ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่หก
6
ภารกิจที่ 2 : พัฒนาความสัมพันธ์
ปล.จากโจ ใช้ฐานะคนรู้จักที่มึงมีอยู่ให้เป็นประโยชน์ให้ได้มากที่สุด เสนอหน้าไปให้พี่เขาเห็นบ่อยๆ
ความอายน่ะมึงพับเก็บไปก่อนได้เลย !
เป็นคนรู้จักกันแล้วทำอะไรได้บ้าง ...
กินข้าวด้วยกันได้ทุกวันรึเปล่า
เดินกลับด้วยกันบ่อยๆคงจะได้มั้ยนะ
แม้แต่ไปเคาะห้องกันและกันทุกครั้งเวลาเจออะไรถูกปากแล้วซื้อไปฝาก
แบบนี้น่าจะเรียกว่าสถานะคนรู้จักได้จริงๆใช่มั้ย หรือว่าจะเป็นแบบนั้นได้ จำเป็นต้องเลื่อนสถานะ
อื้ม ... ก็อาจจะจริง
“ถอนหายใจอะไรของมึงวะ ตั้งแต่เมื่อกี้ละ” โจได้ทีก็ถามขึ้นเมื่อเพื่อนรักข้างๆเอาแต่เหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แล้วก็ถอนหายใจแบบนี้เป็นพักๆมาเกือบสิบนาทีเข้าไปแล้ว
“พี่เอย”
...
ไอ้นี่ กูก็นึกว่ามีเรื่องอะไรซะอีก
“มึงว่าเค้าอยากจะเป็นแค่คนรู้จักกับกูมั้ยวะ”
“แล้วอาทิตย์นี้เป็นไงบ้างล่ะ”
“ก็ดี...ดีมากๆ” ว่าแล้วหัวก็เอนมาซบไหล่เขา เหม่อมองโปรเจ็คเตอร์ที่อาจารย์กำลังสอนอยู่ราวกับสนใจ แต่ทว่าในสมองกลับไม่เข้าใจในสิ่งที่อธิบายสักเท่าไหร่
“พี่เค้าทักกูบ่อยขึ้น ยิ้มให้กันมากขึ้น”
“ก็ดีแล้วนี่ มึงจะมาเครียดทำห่าอะไร”
“อยากกินข้าวกับพี่เอยอีก” ได้แต่ส่ายหัวกับท่าทางซึนๆของไอ้เพื่อนตัวดีที่หลงพี่เค้าจนถอนตัวไม่ขึ้นแต่ปากแข็งยิ่งกว่าหินเวลาเจอกัน
“อยากไปรับพี่เค้าจากที่ทำงานบ้าง”
“มึงก็บอกเค้าไปสิ”
“กูเป็นแค่...คนรู้จัก” โจหัวเราะเบาๆ ท่าทีงอแงของพ่อหนุ่มสุดฮอตของคณะที่ใครหลายคนไม่เคยจะเห็นกันบ่อยนักทำเอาเขาอยากจะหยิบโทรศัพท์มาอัดไว้ให้ไอ้ซัมและแฮ็กได้ดูเป็นบุญตามันบ้าง เพราะอีกสองคนแยกไปเรียนอีกวิชาเลยไม่ได้นั่งด้วยกัน
หงอยเหมือนหมาเลยเพื่อนกู
“อยากสนิทกับพี่เอย”
“บอกกูพี่เค้าจะรู้มั้ยล่ะ”
“มึงก็รู้ ว่ากู...”
