คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่ 20
เคโตะเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดเสื้อผ้าครบชุด เขาเดินไปนั่งบนเตียงที่มีร่างที่หลับใหลของเรียวสุเกะนอนอยู่ แม้การอาบน้ำจะทำให้เขาสบายตัวขึ้นแต่มันไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่อยู่ในใจเขามันสบายขึ้นเลย เรียวสุเกะหลับไปทันทีที่เขาเสร็จภารกิจ ทั้งๆ ที่สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ยอมให้เรียวสุเกะต้องแปดเปื้อนเพราะเขา แต่สุดท้ายเขาก็ทำลายความตั้งใจของตัวเองอย่างสิ้นซาก เคโตะรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด ผ้าห่มที่คลุมแค่ครึ่งตัวไม่อาจปกปิดร่องรอยจากการกระทำของเขาที่ปรากฏอยู่ทั่วร่างกายของเรียวสุเกะได้
เคโตะจ้องมองใบหน้านั้นอยู่นาน เขาค่อยๆ ประคองจะเรียวสุเกะขึ้นมาแล้วกอดไว้ น้ำตาเขาไหลออกมาจากความรู้สึกผิด นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้มองหน้าและได้กอดเรียวสุเกะแบบนี้ ทุกอย่างจบลงแล้ว จบลงเพราะการกระทำของเขาทั้งหมด “ผมขอโทษ”
รถคันหรูแล่นเข้าไปจอดในโรงเก็บรถของคฤหาสน์ยามาดะ
“พี่ขึ้นไปทำอะไรกับคุณจิเน็นข้างบนน่ะ ผมรอพี่ตั้งนานกว่าจะลงมาได้” ริวทาโร่ถามเมื่อลงจากรถ
ยูโตะยื่นมือให้ริวทาโร่ดู รอยปากกาแต้มอยู่หลายจุดบนมือของเขา “เขียนรายงานครับ”
ริวทาโร่หัวเราะ “เขาใช้งานพี่คุ้มจริงๆ เลยนะ แล้วเมื่อไรจะไปเดทกันซักทีล่ะครับ เจอกันทีไรเห็นแต่พี่ทำงานให้เขาตลอดเลย” ยูโตะหน้าแดงนั่นทำให้ริวทาโร่ชอบใจใหญ่ “ผมสัญญาว่าวันที่พี่ไปเดทกับเขาผมจะไม่ไปกวนพี่เลย ไม่ให้พี่เรียวไปด้วย”
“คุณโมริโมโตะ พอเถอะครับ ผมกับคุณจิเน็นไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”
ริวทาโร่ล้อ “เหรอ?? ผมจะรอดูวันที่ลูกพี่เกิดแล้วกันนะ”
“คุณโมริโมโตะครับ” ยูโตะรู้สึกเหมือนมีเลือดสูบฉีดไปทั่วใบหน้า “เลิกล้อผมซักทีเถอะน่า คุณจิเน็นมีลูกไม่ได้ซักหน่อย”
ริวทาโร่หัวเราะชอบใจใหญ่ “ตั้งแต่รู้จักกันมาเป็นครั้งแรกเลยนะที่พี่เขินจนหน้าแดงได้ขนาดนี้”
ยูโตะยิ้มแหยเพราะไม่รู้จะทำสีหน้ายังไงดี “เข้าไปข้างในกันเถอะครับคุณหนูคงเป็นห่วงคุณแย่แล้ว”
“อือ” เรียวสุเกะลืมตาตื่น พยายามต่อสู้กับความเจ็บปวดบริเวณสะโพกที่แล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ เขาลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากมองเห็นเสื้อผ้าของตัวเองที่กลายเป็นเศษผ้าไปแล้วตอนนี้วางไว้บนปลายเตียง เขามองไปรอบๆ ห้องที่ใหญ่โตของตัวเองความรู้สึกว้าเหว่เข้าเล่นงานเขาจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ วันนี้เขาร้องไห้เพราะผู้ชายคนนั้นมามากเท่าไรแล้วนะ
ยูโตะเปิดประตูเข้ามา “คุณหนู!” เขาเรียกอย่างตื่นตระหนกแล้วถอดสูทของตัวเองออกมาคลุมไหล่เปลือยเปล่าของเรียวสุเกะไว้
