NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ▴ PLUTONIUM • Short Fanfiction ▾

    ลำดับตอนที่ #5 : ▴[AU Fic Spideypool] DANGEROUSLY (Wade x Peter)-Part3 🚨NC🚨

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 65


    คำแนะนำก่อนอ่าน

    *คำเตือน มีคำบรรยายถึงกิจกรรมทางเพศ ไม่เหมาะสมสำหรับผู้อ่านที่อายุน้อยกว่า 18 ปีค่ะ*

    เพื่ออรรถรสในการอ่าน แนะนำให้เปิดเพลงคลอไปด้วยนะคะ :)









    DANGEROUSLY









              ไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุของเรื่องนี้เกิดจากอะไร แม้คนทั้งคู่จะรู้ตัวว่าการเผลอถลำลึกอาจทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก แต่ก็ไม่อาจหยุดแรงดึงดูดบางอย่างที่แสนจะรุนแรงนี้ลงได้

     

              มันเป็นค่ำคืนที่พวกเขาพบกันโดยบังเอิญเช่นทุกครั้ง ไม่มีการจ้างวานฆ่าหรือโจรกรรมใดๆเข้ามาขัดขวางการสนทนา ไม่รู้ว่าอะไรเป็นสิ่งดลใจให้ปีเตอร์ตอบรับคำเชิญชวนของเดดพูล แต่ในตอนนี้เขากลับกำลังนั่งอยู่ในบ้านของผู้ชายคนนั้นเสียแล้ว

     

              หากนี่เป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อน อาจไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาร่วมดื่มในคืนที่ท้องฟ้าโปร่งและอากาศพอเหมาะ มือเรียวกระดกเครื่องดื่มรสชาติชมฝาดลงสู่ลำคอ สติที่ถดถอยลงเป็นตัวบ่งบอกว่าเขาคงเริ่มจะพ่ายแพ้ให้กับปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกายเสียแล้ว

     

              ภาพเบื้องหน้าคือจอทีวีขนาดใหญ่กำลังฉายภาพหนังแอ็คชันเรื่องโปรดของเจ้าของบ้าน เวด วิลสันที่นั่งถัดออกไปหยิบรีโมทขึ้นมาเพิ่มเสียงก่อนวางเครื่องดื่มของตนลงกับโต๊ะตรงหน้า มันดังเสียจนสติที่เริ่มเลือนลางของปีเตอร์ถูกกระชากกลับมาอีกครั้ง

     

    หูนายมีปัญหาหรือเปล่าถึงไม่รู้ว่านี่มันดังพอจะฆ่าฉันให้ตายได้เลยนะ! ” คนตัวเล็กกว่าตะโกนสู้เสียงนั้น เจ้าของบ้านที่ในเวลานี้แต่งกายในชุดลำลองไม่ได้แสดงท่าทีรับผิดชอบใดๆ กลับยื่นใบหน้าที่มีแต่รอยแผลเป็นนั้นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ดวงตาสีน้ำตาลราวกับมีความหมายบางอย่างซ่อนอยู่

     

    ขอโทษที เอาไว้ลดเสียงทีหลังแล้วกันนะ ”

     

     ช่วงเวลาที่ไม่ได้ทันตั้งตัว แม้ปีเตอร์จะสวมหน้ากากไว้ครึ่งใบหน้า แต่ริมฝีปากของอีกฝ่ายก็ประกบปิดลงมาจนเสียงในลำคอหายไป น่าแปลกที่ไม่มีการขัดขืน เขากลับตอบรับรสจูบนั้นแม้ยังรู้สึกเกร็งกับสัมผัสอันไม่คุ้นเคย

     

    กระป๋องเครื่องดื่มที่เคยอยู่ในมือหกกลิ้งไปตามพื้นพรมสีทึบ แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจ เวดช้อนร่างของสไปเดอร์แมนขึ้นยืนก่อนค่อยๆ พาร่างนั้นถอยหลังออกไป สัมผัสนั้นทวีความร้อนแรงขึ้นเสียจนมือที่ยังคงสวมถุงมืออยู่ต้องเกาะเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นหวังเป็นที่ยึดเหนี่ยว

     

    แผ่นหลังของเขาชนเข้ากับผนังด้านหลังอย่างไม่เบานัก มือหนาโอบรอบเอวคนตัวเล็กกว่าราวกับไม่ต้องการให้ห่างกาย ปีเตอร์อดไม่ได้ที่จะยื่นมือของตนไปโอบรอบแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายบ้าง เพื่อบรรเทาความต้องการบางอย่างที่กำลังค่อยๆ ถูกจุดชนวน

     

    ถึงนายจะห้ามก็หยุดไม่ได้แล้วล่ะที่รัก”

     

