ตอนที่ 11 : สวรรค์อันดามัน
ถึงเวลากำลังโพล้เพล้ลุงทองถมก็เตรียมเรือพร้อมสำหรับกิจกรรมออกตกหมึก เรือตกหมึกของลุงทองถมก็คือเรือหางยาวคู่ชีพของแกนั่นเอง เรียกว่าเรือลำเดียวสามารถใช้งานได้สารพัดประโยชน์
“เราต้องขับเรือออกไปกลางทะเล”
อินทุอรบรรยาย หากว่าไม่มีความเชี่ยวชาญชำนาญเส้นทางและคุ้นเคยกับท้องทะเลแถบนี้เป็นอย่างดี คงยากที่จะขับเรือในตอนกลางคืน
เรือหางยาวส่งเสียงดังและดูเหมือนจะเครื่องแรงพุ่งทะยานไปข้างหน้าประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดที่จะตกหมึก ลุงทองถมก็จอดเรือแล้วทอดสมอเพื่อให้เรือลอยลำตรงจุดนั้น จากนั้นแกก็ติดตั้งเครื่องปั่นไฟบนเรือซึ่งเป็นนวัตกรรมไทยทำไทยใช้ที่คิดค้นขึ้นเองแบบภูมิปัญญาชาวประมง จากนั้นก็เปิดไฟสีเขียวที่ทำให้บริเวณโดยรอบตัวเรือสว่างไสวเป็นวงกว้าง และไฟนี้เองที่จะเรียกให้ปลาเล็กปลาน้อย กุ้ง ปู ขึ้นมาเล่นไฟ ปลาหมึกและปลาใหญ่จะมาจับปลาเล็กปลาน้อยเหล่านี้กิน และเราก็อาศัยช่วงเวลานี้ในการตกหมึก
ดูเหมือนว่าโดมินิคจะทำบาปไม่ขึ้น เพราะในขณะที่อินทุอรและลุงทองถมตกได้ปลาหมึกขึ้นมาเรื่อยๆ ขนาดว่าชายหนุ่มเลือกใช้คันเบ็ดสีขาว และเลือกเหยื่อที่สีสันสะท้อนกับแสงไฟ ซึ่งเชื่อกันว่าช่วยให้ตกปลาหมึกได้เยอะ ก็ยังไม่มีปลาหมึกตาถั่วตัวไหนตกมาเป็นเหยื่อของเขา
“มันมีปลาหมึกจริงหรือเปล่าตรงนี้”
เขาเริ่มบ่น ก่อนจะสาวเบ็ดกลับ แล้วทอดไปตรงที่หญิงสาวเพิ่งตกหมึกขึ้นมาได้ จนอินทุอรได้ปลาหมึกขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง คันเบ็ดของโดมินิคก็ยังไม่มีการกระตุกเคลื่อนไหวใดๆ
ชายหนุ่มบ่นอุบๆ จนลุงทองถมเริ่มหันมาสบตากับเธอ และบอกว่าสงสัยเขาคงทำบาปไม่ขึ้น อินทุอรจึงแปลให้ฟัง โดมินิคโวยทันที
“ผมออกมาตกปลาหมึกและก็อยากได้ปลากลับไปทำกับข้าวด้วย”
ดูเหมือนว่าท่านเจ้าสมุทรจะได้ยินคำตัดพ้อและเห็นอกเห็นใจเขา เพราะถือเบ็ดต่อไปอีกครู่ โดมินิคก็เริ่มรู้สึกว่าคันเบ็ดหนัก และเมื่อสาวรอกกลับมาก็พบปลาหมึกขนาดเท่าฝ่ามือติดมาด้วย
“ได้แล้ว ผมได้แล้ว”
พอดึงปลาหมึกตัวแรกขึ้นมาจากท้องทะเลได้ ชายหนุ่มก็ร้องดังลั่นดีอกดีใจเหลือเกิน ลุงทองถมสบตากับเธอก่อนจะรีบแสดงความยินดีด้วย และหลังจากได้ตัวแรก ตัวต่อๆ มาก็เริ่มติดเบ็ดให้คนที่เพิ่งตกหมึกเป็นครั้งแรกมีความสุขสนุกสนานเหลือเกิน
