ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #10 : Draco’s Secrets [ความลับของเดรโก]

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 52





                     

                     *** Chapter 10 Draco’s Secrets [ความลับของเดรโก]***

     

    แต่มันเป็นทางเดียวที่ฉันจะได้คำตอบที่ฉันต้องการ  และที่เธอต้องทำก็ไม่มีอะไรมาก  แค่เธอเปิดแขนเสื้อข้างซ้ายให้ฉันดูเท่านั้นเฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น  และจู่ ๆ ใบหน้าของมัลฟอยขาวซีดเพราะคำพูดนั้นของเธอ  เขาเลื่อนมือขวาไปกุมแขนข้างซ้ายทันที!

    เกรนเจอร์!” เด็กหนุ่มเรียกชื่อเธอออกมาขณะที่ไม้กายสิทธิ์ของเด็กสาวกำลังจ่ออยู่ที่คอของเขา  สายตาของเฮอร์ไมโอนี่เลื่อนตามมือข้างนั้นของมัลฟอยไปยังแขนซ้ายของเขา  ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาสบตาเด็กหนุ่มอย่างผิดหวัง  และนี่เป็นอีกครั้งที่เดรโกเห็นว่าดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นของเธอมีแววเจ็บปวด

    นี่สินะสิ่งที่เธอพยายามจะปิดปังฉันน่ะเด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงแปลกแปร่งราวกับเธอต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อบังคับไม่ให้เสียงของเธอสั่น 

    เธอทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาอย่างยากลำบากพอ ๆ กับการตะโกนออกมาขณะที่ลำคอของเธอแหบแห้ง  เสียงที่ออกมาจากปากของเด็กสาวจึงไม่ดังไปกว่าเสียงกระซิบเลย  แต่มัลฟอยกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนยิ่งนัก

     มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด  เกรนเจอร์เด็กหนุ่มพยายามจะอธิบายทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่ามันสายไปเสียแล้ว  เพราะเฮอร์ไมโอนี่เชื่อว่าเขาเป็นผู้เสพความตายตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเลื่อนมือขวาไปกุมแขนข้างซ้ายซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เธอรู้ดีว่ามีตรามารอยู่!

    แล้วอะไรล่ะที่เป็นความจริง!  เลิกโกหกฉันซักทีมัลฟอย!  ถ้าเธอไม่ได้เป็นแบบที่ฉันคิดจริง ๆ ทำไมเธอถึงต้องตกใจด้วยถ้าฉันจะขอดูแขนซ้ายของเธอเธอพูดออกมาอย่างมีเหตุผล  แม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะฟังดูผิดหวังอยู่มากก็ตาม  และเป็นเพราะคำพูดนั้นของเด็กสาวที่ทำให้เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา

    ก็ได้  เกรนเจอร์  ฉันจะไม่ปิดบังเธออีกต่อไปแล้วเขาพูดอย่างยอมแพ้  ถึงแม้ว่าเขาจะต้องการปกป้องเฮอร์ไมโอนี่จากความลับดำมืดของเขาเพียงใดก็ตาม  แต่มัลฟอยก็รู้ดีกว่าการทำแบบนั้นยิ่งจะเป็นการลากเธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น  เพราะเด็กหนุ่มรู้นิสัยของเด็กสาวดีว่าเธอจะไม่ยอมเลิกราจนกว่าเธอจะได้รู้ความจริงที่เขาปิดปังเธอเป็นแน่  และถ้ามัลฟอยยังคงปิดบังเธออย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่แน่ว่าความจริงที่เธอได้รู้ในวันข้างหน้ามันอาจจะเลวร้ายกว่าการที่ได้รู้ว่าเขาเป็นผู้เสพความตายไปแล้วก็เป็นได้!

    ถ้าเธอต้องการดูแขนซ้ายของฉัน  ฉันก็จะให้เธอดูมัลฟอยพูดออกมา  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างแปลกใจ  แม้ว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มกำลังจะทำนั้นเป็นสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดก็ตาม  แต่ลึก ๆ แล้วเด็กสาวก็กลัวเหลือเกินว่าความจริงที่เธอกำลังจะรับรู้นั้นมันจะเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถรับไหว

    มัลฟอยมีท่าทีอึดอัดใจอยู่ชั่วครู่  มือขวาที่กุมแขนซ้ายของเขาอยู่บีบแน่นอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่เขาจะเลื่อนมันออกจากแขนข้างนั้น  เด็กหนุ่มค่อย ๆ แกะกระดุมตรงแขนเสื้อเบา ๆ ขณะที่มัลฟอยกำลังทำเช่นนั้นอีกใจหนึ่งของเฮอร์ไมโอนี่อยากจะห้ามเขาไว้และดึงมือของเขาออกมา  แต่เด็กสาวก็ไม่ได้ทำเช่นนั้นลงไป

    มัลฟอยแกะกระดุมตรงแขนเสื้อจนครบสามเม็ดก่อนจะยื่นแขนซ้ายของเขามาให้เธอ

    สิ่งที่เธอต้องการจะดู  เกรนเจอร์เขาพูดขณะที่เฮอร์ไมโอนี่เลื่อนมืออันสั่นเทาของเธอไปจับแขนซ้ายของเขาไว้เบา ๆ เด็กสาวต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากที่จะบังคับมือของเธอไม่ให้สั่นก่อนจะใช้มันเปิดเสื้อของเขาออก!

     

    ท้องแขนข้างซ้ายของเดรโกว่างเปล่า  มีเพียงผิวขาวซีดเรียบเนียนของเด็กหนุ่มที่ปรากฏให้เห็นเท่านั้น  ไม่ได้มีตรามารอยู่ตรงนั้นแต่อย่างใด

    เฮอร์ไมโอนี่มองท้องแขนของมัลฟอยอย่างงุนงงง  ก่อนที่เธอจะเลื่อนสายตาขึ้นไปมองใบหน้าของเด็กหนุ่ม  และเห็นได้ชัดว่าดวงตาสีเงินที่มองกลับมามีร่องรอยของความเสียใจ

    ทำไม….” เธอพูดออกมาอย่างสับสน

    ทำไมอะไร  ทำไมฉันถึงไม่มีตรามารอยู่บนแขนอย่างนั้นเหรอเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่แปลกแปร่ง  มันฟังดูผิดหวังระคนเสียใจ

    มัลฟอย  ฉัน…..” เฮอร์ไมโอนี่กำลังจะพูดออกมาแต่มัลฟอยกลับขัดขึ้นเสียก่อน

    ช่างมันเถอะเขาพูดและก้าวยาว ๆ กลับไปยังที่นั่ง  เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงบนเบาะสีเข้มขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ตามไปเขาช้า ๆ

