[SF Teen Top] Missing you... ft. kevin u-kiss
แค่หนึ่งคืน ขอแค่อีกหนึ่งคืน ผมอยากค้นหาคุณในตัวของเขา
ผู้เข้าชมรวม
876
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
Missing you...
“พี่เควิ่นครับ คือ... ผมชอบพี่ คบกับผมได้มั้ย?”
ผมยังจำคำพูดของผมในวันนั้นได้ดี วันที่ผมตัดสินใจขอพี่เควิ่นคบหลังจากที่ผมวันที่ชอนจิทำให้ผมเจ็บปวดมากที่สุด – นีแอล
“อื้ม ตกลงเนียล อ่า... นายรู้มั้ยว่าพี่ดีใจขนาดไหนเนี่ย”
ผมยังจำได้ดีวันที่นีแอลขอคบกับผม มันน่าดีใจมากเลยนะรู้มั้ย เหมือนความสุขทั้งหมดมาอยู่ที่ผมเพียงคนเดียว – เควิ่น
“ฉันไม่ได้รักนาย นีแอล...”
ผมยังจำคำพูดที่ผมบอกกับนีแอลได้ในวันนั้น มันทำให้เขาเจ็บปวดมากเลย ผมไม่ได้ตั้งใจ นีแอล.. ฉันขอโทษ – ชอนจิ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
‘ขอโทษทีนะนีแอล พอดีวันนี้ฉันไม่ว่างต้องอยู่ติวให้ชางโจ’
แต่ปลายสายกลับปฏิเสธมาทำเอาคนทางนี้ยู่ปากด้วยอารมณ์ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ อีกแล้วนะ เจ้าเด็กหมีนี่อีกแล้วหรอ!
“ไม่เอาอ่ะ ไปเที่ยวกันเหอะน้า เดี๋ยวค่อยติวให้เจ้าหมีนั่นก็ได้”
‘งี่เง่าหน่านีแอล น้องมันจะสอบแล้วนะ!’
ชอนจิเริ่มขึ้นเสียงมาตามสาย ทำเอาคนฟังได้แต่ตกใจที่อีกฝ่ายมาขึ้นเสียงใส่ ทั้งๆที่ปกติเวลาชวนไปไหนก็ไม่เห็นจะเคยปฏิเสธ คิ้วเข้มขมวดน้อยแต่ก็พยายามไม่ได้ติดใจอะไรเลยได้แต่ตอบกลับไปเสียงอ่อยๆ
“โอเค... งั้นไว้วันหลังก็ได้ บาย”
‘บาย นีแอล’
หลังจากตัดสายไป ร่างสูงก็ได้แต่มองหน้าจอโทรศัพท์ที่ตอนนี้ดับลงไปแล้ว ก่อนจะคิดอะไรขึ้นมาในหัวได้เลยรีบหยิบเสื้อแจ๊คเก๊ตและเดินออกจากห้องไป ร่างสูงตรงไปยังห้องพักที่คอนโดของชอนจิ กะเอาไว้ว่าจะไปเซอร์ไพรส์อีกคนเล่น ระหว่างทางที่เขาเดินอย่างอารมณ์ดีจนมาหยุดที่ตรงหน้าห้อง มือหนายกขึ้นหวังจะเคาะเรียกคนในห้องแต่ก็เปลี่ยนใจลองบิดลูกบิดที่ประตูบานสีขาวแทน ปรากฏว่ามัน...ไม่ได้ล๊อคเอาไว้ ลิ้นร้อนเลียริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างใจเย็นก่อนจะค่อยเปิดประตูเข้าไปด้วยเสียงเบาที่สุด
“พี่ชอนจิ ผมว่า...ผมชอบพี่” ขายาวหยุดก้าวทันทีที่ได้ยินเสียงที่ดังลอดออกมาจากห้องรับแขก แทบจะไม่เชื่อหูตัวเอง ร่างสูงจึงรีบย่องเข้าไปใกล้ห้องรับแขกมากขึ้น จนตอนนี้เข้ามาหลบอยู่ด้านหลังช่องทางเข้าที่ไม่มีประตูของห้องรับแขกพอดี ทำให้มองเห็นความเป็นไปในห้องรับแขก ชอนจิที่ตอนนี้นั่งหน้าแดงอยู่บนโซฟาโดยมีชางโจที่บนพื้นด้านล่าง เท้าแขนกับโต๊ะตัวเตี้ยมองหน้าชอนจิอยู่ ก่อนที่ชอนจิจะได้ตอบอะไร ร่างสูงก็ออกจากที่ซ่อนเข้าไปแสดงตัวก่อนเสียแล้ว
“นีแอล!/พี่นีแอล!”
