คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ♦ 21 THE WORLD ♦ With Kim Taehyung [END]
ปล.มีเพลงจ้า
21
♦ THE WORLD ♦
With Taehyung
เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังเป็นเป็นจังหวะดังก้องบนถนนเส้นเดิม แต่ที่แปลกไปคงเป็นมือของแฮวอนที่ถูกเติมเต็มด้วยฝ่ามืออบอุ่นของคนข้างๆ เป็นอีกครั้งที่เธอลอบมองโครงหน้าคมคาย ผมสีดำยาวระต้นคอและดูเหมือนเขาจะตั้งใจไว้ยาวไปเรื่อยๆ คล้ายกับสิ่งที่แฮวอนเคยบอกในจดหมายคราวนั้น
“แอบมองอะไรฮะ?”
เธอไม่ได้ตอบเพียงแต่เบนหน้ามองคนตัวสูงให้เต็มตา แกล้งกะพริบตาปริบๆกวนอารมณ์เขาพลางฉีกยิ้มบางๆ
“ยังกอดไม่พอ?”
พอเสียงทุ้มว่าอย่างนั้นแฮวอนก็เบ้หน้าทันที ริมฝีปากก็ขยับพึมพำกับตัวเอง แต่อีกฝ่ายกลับโน้มตัวลงมาและยื่นใบหน้าเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจนฉันขบปากตัวเองแทบไม่ทัน ลมหายใจร้อนผ่าวนั่นถูกพ่นกระทบผิวแก้มอย่างช้าๆราวกับจงใจให้เธอประหม่าและเขินอายกับระยะห่างอันน้อยนิดนี้ ไหนจะส่งเสียงเบาๆในคอเหมือนเร่งรัดเอาคำตอบอีก
“หื้อ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะคุณแทฮยอง…” แฮวอนรีบบอกแต่พอเธอแย้งอย่างนั้นเจ้าของชื่อกลับทำหน้าบูดก่อนจะกดจูบลงมาเบาๆที่ริมฝีปากแต่กลับเกิดเสียงที่ทำเธออายจนซะไม่อยากมองหน้าเขาต่อ
“บอกแล้วว่าให้เลิกเรียกคุณ สอนไม่จำต้องโดนลงโทษ”
“นี่คุณไม่ใช่อาจารย์หรืออะไรแล้วนะคะ ลงโทษอะไร นี่มันฉวยโอกาสชัดๆอ่ะ” แฮวอนเถียงก่อนจะทุบอกกว้างไปทีหนึ่งอย่างเหลืออด “อีกอย่างฉันพูดแบบนี้มาตั้งนานจะให้เปลี่ยนปุบปับได้ยังไงล่ะ”
“แต่มันก็ตั้งนานแล้ว…” น้ำเสียงแผ่วปลายของแทฮยองทำเอาเธอต้องเขย่งปลายเท้าแล้วใช้ศีรษะดันหน้าผากของอีกฝ่ายเบาๆ
“ตะกี้ยังบอกให้ฉันไม่ต้องคิดถึงเรื่องเก่าอยู่เลย” แฮวอนว่าพลางยู่ปากให้อีกคน ฝ่ามือที่ถูกกอบกุมไว้ถูกเธอกระชับให้แน่นอีกครั้งก่อนจะออกปากชวน “ฉันต้องกลับบ้านแล้วนะคะ ดึกๆแบบนี้เดี๋ยวพ่อกับแม่จะเป็นห่วงค่ะ”
คราวนี้คนตัวโตยอมง่ายๆ แทฮยองยืดหลังตรงก่อนจะเริ่มก้าวเดินอีกครั้งเพื่อไปส่งแฮวอนที่บ้าน ทั้งสองยังไม่ได้พูดอะไรกันมากนักหลังจากที่แฮวอนจำเรื่องราวเก่าๆได้ แทฮยองเพียงแต่บอกว่าเขารอวันนี้ วันที่จะกลับมาเจอเธออีกครั้ง
“รู้มั้ยแฮวอน”
แค่ประโยคสั้นๆก็ทำให้แฮวอนละสายตาจากรอบข้างเพื่อหันไปมองคนตัวสูง เลิกคิ้วเป็นเชิงรอฟัง ลมหายใจหนักๆถูกระบายออกมาเฮือกหนึ่งก่อนที่แทฮยองจะบอก
“ฉันกลัวว่าเธอจะไม่ดีใจที่เจอฉันอีกครั้ง รู้มั้ยว่าฉันนอนคิดเรื่องพวกนี้มาหลายคืนมาก อาจจะหลายปีด้วยซ้ำ เพราะฉันไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วเธอรู้สึกยังไงกับฉัน…”
“ที่ฉันทำไปมันยังไม่พอเหรอคะ” แฮวอนอดแทรกไม่ได้ “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสักวันจะได้รู้เรื่องที่ตัวเองฝันอยู่ซ้ำๆแบบนั้น และฉันดีใจมากค่ะที่ฉันได้เจอคุณ”
“จริง?”