    ฉันเสียใจ  มัลฟอย  ฉัน…..” เธอพยายามจะอธิบาย  แต่เด็กสาวก็ดูเหมือนจะสูญเสียความสามารถในการพูดไปชั่วขณะเมื่อเธอสบดวงตาสีเงินที่ดูผิดหวังของเดรโก

    ฉันไม่ว่าเธอหรอก  เกรนเจอร์  ถึงยังไงพ่อของฉันก็เป็นผู้เสพความตาย  มันก็ไม่แปลกที่เธอจะคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนเขาเข้าซักวัน  โดยเฉพาะตอนที่เขาไม่สามารถมารับใช้จอมมารได้แบบนี้เด็กหนุ่มกล่าวด้วยท่าทีราวกับต้องการเย้ยหยันตัวเอง  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงบนเบาะข้าง  ๆ เขา  ดวงตาสีน้ำตาลที่เธอใช้มองเขาบอกได้ว่าเธอเสียใจมากแค่ไหนที่เธอสงสัยเขาแบบนี้ 

    เด็กสาวมือไปเพื่อแตะตัวเขา  แต่มัลฟอยกลับบัดมันออกและเบนหน้าไปอีกทางหนึ่งเสียก่อน  เพราะการกระทำนั้นของเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเจ็บจี๊ดที่อกราวกับมีใครเอามีดมากรีด!

    เดรโก  ฉันขอโทษเธอพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ  น้ำตาที่เคยเหือดแห้งกลับรื้นขึ้นมาอีกครั้ง  และเป็นเพราะชื่อต้นของมัลฟอยที่ออกมาจากปากของเฮอร์ไมโอนี่ทำให้เขาหันกลับมาสนใจเด็กสาวอีกครั้ง  สายตาของเด็กหนุ่มที่มองกลับมานั้นดูเย็นชาในตอนแรก  แต่เมื่อมัลฟอยเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้  ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที

    เกรนเจอร์เด็กหนุ่มพึมพำ  เขาดูตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าเด็กสาวเสียใจมากแค่ไหน  เดรโกดูลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เขาจะคว้าร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่มาไว้ในอ้อมแขน

    อย่าร้องเขากระซิบกับเธอ  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ซบใบหน้าของเธอกับอกของเขาพลางร้องไห้ออกมา

    ฉันขอโทษจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่ควรสงสัยเธอ  ทั้ง ๆ ที่เธอสัญญาแล้วว่าเธอจะไม่ทำร้ายฉันเธอพึมพำขณะที่เด็กหนุ่มลูบศีรษะของเธอเบา ๆ อย่างปลอบประโยน

    ฉันเองก็ผิดที่ทำตัวแปลกไป  เฮอร์ไมโอนี่เขาพูดพลางจูบแก้มเธอเบา ๆ เพื่อซับน้ำตา  ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจกับการกระทำนั้นของเขา

    หยุดร้องเถอะเขาพูดพลางจูบอีกครั้งที่แก้ม  ริมฝีปากของเด็กหนุ่มสัมผัสน้ำตาของมากมายของเธอ  และเขาก็ใช้มันเช็ดน้ำตาเหล่านั้นไปจากใบหน้าของเด็กสาว

    เธอจะยกโทษให้ฉันได้ไหมเฮอร์ไมโอนี่ถามขณะที่มัลฟอยมีสีหน้าครุ่นคิด

    ฉันไม่จำเป็นจะต้องยกโทษให้เธอ  เฮอร์ไมโอนี่เขาพูดเสียงเข้ม  สีหน้าของเด็กสาวสลดลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้นขณะที่มัลฟอยมองเธอด้วยสายตาราวกับต้องการจะพิจารณา  แต่จู่ ๆ เขาก็ยิ้ม ออกมา 

    ก็เธอไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา  แล้วฉันจะยกโทษให้เธอได้ยังไง  แต่ถ้าเธอคิดมากขนาดนั้นล่ะก็ฉันจะยกโทษให้เธอก็ได้  ถ้าเธอเปลี่ยนมาเรียกฉันว่าเดรโกแบบนี้ตลอดไปรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเด็กหนุ่ม  มันเป็นรอยยิ้มที่เด็กสาวไม่ได้เห็นมานานเหลือเกิน  และเธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะพูดว่าเธอคิดถึงมันมากพอ ๆ กับที่คิดถึงเจ้าของรอยยิ้มนั้น

    คนเจ้าเล่ห์เธอพูดก่อนจะทุบแผ่นอกของเขาแต่มัลฟอยกลับไม่รู้สึกเจ็บเลย  เด็กสาวพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม  แต่แขนแข็งแกร่งของเดรโกกลับรัดร่างของเธอไว้แน่นเกินกว่าที่เธอจะหนีเขาไปได้

    อะไรกัน  เมื่อกี๊ยังร้องไห้ซบอกฉันอยู่เลยนี่นาเขาพูดด้วยท่าทียียวน  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดง

    ที่ฉันร้องไห้ก็เพราะฉันนึกว่านายโกรธฉันต่างหากล่ะเธอตอบอย่างโกรธ ๆ

    เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยโกรธเธอนี่นา  ไม่ใช่สิฉันไม่โกรธเธอเพราะเรื่องนี้แค่นี้หรอก  แต่ฉันยอมรับว่าฉันก็น้อยใจอยู่เหมือนกันมัลฟอยพูดพลางรัดร่างที่อยู่ในอ้อมแขนให้แน่นมากยิ่งขึ้น  ใครใช้ให้เธอกล่าวหาฉันแบบนั้นกันล่ะ

    ก็ใครใช้ให้นายทำตัวแปลก ๆ แบบนี้ล่ะ  ปล่อยฉันได้แล้วเธอพยายามดิ้นให้หลุดการเกาะกุมของเด็กหนุ่ม  แต่แน่นอนว่ามัลฟอยไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่

    เรื่องอะไรล่ะก็เธอเข้ามาหาฉันก่อนนี่นา  แถมยังมาร้องไห้ซบอกฉันด้วยซ้ำเด็กหนุ่มว่าพลางหอมแก้มเฮอร์ไมโอนี่แรง ๆ ซึ่งทำเอาเด็กสาวหน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุกเสียอีก

    ปล่อยฉันนะ!” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำออกมาเบา ๆ ความกังวลทั้งหลายของเธอหายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อเธอได้รู้ว่าคนรักของเธอไม่ได้เป็นผู้เสพความตายอย่างที่เธอกลัวมาตลอด  แต่เด็กสาวก็บ่นอยู่ได้ไม่นานเมื่อเด็กหนุ่มใช่มือข้างหนึ่งของเขาจับคางของเธอไว้และรั้งใบหน้าของเธอให้เงยขึ้นสบตาเขา

    เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีวันจะปล่อยเธอง่าย ๆ  เฮอร์ไมโอนี่  ยิ่งเธอเป็นคนเข้ามาหาฉันเองแบบนี้ตอนที่ฉันกำลังคิดถึงเธอแทบแย่อย่างนี้ด้วยเขาพูดและหอมแก้มเธออีกข้าง