“ชางโจ เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ!” การปรากฏตัวของเขาทำให้ทั้งสองคนดูตกใจมาก ชางโจรีบยืนขึ้นแล้วหันมาทางเขา นีแอลค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้รุ่นน้องที่สูงกว่าเขาโดยไม่มีความกลัวสักนิด
“นีแอลนายจะทำอะไร?” ชอนจิที่เห็นท่าไม่ดีรีบลุกขึ้นจากโซฟาก่อนจะรีบเข้ามาดึงแขนของเขาไว้ ชางโจก็มีสีหน้าตกใจที่เห็นนีแอลดูโกรธขนาดนี้
“เมื่อกี้ฉันได้ยินเด็กนี่มันบอกชอบนาย!”
“ก็ใช่! แล้วนายจะโกรธทำไมล่ะนีแอล” ชอนจิไม่เข้าใจเหตุผลที่นีแอลจะต้องมาโกรธชางโจนั้นบอกชอบ ในเมื่อทั้งคู่ไม่ได้เป็นอะไรกัน...
“ก็... ” คำถามของคนตรงหน้าดูเหมือนจะทำให้นีแอลเป็นใบ้ไปชั่วขณะ นั่นสิ่ ทำไมถึงต้องโกรธที่มีคนมาบอกชอบชอนจิของเขา นั่นเพราะชอนจิต้องเป็นของเขาน่ะสิ่!
“ฉันรักนายนะชอนจิ นายจะไปชอบชางโจไม่ได้” นีแอลพูดมันออกมาแล้ว คำพูดที่เขาควรจะพูดมาตั้งนานแล้วแต่ดูเหมือนจะสายเกินไป เมื่อความไม่แน่นอนมันเกาะกินหัวใจของคนที่เฝ้ารอ ทำให้หัวใจที่อ่อนแอต้องการใครซักคนและหัวใจของชอนจิก็มอบให้ชางโจไปแล้ว นีแอลช้าเกินไป ...
“นีแอล นาย...” หน้าหวานของชอนจิส่ายไปมาด้วยความไม่เข้าว่าทำไมนีแอลถึงพูดมันออกมาตอนนี้ ตอนที่หัวใจของเขามันไม่ได้มีไว้ให้นีแอลอีกต่อไปแล้ว
“ฉันไม่ได้รักนาย นีแอล...” ชอนจิบอกออกไปก่อนจะเดินไปยืนเคียงข้างชางโจ มือบางสอดเข้าไปจับกับมือหนาของชางโจ แบบนี้มันยิ่งตอกย้ำว่านีแอลเป็นคนแพ้ แพ้เพราะความโง่ของตัวเองที่รักษาหัวใจของตัวเองเอาไว้ไม่ได้
“นายโกหกฉันใช่มั้ยชอนจิ นายไม่ได้ชอบชางโจ นายชอบฉันเหมือนกันไม่ใช่หรอ?” ตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าวของตัวเอง มือของเขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วเป็นสีขาว รู้สึกถึงความเจ็บที่อุ้งมือแต่มันยังเจ็บไม่เท่ากับที่ตรงข้างในหน้าอกข้างซ้าย
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนนีแอล แต่ตอนนี้คนที่ฉันชอบคือชางโจ ได้ยินมั้ย ฉันชอบชางโจ!” ตากลมของชอนจิเริ่มจะมีน้ำตาคลอหน่อย พยายามที่จะบอกตัดนีแนลไปให้ได้ แต่นีแอลเป็นคนที่มุ่งมั่นและไม่เคยยอมใคร เขาไม่ยอมเชื่อว่าตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว ชอนจิไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ชางโจที่ยืนเงียบอยู่ได้แต่บีบมือเพื่อให้กำลังใจคนข้างกาย ถ้าตอนนี้ชางโจพูดอะไรออกไปจะต้องมีเหตการณ์ร้ายตามมาแน่นอน เขาเลยเลือกที่จะเงียบและยืนอยู่ข้างๆชอนจิอยู่แบบนี้
“โอเค... ฉะ ฉันเข้าใจแล้ว” น้ำตากำลังจะไหลของมาจากตาคมของนีแอล เขาไม่ต้องการให้ชอนจีเห็นน้ำตาแห่งความเจ๊บปวดของเขา ร่างสูงรีบก้าวออกจากห้องไป ขายาวรีบเดินไปให้ถึงลิฟท์และเมื่อเข้าไปในได้น้ำตามันก็ทะลักออกมา
.
