ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : สกิพโกซท์ปราชญ์ลิขิตแห่งเพลิงกัลป์ [100%]
ตอนที่ 11
สกิพโกซท์ปราชญ์ลิขิตแห่งเพลิงกัลป์
สกิพโกซท์ปราชญ์ลิขิตแห่งเพลิงกัลป์
ฟ้าสว่างเต็มที่เพื่อสวัสดีเช้าวันใหม่ สองสาวจัดเตรียมอาหารเช้าร่วมกันโดยมีชายหนุ่มหนังตาคล้ำนั่งดูอยู่เฉยๆ ก็ทำได้แค่นี้จริงๆ
"นี่ของพี่" คีย์กล่าวพลางวางขนมปังปิ้งอย่างหอมไว้เคียงไส้กรอกสีเหลืองรมควันบนจานใบน้อยของเวียร์ เธอหยิบมันออกมาจากหน้าต่างสถานะทีละอย่างสองอย่าง "นี่ของพี่สาวคีย์"
"และเรามีไวน์แดงด้วย อิอิ" ริซ่าขำขันที่ตัวเองรู้สึกอายเมื่อได้พูดไปว่าจะกินเหล้าองุ่น เป็นสาวเป็นนางกลับดื่มของเมามืนต่อหน้าผู้ชายอย่างนั้นเหรอจ๊ะ ว้ายๆ ยุคนี้เขาไม่ถือกันแล้วมั้ง "พี่เวียร์ชอบไหมคะ"
"ครับ ฮี่ๆ" เจ้าตัวดีพลันยิ้มเกือบจะเต็มใจ ก็แหม สีของมันเหมือนเลือดที่ดูดกินเมื่อคืนเป๊ะ หิวไหมก็ไม่หิว นั่นเพราะกินมาแล้วจนเต็มท้อง มื้อนี้เลยต้องจำยอมตามสถานการณ์พาไป "หิวจะแย่แล้วเนี่ย ทานกันเลยไหมครับน้องคีย์ ริซ่า?"
"เอาเลยๆ / ค่ะ"
กระทั่งกิจสวาปามแสร้งหิวจบลงชายหนุ่มยังคงเป็นผู้นำกลุ่มทระนงเดินฝ่าขวากหนามทั้งพุ่มไม้เถาวัลย์ไปอีกเกือบค่อนวัน เส้นทางตามลายแทงที่ซ่อนไอเทมดังโจรว่ามิผิดเพี้ยน ทันใดนั้นสาวน้อยคีย์ก็อุทานขึ้น "พวกพี่ดูตรงนั้นสิ!" นั่นเพราะเธอเห็นจุดหมายปลายทางก่อนใคร
"ถ้ำ!"
"ใช่ ตรงจุดกากบาทคือถ้ำนั่นพอดี"
"อย่ารีบร้อน" หญิงสาวร้องเตือนครั้นคีย์จังวิ่งปาดหน้าเธอไป "ระวังจะมีกับดัก!"
"พี่เวียร์มาเร็ว"
เป็นที่น่าคิดว่าระยะทางไกลขนาดนี้แถมฝีมือผองโจรก็ไม่ธรรมดา พวกมันยังจะพยายามวางกับดักไว้อีกหรือ? แน่นอนสาวน้อยหาได้ใส่ใจ มองดูเห็นเป็นโถงถ้ำขนาดคนสองคนสามารถเดินเคียงคู่เข้าไปพร้อมกัน ด้วยเหตุนี้เวียร์กับคีย์จึงนำหน้าทิ้งริซ่าผู้คอยแต่ระวังไว้ด้านหลัง ภายในโถงชื้นแฉะถึงขั้นทำให้เสื้อผ้าเปียกได้ ผนังถ้ำส่งเสียงเสมือนมีน้ำไหลอยู่อีกฝากหนึ่ง และข้างในนี้มืดมิดลงเรื่อยๆเมื่อแสงจากภายนอกไม่อาจส่องถึง
"พวกโจรเอาของมาซ่อนในนี้ได้ แสดงว่าทางไม่ลึกมาก" ชายหนุ่มกล่าว "พวกเราควรจุดไฟไหม"
"พี่ริซ่า มีฟืนเหลือหรือเปล่า"
"พี่ว่าอย่าเพิ่งจุดเลย ทางแคบแบบนี้ให้พวกเราจับมือกันไว้แล้วคลำไปจะดีกว่า"