    ฝ่ามือของเวดไม่ได้หยุดเคลื่อนไหวเพียงเท่านั้น มันไล้ไปตามลำตัว สีข้างและต้นขา ก่อนที่นิ้วมือทั้งสิบจะคว้าเข้ากับแก้มก้นด้านหลังเข้าอย่างจังเสียจนเจ้าของของมันอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหวานน่าฟังออกมาให้ได้ยิน

     

    ในที่สุดก็ปลุกนายให้ตื่นได้ซักที” คนตัวโตผละออกมาเล็กน้อยก่อนระบายยิ้มพอใจ ส่งให้คนที่โดนจู่โจมอยู่ฝ่ายเดียวเอ็ดกลับมาทั้งเสียงหอบ

     

    หุบปากน่า”

     

    ราวกับสติที่มีกำลังค่อยๆ ถูกครอบงำด้วยความต้องการ ปีเตอร์ไม่รู้ว่าปลายเท้าของเขากำลังเดินไปทางใด แต่รู้สึกตัวอีกทีทั้งร่างก็ถูกผลักลงไปบนเตียงนุ่มเสียแล้ว ริมฝีปากได้รูปเจ่อแดงเพราะรสจูบอันหนักหน่วง เขาหอบเหนื่อยเล็กน้อยหลังถูกช่วงชิงอากาศหายใจไปพักหนึ่ง

     

    นายอาจจะไม่รู้ตัว แต่ท่าทางแบบนี้มันโคตรเซ็กซี่เลยรู้ไหม” เดดพูลไม่รอช้าที่จะทิ้งน้ำหนักทั้งร่างลงไปบนเตียงด้วยอีกคน จมูกโด่งไล้ไปตามลำคอราวกับต้องการสูดดมความหอมหวาน โดยที่มือทั้งสองข้างไม่ได้หยุดการปลดเปลื้องเครื่องแต่งกายของคนตรงหน้า ฟันเรียงตัวสวยวางลงไปบนกระดูกไหปลาร้าที่อยู่บนแผ่นอก ก่อนออกแรงไม่เบานักฝังเขี้ยวลงไป

     

    อัก!! ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย!” ผิวขาวของปีเตอร์ขึ้นสีแดงเป็นปื้น ปีศาจร้ายตรงหน้าฝังเขี้ยวลงไปลึกพอที่จะทำให้เกิดความรู้สึกแสบร้อนและมีโลหิตสีแดงฉานไหลซึมออกมาเล็กน้อย

     

    อือ…”

     

    นิ้วมือทั้งสิบของปีเตอร์บีบเข้ากับต้นแขนของเวดพร้อมเสียงครางที่เผลอหลุดออกมา ลิ้นสากไล้ไปตามบาดแผลที่ตนสร้างอย่างอ้อยอิ่ง สร้างความรู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับความวาบหวามไปทั่วทั้งร่าง ร่องรอยสีกุหลาบกระจายอยู่ทั่วทั้งผิวเนียนเมื่อริมฝีปากหยาบนั้นขบเม้มด้วยความเพลิดเพลิน คนอยู่ใต้ร่างยิ่งส่งเสียหอบหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสัมผัสนั้นกำลังค่อยๆ ไล่ต่ำลงไปถึงบริเวณท้องน้อย

     

    อา!” ดวงตาภายใต้หน้ากากเบิกกว้าง ทั้งร่างราวกับถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตเมื่อมือที่ซุกซนตะปบเข้ากับแกนกลางร่างกายแบบไม่ให้ทันตั้งตัว ลำตัวสมส่วนบิดเร้าไปมาเมื่อเวดเพิ่มจังหวะการสัมผัสราวกับต้องการกลั่นแกล้งให้เขาขาดใจเสียตรงนี้

     

    เดดพูลมองภาพตรงหน้าก่อนเผยยิ้มแสดงความพอใจ ทั้งร่างของสไปดี้ขึ้นสีชมพูระเรื่อเพราะเลือดที่สูบฉีดตามจังหวะการเต้นของหัวใจ เขาไม่รีรอที่จะดึงอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายออก สิ่งที่อยู่ในนั้นตั้งฉากขึ้นราวกำลังเย้ยหยันแรงโน้มถ่วงของโลก ช่องทางด้านล่างซุกซ่อนไปด้วยสีชมพูกลีบกุหลาบที่กำลังบานแย้มราวกับกำลังเชื้อเชิญผู้พบเห็นให้เข้าไปค้นหา

     

    เรารู้กันดีว่าคราวนี้สติอยู่ครบ”

     

    ไม่รีรอที่จะสอดนิ้วของตนเข้าไป ปีเตอร์กำแขนของคนตรงหน้าแน่นเสียจนปลายเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ เสียงหายใจที่ขาดห้วงกำลังปลุกให้สัญชาตญาณบางอย่างของเดดพูลตื่นขึ้นและไม่มีทางดึงกลับมาที่เดิมได้อีก

