ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic [HSJ-OkaYama] คุณหนูสตรอว์เบอร์รี่ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 19

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 260
      1
      27 เม.ย. 55

     ตอนที่  19

    “ผมคิดออกแล้วครับพี่ยูโตะว่าจะทำยังไงดี”  ริวทาโร่เงยหน้ามองบอดิการ์ดหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าบ้าน  “สีหน้าไม่ค่อยดีเลย  พี่เป็นอะไรหรือเปล่า”

    ยูโตะถอนหายใจ  “ผมไม่ได้เป็นอะไรครับคุณโมริโมโตะ”

    ริวทาโร่กอดอก  “พี่เรียวเขาไม่เป็นอะไรหรอกครับ  เขาดูดีกว่าตอนที่อาริโอกะบอกเลิกซะอีก  ผมว่าพี่เรียวดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ”  ริวทาโร่มองยูโตะซึ่งยังคงเงียบอยู่  “ทาคาคิมีการติดต่อกับคนนอกแต่ผมไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะเขาตัดสัญญาณการตรวจจับปลายสาย  ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว”

    นั่นทำให้ยูโตะมีปฏิกิริยาตอบกลับ  “เขาจะทำอะไรครับคุณโมริโมโตะ”

    ริวทาโร่ยิ้ม  “พาผมไปที่คฤหาสน์จิเน็นสิครับ  ผมมีวิธีที่จะล้วงความลับของเขาได้”

    “แต่ว่าคุณหนูล่ะครับ”

    “คุณพ่อบ้านจะดูแทนครับ  แค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้น  ที่นี่ก็มีบอดิการ์ดเยอะแยะ  ผมว่าพี่เรียวคงไม่เป็นอะไรหรอก  ผมเป็นห่วงพี่เรียวแต่ถึงอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรพี่เรียวเลยสักนิด  แล้วพี่ไม่ห่วงคุณจิเน็นแฟนพี่เลยเหรอ”

    “คุณจิเน็นไม่ใช่แฟนผม”

    ริวทาโร่หัวเราะ  “เหรอครับ  ผมไม่เชื่อหรอก  ใครๆ ก็ดูออกทั้งนั้นแหละว่าพี่น่ะชอบคุณจิเน็นแล้วคุณจิเน็นก็ชอบพี่  แบบนี้ถ้าไม่เป็นแฟนกันจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ”  เขาอมยิ้มกับสีหน้าของบอดิการ์ดหนุ่ม  “ไปกันเถอะครับเวลามีไม่มาก”

     

    ไดกิรู้สึกเหมือนโลกวูบไปชั่วขณะเขาเดินเซไปยังเตียงนอนหนานุ่มที่ใช้เป็นเรือนหอในวันแต่งงาน  เรือนหอที่ตอนนั้นเขาไม่อยากจะเข้ามาซักนิด  ไม่อยากจะรับรู้ว่าใครจะนอนกับเขาบนเตียงนี้ด้วย  แต่ในตอนนี้น้ำตาของคนใจแข็งกลับไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่  เมื่อก่อนนี้เคก็เคยทำกับเขา  เคยคุกเข่าขอความรักจากเขา  แต่ตอนนี้สิ่งนั้นกลับกลายเป็นเรียวสุเกะที่ได้รับมันไปเสียแล้ว  ไดกิได้แต่นอนร้องไห้อยู่ในห้องนั้นอย่างเดียวดาย 

     

    หลังจากวุ่นวายจากงานที่คั่งค้างที่บริษัท  เมื่อเสร็จงานเคก็รีบบึ่งรถกลับบ้านทันที  บ้าน  เขานึกแล้วยิ้มกับตัวเองเงียบๆ  บ้านที่กลับไปแล้วจะได้เจอภรรยาที่น่ารักคอยยิ้มรับอยู่หน้าบ้าน  อาหารที่ภรรยาทำจะต้องเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก  และเขาก็จะกลับบ้านเร็วทุกวันเพื่อพบเจอกับสิ่งนั้นที่จะทำให้เขามีความสุขมากที่สุด  แต่ก่อนอื่น  เขาจะต้องได้ใจภรรยาเขามาให้ได้ซะก่อนล่ะ

