ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องผีๆวิญญาณและไสยศาสตร์

    ลำดับตอนที่ #101 : ตุ๊กตาผี ประสบการณ์ น่า ... ขนหัวลุก เมื่อครั้น เยาว์วัย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 775
      1
      10 ธ.ค. 49

    ตุ๊กตาผี ประสบการณ์ น่า ... ขนหัวลุก เมื่อครั้น เยาว์วัย
    "นิศานาถ" เล่าประสบการณ์น่าขนหัวลุกเมื่อเยาว์วัย

    เด็กผู้หญิงกับตุ๊กตาเป็นของคู่กันใช่ไหมคะ? ตั้งแต่สมัยโบราณที่มีตุ๊กตาดินเผารูปต่างๆ จนสมัยต่อมามีตุ๊กตาพลาสติกทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ใส่เสื้อผ้าเป็นผู้หญิงผู้ชายดูคล้ายคน กระทั่งมาถึงตุ๊กตาบาร์บี้สำหรับเด็กผู้หญิง และตุ๊กตาจีไอโจสำหรับเด็กผู้ชาย

    แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีตุ๊กตาตัวละเป็นพันๆ บาท ทั้งทหารและหุ่นยนต์ ในกล่องมีอุปกรณ์ครบครัน ทั้งเครื่องแต่งตัวและอาวุธ เด็กวัยรุ่นนิยมแพร่หลาย ขนาดซื้อขายกันในอินเตอร์เน็ตมาหลายปีแล้ว

    สมัยเด็กๆ ดิฉันอยู่แถวสถานีรถไฟบางซื่อ บริเวณที่เรียกกันว่า "หัวรถจักร" มีบ้านเล็กๆ หลายสิบหลังคาเรือน ส่วนมากทำงานรถไฟ ค้าขายและรับจ้างทั่วไป บางคนก็ไปทำงานโรงทอผ้าบางซ่อน โดยขึ้นไปเดินตามทางรถไฟจนถึงโรงงาน

    พวกเด็กๆ ก็เล่นกันอยู่แถวใกล้ๆ บ้าน มีทั้งพงหญ้า คูเล็กๆ ตอนเช้ามีคนลงไปเก็บผักบุ้งผักกระเฉด บ้างก็งมหอยขม บางคนก็สอยดอกแค เด็ดยอดกระถิน เก็บดอกโสน เอาไปกินไปขายที่ตลาดสะพานสูง

    เด็กผู้ชายจะเล่นไล่จับ ทอยกอง ซ่อนหา ส่วนเด็กผู้หญิงจะเล่นตบแผละบ้าง เล่นอีตัก หรือมอญซ่อนผ้า แบ่งกลุ่มกันเป็นรุ่นเล็กกับรุ่นโตด้วยค่ะ

    ดิฉันรุ่นเล็กราว 6-7 ขวบ ส่วนมากจะเล่นตุ๊กตากันแทบทุกคน!

    ตุ๊กตาผ้าก็มี ตุ๊กตาพลาสติกก็มี เป็นเด็กผู้หญิงยิ้มแป้น แก้มยุ้ย ตาโต มักจะเก่าๆ ขาดๆ เพราะเล่นมานาน จากพี่ถึงน้องก็มี เขาเล่นจนเบื่อแล้ว หรือได้ตัวใหม่ก็ทิ้งตัวเก่า พ่อแม่เก็บได้จากข้างถนนเลยหยิบมาฝากลูกก็มี

    ถึงจะเก่าขาด ซีดจาง ปากแหว่ง หูวิ่น ขาหลุดแขนขาด แต่ตุ๊กตาของใครก็แสนสวยเหมือนนางฟ้าสำหรับคนนั้นเสมอ ทั้งรักทั้งหวง อุ้มติดมือตลอด ขนาดจะนอนก็เอาไปนอนกอดด้วย

    เราชอบเล่นติ๊งต่างอยู่แล้ว...ติ๊งต่างว่าตุ๊กตาเป็นเพื่อนหรือเป็นน้องไงคะ!

    ตอนเย็นๆ เราก็อุ้มตุ๊กตามาเดินอวดกันแทบทุกวัน โดยเฉพาะกลุ่มดิฉันมีเพื่อนสนิทสองคนชื่อเกสรกับน้ำค้าง...เราเป็นลูกคนสุดท้องเหมือนกันทั้งสามคน

    เกสรเล่าว่าก่อนนอนจะบอกตุ๊กตาว่า...ติ๊งต่างเธอเป็นน้องนะ! คืนนี้พี่จะกอดน้องแล้วเล่านิทานให้ฟังจนหลับไปเลย แต่บางคืนง่วงนอนมากๆ หนังตาใกล้จะปิดก็จะได้ยิน "น้อง" เล่านิทานให้ฟัง

    มีเจ้าหญิงแสนสวย พบเจ้าชายรูปหล่อ แม่มดใจร้าย หรือแม่เลี้ยงใจยักษ์ใจมารจ้องข่มเหงรังแก แต่เพราะเป็นนางเอกจึงต้องมีนางฟ้าใจดีมาช่วย ได้ครองรักกับเจ้าชายในตอนจบ