    เฮอร์ไมโอนี่ทำหน้าบึ้ง  มัลฟอยหัวเราะกับสีหน้าของเด็กสาว

    ฉันจะปล่อยเธอก็ได้  แต่เธอต้องสัญญาก่อนว่าจะเรียกฉันว่า เดรโก อย่างนี้ตลอดไปเขาย้ำประโยคสุดท้ายอย่างชัดเจน  พลางมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาที่ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธคำขอนั้นได้  เพราะเธอรู้ดีว่าเขาคงไม่ยอมปล่อยเธอแน่ถ้าหากเธอไม่ทำตามที่เขาต้องการ

    ก็ได้  เดรโก  ปล่อยฉันก่อนเถอะเธออ้อมแอ้มออกมา  ใบหน้าเป็นสีแดงยิ่งกว่าตอนที่ถูกเด็กหนุ่มหอมแก้มเสียอีก

    ดีมาก เขาพูดพลางจูบหน้าผากของเฮอร์ไมโอนี่อย่างแผ่วเบาก่อนจะไล้ริมฝีปากลงมาตามขากรรไกรของเธอ  มัลฟอยจูบเธอครั้งแล้วครั้งเล่าที่ใบหน้าราวกับเด็กหนุ่มต้องการถ่ายถอดความคิดถึงที่เขามีต่อเธอผ่านรอยจูบเหล่านั้น

    ไหนบอกว่าจะปล่อยฉันไงล่ะเฮอร์ไมโอนี่แย้งและเริ่มดิ้นรนในอ้อมแขนของเขา  แต่เดรโกก็รัดวงแขนของเขาเข้ากับร่างบางไว้แน่นเพื่อกันไม่ให้เธอหนีเขาไปไหน

    ฉันบอกว่าจะปล่อยเธอ  แต่ฉันไม่ได้บอกนี่นาว่าจะปล่อยเมื่อไหร่เขาพูดอย่างเจ้าเล่ห์

    นาย!” เด็กสาวจ้องเขาเขม็ง  นึกโกรธตัวเองไม่น้อยที่หลงกลเด็กหนุ่มเข้าจนได้  แต่ถึงอย่างไรความโกรธที่เธอมีก็ไม่อาจะเทียบได้กับความดีใจของเธออยู่ดี  เพราะตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่รู้แล้วว่ามัลฟอยไม่ใช่ผู้เสพความตาย  ความกังวลและความเครียดที่เธอมีมาตลอดตั้งแต่วันที่เธอเจอเขาที่ตรอกไดแอกอนนั้นดูจะมลายหายไปในพริบตา  เด็กสาวรู้สึกราวกับได้ยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก  เธอรู้สึกโล่งใจและมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและเมื่อเธอรู้สึกดีเช่นนี้ทำไมเธอจะต้องมานั่งโมโหเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาด้วยล่ะ

    ในที่สุดเฮอร์ไมโอนี่ก็หยุดดิ้น  เธอซบใบหน้าลงกับอกของมัลฟอยเบา ๆ เด็กหนุ่มดูแปลกใจกับการกระทำนั้นไม่น้อย  เขาเลิกคิ้วพลางถามขึ้น

    ไม่ดิ้นแล้วเหรอเด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา

    เธอก็รู้ว่าฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอ  เดรโกเธอพูดชื่อต้นของเขาออกมาอีกครั้ง  น่าแปลกเหลือเกินที่คราวนี้เธอพูดมันออกมาโดยไม่เขินอายเลยแม้แต่น้อย

    มัลฟอยยิ้มให้เธอ

    งั้นก็ดีแล้ว  เพราะฉันเองก็ไม่อยากเถียงกับเธอเหมือนกันเขาพูดกับเด็กสาว ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าฉันคิดถึงเธอน่ะเขาถาม  เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้า

    เธอบอกแล้ว  แต่ฉันก็ยังอยากฟังอยู่ดีเธอพูดออกมาโดยไม่ลังเลพลางมองดวงตาสีเงินของเขา

    ฉันคิดถึงเธอ  เฮอร์ไมโอนี่  คิดถึงเธอมากกว่าอะไรทั้งหมด มัลฟอยพูดออกมาก่อนจะประทับริมฝีปากของเขาลงบนริมฝีปากอวบอิ่มสีกุหลาบของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งขณะที่เด็กหนุ่มกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขนของเขา

     

    .................................................

     

    ปิดเทอมของเธอเป็นยังไงบ้างมัลฟอยถามขึ้นขณะที่เขาโอบกอดเด็กสาวไว้  มือของเด็กหนุ่มลูบแก้มเนียนของเธอเบา ๆ ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยกันในตู้ของเดรโกมาได้พักหนึ่งแล้ว

    ก็ดี  ฉันใช้เวลาส่วนมากหมดไปกับการอ่านหนังสือเธอก็รู้เฮอร์ไมโอนี่ตอบออกมา แล้วก็กังวลเรื่อง ว.พ.ร.ส.  แต่รอนบอกฉันว่า....เด็กสาวยังไม่ทันพูดจบ  มัลฟอยก็ขัดขึ้นเสียก่อน

    วีสลีย์งั้นรึ เขาพูดเสียงเข้ม  นี่เฮอร์ไมโอนี่ลืมไปได้ยังไงว่าเขาไม่ชอบให้เธอเอ่ยชื่อไอ้เพื่อนรักสองตัวนั่นของเธอต่อหน้าเขาน่ะ  โดยเฉพาะหลังจากที่พ่อของเขาถูกจับเพราะพวกมันเป็นต้นเหตุแบบนี้!

    ขอโทษเด็กสาวพูดขึ้นทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงของเขา  ทั้ง ๆ ที่ปกติเธอเองก็ไม่ชอบเรื่องที่มัลฟอยมักจะหงุดหงิดทุกครั้งเมื่อเธอเอ่ยชื่อแฮร์รี่  หรือรอนก็ตามออกมา  แต่ครั้งนี้ที่เธอยอมขอโทษเขาแต่โดยดีเป็นเพราะเด็กสาวไม่ต้องการจะทะเลาะกับเขาหลังจากเจอหน้ากันได้ไม่นาน

    ช่างเถอะเขาพูดพลางลูบแก้มเธออีกครั้ง  แต่นิ้วของมัลฟอยก็ต้องกระตุกเมื่อเฮอร์ไมโอนี่พูดประโยคต่อมา

    แล้วเธอล่ะ ปิดเทอมของเธอเป็นยังไงบ้างเด็กสาวถามพลางมองเด็กหนุ่ม  แต่เขากลับนิ่งเงียบและไม่ยอมตอบคำถามเธอ