    ทั้งบ้านปิดไฟเงียบสนิทแต่ประตูไม่ได้ล็อค  “ไดจัง”  เควิ่งเข้าบ้านทันทีความมืดและความเงียบเข้าปกลุมรอบตัว  ไร้เงาของภรรยา  เคมองไปทั่วบ้าน  เขาเปิดไฟแล้ววิ่งขึ้นห้อง  ร่างของไดกิที่นอนอยู่บนเตียงทำให้เขาอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย  “ไดจัง”  เขาวิ่งเข้าไปประคองและโอบกอดภรรยาไว้  รู้สึกถึงคลื่นหมอกแห่งความกลัวได้มลายหายไปสิ้น

    ไดกิรู้สึกตัว  นี่เขาเผลอหลับไปเหรอเนี่ย  ไดกิกระทุ้งที่หน้าอกสามีเบาๆ เพื่อให้เครู้ว่าเขาตื่นแล้ว  เคคลายอ้อมกอดออก  “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ  รู้มั้ยว่าผมเป็นห่วงแค่ไหน  ถ้าจะนอนก็ต้องปิดประตูสิไม่ใช่เปิดไว้ให้ใครเข้าออกก็ได้  ถ้าโจรมันเข้ามาจะทำยังไง  ถ้าใครเข้ามาทำร้ายจะทำยังไง  ใครจะช่วยคุณ”  เคร่ายยาวด้วยความเป็นห่วง  แต่ไดกิกลับไม่มีอารมณ์จะมาเถียงกับเขาซึ่งเคก็สัมผัสได้  เขาจ้องหน้าไดกิชัดๆ  “เกิดอะไรขึ้น  คุณร้องไห้ทำไม  แล้วตอนนี้เคโตะอยู่ที่ไหน”

    ไดกิดึงมือเคออกจากแขนของเขา  “ช่างมันเถอะ”  เขาพูดโดยไม่สบตา

    เครู้ว่านั่นเป็นคำโกหก  ไดกิไม่มีทางแสดงท่าทีที่อ่อนแอแบบนี้ออกมาแน่  หรือจะเกิดอะไรขึ้นกับเคโตะ  “เคโตะเป็นอะไรหรือเปล่า”  เขาลองเสี่ยงถาม  ไดกิส่ายหน้า  เคพยายามคิดว่าอะไรที่ทำให้ไดกิเป็นแบบนี้  “หรือว่าคุณหึงผมล่ะ”  เขาพูดติดตลก  แต่สายตาที่ไดกิมองมากลับไม่ได้ตลกด้วย  เขารับรู้ด้วยสัญชาตญาณบางอย่างว่านี่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง  เขาดีใจที่รู้ว่าไดกิหึงแสดงว่าไดกิก็มีใจให้เขาเหมือนกัน  แต่เขาไปทำอะไรล่ะ  “ผมทำให้คุณโกรธเหรอ?”

    ไดกิถอนหายใจ  “ถ้าคุณอยากจะไปอยู่กับเรียวจังฉันก็ไม่ว่านะ  ไปเถอะ”  ไดกิหลบตารู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลอยู่รอมร่อ

    “นี่คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ  ใครจะไปอยู่กับยามะดะ?”

    “ก็คุณไง”  ไดกิพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้เคสังเกตเห็นว่าเขากำลังจะร้องไห้

    “ผมเหรอ?”  เคชี้เข้าหาตัวเอง  นี่ผมไปรักยามะดะตอนไหนเนี่ย  “ผมจะไปอยู่กับเขาได้ยังไง  ก็ผมไม่ได้รักเขานี่  อีกอย่างเขาก็มีเคโตะอยู่แล้วทั้งคนไม่ใช่เหรอ”

    “งั้นก็แสดงว่าถ้าไม่มีฉันกับเคโตะคุณก็จะมีความสุขด้วยกันได้อย่างนั้นสิ  ถ้างั้นเราสองคนจะไม่ขวางพวกคุณ  เชิญไปมีความสุขกันตามสบาย”  ไดกิลุกขึ้นจะเดินหนี  เครีบวิ่งไปโอบด้านหลังทันที

    “ผมไม่รู้ว่าคุณได้ไปเห็นไปได้ยินอะไรมา  แต่ขอให้คุณรู้ไว้ว่าผมรักคุณคนเดียว”

