คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11
ตอนที่ 11
ท้องถนนที่คลาคล่ำไปด้วยกลุ่มนักเรียน ม.ต้น ท่ามกลางดอกซากุระที่โปรยปรายต้อนรับวันเปิดเทอมใหม่ เคโตะในวัย 12 ขวบเดินไปตามทางนั้นคนเดียวอย่างประหม่าเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาเรียนเป็นวันแรก
กลุ่มนักเรียนปีสามกลุ่มหนึ่งวิ่งมาทางเคโตะอย่างรวดเร็ว เคโตะเดินหลบแต่ไม่พ้น หนึ่งในนั้นวิ่งชนเขาอย่างแรงจนล้มลงกว่าจะตั้งสติได้พวกนั้นก็วิ่งไปไกลแล้ว เคโตะดันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วพบว่าแขนถลอกเป็นแผลใหญ่จากการล้มเมื่อสักครู่ เคโตะเก็บกระเป๋าขึ้นมาแล้วเดินไปนั่งที่ข้างทาง เขาค่อยๆ เลิกแขนเสื้อขึ้นเพื่อดูแผลของตัวเอง
“ใช้นี่ปิดแผลไว้ก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะพาไปห้องพยาบาล” เด็กชายคนหนึ่งยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา เคโตะเงยหน้าขึ้นมองรู้สึกเกรงใจเด็กคนนี้ขึ้นมา เด็กคนนั้นนั่งลงข้างๆ “ฉันชื่อ นากาจิม่า ยูโตะ เป็นเด็กใหม่เหมือนนายนั่นแหละ ไม่ต้องเกรงใจหรอกยังไงก็ต้องเรียนที่เดียวกันอยู่แล้ว” ยูโตะยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
เคโตะยังไม่พูดว่าอะไรอีกทั้งยังไม่รับผ้าเช็ดหน้ามาด้วย ยูโตะรำคาญจึงดึงแขนเคโตะมาแล้วผันแผลนั้นให้อย่างเบามือ
“ฉันอยู่แถวนี้มาตั้งแต่เด็กแต่ฉันไม่เคยเห็นหน้านายเลย นายเพิ่งย้ายมาเหรอ”
เคโตะส่ายหน้า “เปล่าหรอก แต่ฉันเรียนประถมอยู่โรงเรียนชิโระ อยู่คนละทางกับที่นี่น่ะ”
ยูโตะพยักหน้า “มิน่าถึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ว่าแต่นายชื่ออะไร”
“โอคาโมโตะ เคโตะ” เคโตะตอบเรียบๆ
ยูโตะชะงักไปเมื่อได้ยินชื่อนั้น “นายบอกว่านายชื่ออะไรนะ”
“โอคาโมโตะ เคโตะ ทำไมเหรอ”
ยูโตะยิ้ม “เปล่าหรอก แต่ฉันมีพี่ชายคนหนึ่งชื่อเคโตะเหมือนนายนี่แหละ เขาเกิดก่อนฉันไม่กี่เดือนหรอกเพราะเราคนละแม่กัน แต่แม่ฉันไม่อยากเข้าไปวุ่นวายกับบ้านใหญ่ก็เลยออกมาอยู่ตามลำพัง”
เคโตะพยักหน้ารับรู้ “งั้นเหรอ แย่จังนะ”
ยูโตะยักไหล่ “ก็ไม่แย่เท่าไร” เขาเล่าต่อ “ถึงจะเป็นอย่างนั้นพ่อก็มาหาพวกเราบ่อยๆ นะ ทั้งยังส่งเงินมาให้ด้วยแม้ว่าแม่จะเลี้ยงฉันได้ก็เถอะ แต่พ่อก็ยังยืนยันจะส่งเสียเราอยู่ดี” ยูโตะหัวเราะ “ขอโทษนะที่เล่าให้ฟัง ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันแท้ๆ นายคงรำคาญใช่มั้ย”
เคโตะส่ายหน้า “ไม่หรอก ฉันเป็นลูกคนเดียว แม่กับพ่อก็รักกันมากๆ ด้วย”
ยูโตะยิ้มกว้าง “ดีจัง ฉันเองก็อยากเจอพี่ชายสักครั้งเหมือนกัน”
“ไม่ได้เจอกันเหรอ พ่อมาเยี่ยมทุกเดือนไม่ใช่หรือไง” เคโตะถามอย่างแปลกใจ
ยูโตะหัวเราะ “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ชายฉันรู้หรือเปล่าว่ามีฉันเป็นน้องอยู่”
เคโตะนิ่งคิด เหมือนจะรับรู้ความรู้สึกเศร้าสร้อยที่แฝงออกมาจากน้ำเสียงของยูโตะได้ “น่าแปลกจัง”
“ไม่แปลกหรอก” ยูโตะหันมามองเคโตะ “นายอยากมีน้องมั้ย”
“หา?”