ริวทาโร่ตามเข้ามาในห้อง สมองรับรู้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างที่เขากับยูโตะไม่อยู่ ริวทาโร่หยิบผ้าขนหนูแล้วนำมาคลุมร่างของเรียวสุเกะ แม้จะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ตอนนี้เรียวสุเกะต้องการที่พึ่ง ถ้าเขาไม่เข้มแข็งไว้ก็คงช่วยพี่ชายไม่ได้ “พี่เรียวครับ” ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาของเรียวสุเกะเงยหน้าขึ้นมองน้องชาย ริวทาโร่เช็ดน้ำตาให้ “อาบน้ำเถอะครับแล้วก็กินข้าวจะได้พักผ่อน ผมจะอยู่กับพี่เอง ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ” ริวทาโร่ประคองเรียวสุเกะให้ลุกขึ้นแล้วหันมาพูดกับยูโตะ “พี่ยูโตะช่วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนด้วยนะครับ แล้วก็ฝากจัดการเรื่องอาหารให้ด้วย เอาสตรอว์เบอร์รี่เยอะๆ นะ”
“ฉันไม่กิน” เสียงอู้อี้ของเรียวสุเกะดังขึ้น “ไม่เอาสตรอว์เบอร์รี่”
ริวทาโร่มองหน้าพี่ชาย เขารับรู้ถึงความรู้สึกที่เรียวสุเกะต้องแบกรับมันไว้อย่างดี “ทำตามที่พี่เรียวบอกเถอะครับ”
“ได้ครับคุณโมริโมโตะ” ริวทาโร่ยิ้มบางๆ ให้ก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะหายเข้าไปในห้องน้ำ ยูโตะมองสภาพภายในห้องด้วยความโกรธแค้น ทั้งรอยเลือดบนเตียง รอยแดงบนร่างกาย เสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดและน้ำตาของเรียวสุเกะ เขากัดฟันกรอด “ผมจะฆ่ามัน!!”
เรียวสุเกะนอนหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ริวทาโร่ห่มผ้าให้พี่ชายแล้วถอนหายใจใหญ่ “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้” ยูโตะหุนหันออกมาจากห้องของเรียวสุเกะ ริวทาโร่วิ่งไปดึงแขนเขาไว้ “เดี๋ยวก่อนพี่ยูโตะ จะไปไหนน่ะ”
ยูโตะหายใจแรงด้วยโทสะ “ผมจะไปฆ่ามัน ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนผมต้องตามมันมาลงโทษให้ได้”
“พี่ยูโตะตั้งสติหน่อย พี่จะฆ่าใคร”
“เจ้าโอคาโมโตะ มันต้องชดใช้เรื่องนี้” เขาดึงแขนตัวเองออกจากมือของริวทาโร่แล้วเดินไป
ริวทาโร่วิ่งตาม “เดี๋ยวครับพี่ยูโตะ พี่รู้เหรอว่าพี่เคโตะอยู่ที่ไหน”
ยูโตะหยุด “ผมไม่รู้ แต่ผมต้องไปหามันเดี๋ยวนี้”
ริวทาโร่ดึงแขนไว้ก่อนที่ยูโตะจะเดินหนีไปอีก “การแก้แค้นไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหานะครับ ตอนนี้สำคัญที่สุดคือพี่เรียว พี่ไม่ห่วงพี่เรียว ไม่ห่วงคุณจิเน็นแล้วเหรอ” ยูโตะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนริวทาโร่รู้ว่าร่างสูงกำลังตัดสินใจ “ทาคาคิจะลงมืออีกครั้งแล้ว ผมว่าพี่ควรจะรู้ไว้นะ คุณจิเน็นกำลังอยู่กับคนที่อันตรายที่สุดอย่างทาคาคิ พี่เรียวผมดูแลให้ได้แต่คุณจิเน็นล่ะครับ ถ้าพี่ไปใครจะปกป้องเขา”
ยูโตะหันมาทันที เขากำลังรู้สึกสับสนจนไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดีซึ่งก็เป็นสิ่งที่ริวทาโร่รับรู้ได้
“ผมอยากให้พี่ฟังนี่” ริวทาโร่ยื่นไอพอดให้ “วันนี้ผมแอบไปติดที่ดักฟังไว้ที่บ้านของคุณจิเน็น แล้วผมก็ได้ยินสิ่งนี้” เขาแบ่งหูฟังคนละข้างกับยูโตะแล้วนั่งลงตรงโซฟา เสียงยูยะดังขึ้น
........ผมจะลงมือคืนพรุ่งนี้ครับ ที่อยู่ระบุเรียบร้อยแล้ว รับรองว่าครั้งนี้ไม่พลาดแน่ หลักฐานผมส่งให้คุณโคะแล้ว เขาไม่รู้แน่นอนครับ คืนพรุ่งนี้ชื่อ อิโนะโอะ เค จะหายไปจากโลก........