    ไดกิน้ำตาไหล  คำว่ารักของเคไม่มีความจริงใจเลยซักนิด  ทั้งเขา  ฮิคารุ  และเรียวสุเกะ  ความรักที่มอบให้ใครไปทั่วของเคเป็นสิ่งที่ไดกิไม่ต้องการ  แต่สัมผัสของเคก็อ่อนโยนเหลือเกิน  อ้อมกอดของเขาทำให้หัวใจที่แข็งดุจหินของเขากลายเป็นปุยนุ่น  แม้จะอยากอยู่ในอ้อมกอดนี้นานๆ  แต่เขาก็ไม่อยากจะทนเจ็บปวดกับอ้อมกอดที่ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่ได้  ไดกิพยายามดึงแขนของเคออกแต่เขาก็กอดแน่นเกินไป  เขาใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงแขนของสามีออก  แขนของเคเหวี่ยงไปโดนโทรศัพท์ของไดกิที่วางอยู่ตกลงบนพื้น  ภาพๆ หนึ่งสว่างวาบขึ้นกลางหน้าจอ  เคจ้องรูปนั้น  ไม่นะ  ไดจังกำลังเข้าใจผิด

     

    ยูโตะขับรถเข้าไปในคฤหาสน์จิเน็น  ยูยะวิ่งเข้ามาหาคนทั้งคู่  “คุณจิเน็นรอคุณอยู่แล้วครับ”  เขาหันไปยิ้มให้ริวทาโร่  “วันนี้จะรับอะไรดีครับคุณโมริโมโตะ”  เขาถามอย่างรู้เป้าประสงค์ของการมาเยือนของร่างเล็ก

    ริวทาโร่ยิ้มตอบ  “ขอบคุณครับ  พายสตรอเบอร์รี่แล้วกัน  ฝีมือคุณทำอะไรก็อร่อยหมดเลย”

    ยูยะผายมือออก  “เชิญครับ”

     

    ยูริวิ่งเข้ามากอดยูโตะทันทีที่เขามาถึง  “นายหายไปไหนมาเนี่ย  ไม่มาหาฉันบ้างเลยนะ”  เขาส่งเสียงออดอ้อน

    ยูโตะหน้าแดง  เขาพยายามดันร่างเล็กออก  “คุณจิเน็นครับ  แม้จะเป็นบ้านคุณแต่ก็ควรสำรวมซักหน่อยนะครับ”

    ยูริคลายอ้อมกอดออกแล้วยิ้มอย่างใสซื่อ  “ลืมไป  นึกว่านายมาคนเดียวนี่นา”  เขาหันไปยิ้มให้ริวทาโร่  “ไง  เจ้าเด็กเกรียน  วันนี้มาหาอะไรกินอีกล่ะสิ”

    ริวทาโร่นั่งลงอย่างไม่สนใจ  “ผมขอพายสตรอเบอร์รี่ที่หนึ่งครับ”

    ยูริยิ้ม  “จัดให้เขาด้วยยูยะ  ฉันกับยูโตะจะไปคุยกันข้างบนขออาหารว่างด้วย”

    “ได้ครับคุณหนู”  ยูยะตอบรับ

    “ตั้งแต่ได้พี่ยูโตะเป็นแฟนนี่คุณก็นิสัยดีขึ้นเยอะเลยนะ”  ริวทาโร่พูดขึ้นลอยๆ

    ยูริเหล่ตามอง  “หรือนายอยากจะให้ฉันร้ายเหมือนเดิมล่ะ  เอามั้ย”

    ริวทาโร่ยักไหล่  “ไม่เอา  แบบนี้ดีแล้ว”

    ยูริยิ้มแล้วเกาะแขนยูโตะ  “ไปข้างบนเถอะยูโตะ  ฉันมีเรื่องจะให้นายช่วยเยอะแยะเลย”

    “คุณจิเน็นอย่าทำอะไรพี่ยูโตะล่ะ  เขายังบริสุทธิ์อยู่นะ”  ริวทาโร่พูดขึ้นลอยๆ (อีกแล้ว)

    ยูริมองตาเขียวปัด  “หาเรื่องไม่ได้กินพายสตรอเบอร์รี่อีกแล้วนะริวทาโร่”  ริวทาโร่ทำเป็นยิ้มสดใสกลบเกลื่อน  ยูริได้แต่ส่ายหัวกับความเกรียนของเด็กคนนี้  “ไปกันเถอะยูโตะ”

     

    เมื่ออยู่ตามลำพัง  ริวทาโร่ดึงอุปกรณ์ดักฟังขนาดจิ๋วออกจากกระเป๋า  เขาเดินเข้าไปในครัวเห็นยูยะกำลังทำอาหารอยู่  ริวทาโร่ติดเครื่องดักฟังตรงเข็มขัดของยูยะอย่างแนบเนียน  ยูยะหันมาทันที  “คุณโมริโมโตะจะทำอะไรครับ”

