ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic HxH : Hunter x Hunter] CHECKMATE

    ลำดับตอนที่ #22 : Chapter 18 | อดีตฟลอร์มาสเตอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.11K
      685
      7 เม.ย. 63


    Chapter 18



    “สเตรทฟรัช~ ♥”

    มือเรียวตวัดเปิดไพ่ โพแดงห้าใบเรียงสีต่อสายตาคู่แข่ง เจ้าแห่งเกมหัวเราะในลำคออย่างเปิดเผย ยิ่งเด็กน้อยฝั่งตรงข้ามขมวดคิ้วมองไพ่สลับกันไปมายิ่งชอบใจ

    สุดท้ายจึงเปิดไพ่ตัวเองอย่างจำยอม

    “...ฟูลเฮ้าส์”


    แพ้ราบคาบ


    เจ้าของผมสีฮอตพิ้งค์ยิ้มแย้มเผื่อแผ่ไปยันดวงตา ต่างจากเด็กสาวผมดำที่หน้าตานิ่งเรียบแต่ออร่ารอบตัวอยู่ไม่สุข ฮิโซกะเท้าคางกับโต๊ะ มือข้างนึงกวาดรวบไพ่มารวมกัน

    “ดูเหมือนสลีปปี้จะไม่ถูกกับพวกไพ่นะ ♦”

    แหงล่ะ เล่นมากี่รอบก็แพ้หมดทุกรอบ

    หรือไม่ก็แค่ตามกลโกงใครบางคนไม่ทัน -- ดวงตาคมภายใต้คอนแทคเลนส์เหลือบมองเจ้ามือ นอกจากอีกคนจะไม่หลบตาหนี ยังจะยิ้มจ้องตาตอบมาอีกต่างหาก

    เธอเอ่ย

    “ลองเปลี่ยนมาเล่นหมากรุกดูไหมล่ะ”

    “เสียดายจัง พอดีฉันไม่ชอบเกมเดินหมากซะด้วยสิ ♦”

    เกมไพ่ไม่ใช่แค่อาศัยโชคช่วย มันเป็นเกมแห่งศาสตร์แห่งความน่าจะเป็นที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการเล่นไม่มากก็น้อย ยิ่งมีประสบการณ์ยิ่งได้เปรียบ

    ไม่เหมือนหมากรุกที่เน้นกลยุทธ์และแผนการ เกมที่ต้องประเมินคู่แข่งเพื่อนำทุกอย่างมาคำนวณล่วงหน้าว่าควรจะเดินหมากไปทางไหน -- ต่างจากเกมที่มีกระดาษบาง ๆ แต่โกงกันซึ่งหน้าโดยที่จับไม่ได้ว่าทำได้อย่างไร

    ลิ้นไล้เลียตรงขอบไพ่ กรอบตาสีอำพันหยีขึ้นเป็นพระจันทร์เสี้ยว

    “เกมที่ทุกอย่างเป็นไปตามความคาดหมายน่ะ สำหรับฉันมันน่าเบื่อจะตายไป ♥”

    หากคุเรฮะเป็นเจ้าแห่งหมากรุก คำนวณและเดินหน้าอย่างมีแบบแผน ฮิโซกะก็คือเจ้าแห่งไพ่ที่พร้อมโกงเพื่อความสนุกของตนในทุกสนาม คาดเดายากว่าจะไปทิศทางไหน

    เป็นคนที่บิดเบี้ยวตั้งแต่การแต่งกายลากยาวไปยันนิสัย

    คนตัวเล็กกว่าถอนหายใจก่อนจะปล่อยให้ร่างตัวเองไถลงไปกับพนักเก้าอี้ด้านหลัง เหลือแต่หัวโผล่มาบนขอบโต๊ะด้วยแววตาปลาตาย

    ปากขยับมุบมิบ “ว่าแต่...”


    “ไอ้ท้องป่อง ๆ นั่นมันอะไร?”


