ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักต้องห้ามระหว่างเฮอร์ไมโอนี่กับมัลฟอย ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #11 : Harry is injured [การบาดเจ็บของแฮร์รี่]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.81K
      99
      13 พ.ค. 55


    คุยกันก่อนอ่านนะคะ

     

    เอาตอนที่ 11 มาลงให้แล้วนะคะ  ไม่รู้ว่านักอ่านจะยังอยู่กันไหม  พิกขอโทษนะคะที่หายไปนาน ขอโทษจริง ๆ ค่ะ  แต่ตอนนี้กลับมาแล้วนะคะ  แล้วสัญญาว่าจะพยายามอัพฟิคทุกเรื่องให้จบค่ะ  อ้อ  ส่วนเรื่องรักต้องห้าม ภาค 2 นี้แม้ว่าจะอ้างอิงมาจากหนังสือเล่ม 6 ก็ตามนะคะ  แต่ว่าเนื้อความก็ไม่ได้เหมือนกับในหนังสือเปะ ๆ นะคะ พิกหมายความว่าบางฉากที่มีในหนังสือเช่นฉากที่แฮร์รี่ รอน เฮอร์ไมโอนี่คุยกันพิกมีการดัดแปลงคำพูดและสถาณกรณ์บ้างเล็กน้อยนะคะ  เพื่อจะได้ไม่ดูเหมือนลอกหนังสือมาทั้งหมด  ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะส่วนรูปข้างล่างพิกเอามาให้ดูขำ ๆ ค่ะไม่ได้ทำเองนะคะแต่เซฟมาจากเน็ตค่ะ ^^

     

    ***Chapter 11 Harry is injured [การบาดเจ็บของแฮร์รี่]***

     

    เฮอร์ไมโอนี่กลับไปที่ตู้ของเธอในเวลาต่อมาและพบว่ารอนกลับมาที่ตู้แล้ว  เขากำลังนั่งอยู่ที่เบาะข้างแฮร์รี่  ขณะที่เนวิลล์กับลูน่านั่งอยู่บนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

     เธอกลับมาช้าจัง  ไปเดินตรวจถึงไหนมาน่ะ  รอนถามเธอขณะที่ในมือกำลังกำเยลลี่เม็ดทุกรสอยู่

    ฉันไปแถวท้ายขบวนมาด้วยน่ะเด็กสาวหลบตาเพื่อนรักขณะตอบ

    แล้วเธอเจอมัลฟอยบ้างไหมแฮร์รี่ถามขึ้น  เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองเขา

    เธอว่าอะไรนะ

    ฉันถามว่าเธอเจอมัลฟอยบ้างไหม  ก็เขาน่าจะอยู่ที่ตู้ท้ายขบวนนี่นา  อีกอย่างฉันได้ยินจากรอนมาว่าเขาไม่ได้ไปที่ตู้พรีเฟ็คเด็กหนุ่มผมดำอธิบาย  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่จ้องเขาด้วยสายตาที่เกือบจะเรียกได้ว่าเอือมระอา

    นี่เธอยังไม่เลิกคิดอีกเหรอว่ามัลฟอยเป็นผู้เสพความตายน่ะ  ฉันคิดว่าเธอหมกมุ่นเรื่องของเขาเกินเหตุแล้วนะแฮร์รี่เด็กสาวพูดเสียงแหลม  เธอพยายามทำท่าทีจริงจังเพื่อกลบอาการประหม่าของตัวเอง  และเมื่อดูจากท่าทีของแฮร์รี่แล้วเฮอร์ไมโอนี่แน่ใจว่าเขาไม่รู้สักนิดว่าเธอมีเรื่องปิดบังเขาอยู่

    ฉันไม่ได้หมกมุ่นนะ เฮอร์ไมโอนี่  ฉันแค่......แฮร์รี่ตั้งท่าจะอธิบาย  แต่ประตูตู้ของพวกเขาก็เปิดออกเสียก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น  แล้วที่ยืนอยู่ตรงหน้าตู้ของพวกเขาก็คือเด็กหญิงคนหนึ่งที่เฮอร์ไมโอนี่จำได้ว่าเธออยู่ปีสาม  เธอสีผมสีบลอนด์เข้มและมีท่าทีประหม่า

    ฉันต้องส่งนี่ให้เนวิลล์  ลองบัตท่อมกับแฮร์รี่  พอตเตอร์ค่ะเธอพูดพร้อมกับหอบหายใจและยื่นจดหมายที่มีริบบิ้นสีม่วงผูกอยู่จำนวนสองม้วนมาให้เพื่อนของเธอ  แฮร์รี่และเนวิลล์รับมันมาอย่างงุนงง  และเมื่อพวกเขาแกะมันออกเขาก็พบว่ามันเป็นบัตรเชิญจากศาสตราจารย์ซลักฮอร์น  อาจารย์ใหม่ที่แฮร์รี่เคยเล่าให้เธอฟัง

    หลังจากผ่านช่วงเวลาที่งุนงงไปแล้ว  แฮร์รี่และเนวิลล์ก็ตัดสินใจไปตามคำเชิญนั้น  แต่ก่อนที่ทั้งสองจะออกไปจากตู้รถไฟ  เด็กหนุ่มผมดำก็นึกขึ้นได้และหันกลับมาหยิบผ้าคลุมล่องหนไปด้วย

    เธอจะทำอะไรน่ะ  แฮร์รี่เฮอร์ไมโอนี่ถามเสียงเข้ม  เมื่อเห็นเพื่อนรักซุกผ้าคลุมล่องหนไว้ในเสื้อคลุม

    ฉันจะเอาผ้าคลุมล่องหนไปด้วย  เผื่อฉันจะได้เห็นมัลฟอยตอนที่เดินผ่าน  ดูว่าเขาทำอะไรอยู่แฮร์รี่ตอบตามตรง

    เธอจะไปสอดแนมเขาเหรอ  เธอยังไม่เลิกคิดอีกเหรอว่าเขาอาจเป็นผู้เสพความตายน่ะเด็กสาวพูดเสียงแหลม  ในใจของเธออยากจะตะโกนบอกเขาเหลือเกินว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่แฮร์รี่คิด  เพราะเธอเห็นแขนซ้ายของเขามาแล้วกับตา  และมันก็ปราศจากตรามาร  แต่เธอรู้ดีว่าเธอไม่อาจพูดอะไรเช่นนั้นออกไปได้

    ฉันเชื่อในสิ่งที่เห็น  และฉันคิดว่ามันเป็นไปได้ที่มัลฟอยจะเป็นผู้เสพความตายแฮร์รี่พูดอย่างหนักแน่น

