ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9
ตอนที่ 9
เรียวสุเกะชำเลืองมองเคโตะที่ตั้งใจถูพื้นโดยไม่สนใจเขา “วันนี้ผู้จัดการเป็นอะไรครับ ไม่ค่อยยิ้มเลย” เขาถามเมื่ออยู่กันตามลำพัง
“เปล่า” เคโตะตอบแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เรียวสุเกะแปลกใจ เขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ทำไมมันน่าอึดอัดแบบนี้ก็ไม่รู้ “วันนี้ไม่ไปเที่ยวกับแฟนเหรอ”
เรียวสุเกะสะดุ้ง “ยูโตะไม่ใช่แฟนนะครับเขาเป็นแค่เพื่อนเก่าเท่านั้นเอง”
“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย” เคโตะหันมามองอย่างจับผิด “ชอบเขาไม่ใช่เหรอ”
เรียวสุเกะกัดริมฝีปากแน่น “คุณรู้ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
เคโตะฝืนยิ้มบางๆ “นายน่ะดูออกง่ายจะตาย ว่าไง วันนี้ไม่ไปเที่ยวกับเขาเหรอ”
“วันนี้แม่เขาแขนหักน่ะครับก็เลยไปไม่ได้เพราะเขาต้องดูแลแม่”
เคโตะไม่ได้ตกใจอะไรเพราะเคนอิจิโทรมาบอกตั้งแต่กลางวันแล้ว “งั้นเหรอ น่าเสียดายนะ”
“ถ้าบอกว่าเสียดายก็แสดงว่าเราไม่เคารพแม่เขาสิครับ อันที่จริงผมเป็นห่วงแม่เขามากกว่า”
“แล้วทำไมไม่ไปเยี่ยมเขาล่ะ”
เรียวสุเกะยิ้มแหย “ผมไม่รู้จักบ้านเขาหรอกครับ”
“งั้นเหรอ” เคโตะเก็บเก้าอี้ขึ้น นี่แสดงว่าเรียวสุเกะยังไม่รู้เรื่องของเขากับยูโตะสินะ
บรรยากาศเริ่มจะอึดอัดขึ้นมาอีกแล้ว เรียวสุเกะคิดหาเรื่องพูด “เดี๋ยวนี้ผู้จัดการได้เจอริวทาโร่บ้างหรือเปล่าครับ”
เคโตะรู้สึกฉุนขึ้นมา “ทำไมต้องเจอด้วย ไม่มีธุระอะไรสักหน่อย”
เรียวสุเกะยิ้ม “ผมว่าเขาน่ารักดีนะ ผู้จัดการไม่คิดจะ...”
“ถ้าชอบก็จีบเองสิ” เคโตะพูดเสียงเย็น “นายกลับไปเถอะเดี๋ยวฉันจัดการที่เหลือเอง”
เรียวสุเกะถอนหายใจอย่างเบาที่สุด อารมณ์ของผู้จัดการวันนี้ไม่เหมาะที่เขาจะต่อล้อต่อเถียงด้วย เขาเก็บกระเป๋า “ผมกลับแล้วนะครับ” เคโตะพยักหน้าน้อยๆ เขาจึงออกจากร้านไป เรียวสุเกะคิดอยู่ไม่คลายว่าเกิดอะไรขึ้นกับเคโตะแต่ก็คิดไม่ออกสักที ผู้จัดการไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังแม้แต่เขาเองก็ตาม มีปัญหาอะไรก็ไม่รู้จักปรึกษาเพื่อนบ้าง เขาไม่เข้าใจเคโตะจริงๆ
รถคันหรูแล่นเข้ามาจอดบริเวณบ้านโอคาโมโตะ
ยูโตะหันไปพูดกับริวทาโร่ที่มองเข้าไปในบริเวณบ้านอย่างประหม่า “ไม่ต้องกลัวหรอก ทั้งคุณพ่อกับคุณแม่ท่านเป็นคนใจดี”
“ผมไม่ได้กลัวคุณพ่อคุณแม่ของคุณสักหน่อย กลัวก็แต่พี่ชายของคุณเท่านั้นแหละ เขาใจดีจริงๆ เหรอครับ”
“เอ่อ...” ยูโตะยิ้มแหย “ช่วงนี้เขาเจอเรื่องเครียดๆ ค่อนข้างเยอะน่ะ อาจจะอารมณ์ร้อนไปบ้างแต่ไม่ต้องห่วงหรอก”
ริวทาโร่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “หวังว่าพี่เคโตะของคุณคนนี้จะใจดีเหมือนพี่เคโตะของผมนะ”
“กลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
