คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : EP.07 – เพื่อนสนิท
EP.07 – เพื่อนสนิท
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
“อื้อ... พอแล้วรัม... ยะ... อย่าแกล้งสิ”
“เอาน่า อุตส่าห์ได้อยู่ในที่ส่วนตัวแล้วนะ ขอจูบหน่อยสิ”
“อื้อ... ไม่ได้ พวกยัยจินก็อยู่นะ อายพวกมันบ้างสิ”
“อายทำไม? พวกมันเห็นจนชิน”
“ถามพวกกูหรือยัง?” น้ำเสียงติดรำคาญของผู้หญิงหน้าตาสวยแบบดิบ ๆ ดังขึ้น ทำให้ร่างสองร่างที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ถึงกับชะงัก สองคนนั้นพากันหันมองเจ้าของประโยคคำถามด้วยสีหน้าต่างกัน อีกคนทำหน้าเบื่อ ๆ ส่วนอีกคนทำหน้าเอียงอาย ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะว่าคนที่ต้องอายน่ะใคร ถ้าไม่ใช่ฝ่ายผู้หญิง
“มึงก็น่าจะชินได้แล้วนะอาโป ดูอย่างไอ้จินดิ๊... มันยังไม่พูดไรเลย” ใบหน้าหล่อร้ายของรัมหันมามองฉัน ก่อนจะหันกลับไปซุกหน้าลงบนลำคอของแฟนตัวเองต่อ
ใช่แล้วล่ะ... ไอ้เวรนั่นมันกำลังนัวเนียกับแฟนสุดที่รักของมันภายในห้องเรียนที่ตอนนี้ร้างผู้คนหมดแล้ว เพราะหมดชั่วโมงเรียนไปหลายชั่วโมงแล้ว เพื่อนร่วมคลาสคนอื่น ๆ ก็พากันกลับบ้านจนหมด เหลือก็แต่พวกฉันสี่คนที่ยังนั่งวาดแบบกันอย่างไม่ยอมไปไหน
ไม่สิ... ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือมีฉันกับอาโปแค่สองคนนั่นแหละที่กำลังวาดแบบ ส่วนอีกสองคนน่ะเหรอ... โน่นไง! กำลังนั่งฟัดกันนัวเนียแบบไม่อายฟ้าอายดินเลยไง
“คือกูต้องชินเหรอวะ? มึงสิที่ต้องอายพวกกูนะ!” อาโปปรายตามองมันด้วยสายตาจิกกัด
“เอาน่า ๆ รัมปล่อยฉันก่อน ฉันจะไปช่วยพวกจินวาดแบบให้เสร็จ ๆ จะได้แยกย้ายกันกลับบ้านไง” ซินเทียร์พยายามเกลี้ยกล่อมแฟนตัวร้าย สองมือก็พยายามแกะมือหนาออกจากสะโพกของตัวเอง ฉันปรายตามองสภาพของมันที่โดนไอ้เวรรัมจับให้นั่งคร่อมบนตักของมันด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ
ให้ตายสิ! สองคนนี้นี่มันเจอหน้ากันในที่ลับตาไม่ได้เลยสินะ! เป็นต้องนัวเนียกันตลอด!