    ฉันว่าเธอคิดไปเองทั้งนั้น  แฮร์รี่  เธอแน่ใจว่าเขาเป็นผู้เสพความตาย  แล้วเธอมีอะไรที่พิสูจน์ไหมว่าเขาเป็น  หรือว่าเธอจะเอาผ้าคลุมล่องหนนี่ไปแอบดูตรามารตรงแขนเขางั้นเหรอเธอพูดออกไปก่อนที่จะทันได้คิด  แฮร์รี่มองเธออย่างไม่พอใจ

    ฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันทำได้เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้  อีกอย่างเธอแน่ใจได้ยังไงว่าเขาไม่ได้เป็นผู้เสพความตายแทนพ่อของเขาน่ะ  เธอเคยเห็นแขนของเขาแล้วหรือไงเด็กหนุ่มโต้  และคราวนี้เฮอร์ไมโอนี่ถึงกับพูดไม่ออก  เธอไม่อาจบอกเพื่อนรักถึงสิ่งที่เธอเห็นได้จริง ๆ

    ทั้งสองจ้องหน้ากันอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งรอนเป็นฝ่ายเข้ามาห้ามทัพ

    เฮ้  พวกเธอสองคนคงไม่ทะเลาะกันเองเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม  พวกเธอคิดว่ามัลฟอยมีค่าพอให้พวกเราเถียงกันงั้นเหรอรอนพูดขึ้น  และราวกับคำพูดนั้นเตือนสติเด็กทั้งสอง  แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยแววตาที่อ่อนลง  ราวกับเขาเพิ่งรู้สึกผิดในสิ่งที่พูดออกไป

    เฮอร์ไมโอนี่  ฉัน........

    ช่างมันเถอะแฮร์รี่  รอนพูดถูกแล้ว  เราไม่ควรจะเถียงกันเพราะเรื่องนี้  อีกอย่างเธอกำลังจะไปหาอาจารย์สายนะเด็กสาวอ้อมแอ้มออกมาพลางหลบตาเพื่อนรัก  แต่สายตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่ผ้าคลุมล่องหนในมือเขาแทน  และดูเหมือนว่าแฮร์รี่จะสังเกตเห็นสิ่งนั้น

    ฉันรู้ว่ามันอาจจะฟังดูไร้สาระสำหรับคนอื่น  แต่ฉันคิดว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ ๆ ที่ทำให้มัลฟอยทำตัวแปลก ๆ แบบนั้น  และฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไรแฮร์รี่พูด  และคำพูดของเขาก็กระทบใจดำของเฮอร์ไมโอนี่เข้าอย่างจัง  แม้ว่าเด็กสาวจะไม่เห็นด้วยที่แฮร์รี่คิดว่ามัลฟอยเป็นผู้เสพความตาย  แต่ในตอนนี้เขาก็กำลังคิดเหมือนกับเธอทุกอย่าง  รวมทั้งกำลังค้นหาความจริงเช่นเดียวกับเธอ

    งั้นก็ตามใจเธอแล้วกัน  แฮร์รี่เฮอร์ไมโอนี่พูดเพียงเท่านั้น  เด็กหนุ่มผมดำพยักหน้าให้เธอเบา ๆ ก่อนที่จะเขาจะเดินออกจากตู้ไป  แต่เด็กสาวไม่รู้เลยว่าเธอจะไม่ได้เห็นเพื่อนรักของเธออีกเลยตลอดการเดินทางกลับฮอกวอตส์ในครั้งนี้

     

    .................................................

     

     

    อีกสองชั่วโมงต่อมาเนวิลล์กลับมาจากการไปพบศาสตราจารย์ซลักฮอร์นตามเพียงลำพังโดยไม่ได้มีแฮร์รี่กลับมากับเขาด้วย  เมื่อเฮอร์ไมโอนี่ถามเนวิลล์ถึงเพื่อนรักของเธอ  เด็กสาวก็ได้รับคำตอบว่าแฮร์รี่แยกไปที่อื่นหลังจากพบอาจารย์เสร็จแล้ว  และเมื่อเนวิลล์พูดถึงตรงนั้นทั้งรอนกับเฮอร์ไมโอนี่ต่างก็มองหน้ากัน  เด็กทั้งสองรู้ดีว่าแฮร์รี่จะไปที่ไหนต่อจากนั้น  แต่ดูราวกับพวกเขาจะเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ใด ๆ ที่จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก  ดังนั้นแทนที่ทั้งสองจะมาโต้เถียงกันเรื่องที่แฮร์รี่น่าจะอยู่ที่ตู้สลิธีรินในตอนนี้หรือไม่  รอนกลับหันไปชวนเนวิลล์คุยเรื่องฤดูร้อนที่ผ่านมาแทนส่วนเฮอร์ไมโอนี่นั้นก็เอาหนังสือเรื่องการแปลงร่างขั้นสูขึ้นงมาอ่าน  ใบหน้าของเด็กสาวจมอยู่ในหนังสือขณะที่รอนกำลังคุยกึงการฝึกซ้อมควิดดิชของเขาในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาอย่างออกรส

    หลายชั่วโมงผ่านไปเมื่อความมืดเริ่มโรยตัวปกคลุมภายนอกได้ไม่นานนักทิวทัศน์ที่คุ้นเคยก็บอกให้เด็ก  ๆ รู้ว่าพวกเขากำลังจะเดินทางถึงฮอกวอตส์ในอีกไม่ช้าแล้ว  เมื่อเป็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงปิดหนังสือและเก็บมันไว้ในกระเป๋าพร้อมกับหยิบเป้ของเธอขึ้นมา

    นี่เธอจะไปไหนน่ะ รอนที่กำลังเคี้ยวขนมอยู่ถามเธอเมื่อเด็กสาวยืนขึ้น

    ฉันก็จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าน่ะสิ  หรือเธอจะให้ฉันเปลี่ยนที่นี่หรือโรนัลด์ เธอพูดไปตามความเคยชินแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเด็กสาวเห็นรอนหน้าแดงเพราะคำพูดของเธอ [ส่วนลูน่านั้นเดินไปคุยที่ตู้อื่นเรียบร้อยแล้ว]

    เอ้อ  ไม่หรอก  เธอไปเถอะ เขาอ้อมแอ้มพลางเคี้ยวขนมต่อ  เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วกับใบหน้าที่แดงจนใกล้เคียงกับสีผมของเด็กหนุ่มก่อนจะบอกรอนกับเนวิลล์ว่าพวกเขาก็ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วและเธอก็เดินออกจากตู้ไป