ริวทาโร่ปิดเครื่องไอพอดแล้วมองหน้าบอดิการ์ดหนุ่ม ยูโตะจ้องตอบ “มันไม่เกี่ยวกับผมครับคุณโมริโมโตะ”
ริวทาโร่เรื่มจะรู้สึกโกรธขึ้นมา “ผมรู้ว่าพี่โกรธพี่เคโตะ แต่นี่มันพี่เขยของเขาไม่ใช่พี่เคโตะซักหน่อย พี่คิดจะไม่ช่วยเขาเลยเหรอ อย่างน้อยก็น่าจะไปเตือนเขาบ้าง”
ยูโตะยืนขึ้น “คุณโมริโมโตะครับ เรื่องของคนอื่นก็ปล่อยให้เขาจัดการไป เราอย่าไปยุ่งด้วยดีกว่า”
ริวทาโร่ยืนขึ้นบ้าง “อย่าใจร้ายได้มั้ย พี่จะยอมเห็นคนตายไปต่อหน้าโดยที่ไม่ช่วยอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ”
ยูโตะยังคงมีท่าทีเฉยชา “มันไม่เกี่ยวกับเราเลยครับ”
“แล้วคุณจิเน็นล่ะครับ” ริวทาโร่พูดอย่างใจเย็น “คุณจิเน็นกำลังอยู่กับฆาตกร คุณจิเน็นกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน” เขาถอนหายใจ “ถ้าไม่คิดจะช่วยคุณอิโนะโอะอย่างน้อยคุณจิเน็นก็ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”
ยูโตะครุ่นคิดหนัก เขามองหน้าริวทาโร่และตัดสินใจ “ผมฝากคุณโมริโมโตะดูแลคุณหนูด้วยนะครับ ผมจะไปหาคุณจิเน็น”
ริวทาโร่พยักหน้า “ไม่ต้องห่วงครับ”
ยูยะวางหูโทรศัพท์ อิโนะโอะ เค เป็นชื่อที่เขาใช้แทน ฟุจิงายะ ไทสุเกะ เพราะเขาไม่รู้ว่าไทสุเกะจะแอบลอบฟังเขาหรือเปล่าจึงต้องไม่ประมาท แม้แต่ชื่อก็ต้องใช้รหัสเรียก ฮิ ใช้แทนฮิคารุ ส่วน โคะ ใช้แทนโคตะ ยูยะกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ ข้อมูลบางอย่างเด้งขึ้นมาที่หน้าจอ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า คราวนี้แกไม่รอดแน่ฟุจิงายะ
ฮิคารุปิดโทรศัพท์แล้วมองทนายหนุ่มที่กำลังจัดแจงเอกสารอยู่ “คุณพร้อมหรือยังคุณยาบุ”
โคตะเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร “พร้อมเสมอครับ ไม่คิดเลยนะครับว่ากลุ่มรินไซจะทำผิดกฎหมายเยอะแยะขนาดนี้”
“ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่ทาคาคิเขารู้น่ะ”
โคตะยิ้ม “ทาคาคิ ยูยะ ผมก็เจอประวัติเขาเหมือนกัน ฝีมือดีไม่เบาเลยนะ”
“เมื่อก่อนเขาเคยเป็นมือหนึ่ง”
“แล้วทำไมถึงได้หนีไปล่ะครับ ฝีมือขนาดเขาอยู่กับพวกนั้นได้สบายอยู่แล้ว”
ฮิคารุยิ้ม “เพราะว่าฉันขอร้องน่ะสิ งานสุดท้ายของทาคาคิคือลอบสังหารเคจังแต่ฉันรู้แผนการนั้นเข้า ฉันก็เลยขอร้องเขาไม่ให้ทำ”
โคตะหัวเราะ “พูดอย่างกับมันทำง่ายจังเลยนะครับ”
“ก็ไม่ง่ายหรอก เขาก็เกือบจะฆ่าฉันเหมือนกัน”
โคตะหยุดชะงักด้วยความตกใจ “เกือบจะฆ่าคุณเหรอ”