“ไม่เอา ช่างหัวพวกนั้นมันสิ ไอ้จินมันเก่งจะตาย วาดแป๊บ ๆ เดี๋ยวก็เสร็จ... ส่วนเธออ่ะมาช่วยให้ฉันเสร็จดีกว่าซิน ฮึ” รัมพาดพิงถึงฉันก่อนจะหัวเราะเจ้าเล่ห์ในลำคอ และเพราะไอ้คำพูดส่อลงต่ำของมันทำให้ซินเทียร์ถวายฝ่ามือให้เป็นรางวัล ยัยนั่นสะบัดตัวก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่ง แล้วเดินมาทิ้งตัวนั่งลงด้านข้างฉันโดยไม่หันไปสนใจไอ้ผู้ชายบ้ากามที่นั่งทำหน้าเซ็งจัดอยู่ด้านหลังสักนิด
“ถ้านายยังไม่เลิกทำตัวหื่นใส่ฉันไม่เลือกที่แบบนี้นะรัม คราวหลังฉันจะไปนอนบ้านจินอีก”
“เฮ้ยไม่ได้นะ! เธอจะไปนอนกับมันทำไมนักวะ! อยากนอนมานอนกับฉันเซ่!” รัมลุกขึ้นโวยวายแล้วรีบเดินเข้ามานั่งแทรกกลางระหว่างฉันกับซินเทียร์ในทันที มันจ้องฉันด้วยสายตาอาฆาตมาดร้ายก่อนจะหันกลับไปทำหน้าออดอ้อนใส่เมียสุดที่รัก “พักนี้ใจร้ายมากไปแล้วนะซิน ทำไมไม่ไปนอนกับฉันบ้างเลยวะ”
“ก็ฉันไม่อยากไปนี่ อีกอย่างนะ! นายก็ไม่ได้นอนกับฉันแค่คนเดียวไม่ใช่หรือไง ฮึ!”
“เฮ้ยอะไร? หมาตัวไหนมันคาบอะไรมาบอกเธออีกวะซินเทียร์!” มือหนาคว้าไหล่ซินเทียร์แล้วจับหันมาหาตัวเอง “ตอบดิวะ! ที่ไม่ไปห้องฉันก็เพราะเรื่องนี้ใช่ป่ะวะ!?”
“อย่าโวยวายดิรัม”
“ตอบมาดิ! แค่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ นี่ยังไม่แย่พออีกเหรอวะ ทำไมมีไรไม่พูด”
“ก็บอกว่าอย่าโวยวายไง! พูดไม่เข้าใจเหรอ!?”
ฉันกลอกตาขึ้นเซ็ง ๆ แล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะหลุบตามองพวกมันสองคนนิ่ง ๆ นอกจากความหื่นไม่อายใครของคู่นี้แล้ว ยังมีเรื่องที่ชอบทะเลาะกันบ่อย ๆ เข้ามาเติมสีสันชีวิตกันตลอด ฉันก็เข้าใจพวกมันนะที่ต้องมาแอบคบกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทั้งที่อยากจะเปิดเผยใจจะขาด หากไม่ห่วงความปลอดภัยของซินเทียร์แล้วละก็นะ...
สาเหตุที่สองคนนี้ต้องแอบคบกันลับ ๆ มันมาจากตำแหน่งที่รัมมันกำลังเป็นอยู่นั่นน่ะสิ ตำแหน่งผู้ชายอันตรายที่สุดในมหาวิทยาลัย ‘รัฟเฟียน’ และเพราะตำแหน่งเวร ๆ นั่นแหละที่ทำให้รัมมันมีศัตรูรอบทิศไม่ต่างจากฉัน เพื่อเป็นการปกป้องซินเทียร์จากพวกศัตรูของรัฟเฟียนอย่างมัน พวกมันสองคนเลยต้องแอบคบกันลับ ๆ แบบนี้ไง แล้วพอเวลาพวกมันได้อยู่ในที่ลับตาคนเมื่อไหร่ ความติดเรทและหื่นกระจายก็จะตามมาโดยไม่สนว่าพวกฉันจะอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า
“ไปเคลียร์กันไกล ๆ เลยไป พวกกูจะทำงานเฮ้ย!” อาโปที่ทนไม่ไหวรีบลุกขึ้นยืนตาม มันกอดอกพลางกดสายตารำคาญลงมอง ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วรวบแบบงานขึ้นมาถือก่อนจะเดินมานั่งอีกมุมหนึ่งของห้อง ปล่อยให้ผัวเมียมันเคลียร์กันไป อาโปเดินตามมานั่งลงด้านข้างพลางบ่น “เชื่อพวกมันเลยว่ะ! เดี๋ยวก็หื่นเดี๋ยวก็ดราม่า กูละเพลียแทน!”