“อื้อ? แล้วฉันจะโกหกทำไมล่ะคะ” เธอแกล้งถามก่อนจะกระตุกมืออีกคนให้เดินต่อ ระยะทางจากถนนใหญ่ถึงบ้านของแฮวอนก็ร่นเข้าใกล้มาเรื่อยๆ เธอจึงเอ่ยถามเรื่องที่ตัวเองข้องใจ “คุณ…อืม พี่รู้เรื่องที่พาราเดียได้ยังไงคะ”
“ฉันก็ฝันแบบเดียวกับเธอ แต่ว่าจำทุกรายละเอียดได้ ตั้งแต่อายุสิบสอง”
“นานเลยนะคะนั่น แต่จะว่าไปแล้วฉันเองก็เริ่มฝันถึงพาราเดียตอนที่อายุประมาณนั้นเหมือนกัน” แทฮยองพยักหน้ารับกับสิ่งที่แฮวอนบอกแล้วพูดต่อ
“ตอนแรกฉันไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ว่าผ่านไปเรื่อยๆฉันก็ผูกพันกับทุกอย่างในความฝันและรู้สึกกับเธอมากเป็นพิเศษ เพียงแค่ได้ยินเสียง ได้เห็นหน้า ได้สัมผัส แม้จะเป็นแค่ฝัน แต่ว่าที่อกซ้ายฉันมันก็เต้นแรงตลอด” น้ำเสียงนุ่มทุ้มบอกถึงตอนนี้แฮวอนก็อดที่จะชะงักไม่ได้ อยู่ๆหัวใจก็เริ่มเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เสียงมันฟังดังตึกตักและเต้นดังจนเธอกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเข้า
มือหนาบีบมือเธอเบาๆครั้งหนึ่งก่อนที่แทฮยองจะคลี่ยิ้มให้อีกหน
“ความรู้สึกมันมากขึ้นเรื่อยๆ มากจนคิดว่าต้องตามหาเธอให้เจอ เธอที่อยู่ในโลกของฉัน ไม่ใช่แฮวอนที่อยู่ในพาราเดีย แต่คือแฮวอนที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้ และเธอคนนี้จะไม่ได้เป็นแค่ฝันอีกต่อไป คำอธิษฐานที่เพรย์ลูน่าของฉันเป็นจริงแล้วรู้รึเปล่า ฉันต้องไปที่นั่นคนเดียวทุกปีและขอพรเรื่องนั้นซ้ำๆรู้มั้ย เรื่องที่ขอให้ได้เจอเธออีกครั้งน่ะ”
แฮวอนนิ่งและไม่รู้จะตอบรับอะไรกลับไป แทฮยองเป็นเจ้าของเสียงที่เธอได้ยินทุกครั้งก่อนจะหลุดออกจากความฝันของเรื่องพาราเดีย ความรู้สึกบางอย่างผลักดันจนน้ำสีใสปริ่มอยู่ตรงขอบตา ยิ่งเขาบอก ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นก็ยิ่งย้อนกลับมา เพราะใกล้จะร้องไห้เต็มแก่แฮวอนถึงต้องรีบสูดหายใจเข้าพร้อมกับกะพริบตาปริบๆและฉีกยิ้มอย่างเหมือนว่าไม่มีอะไร
“เศร้าหรือไงฮะ?” แต่แทฮยองก็เห็น เขาถามก่อนจะยื่นนิ้วมาปาดเช็ดหยดน้ำตาออกไป นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยวนเบาๆที่แก้มข้างหนึ่ง “เศร้าที่เป็นฉันรึเปล่า”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย” แฮวอนแย้งเสียงขุ่น พอเห็นเขาทำหน้าหงอยแบบนั้นเธอรู้สึกไม่ดี
“แต่ฉันช้าทุกอย่างเลยนะ ตามอะไรไม่เคยทัน ไม่เคยได้อยู่กับเธอในช่วงเวลาที่เธอต้องการด้วย” แทฮยองว่าเสียงเบาจนแฮวอนได้แต่ส่ายหน้าให้ก่อนจะตัดสินใจโผเข้ากอดร่างหนาแน่น ดูเหมือนเขาเองก็จะตกใจเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ค่อยๆวาดวงแขนกอดเธอตอบ
ใช้เวลารวบรวมคำพูดอยู่สักพักแฮวอนก็ค่อยๆอธิบายในสิ่งที่ตัวเองไม่ทันมีโอกาสจะพูดออกไป