ฮิคารุมองหน้าซีดเผืดของโคตะแล้วหัวเราะ “ใช่ เขาบอกว่าถ้าฉันขวางเขาอีกเขาจะฆ่าฉันทันทีเลย แต่ว่านะ คนทุกคนต่างก็มีจุดอ่อน ทาคาคิน่ะโดดเดี่ยวมาตั้งแต่เด็กๆ เราก็แค่แสดงความเป็นมิตรให้เขาเห็นแค่นั้นก็หยุดเขาได้แล้ว เพราะมิตรภาพคือสิ่งที่เขาต้องการ”
โคตะมองอย่างแปลกใจ “คุณรู้ได้ยังไงว่าเขาต้องการอะไร”
“ไม่เห็นจะยากเลย” ฮิคารุสบตาโคตะนิ่ง “ทุกสิ่งมันบอกผ่านสายตาออกอยู่แล้ว”
โคตะหัวเราะ “โกหกผมหรือเปล่า ถ้างั้นบอกผมทีสิครับว่าผมคิดอะไรอยู่” ฮิคารุมองสบตาโคตะทันที สายตาที่ฮิคารุมองมาทำให้เขาใจเต้นขึ้นมาอย่างประหลาด
“คุณกำลังตื่นเต้น” ฮิคารุพูดด้วยสีหน้าเฉยชา “ใจเต้นแรงด้วย แล้วคุณก็กำลังเขินเพราะว่าคุณน่ะ.....” ฮิคารุละสายตาแล้วทำเป็นเปิดเอกสารออกเปิดดูคร่าวๆ
โคตะยิ่งใจเต้นแรงกว่าเดิม นี่ฮิคารุรู้ทุกอย่างเลยเหรอเนี่ย “เพราะว่าผมอะไรเหรอครับ” เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้มีปฏิกิริยาแบบนั้นได้
ฮิคารุไม่ได้เงยหน้ามองเขาแต่อย่างใด “ถามใจคุณเองสิ คุณรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่” เขาวางกองเอกสารบนโต๊ะ “ทำงานต่อเถอะครับอย่าสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย” ความเงียบเข้าครอบงำคนทั้งคู่อีกชั่วขณะหนึ่ง “คุณยาบุ” ฮิคารุพูดขึ้น “เคจังกับคุณอาริโอกะเป็นยังไงบ้าง เพราะฉันต้องช่วยทาคาคิเลยไม่มีเวลาไปเยี่ยมเขาเลย”
โคตะเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร “ก็... ดีขึ้นครับ ผมบอกเรื่องคุณกับคุณอาริโอกะแล้วแต่ไม่ได้บอกเรื่องที่เรากำลังทำอยู่ ผมไม่อยากจะให้พวกเขายุ่งเกี่ยวด้วย ไม่งั้นฟุจิงายะอาจจับผิดได้”
ฮิคารุพยักหน้า “งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ”
“คุณยาโอโตเมะครับ”
“ว่าไง”
“ถ้าคุณอิโนะโอะไม่ตัดสินใจแต่งงานกับคุณอาริโอกะ คุณจะยังแต่งงานกับเขาอยู่หรือเปล่า”
ฮิคารุมองหน้าด้วยความสงสัย “ถามทำไม”
โคตะหลบหน้า เขารู้สึกว่าตัวเองถามอะไรที่ไม่สมควรถามไปแล้ว “เปล่าครับ ผมก็แค่คิดว่าความรักมันเลิกกันได้ง่ายๆ ด้วยเหรอ คุณก็ดูเหมือนจะใช้เวลาทำใจกับเรื่องนี้ไม่นานเท่าไร”
“เวลาที่เรารักใครซักคนไปแล้ว แม้ทั้งชีวิตนี้เราก็ลืมไม่ลงหรอก” ฮิคารุยิ้มกับแววตาสงสัยของโคตะ “ฉันไม่ได้ทำใจกับเรื่องเคจังหรอกเพราะตั้งแต่แรกมาฉันก็ไม่ได้รักเขาอยู่แล้ว ก็แสดงออกถึงขนาดนั้นนี่นาฉันเองก็ไม่อยากเจ็บเหมือนกันน่ะแหละ”
โคตะพยักหน้าพยายามซ่อนความดีใจที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องดีใจด้วย “งั้นเหรอครับ”
“แล้วคุณล่ะ มีแฟนบ้างหรือเปล่า”