"โอเคผมเห็นด้วย คีย์ มือ"
"อื้อ"
จะว่าตื่นเต้นก็ย่อมได้ จะว่าห่วงใยกันก็ใช่แน่ เส้นทางในถ้ำแห่งนี้แคบลงจนแผ่นหลังแนบชิดแผ่นหินชื้น สามสหายหารู้ไม่ว่ากำลังก้าวล้ำเข้าหาแดนดินมรณะที่ซึ่งแม้แต่เหล่าโจรร้ายยังมิกล้ากล้ำกราย เส้นทางหลักจะต้องปีนขึ้นไปบนก้อนหินใหญ่ด้านหน้า จากนั้นจึงจะพบกับประดาทรัพย์สมบัติมากมายที่จะทำให้กลายเป็นเศรษฐีใหม่ในพริบตา ทว่าพวกเขาได้เดินตะแคงผ่านก้อนหินที่ว่านี้ไปเสียแล้ว ใครเล่าในสามคนจะทราบ ใครเล่าที่รู้ว่าความจริงอีกไม่ไกลเบื้องหน้ามีจิตอวตารแห่งอัคคีสถิตอยู่ มันรอคอยผู้มาปลดแอก มันรอคอยผู้เคราะห์ร้ายโง่เขลามาทิ้งชีพมลายเป็นอาหารแด่มัน...
'ข้าสัมผัสกลิ่นไอและความร้อน จงเข้ามา จงเข้ามา' เสียงเสียดประสาทกลับกลายเป็นเสียงลมพัดต้องใบหูเวียร์อย่างแผ่วเบาด้วยลวงหลอก 'ให้ข้าเป็นอิสระและกินหัวใจพวกเจ้าทุกคน'
"เอ๋ รู้สึกมีลมพัด" ชายหนุ่มโพล่ง "ข้างหน้าต้องเป็นทางออกแน่นอนครับ"
"ค่ะ"
แสงสว่างสุดปลายตาสว่างจ้าอย่างที่สุด เมื่อคนทั้งสามเดินออกจากรูเล็กๆที่อยู่ตรงกลางหน้าผาและไม่อาจไม่ตกตะลึงได้ จากถ้ำมืดสู่อีกดินแดนหนึ่งที่แสนมโหฬารไพศาล ดุจคนทั้งสามกลายเป็นมดตัวเล็กที่กำลังยืนสะท้านภูมิทัศน์ใหม่อันตระการตาโดยเหลือที่ยืนตรงหน้าเพียงน้อยนิดก่อนที่ทุกสิ่งสามารถจบสิ้นได้ ณ ห้วงเหวลึกเบื้องล่าง ลึกเสียจนไม่ได้ยินเสียงใดๆสะท้อนกลับมา แลรอบข้างนั้นเป็นแผ่นหินเรียบที่มีน้ำตกไหลอาบลงมาทุกสารทิศ ด้วยความอัศจรรย์ใจเมื่อทั้งสามเห็นว่าจุดกำเนิดของสายน้ำมาจากดอกไม้สีทองเรืองแสงสกาวที่ขึ้นอยู่ตรงกลางเพดานหินอันเป็นจุดศูนย์กลางของสถานที่แห่งนี้
"อะไรกันเนี่ย!" สาวน้อยคีย์ไม่อาจเชื่อสายตาตัวเอง "โห~ นั่น ดอกไม้นั่นคือพระอาทิตย์"
"ก็คล้ายๆนะ จ้องมองไม่แสบตาด้วย เอ๋ ฟังสิ" ริซ่าชี้จุดสังเกต "มีใครได้ยินเสียงน้ำตกไหม?"
"ไม่มี เสียงน้ำอยู่ในก้อนหินมากว่า หือ...? หมายความว่ายังไงพี่ริซ่า"
หญิงสาวไม่สามารถอธิบายได้ เธอจึงหวังฟังความเห็นจากเวียร์
"พี่เวียร์-" ทว่าเขากลับแสดงอาการเหม่อลอย "พี่คะ"
"ชูออร่าควีน... ดอกไม้นั่นมีชื่อว่าชูออร่าควีน" ชายหนุ่มกล่าวเบา
"ชูออร่าควีน?" ริซ่าย้ำ แน่นอนเธอไม่รู้จักชื่อนี้ "คือเป็นดอกไม้ยังไงคะ?"