“จริงอยู่ที่คุณอาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่แย่มากๆกับฉัน แต่ว่าฉันใจเต้นแรงกับคุณมากจริงๆ รู้สึกมวนท้องเหมือนผีเสื้อกระพือปีกเต็มท้องไปหมดทุกครั้ง ฉันรู้สึกดีทุกครั้งที่คุณอยู่ใกล้ๆ ตอนที่ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็จะเจอคุณอยู่ใกล้ๆ นั่นเป็นอะไรที่ดีกับฉันมากเลยค่ะ” เสียงที่ค่อยๆเบาลงบอกเล่าไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง “ฉันตั้งใจจะบอกให้คุณรู้นะ แต่ว่า…”
สิ่งที่ตั้งใจจะพูดหายไปดื้อๆ มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ค่อยถูก แฮวอนไม่ได้เศร้าเมื่อนึกถึงมัน แค่รู้สึกตื้อๆตอนที่คิดเรื่องนั่น เรื่องราวหลังจากปรากฏการณ์จันทรุปราคานั่น คืนที่เธอจากไปอย่างไม่วันหวนกลับที่พาราเดีย…
“ตอนนี้ฉันรู้แล้วแฮวอน ไม่จำเป็นต้องพูดในสิ่งที่ทำให้เธอต้องรู้สึกแย่หรอกนะ” เขาปลอบโยนฉันด้วยการกระชับอ้อมกอดพลางลูบหลังเบาๆ “ดีใจมากจริงๆที่ได้เจอเธออีกครั้ง”
“ฉันก็เหมือนกันครั้งค่ะ มันดีมากจริงๆที่ได้เจอคุณอีกครั้ง” แฮวอนบอกแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากขึ้น หลังจากนั้นจึงค่อยๆผละออกแล้วตัดสินใจถามเรื่องที่ค้างคางในใจ
“คุณแทฮยองคะ”
“หื้อ? มีอะไรแฮวอน” คนตัวสูงถามก่อนจะค่อยๆโน้มลงมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกันกับเธอ เขากดจมูกลงมาที่ปลายจมูกแฮวอนครั้งหนึ่งคล้ายกับเร่งเร้า
“หลังจากที่ฉันตาย พาราเดียเป็นยังไงบ้างค่ะ แล้วพ่อแม่และก็น้องสาวฉันล่ะ พวกเขาสบายดีหรือเปล่า”
“อยากรู้จริงเหรอ” แทฮยองย้อนถาม ฝ่ามืออุ่นๆลูบผมแฮวอนเบาๆ และเมื่อเธอพยักหน้าหงึกหงัก เขาก็ยีผมแฮวอนจนหัวโยกไปมา เสียงทุ้มบ่นพึมพำแต่เธอก็พอจับใจความได้ “ยัยดื้อ”
“เล่าเร็วๆสิคะ” เธอเร่งแทฮยองด้วยการกระตุกชายเสื้อแล้วยู่ปากให้
“ทุกอย่างเป็นปกติหลังจากที่เราเสียเธอไป ฮยอนซอกในร่างของซูจองได้รับโทษ เขาถูกจองจับตลอดชีวิตในคุกใต้ดินสำหรับทรราชของการ์ดิเนีย เราช่วยเธอไม่ได้ เธอกับฮยอนซอกกลายเป็นคนเดียวกันจนแยกจากกันไม่ออก ส่วนครอบครัวของเธอย้ายกลับไปที่ฟาราเวล พวกเขาเข้มแข็งมาก แม้จะสูญเสียเธอไปแต่ทุกคนยังดำเนินชีวิตต่อไปได้ และเราจัดงานเพื่อระลึกเธอทุกปี ช่อสโนว์ดรอปจะแขวนเอาไว้หน้าประตูของทุกบ้านเพื่อรำลึกถึงทุกอย่างที่เธอทำเพื่ออาณาจักร”
แฮวอนรู้สึกโล่งอก ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี แต่เผลอเพียงครู่เดียว น้ำตากลับร่วงผล็อยลงมาจนปาดเช็ดแทบไม่ทัน