“ไหนๆ นายก็ชื่อเหมือนพี่ชายฉัน ขอฉันเรียกนายว่าพี่ได้หรือเปล่า” เคโตะตกใจที่จู่ๆ เด็กที่เพิ่งรู้จักกันก็มาทำตัวสนิทสนมกันขนาดนี้ แล้วจะให้เรียกพี่อีกมันก็แปลกๆ ยังไงไม่รู้ ยูโตะยิ้มเข้าใจ “ขอโทษนะที่ทำให้ลำบากใจ ฉันก็แค่คิดว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้ถ้านายไม่รังเกียจ”
เคโตะส่ายหน้า “ไม่หรอก แต่จะให้นายเรียกพี่มันก็... แปลกๆ นะ”
“แปลกอะไรล่ะมันดีซะอีก” ยูโตะยิ้ม “ฉันเรียกนายว่าพี่แล้วกันนะ พี่เคโตะ”
--------------------------------------------------------------------------
เคโตะสะดุ้งตื่นขึ้น นาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่ม นี่เขาเผลอหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เคโตะลุกขึ้นเก็บเอกสารบนโต๊ะก่อนจะปิดไฟแล้วเดินออกไปที่รถ เขานึกถึงความฝันเมื่อสักครู่ ยูโตะรู้ความจริงมาโดยตลอดแต่ไม่เคยบอกเขาเลย พี่ชายที่ยูโตะเล่าให้ฟังจริงๆ ก็คือตัวเขา ทั้งๆ ที่อยู่ใกล้แค่นี้แต่เขาก็ไม่เคยนึกเอะใจเลยสักครั้ง ทำไมกัน เพื่อนที่เขาไว้ใจที่สุดกลับทรยศกันได้
เคโตะฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถเพื่อระงับอารมณ์ เขาจำต้องแย่งเรียวสุเกะมาให้ได้เพื่อจะได้หายแค้น คนพวกนั้นจะได้รู้ซะบ้างว่าการสูญเสียคนที่รักนั้นเป็นยังไง แต่เมื่อความคิดนั้นเริ่มเข้าครอบงำ รอยยิ้มของเรียวสุเกะก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำราวกับจะต้านทานความคิดนั้นไว้ เคโตะร้องไห้เพราะความสับสนที่เกิดขึ้น เขาพูดกับตัวเองเบาๆ “ฉันทำอย่างนั้นไม่ได้” เคโตะสะอื้นไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น “ฉันทำให้ยามาดะร้องไห้ไม่ได้”
เคโตะเดินเข้าบ้านด้วยอาการมึนเมาแต่ยังคงครองสติได้บ้าง เขาค่อยๆ พยุงตัวเองเดินขึ้นบันไดพอถึงเตียงก็ล้มตัวลงนอนทันที
ริวทาโร่เดินตามหลังเคโตะอยู่ห่างๆ เพราะเคโตะยังไม่กลับบ้านทำให้เขานอนไม่หลับจึงอาสารอเคโตะแทนยูมิโกะเอง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้นึกห่วงเคโตะนักทั้งๆ ที่เคโตะเองก็ไม่คิดจะสนใจเขาเลยสักนิด ริวทาโร่ค่อยๆ แง้มประตูเปิดออกเห็นเคโตะนอนอยู่บนเตียงไม่รู้ว่าหลับหรือยัง เขาเปิดประตูเข้าไปอย่างแผ่วเบาแล้วเดินตรงไปยังเตียงที่ร่างสูงนอนอยู่ เคโตะหลับไปแล้ว ริวทาโร่ขมวดคิ้วพลางใช้ความคิด ดึกป่านนี้ยังจะกินเหล้าอีก
ริวทาโร่กลับเข้ามาในห้องเคโตะอีกครั้งพร้อมชามน้ำอุ่นใบเล็กและผ้าที่บิดหมาดๆ เขาวางมันไว้บนโต๊ะข้างเตียงเพื่อจะเช็ดตัวเคโตะได้สะดวก เขาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อรวบรวมความกล้าและลดความตื่นเต้นที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ ริวทาโร่ค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของเคโตะออกด้วยมือที่สั่นเทา
หมับ!