    ขณะเดินไปที่ห้องน้ำเด็กสาวยกนาฬิกาขึ้นมาดูแล้วก็พบว่ามันบอกเวลาทุ่มกว่า  อันที่จริงแฮร์รี่ควรจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วเพราะพวกเขากำลังจะถึงฮอกวอตส์ในอีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว  แต่เธอก็ยังไม่เห็นเงาของเพื่อนสนิทแต่อย่างใด  และเพราะเหตุผลประการทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนรักขึ้นมาอย่างประหลาดจนเธอเกือบจะไปตามหาเขาที่ตู้สลิธีรินเสียแล้ว  แต่เด็กสาวก็ห้ามตัวเองไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะได้ทำเช่นนั้นลงไปจริง ๆ

    เราอาจจะคิดมากไปเองก็ได้  มันคงไม่มีอะไรหรอกน่า เธอคิดพลางเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

     

    หลังจากที่เฮอร์ไมโอนี่เปลี่ยนมาใส่ชุดนักเรียนของฮอกวอตส์เรียบร้อยแล้วเธอก็เดินกลับมาที่ตู้และพบว่าทั้งรอนและเนวิลล์ต่างเปลี่ยนมาสวมเครื่องแบบนักเรียนแล้ว  และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือแฮร์รี่ยังไม่ได้กลับมาที่ตู้

    เด็กสาวเลื่อนบานประตูเข้ามานั่งเงียบ ๆ เธอไม่ได้ถามอะไรออกไปแต่สายตาของเธอเอาแต่มองอยู่ที่ประตูกระจกเพื่อรอเพื่อนรักของเธอกลับมา

     

    .................................................

     

    หลังจากรถไฟเข้าจอดเทียบชานชาลาที่สถานีฮอกมีตส์แฮร์รี่ก็คงยังไม่กลับมา  อันที่จริงเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าจะไปตามหาเขาแต่รอนห้ามเธอไว้ก่อนพลางบอกว่าเขาคงจะลงไปที่ชานชาลาแล้ว  เพราะแฮร์รี่ไม่มีเหตุผลใดที่จะอยู่บนรถไฟต่อไปในเมื่อรถเข้าเทียบชานชาลาแล้วแบบนี้  และดูเหมือนว่านี่เป็นครั้งแรกที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นด้วยกับรอนเธอจึงลงไปที่ชานชาลากับเขา  แต่เด็กสาวกลับไม่พบแฮร์รี่ในตอนที่พวกนักเรียนต้องนั่งรถที่ลากด้วยเธสตรอลไปยังปราสาท  อันที่จริงเฮอร์ไมโอนี่และรอนไม่เห็นแม้กระทั่งเงาของแฮร์รี่เลยจนกระทั่งถึงงานเลี้ยงต้อนรับเปิดเทอมหลังจากการคัดสรรจบลงไปแล้ว

    และภาพแรกที่เฮอร์ไมโอนี่เห็นเพื่อนรักของเธออีกครั้งก็คือตอนที่เขาเดินเข้ามากลางงานเลี้ยงในชุดไปรเวท และมีเลือดเปรอะไปทั่วหน้า

    เด็กสาวยกมือขึ้นปิดปากเมื่อเธอเห็นว่าเลือดเหล่านั้นเป็นเลือดของแฮร์รี่เอง ขณะที่เด็กหนุ่มผมดำนั่งลงข้าง ๆ รอน

    นายไปไหนมา ให้ตาย ไปทำอะไรกับหน้ามาน่ะ รอนร้อง ขณะที่แฮร์รี่ทำหน้างง ๆ ราวกับเขาไม่รู้จริงๆ ว่าหน้าตาของเขาดูแย่แค่ไหน  แถมยังถามอีกว่ามีอะไรผิดปรกติ

    ก็มีเลือดเปรอะไปทั่วเลยน่ะสิ เฮอร์ไมโอนี่ร้องพลางควานหาไม้กายสิทธิ์ มานี่  เทอร์จิโอ เธอใช้คาถาดูดเลือดที่แห้งกรังบนใบหน้าของเพื่อนรักออกไป

    ขอบใจนะ แฮร์รี่ว่า

    เกิดอะไรขึ้นกับเธอแฮร์รี่  พวกเรากลัวแทบตายแน่ะตอนเธอไม่มาปรากฏตัวในงานเลี้ยงน่ะ เด็กสาวพูด  แล้วเธอก็พบว่าสายตาของเพื่อนรักไม่ได้จับจ้องอยู่ที่เธอแต่มันมองเลยเธอไปยังโต๊ะของบ้านสลิธีรินที่อยู่ถัดไป  และเมื่อเฮอร์ไมโอนี่หันไปมองตามเธอก็พบสายตาของมัลฟอยที่กำลังมองมาทางพวกเขาอยู่

    เมื่อเห็นเช่นนั้นเด็กสาวก็พอจะเดาได้แล้วว่าใครเป็นคนทำร้ายแฮร์รี่  แม้เธอจะไม่อยากเชื่อในเรื่องนี้นักก็ตาม  เมื่อเป็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงหันกลับมามองแฮร์รี่อีกครั้งด้วยสายตาราวกับต้องการถามเขาว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นถูกต้องหรือไม่ 

    เพราะเฮอร์ไมโอนี่คิดว่าแฮร์รี่คงไม่ได้จะบอกเธอจริง ๆ ใช่ไหมว่าคนที่ทำให้หน้าของเขายับเยินขนาดนี้คือเดรโก  มัลฟอย แม้ว่าเพื่อนรักของเธอทั้งสองจะเกลียดมัลฟอยเข้าไส้แค่ไหนก็ตาม  แถมมัลฟอยก็ยังคอยหาเรื่องกลั่นแกล้งพวกมาตลอดตั้งแต่อยู่ปีหนึ่ง  แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำร้ายกันถึงขั้นเลือดตกยางออกแบบนี้เลย  แถมสภาพของแฮร์รี่ในตอนนี้นั้นดูราวเขาถูกต่อยแรง ๆ ที่หน้าหรือไม่ก็ถูกจับเอาหักโขกกำแพงอย่างไงอย่างงั้นเลย

    แม้จะรู้ว่าเพื่อนรักต้องการรู้เรื่องที่เกิดขึ้นมากเพียงใด  แต่เด็กหนุ่มผมดำยังไม่ต้องการบอกเธอตอนนี้

    แล้วฉันจะเล่าให้ฟังทีหลัง แฮร์รี่พูด 

    แต่..... เฮอร์ไมโอนี่พยายามพูด

    ไม่ใช่ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโกรธ ๆ และเมื่อเห็นเช่นนั้นเธอจึงยอมเงียบ แต่เด็กสาวก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางโต๊ะสลิธีริน  แต่เธอกลับพบว่าเด็กหนุ่มผมบลอนด์ไม่ยอมสบตาเธอเลยตลอดงานเลี้ยงที่เหลือ

     