    ไอ้รสนิยมคลั่งสัญลักษณ์ไพ่ตามฉบับโจ๊กเกอร์นั่นยังพอเข้าใจ แต่ครั้งนี้ที่มีบอลกลม ๆ อยู่ตรงท้องอย่างผิดอนาโตมี่มนุษย์นั่น ...จะเอียงหัวซ้ายขวาหรือตีลังกามองก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

    “ไม่คิดว่ามันน่ารักเหรอ~” ฮิโซกะหัวเราะคิกคัก ทำเนียนขยับเก้าอี้มาใกล้แล้วเบ่งพุงให้ดู “นี่ไงสลีปปี้ น่าลูบไล้จะตายไป!”

    ตรง-ไหน-วะ…

    เด็กน้อยที่นั่งยืดขาให้หัวโผล่พ้นขอบโต๊ะมาหน่อยเดียวหันไปจ้องคนข้างตัว วงหน้าราบเรียบสื่อความนัยผ่านสายตาว่าถ้าเข้ามาใกล้มากกว่านี้— เธอยกขายันหน้าหงายจริง ๆ ด้วย

    ก่อนจะเลื่อนสายตามองต่ำไปยังหน้าท้องกลมที่อีกคนพยายามพรีเซนต์เต็มที่ คุเรฮะมองหน้าผู้ใหญ่สติไม่เต็มสลับกับพุงกลม ๆ ไปมา สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย มือขึ้นไปตบแปะบนสัมผัสเรียบเนียนของตัวตลกอย่างช่างแม่งกับชีวิต

    “ท้องกี่เดือนแล้วล่ะ” ดวงตาที่ตอนแรกโฟกัสกองไพ่บนโต๊ะ เหลือบตามองต่ำ “...เดาว่าสี่”

    อืม นี่ก็บ้าจี้ตามหน่อย ๆ เหมือนกัน

    สงสัยรอกอร์นกับคิรัวร์สู้จนขึ้นมาถึงชั้น 100 นานเกินไป มันเลยเบื่อจนต้องหาอะไรเบาสมองทำ โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เธอตาสว่างกลางดึกแล้วต้องออกมาเล่นไพ่กับคนข้าง ๆ

    ถ้าไม่ติดว่าตัวตลกผมสีแสบตาเสนอให้เธอเล่นเกมกับตัวเองก่อนถึงจะบอกเรื่องที่รู้เธอคงไม่มานั่งจ๋องตรงนี้หรอก

    คุเรฮะดึงมือกลับออกมา ก่อนจะชะงักเมื่อยกมือขึ้นแล้วใช้เงียวมอง ...บันจี้กัมอีกแล้วเหรอ

    นักสู้ฝีมือหาจับตัวยาก ย่อมต้องรู้อะไรมากกว่าพวกคนธรรมดาที่นี่อยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่คลั่งไคล้ในการต่อสู้อย่างฮิโซกะ มีหรือจะพลาดเรื่องฟลอร์มาสเตอร์

    (ยิ่งตอนนี้ตามตูดพวกกอร์นมาที่ลานประลองนี่อีก)

    เมื่อเลิกคิดเรื่องในหัว หันกลับมาอีกทีก็พบผู้ใหญ่ข้าง ๆ ทำทีเป็นจ้องหน้าจริงจังในระยะที่ใกล้กว่าทุกที คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างฉงนสงสัย

    “อะไร?”

    “ใส่ทำไมคอนแทค ไม่เห็นเหมาะกะสลีปปี้เลย ♣” เจ้าตัวทำเบะปากไม่ชอบใจ คุเรฮะกะพริบตาปริบ ขณะลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ดี ๆ

    “ถ้าเอาเวลาตั้งคำถามไร้สาระมาตอบคำถามฉันที่ถามไปนานแล้วจะดีมาก”

    “โธ่ ฉันจริงจังนะ ♦” นิ้วเรียวทำทีเป็นจิ้มแก้มนุ่มนิ่มจึ๊ง ๆ ให้คนโดนจิ้มมองด้วยแววตาสื่อความหมายเป็นคำด่า ถ้าเปรียบสายตาเป็นมีดได้ เขาคงตัวพรุนไปหมด “ตาสีผสมนั่นน่ะสวยสุดแล้ว”

    ร่างเล็กกลอกตาวนเป็นวงกลม “และพวกนักล่าฝีมือดีก็จะพากันมาล่าตาฉันที่นี่”

    “ปิ๊งป่อง~” ตัวตลกโปรยไพ่กระจายเหมือนถูกรางวัลที่หนึ่ง “แล้วฉันก็จะได้ของเล่นใหม่ ๆ อีกเยอะไงล่ะ!”