    ริวทาโร่ยิ้ม  “ผมมาดูเคล็ดลับของพ่อครัวที่ทำอาหารอร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมาน่ะสิครับ”

    ยูยะยิ้ม  “ถ้าอย่างนั้นผมจะสอนให้คุณโมริโมโตะฟรีๆ เลยแล้วกันนะครับ  คุณนี่ยอคนเก่งจริงๆ”  เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    ริวทาโร่ได้แต่ยิ้มและทำเป็นว่าสนใจการทำอาหารของยูยะเหลือประมาณ  เดี๋ยวจะได้รู้กันว่านายต้องการอะไรกันแน่  ทาคาคิ

     

     “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะไดจัง”  เคพยายามอธิบายแต่ดูเหมือนไดกิจะไม่ยอมฟังเขาเลย  แต่การนิ่งเงียบแบบนั้นมันทำให้เขาร้อนรน  “ไม่นะไดจัง  ผมรักคุณคนเดียว  ผมรักคุณคนเดียวคุณได้ยินมั้ย!

    ไดกิไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป  เขาเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น  ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยคำใดๆออกมา

    เคไม่รู้จะทำยังไงให้คนตรงหน้าพูดกับเขา  ซักคำก็ยังดี  เขากอดไดกิด้วยหวังว่าจะช่วยละลายน้ำแข็งในหัวใจของภรรยาได้  “ผมรู้ว่าคุณกับยามาดะเคยเป็นคนรักกันมาก่อน”  เคสารภาพ  ไดกิตาโตด้วยความคาดไม่ถึง  “ผมทำให้คุณกับคนรักต้องพรากจากกัน  แต่ผมก็รักคุณเกินกว่าจะปล่อยคุณให้กับคนอื่นได้”  เครู้สึกว่าดวงตาเริ่มร้อนผ่าว  “คุณรู้มั้ยว่าผมดีใจแค่ไหนที่รู้ว่าคุณเองก็มีใจให้ผมแม้มันจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม  ผมเป็นต้นเหตุของการแก้แค้นครั้งนี้  ผม.....ขอโทษ”

    ตาที่โตอยู่แล้วยิ่งเบิกกว้างขึ้นอีก  เขารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอเนี่ย  เคคลายอ้อมกอดออก  ทั้งคู่จ้องตากัน  “คุณรู้เรื่องนี้”  เคพยักหน้า  ไดกิเงื้อมมือขึ้นแล้วฟาดมันลงไปบนใบหน้าของสามี

    เพี้ยะ!!

    ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบ

    เพี้ยะ!!

    และอีกครั้งด้วยมือข้างเดิม  บนแก้มของเคเป็นปื้นรูปมือขึ้นชัดเจน

    “ทำไมคุณไม่บอกฉัน”  ไดกิสะอื้นไห้  “รู้มั้ยว่าฉันทรมานแค่ไหนกับการที่ต้องทนนอนกอดกับคนที่ตัวเองไม่ได้รักแล้วปล่อยให้คนที่รักต้องนอนร้องไห้อยู่คนเดียว  คุณคิดบ้างมั้ยว่าตอนนั้นฉันจะรู้สึกยังไง”  เขาสะอื้นจนหายใจไม่ทันรู้สึกถึงร่างกายที่อ่อนแรง  เขานั่งลงบนพื้นห้องด้วยไม่อาจทนความจริงที่ทับถมเขาอยู่ได้

    เคค่อยๆ นั่งลงข้างๆ ภรรยา  เขาจับมือไดกิแต่ไดกิก็สะบัดมือออกแล้วผลักเขาด้วยแรงเท่าที่พอมี  เคหลุบตาต่ำ  “ตอนนั้นผมแค่อยากจะขอร้องให้เขาเลิกยุ่งกับคุณซะเพราะคุณเป็นภรรยาของผมแล้ว  แต่ไม่คิดเลยว่า...”  เขาไม่อาจเล่าความจริงที่เป็นการทำร้ายจิตใจของไดกิไปมากกว่านี้ได้  ความจริงที่ว่าคนที่เรียวสุเกะรักไม่ใช่ไดกิอีกต่อไป  “ผมขอโทษ”

