให้มันรู้ตัวว่ามีคนทักมา
จะได้มาตอบไลน์น้องสาวเขาที่กำลังน้อยใจเป็นบ้าเป็นหลังตอนนี้
และมันตลกดีเมื่อเขาส่งไป
ข้อความก็ถูกอ่านทันที
และตามด้วยตัวหนังสือมากมายที่ส่งมาชนิดไม่มีความขี้เกียจตอบเลยซักนิด
หน้าตาของเขาตอนนั้นคงจะตลกแน่ๆ
ยุนกิเลยหยิบโทรศัพท์เครื่องบางของน้องสาวมาดู ปลดรหัสที่แอบส่องอยู่บ่อยๆ
ก่อนจะกดเข้าไปที่แอพลิเคชั่นสุดฮิต
และแชทระหว่างเธอกับคิมซึงฮยอนที่ถูกเมมชื่อไว้ว่า 'แฟน' และมันน่าตลกเข้าไปอีกเมื่อข้อความของน้องสาวของเขาไม่ถูกอ่านเลยซักข้อความ
โอเค
เป็นคุณจะทำยังไงในขณะที่น้องสาวกำลังรอแฟนหนุ่มของเธอตอบข้อความในขณะที่ไอ้เด็กนั่นแทบจะสรรหาทุกคำถามบนโลกมาถามเขา
และเพราะว่าบุคคลที่สามเป็นน้องสาวของเขา
ยุนกิเลยตัดสินใจนัดมันมาคุยวันนี้ให้มันจบๆนี่แหละ
ยุนกิส่งหมัดไปกระทบหน้าของร่างหนาอย่างกระทันหัน
รอยช้ำที่เกิดขึ้นภายหลังทำให้ยุนกิไม่ได้รู้สึกสะใจซักนิด
เขาอยากจะฆ่าไอ้เด็กนี่ให้ตายไปซะ
คิดอย่างนั้นร่างขาวก็เอาแต่ส่งหมัดไปที่ใบหน้าคมตรงหน้า
รอยเลือดคละไปกับรอยช้ำนั่นไม่ทำให้ยุนกิหยุดง่ายๆ เสียงตุบตับดังขึ้นก่อนที่มันจะสิ้นสุดลงเมื่อซึงฮยอนใช้มือขวากำข้อมือเขาเอาไว้แน่น
"มึงปล่อยกู!"
"พี่ฟังผม!"
ซึงฮยอนพูด
ในขณะที่ยุนกิพยายามสะบัดมือทิ้ง ยิ่งยุนกิสะบัดแรงแค่ไหน
ซึงฮยอนก็ยิ่งกำมันแรงขึ้นจนเขารู้สึกเจ็บ เจ็บมากๆ
ไอ้เด็กเวรนั่นมันสู้เขาได้ด้วยซ้ำแต่มันยืนโง่ให้เขาต่อยมันไปมากกว่าสิบครั้งเนี่ยนะ?
"ไอ้เวร
มึงปล่อยกู ก่อนที่กูจะลากพวกมากระทืบมึงจริงๆ"
"พี่ยุนกิ
พี่ให้โอกาสผมบ้างได้มั้ยวะ"
แววตาของซึงฮยอนเปลี่ยนไปจากเดิมจนเขารู้สึกได้
มันแข็งกร่าวขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เขาเริ่มใช้กำลัง และนั่นไม่ใช่สัญญาณที่ดี และเขาก็ทำมันช้าเกินไป
"โอกาสเหี้ยไร"
"ก็พี่ไม่ให้โอกาสใครเลย
ผมเลยต้องทำแบบนี้ไงวะ"
อ๋อ
เลยหลอกเคลมน้องสาวกูว่างั้น?"
"ผมไม่เคยชอบยัยนั่นเลยต่างหาก!"