“เนียล เป็นอะไรไป บอกพี่ได้มั้ย?”ร่างบางของเควิ่นรุ่นพี่ร่วมชมรมที่เพิ่งย้ายเข้าใหม่ถามขึ้นเมื่อเห็นว่านีแอลนั่งเงียบๆจ้องแป้นเปียโนโดยที่ยอมจรดปลายนิ้วลงไปเสียที
“อ๊ะ ไม่ได้เป็นอะไรครับพี่เควิ่น” ร่างสูงหันไปมองทางต้นเสียงก่อนจะส่ายหน้าและยิ้มให้ และเขาก็ได้รอยยิ้มสดใสของรุ่นพี่กลับคืนมา รอยยิ้มที่สดใจที่ทำให้อดคิดถึงใครอีกคนไม่ได้ ...
“เนียลจะเล่นเปียโนมั้ยอ่ะ? พี่ขอเล่นนะ” พูดจบก็นั่งลงที่ข้างๆเขา ก่อนนิ้วเรียวสวยของรุ่นพี่ตัวบางจะเริ่มบรรเลงเปียโนด้วยบทเพลงแสนหวานที่เจ้าตัวชื่นชอบ สายตาที่มุ่งมั่นและรอยยิ้มที่ดูมีความสุขทำให้นีแอลอดไม่ได้ที่จะแอบมองมัน จู่ๆภาพของชอนจิก็เกิดซ้อนทับกับคนตรงหน้า เขาปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น อาจจะดูเห็นแก่ตัวแต่มันก็ทำให้เขามีความสุขขึ้นมาได้ในวันที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้
เขาพยายามพัฒนาความสัมพันธ์กับเควิ่นมาตลอด เพราะเควิ่นดูเหมือนชอนจิซะเหลือเกิน จนบางทีเควิ่นอาจจะทำให้เขารักและลืมชอนจิไปได้ นับวันจากรุ่นพี่รวมชมรมก็กลายมาเป็นรุ่นพี่ที่สนิทด้วยที่สุดและวันนี้วันที่นีแอลนัดให้เควิ่นมาเจอกันที่ห้องชมรมดนตรี เมื่อเควิ่นเข้ามาก็เจอกับนีแอลที่นั่งรออยู่แล้วตรงเปียโนสีขาวหลังใหญ่
“รอนานป่ะเนียล พี่รีบมาเลยนะเนี่ย” ร่างบางหายใจหอบ มือเรียวยันหัวเข่าเอาไว้บ่งบอกให้รู้ว่ารีบวิ่งมาขนาดไหน นีแอลยิ้มในความเป็นเด็กของคนตรงหน้าถึงจะเป็นรุ่นพี่ของเขาก็เถอะ แต่ก็ต้องคอยให้เขาคอยเตือนแล้วก็ดูแลอยู่เสมอ ร่างสูงลุกจากเก้าอี้เดินเข้าไปหาคนที่ยังยืนหอบอยู่ มือหนาจับจูงให้ร่างบางเดินมานั่งที่เก้าอี้ก่อน จะได้เป็นการพักเหนื่อย
“ใจเย็นครับพี่เควิ่น รอให้พี่หายเหนื่อยแล้วผมค่อยพูดดีกว่า” แขนยาวถูกยกขึ้นกอดอกรอให้อีกคนหายเหนื่อยหอบ ไม่ต้องให้รอดูเหมือนความอยากรู้ของเควิ่นจะเอาชนะความเหนื่อยไปได้หมดเลย
“พี่หายเหนื่อยแล้ว เนียลมีอะไรจะพูดกับพี่หรอ?” ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองคนที่ยืนเต็มความสูงอยู่ตรงหน้าเขา แต่แล้วจู่นีแอลกลับนั่งชันเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าเขา และพูดสิ่งที่ทำให้เควิ่นยิ้มไม่หุบ
“พี่เควิ่นครับ คือ... ผมชอบพี่ คบกับผมได้มั้ย?” มือหนาฉวยมือบางของเควิ่นมาจับเอาไว้ ก่อนจะตาคมจะจ้องไปที่ใบหน้าของคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าเขาที่ตอนนี้มีรอยยิ้มแห่งความสุขประดับอยู่บนในหน้า