    งานเลี้ยงต้อนรับเปิดเทอมครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษนักนอกจากข่าวร้ายที่ว่าในที่สุดสเนปก็ได้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดอย่างที่เขาปรารถนาเสียที  หลังจากที่เขาพยายามสมัครเพื่อสอนวิชานี้มาตลอดแต่ดัมเบิลดอร์ไม่ยอมให้เขารับตำแหน่งเพราะไม่ต้องการให้เขากลับไปยุ่งเกี่ยวกับศาสตร์มืดที่เขาเคยหลงใหลอีก แต่ดูเหมือนในคราวนี้ดัมเบิลดอร์จะเปลี่ยนใจหรืออย่างไรเฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจจะเดาได้  แต่เท่าที่เธอรู้ก็คือนักเรียนกริฟฟินดอร์หลายต่อหลายคนทำสีหน้าสยดสยองเมื่อรู้ข่าวนิ้  แฮร์รี่ถึงกับตะโกนออกไปดัง ๆ ว่า ไม่เอา!” ส่วนนักเรียนบ้านสลิธีรินนั้นต่างส่งเสียงเชียร์อาจารย์ประจำบ้านของพวกเขาอย่างคับคั่งขณะที่เด็กกริฟฟินดอร์ทำหน้าราวกับพวกเขาเห็นศาสตราจารย์อัมบริดจ์กลับมาเป็นอาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์อีกครั้งก็ไม่ปาน

    สำหรับตำแหน่งอาจารย์วิชาปรุงยานั้นจะเป็นของศาสตราจารย์ซลักฮอร์นที่แฮร์รี่เล่าให้เธอฟังว่าเขากลับมาสอนที่ฮอกวอตส์อีกครั้งตามคำเชื้อเชิญของดัมเบิลดอร์  และเท่าที่สังเกตุดูเฮอร์ไมโอนี่ก็คิดว่าอาจารย์คนนี้ดูใจดีกว่าและแน่นอนเขาน่าจะเป็นอาจารย์ที่ยุติธรรมกว่าสเนปมากนัก

    แต่อันที่จริงแล้วเรื่องการเปลี่ยนแปลงอาจารย์สอนวิชาต่าง ๆ รวมทั้งมือที่บาดเจ็บของดัมเบิลดอร์นั้นดูจะเป็นเรื่องเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับแฮร์รี่  โดยเฉพาะเมื่อเด็กสาวสงสัยว่าคนที่ทำร้ายเขาน่าจะเป็นเดรโก  มัลฟอยคนรักของเธอเอง

     

    คนรักอย่างนั้นรึ  เฮอร์ไมโอนี่ทวนคำนั้นอย่างสับสน  ตอนนี้เธอยังสามารถเรียกเดรโกว่าเป็นคนรักของเธอได้อยู่อย่างนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่เขามีเรื่องปิดปังเธอมากมายขนาดนี้  ทั้ง ๆ ที่เขาอาจจะเป็นคนทำร้ายเพื่อนของเธอแบบนี้

    แต่เด็กสาวไม่มีเวลาคิดเรื่องดังกล่าวมากนัก  เพราะเมื่อดัมเบิลดอร์ประกาศให้นักเรียนเข้านอนกันได้แล้วเฮอร์ไมโอนี่จึงชวนรอนที่ทำหน้าที่เป็นพรีเฟ็คเหมือนกับเธอไปนำเด็กปีหนึ่งบ้านกริฟฟินดอร์ไปที่หอพัก  แต่ก่อนจะไปเด็กสาวก็ไม่ลืมหันไปบอกแฮร์รี่ว่า

    เราต้องไปทำหน้าที่ก่อน  แล้วเจอกันที่ห้องนั่งเล่นรวมนะ แฮร์รี่ เธอพูดพลางลากรอนที่ทำหน้าเหมือนไม่เต็มใจทำงานเท่าไหร่ไปกับเธอ

     

    การต้อนพวกปีหนึ่งไปที่หอนั้นใช้เวลาไม่นานเพราะพวกเด็กใหม่ยังไม่แสบพอที่จะกล้าขัดคำสั่งพรีเฟ็คในวันแรกที่เข้ามาเหยียบฮอกวอตส์แบบนี้  หลังจากที่เธอพาพวกเด็ก ๆ ไปที่ห้องนั่งเล่นรวมและบอกรหัสผ่านกับพวกเขารวมทั้งบอกทางไปยังหอนอนชายและหญิงซึ่งอยู่ตรงข้ามกันในหอแล้วก็เท่ากับเธอทำภารกิจในวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว  และเมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยเฮอร์ไมโอนี่ก็ชวนรอนไปนั่งตรงโซฟาที่แฮร์รี่กำลังนั่งอยู่เพียงลำพังตรงมุมห้องราวกับเด็กหนุ่มผมดำเลือกที่จะนั่งตรงนั้นเพราะมันไม่เป็นที่สะดุดตาคนอื่นเท่าไหร่นัก  เฮอร์ไมโอนี่เดาว่าเขาคงไม่ชอบแน่ ๆ ถ้าจะมีคนอื่นมาฟังเรื่องที่เกิดขึ้นกับหน้าของเขาในวันแรกของการเข้าเรียนแบบนี้  แต่ก็เป็นโชคดีของเด็กทั้งสามที่ไม่มีเด็กคนอื่นอยู่ในห้องนั่งเล่นรวมมากนัก  เพราะนักเรียนส่วนใหญ่มักจะขึ้นไปพักผ่อนบนหอนอนทันทีหลังจากที่พวกเขาผ่านการเดินทางที่ยาวนานและงานเลี้ยงที่อิ่มหนำมา

     

    ทันทีที่เด็กทั้งสองนั่งลงเฮอร์มโอนี่ก็เริ่มซักไซ้แฮร์รี่

    เกิดอะไรขึ้นแฮร์รี่  บอกเรามาให้หมดเลยนะ

    ใจเย็นน่าเฮอร์ไมโอนี่  ให้เขาหายใจบ้างสิ รอนที่นั่งอยู่ข้างแฮร์รี่อีกฝั่งหนึ่งพูดและเด็กสาวก็เงยหน้ามองเขา

    จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไงล่ะ  ก็แฮร์รี่ถูกทำร้าย.......