    รอยยิ้มจากหายไปจากใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่

    บอกฉันไม่ได้สินะเธอพูด  สีหน้าดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด ฉันไม่น่าจะถามเธอเลยทั้ง ๆ ที่เธอก็บอกไว้ในจดหมายอยู่แล้วว่าเรื่องของเราจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปเฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น  มัลฟอยมองเธออย่างแปลกใจ

    ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น  เฮอร์ไมโอนี่เขาแก้  ขณะที่เด็กสาวในอ้อมแขนมองเขาราวกับต้องการจะถามว่า ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงบอกฉันไม่ได้ล่ะแต่เด็กหนุ่มกลับตอบคำถามนั้นด้วยการถอนหายใจแทน

    ฉันแค่  มีบางเรื่องที่....เดรโกพูด

    บอกฉันไม่ได้เธอต่อให้พลางเงยหน้ามองมัลฟอยอย่างหาคำตอบ

    ไม่ใช่อย่างนั้นเขารีบพูด เพียงแต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น.....มันเร็วเกินกว่าที่ฉันจะตั้งตัวได้ทัน  ทั้งเรื่องครอบครัวฉัน สีหน้าของเขาดูแปลกไปในทันทีเมื่อต้องพูดถึงเรื่องพ่อของเขาที่ถูกจับเข้าอัซคาบัน

    แล้วเธอจะบอกฉันได้ไหมว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นมันจะทำให้เรื่องของเราไม่เหมือนเดิมได้ยังไงเฮอร์ไมโอนี่ถามเบา ๆ ราวกับเธอกลัวว่าถ้ามัลฟอยได้ยินคำถามนั้นแล้วเขาจะผลักไสเธอ

    เด็กหนุ่มถอนหายใจอออกมาอีกครั้ง  สีหน้าของเขาดูหนักใจเป็นอย่างมาก

    เธอก็รู้ว่าฉันบอกเธอไม่ได้  ได้โปรดอย่าถามฉันอีกเลย  เฮอร์ไมโอนี่มัลฟอยพูดออกมา  และนี่เป็นครั้งแรกที่เขายอมขอร้องเธอ  นี่เป็นครั้งแรกที่คนอย่าง  เดรโก  มัลฟอย  ขอร้องเธอ!  และเพราะคำพูดนั้นของเขามันทำให้เด็กสาวไม่อาจถามอะไรเขาต่อได้อีกต่อไป

    เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นจากที่นั่งทันที  เธอใช้มือข้างหนึ่งแกะแขนของเด็กหนุ่มที่โอบกอดเธออยู่ออกและเดินไปที่ประตูตู้ก่อนที่เด็กหนุ่มจะทันได้รั้งตัวเธอไว้

    เฮอร์ไมโอนี่น้ำเสียงของมัลฟอยฟังดูแปลกใจ เธอจะไปไหน

    ฉันจะกลับแล้วเฮอร์ไมโอนี่ตอบออกมา  เสียงของเธอฟังดูกระด้างยิ่งนัก  มันไม่เหมือนเสียงที่เด็กสาวเคยใช้พูดกับเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย

    ฉันอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว  ถ้ารอนกับแฮร์รี่.....เธอยังไม่ทันจะพูดจบดี  มัลฟอยก็ขัดขึ้นก่อน

    ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเอ่ยชื่อพวกมันต่อหน้าฉัน!” เขาพูดไรฟันออกมา  เขาไม่ลืมไปง่าย ๆ หรอกว่าเพราะไอ้เจ้าหัวแผลเป็นนั่นทำให้พ่อเขาต้องเข้าไปอยู่ในอัซคาบันแบบนี้!

    แต่ฉันบอกเธอเป็นร้อยครั้งได้แล้วนะว่าพวกเขาเป็นเพื่อนรักของฉันน่ะเฮอร์ใมโอนี่เถียง

    แต่พวกมันเป็นศัตรูกับฉันเขาโต้ออกมาในทันที

    รวมถึงฉันด้วยใช่ไหมเด็กสาวพูดขณะที่เด็กหนุ่มมองเธออย่างอึดอัด

    เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น  เฮอร์ไมโอนี่  เธอไม่ได้ศัตรูของฉัน  แต่เธอเป็น……” จู่ ๆคำพูดของมัลฟอยก็ขาดหายไป  ราวกับเขาเองก็ยังลังเลที่จะพูดประโยคต่อมาออกไป

     

    แน่นอนว่าเฮอร์ไมโอนี่เป็นผู้หญิงที่เขารักและมัลฟอยก็รู้ว่าเธอรักเขามาก  มัลฟอยรู้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าเขาต้องการให้เฮอร์ไมโอนี่มาเป็นคนรักของเขา  เป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น!  เพียงแต่สถานการณ์ของเขาในตอนนี้มันกลับไม่สนับสนุนให้เป็นเช่นนั้น  ความจริงแล้วมัลฟอยอยากจะบอกเธอในทุกเรื่องที่เขาได้ประสบมา  เขาอยากจะกอดเธอไว้แนบอกและให้เธอจูบปลอบโยนเขา  แต่เด็กหนุ่มรู้ดีว่าเขาไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้  เพราะมัลฟอยรู้ว่าถ้าหากเฮอร์ไมโอนี่รู้ความจริงทั้งหมด  เรื่องที่เขาเป็นผู้เสพความตายรวมทั้งเรื่องที่เขากำลังวางแผนฆ่าดัมเบิลดอร์เธอคงจะโกรธเขาอย่างไม่มีวันจะให้อภัยเขาได้  และเมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะสูญเสียเธอไปตลอดกาล!

     

    มือของเดรโกเลื่อนไปกุมมือข้างหนึ่งของเฮอร์ไมโอนี่ไว้เพื่อรั้งเธอไม่ให้ออกจากตู้ไปเสียก่อน

    เธอก็รู้ว่าเธอเป็นคนที่ฉันรักเขาพูดออกมาเบา ๆ และเพราะคำพูดนั้นมันทำให้เด็กสาวปฏิเสธที่จะปัดมือเขาออก

    แล้วเธอปฏิบัติแบบนี้กับคนที่เธอรักแบบนี้หรือ  มัลฟอยเธอกลับมาเรียกนามสกุลของเด็กหนุ่มอีกครั้ง

    เธอมีความลับกับคนที่เธอรักแบบนี้หรือ  เธอสมควรจะปิดบังคนที่เธอรักอย่างที่เธอทำกับฉันอย่างนี้หรือเปล่าเธอพูดอย่างมีเหตุผล  แม้ว่าน้ำเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ฟังดูอ่อนลงแต่มันแฝงความมุ่งมั่นเอาไว้  ราวกับเด็กสาวได้ตั้งใจแล้วว่าเธอจะต้องล้วงเอาความลับจากเขาไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  เพราะเธอต้องการรู้เหลือเกินว่ามันเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเขาถึงขนาดที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่สามารถจะกลับมาเป็นแบบเดิมได้!