"แล้วพี่เวียร์รู้จักมันได้ไง" คีย์โพล่งเพราะอยากทราบด้วย
เป็นเหตุให้คนถูกถามกระอึกกระอัก ตอบไม่ได้เหมือนกันว่ารู้จักมาจากไหน รู้แค่ว่ามันคือชูออร่าควีน แล้วรู้ได้ไงว่าเป็นชูออร่าควีน ก็ไม่รู้ไง
"ไม่รู้เลยครับ" เวียร์ยังคงจับจ้องแสงสีเหลืองทองนั่นโดยไม่กระพริบตา "ผมแค่นึกขึ้นได้เท่านั้นเอง"
"พี่เวียร์มั่วอะป่าว" สาวน้อยแสร้งพูดเล่นในท่ามือเท้าสะเอว "อาจจำผิดก็ได้นี่นะ"
"นั่นสิ" ชายหนุ่มพลันหันมายิ้มให้ "ว่าแต่ว่าเราจะไปต่อจากตรงนี้ได้ไงล่ะ ในเมื่อสองก้าวข้างหน้านี่ก็สุดทางแล้ว"
ระหว่างที่คนทั้งสามกำลังใช้ความคิด เบื้องล่างสุดมืดมิดนั้นกลับมีบางสิ่งลืมตาขึ้น! ดวงตาของมันแดงฉานระอุด้วยความร้อนสุดประมาณ ทำให้ไอน้ำคลุ้งโขมงเกาะกลุ่มลอยขึ้นสู่เบื้องบนทันที
ตื้ม!!!ตื้ม!!!ตื้ม!!! เสียงก้อนหินดันเข้าหากันปิดกั้นทางออกแห่งแดนอารยธรรมร้างดังขึ้นสามครั้งติด เสาหินหนาสอดผสานดุจเป็นเนื้อเดียวกับผนังหินผาทั้งปวง ไร้หนทางเดินกลับ จบสิ้นหนทางไปต่อ จะชายหนุ่มจะหญิงสาวจะเด็กสาวต่างตื่นตระหนกตกใจทำอะไรไม่ถูก ณ เวลาเดียวกันนั้น น้ำตกทุกสายพลันกลายกลับไหลย้อนสู่ดอกไม้มหามนตราสาปนามชูออร่าควีนที่เวียร์ได้เรียกขาน ความร้อนแลไอน้ำเบื้องล่างก็ผุดพุ่งขึ้นปานขีปนาวุธไร้เป้าหมาย โสตประสาทของคนทั้งสามแทบหวีดเมื่อไอน้ำแรงดันสูงเกิดระเบิดซัดประดาก้อนหินแหลมคมจากข้างใต้ขึ้นมาปลิดแหวกธารอากาศธาตุอย่างน่าหวาดเสียว
กรี๊ด!!! คีย์ตกใจร้อง
ลูกไฟขนาดยักษ์พลันปรากฏลอยขึ้นด้านหลังริซ่า! เปลวของมันมีสีน้ำเงินอ่อน จากหนึ่งเป็นสองลูก จากสองลูกเพิ่มขึ้นเท่าทวีได้ในช่วงเสี้ยววินาที พร้อมกลิ่นโสโครกคลุ้งอบอวลในละอองน้ำ เสียงกอดๆแกรดๆแว่วดัง นั่นคือเสียงร่างโครงกระดูกเหล่ามอนสเตอร์ที่ถูกฆ่าตายเป็นร้อยๆตัวกำลังคืบคลานปีนป่ายหน้าผาหินตรงมายังพวกเขา บางร่างมีเพียงครึ่งตัว บางร่างศีรษะถูกตัดขาด และศีรษะนั้นกลิ้งพลางขยับปากกรุบกริบ ทั้งหมดนี้มุ่งหมายเพื่อกินสิ่งมีชีวิตซึ่งมีกายเนื้อต่างจากพวกมัน
>> สกิพโกซท์ปราชญ์ลิขิตแห่งเพลิงกัลป์ ระดับ 420 ปรากฏตัว ผู้เล่นเตรียมรับมือ สปิริตไฟเออะบอลล์ ในอีก 3 วินาทีค่ะ
"อะไรนะ!" ชายหนุ่มตะโกนไม่เชื่อหูตัวเอง "สี่ร้อยยี่สิบ!"