    ฉันไม่ได้ถูกทำร้ายนะเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่ท้วงออกมา  เฮอร์ไมโอนี่จึงเปลี่ยนมาจ้องเขาแทนแม้ว่าตอนนี้ใบหน้าของเขาจะดูปกติแล้วก็ตาม

    เธอแน่ใจเหรอว่าเธอไม่ได้ถูกใครทำร้ายมาน่ะ เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความกังวล  แน่นอนว่าเธอกังวลแทนเพื่อนรักของเธอ  แต่สิ่งที่ทำให้เด็กสาวกังวลไปมากกว่านั้นก็คือเธอกลัวว่ามัลฟอยจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

    แฮร์รี่เงียบไปครู่หนึ่งเขาจึงยอมพูด  ท่ามกลางสายตาของเพื่อนทั้งสองที่มองมาด้วยความเป็นห่วง

    มันก็แค่มัลฟอยน่ะ เขาพูดราวกับเขาไม่ใส่ใจในเรื่องนี้เท่าไหร่  แต่เฮอร์ไมโอนี่ต้องกลั้นหายใจเพราะคำพูดนั้น  แม้ว่าเธอจะพอเดาได้ก่อนหน้านี้ว่าคนรักของเธอเป็นตัวการของเรื่องทั้งหมดนี่ก็ตาม

    เขาทำอะไรเธอ เฮอร์ไมโอนี่ซักพลางเขย่าแขนแฮร์รี่  แต่คราวนี้เด็กหนุ่มกลับไม่ยอมตอบ

    เขาคงไม่ได้กระทืบหน้านายใช่ไหม รอนพูดด้วยน้ำเสียงกังวล  ขณะที่เด็กสาวทำหน้าตกใจ

    เธอเอาอะไรมาพูดน่ะรอน  มัลฟอยคงไม่.......ใช่ไหมแฮร์รี่ เธอหันไปถามเด็กหนุ่มผมดำแทน

    ก็ฉันเห็นเขาทำท่าเหมือนกระทืบอะไรบางอย่าง รอนอธิบาย

    อ๋อ ใช่  เขาทำอย่างที่รอนว่านั่นแหละเด็กหนุ่มผมดำยอมพูดออกมา แถมเขายังสาปฉันให้ตัวแข็งแล้วก็เอาผ้าคลุมล่องหนคลุมฉันไว้เพื่อที่ฉันจะได้อยู่บนรถไฟด้วยตอนที่มันแล่นกลับลอนดอน 

    ไม่จริง!” เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

    อะไรทำให้เธอคิดว่ามัลฟอยจะไม่ทำแบบนั้น  เฮอร์ไมโอนี่  เขาเกลียดฉัน  เขาแค้นฉันที่ฉันทำให้พ่อเขาติดคุกนะ  อันที่จริงฉันน่าจะแปลกใจด้วยซ้ำที่เขาไม่ร่ายคาถากรีดแทงใส่ฉันน่ะ!” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงที่บอกว่าเขาเริ่มไม่พอใจแล้วที่เพื่อนทั้งสองโดยเฉพาะเฮอร์ไมโอนี่มาซักเขาในเรื่องที่เพิ่งทำให้เขาได้รับความอับอาย

    ฉันขอโทษ  แฮร์รี่  ฉันแค่ไม่คิดมาก่อนเท่านั้น เธอพูดเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักเริ่มอารมณ์เสีย

    ฉันไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อยังไงนะ  เฮอร์ไมโอนี่  แต่เธอก็น่าจะรู้ว่ามัลฟอยน่ะชั่วร้ายพอที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้สบาย  อีกอย่างฉันรู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปด้วย  ดูเหมือนเขาชั่วร้ายมากขึ้น  แต่ฉันก็ไม่แปลกใจในเรื่องนั้นเหมือนกัน  เขาคงเป็นผู้เสพความตายไม่ได้ถ้าเขาไม่ชั่วร้ายพอจริงไหม แฮร์รี่พูด  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าน้อย ๆ

    แล้วเธอหาหลักฐานยืนยันได้เหรอว่าเขาเป็นน่ะ เด็กสาวพูดเบา ๆ

    เด็กหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะเริ่มเล่า

    ฉันตามเขาไปที่ตู้  แล้วก็ปีนขึ้นไปแอบบนที่เก็บสัมภาระเหนือหัว  แน่นอนว่าตอนนั้นฉันใส่ผ้าคลุมล่องหนอยู่  แล้วฉันก็ได้ยินอะไรบางอย่าง เขาเล่ากับสีหน้าที่แสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็นที่ปิดไว้ไม่มิดของเพื่อนทั้งสอง

    เขาอยู่ในตู้กับพาร์กินสัน และก็ซาบินี่  มัลฟอยพูดกับพวกนั้นเหมือนว่าเขาจะไม่กลับมาเรียนที่ฮอกวอตส์อีกในปีหน้า  เขาพูดเหมือนเขากำลังจะไปทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นซึ่งก็คือการรับใช้โวลเดอมอร์ รอนสะอึกเมื่อแฮร์รี่พูดชื่อนั้นออกมา หรือไม่แน่เขาอาจจะกำลังจะรับใช้โวลเดอมอร์อยู่แล้วก็ได้

    ฉันว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้นะแฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าช้า ๆ พลางวางมือลงบนแขนเพื่อนรัก

    เธอพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว  เฮอร์ไมโอนี่  ฉันว่าสิ่งที่ฉันได้ยิน  สิ่งที่พวกเราได้เห็นนั้นมันมีมูลมากพอที่จะเชื่อนะ แฮร์รี่พูดเสียงเข้ม

    แต่มัลฟอยยังอายุไม่ครบเกณฑ์นะ  ฉันยอมรับว่าเขาอาจมีคุณสมบัติที่คนที่เธอก็รู้ว่าใครต้องการ  แต่เขาก็เป็นแค่พ่อมดที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะพอ ๆ กับพวกเราเลยนะ  เธอคิดว่าคนที่เธอก็รู้ว่าใครจะไว้ใจเขาอย่างงั้นเหรอ  เขายังเด็กเกินไปเฮอร์ไมโอนี่พูด

    เราไม่มีทางรู้หรอกว่าโวลเดอมอร์จะไว้ใจใครหรือต้องการอะไรน่ะ เด็กหนุ่มผมดำพูดเสียงเย็น  และเมื่อเขาพูดจบรอนที่เงียบไปนานก็พูดขึ้น

    ฉันจะขอบคุณนายมากนะแฮร์รี่ถ้านายเลิกพูดชื่อนั้นเสียที  แล้วอีกอย่างนี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะที่พวกเธอสองคนเถียงกันเรื่องเจ้าสวะมัลฟอยน่ะเด็กหนุ่มผมแดงพูดเตือน  และเพื่อนรักทั้งสองก็เงียบลงทันที  แม้ว่าเฮอร์ไมโอนี่ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างออกไปแต่แฮร์รี่กลับไม่เปิดโอกาสให้เธอถามอะไรเขาไปมากกว่านี้

    ฉันควรจะไปนอนแล้ว แล้วเจอกันนะเฮอร์ไมโอนี่ แฮร์รี่พูดพลางลุกขึ้นจากโซฟา โดยมีรอนเดินตามเขาไป

