ลำดับตอนที่ #47
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : บทที่ 20 สำนึกผิด ภาค ราชันย์ผยองเดช
"เจ้าต่างหากหล่ะที่จะตาย..."
สายตาชายหนุ่มมองหลินเฟยอย่างหงุดหงิดยิ่งและด้วยโทสะที่มีมาตั้งแต่ถกเถียงกับชิงหลิงมันจึงเอื้มมือมาหวังจะกระชากคอเสื้อของหลินเฟยแต่ทันใดนั้น
ลี่เอ๋อเห็นนายท่านของตนกำลังทำสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาก็เคลื่อนตัวมาข้างๆและตบเข้าที่ใบหน้าของไอ่ชายหนุ่มหน้าตัวเมีย
ผั๊วะ !!! โครม !!! ปึ้ง !!!
เสียงฝ่ามือกระทบหนังหน้าดังขึ้นโดยที่อีกฝ่ายก็ยังไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำร่างของมันลอยผ่านโต๊ะเก้าอี้จนตัวของมันฝังอยู่ในกำแพงอี้เอ๋อกล่าวออกมาอย่างเดือนดาล
"ไร้มารยาท !! แกกล้าใช้มือสกปรกมาจับคอเสื้อของท่านผู้นี้งั้นรึ ?! ตระกูลของพวกเจ้าคงมิอยากอยู่ค้ำฟ้ากระมัง"
องครักษ์ที่ตามมาต่างพากันโกรธเกรี้ยวเมื่อเห็นนายน้อยถูกตบหน้าเช่นนี้แถมยังจะมาดูหมิ่นตระกูลหลักอีก
"ไอ่เจ้าคนชั้นต่ำ !! นี้แกกล้าทำร้ายนายน้อย เจี่ยหมิง จากตระกูลเจี่ยรึ !! พวกแกอยากตายนักรึไง !!"
ตระกูลเจี่ยคือตระกูลหลักของอาณาจักรมังกรฟ้าและยังเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่เป็นรองเพียงเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
องครักษ์ทุกคนต่างก็ไม่กล้าประมือกับคนที่อยู่ตรงหน้าเพราะนายน้อยของพวกมันก็มีระดับลมปราณขั้นราชันย์ แต่ถึงกระนั้นเพียงฝ่ามือเดียวก็สามารถทำอันตรายได้ถึงเพียงนี้พวกมันจึงทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากพึ่งพาอิทธิพลของตระกูลเจี่ยเท่านั้น
"แล้วพวกแกจะต้องเสียใจ !! , พวกเจ้าพานายน้อยกลับและรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นกับท่านผู้นำตระกูลซ้ะ !!"
หลินเฟยหาได้สนใจกับสิ่งที่มันขู่แต่ทางกลับกันกับนึกสนุกเสียด้วยซ้ำเพราะจะได้เห็นหน้าของพวกที่ทำตัวหยิ่งยโสบิดเบี้ยวและซีดขาวเพราะความหวาดกลัว
ผ่านไปไม่นานหลินเฟยจึงเดินไปทางบันไดและกำลังจะออกจากร้านก็ได้มีเสียงเรียกจากด้านหลัง
"รอเดี๋ยวก่อน !!"
เสียงหวานหูดังขึ้นทั้งสี่คนจึงได้หันไปมองเจ้าของเสียงนั้น
นางคือชิงหลิง
ชิงหลินประสานมือคารวะทันที
"ขอบคุณท่านผู้มีพระคุณเจ้าค่ะ ! หากไม่ได้ท่านช่วยข้าคงนอนสลบอยู่คาโต๊ะนั้นเป็นแน่ อย่างน้องข้าขอทราบชื่อของท่านจะได้รึไม่เจ้าค่ะ ?"
หลินเฟยพูดอย่างอ่อนโยน
"ตามข้ามาสิแล้วเจ้าจะรู้ว่าข้าคือใคร...ชิงหลิง..."
"!!!!"
