คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : EP.08 – รัม
EP.08 – รัม
“สรุปคือกูต้องแวะไปส่งมึงด้วยใช่ไหมเนี่ยจิน?”
น้ำเสียงเจือหงุดหงิดดังขึ้นจากผู้ชายหัวสีควันบุหรี่ที่กำลังหมุนพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าซอยแคบ ๆ ซอยหนึ่ง ฉันเลื่อนสายตาจากนอกรถกลับมามองมันผ่านกระจกส่องหลังนิ่ง ๆ โดยไม่พูดอะไร
“ถามอะไรแบบนั้นล่ะรัม ส่งฉันเสร็จแล้วก็ต้องไปส่งจินด้วยสิ นายอย่างี่เง่านะ” ซินเทียร์ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับรีบยกมือขึ้นตีแขนแฟนตัวเองหนึ่งที
“เออ ๆ ลูกน้องก็ตั้งเยอะแยะทำไมไม่เรียกให้มารับวะ จะมาเป็นก้างขวางคอกูกับเมียทำไมก็ไม่รู้!”
ตึง!
“เฮ้ย! แค่นี้ต้องถีบเลยเหรอวะ?” รัมเบรกรถจอดหน้ารั้วบ้านซินเทียร์พอดิบพอดีก่อนจะหันกลับมามองฉันตาขวาง ฉันยกยิ้มกวนประสาทให้มันจาง ๆ พลางวางเท้าลงที่เดิม มันรีบชะโงกมองร่องรอยรองเท้าที่ประทับอยู่กลางเบาะรถในทันที “อ๊ากกกไอ้จิน! มึงทำลูกรักกูเป็นรอยเลยนะ!”
“เออน่า เลิกทำตัวเป็นเด็ก ๆ สักทีเถอะรัม ฉันเข้าบ้านแล้วนะ... อื้อ” ซินเทียร์เปิดประตูแล้วทำท่าจะลงจากรถแต่กลับถูกรัมคว้าแขนเอาไว้ มันเอื้อมมือรั้งท้ายทอยเธอเข้ามาใกล้แล้วกดจูบร่ำลาต่อหน้าต่อตาฉันอีกแล้ว ฉันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายกับความสวีตลืมโลกของพวกมันสองคนก่อนจะเบี่ยงหน้าออกไปอีกทาง “พะ... พอแล้วน่า เดี๋ยวแม่ฉันออกมาเห็นนะ”
“ขออีกนิดสิ... ยังไม่หายอยากเลย”
“พูดบ้าอะไรของนายเนี่ย... หัดอายจินซะบ้างสิ” ซินเทียร์ตีไหล่รัมแรง ๆ เพื่อปรามก่อนจะลงจากรถไปทิ้งให้แฟนหนุ่มแสนบ้ากามของมันตีหน้ายุ่งด้วยความขัดใจ “แล้วอย่าลืมไปส่งจินที่บ้านด้วยนะ ส่วนแก... เดี๋ยวฉันโทรไปหา”
“อืม...” ฉันพยักหน้ารับเมื่อซินเทียร์หันมาพูดประโยคหลังกับฉัน
“เฮ้ยอะไรวะ? โทรหามันทำไมเนี่ย ต้องโทรหาผัวเธอดิยัยบ้า!”
“เลิกโวยวายเหอะน่า ฉันไปละ บาย” ซินเทียร์โบกมือลาแล้วหมุนตัวเดินเข้าบ้านไป ฉันปรายตากลับมามองใบหน้าหล่อของรัฟเฟียนประจำมหาวิทยาลัยก็พบว่ามันกำลังจ้องหน้าฉันอยู่
“อะไร?”
“มานั่งข้างหน้าดิวะ กูไม่ใช่คนขับรถมึงนะไอ้จิน”
“ไม่อ่ะ ขับ ๆ ไป อย่าพูดมาก”
“มึง...”
“รำคาญว่ะ”
“หึ้ยย!”
รัมสบถออกมาอีกหลายคำก่อนจะเคลื่อนรถออกด้วยความรุนแรง มันคงโมโหที่ทำอะไรฉันไม่ได้น่ะสิ ถึงแม้ไอ้เวรนี่จะขี้หงุดหงิด ขี้โวยวายยังไง แต่มันก็ไม่เคยเอาชนะฉันได้เลยสักครั้ง ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเพราะอะไร…
“จะไปไหนต่อ?” ฉันเอ่ยถามท่ามกลางความเงียบเมื่อรถจอดสนิทหน้ารั้วบ้านหลังใหญ่ของฉันเรียบร้อย ลูกน้องหลายคนต่างพากันออกมารอต้อนรับตามปกติ รัมปรายตามองผ่านกระจกส่องหลังเพื่อสบตากับฉันก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ตรอกเจ๊ก”
“ไปทำไรวะ? ที่นั่นมันอันตรายเกินไปไหม?” ฉันถามอย่างเป็นห่วง
แน่ล่ะ! ตรอกเจ๊กที่ว่านั่นคือคำเรียกของสถานที่ที่เต็มไปด้วยพวกนักเลงและมาเฟีย ทั้งบ่อน ทั้งซ่อง ผับใต้ดิน เวทีมวยเถื่อน เรียกว่าเต็มไปด้วยสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบ มันเป็นที่ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้หญิงที่จะเข้าไปแถวนั้น และแน่นอน... มันไม่เหมาะกับรัฟเฟียนที่มีศัตรูเยอะจนนับหัวไม่ไหวอย่างไอ้รัมเช่นกัน
“กูนัดคนคนหนึ่งที่นั่น เขารู้ว่าพ่อแม่ของกูเป็นใคร...” น้ำเสียงจริงจังตอบกลับมาเรียบ ๆ ต่างจากเมื่อครู่ตอนมันโวยวายโดยสิ้นเชิง ถ้าจะถามว่าแท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้มีนิสัยแบบไหน...