    แล้วเจอกันนะ รอนพูด  เด็กสาวมองร่างของเพื่อนทั้งสองจนพวกเขาหายลับขึ้นบันไดหอนอนชายไปด้วยสายตากังวล  หลังจากนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงลุกขึ้นจากโซฟา  แต่เธอไม่ได้เดินไปที่หอนอนหญิงแต่อย่างใด  เด็กสาวกลับเดินไปที่ช่องรูปภาพเพื่อทะลุรูปของสุภาพสตรีอ้วนออกไป

    เธอจะไปไหนน่ะหนู สุภาพสตรีอ้วนถามอย่างแปลกใจเพราะนี่เป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้ว

    เดินตรวจบริเวณน่ะค่ะ เธอตอบออกไป  และเมื่อสุภาพสตรีอ้วนเห็นเสื้อคลุมของเฮอร์ไมโอนี่ที่มีเข็มกลัดตัวพ. ที่ย่อมาจาก พรีเฟ็ค อยู่เธอก็พูดขึ้นว่า “เหนื่อยหน่อยนะจ๊ะ

    เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเบา ๆ เพื่อรับคำพูดของสุภาพสตรีอ้วนก่อนจะเดินไปตามระเบียงทางเดินแต่ทางที่เด็กสาวมุ่งไปนั่นกลับเป็นทางที่นำไปสู่หอพรีเฟ็ค

     

    .................................................

     

     

    ภายในหอพรีเฟ็คที่เกือบจะว่างเปล่า  เดรโก  มัลฟอยกำลังนั่งอยู่บนโซฟาหน้าเตาผิงเพียงลำพัง  สายตาของเด็กหนุ่มเหม่อมองไปยังเปลวไฟที่กำลังเต้นรำด้วยท่าทีราวกับเขากำลังครุ่นคิดเรื่องบางอย่างอยู่  เหตุผลที่มัลฟอยมาอยู่ที่นี่และไม่กลับไปที่ห้องนั่งเล่นรวมของบ้านสลิธีรินทันทีหลังจากที่งานเลี้ยงเลิกก็เพราะเขาต้องการอยู่คนเดียว  และหอพรีเฟ็คก็เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดที่เขาจะไป  แต่อันที่จริงแล้วมัลฟอยก็รู้ดีว่าเขาคงอยู่คนเดียวได้ไม่นานนักเพราะเด็กหนุ่มแน่ใจว่าต้องมีใครบางคนเข้ามาตามหาเข้าในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน

    ไม่นานนักประตูหอพรีเฟ็คก็เปิดขึ้นและร่างของเด็กสาวคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา  แม้ว่ามัลฟอยจะไม่เห็นการมาของเธอเพราะเขากำลังนั่งหันหลังให้ประตูอยู่แต่เขาก็สามารถเดาได้ว่าร่างนั้นเป็นใคร  โดยเฉพาะเมื่อเธอเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้าง ๆ โซฟาที่เขากำลังนั่งอยู่

    เธอมาที่นี่เพื่อจะมาต่อว่าฉันสินะ เขาพูดขึ้นก่อนที่จะหันไปมอง  แล้วเขาก็พบว่าเฮอร์ไมโอนี่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากเขานัก  ดวงตาสีน้ำตาลที่มองมาทางเขานั้นแฝงไว้ด้วยความโกรธและสับสน

    เธอทำแบบนั้นได้ยังไง  มัลฟอย เด็กสาวพูด  น้ำเสียงของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแต่มันกลับแฝงไว้ด้วยความเสียใจ

    ฉันทำอะไรหรือ  เกรนเจอร์ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ พอตเตอร์บอกอะไรเธอบ้างล่ะ

    เฮอร์ไมโอนี่มองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่พอใจก่อนจะนั่งลงข้างเขา

    แฮร์รี่บอกฉันทุกอย่างที่เกิดขึ้น  แน่นอนหลังจากที่ฉันซักเขา ริมฝีปากของมัลฟอยยกสูงขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น

    งั้นรึ  ฉันคิดว่ามันจะวิ่งแจ้นมาฟ้องเธอเสียอีก เขาพูดอย่างเหยียดหยาม

    เธอทำแบบนั้นได้ยังไงกัน  มัลฟอย  เธอทำร้ายเขาขนาดนั้นแถมยังตั้งใจจะส่งเขากลับลอนดอนอีก!” เด็กสาวพูดขึ้นมา น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความรู้สึกโกรธ ผิดหวัง  และเสียใจที่ผสมปนเปกันอยู่  แต่เหตุผลที่เธอเสียใจนั้นไม่ได้มาจากการที่เพื่อนรักของเธอถูกทำร้ายเพียงอย่างเดียว  แต่มันมาจากการที่ได้รู้ว่าคนรักของเธอเป็นคนทำร้ายเขามากกว่า

    เธอก็น่าจะรู้นะว่าทำไมฉันถึงทำแบบนั้น แววตาสีเงินคู่นั้นของเขาดูเยือกเย็นยิ่งนักเมื่อมันมองมาทางเฮอร์ไมโอนี่

    ก็เพราะว่าฉันเกลียดมัน  ฉันไม่มีวันลืมเรื่องที่มันทำให้พ่อฉันต้องติดคุกได้หรอกนะ  อีกอย่างมันก็อยากแส่หาเรื่องเองนี่ มัลฟอยพูดราวกับเขาไม่แคร์ว่าเฮอร์ไมโอนี่จะรู้สึกยังไงในสิ่งที่เขาพูด  ขณะที่เด็กสาวมองเขาอย่างตกใจ  เธอไม่แน่ใจว่าตอนนี้เธอควรจะโกรธหรือเสียใจมากกว่ากันดี

    ฉันคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่กองปริศนานั่นควรจะจบไปได้แล้วนะ  มัลฟอย  ไม่อย่างนั้นเธอก็น่าจะเกลียดฉันอย่างเดียวกับที่เธอเกลียดแฮร์รี่ด้วย!”