ชิงหลิงแปลกใจนัทั้งๆที่ไม่เคยเจอหน้าคร่าตากันแท้ๆแต่กลับทราบชื่อของนางได้ดูๆแล้วคนที่นางพบนั้นไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงแน่นอนแต่กลับรู้ได้นางจึงคิดได้ว่าน่าจะเป็นช่วงที่เจี่ยหมิงมาดุด่านางก็เป็นได้นางจึงหยุดสงสัย
หลังจากเดินตามกันมาสักระยะหลินเฟยจึงเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้วจึงหันหน้ามาและกล่าว
"เจ้าอยากทราบนามข้า ?"หลินเฟยแสยะยิ้มเล็กๆภายใต้หน้ากาก
"ใช่เจ้าค่ะ !"ชิงหลิงตอบด้วยน้ำเสียงจริงจรัง
หลินเฟยเดินเข้ามาใกล้ๆชิงหลิงก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวทำให้นางรู้สึกตกใจและสับสนเป็นอย่างมาก
"ตอนนี้ข้าสูงกว่าเจ้าแล้วเห็นมั้ย..ชิงหลิง"
หลินเฟยกล่าวเบาๆเพียงพอที่จะได้ยินกันแค่สองคนอย่างอ่อนโยนพลางลูบหัวชิงหลิงอย่างเอ็นดูและทันใดนั้นหลินเฟยค่อยๆถอดหน้ากากออกทีล่ะนิดจนมองเห็นใบหน้าที่สุดแสนจะหล่อเหลาดุจดั่งเทพเซียน
ชิงหลิงเห็นใบหน้านั้นนางก็ตกใจทันทีน้ำตาเริ่มคลออยู่บนใบหน้าที่แสนจะน่ารักของนาง
"หลินเฟย..."ชิงหลิงเอามือขึ้นมาปิดปากของนางและร้องไห้ออกมาก่อนจะโถมเข้ากอดร่างของหลินเฟย
"ฮือ..ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษหลินเฟย...ฮือ..ข้ามันโง่...ข้ามันสารเลว...ฮือ..."
หลินเฟยโอบกอดร่างเล็กๆอย่างแผ่วเบาก่อนจะลูบหัวเชิงให้หยุดร้อง
"พอแล้ว...ข้าเข้าใจ...วันนั้นเจ้าไม่ผิดหรอกถึงเป็นข้า...ข้าก็จะเลือกเช่นเจ้า...คนเราเกิดมาย่อมมีผิดมีถูกเจ้าปล่อยวางความรู้สึกผิดของเจ้าได้แล้วชิงหลิง...โซ่ตรวนที่เรียกว่าความผิดของเจ้า...ได้ขาดลงแล้วเจ้าเป็นอิสระแล้วชิงหลิง..."
หลังจากปลอบใจชิงหลิงอยู่นานพอสมควรหลินเฟยได้แนะนำให้นางรู้จักผู้ติดตามสาวสวยทั้งสามแต่ไม่ได้บอกเรื่องที่เป็นมังกรและสัตว์เทพ
ชิงหลิงที่ได้เห็นพวกนางครั้งแรกต่างตกอกตกใจอย่างมากเพราะนางไม่เคยเห็นหญิงงามขนาดนี้มาก่อนนางก็เคยพบเจอหญิงงามจากหลายตระกูลอยู่บ้างแต่ก็เทียบแม้นิ้วมือของนางทั้งสามคนนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ทั้งห้าคนเดินมาที่ริมสระน้ำในเมืองหลวงก่อนจะนั่งลงและมองดูวิวรอบๆไปพลาง
"พวกเจ้ามาถึงที่นี้ได้อย่างไรกัน...แล้วท่านหลินโม่ยังสบายดีหรือเปล่า?"
ชิงหลิงเอ่ยปากถาม
หลินเฟยยิ้มเล็กๆ
"สบายเกินไปด้วยซ้ำ เจ้าไม่ต้องห่วง.."
"แล้วเหตุใดเจ้าถึงมาไกลขนาดนี้กัน ?"
"ข้าแค่ออกมาท่องภพแค่นั้นเอง"
ทั้งสองคุยเรื่องเก่าๆกันไปสักพักก่อนจะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึงโผล่ออกมา
"ไอ่ขอทาน !! มอบชีวิตแกมาซ้ะ !!"