ริวทาโร่ตกใจที่จู่ๆ เคโตะก็จับมือเขาไว้แน่น กระดุมก็ยังปลดไม่หมดอีกทั้งเคโตะก็ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นสงสัยคงละเมอ เขาพยายามดึงมือออกแต่ถึงแม้ร่างสูงจะหลับอยู่แต่เขาก็สู้แรงของเคโตะไม่ได้อยู่ดี เคโตะยังคงกุมมือเขาไว้อย่างมั่นคง
“ยา – มา -- ดะ” เคโตะละเมอออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา ริวทาโร่หยุดการขัดขืนทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น เคโตะละเมอเรียกเรียวสุเกะด้วยความรู้สึกโหยหาจนริวทาโร่สัมผัสได้ ทั้งๆ ที่คิดว่าจะทำใจได้แล้วแต่พอเหตุการณ์เป็นแบบนี้หัวใจของริวทาโร่กลับรู้สึกเจ็บจนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ริวทาโร่พยายามดึงมือออกจากการเกาะกุมของเคโตะอีกครั้ง “ปล่อยผมนะพี่เคโตะ ผมไม่ใช่คุณยามาดะนะ” เคโตะลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหันจนริวทาโร่ตกใจ เขาค่อยๆ เอื้อมมือไปเขย่าตัวเคโตะเบาๆ “พี่เคโตะตื่นแล้วเหรอครับ”
ชั่วขณะนั้นเองที่เคโตะดึงเขาให้ลงมานอนที่เตียงก่อนจะขึ้นคร่อมร่างเล็กไว้ ริวทาโร่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองหน้าร่างสูงที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที เคโตะประทับจูบลงบนริมฝีปากของริวทาโร่อย่างอ่อนโยนจนร่างเล็กแทบเคลิ้มก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งไปสัมผัสกลิ่นหอมตรงซอกคอของริวทาโร่อย่างนุ่มนวล
ร่างเล็กรู้สึกเสียวซ่านเมื่อริมฝีปากของเคโตะสัมผัสที่ต้นคอเขา เขาทุบไหล่เคโตะเบาๆ เพื่อต่อต้าน “ปล่อยผมนะพี่เคโตะ อย่าทำแบบนี้ผมขอร้อง” แต่ดูเหมือนเคโตะจะไม่ได้ยินเสียงของเขาเลย ริวทาโร่น้ำตาไหลพราก เขาพยายามจะดันร่างสูงออกแต่ร่างกายเขากลับอ่อนระทวยลงไปเสียเฉยๆ เขาพยายามคุมสติตัวเองให้ได้ก่อนที่เคโตะจะพรากมันไป ริวทาโร่สูดหายใจเข้าลึกเพื่อควบคุมอารมณ์ที่ร่างสูงกำลังพยายามปลุกมันขึ้นมา แต่แล้วด้วยคำพูดที่ออกจากปากของเคโตะทำให้สติเขากลับมาอย่างเต็มที่
“ยา – มา -- ดะ”
แม้เคโตะจะพูดมันด้วยเสียงที่เบาแค่ไหนแต่ริวทาโร่ก็ได้ยินมันเต็มสองหู ยามาดะอีกแล้ว ริวทาโร่กัดริมฝีปากแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดในหัวใจที่เกิดขึ้น เคโตะทำแบบนี้เพราะคิดว่าเขาคือเรียวสุเกะนั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บมากกว่าการที่เคโตะทำกับเขาเพราะคิดว่าเขาคือริวทาโร่เสียอีก ริวทาโร่หลับตาลงเพื่อปลดปล่อยหยาดน้ำตาที่ค้างอยู่ก่อนจะกัดเข้าที่ต้นแขนของร่างสูงอย่างแรง
“โอ๊ย!!” เคโตะร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะผละจากริวทาโร่มา ตอนนี้เองที่เคโตะเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ริวทาโร่ลุกขึ้นนั่งและจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เดาอารมณ์ไม่ได้ เขารู้เพียงแต่ว่าริวทาโร่จะต้องโกรธเขา ต้องโกรธเขามากแน่ๆ
ริวทาโร่น้ำตาไหลอาบแก้ม เขาจ้องมองเคโตะด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะไม่สามารถควบคุมได้ เขาสะอื้นไห้อย่างเสียใจ “ผมไม่ใช่คุณยามาดะนะ!!” เขาตะโกนใส่เคโตะก่อนจะวิ่งหนีไปที่ประตู
เคโตะวิ่งตามแล้วคว้าแขนริวทาโร่ไว้ “เดี๋ยวสิริวทาโร่”
ริวทาโร่สะบัดแขนอย่างแรงจนเคโตะปล่อยมือ เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักร่างสูงออก “อย่ามายุ่งกับผม!” เขาเปิดประตูออกไปแล้วปิดมันลงเสียงดัง เคโตะวิ่งตามออกไป แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักเมื่อยูโตะยืนจ้องพวกเขาอยู่ที่หน้าห้อง ริวทาโร่ก้มหน้าลงแล้วเช็ดน้ำตา “คุณยูโตะ มีอะไรครับ”
ยูโตะขมวดคิ้วอย่างสงสัย “นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” เขามองสภาพของเคโตะอย่างตกใจ “นี่พี่กับริวทาโร่.....”