    เฮอร์ไมโอนี่พูดออกไปก่อนที่เธอจะทันได้คิดว่ามัลฟอยจะรู้สึกโกรธมากแค่ไหนที่เธอพูดชื่อของแฮร์รี่ออกมา  รวมทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นที่กองปริศนาด้วย  แต่เด็กสาวกลับต้องแปลกใจเมื่อเธอพบว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่มีท่าทีโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย  เพราะในวินาทีต่อมาเขาไม่ได้ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดว่า อย่าเอ่ยชื่อมันต่อหน้าฉัน!’ ตรงกันข้ามเขากลับมองเธอด้วยแววตาที่อ่อนลง

     

    เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีวันเกลียดเธอ  เกรนเจอร์ เขาพูดพลางกลับมามองเธอด้วยแววตาแบบเดียวกับที่เขาใช้มองเธอเมื่อทั้งสองพบกันบนรถไฟในตู้ของเขา  แววตาที่เขาใช้มองคนรักของเขา

    แต่เธอสิ  เธอกำลังจะเกลียดฉันแทนเจ้าเพื่อนรักของเธอ น้ำเสียงที่ดังออกมานั้นฟังดูเศร้าหมองยิ่งนัก และเมื่อเป็นเช่นนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่อาจจะอารมณ์เสียใส่เขาได้อีกต่อไป เด็กสาวจึงพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง

    ฉันไม่ได้เกลียดเธอ  มัลฟอย  แต่ฉันโกรธเธอ  เธอไม่ควรทำร้ายแฮร์รี่ขนาดนั้น เธอพูด  มัลฟอยชักสีหน้าเมื่อได้ยินคำว่า ‘แฮร์รี่ ออกจากปากของเด็กสาว

    แล้วเธอจะทำยังไงกับเรื่องนี้ล่ะ เธอจะมาสาปฉันเพื่อแก้แค้นเทนเจ้าหัวแผลเป็นเพื่อนรักของเธองั้นรึ เด็กหนุ่มพูดออกมาไม่ยี่หระ  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาอย่างระอา  เธอพยายามจะไม่สนใจถ้อยคำที่เขาใช้เรียกแทนตัวแฮร์รี่ก่อนจะพูดขึ้น

    เธอก็รู้ว่าฉันจะไม่ทำแบบนั้น  แต่ฉันขอเถอะว่าอย่าใช้กำลังทำร้ายกันถึงกับเลือดตกยางออกแบบนี้อีกเลย  ฉันขอเธอว่าอย่ามีเรื่องกับแฮร์รี่อีกจะได้ไหม เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงราวกับก่อนหน้านี้เธอไม่ได้โกรธเขาที่หักจมูกเพื่อนรักของเธอ  เพราะเธอรู้ดีว่าการโวยวายและต่อว่ามัลฟอยนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย  มันกลับจะยิ่งเป็นการทำให้เค้าโกรธแค้นแฮร์รี่มากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ  อีกอย่างเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ต้องการทะเลาะกับเขาทั้งที่ทั้งสองเพิ่งจะกลับมาเจอหน้ากันได้เพียงวันเดียวแบบนี้  เธอจึงคิดว่าควรจะใช้ไม้อ่อนกับเขามากกว่า

     

    มัลฟอยมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างแปลกใจที่จู่ ๆ เธอเป็นฝ่ายมาขอร้องไม่ให้เขาทำร้ายเพื่อนของเธออีก  แต่ในวินาทีต่อมาดวงตาสีเงินที่เต็มไปด้วยความแปลกใจก็เปลี่ยนไปส่อแววเจ้าเล่ห์เมื่อเขาคิดอะไรบางอย่างได้

    เรื่องที่เธอขอมันทำยากอยู่นะ  เกรนเจอร์ เขาพูดพลางทำท่าทีครุ่นคิด แต่ฉันว่าฉันน่าจะทำได้ถ้ามีข้อแลกเปลี่ยน

    เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้วเพราะพูดนั้น  แต่ก่อนที่เธอรู้ตัวเธอก็ถูกเด็กหนุ่มดึงเข้าไปสู่อ้อมแขนของเขาเสียแล้ว

    นี่ นาย!  จะทำอะไรน่ะ!” เธอร้อง  แต่เด็กสาวก็รู้ว่าเธอหลงกลมัลฟอยเข้าเสียแล้วเมื่อเขาพูดประโยคต่อมา

    จูบฉันก่อนสิ  แล้วฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ยุ่งกับเพื่อนรักของเธอเลย เขาพูด  ดวงตาสีเงินทอประกายเจ้าเล่ห์  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่อยากจะเสกคาถางงงันใส่ใบหน้ายียวนหากแต่หล่อเหลาของเขานัก!

    มัลฟอย  ขี้โกงนี่!” เธอโวยวายแต่ก็ยอมให้เด็กหนุ่มกอดแต่โดยดี

    ก็ฉันเป็นมัลฟอยนี่นา จะให้เล่นตามกติกาได้ยังไงล่ะ เขาตอบอย่างไม่ยี่หระ ตกลงเธอจะยอมรับเงื่อนไขไหม เด็กหนุ่มถามแล้วเฮอร์ไมโอนี่ก็หัวเราะน้อยๆ  ออกมาเพราะคำพูดนั้น  เธอแทบจะลืมความโกรธที่เธอมีต่อเขาก่อนหน้านี้ไปจนหมดเมื่อเธอสัมผัสลมหายใจของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม

    ฉันจะไม่จูบเธอจนกว่าเธอจะขอโทษ เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

    ฉันต้องขอโทษเรื่องอะไรล่ะ มัลฟอยเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

    ก็เรื่องที่เธอเกือบทำแฮร์รี่จมูกหักน่ะสิ เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงแหลม  ราวกับจะบอกเขาว่า นายไม่ต้องมาทำไขสือเลยนะ

    เด็กหนุ่มมีท่าทางงุนงงกับคำพูดนั้น ฉันไม่ได้ทำจมูกเจ้านั่นหักเหรอเนี่ย

    มัลฟอย!” เด็กสาวเตือนด้วยน้ำเสียงดุ ๆ

    เธอก็รู้ว่าฉันไม่วันไปขอโทษพอตเตอร์แน่นอน  ต่อให้ฉันตายก็เถอะ เขายืนกรานอย่างดื้อรั้น  ขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยท่าทีระอา

    ฉันไม่ได้หมายความว่าเธอต้องไปขอโทษแฮร์รี่  แต่อย่างน้อย ๆ ช่วยพูดอะไรที่ฟังดูเหมือนว่าเธอสำนึกผิดหรือเสียใจหน่อยได้ไหม เด็กสาวพูด  และเธอก็คิดไว้แล้วว่ามัลฟอยจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างไร  เขาคงจะต้องพูดออกมาว่า ฉันไม่มีวันเสียใจเรื่องที่ฉันทำกับเจ้านั่น  หรือไม่ก็  เธอคิดว่าฉันเป็นใครกัน เกรนเจอร์  แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับคิดผิด  เพราะแม้ว่ามัลฟอยจะไม่ได้พูดออกมาตามตรงว่าเขาเสียใจในสิ่งที่ทำกับแฮร์รี่ก็ตาม  แต่เด็กหนุ่มก็พูดประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและไม่มีแววโกรธเคืองหรือฝืนใจเจือปนอยู่เลย

    ฉันไม่เสียใจที่ฉันฉันตั้งใจหักจมูกพอตเตอร์ เขาพูด แต่ฉันเสียใจที่การกระทำของฉันทำให้เธอไม่พอใจเพราะฉันทำร้ายเพื่อนรักของเธอ เขาพูดอย่างไว้ตัวก่อนจะมองไปในแววตาของเด็กสาวและพูดประโยคต่อไปออกมา