ทั้งห้าคนหันไปดูต้นเสียงแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากเพราะจำนวนแค่นั้นสามสาวของหลินเฟยพัดครั้งเดียวก็หายหมดแล้ว
ชายคนนึงท่าทางจะเป็นผู้อาวุโสหรือไม่ก็เป็นผู้นำตระกูลรุ่นก่อนหลินเฟยแอบขำนิดๆเพราะเพียงแค่นายน้อยถูกทำร้ายก็แห่กันมาเกือบทั้งบ้านแล้วพวกมันคงคิดว่าเอาจำนวนมาขู่คงจะทำให้หลินเฟยนั้นกลัวจนตัวสั่นแต่หารู้ไม่ว่าพวกมันคิดผิด
"ท่านผู้อาวุโส ! มันนั้นแหละขอรับ คนของมันทำร้ายข้าหากข้าตั้งตัวทันคงไม่แพ้มันเป็นอันขาด !"
ชายชราที่ยืนอยู่หน้าสุดกระตุกคิ้วเล็กน้อยและองครักษ์คนนึงก็ช่วยฟ้องอีกแรง
"อย่างที่นายน้อยว่าขอรับ ! คนของมันทำร้ายนายน้อยขอรับ ! , ฮ่าๆๆ ท่านผู้นี้คือผู้อาวุโสเจียวพวกเจ้าอย่างหวังว่าจะรอด !"
คนที่พวกมันกล่าวถึงคือมู่เจียวเป็นผู้อาวุโสของตระกูลและเป็นคนที่ตามใจเจี่ยหมิงมากที่สุดในหมู่ผู้อาวุโสด้วยกัน
"หึๆๆ เด็กน้อยข้าให้เวลาเจ้าคิดเพียงก้านธูปเดียวหากเจ้าคลานมาเลียเท้านายน้อยหมิงล่ะก็...ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าเจ็บตัวแม้เพียงนิดเดียวเจ้าว่ายังไงหล่ะ"
สายตาเหยียดหยามของมู่เจียวจ้องมองมายังใบหน้าของหลินเฟยและสายตาที่หื่นกระหายมองมายังสามสาวองครักษ์
"ฮึๆๆๆ หากเจ้าไม่ทำหล่ะก็ข้าจะขอร่างกายของแม่นางทั้งสามมาเป็นของข้า ฮ่าๆๆๆ"
หลินเฟยถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ
"เห้อ.. ~ ไม่เจียมกะลาหัวเอาซ้ะเล้ยผู้อาวุโสเจียว หากท่านแตะตัวข้าได้แม้ปลายก้อยข้าจะจะยอมรับว่าท่านเป็นจ้าวยุทธภพเลยหล่ะ..."
มู่เจียวหน้าแดงขึ้นเพราะความโกรธทันทีตั้งแต่ได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสไม่เคยมีใครกล้าพูดแบบนี้กับมันเลยแม้แต่คนเดียว
ซู้มมมม !!!
มู่เจียวระเบิดพลังระดับเซียน ขั้นที่ 2 ทันทีทำให้ผู้คนที่ตามทันมามีสีหน้าได้ใจขึ้นมันคงคิดว่าพวกหลินเฟยนั้นต้องตายแน่ๆแต่ในความจริงมันไม่มช่แบบที่พวกมันคิด
"ฮ่าๆๆๆ เป็นอะไรไปเด็กน้อย กลัวงั้นรึ !? งั้นก็รีบมาเลียเท้านายน้อยหมิงได้แล้ว !!!"
เจี่ยหมิงที่เห็นเช่นนั้นได้ยิ้มอย่างมีความสุขและยื่นเท้าไปข้างหน้าก่อนจะกระดิกเท้าเชิงบอกว่ารีบมาได้แล้ว
"ฮิๆ ! ระดับเซียน ? ท่านคงคิดว่าท่านใหญ่คับฟ้ากระมัง?"
หลินเฟยพูดกวนตามเคย
"หุบปากสุนัขของเจ้าซ้ะเด็กน้อย !! หากยังไม่อยากตายก็รีบๆทำตามที่บอกซ้ะ!!!"