“ไม่ใช่นะ!” เคโตะปฏิเสธเสียงดัง
ริวทาโร่พยายามกลั้นสะอื้น “ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกครับคุณยูโตะ ผมง่วงแล้ว ราตรีสวัสดิ์นะครับ” เขาโค้งให้ยูโตะแล้วเดินเลี่ยงออกมา
ยูโตะมองตามริวทาโร่ที่เดินไปก่อนจะหันมามองเคโตะที่ยืนอยู่ตรงหน้า “พี่ทำอะไร”
เคโตะเฉมองไปทางอื่น “เปล่า”
“เปล่าเหรอ แล้วเมื่อกี้นี้มันอะไรล่ะ”
“ก็บอกว่าไม่ได้ทำไง”
“ผมไม่เชื่อหรอก” ยูโตะจ้องมองพี่ชายด้วยสายตาจริงจังก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้อง สภาพห้องนอนที่เขาเห็นยิ่งชวนให้ข้อสันนิษฐานของเขามีความน่าจะเป็นมากขึ้นอีก ทั้งเสื้อของเคโตะที่ถูกปลดกระดุมออกเกือบหมดและเตียงที่ยับยู่ยี่นั่น ยูโตะกัดฟันด้วยความโกรธ “ขนาดนี้แล้วพี่ยังจะปฏิเสธอีกเหรอ เขาเป็นเพื่อนผมนะ ทำไมต้องทำร้ายเขาขนาดนี้ด้วย”
“ไม่ใช่นะ” เคโตะตอบทันควัน เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับริวทาโร่สักหน่อย
“แต่ทำไมริวทาโร่ถึงได้เดินร้องไห้ออกไปอย่างนั้นล่ะ แถมเสื้อผ้าพี่ยัง...”
“ไม่ใช่อย่างที่นายคิดก็แล้วกัน” เคโตะพูดขัดขึ้น “ออกไปได้แล้ว”
“ผมไม่ไป” ยูโตะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่ทำแบบนี้ได้ยังไงในเมื่อพี่ไม่ได้รักริวทาโร่เลย รู้มั้ยว่าเขาจะเสียใจแค่ไหน”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ทำ” เคโตะขมวดคิ้ว ทั้งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกลัวว่ายูโตะจะไม่เชื่อเขา แค่นี้เขาก็รู้สึกผิดกับริวทาโร่มากพออยู่แล้ว
“ถ้าพี่ไม่ได้ทำแล้วริวทาโร่จะร้องไห้ออกไปแบบนั้นทำไม”
“ก็เพราะว่า....” เคโตะหยุดอยู่แค่นั้น เขาจะบอกได้ยังไงว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะเขาคิดอะไรไม่ดีกับเรียวสุเกะจนริวทาโร่ต้องมารับแทนแบบนี้ เคโตะคิดหนัก “ก็เพราะว่า...”