ประโยคของไอ้เด็กนั่นทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
เขาอาจจะเป็นอย่างนั้นไปจริงๆจนเผลอใช้มืออีกข้างที่ไม่ถูกกำไว้ผลักซึงฮยอนแรงๆ
แววตาของมันแข็งขึ้น
ก่อนที่มันจะผลักเขาเข้ากับผนังจนยุนกิรู้สึกเจ็บไปทั่วตัวก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างดันไหล่เขาให้ติดกับผนัง
"มึง--
รู้มั้ยว่ายูนาร้องไห้หนักขนาดไหน ไอ้เวร"
"ต่อให้ยัยนั่นร้องไห้จนตาย
ผมก็ไม่จำเป็นต้องแคร์นี่ จริงมั้ย?"
มันพูด
ก่อนที่จะส่งมือมาบีบคางเขาแรงๆ
ยุนกิพยายามจะคว้านหาโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง
แต่มือหนากลับดึงมือทั้งสองข้างของเขาให้ชูเหนือศีรษะก่อนจะใช้มืออีกข้างกดมันให้ติดกับผนังอย่างแรงพร้อมกับหัวเข่าที่แทรกมาอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างจนทำให้ยุนกิหน้าซีดก่อนจะพยายามดึงมือออกจากพันธนาการ
แต่ใบหน้าคมกลับเลื่อนเข้ามาใกล้เขา
"พอพี่ไม่มีพวก
พี่ก็ลูกแมวดีๆนี่แหละ ยุนกิ"
ซึงฮยอนพูด
พลางพ่นลมหายใจอยู่ข้างหูของเขา
ยุนกิจึงพยายามสะบัดตัวให้มากขึ้นจนเกือบจะหลุดออกจากข้อมือหนา
ซึงฮยอนสบถคำหยาบที่ยุนกิไม่เคยได้ยินก่อนจะปลดเข็มขัดนักเรียนออกมารัดข้อมือทั้งสองของเขาอย่างแน่นหนาในขณะที่ยุนกิทำได้แค่สะบัดมันออกจนเกิดรอยแดงเถือกไปทั่ว
"ทำเหี้ยอะไรของมึง!"
ยุนกิพูด แม้ว่าหน้าของเขาจะซีดไปแล้ว
ซึงฮยอนแค่นหัวเราะก่อนจะดันไหล่ทั้งสองข้างของเขาให้ติดกับฝาผนังอีกครั้ง
"ก็เปลี่ยนจากการหลอกเคลมน้องสาวพี่มาเคลมพี่แทนไง"
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ยุนกิถุยน้ำลายใส่ไอ้เด็กเวรตรงหน้า
รู้ตัวอีกทีเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บที่ไหล่ทั้งสองข้างจนเขานิ่วหน้า
ซึงฮยอนบีบเขาอย่างแรงจนเห็นเส้นเลือดปูด ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดสิ่งที่เขาทำเอาไว้
"นี่พี่ยังไม่รู้สถานการณ์อีกหรอวะ!"
มันพูดก่อนจะกระชากเสื้อนักเรียนของเขาออกทีเดียวจนกระดุมหลุด
มันเจ็บจนน้ำตาจะไหล
สายตาแข็งกร่าวเปลี่ยนเป็นโลมเลียเมื่อไอ้เวรนั่นเอาแต่จ้องไปที่ผิวของเขา
ยุนกิอยากจะบ้าเมื่อเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทนั่นเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้และเริ่มจู่โจมริมฝีปากของเขา
เขากัดริมฝีปากของซึงฮยอนอย่างแรงจนเลือดไหลซิบ
"ถ้าพี่ทำผมเลือดออกอีก
ผมจะรุนแรงกับพี่แล้วนะ"
"ไอ้เวร
นี่มึงเป็นโรคจิตหรอวะ!"
สุดท้ายไอ้เวรนั่นมันก็ประกบริมฝีปากเข้าไปอีก
ยุนกิกัดริมฝีปากจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวเป็นส่วนหนึ่งของประสาท
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขาร้องไห้ออกมาในขณะที่คนตรงหน้าเอื้อมจะไปถอดเข็มขัดของเขา
มือของเขาเป็นรอยแดงไปหมด
มันเจ็บขึ้นเรื่อยๆเพราะแรงเสียดสีระหว่างมือของเขากับเข็มขัดหนังจนกลายเป็นรอยเลือด
"ผมคิดว่ามีแค่อนิเมะซะอีกที่คิดว่าดาดฟ้าเป็นที่ที่ใช้ทำอะไรอย่างว่าน่ะ"
เสียงที่ดังไล่มาจากข้างหลังทำให้คนตรงหน้าหยุดปลดกางเกงนักเรียนของเขา
หวังว่าคนที่พึ่งเข้ามาใหม่คงไม่ใช่เพื่อนของไอ้เด็กเวรนี่เหมือนในนิยายหรอกนะ
ยุนกิเม้มริมฝีปาก
ค่อยๆกระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาที่ขัดขวางทัศนียภาพในการมองเห็นออก
ซึงฮยอนถูกผลักไปอีกทาง ก่อนที่ร่างที่พึ่งเข้ามาใหม่จะปลดเข็มขัดที่รัดมือทั้งสองข้างของเขาออก
เลือดไหลกระทบพื้นทำให้คนที่พึ่งเข้ามาใหม่ผิวปาก
ก่อนจะโยนเข็มขัดหนังใส่หน้าไอ้เด็กเวรคิมซึงฮยอน
"ถ้าผมเดาไม่ผิด
นี่คือการข่มขืนใช่มั้ยครับ?"
"มึงอย่ามาเสือก
กูกับพี่ยุนกิเป็น-"
เขาเกือบจะด่าไอ้เวรนั่นออกมาแล้วถ้าคนตรงหน้าเขาไม่ชี้ไปที่มุมตึก
สิ่งของที่เขาไม่เคยคิดว่ามันจะมีอยู่ที่นี่ทำให้ยุนกิตาเบิกโพลง
เขาแทบลืมความเจ็บปวดที่ข้อมือเมื่อเห็นสิ่งที่ไว้ใช้บันทึกภาพที่ไม่ควรมีอยู่ในตึกที่กำลังถูกซ่อมแซมแบบนี้
กล้องวงจรปิด?
"ผมคิดว่าคุณคงไม่น่ามีข้อแก้ตัวอื่นนะ
จริงมั้ยคิมซึงฮยอน"
"เหอะ
แล้วไง มึงจะทำอะไรกูได้ คิดว่าสนามหญ้าโรงเรียนนี้ของใครวะ
พ่อกูเป็นคนบริจาคโว้ย!"
ยุนกิถอนหายใจออกมาพร้อมกับมองบนตามซิกเนเจอร์
เขาแอบเห็นว่าคนตรงหน้ามีดาวสองดวงใต้ชื่อของตัวเอง ชีวิตเขาต้องพัวพันกับเด็กปีสองไปชั่วชีวิตรึไง
และการที่เขาแอบมองชื่อมันทำให้เจ้าของชื่อระบายยิ้มให้เขา
ก่อนจะแค่นหัวเราะให้กับไอ้เด็กเวรคิมซึงฮยอน
"ต่อให้คุณเป็นคนสร้างตึกทุกตึกในโรงเรียน
คุณก็ไม่มีทางพ้นข้อหาหรอก เพราะอะไรรู้มั้ยครับ?"
"...มึง"
"เพราะผมเป็นประธานนักเรียนโรงเรียนนี้ไง"
"..."
"แต่ตอนนี้คุณกำลังแข่งเรื่องเงินนี่
จริงมั้ย?"
"มึง
ไอ้บัดซบคิมแทฮยอง!"
"พอดีพ่อผมเป็นผอ.ว่ะ"
ในตอนนั้น
สิ่งที่ผมทำคือการหัวเราะกับคำตอบของคิมแทฮยอง
โดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่า
อำนาจของโรงเรียนอินจองน่ะ ไม่ใช่ของมินยุนกิ ไม่ใช่เลย.
(END
ep.2)
ความคิดเห็น