ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #23 : Chapter 19 | กำแพงที่มองไม่เห็น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.35K
      746
      7 เม.ย. 63


    Chapter 19



    “เห...ไม่ชอบของหวานงั้นเหรอ?”

    มือที่ยื่นกล่องช็อกโกแลตของโปรดไปให้ลดต่ำลง คุเรฮะพยักหน้ารับให้กับคำถามของลูกพี่ลูกน้องฝั่งโซลดิ๊ก คิรัวร์กับกอร์นมองหน้ากัน ทำหน้าประหลาดใจกันทั้งคู่

    พอเห็นพนักงานเดินมาเสิร์ฟกาแฟดำขึ้นมาถึงได้เข้าใจ

    “ของแบบนี้ไม่เห็นจะอร่อยเลย” คิรัวร์ทำหน้ายู่ มือแกะกล่องขนมในมืออย่างคล่องแคล่ว ในขณะที่กอร์นมองเด็กสาวยกเครื่องดื่มสีดำเข้มขึ้นจิบสบาย ๆ

    ตากลมกระพริบฉายแววสงสัย

    “คุเรฮะไม่ขมเหรอ?”

    “เฉย ๆ” เธอตอบเสียงเนือย มือยื่นแก้วกาแฟในมือให้กอร์นที่เอียงคอมองลองชิมดู เด็กชายทำหน้าตื่นเต้นเหมือนลูกหมาที่กำลังจะลองของเล่นชิ้นใหม่ สองมือรับมาถือไว้แล้วแลบลิ้นแตะขอบแก้วนิด ๆ

    เท่านั้นแหละ

    “อึ๋ย ขมปี๋เลย!”

    มือวางแก้วกาแฟลงแล้วคว้านมผสมคาราเมลของตัวเองมาจิบกลบรสชาติแทบไม่ทัน

    ก้อนเมฆสีขาวปุยลอยเชื่องช้าผ่านหน้าร้านไปทีละก้อนสองก้อน เวลายามบ่ายคล้อยที่ร้านคาเฟ่ด้านล่างลานประลองช่างเย็นสบายจนน่านอน จริง ๆ ไม่ว่าจะเวลาไหนสำหรับคุเรฮะก็น่านอนไปหมดนั่นแหละ

    แม้ช่วงนี้จะไม่หนักเท่าเมื่อก่อนแล้วก็เถอะ

    เจ้าของผมสีดำรวบสูงเอนหัวพิงพนักเก้าอี้ เปลือกตาปิดลง ขาสองขาไขว่ห้างไม่ต่างจากฝ่ามือที่สอดประสานกัน เธอกำลังนอนกลางวันตามปกติ -- โดยมีสายตาสองคู่มองด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไป

    กาแฟไม่ได้ช่วยให้หายง่วงขึ้นเลยสินะ


    คิรัวร์เท้าคางมอง ปากก็ดูดหลอดโกโก้ร้อนของตัวเองไปด้วย มือข้างนึงโยนหมวกแก๊ปสีแดงเลือดหมูไปแปะบนใบหน้าคนงีบหลับฝั่งตรงข้ามพอดิบพอดี เผื่อแสงแดดแยงเข้าตา

    “ถ้าไม่นับตอนหลับ ยัยนี่ดูเป็นผู้ใหญ่ชะมัด”

    กอร์นหัวเราะเบา ๆ เห็นด้วยกับคำพูดเพื่อนผมฟูฟ่อง

    มีแค่ตอนง่วงนอนเท่านั้นแหละที่คุเรฮะจะดูเหมือนเด็กวัยเดียวกัน ง่วงแล้วจะไถหัวหาที่หนุนไปทั่ว ไม่ก็ยืนตาปรือจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ หนักสุดคือหลับไปทั้งอย่างนั้น

    ประเด็นคือหลับได้ทุกที่ทุกสถานการณ์

    “เป็นเพราะเรื่องในตระกูลล่ะมั้งคุเรฮะถึงต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่” เด็กชายในชุดสีเขียวสดใสยกเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นดื่มจนหมด คิรัวร์ยักไหล่ทำหน้าเบื่อหน่าย

    “คงงั้น ชิงดีชิงเด่นเอาแย่งตำแหน่งให้ตัวเองเป็นใหญ่ คนในมีแบ่งพรรคแบ่งพวก เป็นฉันนะคงช่างแม่งเรื่องตำแหน่ง ยอมแพ้ตอนสู้ไปให้จบ ๆ” ดวงตาเรียวรีหรี่มองคนหลับฝั่งตรงข้าม “ติดแค่ว่ายอมแล้วอีกฝ่ายจะไว้ชีวิตรึเปล่านี่สิ