“ยังครับ ผมมัวแต่ทำงานเลยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้” เขาตอบอย่างเขินๆ
ฮิคารุหัวเราะ “ลองสักครั้งก็ไม่เสียหายหรอก เปิดใจบ้างสิครับ”
โคตะเผลอมองรอยยิ้มของฮิคารุโดยไม่ตั้งใจ และนั่นทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง โคตะก้มหน้างุดทันทีที่รู้ว่าตัวเองกำลังเป็นอะไร เขาทำงานต่อไปเพื่อไม่ให้ฮิคารุสงสัยในความรู้สึกของเขาที่มันเกิดขึ้น ผมก็คิดว่าจะลองเปิดใจดูสักครั้งเหมือนกัน
ริวทาโร่เดินเข้าไปในห้องของเรียวสุเกะ ร่างของพี่ชายนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง เขาเดินเข้าไปใกล้ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ “พี่เรียวครับ พี่หลับอยู่หรือเปล่า”
เรียวสุกะรีบเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้น แต่ทว่า... “โอ๊ย!!” ความเจ็บแผ่ไปทั่วสะโพกอย่างรวดเร็วทันทีที่ขยับ ริวทาโร่รีบเข้าไปประคองพี่ชายให้นอนลง
“อยู่นิ่งๆ ก่อนนะครับพี่ ถ้าขยับมันจะเจ็บมากทีเดียว”
เรียวสุเกะก้มหน้าร้องไห้ “พี่ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดีริวจัง เขาไปแล้ว”
ริวทาโร่กุมมือพี่ชายไว้ “พักผ่อนเถอะครับ ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น ลืมเขาไปซะ ผมจะอยู่กับพี่เอง”
เรียวสุเกะได้แต่มองตาปริบๆ “พี่เข้าใจ พี่จะนอนแล้วนะ” ริวทาโร่ปิดไฟที่หัวเตียงแล้วเดินออกจากห้องไป เรียวสุเกะลืมตาขึ้นมาแล้วเริ่มต้นร้องไห้อีกครั้ง “มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกริวจัง”
ยูรินั่งอ่านนิตยสารซุบซิบดาราอย่างเบื่อหน่าย เขาวางมันลงหลังจากเปิดผ่านๆ ได้ไม่กี่หน้า “โอ๊ย! ไม่มีอะไรจะเขียนแล้วหรือไงนะ” เสียงกดกริ่งที่หน้าบ้าน “ยูยะ ใครมาน่ะ”
ยูยะวิ่งออกไปแล้วพาแขกเข้ามาในห้องโถง ยูโตะหยุดยืนอยู่หน้ายูริแล้วโค้งให้ “สวัสดีครับคุณจิเน็น”
ยูริยิ้มกว้าง “มาอีกแล้วนะ ดึกป่านนี้แล้วมาทำไมเนี่ยฉันจะนอนอยู่แล้ว” เขาชะเง้อมองข้างหลังยูโตะ “ริวทาโร่ไม่มาด้วย จะชวนฉันไปเดทเหรอ” ยูโตะหน้าแดง ยูริหัวเราะคิกคัก “ไม่ล้อแล้วก็ได้ ว่าแต่นายมาทำไม สงสัยคงไม่ได้ชวนไปออกเดทหรอกใช่มั้ย”
ยูโตะนึกหาคำตอบ “ผมมาหาคุณ” ยูรินิ่งรอฟังต่อ “เอ่อ... โอคาโมโตะมาหาคุณหรือเปล่า”
ยูริส่ายหน้า “ไม่นี่ แล้วเขาไม่อยู่ที่นั่นเหรอ” ยูโตะส่ายหน้า “แล้วเขาไปไหนล่ะ”
“ผมก็ไม่รู้ครับ”
“เอ๊ะ! ยังไงเนี่ย แฟนเจ้านายหายไปทั้งคนไม่รู้เรื่องเนี่ยนะ”
“เขาไม่ใช่แฟนเจ้านายผมอีกแล้ว!”