ริวทาโร่หน้าเศร้าลง “เปล่าหรอกครับ แต่ผมเพิ่งจะอกหักจากผู้ชายชื่อเคโตะมานี่นา พอเจอคนชื่อเหมือนอีกมันก็อดที่จะหวั่นใจไม่ได้ เวลาที่เรียกชื่อพี่ชายของคุณผมก็นึกถึงพี่เคโตะคนนั้นตลอดเลย”
ยูโตะบ่าริวทาโร่เพื่อให้กำลังใจ “ถ้างั้นก็ตกหลุมรักพี่ชายฉันแทนก็แล้วกัน เขาก็หล่อไม่หยอกนะ”
ริวทาโร่หน้าบึ้ง “พูดเป็นเล่นไปได้”
ยูโตะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เข้าบ้านเถอะ พี่ชายฉันยังไม่กลับตอนนี้หรอก เข้าไปทักทายพ่อกับแม่ของฉันก่อนก็แล้วกัน”
เคโตะเข้าบ้านตามเวลาที่เคยเข้าทุกวันด้วยอาการเมาเล็กน้อย ทั้งๆ ที่คิดว่าจะทำใจเรื่องเรียวสุเกะได้แล้วแท้ๆ แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเลย เขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเรียวสุเกะออกไปกับยูโตะ ทำไมต้องเป็นยูโตะด้วย
“กลับมาแล้วหรือครับพี่ชาย”
เสียงยูโตะทักขึ้น เคโตะแปลกใจเพราะปกติคนที่ทักเขาก่อนใครต้องเป็นยูมิโกะไม่ใช่เหรอ แต่แล้วก็นึกได้ว่ายูมิโกะแขนหักพ่อเขาคงไม่ให้ออกมารับอารมณ์ของเขาหรอก เคโตะชำเลืองมองน้องชายเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร เขากำลังจะเดินขึ้นห้อง
“เดี๋ยวสิครับ พี่ดื่มมาหรือเปล่า พี่นอนน้อยแล้วยังดื่มแบบนี้อีกจะทำให้สุขภาพไม่ดี”
เคโตะขมวดคิ้ว “ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมานายควรดีใจไม่ใช่เหรอ”
“ผมเป็นห่วงพี่จริงๆ นะ”
เคโตะมองน้องชายต่างแม่ด้วยสายตาเย็นชา “ถ้าห่วงก็อยู่ห่างๆ ฉัน ไม่ต้องยุ่ง”
ยูโตะได้แต่ก้มหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีก เคโตะเดินขึ้นห้องไป ริวทาโร่เดินออกมาจากในครัวพร้อมนมอุ่นๆ ในมือ “ผมทำเสร็จแล้วครับคุณยูโตะ ได้ยินเสียงรถของพี่คุณกลับมาแล้วเขาอยู่ไหนล่ะครับ”
ยูโตะนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจ “ขึ้นห้องไปแล้ว”
ริวทาโร่มองเจ้านายอย่างแปลกใจ “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับทำหน้าเศร้าเชียว” ยูโตะส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ “อาการแบบนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าพี่คุณเขาใจดีอย่างที่คุณว่าหรือเปล่า เจอกันก็ทำให้คุณเป็นแบบนี้ได้”
ยูโตะถอนหายใจอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง “เรื่องมันยาวน่ะ แต่ไม่ต้องสนใจหรอก นายเอานมนี่ไปให้พี่ชายฉันที เดี๋ยวฉันจะคอยอยู่ข้างนอก ถ้าเข้าไปด้วยพี่ชายคงไม่ยอมดื่มแน่ๆ”
“โหยย ขนาดคุณขอร้องเขายังไม่ยอมดื่มแล้วผมจะมีปัญญาอะไรล่ะครับ”
“เพราะงั้นฉันถึงต้องรอข้างนอกไง ถ้าเผื่อฉุกเฉินอะไรจะได้เข้าไปช่วยทัน”
ริวทาโร่ทำหน้าเหยเก “ผมเริ่มจะกลัวขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ”
“บอกว่าไม่ต้องกลัวไง พี่ชายฉันใจดีจะตาย”
“อ้อเหรอ” ริวทาโร่ส่งเสียงล้อเลียน “ถ้าใจดีทำไมไม่เอาไปให้เองล่ะ” ยูโตะเอาแต่นิ่งเงียบ ริวทาโร่ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี บ้านนี้ทำไมมันแปลกจังวะ “ก็ได้ เอาไปให้ก็ได้ แต่คุณต้องรอผมจริงๆ นะ”