    ตอนสอบฮันเตอร์รอบสุดท้าย -- ผู้หญิงที่ชื่ออแมนด้าบอกยอมแพ้แล้วก็ยังไม่รอด คุเรฮะชิงฆ่าตายก่อนที่จะพูดคำ ๆ นั้นจบประโยคซะอีก


    เพื่อให้ตัวเองสอบตก ส่วนเขาสอบผ่าน

    ‘ไม่แฟร์เลยยัยบ้า’


    กอร์นที่สังเกตเห็นแววตาที่อ่อนลงของเพื่อนยิ้มบาง มือเท้าคางมองคิรัวร์พลางกลั้นหัวเราะคิกคัก ถึงเขาจะดูซื่อบื้อไปหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะสังเกตอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของคนใกล้ตัวไม่ออก


    “คิรัวร์เนี่ย ดูมีความสุขที่มีพี่สาวเป็นคุเรฮะจังนะ”


    “พ— พูดบ้าอะไรของนาย อย่ามาโมเมนะเฟ้ย!” ถึงจะขี้เซาไปหน่อย หน้ามึนไปนิด แค่ไม่เหมือนพี่คนโตของเขาที่จ้องจะควบคุมไปทั่วนั่น มัน... มันก็แค่นั้นเอง!

    “ใช่ม้า คุเรฮะ~”

    เจ้าของผิวสีแทนสุขภาพดีเลื่อนไปเปิดหมวกแก๊ปที่คลุมหน้าคนงีบออก เผยให้เห็นดวงตาคมที่กำลังปรือจ้องกลับมาอย่างเงียบเชียบ กะพริบตาปิ๊ง ๆ สองทีให้รู้ว่าไม่ได้ละเมอนะ

    ลืมไปรึเปล่าว่าถึงเธอจะหลับแต่หูยังฟังเสียงรอบตัวอยู่ตลอดน่ะ

    “ไอ้... ไอ้ ..ยัย—”

    เจ้าแมวขาวอ้าปากพะงาบ ๆ พูดไม่เป็นภาษา ใบหน้าแดงแปร๊ดมองคนสองคนที่ตอบรับมุกกันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย กอร์นมันยังไม่เท่าไหร่ แต่ยัยขี้เซานี่ก็เป็นไปกับเขาด้วยเรอะ!


    “ไปไกล ๆ เลยเฟ้ยเจ้าพวกบ้า—!!”



    “หมอนั่นบอกว่าเน็นคือพลังใจ”

    คิรัวร์เล่าด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก คิ้วขมวดเข้าหากันในลิฟต์ที่กำลังเลื่อนขึ้นไปชั้นบน “เท็น เซ็ทสึ เร็น ฮัทสึ ทุกอย่างคือการฝึกฝนพลังใจชนิดสุดโต่ง และทุกอย่างนั่น ...ฉันว่าวิงก์โกหก

    คุเรฮะยักไหล่กับคำบอกเล่าที่ได้ยิน ดูเหมือนหลายวันก่อนตอนเธอหลับอยู่บนห้องพัก กอร์นกับคิรัวร์จะข้องใจเรื่องพลังที่ซูชิมีเลยไปถามกับเจ้าตัวเอาโต้ง ๆ วิงก์ได้ยินเข้าเลยช่วยอธิบายและสาธิตกระบวนท่าบางอย่างให้

    ใช้คำลวงเคลือบความจริงที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม

    เป็นอาจารย์ที่ไม่เลวเลย

    ติ๊ง

    ประตูลิฟต์เลื่อนเปิดออก --- ระหว่างที่กำลังเดินไปทางจุดลงทะเบียนนักสู้ชั้น 200 เด็กชายผมขาวก็เอ่ยถามอย่างไม่จริงจังนัก สองมือยกขึ้นประสานรองท้ายทอย

    “เธอรู้อยู่แล้วใช่มะคุเรฮะ? เรื่องเน็นอะไรนั่นน่ะ”

    “อือ”

    เสียงครางรับที่ได้ยินทำเอาคนถามต้องพ่นลมหายใจแผ่วเบา ‘ว่าแล้วเชียว’

    แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรมากมาย เพราะจากที่อยู่ด้วยกันมา คุเรฮะเป็นคนประเภทถ้าเขาไม่ถามอะไรก็จะอยู่นิ่ง ๆ ไม่หือไม่อือ ไม่แสดงท่าทางอะไรที่คิดว่าเกี่ยวข้อง ...และถ้าเขาถามเธอก็ตอบมาซะตรงจนบางครั้งก็น่าตกใจ

    “รู้ แต่บอกไม่ได้” คุเรฮะโคลงหัว “มันไม่ใช่หน้าที่ฉัน”


    เส้นทางทอดยาวข้างหน้าดูไม่ไกลจากหน้าลิฟต์นัก แต่พอเดินไปสักพักกลับได้รู้สึกถึงแรงกดดันอันหนักอึ้ง จิตสังหารแข็งแกร่งที่น่าหวาดหวั่นจนเด็กชายสองคนก้าวขาต่อไปไม่ไหว

    มีแค่คุเรฮะคนเดียวที่ยังเดินต่อไปสบาย ๆ ทั้งที่ตอนนี้เหมือนมีกำแพงบางอย่างกั้นพวกเขาเอาไว้ไม่ให้ไปต่อ


    นี่มันอะไรกัน!!


    “เฮ้ย! แกเป็นใคร!! คนที่อยู่ตรงนั้นน่ะโผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้!!” คิรัวร์ตะโกนกร้าว หยดเหงื่อไหลลงมาตามกรอบหน้าไม่รู้ตัว

    —ผู้ที่เผยตัวออกมาจากทางแยกหลังกำแพงเป็นเพียงพนักงานสาวคนหนึ่ง

    “คุณคิรัวร์กับคุณกอร์นสินะคะ” เสียงหวานนุ่มเอ่ยเชื่องช้า นิ้วชี้ไปยังทางแยกอีกทาง “โต๊ะลงทะเบียนอยู่ทางนั้นค่ะ เชิญลงทะเบียนเข้าร่วมการประลองในชั้น 200 ภายในวันนี้ หากเลยเที่ยงคืนของวันนี้จะหมดสิทธิ์ลงทะเบียน โปรดระวังด้วยนะคะ”

    “ตอนนี้ที่ชั้น 200 มีนักสู้คอยคิวอยู่ 173 ท่าน แล้วชั้นนี้อนุญาตให้ใช้อาวุธต่อสู้ได้ ถ้าพกมาก็ใช้ได้ตามสบายค่ะ”

    กอร์นเอ่ยกระซิบ รู้ว่าถึงเสียงจะเบาแค่ไหนคนที่ยืนล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ทก็ได้ยินชัดเจน “จิตสังหารของผู้หญิงคนนี้รึเปล่าคุเรฮะ...?”

    คนถูกถามยักไหล่ทีนึงเป็นคำตอบกำกวม กอร์นกับคิรัวร์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

    หญิงสาวที่มีขอบตาคล้ำเหมือนอดนอนยิ้มให้ “และกฎของชั้นนี้คือจะไม่มีการจ่ายเงินรางวัลนะคะ เป็นการต่อสู้เพื่อชื่อเสียงเท่านั้น หากยอมรับข้อนี้ก็เชิญลงทะเบียนค่ะ—”


    ตอนนั้นเองที่บุคคลคุ้นตาโผล่หัวออกมาจ๊ะเอ๋

    “ฮิโซกะ!!”


    เด็กชายผมตั้งคว้าคันเบ็ดประจำกายมาถือไว้ ดวงตากลมมองนักมายากรที่โผล่มาด้านหลังพนักงานสาวด้วยรอยยิ้มปริศนา ทั้งตกใจและสับสน

    “ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้!?”

    “หึหึหึ ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่น่ะเหรอ? ฉันก็มาตามคำทำนายในไพ่น่ะสิ” นิ้วชี้กับนิ้วกลางเรียวแหลมหนีบไพ่เอโพธิ์แดงขึ้นมา “คำทำนายที่บอกว่าพวกนายกับฉันมีชะตาต้องกันมาตั้งแต่เกิดไงล่ะ ♥”

    คุเรฮะทำสีหน้าว่างเปล่า คุณพนักงานสาวผู้อยู่ใกล้ฮิโซกะสุดทำหน้าแหยงแล้วค่อย ๆ เดินถอยหลังหนีห่าง กอร์นกับคิรัวร์ทำหน้าพะอืดพะอมอย่างบอกไม่ถูก