     

    เรื่องที่กำลังจะเกิด นายจะมาว่าฉันอีกไม่ได้แล้วนะ”

     

    มือนั้นเร่งจังหวะขึ้นจนอีกฝ่ายครางออกมาอย่างไม่อาจกลั้น จากหนึ่งเพิ่มเป็นสองนิ้ว เวดสัมผัสย้ำบริเวณจุดกระสันของคนตรงหน้าอย่างพอใจ ปีเตอร์หอบหายใจถี่จนเสียงที่มีเริ่มหายไป เขาเผลอกัดริมฝีปากล่างของตนแน่นจนแดงก่ำ ก่อนทั้งร่างจะกระตุกอีกหลายครั้งเพื่อปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นมานานออกมาจนหมด

     

    คนมองเลียริมฝีปากของตนด้วยความกระหาย ของเหลวข้นหนืดสีขาวที่กำลังเปรอะเปื้อนนั่นดูเหมาะสมกับลอนกล้ามเนื้อสวยของคนใต้ร่าง มันทำให้ความอดทนของเวดพลันขาดผึงลงไปตรงนั้น

     

    บาซูก้าของฉันพร้อมแล้ว” ร่างของปีเตอร์ถูกจับพลิกไปด้านข้าง ขาข้างหนึ่งของเขาถูกยกพับขึ้นด้านบนพร้อมกับร่างโตของเวดที่เข้าประชิด มือหนายกต้นขาขาวนั้นแนบไว้กับสีข้างของตน ก่อนทุ่มแรงทั้งหมดเพื่อฝังบางสิ่งที่กำลังตื่นตัวเข้าไปในช่องทางสีสวยคราวเดียวทั้งหมด

     

    อ๊ะ…!!”

     

    มือของสไปเดอร์แมนที่ปัจจุบันสวมเพียงหน้ากากพยายามดันร่างของอีกฝ่ายออกแต่ไม่เป็นผล คนใจร้ายเริ่มคุมเกมด้วยการขยับสะโพกเป็นจังหวะ มันเป็นเพียงความเนิบนาบแต่ทำให้คนตัวเล็กกว่าสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความจุกบวกกับความรู้สึกที่ดึงให้สติเริ่มขาวโพลนทำให้ปีเตอร์ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะไปทำให้ร่างของคนที่อยู่ด้านบนขยับออกไปได้

     

    อา…สไปดี้ นายนี่มัน—” อดไม่ได้ที่จะครางออกมาด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน เวดเร่งจังหวะมากขึ้นจนคนตรงหน้าบิดเร้าไปมา ร่างกายของสไปดี้ยืดหยุ่นได้มากกว่าคนปกติจนน่าตกใจ ช่องทางนั้นมันกำลังบีบรัดลูกรักของเขาแน่นเหมือนกับต้องการกลืนเข้าไป เสียงเนื้อกระทบกันดังเคล้าไปกับเสียงครางที่ไม่กระดากอายจะเก็บไว้อีกต่อไป

     

    ร่างของคนทั้งสองหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว อุณหภูมิภายในนั้นมันร้อนราวกับจะหลอมละลายลงไปเสียให้ได้ ปีเตอร์จิกเล็บของตนเข้าไปในแผ่นหลังกำยำของอีกฝ่ายจนเลือดซึมแต่เวดก็ไม่ได้สนใจ มือหนาออกแรงกดไหล่ราบลงไปกับพื้นเตียง เผยให้เห็นยอดปทุมถันสีสวยที่กำลังเต่งตึงตอบรับความต้องการ มันน่าขบกัดเสียจนเขาอดไม่ได้ที่จะฝังเขี้ยวลงไปเบาๆ

     

    อยากจะมองหน้าของคนๆ นี้ อยากเห็นสายตาที่หวานฉ่ำไปด้วยกิเลสของมนุษย์แมงมุมที่ไม่เคยพบเจอที่ไหน…

     

    สไปดี้ …เรียกชื่อฉัน” เสียงทุ้มกระซิบลงข้างใบหู ในขณะที่จังหวะการเดินเกมไม่ได้ลดความเร็วลง ปีเตอร์ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไปคล้องรอบลำคอของคนตรงหน้า เสียงครางอันหวานฉ่ำตอบรับคำพูดนั้นอย่างว่าง่าย

     

    อา..เวด …เวด”

     