    มันไม่ใช่อย่างนั้น  ฉันแค่มีบางเรื่องที่ฉันบอกเธอไม่ได้จริง ๆ เฮอร์ไมโอนี่  ไม่ใช่ว่าฉันไม่ต้องการบอก  เพียงแต่......เสียงของเขาขาดหายไป

     

    เพียงแต่ฉันกลัวว่าถ้าบอกเธอไปแล้วเธอจะเกลียดฉันไปชั่วชีวิตคำพูดนั้นดังขึ้นในหัวสมองของมัลฟอย  เด็กหนุ่มมีสีหน้าเจ็บปวดกับความคิดนั้น  ราวกับมันเป็นเรื่องที่เขาหวาดกลัวมากที่สุดว่ามันจะเกิดขึ้น  เพราะสำหรับเดรโกแล้วการที่เฮอร์ไมโอนี่เกลียดเขามันเลวร้ายยิ่งกว่าที่เขาจะต้องกลายเป็นฆาตกรเสียอีก!

    เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มเงียบไป  เด็กสาวจึงถามเขาขึ้นมา เพียงแต่อะไร

    เพียงแต่ฉันมีเหตุผลของฉันว่าทำไมถึงบอกเธอไม่ได้เขาตอบ

    แล้วเหตุผลที่ว่านั่นล่ะเฮอร์ไมโอนี่ถาม  แม้จะรู้ดีว่าเธอจะได้รับคำตอบอย่างไรก็ตาม

    ฉันบอกเธอไม่ได้เด็กหนุ่มพูดออกมาในที่สุด  และในครั้งนี้เด็กสาวถึงกับต้องกำหมัดแน่นเพื่อระงับอารมณ์  รวมทั้งห้ามตัวเองไม่ให้เดินออกจากตู้นี้ไปเสียก่อน

     

    .................................................

     

    หลังจากผ่านไปราว ๆ ครึ่งนาทีเฮอร์ไมโอนี่ก็หันกลับมาหาเดรโกอีกครั้ง  เด็กสาวจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะพูดออกมา

    เธอรู้ไหมว่าที่ฉันต้องการจะให้รู้เรื่องทั้งหมดก็เพราะฉันอยากช่วยเธอเท่านั้น

    เพราะเธอบอกฉันเอง  มัลฟอย  ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันจะส่งผลให้เรื่องของเราสองคนเปลี่ยนแปลงไปจนไม่อาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้  ฉันก็แค่ไม่อยากให้เรื่องระหว่างเราจบลง  ฉันแค่อยากจะรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อช่วยเธอหาทางออกเท่านั้นเด็กสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ   แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็พยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมา  เธอเสียน้ำตามามากพอแล้วในวันนี้และเธอก็ไม่ต้องการร้องไห้ต่อหน้ามัลฟอยอีกแล้ว!

    เฮอร์ไมโอนี่พยายามจะกลั้นน้ำตาของเธออย่างสุดความสามารถ  แต่เธอก็พบว่าเธอไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้งได้เลย  และในทันทีที่น้ำตาหยดแรกไหลออกมาจากดวงตาที่แสนจะอ่อนโยนคู่นั้นของเด็กสาว  มัลฟอยก็คว้าร่างบางของเธอมาโอบกอดไว้แนบอก

    เธอไม่จำเป็นต้องช่วยอะไรฉัน  เฮอร์ไมโอนี่มัลฟอยพูดอย่างขมขื่น  นี่เธอคิดจริง ๆ หรือว่าเธอจะช่วยอะไรเขาได้  เธอนึกหรือว่าเขาจะเอาเธอไปข้องเกี่ยวกับเรื่องที่เขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้!  และเธอคิดหรือว่าเขาจะยอมให้เธอรู้ว่าเขาได้รับภารกิจในการสังหารดัมเบิลดอร์มากจากจอมมารน่ะ  เพราะถ้าเธอรู้ความลับของเขาแล้วล่ะก็เธอคงจะเกลียดเขาไปก่อนที่เขาจะได้ลงมือฆ่าดัมเบิลดอร์ด้วยซ้ำ!

    ฉันไม่ต้องการดึงเธอมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  อีกอย่างเด็กหนุ่มมองเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างแสนรัก ถึงแม้ว่าเรื่องราวของเราจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตาม  แต่มันก็ยังจะไม่จบลง  อย่างน้อย ๆ มันก็จะไม่จบลงจนกว่าเธอจะเป็นฝ่ายจบมันเองเขาพูด  เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ

    เธอหมายความว่ายังไงเด็กสาวถามอย่างแปลกใจ  ในขณะที่เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากทันทีที่นึกได้ว่าเขาไม่น่าจะพูดแบบนั้นออกไปเลย  เขาไม่น่าบอกเธอเป็นนัย ๆ เลยว่าต่อไปเธออาจจะเกลียดเขาจนไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าเขาถ้าหากเขาฆ่าดัมเบิลดอร์สำเร็จ!

    แต่เขาจะฆ่าดัมเบิลดอร์สำเร็จได้ยังไง  ในเมื่อเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มทำภารกิจนี้จากตรงไหนเลยด้วยซ้ำ!

     

    นายต้องทำสำเร็จสิ  เดรโก  นายต้องทำภารกิจที่จอมมารมอบหมายให้จนได้  แม้ว่านายจะต้องเป็นฆาตกรก็ตาม  เพราะถึงยังไงนายก็จะปล่อยให้พ่อกับแม่มาตายเพราะนายไม่ได้  และที่สำคัญนายจะให้เฮอร์ไมโอนี่รู้เรื่องนี้ก่อนที่นายจะลงมือไม่ได้  เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเธอต้องพยายามทำทุกวิธีทางที่จะขัดขวางนายอย่างแน่นอน  และเมื่อถึงตอนนั้นนายก็จะต้องสู้กับเธอตามคำทำนายที่เธอได้เห็นมา! ’

    เดรโกย้ำเตือนกับตัวเอง!  เด็กหนุ่มหลับตาลงพลางใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้บีบหว่างคิ้วเบา ๆ เพื่อระงับความเครียดซึ่งมาจากการจินตนาการถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของเขา  อนาคตที่เขาไม่ต้องการให้มันมาถึงเลยแม้แต่น้อย!!!