“อื้ม ตกลงเนียล อ่า... นายรู้มั้ยว่าพี่ดีใจขนาดไหนเนี่ย” แขนเรียวกอดคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าไว้แน่น ตอนนี้เขามีความสุขมากที่สุดแล้ว จนไม่รู้ว่าจะมีตอนไหนที่มีความสุขได้เท่าเวลานี้
“พี่ร้องไห้ทำไมเนี่ย ฮ่ะๆ” นีแอลรู้สึกได้ถึงหยดน้ำตาที่เปียกบนไหล่ของเขา มือหนายกขึ้นลูบหัวของคนในอ้อมกอด ก่อนจะแกล้งโยกตัวไปมาเหมือนกล่อมเด็กน้อย
“ก็พี่มีความสุขนี่ ฮือๆ” มือบางฟาดเข้าให้ที่ไหล่ของคนชอบแกล้ง ก่อนจะยิ่งกอดแน่นเข้าไปอีก นีแอลดันตัวของเควิ่นออกให้มาจ้องตากับเขา แล้วกุมมือบางเอาไว้ด้วยสองมือ
“ถ้ามีความสุขจะร้องไห้ทำไมล่ะครับ ผมจะดูแลพี่ให้ดีที่สุด ผมสัญญา” รอยยิ้มที่สร้างขึ้นมาเพื่อแกล้งแสดงว่าเขาเองก็มีความสุข ถึงเขาจะรักที่ตัวของเควิ่นไม่ได้ แต่ก็ขอให้เขาได้มีความสุขกับภาพที่สร้างขึ้นมาเอง เขาจะลองค้นหาชอนจิในตัวของเควิ่น แต่ถ้ามันไม่มีเลย วันนั้นเขาจะหยุดทำร้ายคนตรงหน้าและยอมปล่อยมือจากคนๆนี้ ...
.
“เนียลลองดมกลิ่นนี้สิ่ หอมมั้ย?” ตอนบ่ายของวันหนึ่งเควิ่นได้ชวนให้คนรักรุ่นน้องของตัวเองออกมาช่วยเลือกซื้อน้ำหอมใหม่ เพราะจริงๆแล้วเควิ่นอยากจะใช้น้ำหอมกลิ่นที่นีแอลชอบ ใครๆก็อยากทำให้ตัวเองเป็นที่รักของคนรักด้วยกันทั้งนั้น
“ผมว่ากลิ่นมันแรงไปหน่อยนะ พี่เหมาะจะใช้กลิ่นอ่อนๆดีกว่า” หลังจากดมกลิ่นน้ำหอมจากแผ่นทดลองที่ร่างบางยื่นมาให้ นีแอลเองก็มองดูรายชื่อกลิ่นตามขวดน้ำหอมที่วางเรียงรายอยู่ในร้านแห่งนี้ ก่อนสายตาจะไปสะดุดกับขวดน้ำหอมที่รูปร่างคุ้นตาของเขามาก
“ผมขอลองกลิ่นนั้นหน่อยได้มั้ยครับ?” ชี้ไปที่ขวดน้ำหอมรูปทรงคล้ายผลแอปเปิ้ลสีเงินและเหลือง พนักงานประจำร้านก็จัดการนำกระดาษทดลองมาให้เขาดมดู น้ำหอมขวดนี้เป็นกลิ่นที่ชอนจิใช้ เขายังจำได้ถึงกลิ่นหอมติดจมูกเวลาที่ได้อยู่ใกล้กัน กลิ่นที่เขาลืมไม่เคยลืมไปได้เลย
“ไหนพี่ของลองบ้างสิ่” เควิ่นลองเอากระดาษทดลองไปดมดูเอง ก่อนจะยิ้มออกมา ดูเหมือนร่างบางเองก็จะชอบกลิ่นนี้ ด้วยเหมือนกัน เป็นกลิ่นหอมเบาๆที่ซ่อนความหวานเอาไว้ด้วย ทำให้สดชื่นด้วยกลิ่นผลไม้ แต่ก็ยังไม่กล้าซื้อเพราะไม่รู้ว่าอีกคนจะชอบรึเปล่า
“อื้ม หอมดีเนอะ นายว่าไงอ่ะเนียล ”
“ผมก็ชอบนะ”
“นี่เป็นน้ำหอม ของ DKNY นะคะชื่อกลิ่น DKNY Be Delicious Eau de Parfum” พนักงานประจำร้านบอกชื่อกลิ่นให้ทั้งคู่รู้
“’งั้นเอาขวดนี้ครับ” เควิ่นซื้อแทบจะซื้อในทันทีที่นีแอลเองก็ชอบกลิ่นนี้ พนักงานร้านจัดการใส่ขวดน้ำหอมลงในกล่องตามบรรจุภัณฑ์ของมันเองก่อนจะใส่ในถุงใบหรูที่มีโลโก้ของร้านและส่งให้เควิ่นที่รอชำระเงินอยู่แต่นีแอลก็ห้ามไว้ก่อน