    “คุณก็เอาแต่พูดว่าขอโทษ”  เสียงของไดกิดังขึ้น  “ฉันไม่ต้องการ”

    เคเริ่มรู้สึกถึงความหมดหวัง  “ผมรู้  คุณคงไม่ให้อภัยผม”

    “ไม่ใช่  คุณไม่เข้าใจ”  เคเงยหน้าขึ้นมองไดกิเห็นว่าภรรยายิ้มให้เขาอยู่  ไดกิขยับเข้าไปใกล้แล้วจูบเขาอย่างดูดดื่ม  จูบนั้นคงอยู่เนิ่นนานจนไดกิถอนมันออกไป  “ฉันไม่สนใจแล้วว่าเรียวจังจะยังรักฉันหรืออยากจะแก้แค้นฉันอยู่หรือเปล่า  แต่ตอนนี้ฉันอยากได้ยินแค่คำพูดที่อธิบายจูบเมื่อกี้นี้เท่านั้น  ช่วยพูดมันอีกครั้งได้มั้ย”

    เคตื่นตะลึงกับปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของภรรยา  “หมายความว่ายังไง”

    ไดกิยิ้มทั้งน้ำตา  แต่ครั้งนี้กลับเป็นน้ำตาแห่งความสุข  แก้มของไดกิซับสีเรื่อ  “จะให้พูดอะไรอีกล่ะ”  เขาก้มหน้าหลบซ่อนความเขินอาย  “ฉันดีใจที่คุณกลับมา”

    เคยิ้มออกมาจนแทบจะเรียกได้ว่าหัวเราะ  เขากอดภรรยาด้วยความรักที่เต็มตื้นในหัวใจ  “ผมรักคุณ  ผมรักคุณ  ผมรักคุณ!!

     

    เรียวสุเกะยิ้มอยู่กับตัวเองเงียบๆ นึกถึงเรื่องที่คุยกับเควันนี้แล้วทำให้เขารู้สึกสบายใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก  จากนี้ไปเขาจะไม่ยอมเสียคนที่รักไปอีกแล้ว  เขาจะไม่ยอมปล่อยเคโตะไปเด็ดขาด

    เรียวสุเกะหลุดจากความคิดเมื่อครู่ด้วยเสียงประตูห้องที่ถูกเปิด  เคโตะเดินเข้ามาแล้วล็อคห้องไว้ซึ่งปกติเขาไม่เคยทำ  เรียวสุเกะแปลกใจที่เห็นเคโตะกลับมา  เขารับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไปจากร่างสูงมันทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างประหลาด  เคโตะย่างสามขุมมาหาเรียวสุเกะแล้วบีบไหล่คนตัวเล็กอย่างแรง  “โอ๊ย!  เคโตะเจ็บนะ  นายทำบ้าอะไรเนี่ย”

    “ใช่สิ  ผมมันบ้า  แค่นี้คุณยังไม่พอหรือไงคุณหนูเรียวสุเกะ  เมื่อไรคุณจะเลิกยุ่งกับสองคนนั้นซักที!

    นี่เขาพูดอะไรของเขาเนี่ย  “ฉันเลิกยุ่งกับพวกเขาตั้งนานแล้วนะ”

    เคโตะแสยะยิ้ม  “เหรอ  ดูสีหน้าคุณตอนนี้แล้วคงมีความสุขมากนักละสิที่กำจัดผมกับพี่ได้”  เขาปล่อยมือออกแล้วยกมือถือให้เรียวสุเกะดู  เรียวสุเกะใจหายเมื่อเห็นรูปที่เคคุกเข่าให้เขาอยู่  “ว่าไงล่ะ  คุณบอกว่าคุณจะเลิกยุ่งกับสองคนนั่น  แล้วนี่มันอะไร!

    เรียวสุเกะกระวนกระวาย  “มันไม่ใช่อย่างนั้นนะเคโตะ”

    เคโตะเดินเข้ามาประชิดเรียวสุเกะ  “คุณจะทำอะไรผมผมไม่ว่า  แต่อย่ายุ่งกับไดจัง  ถึงขนาดเอาตัวเข้าแลกเพื่อแก้แค้นแบบนี้  รู้มั้ยมันทุเรศแค่ไหน”

    คำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามนั่นเหมือนเป็นเชื้อจุดไฟโทสะของเรียวสุเกะให้ลุกโชน  “ใช่สิฉันมันทุเรศ  ไม่เหมือนไดจังพี่ของนายนี่ที่ทำอะไรก็ไม่เคยผิด  จะทิ้งใครก็ไม่เคยผิด  จะทำให้คนอื่นเจ็บปวดแค่ไหนก็ไม่เคยผิดอะไรเลย!”  ความน้อยใจทำให้เขาไม่สามารถกลั้นน้ำตาอยู่ได้อีก  “ไดจังที่มีแต่คนมารุมรักแบบนั้น  ฉันอยากทำให้มันเจ็บปวดให้เหมือนกับที่มันเคยทำกับฉัน!