“กูไม่กล้า”
“เออไง ใครจะกล้าล่ะวะ” ตัดพ้อเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดดู แต่หน้าจอโฮมสกรีนทำเอาโจอยากจะหัวเราะออกมาอีกรอบ
คงจะเป็นรูปพี่เอย
ถ่ายจากหน้าเซเว่นที่ประจำของมัน โดยมีคนตัวเล็กอยู่ไกลๆท่ามกลางผู้คนมากมายที่เดินมาเช่นกัน
“อยากเห็นพี่เค้ายิ้มให้กู...ยิ้มให้ใกล้ๆ” แล้วมันก็ยิ้มเมื่อนึกถึงความสุขที่ได้ไปกินข้าวด้วยกันเมื่อครั้งก่อน มองรูปหน้าจออยู่อย่างนั้นราวกับพลังงานชีวิตที่แห้งเหือดจนแทบจะหมดหลอดเมื่อกี้
ถูกเติมเต็มด้วยรูปเพียงรูปเดียว
ทฤษฎีที่ว่า ต่อให้มีคนเป็นร้อยแต่เราจะมองเห็นเค้าแค่คนเดียวเท่านั้นโดยที่ไม่ต้องเฝ้าหาที่เค้าพูดกัน
คนที่โดดเด่นจนคนอื่นแทบจะไม่มีความหมาย
สงสัยทฤษฎีจะจริงกับไอ้ยืน
เฮ้อ
กลับช้าอีกแล้วแฮะ
เอยเดินกลับมาด้วยความเหนื่อยล้าที่กำลังจะถึงขีดสุด งานที่ทำมีเดดไลน์วันนี้เลยปั่นกันจนแทบข้าวไม่ได้กินตั้งแต่เช้า ดีที่เสร็จทัน ไม่งั้นคงได้โต้รุ่งกันแหงๆ
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาคิดถึงคือเตียงนอนและตุ๊กตาแมวนุ่มๆ
ง่วงแล้วอ่ะ
ร้านสะดวกซื้อยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นสิ่งที่เขาเลือกในวันนี้ ร้านป้าน้อยคงจะปิดเพราะดึกขนาดนี้แล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าอาหารกล่องมันไม่ดี แต่เขาจำเป็นนี่นา
“ทั้งหมด 154 บาทครับ”
จ่ายเงินเสร็จก็ยืนรออาหารที่กำลังเวฟ ขณะเดียวกันก็มีใครคนนึงที่เดินเข้ามาด้วยชุดที่เขารู้สึกว่ามัน...แปลกตาไปจากเดิม
คนรู้จักของเขาแบบงงๆเมื่ออาทิตย์ก่อน
“กลับช้า” ยืนมาหยุดตรงหน้าเขา พร้อมกับสายตาที่ดูจะตำหนินิดๆหน่อยๆจนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด
เหมือนกำลังโดนน้องดุเลยแฮะ
“ทางก็อันตราย”
“...”
“มืดก็มืด”
“...”
“เดินกลับคนเดียวอีก”
“...”
“ดื้อ”
เป็นพ่อรึไงมาบ่นใส่อ่ะ !
“แล้วนี่จะกินข้าวกล่องแบบนี้หรอ” เขาพยักหน้ารับด้วยท่าทางที่ไม่กล้าขัดอะไรมาก กลัวว่าถ้าพูดอะไรไม่ดีไปรุ่นน้องตรงหน้าจะโกรธจนเดินหนีไปแบบครั้งที่แล้วอีก
อยากจะผูกความสัมพันธ์ดีๆแบบนี้ไว้นี่นา
“ของไม่ดีทั้งนั้น พวกอาหารแช่แข็ง ขนมถุง กินไปได้ยังไง” อีกคนพูดเพียงนั้น พวกพนักงานที่ยืนอยู่เคาน์เตอร์ก็หันมามอง ใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอยู่ตอนแรก เริ่มบึ้งตึง จนเขารีบรับถุงนั่นมาก่อนจะจูงมือลากอีกคนออกมาด้วยกัน
เกือบไปแล้วมั้ยล่ะเอย
“ทีหลังยืนอย่าไปพูดแบบนี้ที่ไหนอีกนะ” เขาปรามคนหน้านิ่งที่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยตามสไตล์เจ้าตัว
แต่ต่างกันตรงที่ใบหูอีกคนกำลังแดง
แดงจัดเลยด้วย
“ยืน เป็นอะไรรึเปล่า” เด็กตัวสูงเริ่มได้สติ กระแอมออกมาเบาๆก่อนจะเขย่ามือที่เขาจับอยู่เชิงบอกอ้อมๆ
“โทษที” เผลอจับไปซะนานเลยเมื่อกี้
“ค...ครับ” น้องมีท่าทางเหมือนแปลกๆไปจนเขาได้แต่ยืนมองอย่าง งงๆ มือไม้ที่อยู่ไม่สุก จับนั่นจับนี่ไปทั่ว สายตาก็มองไปทางอื่นไม่กล้าที่จะจ้องกันตรงๆ ท่าทีแบบนี้เขาเคยเห็นรุ่นน้องในบริษัทเป็น
ท่าทางของคนเสียอาการ
“ไอ้ยืน ! ไหนชาเขียวที่กูฝากซื้อ...ล่ะ” เสียงจากด้านหลังเขาทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งเพราะตกใจ จนอีกคนได้แต่ส่งสายตาใส่คนที่คงจะเป็นเพื่อนกัน
“งั้นกูไปซื้อเองนะ ฮ่าๆ” พูดเสร็จคนอารมณ์ดีก็เดินหายเข้าไปในเซเว่น ไม่วายหันมายิ้มให้เขาด้วย จนอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบไปตามนิสัยคนอัธยาศัยดี
แต่คนตรงหน้านี่สิ
“อย่าไปยิ้มให้มัน” หน้าก็ดุใส่ แถมยังเอาตัวมาบังกันอีก
อะไรของเค้า ...