    โคตรเกย์

    ฮิโซกะแทบหลุดหัวเราะ เล่นมุกนิดเดียวกริบทั้งคณะเลยนะเนี่ย

    “ว่า-ไป-นั่น จริง ๆ แล้วฉันมาดักรอพวกนายอยู่ที่นี่ต่างหาก ♦” มือลดไพ่ลง สะบัดนิดเดียวมันก็หายกลายเป็นควันไป “พวกนายใช้เครือข่ายสมองกลจองตั๋งเครื่องบินใช่ไหมล่ะ? ไอ้นั่นน่ะใช้ลูกเล่นนิดหน่อยก็เช็กดูได้แล้วว่าใครจะไปที่ไหนเมื่อไหร่”

    “จากนั้นก็ใช้เครื่องบินส่วนตัวอ้อมมาดักหน้าก่อนที่สนามบินแล้วค่อยสะกดรอยตามมา แต่ความจริงก็พอกะได้ละนะว่าพวกนายจะมาที่นี่ ดังนั้นในฐานะรุ่นพี่ ขอเตือนพวกนายไว้ก่อน ♦”

    ริมฝีปากหยักยิ้ม มือขาวซีดสะบัดไล่อย่างไม่สนใจ


    “จะย่างเท้าเข้าสู่ชั้นนี้น่ะ— ยังเร็วเกินไป


    ยังดีที่วิงก์โผล่มาได้ทันเวลาก่อนที่คิรัวร์กับกอร์นจะดันทุรังเดินฝ่าจิตสังหารของฮิโซกะตัวเปล่า แม้จะตะขิดตะขวงใจเล็กน้อยที่คุเรฮะบอกจะรออยู่ที่นี่แต่ทั้งคู่ก็ยอมกลับไปฝึกเท็น บอกจะกลับมาให้ทันก่อนหมดเวลาลงทะเบียนตอนเที่ยงคืน

    —เหตุผลเพราะคิรัวร์เคยปฏิเสธที่จะลงทะเบียนชั้น 200 มาแล้วครั้งนึง ถ้าครั้งนี้ชวดลงทะเบียนก็จะไม่สามารถเข้าร่วมการประลองได้อีกเพราะถือว่าไร้ความประสงค์จะต่อสู้ที่ชั้นนี้

    ฮิโซกะยิ้มแผล่ นิ้วข้างนึงกระตุกบันจี้กัมยาวยืดที่ติดอยู่กับข้อมือคนตัวเล็กมาตั้งแต่แรกดึ๊ง ๆ อีกมือนึงกวาดลงบนพื้นปรากฏเป็นไพ่เรียงสวย ต่างจากก่อนหน้านี้ที่มีแต่ความว่างเปล่า


    “มาเล่นไพ่ฆ่าเวลากันเถอะสลีปปี้ ♦”

    รู้ว่าแพ้ทางไพ่มันยังจะชวนเล่น...


    คุเรฮะทำหน้าตายเหล่มอง ผู้ใหญ่ตัวโตแสร้งทำเป็นสะดุ้งโหยง “อ๊ะ ลืมไปเลยว่าสลีปปี้เล่นไพ่ไม่เก่ง งั้นฉันจะสอนทริคให้เองนะ!”

    คราวนี้เด็กสาวเลิกคิ้ว แปลกใจที่คนตรงหน้าเอ่ยปากจะสอนกลโกงไพ่ให้อย่างง่ายดายเกินไป ส่วนอีกใจนึงก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างบอกไม่ถูก

    เจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ยิ้มหยีจนกรอบตาเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว

    “แล้วเราก็มาพนันอะไรสนุก ๆ กันดีกว่า ♥”



    ดวงตาคมสวยเหลือบมองลงไปด้านล่างหน้าต่างบานยาว หนึ่งในผู้สืบทอดตำแหน่งนายเหนือหัวของตระกูลกำลังเดินออกไปจากตัวบ้านใหญ่ เดินตรงไปยังรถลีมูซีนหรูส่วนตัวที่จอดรออยู่ตรงหน้า

    กรอบหน้าที่สวมแว่นตานั่นยังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งยโสอยู่เต็มเปี่ยม

    “เซ็นจิ ...หมอนั่นจะออกไปไหนกัน”

    ฟีลกดหัวคิ้วลง น้องสาวฝาแฝดชะเง้อคอมองตามด้วยความแปลกใจไม่ต่างจากพี่สาว

    “ปกติเวลานี้จะเข้าไปหาท่านแม่ใหญ่นี่นา”