ยูริมองสีหน้าแดงก่ำของยูโตะด้วยความตกใจ “นายโกรธอะไรของนายน่ะ โอเคๆ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันลองโทรหาพี่ไดกิดูให้ก็ได้”
ยูโตะยืนรอยูริโทรศัพท์ สมองครุ่นคิดไปเรื่อย นี่เขาทำหน้าโมโหใส่ยูริเหรอเนี่ย บ้าจริงๆ เลย ยูริเดินมานั่งที่เดิม “พี่ไดกิบอกว่าเขาออกมาตั้งแต่หัววันแล้วตอนนี้ยังไม่กลับเลย” ยูโตะขมวดคิ้ว ยูริจ้องหน้ายูโตะนิ่ง “นายตามหาเคโตะทำไม เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้น”
เรียวสุเกะนั่งเหม่อมองออกไปนอกห้อง แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาแต่ในห้องก็ยังคงเย็นด้วยเครื่องปรับอากาศที่ส่งเสียงหึ่งๆ ประตูเปิดออกแต่เรียวสุเกะไม่ได้สนใจจะมองว่าใครมา
“ยามาดะฉันเข้าไปได้มั้ย”
เรียวสุเกะจำเสียงนั้นได้ เขาหันขวับไปทันที “มาทำไม”
ยูริมองข้าวต้มที่วางไว้โดยไม่ถูกแตะต้องแล้วถอนหายใจ “ยามาดะคือฉัน.....”
เรียวสุเกะปาหมอนใส่ยูริ “ออกไปนะ ฉันคืนเคโตะให้แล้วแล้วยังจะอยากได้อะไรอีกฮะ”
ยูริหลบหมอนที่ลอยมา เขามองไปยังคนที่ปามันมาแล้วถอนหายใจ “ยูโตะเล่าเรื่องเธอกับเคโตะให้ฟังหมดแล้ว เธอไม่เป็นไรนะ”
เรียวสุเกะหัวเราะฝืนๆ “ไม่เป็นไรเหรอเธอดูสภาพฉันสิ ดูสิว่าฉันเป็นยังไง ไม่เป็นอะไรเล้ยย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงกระแทกแดกดัน
ยูริเดินเข้าไปจับมือเรียวสุเกะไว้ “ดูมือเธอสิผอมไปหมดแล้ว ทำไมไม่กินข้าวล่ะยามาดะ”
เรียวสุเกะกลืนก้อนสะอื้นลงคอ “ฉันกินไม่ลง”
“ถ้าไม่กินเดี๋ยวก็โทรมหมดหรอก เดี๋ยวจะไม่น่ารักเอานะ” พูดได้แค่นั้นเรียวสุเกะก็ก้มหน้าลงร้องไห้จนยูริตกใจ นี่เขาพูดอะไรผิดไปเนี่ย “เป็นอะไรไปยามาดะ ฉันขอโทษนะ ฉันจะไม่ว่าเธอไม่น่ารักอีกแล้ว เธอน่ารักที่สุดเลยนะ ยิ้มหน่อยสิ”
“ฉันไม่รู้จะน่ารักไปทำไม” เรียวสุเกะสะอื้น “จะน่ารักไปทำไมในเมื่อเขาไม่อยู่อีกแล้ว”
“ฉันรู้ว่าเธอเสียใจนะ” ยูริดึงเรียวสุเกะเข้ามากอดแล้วลูบหลังเบาๆ “ร้องออกมาเถอะถ้ามันช่วยให้สบายใจขึ้นได้ ไม่เป็นไรนะเธอยังมีอีกหลายคนที่รักเธออยู่ คิดถึงพวกเขาให้มากๆ เข้าไว้สิ”
เสียงร้องไห้ของเรียวสุเกะดูเหมือนจะไม่ได้ลดลงไปเลย เรียวสุเกะกอดยูริแน่น กำแพงแห่งความไม่ชอบหน้าพังทลายลงไปทันทีที่ยูริแสดงความเป็นมิตรให้เขา “ขอบคุณนะ”
----------------------------------------------------------------------------
มีแต่คนยุให้แต่ง NC >///<
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำแนะนำเลยนะคะ ไรเตอร์จะไม่คิดมากแล้วล่ะใส่ให้มันเต็มที่เล้ยยยย 5555555
ความคิดเห็น