ยูโตะยิ้มดีใจ “แน่นอน ขอบใจมากริวทาโร่”
ริวทาโร่ยืนรออยู่หน้าห้องของเคโตะพลางมองยูโตะที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างประหม่า ยูโตะดันบ่าเพื่อให้กำลังใจ(?) “ไม่ได้ออกไปรบสักหน่อย ไม่ต้องกลัวหรอกพี่ชายฉันใจดี”
ริวทาโร่ใจเต้นรัว ยิ่งยูโตะบอกว่าพี่ชายใจดีมากเท่าไรเขาก็ยิ่งคิดว่ามันไม่ใช่ความจริงมากขึ้นเท่านั้น “ให้เวลาทำใจแป๊ปนึงสิครับ”
“ทำใจอะไรเล่า พี่ชายฉันไม่กัดหรอก”
“ถ้าพูดมากผมจะให้คุณเอาเข้าไปให้เองนะ” ริวทาโร่พูดเสียงดังอย่างอารมณ์เสีย
“นั่นใครน่ะ” ทั้งสองคนสะดุ้งตกใจเพราะเสียงนั้นดังมาจากในห้อง แสดงว่าเคโตะได้ยินที่พวกเขาคุยกันน่ะสิ “ฉันถามว่าใคร ยูโตะเหรอ”
ริวทาโร่กับยูโตะเกี่ยงกันตอบเพราะต่างฝ่ายต่างก็ตกใจด้วยกันทั้งคู่จนในที่สุดยูโตะก็ตัดสินใจตอบไป “ผมเองครับพี่เคโตะ ผมเอานมมาให้”
เสียงในห้องเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา “ฉันไม่กิน เอากลับไปซะ”
“แต่ว่าคุณแม่สั่งไว้...”
ประตูห้องเปิดออกพร้อมเคโตะที่ยืนจ้องพวกเขาอยู่ “ก็บอกว่าให้เอากลับไปไง” เคโตะชะงักเมื่อมองเห็นริวทาโร่ที่ยืนจ้องเขาตาแป๋วอยู่ ริวทาโร่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อพี่ชายใจดีที่เขาแอบชอบที่แท้ก็เป็นพี่ชายของยูโตะเจ้านายของเขานั่นเอง เคโตะมองอย่างตกใจ “นายมาที่นี่ได้ยังไง”
ริวทาโร่สะดุ้ง แววตาของเคโตะทำให้เขารู้สึกหวั่นใจอีกแล้ว ยูโตะที่ยืนมองสถานการณ์อยู่เข้าใจในทันทีว่าคนๆ นี้คงเป็นพี่เคโตะคนเดียวกันกับที่ริวทาโร่แอบชอบแน่ๆ แววตาแข็งกร้าวของพี่ชายดูอ่อนลงเมื่อเห็นริวทาโร่ “พี่เคโตะครับ” เคโตะละสายตาจากร่างเล็กแล้วหันมามองน้องชาย “เขาเป็นคนที่จะมาทำงานแทนคุณแม่ในระหว่างที่ท่านพักฟื้น ชื่อ โมริโมโตะ ริวทาโร่”
เคโตะเฉมองไปทางอื่น เขาไม่อยากให้ยูโตะรู้ว่าใจเขาหวั่นแค่ไหน ริวทาโร่รู้เรื่องของเขาที่ร้านโอคายะ รวมทั้งเรื่องความรู้สึกที่เขามีต่อเรียวสุเกะด้วย “ฉันขอคุยกับเจ้าเด็กนี่ตามลำพัง นายออกไปก่อน ส่วนนาย” เขาหันไปมองริวทาโร่ “เข้ามาข้างในกับฉัน” ริวทาโร่มองยูโตะอย่างต้องการความช่วยเหลือ “เร็วสิ” เคโตะเร่งเร้า
“ครับ” ริวทาโร่ตอบเสียงสั่น เขาเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับเคโตะ
ยูโตะทั้งแปลกใจและตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หวังว่าพี่ชายคงไม่ทำอะไรริวทาโร่หรอกนะ
ในห้องนอน
ริวทาโร่นั่งบนเก้าอี้อย่างประหม่าเพราะเคโตะเอาแต่ยืนจ้องเขาตลอด “มีอะไรก็พูดๆ มาสิครับ เอาแต่จ้องอยู่ได้”
เคโตะพูดอย่างหนักแน่น “นายรู้เรื่องของฉัน มาที่นี่ต้องการอะไร”
“เปล่านะครับ” ริวทาโร่ใจเต้นรัว “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นพี่ชายของคุณยูโตะ ถ้ารู้ผมก็คง...”