    ริมฝีปากที่ดูน่ารักนั่นเผยอออกให้เห็นฟันขาวที่อยู่ภายใน มันช่างเป็นภาพที่ยั่วอารมณ์ได้ดีสำหรับคนมอง เวดโน้มตัวลงไปมอบจูบอันร้อนแรงจนเสียงนั้นหายไปในลำคอ ลิ้นของคนทั้งคู่ตวัดเกี่ยวกันเช่นเดียวกับร่างกายที่ยังคงจังหวะอันรุนแรงเอาไว้แบบนั้น

     

    เสียงครางกระเส่านั้นช่างฟังดูลื่นหู เวดไม่เคยรู้สึกว่าเสียงของชายคนนี้น่าฟังขนาดนี้มาก่อน มือหนาล้วงเข้าไปภายใต้หน้ากากของคนใต้ร่าง สัมผัสเข้ากับเส้นผมนุ่มที่เผยให้เห็นไรผมสีน้ำตาลด้านหลัง

     

    “…อย่าเวด” มือที่เล็กกว่ายกขึ้นปราม เสียงเรียกที่ยานคางราวกับยิ่งกระตุ้นให้สติที่มีแตกกระเจิงมากขึ้นกว่าเดิม เขาชักมือออก เปลี่ยนเป้าหมายมายึดสะโพกกลมกลึงเอาไว้แน่น เร่งจังหวะที่เร็วอยู่แล้วให้มากกว่าเดิมจนปีเตอร์แทบขาดใจ

     

    ร่างของคนสองคนชักกระตุกเป็นจังหวะเดียวกัน ของเหลวสีขุ่นถูกปล่อยออกมาเต็มช่องทางด้านหลัง ความร้อนของมันทำให้ปีเตอร์เผลอร้องออกมาเสียงดัง เสียงหอบของคนทั้งคู่สอดประสานกันอย่างไม่เป็นจังหวะ เวดระบายยิ้มพอใจแต่ก็ยังไม่ได้ผละร่างของตนออกไป ก่อนหมอนใบที่เคยวางอยู่เหนือศีรษะของคนข้างล่างจะถูกปาใส่หน้าเขาอย่างจัง

     

    ใครให้นายปล่อยมันใส่ฉันจนหมดแบบนั้น” น้ำเสียงนั้นดูเจือไปด้วยความขุ่นเคือง เวดทำเพียงยกมือของตนขึ้นมาป้องปากอย่างลืมตัว

     

    อุ๊ย อารมณ์มันพาไป”

     

    ปีเตอร์ยกแขนมาปิดใบหน้าที่ยังคงสวมหน้ากากเอาไว้อยู่ของตน ผู้ชายคนนี้ทำให้เขาเผลอตัวทำอะไรน่าอายได้อยู่ตลอดเวลา ยอมรับก็ได้ว่าตัวเขาเองก็ไหลไปตามน้ำจนอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่เช่นกัน วินาทีนั้นคงไม่ยอมให้จังหวะอันหฤหรรษ์โดนขัดขวางด้วยเหตุผลแค่นี้แน่ๆ

     

    เขินอะไรของนาย คนเคยๆ กันแล้วทั้งนั้น” อดไม่ได้ที่จะฝังเขี้ยวลงไปบนต้นแขนของอีกฝ่ายเบาๆ ส่งให้คนตัวเล็กกว่าพลิกแขนอีกข้างกลับมาล็อคคอคู่กรณีไว้แน่น

     

    หุบปากน่า!”

     

    ใครบอกว่าฉันพอใจกับเรื่องแค่นี้” แต่แล้วร่างที่ใหญ่โตกว่าก็คลายพันธะนั้นออกอย่างง่ายดาย ริมฝีปากที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นระบายยิ้มละไม ดวงตาสีน้ำตาลแฝงความหมายบางอย่างที่ทำให้คนมองรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี

     

    นายหมายความว่าไง? ”

     

    ไม่มีคำตอบจากคนตรงหน้า เวดอาศัยจังหวะนั้นพลิกร่างของตนลงไปอยู่ด้านล่าง โดยสิ่งที่เชื่อมระหว่างคนทั้งคู่ยังไม่ได้ถูกถอดออก แรงกระทบส่งให้เสียงครางเผลอหลุดออกมาจากปีเตอร์อย่างไม่ทันตั้งตัว มันกลายเป็นว่าเขากำลังนอนแนบลงไปกับแผ่นอกกว้างของเวด วิลสันแทน

     

    คราวนี้นายทำเองบ้างสิ”

     

    ปีเตอร์เกลียดรอยยิ้มที่ราวกับรู้ว่าตนเป็นคนคุมเกมของคนตรงหน้า ใบหน้าของเขาเห่อร้อนไปหมด แต่สุดท้ายก็ยอมลุกขึ้นนั่งบนลำตัวอีกฝ่าย ใช้แขนทั้งสองข้างค้ำยันกับแผ่นอกกว้างนั้นไว้ให้มั่นคง ก่อนบทเพลงรักอันแสนสกปรกจะบรรเลงขึ้นอีกครั้งราวกับมันไม่มีวันจบสิ้น 