“เอะอะโวยวายอะไรกัน” เสียงเคนอิจิดังขึ้น
ยูโตะละสายตาจากเคโตะหันไปมองหน้าผู้เป็นพ่อ “คุณพ่อยังไม่นอนเหรอครับ” เขาร้องทัก
เคนอิจิไม่ได้ตอบคำถามลูกชาย เขามองเคโตะด้วยสายตาปราศจากอารมณ์ “ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยซะเคโตะ แล้วก็เข้านอนได้แล้ว” เคโตะไม่ตอบอะไร เคนอิจิพายูโตะออกมาจากห้อง แม้จะยังไม่ได้ความกระจ่างชัดแต่ยูโตะก็จำต้องออกมาเพราะขัดพ่อไม่ได้ เคนอิจิสังเกตเห็นสีหน้าเป็นกังวลของลูกชายคนเล็กได้ “กังวลเรื่องเจ้าเด็กนั่นเหรอ”
ยูโตะสะดุ้งตกใจที่พ่อรู้ทัน เขาก้มหน้าแต่ไม่ตอบอะไร
“ไม่มีอะไรแล้วก็นอนเถอะยูโตะ”
ยูโตะถอนหายใจ “ผมไม่อยากจะเชื่อว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้เลยครับ ผมไม่คิดว่าพี่จะทำแบบนี้ได้”
พอได้ยินลูกชายพูดแบบนี้แล้วเคนอิจิก็ไม่ตอบว่าอะไร เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเคโตะทำแบบนั้นจริงหรือเปล่าแต่เขากลับกังวลว่ามันจะจริงอย่างที่ยูโตะสงสัย ถ้าลูกชายของเขาขืนใจริวทาโร่จริงๆ คงยากที่เคโตะจะกลับมาเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิมได้
“คุณพ่อครับ” ยูโตะเรียกเมื่อเห็นว่าเคนอิจิเงียบไปนาน “คุณพ่อครับ!” ยูโตะเรียกเสียงดังกว่าเดิมเมื่อเคนอิจิไม่ตอบและนั่นก็ได้ผล เคนอิจิหลุดจากความคิดเมื่อครู่แล้วมองหน้าลูกชาย “คุณพ่อคิดอะไรอยู่เหรอครับ”
เคนอิจิยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก ไปนอนได้แล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” เขาพูดแล้วเดินกลับไปที่ห้อง
ยูโตะถอนหายใจอย่างกังวล เคโตะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอ? เขาไม่อยากจะเชื่อเลย เขาเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องของริวทาโร่ได้ยินเสียงสะอื้นดังมาจากในห้อง เขาเคาะประตูเรียก “ริวทาโร่ ฉันเข้าไปได้มั้ย”
เสียงสะอื้นเงียบไป ริวทาโร่เปิดประตูออกพร้อมตาที่บวมแดง “มีอะไรครับคุณยูโตะ”
ยูโตะขมวดคิ้ว ทั้งๆที่อยากจะมาถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า แต่พอเจอหน้าริวทาโร่เข้าไปเต็มๆ กลับทำให้เขาพูดไม่ออก ถ้าเคโตะทำแบบนั้นจริงๆ เขายังมีหน้าจะมาเรียกตัวเองว่าเพื่อนอีกเหรอ “ริวทาโร่ คือว่าฉัน....”
“ผมรู้ว่าคุณมาทำไม ถ้างั้นผมจะให้คำตอบคุณ พี่เคโตะไม่ได้ทำอะไรผมทั้งนั้นแหละ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เคโตะแล้วมันเพราะอะไรล่ะ”
ริวทาโร่เบือนหน้าไปทางอื่น “ไม่มีอะไรหรอกครับ”
ยูโตะถอนหายใจ “ถ้านายลำบากใจจะกลับไปทำงานที่ร้านเหมือนเดิมก็ได้นะ”
ริวทาโร่ส่ายหน้าน้อยๆ “ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็รับเงินคุณมาแล้ว และเงินนั่นผมก็จ่ายค่าเทอมให้น้องสาวแล้วด้วย ผมคงไม่มีปัญญาจะใช้คุณคืนหรอก”
“แต่ว่าถ้านายยังอยู่แบบนี้พี่ฉันอาจจะทำอะไรนายขึ้นมาจริงๆ ก็ได้”
“ไม่หรอกครับ ผมเชื่อว่าเขาจะไม่ทำแบบนั้นกับผม” แม้จะรู้สึกเสียใจที่เคโตะทำแบบนั้นก็ตาม แต่พอคิดถึงความรู้สึกตอนที่เคโตะเรียกเรียวสุเกะแล้วมันทำให้เขาอดที่จะเห็นใจเคโตะไม่ได้ เพราะต้องเก็บมันไว้คนเดียวถึงได้เจ็บปวดแบบนั้น ถึงภายนอกจะดูแข็งกระด้างกับคนอื่นก็ตาม แต่จริงๆ แล้วเคโตะกลับอ่อนแอกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก
ยูโตะขมวดคิ้ว ทั้งๆ ที่โดนกระทำขนาดนี้ทำไมริวทาโร่ถึงยังเข้าข้างเคโตะอยู่ได้ “ทำไมถึงได้มั่นใจขนาดนั้นล่ะ เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้งก็ไว้ใจขนาดนี้แล้วเหรอ”
ริวทาโร่จ้องยูโตะกลับ ทำไมยูโตะถึงได้พูดถึงเคโตะเหมือนคนอื่นไกลอย่างนี้ล่ะ “คุณไม่ได้รู้จักพี่ชายของคุณเลยสักนิด ที่จริงแล้วคุณเองก็เกลียดพี่ชายของคุณใช่มั้ยล่ะ”
“ริวทาโร่! ทำไมพูดแบบนี้”
ริวทาโร่จ้องเขาโดยไม่กลัวเกรง “เพราะคุณไม่ได้สนใจตัวตนที่แท้จริงของพี่คุณเลย ถึงผมจะรู้จักกับเขาได้ไม่นาน แต่ถ้าเทียบระหว่างคุณกับเขาแล้ว พี่ชายคุณรักคุณมากกว่าที่คุณรักพี่ชายซะอีก”
ยูโตะขมวดคิ้ว “หมายความว่ายังไง”
“คุณแม่คุณบอกผมว่าเมื่อก่อนพี่เคโตะแทบไม่แตะเหล้าเลยด้วยซ้ำ แต่ช่วงนี้กลับเมากลับบ้านมาทุกวัน ในขณะที่คุณกำลังมีความสุขกับยามะจังของคุณ คุณไม่รู้หรอกว่าพี่ชายคุณต้องเผชิญกับอะไรบ้าง”
ยูโตะเริ่มรู้สึกโกรธที่ริวทาโร่สบประมาทเขาแบบนี้ “ถ้างั้นก็บอกฉันสิ พี่ฉันเจออะไร” ริวทาโร่นิ่งเงียบ เพราะรับปากกับเคโตะแล้วว่าจะไม่บอกใครเรื่องของเรียวสุเกะ เขาก้มหน้านิ่ง ยูโตะพยายามควบคุมอารมณ์ให้คงที่ “นายเปลี่ยนไปมากนะริวทาโร่ เขาทำกับนายขนาดนี้จะยังเข้าข้างเขาอยู่ได้ หลงเขามากเลยเหรอ?”
“คุณยูโตะ!” ริวทาโร่ตกใจกับคำพูดของยูโตะ เขาถอนหายใจใหญ่ “ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วงผม แต่คุณก็รู้ว่าพี่คุณเป็นคนยังไง คุณรู้ดีกว่าผมด้วยซ้ำ ถึงผมจะรู้จักเขาแค่ไม่นาน ผมก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนอย่างที่เห็นภายนอกหรอก”
แต่ยูโตะกำลังโกรธที่เคโตะไม่ให้เกียรติเพื่อนเขาและริวทาโร่ยังเข้าข้างเคโตะอีกทำให้เขาไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่ริวทาโร่พูด “ฉันรู้ว่าพี่ฉันเป็นยังไงก็วันนี้แหละ” เขาคิดถึงเรียวสุเกะ ชั่วขณะนั้นที่ความหึงหวงครอบงำ เรียวสุเกะต้องทำงานกับคนแบบเคโตะ ในเวลานี้ทำให้เขากังวลนัก “พอทำกับนายแล้วเขาก็คงไปทำกับคนอื่นต่ออีก”
ริวทาโร่จ้องหน้ายูโตะ เขาเรียบเรียงคำพูดอย่างใจเย็น “คุณน่ะ เกลียดพี่คุณจริงๆ ใช่มั้ย” ยูโตะไม่ตอบและไม่ได้มองหน้าริวทาโร่กลับด้วย “คุณไม่ได้ห่วงผมหรอก คุณห่วงคุณยามาดะต่างหาก” เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินกลับเข้าห้องไป
ยูโตะนิ่งคิด เขามองประตูกห้องที่ปิดลง บางทีเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าเคโตะนิสัยยังไง แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เคโตะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ยูโตะรู้สึกกังวลใจนัก จะทำยังไงต่อไปดี เขาควรเชื่อใจเพื่อนใช่มั้ยนะ คำตอบคือ ใช่ หัวใจเขาบอกอย่างนั้น
----------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ เมื่อวานเกิดอาการอยากแต่งฟิคแล้วก็แต่งอย่างเมามันเลยล่ะสุดท้ายไรเตอร์ก็เลยได้มาลงวันนี้ ^^
จากนี้ก็ไม่รู้อีกกี่วันกว่าจะอัพอีกครั้งนะคะ ขอให้สนุกนะ
ความคิดเห็น