“ไม่ต้องครับพี่เควิ่น เดี๋ยวผมซื้อให้เองนะ” ส่งยิ้มให้คนข้างกายก่อนจะจัดการหยิบเงินในกระเป๋าตัวเองจ่ายให้ไปแทน มือหนารับถุงมาก่อนจะจับมืออีกคนพากันเดินออกจากร้านมา
“เราไปหาอะไรกินกันดีมั้ยครับ? ผมหิวแล้วอ่ะ” ร่างสูงหันมาบอกกับเควิ่นแถมยังเอามือลูบท้องแสดงว่าตอนนี้กำลังหิวมากๆ เควิ่นได้แต่ยิ้มให้กับท่าทางน่ารักของอีกดคนก่อนจะดึงมืออีกให้เดินตามหลังเขามา
“งั้นไปกัน เดี๋ยวพี่จะพาไปกินร้านนึง อร่อยมากก” ใบหน้าหวาหันมามองที่เขาก่อนจะตั้งใจดึงให้เขาเดินตามไป ด้วยวิธีทำให้เขาได้แค่มองตามหลังของเควิ่นไป แผ่นหลังที่เขาชอบมองเพราะว่ามันเหมือนกับชอนจิ เวลาทีชอนจิอยากไปไหน อยากทำอะไรก็จะชอบทั้งลากทั้งดึงให้ไปด้วยกัน และไม่เคยมีครั้งไหนที่นีแอลจะไม่ยอมเดินตามแผ่นหลังนั้นไป
.
“พี่เควิ่นวันนี้ไปดูหนังที่ห้องผมกัน” ตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่ในห้องชมรมดนตรีวันนี้นีแอลก็มานั่งรอเควิ่นซ้อมเปียโนอย่างเคย พอเห็นว่าเควิ่นซ้อมเสร็จแล้วและกำลังเก็บของเลยลองชวนให้ไปนั่งเว่นที่ห้องของเขา
“อื้ม ได้สิ่ ไปกันเลยมั้ยหรือจะไปกินข้าวก่อน?”
“ที่ห้องผมมีของกินอยู่แล้วไว้ไปกินที่ห้องก็ได้” นีแอลบอกก่อนจะช่วยถือกระเป๋าให้เควิ่นและทั้งคู่ก็พากันออกไป ระหว่างทางมีแต่หัวเราะ เควิ่นเป็นคนที่น่ารักสดใส แคร์คนรอบข้างเสมอ มักจะพูดอะไรตลกๆให้นีแอลฟังเสมอเพราะเป็นแบบนี้ เพราะเควิ่นคล้ายชอนจิเกินไปจนทำให้นีแอลไม่สามารถลบชอนจิออกไปจากหัวใจได้
โทรทัศน์จอแบนกว้างเครื่องใหญ่กำลังฉายภาพยนตร์เรื่องดังจากต่างประเทศ ที่ตรงข้ามเป็นโซฟาที่ทั้งสองคนกำลังนั่งกินป๊อปคอร์นตั้งใจดูหนังอยู่ แขนยาวของนีแอลโอบรอบเอวบางของเควิ่นเอาไว้ ปากอิ่มก็คอยเคี้ยวป๊อปคอร์นที่เควิ่นป้อนให้ นีแอลชอบที่จะกอดเควิ่น ชอบที่จะได้กลิ่นน้ำหอมที่เขาซื้อให้เควิ่นอยู่เสมอ เมื่อหนังรักโรแมนติคดำเนินไปจนใกล้จบ แน่นอนว่าฉากสำคัญของเรื่องก็คงจะไม่พ้นฉากจูบที่แสนอบอุ่นของพระเอกและนางเอก นีแอลแอบเห็นได้เลยว่าแก้มของเควิ่นขึ้นสีเมื่อเห็นฉากจูบในหนัง
“พี่อยากลองจูบแบบในหนังดูมั้ย?” นีแอลถามขึ้นก่อนจะหันไปมองคนที่เอนซบอยู่ในอ้อมแขนของเขา เควิ่นที่ตอนนี้แก้มแดงไปจนถึงใบหูนั่งกอดถ้วยป๊อปคอร์นแน่น เป็นภาพที่น่ารักมากจนอยากจะกดจมูกลงบนแก้มแดงนั่นแรงๆซักที