“ไม่ต้องร้องแฮวอน ตอนนี้เธอก็อยู่ที่นี่ มีพ่อแม่ น้องสาว เพื่อน แล้วก็มีฉัน เรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะ ไม่ต้องคิดอีกแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าพาราเดียจะเป็นอดีตหรืออะไร แต่ว่าที่นี่และตอนนี้เป็นปัจจุบัน ปัจจุบันที่เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน จับมือกัน มองตากัน และพร้อมจะเดินหน้าไปอย่างที่ไม่มีโอกาสได้ทำ เธอไม่คิดว่าอย่างนี้มันดีกว่าเหรอแฮวอน” น้ำเสียงนุ่มทุ้มบอกกล่าวอย่างนุ่มนวลจนหัวใจของแฮวอนถูกเร่งจังหวะขึ้นให้รุนแรงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
“ค่ะ แบบนี้ดีกว่าเนอะ” เธอพยักหน้าก่อนจะรับคำ อดจะขบเม้มริมฝีปากของตัวเองไม่ได้ อาการเขินและประหม่าจู่โจ่มจนอยากจะหันหน้าหนีให้รู้แล้วรู้รอดสายตาของแทฮยองเหมือนจะกลืนกินเธอให้ได้ แฮวอนว่าตอนที่เขามีอาการแปลกๆนั่นก็ทำเธแร้อนๆหนาวๆแล้ว แต่คราวนี้มันยิ่งกว่า ดวงตามีเอกลักษณ์ของแทฮยองนั่นทอประกายบางอย่างอยู่ตลอดเวลา ความลึกซึ้ง ความโหยหา และความต้องการแฝงอยู่ในดวงตามีเสน่ห์คู่นั้น
“ฉันไม่ชอบเวลาที่เธอทำตัวน่ารักมากๆแบบนี้เลยรู้มั้ยแฮวอน เธอน่ะชอบทดสอบความอดทนฉันอยู่เรื่อย”
แทฮยองเป็นฝ่ายผละออกไปก่อน ฝ่ามืออุ่นๆทั้งสองข้างจับประคองใบหน้าฉันและดันขึ้นเล็กน้อยให้แฮวอนแหงนหน้าขึ้นในระดับที่เขาต้องการ พอจะเอ่ยปากถามก็ถูกเรียวปากร้อนโฉบลงมาทาบทับ ความอุ่นร้อนจุดขึ้นครู่หนึ่งก่อนจะหายไปเมื่อเขาถอนจูบนั้นออกไป
“จ…จูบทำไมอีกคะ” ช่วยไม่ได้ที่เสียงแฮวอนจะฟังดูตะกุกตะกักเกินทน อยู่ๆก็ถูกขโมยจูบไปแบบนี้จะไม่ให้ตกใจได้ไง
“บอกว่าไม่ให้เรียกคุณ” น้ำเสียงและแววตาเจ้าเล่ห์นั่นฉายชัดขึ้น เขาแตะปลายลิ้นบนกลีบปากล่างของตนแล้วไล่เลียเติมความชุ่มชื้นไปอย่างเชื่องช้า
ท่าทางดูอันตรายและไม่น่าวางใจสั่งการให้แฮวอนถอยหลัง แต่กลับถูกฉุดรั้งไว้กับที่ด้วยพละพลังกำลังที่เหนือกว่าของอีกฝ่าย
“แต่เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าคุณเจ็ดครั้ง”
“ด…เดี๋ยวสิ อย่างนี้มัน…” เธอไม่ทันแย้งจนจบ ประโยคที่ตั้งใจจะพูดก็ถูกกลืนหายไปหมด
ริมฝีปากร้อนๆนั่นทาบเบียดลงมาเสียดสีกับเรียวปากบางอย่างแผ่วเบา เขาขยับนวดเฟ้นและดึงดูดกลีบปากอย่างอ่อนโยนและละเมียดละไม แทฮยองสัมผัสเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนคล้ายกับว่าแฮวอนปล่อยให้ทุกอย่างหลุดลอยไปกับสัมผัสนุ่มนวลแบบนั้น เธอเองก็ไม่แน่ใจมากนัก แต่คิดว่ามันมากเกินกว่าเจ็ดครั้งแน่นอน
แต่ยิ่งดำเนินจุมพิตอ่อนหวานนั่นไปเรื่อยๆแฮวอนก็รู้สึกเหมือนว่าแทฮยองจะไม่ได้จูบเธอเพื่อลงโทษอย่างที่ปากว่า แต่เหมือนกับจูบเพื่อทดแทนและบอกเล่าความรู้สึกที่เรียกว่าคิดถึงต่างหาก
“ฉันยืนยันว่ายังชอบแค่จูบของเธอ” เสียงแหบพร่ากระซิบบอกชิดริมฝีปาก ก่อนที่แทฮยองจะบอกอย่างเอาแต่ใจ “คืนนี้ ฉันไม่ให้เธอกลับบ้านแฮวอนJ”
THE END
ความคิดเห็น