“เออน่า ปล่อยพวกมันไปเหอะ” ฉันเอ่ยบอกขณะกางแบบงานลงบนโต๊ะแล้วเริ่มวาดต่อโดยไม่หันไปสนใจเสียงทะเลาะกันของคนทั้งคู่อีก
ถ้าจะว่าชินก็คงจะใช่... แต่ถ้าจะบอกว่าไม่สนใจมันก็ไม่เชิง
“กลับมาแล้วหรือครับคุณหนู”
เสียงทักของพ่อบ้านวัยกลางคนดังขึ้นจากด้านหลังขณะที่ฉันกำลังถอดรองเท้า ฉันพยักหน้ารับแล้วเดินขึ้นบันไดบ้านอันแสนกว้างขวางของตัวเอง ความจริงจะเรียกที่นี่ว่าบ้านมันก็คงจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะนอกจากที่นี่จะเป็นที่พักอยู่อาศัยของคนจำนวนมากแล้ว มันยังเป็นสถานที่ที่บางคนเรียกมันว่า ‘องค์กร’
“นายท่านสั่งไว้ว่าถ้าคุณหนูกลับมาแล้วให้แวะเข้าไปพบด้วยครับ”
“... ...” ฉันหยุดชะงักฝีเท้าพลางหลุบตาลงมองคนเบื้องล่างด้วยสายตาเรียบนิ่ง “แล้วคุณตาอยู่ที่ไหน?”
“ดาดฟ้าครับ”
“... อืม” ฉันตอบรับแล้วก้าวเท้าขึ้นบันไดต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงดาดฟ้าชั้นสี่ พอเปิดประตูออกไปก็พบกับชายชราที่ยืนอยู่ในชุดยูคาตะกำลังใช้สองแขนไพล่หลังพลางเหม่อมองท้องฟ้า “คุณตา...”
“อ้าวน้องเพลง... กลับมาแล้วเหรอลูก” รอยยิ้มใจดีปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอย บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของนั้นผ่านร้อนผ่านหนาวมานานมากแล้ว “มานี่สิลูก ตามีอะไรจะให้”
ฉันขยับตัวเข้าไปยืนด้านข้างคุณตา ผู้ชายที่มีอำนาจและทรงอิทธิพลที่สุดในย่านนี้ หลายคนอาจจะมองว่าท่านดุดัน น่าเกรงขาม และน่ากลัว แต่สำหรับฉันแล้ว ท่านเปรียบเสมือนทั้งพ่อและแม่ของฉัน คุณตาใจดีและอ่อนโยนกับฉันเสมอ ตั้งแต่เล็กจนโต ท่านไม่เคยตีฉันเลยสักครั้ง...
ท่าน... คือญาติเพียงคนเดียวที่ฉันเหลืออยู่บนโลกใบนี้
“อะไรเหรอคะ?” ฉันมองสิ่งที่อยู่ในมือของคุณตา แสงระยิบระยับของมันส่องสะท้อนอยู่ตรงหน้า คุณตาส่งยิ้มอ่อนโยนให้อีกครั้งขณะที่วางของสิ่งนั้นลงบนฝ่ามือของฉัน
“มันคือสร้อยของฮานะ...”
“สร้อยของหม่าม้า...” ฉันพลิกจี้รูปดอกไม้ในมือไปมาด้วยมือที่เริ่มสั่นเทา หัวใจเต้นรัวเร็วกับสิ่งที่กำลังสัมผัสอยู่
นี่มัน... มันคือสร้อยที่แม่ของฉันสวมไว้ก่อนตาย คุณตาเคยเล่าให้ฟังว่าพ่อของฉันเป็นคนให้สร้อยเส้นนี้กับแม่ไว้ และมันหายไปในวันที่แม่หมดลมหายใจ...
วันนั้นเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว... วันที่ความทรงจำของฉันขาดหายไปพร้อมกับลมหายใจของแม่...
ฉัน... จำไม่ได้แม้แต่หน้าพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ!
“ใช่... ตาเก็บมันไว้มานานพอแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ตาต้องคืนมันให้กับเราสักที... เพลงพิณ”
ความคิดเห็น