     

     

     




              เขาจำไม่ได้ว่าทำเรื่องแบบนั้นกับเดดพูลไปกี่ครั้ง แต่ความจำสุดท้ายก่อนสติจะหมดไปคือแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงจะขยับตัวหรือแม้แต่เสียงที่เปล่งออกมายังกลายเป็นเพียงเสียงหอบหายใจ ดวงตาสีน้ำตาลภายใต้หน้ากากเปิดขึ้นอย่างอ่อนล้าเมื่อความเย็นเข้าปะทะผิวกายอันเปลือยเปล่า มันคือเวลาเช้ามืดที่พระอาทิตย์ยังไม่ทันปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้ากว้าง

     

              ปีเตอร์สวมใส่ชุดสเปนเด็กซ์ของตนอย่างทุลักทุเล ลำตัวของเขาระบมไปหมดจนไม่อาจขยับตัวเร็วๆได้ ใช้เวลาไปพักหนึ่งกว่าเครื่องแต่งกายทั้งหมดจะกลับมาอยู่บนร่างของเขาครบทุกชิ้น แต่ก่อนปลายเท้าคู่นั้นจะก้าวออกไป ทั้งร่างก็ถูกสวมกอดจากด้านหลังเสียก่อน

     

    อยู่ต่อนานกว่านี้หน่อยไม่ได้หรอ ” จมูกโด่งฝังลงไปบนลำคอของคนตัวเล็กกว่าด้วยความปรารถนา กลิ่นกายนี้ราวกับมีเวทมนตร์ดึงดูดเขาเอาไว้ตลอดเวลา แม้ร่างของสไปดี้จะมีกล้ามเนื้ออยู่บ้างตามประสาคนผ่านการต่อสู้มานาน แต่ก็นับว่าเพรียวบางกว่าเดดพูลมากนัก

     

    ฉันมีงานประจำที่ต้องทำอยู่ นายปล่อยได้แล้วน่า ” ปีเตอร์พยายามแกะแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั้นออก แต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด คนด้านหลังกลับกอดรัดแน่นกว่าเดิมจนขยับไปไหนไม่ได้

     

    แล้วฉันจะได้เจอกับนายอีกเมื่อไร ไม่เอาอะ! ไม่อยากปล่อย ”

     

              เขาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ท่าทางเอาแต่ใจนี่มันไม่ได้เข้ากับกล้ามโตๆหรือแม้แต่ใบหน้าที่ดูน่ากลัวของเวดเลยซักนิด จนนึกแปลกใจว่าเจ้าตัวใช่คนเดียวกันกับก่อนหน้านี้จริงหรือเปล่า มือที่สวมถุงมือสีแดงดันใบหน้าของเจ้าของบ้านที่เริ่มขบกัดไปตามลำคอของเขาออก แม้จะมีชุดของสไปเดอร์แมนกั้นอยู่ก็ตาม

     

              ความพิศวาสระหว่างคนทั้งคู่เป็นเรื่องที่น่ากลัว ...เขาคิดเช่นนั้น เสียงที่ดังลั่นอยู่ในความคิดราวกับกำลังเน้นย้ำว่ามันยังไม่จบเพียงเท่านี้ มันกำลังจะเกิดขึ้นต่อไปและต่อๆไป ตราบเท่าที่ยังมีโอกาสได้พบกันอีก

     

    ฉันมีข้อตกลงระหว่างฉันกับนาย ” ปีเตอร์พูดขึ้นขัดจังหวะ ส่งให้เวดที่เปลี่ยนไปฝังเขี้ยวตามลำตัวของเขาค่อยๆผละออก หมอนี่ทำตัวเหมือนกับสัตว์ร้ายไม่มีผิด ร่างของเขามีแต่รอยขบกัดอยู่เต็มไปหมด

     

    มือเรียวยกขึ้นมาเกาหลังคอด้วยความขวยเขิน เขาอึกอักแบบนั้นอยู่พักหนึ่งแต่ก็ตัดสินใจพูดออกไป

     

    ฉันกับนาย... เราจะเจอกันอีกเมื่อไรก็ได้ ”

     

              คำว่า ‘เจอกันอีกเมื่อไรก็ได้’ ส่งให้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเดดพูล แม้ไม่ต้องต่อความอะไรให้ยืดยาวก็สามารถเข้าใจความหมายแฝงของมันได้ในทันที

     

    คนลามก! พูดอะไรฉันไม่เห็นเข้าใจ ”

     

    แต่ว่า— ห้ามก้าวก่ายกับชีวิตส่วนตัวของอีกฝ่าย เข้าใจหรือเปล่า ”