ระหว่างชายหนุ่มและสองสาว ลูกไฟทั้งหมดลอยมารวมตัวกันกลางอากาศพร้อมหมุนวนอย่างรวดเร็ว บังเกิดเสียงดังอื้ออึง ขนาดของมันใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆกระทั่งกินพื้นที่ถึงหนึ่งในสี่ เปลวเพลิงสุกสว่างแผดเผาสายน้ำให้ระเหยแห้งอย่างคลุ้มคลั่ง !!! และแล้วโครงกระดูกคล้ายมนุษย์ยักษ์อันมีไฟกัลป์สุดร้อนแรงพวยพุ่งออกกำเนิดแก่สายตา
"สายัณห์สวัสดิ์! " สกิพโกซท์ราชันย์แห่งอัคคีกล่าวทัก อีกมือหนึ่งของมันพลันรังสรรค์ลูกบอลไฟที่มีขนาดใหญ่กว่าคนทั้งสามถึงห้าเท่า "ยืนหยัดหรือไม่ก็ตาย!"
ลูกบอลไฟปานอเวจีเคลื่อนที่ได้เคลื่อนที่มาแล้วพร้อมค่าโจมตีพื้นฐานสามพันสองร้อยหน่วยเข้าปะทะผาหินดังกึกก้องกัมปนาท บึ้ม!!! ผลาญแผ่นหินให้ร้อนฉ่าแดงฉาน ก่อนที่หนึ่งชายหนึ่งหญิงจะถูกย่างสดต่างจากสาวน้อยที่เธอผลักไสพี่ชายและพี่สาวทันกาล "ดูแลพี่ริซ่าด้วยพี่เวียร์!" แสงสว่างแสบตานั้นเจิดจ้าเพียงไรก็ฉายอยู่ด้านหลัง
เวียร์ถึงกับใจหายวูบรีบคว้าแขนของริซ่าแลดึงตัวเธอเข้ามาโอบในขณะที่ทั้งคู่กำลังดิ่งพสุธาหาเหล่าโครงกระดูกผี กลุ่มค้นหาสมบัติเสียคีย์ไปแล้วนั่นคือที่รู้ ไม่จำเป็นต้องกล่าวคำว่าเสียใจ การเสียสละครั้งนี้ของคีย์เร็วเกินกว่าจะทำใจรับ
ตูม!อั๊ก!!! ชายหนุ่มหล่นจากที่สูงหลังกระแทกพื้นน้ำที่ร้อนจัดซึ่งมีความสูงแค่ตาตุ่ม แรงกระแทกนี้ทำให้หญิงสาวที่กอดไว้ต้องผละออกไปหน้าคว่ำคะมำอยู่ไม่ห่าง ความเจ็บปวดโลดแล่นเริงร่าในกายา น้ำร้อนนั้นลวกใบหน้าเธอให้ความงามสิ้นสูญแก่สายตาเวียร์ ริซ่ายกมือที่แดงและพองขึ้นปกปิดโฉมพลางร้องครวญครางทรมานนัก
ชายหนุ่มไม่สามารถลุกขึ้นนั่งได้ เขาบาดเจ็บสาหัสภายในถึงกับมีเลือดทะลักไหลออกจากปาก
"ซ่า-ผมแน่หน้า-อก" ณ เวลานี้น้ำร้อนนั้นก็ต้มร่างของทั้งสองไปด้วย โดยมีโครงกระดูกผีร้ายกรีธาใกล้เข้ามาเป็นโขยง "ฟังผม ไม่ ไม่-"
เมื่อเวียร์มองขึ้นไปด้านบนสุดจากห่วงเหวที่ลึกที่สุด ชายหนุ่มพลันประจักษ์ร่างไหม้เป็นตอตะโกของสาวน้อยคีย์ลอยอยู่กลางอากาศ หัวใจของสาวน้อยกำลังถูกดึงออกจากร่างอย่างช้าๆ แลปราชญ์ลิขิตแห่งเพลิงกัลป์อ้าปากคอยท่าเพื่อจะได้กินมันเป็นอาหาร นับเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ขั้นเลวร้ายชวนขวัญผวายิ่ง
กระนั้นเวียร์ยังมองเห็นแสงทองอร่ามแห่งชูออร่าควีนอยู่ถัดขึ้นไปอีกเล็กน้อย พลอยให้เขาคิดไปว่า เหตุใดบอสระดับนี้จึงได้อาศัยอยู่ใกล้กับเมืองเริ่มต้น มันไม่มีเหตุผลเลย อยู่ในสถานที่ที่ดูราวกับ... ราวกับว่าเป็น...คุก หรือว่า! ดอกไม้นั่นจะเป็นประตู!?