“ถ้ารู้ก็คงจะมาเหมือนเดิมน่ะแหละ”
ริวทาโร่ก้มหน้าเพราะไม่กล้าสบตาเจ้าของห้อง “ถ้าทำให้คุณไม่สบายใจผมลาออกก็ได้”
“ไม่ต้อง” ริวทามองหน้าเคโตะอย่างแปลกใจ “นายอยู่ที่นี่แหละแต่ห้ามนายบอกเรื่องของฉันที่โอคายะเด็ดขาด ส่วนเรื่องฉันกับยามาดะนายก็ห้ามบอกยูโตะด้วย”
“เรื่องคุณยามาดะผมก็พอเข้าใจ แต่เรื่องที่ร้านนั่น ทำไมล่ะครับ ปิดบังไปเพื่ออะไรกัน”
“นายไม่ต้องเข้าใจหรอก”
ริวทาโร่ขมวดคิ้ว “ทำไมต้องทำเหมือนตัวเองเป็นแค่พนักงานธรรมดาคนหนึ่งด้วยล่ะครับทั้งๆ ที่คุณก็เป็นถึงผู้จัดการ”
“ฉันบอกไม่ต้องรู้ไง” เคโตะสั่งเฉียบขาด “มันเรื่องส่วนตัวของฉัน ถ้านายสัญญาว่าจะไม่บอกใคร นายก็อยู่ที่นี่ได้”
ริวทาโร่ไม่เข้าใจความคิดของเคโตะเลย ความจริงแล้วเคโตะเป็นคนยังไงกันแน่
“นายออกไปได้แล้ว”
“ครับ?”
“ฉันบอกว่านายออกไปได้แล้ว นมนั่นก็เอาออกไปด้วย ฉันไม่กิน”
“แต่คุณยูโตะสั่งไว้....”
“ถ้างั้นก็เอาไปให้ยูโตะ ไม่งั้นนายก็กินเองเลย” เคโตะหันไปทำงานที่ค้างอยู่ต่อ “ออกไปได้แล้วอย่ารบกวนฉันอีก”
ริวทาโร่ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร เคโตะคนนี้กับเคโตะในวันที่เขาเจอครั้งแรกทำไมถึงได้แตกต่างกันอย่างนี้นะ ริวทาโร่เดินออกมาจากห้องเงียบๆ
“เป็นยังไงบ้าง” ยูโตะถามทันทีที่เห็นริวทาโร่ออกมา ใบหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนรักทำให้เขาเป็นห่วง “พี่เคโตะทำอะไรนายหรือเปล่า แล้วเขาว่าไงบ้าง”
ริวทาโร่ส่ายหน้า “ไม่มีอะไรครับ เขาบอกว่าอย่าวุ่นวายกับเขาก็พอ”
ยูโตะถอนหายใจ “ถ้าฉันรู้ว่าคนที่นายชอบคือพี่เคโตะแต่แรก ฉันคงไม่ขอร้องนายให้มาช่วยหรอก ขอโทษนะ”
ริวทาโร่พยักหน้าน้อยๆ “ไม่เป็นไรครับ ผมจะทำงานนี้ต่อ คุณยูโตะครับคือว่า...”
“หืม?”
ริวทาโร่นิ่งคิด เขาควรถามเรื่องของเคโตะดีมั้ยนะ “ไม่มีอะไรครับ”
ยูโตะมองอย่างแปลกใจ “มีอะไรหรือเปล่า”
ริวทาโร่ส่ายหัว “ไม่มีอะไรจริงๆ ครับ”
ริวทาโร่นอนเอามือก่ายหน้าผากพลางคิดเรื่องที่ค้างอยู่ในหัว บ้านนี้มันมีเรื่องอะไรกันแน่
--------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ มาลงวันนี้เพื่อจะบอกว่าไรเตอร์จะหายไปประมาณสองอาทิตย์(มั้ง?)เพื่อเตรียมตัวสอบ เพราะมันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว!
แล้วเจอกันใหม่นะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาตลอดค่ะ ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นเลยนะคะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น