กระทั่งได้ปลาหมึกจำนวนหนึ่งและเริ่มเป็นเวลาดึกแล้ว ลุงทองถมจึงลงอวนแล้วดับไฟเพื่อเรียกให้สัตว์น้ำที่อยู่ในบริเวณนั้นเข้ามาในอวน ในเวลานี้เองทั้งสองคนแทบกลั้นหายใจ เพราะกลัวว่าหากมีเสียงแล้วสัตว์ที่จะเข้ามาในอวนเกิดตกใจหนีไปหมด แต่เมื่อเปิดไฟและยกอวนขึ้น ก็เห็นกุ้งปูปลารวมทั้งปลาหมึกติดมาแทบเต็มอวน
“วันนี้โชคดีจริงๆ”
ลุงทองถมว่าอย่างอารมณ์ดีขณะที่เก็บสัตว์ทะเลที่หาได้ลงกะบะแช่เย็นเกือบเต็ม ก่อนจะแล่นเรือกลับเกาะแสนดาว โดยมีป้ากัลยามายืนรออยู่
“ได้เยอะเลยวันนี้โชคดีจริงๆ สงสัยเป็นเพราะมีหนูอินเป็นแม่ย่านาง”
ลุงทองถมบอกเมียรักอย่างอารมณ์ดี
“มาทีไรก็ให้โชคตลอดเลยนะหนูอิน ครั้งที่แล้วป้าก็ถูกหวย”
ป้ากัลยาว่าบ้าง
อินทุอรยิ้มรับ
“แต่ถ้างวดนี้แทงเสีย ก็อย่าโทษอินนะคะ”
เรียกเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีจากสองสามีภรรยา
“ดึกมากแล้วอินขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อนนะคะ ลุงกับป้า”
อินทุอรขอตัว แม้จะอาบน้ำมาครั้งหนึ่งตอนขึ้นจากเล่นน้ำทะเล แต่ก็ยังรู้สึกเหนียวตัวเพราะโต้คลื่นลมที่พัดกลิ่นไอทะเลมาโดนเนื้อตัว
“จ๊ะหนูอิน คืนนี้ได้ปูปลาเยอะเลย พรุ่งนี้ป้าขอแบ่งไปช่วยงานขึ้นบ้านใหม่สักหน่อยนะ”
“ตามสบายเลยค่ะ”
อินทุอรตอบแทนชายหนุ่ม ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะเดินกลับไปยังบังกะโลที่พัก โดยมีคบไฟที่ถูกจุดไว้ตามแนวทางเดินส่องให้เห็นทาง
“ตอนนี้เรายังใช้เครื่องปั่นไฟจากน้ำมัน ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด”
เธอบอกกับชายหนุ่มก่อนที่เขาจะถาม
โดมินิคเห็นด้วย เพราะตอนนี้ทั้งรีสอร์ทมีเขากับหญิงสาวเท่านั้นพักอาศัยจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเปิดไฟตลอดเส้นทางเดินและอีกอย่างการใช้แสงจากคบไฟให้ความสว่างก็ช่วยสร้างบรรยากาศดีด้วย
หนุ่มสาวเดินกลับมาด้วยกันเงียบๆ แหงนหน้ามองฟ้ามองดาว อากาศที่นี่สดชื่นช่วยฟอกปอดและชำระล้างความเครียดและเรื่องไม่สบายใจออกไปได้ดีเยี่ยม
“แย่ล่ะสิ”
จู่ๆ ชายหนุ่มก็ร้องเสียงหลงขึ้นมา ทำให้คนที่เดินอยู่ข้างๆ พลอยสะดุ้งตกใจไปด้วย รีบหันขวับไปมองก็เห็นเขากำลังกุมมือที่ศีรษะ
“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?”