"พี่เวียร์~" ริซ่าพยายามขยับเขยื้อนกายส่วนครึ่งล่างที่แทบจะไม่ตอบสนองมาหาชายหนุ่ม มีละอองแสงสีขาวเล็กๆผุดขึ้นจากผิวหนังของเธอด้วย "น้ำเดือดนี่จะทำให้เราสองคนตาย ริซ่ารู้นะพี่เวียร์"
"..."
"พี่เวียร์ไม่เหมือนคนอื่นๆ แมวของริซ่า โอ้ย~ เจ้าสมูธตาของมันจะเปลี่ยนเป็นสีแดงในยามที่มันสัมผัสพลังของปีศาจ พี่เป็นปีศาจใช่ไหม?"
"ริ- ริซ่า"
"ริซ่ารู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ ไม่เป็นไรๆ" หญิงสาวส่ายหน้าและกำลังร้องไห้
"...ผมเป็นแวมไพร์ ผมขอโทษที่ไม่เล่าความจริง"
เพียงเวียร์กระพริบตาทีเดียว วงแหวนสีม่วงก็ปรากฏในดวงตา หากไม่เพราะพลังชีวิตของเขามีมากกว่าเธอคาดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ทั้งคู่คงต้องตายอย่างไร้ค่า
"เราคนหนึ่งควรรอดไปจากที่นี่ พี่จะปีนขึ้นไปบนนั้นไหวไหม"
"ข้าต้องการเลือด"
ริซ่าพลันชื้นใจ หญิงสาวตัดสินใจก้มหน้าลงพลางทาบผิวคอของตนกับริมฝีปากของเวียร์ก่อนจะกล่าวทิ้งท้าย
"ชอบพี่เวียร์~นะคะ"
กาลนั้นผีดูดเลือดเห็นประโยชน์ที่จะไม่ต้องถูกต้มจนม้วยก็เข้าควบคุมสติสัมปชัญญะเจ้าของร่างอย่างสมบูรณ์ สิ้นคำสารภาพแห่งเธอเขี้ยวยาวจึงฝังเข้าที่คอเหยื่อ !!! ทันใดนั้นมันก็ดูดดื่มโลหิตเพื่อฟื้นฟูระบบภายในที่ใกล้ตายให้กลับกลายเป็นปกติดั่งเดิม อึก!อึก!อึก!อึก!อึก!อึก! ที่สุดแล้วริซ่าก็แตกสลายเป็นแสงขาวลอยหายไป
"พวกเจ้า!" ปีศาจยืนกายขึ้นวิ่งใส่ผองกระดูกมอนสเตอร์ด้วยเรี่ยวแรงมากยิ่ง ดาบหวีดไตรราตรีกาลสองเล่มในมือซ้ายและขวากราดเกรี้ยวฟันตวัดเปิดทางอย่างไม่หยุดยั้ง แสงทองเอ่อล้นในยามที่ถูกโจมตีเพราะจำนวนของซากผีมีมากมายนัก กระนั้นก็ไม่สามารถทำอันตรายทางกายภาพใดๆแก่มันได้เลย "เข้ามา!"
สกิพโกซท์ตระหนักว่าศัตรูมิวายชีพและคิดต่อสู้จึงเหลือบแลดู ยังนัยน์ตาแดงฉานนั้นมีไฟพวยพุ่งออกเปรียบประดุจความไม่พอใจต่อลิ่วล้อโสมมที่ทำอันตรายใดๆแก่ผู้ท้าทายไม่ได้ ทั้งแสงทองที่สาดส่องออกจากร่างมนุษย์นั่น
"เวทมนตร์พิทักษ์กายเจ้าช่างน่าสนใจ" ปราชญ์ลิขิตแห่งเพลิงกัลป์กล่าวขึ้นหลังจากกลืนหัวใจบริสุทธิ์ลงท้องไปแล้ว ระหว่างนั้นมันได้เตรียมสปิริตไฟเออะบอลล์อีกสองลูกไว้ในมือ "ราวกับว่าข้ารู้จักมนตร์นั่นอย่างนั้น? เวททองแห่งกษัตริย์มาร...ปราสาทลอยฟ้า? อายสแกนเนอร์!"