     

    มัลฟอย  เธอเป็นอะไรรึเปล่าเฮอร์ไมโอนี่ถามพลางมองเขาอย่างสงสัย  แต่เด็กหนุ่มกลับยกมือขึ้นโบกเบา ๆ ในเชิงว่าไม่เป็นไร

    เดรโกใช้เวลาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะลืมตาขึ้นมา  เขามองไปทางเด็กสาวตรงหน้าที่ส่งสายตาเป็นห่วงมาให้

    ที่ฉันพูดหมายความว่า  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็จะยังรักเธอ  เฮอร์ไมโอนี่  และจะรักเธอตลอดไปเขาพูดพลางใช้สองมือประคองใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา

    ฉันเองก็รักเธอ  เดรโก  ฉันเองก็จะรักเธอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเฮอร์ไมโอนี่พูดออกมา 

    มัลฟอยยิ้มให้เธอ  อันที่จริงมันเป็นรอยยิ้มที่เด็กหนุ่มใช้เย้ยหยันตัวเองมากกว่า  แต่เด็กสาวไม่ทันได้สังเกตเห็นมัน  เพราะเดรโกเชื่อว่าเฮอร์ไมโอนี่จะไม่มีวันพูดแบบนี้แน่ถ้าหากเธอรู้ว่าเขากำลังวางแผนฆ่าอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ที่เธอเทิดทูนนักหนาขณะที่เขากำลังกอดเธออยู่ในตอนนี้  แต่เด็กหนุ่มเองก็ไม่โทษเธอในเรื่องนั้น  มันก็ไม่ผิดแล้วถ้าหากเธอจะเกลียดเขาอย่างไม่มีวันให้อภัยในสิ่งที่เขากำลังจะทำลงไปนี่  ถ้าหากเขาจะโทษใครซักคนหรืออะไรซักอย่างเขาคงต้องโทษโชคชะตามากกว่า  ที่ทำให้ความรักของพวกเขาเป็นรักต้องห้ามที่ไม่มีวันเป็นไปได้  และไม่มีอะไรเป็นใจให้ความรักนี้ดำเนินต่อไปแม้กระทั่งโชคชะตาก็ตาม!

    แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็จะลองฝ่าฝืนโชคชะตาที่พวกเขารู้ดีว่ามันแทบจะไม่มีทางทำได้เพียงเพื่อความรักของพวกเขาดูซักครั้ง!

    หลังจากเงียบไปอึดใจหนึ่ง  มัลฟอยก็พูดออกมา

    ฉันก็สัญญากับเธอ  เฮอร์ไมโอนี่  ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามฉันจะไม่มีวันทำร้ายเธอเป็นอันขาดเดรโกพูดอย่างหนักแน่น  แต่ลึก ๆ แล้วเด็กหนุ่มกลับรู้สึกหนักใจเหลือเกิน  ขณะที่เด็กสาวในอ้อมแขนยิ้มให้เขา

    ฉันเชื่อเธอ  เดรโกเฮอร์ไมโอนี่พูดพลางซบใบหน้าลงบนอกของเด็กหนุ่มอีกครั้ง  และนี่เป็นอีกครั้งที่เธอได้รู้ว่าเขาสูงขึ้นมากแค่ไหนในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา  เพราะเมื่อทั้งคู่ยืนขึ้นแล้วเด็กสาวพบว่าเธอสูงแค่ไหล่ของมัลฟอยเท่านั้น

    ฉันชอบให้เธอเรียกฉันแบบนี้เขาพูดอย่างพอใจพลางใช้นิ้วม้วนปอยผมของเธอเล่น

    อันที่จริงฉันกะจะไม่เรียกเธอแบบนี้อีกแล้วเด็กสาวสารภาพ

    ทำไมล่ะ

    ก็เพราะมันเป็นชื่อที่คนรักหรือไม่ก็คนที่สนิทกันมากใช้เรียกกันน่ะสิเฮอร์ไมโอนี่พูด

    แล้วตอนนี้เรายังไม่สนิทกับพออีกรึไง  อีกอย่างเธอเองก็เป็นคนรักของฉันนะมัลฟอยพูดขณะที่เด็กสาวที่มีสีหน้าแปลก ๆ

    ฉันเองก็อยากเป็นอย่างนั้น  มัลฟอยเธอย้ำนามสกุลของเขาอย่างชัดเจน แต่ฉันก็รับไม่ได้จริง ๆ กับการที่คนรักมีความลับกับฉันเธอพูดตามตรง  เด็กหนุ่มนิ่วหน้า

    เธอเองก็เคยมีความลับกับฉันนี่  จำเรื่องยาเสน่ห์ได้มั๊ยเขาพูดด้วยน้ำเสียงที่บอกเฮอร์ไมโอนี่ว่าเขาพูดขึ้นมาเฉย ๆ มากกว่าจะยกเรื่องนี้มาตำหนิเธอ

    จริงสินะ  งั้นเธอก็คงไม่ผิดที่เธอมีเรื่องปิดบังฉันเด็กสาวพูดเมื่อนึกขึ้นได้

    เธอโกรธฉันรึเปล่ามัลฟอยถามอย่างไม่แน่ใจในท่าทีของเธอ  แต่ที่เขารู้แน่ ๆ คือเขาไม่ต้องการให้เธอโกรธเขาเลยแม้แต่น้อย

    เปล่าหรอกเฮอร์ไมโอนี่ตอบออกมาแทบจะในทันทีที่เขาถาม ฉันแค่  ช่างเถอะ  ฉันแค่กังวลเท่านั้น  แต่พอฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดฉันก็ดีใจมากแล้วเธอพูดพลางมองมัลฟอยด้วยสายตาที่บอกเขาว่าเธอหมายความตามที่พูดจริง ๆ เด็กสาวดีใจมากจริง ๆ ที่เด็กหนุ่มไม่ได้เป็นผู้เสพความตายอย่างที่เธอกลัวมาตลอด

    แต่เด็กสาวกลับไม่รู้เลยว่าคำพูดนั้นของเธอมันทิ่มแทงใจของมัลฟอยราวกับใบมีดที่คมกริบ

    เธอกังวลมากขนาดนั้นเลยเหรอว่าฉันจะเป็นผ้เสพความตายน่ะเขาถามด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ

    ต้องใช้คำว่ากลัวมากกว่า  ฉันสารภาพว่าฉันกลัวมาก  เพราะฉะนั้นฉันจึงต้องบังคับเธอด้วยวิธีนี้ไงล่ะเธอบอกพลางมองไปที่แขนซ้ายของเด็กหนุ่ม แต่ฉันดีใจมากที่เธอไม่เป็นอย่างที่ฉันกลัวน่ะเธอยิ้มบาง ๆ ให้เขา  แต่มัลฟอยไม่ยิ้มตอบ

    และถ้าฉันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เธอจะทำยังไงเดรโกถามขึ้นขณะที่เฮอร์ใมโอนี่ขมวดคิ้ว

    เธอหมายความว่ายังไง

    ฉันแค่ถามเฉย ๆ น่ะ  ช่างมันเถอะเด็กหนุ่มพูดตัดบท  เขาไม่ต้องการรู้จากปากของเธอหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อเธอพบว่าเขาได้เป็นผู้เสพความตายไปแล้ว  เพราะแค่ดูจากสีหน้าของเฮอร์ไมโอนี่  มัลฟอยก็พอจะเดาออกว่าเธอจะผิดหวังและเสียใจมากแค่ไหนกับความจริงอันนี้