คำตอบก็คือ... นี่แหละ! ตัวตนที่แท้จริงของ ‘รัม’ รัฟเฟียนจอมอันตรายของมหาวิทยาลัย GBAC
“แล้วมึงเชื่อเขาได้แค่ไหน?”
ฉันรู้ว่าตอนนี้รัมกำลังตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเองอยู่ มันตามมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยมีวี่แววหรือเบาะแสอะไรเลยจนกระทั่งตอนนี้ รัมเป็นเด็กกำพร้าที่ได้รับการอุปการะจากนักธุรกิจชื่อดังเจ้าของบริษัทนำเข้ารายใหญ่คนหนึ่ง หลังจากเขารับอุปถัมภ์มันได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งท้องลูกชายแท้ ๆ ของตัวเอง
เด็กทั้งสองคนเติบโตมาด้วยความชิงชังกันอย่างเห็นได้ชัด ภรรยาของนักธุรกิจคนนั้นไม่ชอบขี้หน้ารัมเพราะกลัวว่ามันจะมาแย่งทรัพย์สมบัติ จึงเสี้ยมสอนลูกชายตัวเองให้เกลียดมันไปด้วย ทุกวันนี้รัมเลยย้ายออกมาอยู่คนเดียวตามลำพัง แต่พ่อบุญธรรมของมันก็ยังส่งเสียเงินทองให้อย่างเหลือกินเหลือใช้ไม่เคยขาด จะว่าโชคดีมันก็ดีนะ แต่จะว่าโชคร้ายมันก็ไม่เชิง
“ไม่รู้ แต่กูไม่มีทางเลือก”
“เออ ถ้างั้นก็ระวังตัวดี ๆ ล่ะ” ฉันเปิดประตูลงจากรถแล้วหันกลับมาสบตามันอีกครั้ง รัมมองฉันด้วยสายตาแปลก ๆ เหมือนกับครั้งแรกที่รู้จักกันไม่มีผิด...
“อืม ขอบใจมึงมากนะจิน”
ฉันพยักหน้ารับช้า ๆ รู้สึกใจหายแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งรถคันโปรดของรัมพุ่งหายไปท่ามกลางความมืด
ภาวนาให้มันปลอดภัยจากพวกสวะสังคมที่สมสู่กันอยู่ในตรอกเจ๊กก็แล้วกันนะ...
ตรอกเจ๊ก
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าหนัก ๆ วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในตรอกเล็ก ๆ ตรอกหนึ่งที่เต็มไปด้วยเศษขยะ ร่างสูงชะงักฝีเท้าด้วยความรวดเร็วเมื่อพบว่าทางข้างหน้าเป็นทางตัน เขาหมุนตัวกลับเพื่อจะวิ่งไปอีกทาง หากทว่ากลับถูกผู้ชายนับสิบคนยืนขวางทางเอาไว้ ในมือของคนเหล่านั้นเต็มไปด้วยมีดไม้พร้อมทำร้ายเขาได้ตลอดเวลา
“ไง... ไอ้หมาจนตรอก” เสียงเยาะเย้ยของหนึ่งในนั้นพูดขึ้น ผู้ชายผมสีแดงเข้มท่าทางนักเลงเดินออกมายืนด้านหน้า เขาคาบบุหรี่ไว้ในปากพลางเอียงคอมอง
“แน่จริงอย่าหมาหมู่สิวะ! ไอ้เวรซัน!” ชายหนุ่มผมสีควันบุหรี่ตะโกนบอกอย่างเจ็บใจ ถ้าลองเข้ามาทีละคนน่ะเขาไม่หวั่นหรอก แต่ถ้ามาพร้อมกันสิบคนแบบนี้ ให้เซียนแค่ไหนก็พลาดได้อยู่ดีนั่นแหละ!
“มึงก็พูดโง่ ๆ นะไอ้รัม! รัฟเฟียนอย่างมึงต้องโดนแบบนี้นี่แหละ! ไม่งั้นจะล้มมึงได้เหรอไอ้เวร!”
ความคิดเห็น