    ฉันขอโทษที่ทำให้เธอโกรธ  เฮอร์ไมโอนี่ เด็กหนุ่มพูดก่อนจะก้มลงจูบแก้มของเด็กสาว  เธอพยายามขืนตัวหลบเขาแต่กลับไม่สามารถทำได้เมื่ออ้อมแขนแข็งแรงของมัลฟอยกอดเธอไว้อย่างแน่นหนา  เฮอร์ไมโอนี่หลับตาลงเมื่อจมูกของเด็กหนุ่มสัมผัสพวงแก้ม  จู่ ๆ ความรู้สึกโกรธหรือแม้กระทั่งความเสียใจก็จางหายไปจนหมด 

    เมื่อมัลฟอยละใบหน้ามาจากเธอ  เด็กสาวก็จ้องตอบเขาอย่างกึ่งโกรธกึ่งงอน  แต่ก่อนที่เด็กหนุ่มจะได้ก้มลงไปหอมแก้มเนียนอีกข้างของเธอ เฮอร์ไมโอนี่ก็บีบจมูกเรียว ๆ ของเขาเสียก่อน

    โอ๊ย  ทำอะไรน่ะ  เกรนเจอร์!” เขาร้อง

    ก็จะหักจมูกนายบ้างน่ะสิ  ใครใช้ให้นายเจ้าเล่ห์นักล่ะ!” เธอพูดพลางจ้องเขาอย่างโกรธ ๆ ขณะที่มัลฟอยคลำจมูกของเขาที่แดงจากแรงบีบของเด็กสาวแม้ว่ามันจะไม่เจ็บเท่าไหร่ก็ตาม

    งั้นตาฉันเอาคืนบ้างนะยายตัวแสบ เขาพูดพลางกอดเด็กสาวแน่นกว่าเดิม  และรั้งร่างของเธอมาอยู่ในอ้อมแขนโดยให้หลังของเธอชนกับแผ่นอกของเขาขณะที่เขาซุกหน้าเข้าที่ซอกคอของเธอ

     

    เฮอร์ไมโอนี่กรอกตาอย่างระอากับความมือไวของเดรโก  แต่ถึงเขาจะมีข้อเสียมากมายแค่ไหนเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอรักเขาอยู่ดี  และเธอก็คิดว่ามันคงยากไม่ใช่น้อยสำหรับเขาที่จะพูดว่าเขาเสียใจที่ทำร้ายแฮร์รี่ออกมา (แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมาตามตรงก็เถอะ) อีกอย่างเด็กสาวก็ไม่ต้องการทะเลาะกับเขาไปมากกว่านี้แล้ว  เพราะเท่าที่เธอจำได้การทะเลาะกันแต่ละครั้งนั้นไม่ได้นำประโยชน์ใด ๆ มาให้พวกเขาเลยนอกจากความเสียใจที่เกิดขึ้นกับทั้งสอง  ดังนั้นเฮอร์ไมโอนี่จึงเลิกดิ้นรนขัดขืนและเลิกหาเรื่องมาสนับสนุนความคิดที่ว่า เขายังไม่แสดงออกว่าสำนึกผิดจริง ๆ เสียที

    มัลฟอยดูจะแปลกใจไม่น้อยที่เด็กสาวในอ้อมแขนของเขาไม่ดิ้นอย่างที่เคย  ตรงกันข้ามกลับยอมให้เขากอดแต่โดยดี  และเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงยกร่างของเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นมานั่งบนตักของเขาและจูบผมของเธอ ซึ่งเด็กสาวก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

    มัลฟอย เสียงของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้น ฉันมีเรื่องจะถามเธอน่ะ

    เธอจะถามอะไรฉันเหรอ  เกรนเจอร์ เสียงของเด็กหนุ่มฟังดูกังวลขึ้นมาทันทีเมื่อเขาคิดว่าคำถามของเฮอร์ไมโอนี่จะเป็นหนึ่งในคำถามที่เขาตอบเธอไม่ได้หรือเปล่า

    ฉันรู้ว่ามันฟังดูบ้าไปหน่อยนะ  แต่ว่า เด็กสาวหันกลับมาสบตาเขา  ดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นดูสับสนและกังวลใจก่อนที่เธอจะเอ่ยประโยคต่อไปออกมา

    ฉันอยากรู้ว่าปีหน้าเธอจะกลับมาเรียนที่ฮอกวอตส์ไหม เฮอร์ไมโอนี่ถามอกไปขณะที่มัลฟอยมองเธอด้วยแววตาที่ดูประหลาดใจ

     

     

    *************************************************








    คุยกันหลังอ่านนะคะ

     

    เป็นยังไงบ้างคะตอนนี้  พิกพยายามไม่เขียนให้เครียดเท่าไหร่  ถ้าใครถามว่าทำไมเฮอร์มี่ให้อภัยพ่อเดรเร็วนักพิกก้อบอกได้เลยค่ะว่าไม่อยากเขียนฉากที่สองคนนี้ทะเลาะกันตอนนี้ค่ะ  เพราะเขียนแล้วเครียดไงไม่รู้  จะพาลพาคนอ่านเครียดไปด้วย  ช่วงนี้ยิ่งอากาศร้อน ๆ อยู่ด้วย  [เกี่ยวไหมอ่ะพิก]  เอาไว้ดราม่าตอนอื่นละกันนะคะ  -*-

    พิกมีเรื่องจะประกาศนะคะ  หลังจากอัพฟิคเรื่องนี้แล้วพิกจะมาอัพฟิคให้อีกทีในช่วงสิ้นเดือนนี้นะคะเพราะพิกต้องอ่านหนังสือสอบซัมเมอร์ค่ะ  ส่วนเรื่องหลัก ๆ ที่จะอัพก่อนนั้นจะเป็นเรื่องทาสหัวใจนะคะ เพราะอยากจะปิดเรื่องนี้ก่อน  ส่วนเรื่องอื่น ๆ จะพยายามอัพให้ประปรายนะคะ แต่พิกอยากอัพเป็นเรื่อง ๆ ไปค่ะจะได้เขียนเร็วกว่าอัพแบบสลับเรื่องน่ะค่ะ

    สุดท้ายอยากจะบอกว่าฟิคเรื่องนี้เขียนยากมากกกกกกกกกกก  ยากยิ่งกว่าเรื่องทาสหัวใจอีกค่ะ  พิกไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะออกมาดีไหมเพราะไม่ได้เขียนเรื่องนี้นานมากแล้ว  นักอ่านท่านไหนมีความเห็นยังไงเข้ามาคุยกันนะคะ  ไรเตอร์เปิดรับทุกความคิดเห็นค่ะ  ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×