    “อ๊ะ แต่สลีปปี้ไม่ต้องน้อยใจนะ ถึงฉันจะมีของเล่นในสต็อกเยอะ แต่สลีปปี้ที่เป็นถึงผู้สืบทอดคราวน์น่ะในตอนนี้ฉันให้อยู่อันดับที่หนึ่งเลย♥!”


    หางคิ้วคุเรฮะกระตุกยิก

    เอ่ยเสียงเย็น “ฮิโซกะ...”

    “จ๋าจ๊ะ?”


    มือหยิบมีดสั้นออกมาถือ ใบหน้าด้านนึงถูกความมืดปกคลุม ดวงตาสีแดงเสี้ยวเรืองแสงทะลุคอนแทคเลนส์ออกมาวิบวับ


    “ถ้ายังไม่เลิกเล่น ฉันจะคว้านลูกในท้องนายออกมาเดี๋ยวนี้!”

    “อ๋า ไม่นะ หมูกระทะและชาบูของเค้า!!”



    “พอจะรู้เรื่องตอนฉันเป็นฟลอร์มาสเตอร์รึเปล่า?”

    เด็กสาวในชุดเสื้อคอเต่าทับด้วยเสื้อโค้ทยืนมองหน้าจอถ่ายทอดสดบริเวณทางเดิน คิรัวร์กำลังต่อสู้กับผู้ชายรูปร่างเพรียว แม้ไม่ได้อึดเท่าเด็กชายที่ชื่อซูชิ แต่ก็พอเห็นออร่าอ่อน ๆ ผ่านเงียวได้อยู่ การต่อสู้เลยยืดไปมากกว่าปกติ

    “...หืม”

    เสียงจากโทรศัพท์ข้างหูดังลากยาว ทิ้งทวนให้คนเปิดประเด็นเอ่ยขยายความ

    “ตั้งแต่มาที่ลานประลองกลางหาวก็ดูเหมือนจะมีหลายคนจำหน้าได้ แต่แปลก” โสตประสาทการฟังของเธอจับได้ว่าคนฟังกำลังสูดหายใจลึก “ฉันไม่เห็นจำได้ว่าเคยมา”

    “บางทีคนที่นั่นอาจจำคนผิด”

    “ถ้าหาคำแก้ตัวที่ดูดีกว่านี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ” คุเรฮะกดเสียงต่ำ “บอกเรื่องที่ฉันเป็นฟลอร์มาสเตอร์มา”


    “ง่ายเกินไปรึเปล่า”


    เชสเตอร์ที่อยู่ปลายสายหัวเราะในลำคอ น้ำเสียงคล้ายจะขบขันและเย้ยหยันในคราวเดียวกันจนน่าหงุดหงิด “อย่าลืมสิว่าตอนนี้ลูกไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะขอข่าวจากคราวน์ง่าย ๆ แล้วนะ”

    “...”

    “ในเมื่อตัดสินใจจะออกจากบ้านไปแล้ว ก็ควรสืบเรื่องที่อยากรู้ด้วยตัวเองซะ--”

    —สายถูกตัดดังปี๊บอย่างไม่ใยดี

    ร่างสูงผมสีดำแซมแดงผู้กำลังนั่งเอนหลังบนเก้าอี้บุหนังเลื่อนโทรศัพท์ออกจากหู ใบหน้าที่ทำทีเป็นขำขันในตอนแรกค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นกังวลใจ แววตาลุ่มลึกเลื่อนไปทางพ่อบ้านผมสีควันบุหรี่

    เดเรคที่กำลังรินน้ำชาชั้นดียิ้มบาง ๆ ให้เหมือนเคย

    “ยังไงนายน้อยก็ต้องรู้อยู่ดีครับ ท่านเชสเตอร์ทำได้มากสุดก็แค่ปิดหูปิดตาไม่ยุ่งเกี่ยวเท่านั้น”

    “ฉันรู้เดเรค”

    ฝ่ามือหนาของนายเหนือหัวคราวน์ลูบไปตามหัวไม้เท้า มันสั่นระริกกว่าปกติ

    นัยน์ตาสีผสมหลุบลง


    “ฉันรู้...”