“ผมลืมโทรศัพท์”
“ลืมไว้ที่ไหนคะ? ที่นี่ไม่มีของหายหรอก เพราะไม่มีคนนอกเข้ามา”
ตอบไปตามความเข้าใจ
แต่เขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เขาลืมโทรศัพท์หาเอลซ่าต่างหาก เพราะสัญญากันเป็นแม่นมั่นว่าเขาจะโทรศัพท์รายงานตัวกับเธอทุกวัน แต่ก็มัวเพลินกับการทำนั่นโน่นนี่เสียทั้งวัน กระทั่งลืมแม้กระทั่งคิดถึงแฟนสาว
“เปล่า ผมลืมโทรศัพท์หาใครบางคนน่ะ”
น้ำเสียงอ่อยลง ไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ ถึงไม่ได้อยากพูดถึงคนรักให้หญิงสาวตรงหน้านี้ฟัง
“งั้นก็โทรตอนนี้เลยสิคะ” เธอบอกเขา
โดมินิคเดินแยกตัวออกไปทางทิวมะพร้าว อินทุอรมองตามหลังเขาไป นึกสนใจว่าใครคือคนสำคัญที่เขาจะต้องโทรหา และการลืมนั่นก็เป็นเรื่องสำคัญขนาดคอขาดบาดตายทีเดียว...อาจจะเป็นคนรักของเขาก็ได้
แต่ถ้าโดมินิคมีคนรักแล้ว ทำไมเดเร็กจะต้องจ้างให้เธอทำให้บุตรชายของเขาหลงรักหัวปักหัวปำด้วยเล่า ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด
แสงสีเหลืองเรื่อเรือง ที่วาบสว่างและดับวูบ โฉบผ่านหน้าไป ดึงดูดความสนใจของเธอไปจากชายหนุ่มที่เดินหายไปอีกทางหนึ่ง และเมื่อแหงนหน้ามองก็เห็นหิ่งห้อยตัวเล็กๆ บินอยู่รอบกาย เธอมองพวกมันอย่างตื่นตาตื่นใจ นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้ใกล้ชิดสัมผัสกับธรรมชาติแบบนี้
“เอลซ่า...เฮ้...เอลซ่า...ได้ยินผมไหม?”
เสียงซ่าดังพร้อมกับสัญญาณขาดๆ หายๆ ทำให้โดมินิคต้องคอยเดินก้าวขาหาคลื่นตลอด
“คุณ..อยู่...ไหน...น่ะ...ดอม...ทำไม...ได้ยิน...เสียง...ไม่ชัดเลย”
“ผม...อยู่...ที่...เกาะ...”
แล้วโทรศัพท์ก็ดับไป เมื่อเอาหน้าจอมาดูก็เห็นว่าแบตเตอรี่ยังมีอยู่ แต่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ขึ้นเลยสักขีด
“โธ่เว้ย! หายไปไหนแล้ว” เขาออกเดิน ตาก็จับจ้องมองหน้าจอหาสัญญาณโทรศัพท์ แต่ก็ไม่เจอเสียที
ให้ตายเถอะ ไอ้เกาะนี้ทำไมมันถึงได้อับสัญญาณโทรศัพท์แบบนี้ แล้วอย่างนี้ เขาจะติดต่อแฟนสาวได้ยังไงกัน
โดมินิคยกมือขึ้นเกาหัวอย่างหงุดหงิด ใบหน้าที่เงยขวับขึ้นมาไม่ตั้งใจ เห็นภาพของหญิงสาวที่ยืนแหงนหน้าขึ้น โดยมีหิ่งห้อยตัวเล็กๆ ที่บินอยู่รอบตัว แสงไฟจากคบส่องทางกระทบเสี้ยวหน้าด้านข้าง ทำให้มองเห็นดวงตาดำขลับที่ล้อกับแสงไฟ และเมื่อหญิงสาวยื่นมือออกไป หิ่งห้อยก็บินมาเกาะนิ่งบนมือเธอ
เขาเคยได้ยินว่า หิ่งห้อยเป็นสัตว์ที่มีสัมผัสรับรู้ถึงอันตราย พวกมันจะพากันหายตัวโดยการดับไฟที่ก้นทันที แต่เวลานี้มันกลับบินส่งแสงวิบวับสว่างรอบตัวของหญิงสาว นั่นคงเป็นเพราะมันมั่นใจว่าเธอเป็นมิตร ไม่มีพิษมีภัย
โดมินิคมองภาพนั้นนิ่งอยู่นานโดยไม่รู้ตัว และเขาคงจะชื่นชมภาพนั้นไปอีกนานหากเสียงโทรศัพท์ไม่แผดจ้าดังขึ้นมาเสียก่อน
“ฮัลโลดอม...นั่นคุณอยู่ไหน?”