เจี่ยหมิงที่เห็นว่าฝ่ายตัวเองนั้นได้เปรียบจึงยิ้มเย้ยขึ้นมา
"ฮ่าๆๆ ชิงหลิง ! นี้เจ้าคบชู้กับไอ่หน้ากากนี้รึ ? เจ้านี้มีตาหามีแววเสียจริงฮ่าๆๆๆ หลังจากฆ่ามันแล้วเจ้าคงต้องมาที่ห้องของข้าเพื่อรับการลงโทษแล้วหล่ะ ฮ่าๆๆๆ"
ชิงหลิงหน้าแดงขึ้นทาเพราะรู้ว่ามันคิดอะไรกับตนแต่คนที่รู้สึกหงุดหงิดแทนนั้นกลับเป็นหลินเฟยที่ยืนอยู่ข้างนางเสียนี้
"หึ ! คงคิดว่าแค่มีอิทธิพลของตระกูลแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นรึ ? สมองหมาปัญญาลิงแท้ๆ ! หากตระกูลเจ้าจบสิ้นวันนี้ก็อย่ามาหาว่าข้าอำมหิตก็แล้วกัน ! ลี่เอ๋อ ! ชิงเอ๋อ ! อี้เอ๋อ !"
"""เจ้าค่ะ !!"""
ซู้มมมมมม !!!
ทั้งสามคนระเบิดพลังปราณระดับพระเจ้าออกมาทันทีเป็นเพราะว่าหลินเฟยสร้างอาณาเขตไว้แล้วจึงทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกผู้อื่นที่อยู่ภายนอกสัมผัสได้
พวกตระกูลเจี่ยมีสีหน้าซีดเผือดทันทีพวกมันไม่เคยคิดว่าจะมีผู้ที่ไต่ไปถึงระดับพระเจ้าและยังมีถึงสามคนและที่แปลกใจไม่แพ้กันคือชิงหลิงความรู้สึกสับสนได้แปะอยู่บนใบหน้าของแต่ล่ะคน
"ปะ...เป็นไปไม่ได้ !!! ผู้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ทำไมถึง... !!!"
"ผะ...ผู้อาวุโสเจียว !! ทะ...ท่านช่วยเจรจาทีสิ !!"
"ระ...ระดับพระเจ้า !!! ไม่น่าเชื่อ !!!"
ใบหน้าของคนจากตระกูลเจี่ยซีดขาวทันทีและบางคนก็อ้าปากค้างอย่างตกใจแต่ล่ะคนแทบจะอยากมุดดินหนีทันทีแม้แต่มู่เจียวยังรู้ว่าตัวมันนั้นเพียงแค่พริมตาเดียวก็ดับแล้วตาของพวกมันเบิกกว้าขึ้นและเริ่มเหงื่อตกทันที
"ปะ..ประเดี๋ยวก่อน... ระ...เรายังคุยกันได้ใช่มั้ยท่าน..."
มู่เจียวพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักแต่หลินเฟยกลับไม่มีความสงสารเลยแม้แต่น้อย
"ชิงเอ๋อ ! งานนี้ข้ายกให้เจ้าจงอย่าให้เหลือซากเด็ดขาด !"
"เจ้าค่ะ !!"
หลินเฟยเดินมาทางชิงหลิงก่อนจะเอามือมาปิดตาของนางไว้เพื่อไม่ให้นางเห็นภาพเบื้องหน้า
ชิงหลิงก้าวออกมาข้างหน้าและจ้องมองใบหน้าที่ซีดขาวราวกับศพของพวกตระกูลเจี่ยทุกคนต่างหมอบกราบชิงเอ๋อทันที
"ทะ...ท่านเซียน !! โปรดระงับโทสะ !! ผะ...ผู้น้อยสำนึกแล้ว !!"
"ดะ...ได้โปรดขอรับท่านเซียน.. !! อย่าฆ่าข้าเลย !!"
"ได้โปรด !!"
ชิงเอ๋อชูมือขึ้นเหนือหัวก่อนจะแบมือออกและตวัดมือจากบนลงล่าง
ตู้มมมมมม !!
นางใช้ 'อำนางแรงกดดัน' กดทับทุกร่างจนแหลกสลายโดยไม่มีเสียงสักแอ่ะ
...ติดตามตอนต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น