“จะบ้าหรอ” เควิ่นเอาแต่ก้มหน้าจนคางแทบจะชิดหน้าอก มือหนาค่อยเชยคางงของอีกคนให้เงยขึ้น ตาคมพยายามจ้องลึกเข้าไปในดางตาใสของร่างบางแต่เขากลับเห็นตาใสคู่นี้เป็นของชอนจิแทน ดวงตาที่เขาเฝ้าคิดถึง ดวงตาที่เขาต้องการจนห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะกดจูบลงบนริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนค่อยละเลียดริมฝีปากอย่างไม่รุกล้ำจนกระทั่งอีกคนเองก็ยอมเปิดทางให้เข้ามาชิมความหวานภายใน จนเหมือนอีกฝ่ายจะหายใจไม่ทันนีแอลถึงยอมผละออกมา แต่สิ่งเขาคิดถึงไม่ใช่คนตรงหน้าตอนนี้กลับเป็นใครอีกคน ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาจุกเต็มหัวใจจนนีแอลต้องหยุดการกระทำของเขาเอาไว้
“ผมขอโทษ...” ดึงความคิดและตัวเองให้กลับมาที่เดิม ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะสบตาคนข้างกาย เควิ่นดูเหมือนจะรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างบางดันตัวออกจากอ้อมแขนและนั่งมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่ไม่เข้าใจ
“เนียลบอกพี่ได้มั้ย ว่านายเป็นอะไรไป” มือบางวางลงบนหน้าขาของคนที่นั่งก้มหน้าอยู่ เขาไม่เข้าใจในท่าทีของอีกคนที่อยู่ก็แปลกไปแบบนี้
“พี่เควิ่นผมขอโทษ ผมลืมเขาไม่ได้ ทุกอย่างมันเทเข้ามา ภาพของเขามันซ้อนทับกับพี่”
“ผมพยายามรักพี่เพราะพี่คล้ายกับเขา คล้ายมากแทบจะทุกอย่าง ผมพยายามรักพี่เผื่อซักวันนึงผมคงจะลืมเขาได้...”
.”แต่ไม่เลย ยิ่งเข้าใกล้พี่ ผมยิ่งคิดถึงเขา ผมมันเลว ผมมันเห็นแก่ตัว ...” ในที่สุดก็ห้ามมันไม่ได้ น้ำตาของนีแอลมันไหลออกมาแล้ว
“ผม... อยากหยุดทำร้ายพี่ แต่ผมจะทำได้ยังไง... ในเมื่อถ้าไม่มีเขา ผม...ก็ทนอยู่ไม่ได้” น้ำตาที่ไหลออกมาแม้จะไม่มีเสียงยิ่งไม่มีเสียงสะอื้นยิ่งรู้สึกว่ามันทรมาน เควิ่นได้แต่รับอีกคนเข้ามากอดไว้แน่น ยอบรับเลยว่ารู้สึกใจหายที่ได้รู้ว่าอีกคนไม่ได้รักที่เขาเป็นเขา นีแอลจะยอมปล่อยมือจากเขางั้นหรอ? แล้วนีแอลจะทนอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน
“พี่ทนได้ พี่รักนาย ขอแค่ให้พี่ได้อยู่ข้างๆนายได้มั้ย?” มือเรียวลูบปลอบแผ่นหลังกว้าง รู้สึกเจ็บไปทั้งหัวใจ
แต่ถ้ายอมปล่อยมือจากนีแอลไปและต้องทนเห็นนีแอลต้องทุกข์ทรมาน เขาคงจะเจ็บปวดยิ่งกว่านี้ อย่างน้อยเขาเองก็เคยเป็นคนที่ฉุดนีแอลขึ้นมาจากความเศร้าและเจ็บปวด เพราะฉะนั้นเขาเองจะเป็นคนที่คอยรักษารอยยิ้มของนีแอลไว้ถึงจะต้องเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ...
ผลงานอื่นๆ ของ SecretLitle ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SecretLitle
ความคิดเห็น