    เด็กสาวมีสีหน้าแปลกใจ

    เธอกำลังจะบอกอะไรฉันหรือเปล่า  มัลฟอยเธอถาม  แน่นอนว่าเฮอร์ไมโอนี่สังเกตุท่าทีลำบากใจของเขาได้ไม่ยาก

    ไม่มีอะไร  เฮอร์ไมโอนี่  อีกอย่างเขาพูดพลางวางมือลงบนไหล่ของเด็กสาว ฉันบอกแล้วไงว่าให้เรียกฉันว่าเดรโกเขายิ้มเจ้าเล่ห์เพื่อกลบเกลื่อนทุกอย่าง  เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้งขึ้นมาทันที

    ไม่!  ฉันจะไม่เรียกชื่นต้นของเธอ  มัลฟอย  จนกว่าเธอจะยอมเล่าความจริงทุกอย่างให้ฉันฟัง  จนกว่าเธอจะเลิกปิดบังอะไร ๆ ฉันซักทีเด็กสาวบอกเสียงเข้ม 

    เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เขาพูดออกมา

    ถ้าอย่างนั้นฉันก็ทำให้เธอไม่ได้เช่นกันเธอพูดอย่างหนักแน่น  เดรโกถอนใจออกมา

    ตกลง ไม่เรียกว่าเดรโกก็ได้เด็กหนุ่มพูดพลางมองหน้าเธอ เพราะไม่ว่าเธอจะเรียกฉันว่าอะไร  เธอก็รักฉันอยู่ดีมัลฟอยพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

    หลงตัวเอง!” เด็กสาวโต้กลับมาเบา ๆ

    หรือเธอจะปฏิเสธว่าเธอไม่รักฉันหรือ  เฮอร์ไมโอนี่เขาพูดด้วยท่าทีเป็นต่อก่อนจะค่อย ๆ ไล้นิ้วโป้งลงบนแก้มเนียนของเธออีกครั้งขณะที่มือหนึ่งของเขาคว้าเอวเธอเอาไว้  มัลฟอยก้มลงไปจูบเธอเบา ๆ ที่ริมฝีปาก  เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นมาทันที  เธอพยายามผลักเขาออกห่าง

    ปล่อยฉันเถอะ  ฉันต้องไปแล้วเธอพูดขึ้นมา  ขณะที่มัลฟอยถอนใจออกมาเป็นครั้งที่ร้อย

    กลัวเจ้าเพื่อนรักของเธอสงสัยสินะว่าทำไมเธอถึงหายไปนานขนาดนี้เขาพูดพลางจ้องมองเธอด้วยแววตาเฉียบคมแต่ยังไม่ยอมปล่อยเด็กสาวออกจากอ้อมแขน

    นายก็รู้เหตุผลของฉันดีแล้วนี่เพราะฉะนั้นปล่อยฉันได้แล้ว  อีกอย่างนายก็คงไม่อยากให้ยายแพนซี่เข้ามาเห็นฉันอยู่ในตู้นี้กับนายหรอกนะ  มัลฟอยเธอพูดอย่างมีเหตุผล  และคราวนี้เด็กหนุ่มจึงจำเป็นต้องปล่อยเธอแต่โดยดี

    เธอคงดีใจสินะที่ได้กลับไปร่วมงานกับวีสลีย์น่ะเขาพูด  ขณะที่เด็กสาวมองเขาอย่างแปลกใจ

    เธอก็รู้นี่นาว่าฉันอยากทำงานกับเธอมากกว่าเฮอร์ไมโอนี่พูดตามตรง  ขณะที่มัลฟอยทำหน้าราวกับจะพูดว่า ขอให้มันจริงเถอะ

    หรืออย่างน้อยนายก็อยากทำงานกับฉันเหมือนเดิมใช่ไหม  ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดเด็กสาวพูดพร้อมกับยิ้มให้เขา  เธอพยายามไม่สนใจกับท่าทีประชดประชันของเขา  แต่เด็กหนุ่มกลับไม่ตอบอะไรออกไป 

    ถ้าปกติแล้วเขาต้องอยากร่วมงานกับเธอตามเดิมอย่างแน่นอน  เพราะนั่นหมายความว่าเขาจะได้มีเวลาอยู่กับเธอสองต่อสองมากขึ้น  แต่ในครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ แล้ว  มัลฟอยยอมรับว่าเขาดีใจไม่น้อยที่อาจารย์เปลี่ยนให้พรีเฟ็คบ้านเดียวกันกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง  เพราะไม่อย่างนั้นมันคงเป็นการยากสำหรับเขาที่จะซ่อนความลับของเขาให้พ้นจากสายตาของเฮอร์ไมโอนี่

    ฉันว่าวีสลีย์น่าจะดีใจมากกว่านะที่ได้กลับมาคู่กับเธอน่ะมัลฟอยพูด  เด็กสาวขมวดคิ้ว

    เธอหมายความว่ายังไงเฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยสีหน้างุงนงง  และเพราะท่าทีของเธอมันเลยทำให้เด็กหนุ่มเดาได้ว่าเธอไม่รู้เลยซักนิดว่ารอน  วีสลีย์คิดกับเธอยังไง

    เปล่าไม่มีอะไรหรอกเดรโกพูดออกมา  เขาไม่ต้องการบบอกเธอหรอกว่าจริง ๆ และไอ้หน้ากระเขรอะวีสลีย์  เพื่อนรักของเธอที่เป็นศัตรูของเขาอาจจะคิดอะไรมากกว่าเธอเกินเพื่อน  ซึ่งมันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วตอนที่วีสลีย์พยายามจะทำร้ายเขาเนื่องจากเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้เพราะเธอบังเอิญไปเห็นเขาจูบกับแพนซี่ตรงระเบียบทางเดิน  รวมทั้งอีกนับครั้งไม่ถ้วนที่ไอ้หัวแดงนั่นพยายามจะฆ่าเขาเพียงแค่เขาพูดจาดูถูกเธอเท่านั้น

    เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยสีหน้าสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง  แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา

    ฉันต้องไปแล้วจริง ๆ มัลฟอยเธอพูดขึ้นมา  สีหน้าของมัลฟอยสลดลงเล็กน้อย  แต่มันยังคงไว้ซึ่งความเรียบเฉย

    งั้นก็ไปเถอะเขาตอบเรียบ ๆ แต่มือหนึ่งของเด็กหนุ่มกลับคว้าร่างของเด็กสาวไว้และจูบเธอที่หน้าผากเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับพูดว่า ฉันรักเธอ

    ใบหน้าของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นสีอีกครั้ง  เธอทำได้แค่พึมพำตอบกลับมาว่า

    แล้วเจอกัน เด็กสาวพูด  มัลฟอยพยักหน้าให้เธอที่เธอก่อนจะออกจากตู้ไป

     

    .................................................