    “ฉันเองก็รู้เรื่องอดีตฟลอร์มาสเตอร์ไม่มากหรอกน้า ♦”

    “แค่มีอยู่อันนึงที่ฉัน เคย สนใจ”

    “อดีตฟลอร์มาสเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา เป็นฟลอร์มาสเตอร์ลำดับที่ 21 จากทั้งหมด 21 คนในช่วงนั้น เอ... ที่ดังก็เพราะเป็นเด็กตัวนิดเดียวนี่ล่ะมั้ง ♥”

    “แต่เกือบจะทุกอย่างของเด็กคนนั้นเป็น ความลับ

    ไม่มีเบาะแสอะไรให้ตาม”

    “ข่าวและเทปวิดีโอการต่อสู้ที่ถูกบันทึกไว้ถูกลบทิ้งหมดไม่มีเหลือ”

    “ใครเป็นคนทำรู้ไหม?”



    “คราวน์ไงล่ะ ♥”



    “คุเรฮะ อ้าปากเร็ว—”

    คุเรฮะที่เพิ่งกดตัดสายพ่อไปไม่นานผงะไปด้านหลังอย่างงุนงง ก่อนจะอ้าปากรับขนมปังมากัดไว้ตาปริบ ๆ โดยมีเสียงหัวเราะของเด็กชายผมดำตั้งดังไปทั่วอย่างเอ็นดู

    “ทำหน้าน่ากลัวเชียว ฉันก็นึกว่าโมโหหิวซะอีก”

    กอร์นยิ้มกว้างขณะชูกองขนมในมือที่วิ่งโร่ไปซื้อมา คนโดนป้อนขนมปังคาปากทีเผลอกะพริบตามอง แววตาที่ดำมืดก่อนหน้านี้เลือนหายไปเหลือแค่เพียงดวงตาเอื่อยเฉื่อยตามวิสัยคนขี้เซา

    และนั่นทำให้ดวงตากลมสีเปลือกไม้ยิ้มหยีขึ้น

    เขาไม่รู้หรอกว่าใครที่คุเรฮะคุยโทรศัพท์ด้วยแล้วหน้าหงิกงอ แต่ถ้าเขาเป็นคนทำให้ท่าทีแข็งกร้าวนั่นกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ -- ก็น่าพอใจไม่น้อยเลยล่ะ

    เธอเอ่ยหลังจากกลืนชิ้นขนมปังลงคอ

    “คิรัวร์ดูสับสนนะ”

    หน้าจอถ่ายทอดสดเบนกล้องไปที่คู่อื่นเป็นสัญญาณว่าคู่ของเด็กชายผมฟูฟ่องจบลงแล้ว ชัยชนะยังเป็นของคิรัวร์จอมสับเหมือนเคย กอร์นพยักหน้ารับขณะเดินเคียงไปกับร่างสูงกว่า

    “อื้อ ตั้งแต่สู้กับซูชิมาก็เป็นแบบนี้มาตลอดเลย” เจ้าของผมสีดำตั้งเอียงคอมองคนข้างกาย สังเกตว่าพอในหัวเริ่มคิดอะไรบางอย่างคุเรฮะจะหายจากอาการง่วงนอนไปชั่วคราว

    “เห็นว่าข้องใจกับกระบวนท่าของซูชิที่เรียกมันว่า เร็น ล่ะ”