“ผมอยู่ที่เกาะ...เกาะแสน...ดาว”
เสียงเอลซ่าที่ดังผ่านคลื่นมาฟังดูอู้อี้ และเสียงที่เขาพูดผ่านโทรศัพท์ไปก็ขาดๆ หายๆ
“คุณไป...ทำ...อะไร...ที่นั่น...สัญญาณโทร...ศัพท์...ไม่มี...เลยหรือไง”
“มัน...ห่าง...จาก...ชาย...ฝั่ง...มาก”
คนปลายสายเดาได้ทันทีว่ามันคงจะไกลปืนเที่ยง ทุรกันดารและบ้านนอกสุดๆ แม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ก็ยังไม่มี
“แล้ว...คุณ...ต้อง...อยู่...อีก...กี่...วัน...ซ่า...”
สัญญาณขาดหายไปอีกแล้ว โดมินิคชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด แต่พอคิดว่าไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ติดต่อกันไม่ได้ ก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาไม่จำเป็นต้องตอบคำถามซักไซ้ไล่เลียงของแฟนสาวซึ่งในบางครั้งมันดูปัญญาอ่อน น่ารำคาญ และเหมือนกับเธอไม่ไว้ใจเขาเลย
เมื่อหันกลับไปมองภาพเดิมอีกครั้ง หญิงสาวท่ามกลางฝูงหิ่งห้อยก็หายไป ร่างสูงชะเง้อชะแง้คอมองหาก็ไม่เห็น อินทุอรคงจะกลับบังกะโลไปพักผ่อนแล้ว เขาถอนหายใจอย่างนึกเสียดาย
เมื่อยกหน้าจอโทรศัพท์มาดูอีกครั้ง ไม่เห็นคลื่นสัญญาณเลยแม้แต่ขีดเดียว จึงเดินกลับบ้านพัก ตามทางยังเห็นหิ่งห้อยตัวเล็กๆ บินอยู่เป็นระยะ ธรรมชาติที่เกาะแสนดาวยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ที่นี่เงียบสงบ แม้จะอยู่ห่างไกลจากชายหาด ก็ยังได้ยินเสียงคลื่นทะเลชัดเจน เสียงที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกถึงความอิสระ สดชื่น สูดลมหายใจที่เต็มไปด้วยออกซิเจนได้เต็มปอด ให้ความรู้สึกสงบ สบายอกสบายใจ และเมื่อแหงนหน้าขึ้นมองผ่านกิ่งก้านใบของแมกไม้ไปยังท้องฟ้า ก็เห็นดวงดาวพราวระยิบระยับอยู่เต็มท้องฟ้า ไม่นึกสงสัยเลยว่า ทำไมมันถึงได้ชื่อว่าเกาะแสนดาว
โดมินิคยังคงเดินทอดน่อง ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของบุหลันอันดาไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น ยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาดูเป็นระยะ ก็ไม่เห็นคลื่นสัญญาณ เห็นทีว่าคืนนี้ เขาคงไม่ได้โทรศัพท์กลับไปหาเอลซ่าแล้ว
เมื่อเดินมาถึงบังกะโลที่พัก สายตาก็อดแลเหลือบเลยไปยังบังกะโลที่อยู่หลังเยื้องกันไปไม่ได้ มองเห็นแสงไฟลอดออกมาจากข้างใน บอกให้รู้ว่าเจ้าของห้องก็ยังไม่นอนเช่นกัน ทีแรกเขาตั้งใจจะเดินเลยไปเรียกหญิงสาวให้มานั่งคุยกันเป็นเพื่อน แต่เมื่อคิดว่าบางทีอินทุอรก็อาจจะมีธุระส่วนตัวของเธอหรือใช้เวลานี้ติดต่อหาคนรักเช่นกัน จึงไม่ไปรบกวน
เขายังคงนั่งทอดอารมณ์อยู่ที่ระเบียงด้านหน้าบังกะโล มองฟ้า มองดาว ฟังเสียงแมลงกลางคืนที่กรีดร้องดังระงม เคล้ากับเสียงคลื่นทะเลที่ดังไกลมาถึงนี่ ด้วยความรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ หัวสมองก็โล่งปลอดโปร่งขึ้นมา พร้อมกับเริ่มคิดจะวางแผนการตลาดที่จะโปรโมทบุหลันอันดาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