     

    หลังจากแน่ใจว่าร่างของเฮอร์ไมโอนี่ลับประตูตู้ไปแล้ว  เดรโกก็ทรุดกายลงบนเบาะสีเข้ม  มือขวาของเขาเลื่อนไปที่แขนข้างซ้าย  เด็กหนุ่มหลับตาลงพร้อมกับพึมพำคาถาในใจ

    และจู่ ๆ ตรามารก็ปรากฏขึ้นมาบนท้องแขนของเขาอีกครั้ง  รอยสักรูปหัวกะโหลกที่มีลิ้นเป็นงูนั้นราวกับจะหลอกหลอนเขาทุกครั้งที่เขาจ้องมองมัน  มัลฟอยรีบติดกระดุมแขนเสื้อทันทีและดึงเสื้อลงเพื่อซ่อนมันออกจากสายตาของใครก็ตามที่อาจจะเข้ามาในตู้นี้โดยที่เขาไม่รู้ตัว

    นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเด็กหนุ่มที่เขารู้สึกดีใจที่พ่อสอนเวทย์มนตร์มืดให้เขารวมไปถึงการใช้เวทย์มนตร์โดยไม่ต้องใช้ไม้กายสิทธ์อันนี้ด้วย  พอ ๆ กับที่ป้าเบลลาทริกซ์ของเขาสอนวิธีซ่อนตรามารให้แก่เขา  แม้ว่ามันจะเป็นเวทย์มนตร์ขั้นสูงไปบ้างก็ตาม  แต่มัลฟอยก็คิดว่าเขาใช้มันได้ดีทั้งสองอย่าง  เพราะอย่างน้อยเขาก็สามารถทำให้เฮอร์ไมโอนี่เชื่อได้ว่าเขาไม่ได้เป็นผู้เสพความตายไปซักระยะหนึ่ง  และที่เขาทำลงไปทั้งหมดนี่ก็เพราะเขาต้องการปกป้องเธอ  เหมือนกับตอนที่เขาใช้เวทย์มนตร์โดยไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์ลบชื่อของเด็กสาวออกจากรายชื่อกองทัพดัมเบิลดอร์ตอนปีห้า  เพื่อไม่ให้เธอต้องโดนไล่ออกจากโรงเรียนในตอนนั้น

    มัลฟอยหลับตาลงพลางพิงศีรษะเข้ากับเบาะกำมะหยี่  เด็กหนุ่มรู้สึกโล่งอกและหนักใจไปในคราวเดียวกัน  เพราะถึงเขาจะสามารถซ่อนความลับดำมืดของเขาจากเฮอร์ไมโอนี่ได้ในครั้งนี้  แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะปิดบังเธอได้ทุกครั้งไป  โดยเฉพาะคนฉลาด ๆ อย่างเธอคงจะค้นพบสิ่งที่เขาพยายามจะปิดบังจากเธอได้ไม่ยาก  และเมื่อถึงตอนนั้นเธอก็คงจะเกลียดชังเธอไปตลอดชีวิต! 

    และเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้มัลฟอยต้องพยายามปิดบังความลับของเขาอย่างสุดความสามารถ  อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะทำภารกิจที่เขาจอมมารมอบหมายให้ได้สำเร็จ

     แต่เมื่อถึงตอนนั้น  ถ้าเขาสามารถสังหารดัมเบิลดอร์ได้สำเร็จแล้วและความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมา  เมื่อถึงวันนั้นเฮอร์ไมโอนี่จะเกลียดชังเขามากแค่ไหนเด็กหนุ่มไม่สามารถเดาได้เลย

     

     

    *************************************************

     

    คุยกันหลังอ่านนะคะ

    ขอโทษจริง ๆ นะคะที่หายนานมากกว่าจะมาอัพตอนนี้ได้  พอดีช่วงนั้นพิกกำลังสอบน่ะค่ะแล้วใครที่เรียนมหาลัยแล้วก็น่าจะรู้ว่ามันเวลาสอบไฟนอลแต่ล่ะมีมันนรกแค่ไหน  แต่เอาเถอะนะมันผ่านไปแล้ว

    มาอัพตอนที่ 10 แล้วนะคะ  ใครที่ลุ้นว่าเฮอร์มี่จะรู้ความจริงเรื่องเดรโกเป็นผู้เสพความตายคงจะโล่งอกไปตาม ๆ กันใช่มั๊ยค่ะ  แต่อย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ  เพราะยังมีอุปสรรคมากมายรอทั้งสองอยู่แน่นอนค่ะ  สำหรับเรื่องที่จะอัพต่อไปคือ ทาสหัวใจ นะคะ  จะลงให้ไม่วันนี้ค่ำ ๆ ก็พรุ่งนี้เช้านะคะเด๋วเราขอจัดการเซ็นเซอร์ฉากที่ไม่เหมาะสมออกไปก่อนนะคะ  แล้วสำหรับฟิคเรื่องต่อไปที่จะอัพ  อืม ถ้าอยากอ่านเรื่องไหนก็ขอ ๆ กันเข้ามานะคะ  จะอัพให้ตามที่ขอ [แต่ตอนนนี้กำลังปั่น MY TEAR อยู่นะคะ  แฟนเรื่องนี้อดใจรอแป๊ปนะคะ]

    สำหรับเวลาที่ใช้ในการอัพฟิคต่อไปนั้น  เราอยากจะบอกว่าเขาจะพยายามมาอัพทุกสัปดาห์นะคะ  โดยจะพยายามอัพเรื่องหลัก  ๆ ที่เขาแต่ง คือ ทาสหัวใจ  รักต้องห้าม และ Made of Honor ทุก ๆ เรื่องละ 1 ตอนต่อ 1 สัปดาห์ค่ะ  ส่วนเรื่องรอง ๆ อื่น ๆ ที่ไม่ได้โพสไว้ที่เด็กดีนี่อาจจะอัพช้ากว่านั้นนิดหน่อยนะคะ ขึ้นอยู่กับเวลาของคนเขียนค่ะ  ยังไงขอให้เข้าใจนิดนึงนะคะว่าเรามีฟิคอยู่ในมือหลายเรื่องจริง ๆ และเราก็ไม่อยากเขียนไปส่ง ๆ ด้วยค่ะ  กลัวไม่สนุกแล้วจะผิดหวังกันน่ะค่ะ

    สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่า  ชอบไม่ชอบตอนนี้  หรือคิดยังไง  เข้ามาคุยกันนะคะ  แล้วพบกันอีกครั้งพร้อม  ทาสหัวใจ  ตอนที่ 17 ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×