“แล้วนี่ยืนจะไปไหนหรอ แต่งตัวซะหล่อเชียว” ไม่ได้จะอวยหรอกนะ แต่ยืนวันนี้น่ะหล่อจริงๆ ทุกๆวันว่าดีแล้ว แต่พอผมถูกเซ็ท เสื้อนักศึกษาถูกเปลี่ยนเป็นเชิ้ตดำปลดกระดุมนิดๆยิ่งทำให้ดูดีขึ้นไปอีก
คนที่เดินผ่านยังต้องเหลียวหลังมอง
เขาเองอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น
“หล่องั้นหรอ”
“ใช่ หล่อมากเลยด้วยเนี่ย” แล้วคนตรงหน้าก็นิ่งไปอีกครั้ง คงจะคิดไปแล้วว่าน้องไม่พอใจ
ถ้าไม่เห็นหน้าที่เริ่มแดงนั่นน่ะ
“เอ่อ... ทีหลังจะกลับ อย่าดึกแบบนี้สิ” มีคนไม่เนียนพยายามจะเปลี่ยนเรื่องแฮะ ยังไม่ตอบคำถามกันเลยด้วยซ้ำ
“พี่เดินคนเดียวได้ สบายมากเลย”
“แต่มันอันตราย”
“เดินจนชินแล้ว ไม่มีอะไรหรอกน่า” เขาพยายามบอกให้อีกคนคลายกังวล แต่ดูท่ายืนไม่มีท่าทีจะฟังเลย น้องยังคงมองเขาด้วยสายตาดุๆ เหมือนกับฟ้องว่าสิ่งที่เขาคิดมันผิด
เอาจริงๆก็กลัวนั่นแหละ
แต่ทำไงได้ จอมที่อาสาตอนนั้นเขาปฏิเสธไปแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นลำบากมารอเขาทำงานเป็นชั่วโมงๆหรอกนะ
“ผมจะไปรับ”
“ห้ะ...” เดี๋ยวนะ เดี๋ยวก่อนสิ
“เลิกงานแล้วโทรบอก จะเดินไปรับเอง”
“แต่ว่า...”
“อย่าดื้อ”
“...”
“นะครับ” มือใหญ่ถูกวางลงบนหัวของเขา พร้อมกับลูบอย่างเบามือราวกับกลัวว่าเขาจะบุสลายถ้าอีกคนจับลงไปแรงๆ
แล้วทำไม
ใจมันเต้นแรงแบบนี้ล่ะเอย
“พี่ยังไม่มีเบอร์เรา” ถามไปแบบนี้ แสดงว่ายอมหรอวะเอย
ยอมเค้าไปแล้วหรอ
“โทรศัพท์” ส่งให้อีกคนก็รับไปกด รอเพียงไม่นานเสียงโทรศัพท์ของตัวเองก็ดังขึ้นเป็นอันรับรู้ว่ามีเบอร์ของกันและกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“อย่าลืมโทรมานะ”
“อื้อ”
ปฏิเสธคนอื่นหัวชนฝาเรื่องไปรับ แต่ทำไมเด็กคนนี้
เขากลับยอมง่ายๆ ...
“เราสนิทกันมากขึ้นแล้วใช่มั้ยนะแบบนี้”
“ก็...คงงั้น” คนพูดน้อยกลับกลายเป็นตัวเขาเองไปซะได้
“เราคงสนิทกันแล้วแหละเนอะ” พูดเสร็จก็ได้แต่ส่งรอยยิ้มกลับไปให้เมื่อตอนนี้ไม่รู้ว่าต้องทำหน้ายังไงส่งไป ในใจมันร้อนรนแปลกๆราวกับไม่เคยเป็นมาก่อน
คนสนิทที่เคยเป็นแค่น้องที่อยู่ห้องตรงข้าม
อื้ม...น่ารัก
ยืนน่ารักดี
“มีคนแดกนมในร้านเหล้าว่ะ กูเป็นงง เพื่อนมึงมันเป็นไรมากป่ะวะซัม”
“ไม่รู้ มึงไปถามมันดิ มันเมามั้ง”
“นมเนี่ยนะ”
#ยังไม่ได้ครอง(ใจ)เอย
สรุปภารกิจ
สำเร็จอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
สถานะปัจจุบัน ; คนสนิท
พี่เอย :: น้อนยืนต้องมารับจีงๆนะ ห้ามโกหกพี่เอยนะๆๆ
แตะมือสันยากันด้วยซี่ ยื่นมาแตะกันเดี๋ยวนี้เลยนะ !
#เอยจะครองโลก
Talk:
เด็กมันเสียอาการ หน้าบานเป็นจานกระด้งแฮะ อิอิ 5555555555
อยากขอบคุณสำหรับกำลังใจและฟีดแบคดีๆที่มีให้กันนะคะ จากยอดเฟบเล็กๆตอนนี้ 100 กว่าๆแล้ว (ใจหน่องไรต์ฟูเป็นไข่เจียว)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น