     

              ประเด็นสำคัญของข้อตกลงอยู่ที่คำพูดนี้ คนตัวเล็กกว่าพูดขัดท่าทีสะดีดสะดิ้งชวนหมั่นไส้ของอีกฝ่าย มันจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะเขา... เพื่อตัวตนที่แท้จริงของสไปเดอร์แมนจะได้ถูกเก็บเป็นความลับต่อไป

     

    เวดพลิกร่างของคนในอ้อมแขนให้หันมาประจันหน้า ดวงตาคู่คมสีน้ำตาลหรี่ลงเล็กน้อย

     

    ขี้โกงนี่สไปดี้ นายรู้ว่าฉันเป็นใครแล้ว ” แม้แต่ที่อยู่ก็เคยมาเยี่ยมเยือนถึงสองครั้ง

     

    ฉันไม่ใช่คนที่นายอยากจะรู้จักด้วยนักหรอกเวด ” ปีเตอร์ก้มหน้าหลบสายตา เขาเม้มปากเข้าหากันก่อนพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

     

    หมอนี่ดูจะไม่ค่อยชอบปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เท่าไรนัก

     

    เอาเป็นว่าข้อตกลงเป็นแบบนี้ ถึงฉันจะรู้ว่านายเป็นใคร นายก็ยังเป็นแค่ไอบ้าคนหนึ่งอยู่ดี ”

     

    ถึงฉันจะบ้า แต่ไม่มีใครเด็ดไปกว่านี้อีกแล้วนะ ” แม้สีหน้านั้นจะเคร่งเครียด แต่เวดก็ยังเล่นมุกชมตัวเองได้

    พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่าความสัมพันธ์ที่มีมันคลุมเครือเกินกว่าจะอธิบายได้

     

    ฉันสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับชีวิตแและเบื้องหลังของนาย ” ใช้มือทั้งสองข้างผลักแผ่นอกกว้างออกไปเบาๆ ก่อนเปิดประตูบ้านออกไปทั้งแบบนั้น เจ้าของบ้านเพียงมองตามภาพนั้นต่อไปโดยไม่ได้ห้าม ก่อนรอยยิ้มบางๆจะปรากฏขึ้นบนริมฝีปากได้รูป

     

    เขาไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่าความสัมพันธ์กับสไปดี้เป็นแบบไหนกันแน่

     

    เพื่อนกันงั้นหรอ... ยังสามารถพูดคำนั้นได้เต็มปากอยู่หรือเปล่า

     

              ทั้งสัมผัสที่มอบให้กันและกัน อุณหภูมิร่างกายอันร้อนระอุ กลิ่นกายของอีกฝ่ายที่ราวกับสูบสติสัมปชัญญะไปจนหมด และไรผมสีน้ำตาลอันอ่อนละมุนนั่น ทุกอย่างยังติดแน่นอยู่ในความทรงจำไม่หายไปไหน

     

     

     

     

     

     

     

     

              เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแมนฮัตตันยังคงวุ่นวายเหมือนดังปกติ ปีเตอร์เพิ่งกลับจากการจัดการกับแก๊งค้ายาเสพติดในเมือง ร่างเพรียวโรยตัวจากยอดตึกสูงเข้าสู่หน้าต่างห้องประธานบริษัทปาร์คเกอร์ อินดัสทรีย์ เขาทิ้งน้ำหนักลงกับโซฟารับแขกหน้าโต๊ะทำงาน ทอดตัวยาวให้ศีรษะวางลงไปบนพนักพิงทั้งยังไม่ได้ถอดชุดรัดรูปออก ก่อนมือข้างหนึ่งจะปลดเอาหน้ากากผ้ายืดออกด้วยความเหนื่อยล้า

     

              ลำพังแค่งานในบริษัทก็ถาโถมเข้ามาเสียจนไม่มีเวลาส่วนตัวให้ตัวเองอยู่แล้ว หลายเรื่องประกอบเข้าด้วยกันทำให้ร่างกายแทบจะรับไม่ไหว เขาไม่ได้มีพลังฟื้นฟูมากมายเหมือนกับเดดพูล แค่เมื่อวานก็เล่นเอาน่วมเสียจนออกไปไหนไม่ได้ทั้งวัน ...ไม่รู้คนทำจะรู้สึกตัวบ้างหรือเปล่า

     

              เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับรองเท้าส้นสูงที่สัมผัสกับพื้นเป็นจังหวะ แม้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ได้ว่าใคร มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ปีเตอร์อนุญาตให้เข้ามาในห้องทำงานของเขาได้

     

    งานวันนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ ฉันว่าคุณกลับไปพักก่อนน่าจะดีกว่า ”

     