จากที่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องยากและใหญ่ยิ่งกว่าจะทำให้สำเร็จได้ ในตอนนี้เขาเริ่มมองเห็นช่องทาง โดยเริ่มมองจากความคิดของตัวเขาเอง
สิ่งที่เขาชื่นชอบในที่นี่ ก็คือความสงบ และธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์พร้อมพรั่ง แม้จะไม่มีคลื่นโทรศัพท์ ไฟฟ้า หรือสิ่งอำนวยความสะดวก แต่เขาก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุข โดยไม่คิดว่ามันติดขัดหรือลำบากยากเข็ญตรงไหน อากาศยามค่ำคืนเย็นสบาย โดยไม่ต้องใช้แอร์คอนดิชั่น ที่นี่มีต้นไม้ใบหญ้า มีลิงปีนต้นมะพร้าว มีนก มีหิ่งห้อยยามค่ำคืนให้ดู โดยไม่ต้องหวังพึ่งรายการโทรทัศน์ หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่
แม้แต่มนุษย์ที่ติดกับความสะดวกสบาย ความศิวิไลน์ และเทคโนโลยีอย่างเขา ยังชอบที่จะอยู่ที่นี่ แล้วจะยากเย็นอะไรกับการที่จะชักชวนให้คนเมืองคนอื่นๆ มาพบเจอประสบการณ์เดียวกัน และเขาเชื่อว่าทุกคนจะชอบมันเหมือนกับเขาแน่ๆ
โดมินิคยังมีความคิดว่าเขาอยากปรึกษาเพื่อนสถาปนิกและวิศวกรที่รู้จักเพื่ออยากจะหาวิธีที่ทำให้บุหลันอันดาเป็นรีสอร์ท เชิงอนุรักษ์เต็มรูปแบบ
ท่ามกลางความเงียบสงบและเสียงของธรรมชาติที่เริ่มคุ้นชิน หูก็แว่วได้ยินเสียงเปิดน้ำฝักบัว และเสียงคนฮัมเพลงเบาๆ ดังแว่วมา
โดมินิคเงี่ยหูฟัง และโดยไม่ต้องเดาเสียให้ยาก เขาก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นเสียงของใครและมาจากไหน
ห้องน้ำที่เปิดเปลือยโล่งด้านบน พร้อมกับเสียงน้ำที่สาดกระทบเรือนร่าง สร้างจินตนาการขึ้นมาในหัวของเขาอย่างไม่อาจห้ามปราม
เรือนร่างอรชรอวบอัดเปลือยเปล่าท่ามกลางสายน้ำที่สาดรินรด หยดน้ำที่เกาะพราวอยู่บนผิวนวลเนียนสีน้ำผึ้งละเอียดตานั่น เพียงแค่คิด...ในความคิด...ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกวูบวาบขึ้นมาในกาย พร้อมกับความต้องการของวัยหนุ่มที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาภายใต้ความคิดหื่นจิตของตัวเอง
อ่า...อินทุอร
เอ๊ย! ไม่ใช่ ต้องเป็นเอลซ่าสิ
ทำไมเขาคิดถึงผู้หญิงอื่นมากกว่าคนรักของตัวเองได้ไง ผู้หญิงคนเดียวที่มาทำให้จินตนาการของเขาซาบซ่านเตลิดไกล คนที่เซ็กซี่เหลือใจ คนที่สวยที่สุดในสายตา...คนๆ นั้นกำลังจะถูกเขาแบ่งความสำคัญโดยไม่รู้ตัว
***** อะไร? ยังไงเนี่ยคุณดอม...ปิ๊งนางเอกละใช่มะ?
ภารกิจยั่วสวาท พร้อมให้โหลดแล้วนะคะ ^^
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำไมร้องเพลงตอนอาบน้ำล่ะคะ ก็รู้ว่าอยู่กันแค่สองคน อ่อยยยยยยย