จะอย่างไรจอมอัคคีก็มีทักษะพิเศษหลายอย่าง หนึ่งในนั้นเรียกว่า อายสแกนเนอร์ สามารถใช้ตรวจดูค่าสถานะพื้นฐานของผู้เล่นในรัศมีทำลายล้างได้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เองมันจึงได้รู้
เวียร์ ระดับ : 34
ชีวิต : 22120 + 22120 หน่วย
ไอเทม : ดาบหวีดไตรราตรีกาล ระดับ 11 [3], เกราะราชสีห์ทองพิทักษ์ ระดับ 1 , กางเกงปลอดโปร่ง ระดับ 1, รองเท้าลุยสวน ระดับ 1, เสื้อท้าหนาว ระดับ 1, มีดทื่อ ระดับ 1, ไลท์ ระดับ 1 [5], เนื้อแมงป่องยักษ์ [2], กระโจมชาวป่า [2]
"เกราะราชสีห์ทอง! ตอบข้า!เจ้าเป็นใครกัน!?"
เป็นใครกันอย่างนั้นหรือ? ผีดูดเลือดควรตอบเช่นไรในเมื่อขณะนี้มันกำลังป่ายปีนผนังหินที่มีเหล่ากระดูกคลั่งตามมาอย่างกับขวบนรถไฟ โครงกระดูกน่ารำคาญทำลายไปเท่าใดมันก็ประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่ได้อยู่ดี และอันตรายมากไปกว่านั้นคือบอลยักษ์สองลูกถูกส่งมาสังหารซึ่งลอยมาด้วยความเร็วอันน่าตระหนก
บึ้ม!!! บึ้ม!!! ดังสนั่นสั่นสะเทือนหินผาปานภูเขาไฟระเบิด ส่งผลให้ชายหนุ่มร่างปีศาจที่แม้นกระโดดหนีทันกาลพลังชีวิตยังลดลงฮวบฮาบ
-2855!
-2400!
เวียร์ ชีวิต : 19492 + 19492 หน่วย
ควรทราบว่าความสามารถในการดูดเลือดของแวมไพร์นั้นไม่มีจำกัด พลังชีวิตทั้งหมดของเหยื่อจะถูกถ่ายโอนมาเป็นพลังชีวิตของมัน ทว่าพลังชีวิตสูงสุดของผู้เล่นกลับมีจำกัด โดยทั่วไปแล้วอัตราเริ่มต้นที่ระดับหนึ่งจะมีพลังชีวิตหนึ่งร้อยหน่วย ระดับสองจะเพิ่มเป็นสองร้อยหน่วย ระดับสามจะเพิ่มเป็นสามร้อยหน่วยอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เว้นเสียแต่ว่าผู้เล่นได้เลือกอาชีพที่ส่งผลให้พลังชีวิตของตนเพิ่มขึ้น นั่นก็เป็นกรณีไป ทว่าเหตุใดพลังชีวิตของเวียร์ที่ช่วงระดับสามสิบกลับเกินอัตราปกติชนิดที่ว่าฉีกกฏเกณฑ์ค่าพลังชีวิตทั้งหมดของทุกสายอาชีพเลยก็ว่าได้ อาชีพที่เรียกว่ากาเดี้ยนมิดไนท์หรืออัศวินอสูรรัตติกาล ณ ระดับเดียวกันนี้ให้เทพก็มีพลังชีวิตไม่เกินสองหมื่นสองพันหน่วย นี่เรียกว่าสายคงกระพันหนังเหนียวยอดมนุษย์ หากแต่ค่าพลังชีวิตของเวียร์ตอนนี้ยิ่งกว่ายอดมนุษย์ นั่นเพราะคุณสมบัติแห่งเกราะราชสีห์ทองพิทักษ์มิใช่ธรรมดา หนึ่งคือป้องกันการโจมตีทางกายภาพเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ สองคือสะท้อนการโจมตีทางกายภาพนั้นกลับไป สองข้อนี้ปีศาจรู้ดีแก่ใจ ทว่าข้อที่สามอันเป็นความลับนี้ร้ายกว่า นั่นคือให้ค่าพลังชีวิตสูงสุดของผู้สวมใส่เป็นอนันต์หรือก็คือไม่มีที่สิ้นสุด ให้ค่าพลังชีวิตดั่งเดิมเพิ่มอีกหนึ่งเท่าตัว โดยข้อแม้ของการเพิ่มเลือดจะต้องได้มาจากการโจมตีทางกายภาพของผู้สวมใส่มันเท่านั้น ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจเมื่อไม่มีอาวุธหรือไอเทมโจมตีลักษณะทางกายภาพใดสามารถเพิ่มค่าพลังชีวิตได้เลย หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าผลของข้อที่สามไม่มีทางเกิดขึ้น แต่... แต่ไม่ใช่กับพวกแวมไพร์ การดูดเลือดของปีศาจอหังการคือการโจมตีทางกายภาพอย่างแท้จริง นี่จึงเป็นเหตุแห่งการล่าเผ่าแวมไพร์เมื่อเนินนานมาแล้ว กระทั่งหลายคนคิดว่าสูญพันธุ์สิ้น
สกิพโกซท์ราชันย์แห่งอัคคียังคงจดจำจอมกษัตริย์มารผู้เคยสวมใส่เกราะทองนี้ได้ เขาผู้นั้นได้จองจำมันไว้ยังสถานที่แห่งนี้ จะด้วยเหตุผลใดหาทราบไม่ ภายหลังอาณาจักรลอยฟ้าล่มสลายก็ไม่เคยมีผู้เล่นคนไหน กลุ่มปาร์ตี้ที่กล้าหาญก๊กใด จวบจนกิลด์เลื่องชื่อลือสะท้านปฐพียิ่งใหญ่จักสามารถเอาชนะมันและปลดปล่อยมันออกไป คราวนี้ได้ประจักษ์กับตาตนเองถึงชายหนุ่มผู้สวมเกราะเทพในตำนาน จะใช่คนเดียวกันหรือ?ไม่สำคัญ โทสะนั้นเดือดดาลยามได้คิดว่าถูกขังไว้นานเพียงไร
"ข้าจักฝั่งเจ้าไว้ที่นี่!!!" สิ้นเสียงตวาดคาดโทษตายพลันบังเกิดลำเพลิงพวยพุ่งจากพื้นน้ำร้อนตรงขึ้นมาไม่ขาดสาย บึ้ม!!! บึ้ม!!! บึ้ม!!! อีกทั้งมันยังกราดยิงสปิริตไฟเออะบอลล์ใส่ผีดูดเลือดอย่างไม่หยุดยั้งรอรี บึ้ม!!! บึ้ม!!! บึ้ม!!! กึกก้องกัมปนาทต่อเนื่อง "วิบัติไปซะ!!!"
-2320!
-6000!
-6000!
-5430!
-5580!
-2665!
เวียร์ ชีวิต : 5494 + 5494 หน่วย
"ฮ่าฮ่าฮ่า!!! จบสิ้นกันทีเจ้าชาย!"
เลเวลสามสิบสี่ปะทะสี่ร้อยยี่สิบไม่เป็นเศษขยะก็บ้าไปแล้ว ร่างกายเวียร์ติดไฟลุกโชนร่วงหล่นจากผาหินพร้อมกับความหวังดับวูบ ประกายตาสีม่วงค่อยจางหายริบหรี่ เกราะราชสีห์ทองไหนเลยจะพิทักษ์กายาที่ต้องตรามนตร์ไฟโลกันตร์ สถานที่นี้คือขุมนรกดีๆนี่เอง พวกเราตัดสินใจพลาดมหันต์
'พี่ขอโทษนะคีย์... อภัยผมด้วยริซ่า....' ชายหนุ่มยอมรับชะตากรรม 'เรากำลังจะตาย'
ปราชญ์ลิขิตพุ่งตัวลงมาราวผีพุ่งไต้พลางกำหมัดที่เปี่ยมไปด้วยเพลิงผลาญ ซัดเปรี้ยง!!!จมร่างศัตรูหมายให้ม้วยอนาถคาก้นลาวา
-9999!
เวียร์ ชีวิต : 494 + 494 หน่วย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น