    ขอบคุณนะแอนนา ” กายสูงโปร่งยันตัวขึ้นจากโซฟาอย่างนวยนาด ยกมือขึ้นมาบีบนวดกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ที่แข็งเกร็งของตนเพื่อคลายความเมื่อยล้า

     

    แต่ก่อนเคยเป็นเด็กเนิร์ดบ้าเรียน ตอนนี้เลื่อนขั้นมาเป็นเจ้าเนิร์ดบ้างานแล้วนะ ”

     

              เขาหัวเราะกับความคิดนั้น ก่อนสีหน้าจะแสดงความเจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อสัมผัสโดนกระดูกไหปลาร้าของตน แผลเป็นจากสัตว์ร้ายที่มีฟันเรียงตัวเหมือนมนุษย์มันยังไม่ทันหายดี เมื่อฝ่ายนั้นเล่นฝังเขี้ยวลงไปเสียจนเลือดพุ่งซะขนาดนั้น

     

    แต่แล้วก็มีเสียงโครมครามปริศนาดังไล่มาตามผนังห้อง ปีเตอร์ดีดตัวขึ้นยืนตามสัญชาตญาณ ดูเหมือนว่าผู้ไม่ได้รับเชิญคนนั้นจะมีเป้าหมายเพื่อมาเจอเขา ประตูไม้อย่างดีของห้องถูกคมดาบฟาดฟันเป็นรูปกากบาท เขาคว้าเอาหน้ากากคู่ใจกลับมาสวมอีกครั้ง มันทันเวลาพอดีก่อนที่ประตูจะถูกพังเข้ามาอย่างไม่ใยดี

     

              เจ้าของรองเท้าหนังทุ่มแรงทั้งหมดใส่จนสิ่งกีดขวางตรงหน้ากลายเป็นเพียงเศษไม้ที่กลิ้งหมุนไปกับพื้น ร่างกายสูงใหญ่ของผู้มาใหม่ปรากฏแก่สายตาคนในห้อง ผ้าสเปนเด็กซ์ที่ตัดเย็บร่วมกับหนังสีดำเข้ารูปไปตามรูปร่างกำยำ มือข้างหนึ่งชี้ปลายกระบอกปืนตรงมายังร่างของสไปเดอร์แมนที่มีส่วนสูงใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำลังตามหา

     

    ตอนนี้สัตว์ร้ายที่ว่าก็ดันมาปรากฏตัวต่อหน้าปีเตอร์เสียแล้ว...

     

    คราวหลังถ้าจะมาอย่าลืมถือค่าเสียหายมาด้วยล่ะ นั่นประตูบานที่สิบแล้ว ” แม้จะยกมือยอมแพ้แต่ปากก็ยังทำหน้าที่ได้ดี เดดพูลหรี่ตาลง มองรอบห้องแต่ก็ไม่พบสิ่งที่กำลังค้นหา

     

    ปีเตอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ค่ะ ”

     

    แอนนาเป็นคนตอบข้อสงสัยนั้น แม้ไม่ต้องเอ่ยปากถามทุกคนก็รู้ดีว่าทุกครั้งที่เดดพูลเหยียบย่างเข้ามาในบริษัท นั่นหมายถึงความตายของใครบางคน

     

    หมอนั่นบินไปต่างประเทศ แถมยังเฉดหัวไล่ฉันให้อยู่ที่นิวยอร์คอีก ” คนในชุดแมงมุมต่อมุกได้อย่างแนบเนียน

    และปีเตอร์ที่ว่านั่นก็คือคนเดียวกันกับผู้ชายที่ยืนทำท่ายอมแพ้อยู่ตรงนี้ไง...

     

              เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ดันมีค่าหัวสูงลิบสำหรับคนที่โดนขัดผลประโยชน์ ไม่ใช่แค่เดดพูล แต่ยังมีใครอีกหลายคนถูกจ้างวานมาให้สังหาร นับรวมเฉพาะเดดพูลครั้งนี้ก็เป็นหนที่สิบตามจำนวนประตูห้องที่ถูกพังไป ทั้งที่รู้ว่าสไปเดอร์แมนเป็นบอดี้การ์ดให้กับประธานบริษัทคนนั้น แต่เวดก็ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจจะมาตามฆาตกรรมเลยซักครั้ง

     

    ตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้ต่อกัน... ต่อหน้าคนอื่นพวกเขาเป็นเพียงคนรู้จักกันเท่านั้น

     

              สายตาของเวดสะดุดเข้ากับกองงานบนโต๊ะ แม้คนตรงหน้าจะบอกว่าผู้ชายคนนั้นไปต่างประเทศ แต่คนที่ตัวไม่อยู่ที่นี่กลับเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ทั้งปากการาคาแพงที่วางนอนอย่างไม่มีระเบียบกับแก้วกาแฟที่เพิ่งพร่องไปได้ไม่ถึงครึ่งแก้วนั่น ราวกับเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเจ้าของของมันยังไม่ได้ไปไหนไกล