    “เรื่องนั้นมันจบไปนานแล้วยังจะไปรื้อฟื้นอะไรอีก”

    “แต่มันไม่เคยจบสำหรับฉัน”  เรียวสุเกะสะอื้น  “ใครที่ทำให้ฉันเจ็บ  มันต้องเจ็บกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่า!

    เคโตะจ้องเรียวสุเกะเขม็ง  เขาผลักคนตัวเล็กลงบนเตียงแล้วขึ้นคร่อม  ตรึงแขนสองข้างของเรียวสุเกะไว้  “ถ้าอย่างนั้นผมจะทำให้คุณเจ็บเอง  ถ้าคุณเจ็บมากนักล่ะก็ให้มาลงที่ผมอย่ายุ่งกับพวกเขา”

    เรียวสุเกะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เคโตะจะทำคืออะไร  “นายจะทำอะไรน่ะ  อย่านะ!!

    เคโตะปิดปากคนตัวเล็กด้วยจูบที่ร้อนแรงและหนักหน่วง  เรียวสุเกะพยายามจะดิ้นออกจากการเกาะกุมทั้งเตะทั้งถีบทุกสิ่งที่พอจะทำได้แต่นั่นยิ่งทำให้เคโตะทำกับเขารุนแรงมากขึ้น  แต่แทนที่จะต่อต้านร่างกายกลับตอบสนองต่อเคโตะเป็นอย่างดี  เรี่ยวแรงที่เคยมีตอนนี้กลับหายไปหมด  เคโตะฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเรียวสุเกะอย่างไม่สนใจว่ามันจะทำให้คนตัวเล็กเจ็บปวดแค่ไหน  น้ำตาของเรียวสุเกะไหลออกมาจากทั้งความกลัวและน้อยใจ  แววตาและสัมผัสที่เคยอ่อนโยนของเคโตะถูกแทนที่ด้วยความโกรธและแรงปรารถนาที่เรียวสุเกะไม่อาจต้านทานได้  “เคโตะ  ฟังฉันก่อน”  เขาพูดอย่างอ่อนแรงแต่นั่นกลับกลายเป็นเสียงที่เคโตะไม่ได้ยินเสียแล้ว

     

    ---------------------------------------------------

    จากใจไรเตอร์ถึงแฟนคลับของคิสมายและรีดเดอร์ทุกคน

    จากความคิดเห็นในตอนที่แล้วทำให้ไรเตอร์คิดได้ว่ายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับรีดเดอร์  ต้องขออภัยจริงๆ ที่ให้ไทสุเกะคุงเป็นตัวร้ายในเรื่องนี้  จริงๆ แล้วก็ไม่ได้คิดจะให้พี่เขาเป็นหรอกค่ะ  ไรเตอร์ก็เลยกลุ้มใจเหมือนกันเพราะไม่รู้จะให้ใครร้ายดี  พอดูลูกชายในอุดมคติเห็นไทสุเกะคุงแล้วคิดว่า  “ว้าว! คนนี้แหละเหมาะเลย”  หน้าพี่แกให้เพราะอย่างนี้พี่เขาก็เลยได้มาอยู่ในเรื่องนี่ด้วย

    ต้องขออภัยสำหรับแฟนคลับคิสมายอีกครั้งนะคะ  ไรเตอร์ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อไทสุเกะคุงแต่อย่างใดเลย

    ถ้าทำให้รีดเดอร์ไม่พอใจหรือแต่งไม่ดียังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ  ชอบไม่ชอบตรงไหนก็บอกมาได้เลย  จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น  และขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจและคำติชมทุกอย่าง  เป็นพระคุณอย่างสูงมากเลยค่ะ^^

    .....ป๊อป.....

     

    (รู้สึกว่าจดหมายจะเป็นทางการมากเลย)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×