    สำหรับคนอื่นที่พี่น้องจะออกไปไหนอาจไม่ใช่เรื่องน่าสนใจ แต่สำหรับฝาแฝดฟีโอนิกซ์ที่นอกจากจะสืบข่าวฝั่งสมาคมฮันเตอร์แล้ว อีกหน้าที่นึงของพวกเธอก็คือการจับตามองพี่น้องร่วมพ่ออย่างเซ็นจิด้วย

    เพราะท่านพ่อไม่ไว้ใจลูกชายคนนี้ —แม้จะเป็นสายเลือดแท้ ๆ ของตัวเองก็ตาม


    จริง ๆ ไม่ว่าใครในตระกูลนี้ก็ไม่น่าเชื่อใจทั้งนั้น


    “ฉันจะไปรายงานท่านพ่อ” ฝาแฝดผมปลายน้ำเงินเดินหายไปอย่างรู้งาน ส่วนผู้เป็นพี่สาวจับตาดูจนรถคันสวยนั้นขับพ้นออกนอกประตูบานใหญ่ไป

    นัยน์ตาสีแดงแซมอำพันเริ่มมีความกังวลเจือจางอยู่ภายใน

    จะว่าเธอมองโลกในแง่ดีเกินไปก็ได้ ตั้งแต่เด็กจนโตเธอคิดอยากให้พวกพี่น้องสนิทสนมกันเหมือนเด็กตระกูลอื่น คอยดูแล คอยเป็นห่วง แต่ในใจก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้

    สายสัมพันธ์ของพวกเขามันเป็นรอยร้าวมาตั้งนานแล้ว


    โดยเฉพาะน้องสาวคนเล็ก คุเรฮะ


    “รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลยแฮะ...”

    หญิงสาววัยรุ่นกุมมือตัวเองบนขอบหน้าต่าง --- การที่คุเรฮะออกไปโลกข้างนอกถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในบ้านเลยก็ว่าได้ ตอนแรกที่รู้ข่าวก็ยินดีอยู่หรอก แต่พอนึกถึงสิ่งที่อาจจะเกิดตามมาก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริง ๆ

    ท่านพ่อพยายามประคองไม่ให้คุเรฮะแตกสลายมาได้ตั้งหลายปี

    หวังว่าคราวนี้ก็คงจะผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนทุกทีนะ


    พรึ่บ—!


    ปีกสีน้ำตาลเข้มของสัตว์ตัวใหญ่สะท้อนเข้านัยน์ตาสวย เหยี่ยวแดงที่เธอเลี้ยงบินตรงเข้ามาเกาะตรงบานหน้าต่างที่เปิดไว้ ฟีลหัวเราะเบา ๆ ปลายนิ้วลูบหัวเจ้าตัวเล็กของตัวเองอย่างเอ็นดู

    ตอนนั้นเองที่แววตาหม่นแสงเปลี่ยนมาร่าเริงสดใส


    ใช่ ต้องผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนทุกครั้งสิ!

    เพราะท่านพ่อไม่มีโอกาสแก้ตัวครั้งที่สองแล้วยังไงล่ะ


    —ริมฝีปากของฟีโอนิกซ์คนพี่คลี่ยิ้ม




    ตัดภาพมาที่คุเรฮะ


    “...”

    ดวงตาสีแดงแซมอำพันปรือมองผู้ชนะเกมไพ่ด้วยแววตาว่างเปล่า หลังจากพยายามงัดทริคที่นักมายากรสอนมาตีโต้ได้นานเกือบครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็แพ้ระเนระนาดอยู่ดี

    มองหน้าคนชนะที่ยิ้มกริ่มสลับกับไพ่ฝั่งตัวเองที่ดูยังไงก็ไม่ชนะแล้ว...


    ...ชิ่งหลับในซะดีไหม


    __________C H E C K M A T E__________


    ช่วงพักผ่อนหย่อนใจน่าจะมาสุดที่ตรงนี้แล้วล่ะ!

    บางครั้งที่อัพไม่ครบ 100% เป็นเพราะตรงจุดนั้นเป็นโมเม้นท์ของเรื่องหรืออาจเป็นคีย์เวิร์ดอะไรสักอย่าง อย่างเช่นในตอนนี้ ที่เฉลยว่าทำไมคุเรฮะถึงไม่ยกตำแหน่งให้พี่ชายไปง่าย ๆ (เพราะต้องสู้อย่างเดียว แล้วถ้ายอมแพ้ก็ไม่มีอะไรประกันว่าตัวเองจะรอดนั่นเองค่ะ)



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×