     

    ไหนจะเลขาตัวน้อยที่ยังอยู่ในห้อง แม้นี่จะเลยเวลาเลิกงานมานานแล้วก็ตามที

     

    เหมือนฉันจะพลาดอะไรที่สำคัญมากๆไปแฮะ ” ปืนที่เคยเล็งไปยังคนในชุดรัดรูปถูกย้ายมาค้ำไว้ใต้คางของคนพูด ประโยคนั้นสร้างความงุนงงให้คนฟังไม่น้อย

     

    หรือจริงๆแล้วจะเป็นนายตั้งแต่แรก ”

     

              ดวงตาภายใต้หน้ากากจ้องเขม็งมาที่สไปเดอร์แมนอย่างไม่วางสายตา แม้ปีเตอร์จะยังปะติดปะต่อเรื่องราวได้ไม่แม่นยำนัก แต่ก็พอเดาได้ว่าฝ่ายนั้นกำลังหมายถึงอะไร

     

    พูดอะไรของนาย ฉันไม่เข้าใจ ” แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไปทั้งแบบนั้น

     

    ผู้ชายคนนี้กำลังสงสัยเขาอยู่...

     

    มันไม่ใช่แค่ครั้งแรก และไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่ปีเตอร์จะรับมือได้

     

    สไปเดอร์แมน ปีเตอร์ติดต่อมาให้คุณไปคุ้มครองเขาระหว่างทางกลับบ้านค่ะ ” เป็นเสียงของแอนนาที่ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทันเวลา ดวงตาสีดำของหญิงสาวมองตรงมาที่เขาเป็นการส่งสัญญาณ เธอยกเครื่องมือสื่อสารที่แสดงข้อความจากปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เพียงแต่ในระยะนั้นมันไกลเกินกว่าที่เดดพูลจะมองเห็นรายละเอียดได้

     

    โอ๊ะ จริงด้วยแฮะ นายอยากยืนยันด้วยตัวเองไหมล่ะเพื่อน ”

     

              ปีเตอร์ตอบรับคำพูดนั้นโดยการแกล้งหยิบมือถือของตนขึ้นมาเปิดดู ‘ข้อความที่ไม่มีอยู่จริง’ ความลับของเขาจะเปิดเผยต่อหน้าใครไม่ได้เด็ดขาด แม้แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าก็ตาม ได้แต่หวังว่าการแสดงที่ดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไรนี้จะพอต่อเวลาให้เขาได้อีกซักวัน

     

    เดดพูลเก็บปืนพกของตนเข้าสู่กระเป๋าที่เหน็บเอาไว้ข้างเอว ใบหน้านั้นยังคงไว้ซึ่งความสงสัยแต่ก็ทำเพียงยักไหล่ทั้งสองข้างเบาๆ

     

    ถ้างั้นวันนี้ฉันก็หมดธุระแล้ว ไว้เจอกันอีกทีแล้วกัน ” ก่อนจะหันหลังกลับและโบกมือลาไปทั้งอย่างนั้น โดยไม่อาจรู้ได้เลยว่าบุคคลภายใต้ชุดสีแดงสลับดำนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

     

              ปีเตอร์เห็นคนร่างโตกระโดดออกไปจากหน้าต่างห้องทำงานของเขา ก่อนค่อยๆดิ่งลงไปสู่พสุธาที่ห่างโขจากชั้นที่ยืนอยู่ เมื่อแน่ใจว่าร่างนั้นไม่ได้ย้อนกลับมาแล้ว เขาและแอนนาจึงพยักหน้าให้กันโดยอัตโนมัติ แม้ไม่ต้องมีคำพูดใดๆมาบรรยายก็สามารถเข้าใจความหมายที่สายตาคู่นั้นสื่อออกมาได้ทันที

     

              เขาถอดถุงมือข้างหนึ่งของตัวเองออกโดยใช้ปากคาบมันเอาไว้ ปลายนิ้วเรียวละเลงลงไปบนหน้าจอทัชสกรีน ก่อนรายชื่อติดต่อ ‘Hobie Brownจะเป็นตัวเลือกแรกที่ปีเตอร์ต่อสายถึง

     

    “ โฮบี้...ผมมีเรื่องอยากจะรบกวนคุณอีกซักครั้ง ”

     












              

    มีตัวละครใหม่โผล่มาอีกแล้ววว
    เนื่องจากเขายังไม่มีบท เลยจะเอาไว้แนะนำในตอนหน้านะคะ

    สนุกไม่สนุกยังไงคอมเม้นท์บอกไรเตอร์หน่อยน้า <3



    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×