    นั่นคือสาเหตุที่ทำให้กำหนดการของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    จากแค่ฝึกฝนวิชาเพื่อต่อยหน้าฮิโซกะของกอร์น กลายเป็นพวกเขาสองคนจะตะลุยไปจนถึงยอดหอเพื่อไขข้อข้องใจความแข็งแกร่งของซูชิ ความแข็งแกร่งที่คล้ายกับพลังอันตรายไม่ต่างจากตอนถูกอิรุมิข่มขู่ด้วยคำพูดสั้น ๆ

    (ยังไงซะ เธอก็กะจะสืบเรื่องตัวเองเป็นอดีตฟลอร์มาสเตอร์ด้วยอยู่แล้วนี่นะ)

    “อือ” คุเรฮะทอดสายตามองไปข้างหน้า ครางรับในลำคอเป็นนัยว่ารับรู้


    เร็น หนึ่งในสี่มหาวิถี พื้นฐานแรกสุดของผู้ใช้เน็น

    ...คงใกล้จะถึงเวลาที่กอร์นกับคิรัวร์จะต้อง สอบภายใน เพื่อผ่านการเป็นฮันเตอร์เต็มตัวแล้วสิ การฝึกฝนเด็กรุ่นใหม่ให้รู้จักพลังแฝงในร่างกายที่คนนอกอย่างเธอไม่มีสิทธิ์เข้าไปแทรกแซง พี่สาวฝาแฝดบอกว่ามีแค่ฮันเตอร์ตัวจริงเท่านั้นที่ทำได้ซะด้วย

    ตอนนี้เท่าที่เข้าตา

    ...ก็มีแค่ครูฝึกของซูชิที่ชื่อ วิงก์ นั่นแหละ



    “เพียงแค่ไม่กี่วัน นักสู้คิรัวร์และนักสู้กอร์นก็ไต่ขึ้นมาจนถึงชั้นที่ 150 ได้เรียบร้อยแล้วค่ะ จนถึงวันนี้ชนะรวดมาแล้วเจ็ดครั้ง หรือว่าพวกเขาจะเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ยอมเสียแต้มเลย พวกเขาขึ้นได้ถึงไหนต้องติดตาม—”

    ปี๊บ!

    คนนั่งพิงขอบเตียงทำปากคว่ำ มือโยนรีโมตที่เพิ่งกดปิดโทรทัศน์ไปอีกทางอย่างไม่ใยดี “ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย ก็คนเขามีฝีมือนี่หว่า”

    คิรัวร์แหงนหน้ามองสองคนบนเตียง ภาพที่เห็นคือเจ้างูขี้เซากำลังนอนขดซบตักให้กอร์นทำผมเปียเล่น

    นับวันสองคนนี้ยิ่งเข้าขากันได้ดีกว่าครั้งแรกที่เจอ หรือเพราะกอร์นเป็นคนประเภทที่คุเรฮะแพ้ทางให้เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก เท่าที่สังเกต...ดูเหมือนคุเรฮะจะปล่อยเลยตามเลย ยังไงก็ได้ ส่วนกอร์นจะจับทางคอยดูแลญาติฝั่งคราวน์ของเขาได้ดีจนน่าหมั่นไส้


    เขานี่แหละหมั่นไส้มัน


    ตาสีฟ้าครามเหลือบไปทางขอบเตียง เห็นสมุดบัญชีสีเหลืองนวลของเพื่อนชายกางแผ่ล่อตาล่อใจ มือขาวเลยคว้ามาถือไว้แล้วโบกไปมาเรียกสายตา “ไอ้นี่อะ ขอยืมใช้หน่อยเด่ะ”

    กอร์นมองตามเสียง เลิกคิ้วสงสัย “ทำไมล่ะ คิรัวร์เองก็ได้เงินเท่า ๆ กับฉันไม่ใช่เหรอ?”

    “ก็ใช่ แต่ฉัน...ใช้หมดแล้ว

    “อะไรนะ!?”

    คิรัวร์ยิ้มแห้งแต่หน้าไม่แห้งตาม พอกอร์นร้องเสียงดังจนคนบนตักขยี้ตาตื่นเลยยกมือชี้ไปอีกทาง เป็นกล่องลังหลายสิบกล่องซ้อนทับกันเป็นชั้นสูงเกือบจะชิดเพดานห้อง

    กอร์นหันมามองเหงื่อตก

    “จะว่าไปฉันก็สงสัยมาตั้งแต่แรกแล้ว ...ไอ้นั่นมันคืออะไร?”

    “ช็อกโกโรโบ้ของโปรดฉันเอง เห็นที่นี่มีขายเลยเหมามาหมดเลย~” เจ้าแมวขาวยิ้มกระหยิ่ม ควงสมุดบัญชีเพื่อนบนนิ้วไปมาอย่างลั้ลลา

    สิบกว่าล้าน -- หายเกลี้ยงไปกับขนมนามช็อกโกโรโบ้

    คุเรฮะมองด้วยแววตาปลาตาย ขยับหัวออกจากตักกอร์นดึ๊บ ๆ อย่างรู้งาน ฝั่งเด็กชายผมดำตั้งแข็งเป็นหินไปสามวินาที ก่อนจะยกมือชี้กล่องลังด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ พร้อมพุ่งลงจากเตียงจะเอาของ ๆ ตัวเองคืน

    “มีแค่นั้นก็น่าจะพอแล้วนี่ เอาคืนมานะ!”

    “เดี๋ยวฉันใช้คืนให้น่า! อย่าทำตัวขี้งกกับเพื่อนกับฝูงเซ่!!”

    ท่ามกลางการต่อสู้ฟัด ๆ ตบ ๆ ชิงสมุดบัญชีของเจ้าหมาเจ้าแมว เจ้างูขี้เซาผู้นอนแหง่วเป็นแบ็คกราวห้องก็อ้าปากหาววอดใหญ่ ได้ยินเสียงกล่องลังล้มละเนละนาดก็ไม่คิดจะสนใจ เผลอตัวนอนสบายจนกระทั่ง—


    “แอ๊ก!”

    โดนกอร์นที่ถูกคิรัวร์จับโยนมานอนทับจนตัวแทบบี้...


    “คุเรฮ้—า!”


    ฟู่ว

    มะนาวสองลูกงาม ๆ ปูดขึ้นบนหัวเจ้าแมวขาว มีแอฟเฟ็กต์เป็นควันลอยฟุ้งบ่งบอกว่าเพิ่งผ่านการเขกมะเหงกมาไม่เท่าไหร่

    คิรัวร์พองแก้ม เกาะหลังญาติผู้พี่ที่นอนหันหน้าเข้าหากอร์นอีกด้านอย่างเจ็บแค้น

    “ไม่ยุติธรรมอะ ทำไมฉันโดนเขกหัวอยู่คนเดียว!”

    กอร์นที่นอนตะแคงหาคนตรงกลางหัวเราะคิกคักอย่างอดไม่ไหว โผล่หัวขึ้นมาแลบลิ้นให้ “ก็เพราะคิรัวร์เป็นคนเริ่มเรื่องไงเล่า คุเรฮะโดนลูกหลงไปด้วยเลยเห็นไหม”

    “ถ้านายให้ฉันยืมตังค์ไปซื้อช็อกโกโรโบ้แต่แรกคุเรฮะก็ไม่โดนทับหรอกน่า”

    “ยังไม่เลิกอีกเรอะ—!”


    “ช็อกโกโรโบ้ฟอร์เอฟเวอร์โว้ย!”


    __________C H E C K M A T E__________


    ช่วงแรกของภาคลานประลองจะเน้นที่ความสัมพันธ์รอบตัวคุเรฮะหน่อย และหลังจากนี้หมีคิดว่าอาจจะมาอัพไวขึ้นกว่าเดิม เพราะกำลังจะเปิดเทอมมหาลัยแร้ว 

    ยู้ฮู หมีกำลังจะเป็นเด็กหอล่ะ ヽ (^o^) 丿!

    ปล.สำหรับคนที่ไม่เก็ท ฟอร์เอฟเวอร์ = Forever

    สายตาคุเรฮะ : แทงมัน แทงมัน แทงมัน---



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×