    ดิฉันกับน้ำค้างจะหัวเราะคิกคักชอบใจ แย่งกันเล่าว่าน้องของเราก็เก่งไม่แพ้กันเท่าไหร่หรอกค่ะ

    น้ำค้างเล่าว่า พอพ่อแม่หลับแล้ว ตุ๊กตาหรือน้องสาวของเธอจะลุกขึ้นมาเต้นระบำอย่างสนุกสนาน หัวเราะคิกคักไปด้วยน่าเพลิดเพลิน และจะลงเอ่ยด้วยการกอดกันหลับผาสุก ฝันดีทุกๆ คืน...รุ่งเช้า น้องสาวของเธอจะปลุกให้ตื่น รีบอาบน้ำกินข้าวแต่งตัวไปโรงเรียน ก่อนกลับเป็นตุ๊กตายิ้มแป้นแก้มยิ้ย นั่งกางแขนกางขาอยู่ที่หัวนอนตามเดิม!

    ดิฉันอดไม่ได้ก็เล่าอวดบ้าง ว่าน้องสาวจะขอให้ดิฉันล้างหน้า ทาแป้ง หวีผมแล้วเปลี่ยนเสื้อกระโปรงชุดใหม่ทุกคืน เวลาจะเล่านิทานก็ชอบปีนขึ้นมานั่งเล่าบนอกดิฉันทุกครั้ง บางคืนง่วงมากๆ ก็ฟุบหน้าลงมาหลับกับอกเลย

    ตอนเช้าแม่ยังเคยถามว่าคุยกับใครคนเดียว...แม่ไม่รู้หรอกว่าเราเล่านิทานแสนสนุกสู่กันฟัง!

    เมื่อใครเล่าจบก็จะชูตุ๊กตาของตัวขึ้นอวด หรือเอียงแก้มแนบกับสิ่งที่ติ๊งต่างว่าเป็นน้อง พูดเองเออเอง...แต่คนอื่นๆ มองดูก็เห็นเป็นเพียงตุ๊กตาเก่าๆ ขาดๆ สีซีดจางเท่านั้นเอง

    วันหนึ่ง เราออกไปเล่นกันที่ริมคูน้ำ มีต้นก้ามปูแผ่กิ่งก้านสาขาร่มรื่น เด็กผู้ชายก็วิ่งไล่จับกันเกรียวกราวไปแถวรางรถไฟ ดิฉันกับน้ำค้างอุ้มตุ๊กตาแนบอกมาตามเคย แต่เกสรยกมือสองข้างขึ้นพลิกไปมา ถาม

    ว่า...ใครรู้มั่ง น้องสาวฉันหายไปไหน?

    เราส่ายหน้า เกสรทำเป็นรีๆ รอๆ อมยิ้ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นชี้มือไปที่ต้นก้ามปู บอกว่าน้องสาวฉันนั่งอยู่บนกิ่งนั้นไงล่ะ! แต่เรามองตามกลับไม่เห็นอะไร เกสรก็ชี้นิ้วเร่าๆ ร้องว่า...ใส่เสื้อกระโปรงแดงแจ๋ไม่เห็นเหรอ?

    น้ำค้างสั่นหน้า...ตุ๊กตาอะไรขึ้นต้นไม้ได้ มีแต่ผีน่ะซี!!

    แทบไม่ขาดคำ อะไรบางอย่างก็ลอยละลิ่วลงมา...ตุ๊กตาในชุดแดงของเกสรนั่นเอง...มันลอยคว้างอยู่ตรงหน้าเรา แผดเสียงว่านี่แน่ะผี! หมุนช้าลงจนเห็นใบหน้าเป็นหัวกะโหลกตาโบ๋ จนเราขำกลิ้งกันทั้งคู่ น้ำค้างถามว่าได้ตุ๊กตาตัวใหม่มาเหรอ? แหม! นึกว่าผีหลอกซะอีกแน่ะ!

    ร่างเล็กๆ ในชุดแดงลอยวืดขึ้นไปบนกิ่งไม้ ตุ๊กตาผ้าชุดสีชมพูของน้ำค้างก็ร้องวี้ดๆ ก่อนจะปลิวหวือตามขึ้นไปติดๆ เจ้าของตบมือกันใหญ่ แหงนหน้าร้องตะโกนให้น้องของตัวสู้ตาย อย่ายอมแพ้

    เล่นติ๊งต่างอะไรก็ไม่รู้ค่ะ น่าขนหัวลุกออกจะตายไปแล้ว

    ใกล้ค่ำ ดิฉันอุ้มตุ๊กตากลับบ้าน อาบน้ำกินข้าวแล้วเข้ามุ้งนอน...หันไปกอดน้องสาวที่แสนรักไว้พลางปลอบโยนว่า อย่ากลัวนะจ๊ะ น้องรัก...เราเล่นติ๊งต่างกันแค่นั้นเอง!

    ตุ๊กตาในชุดเหลืองก็ปีนขึ้นมาบนอกตามเคย พึมพำเสียงสั่นเครือ

    ว่า...หนูกลัวจริงๆ สองตัวนั่นน่ะเป็นตุ๊กตาผีแน่ๆ เลย...ก่อนจะซบหน้าลงมาสะอึกสะอื้นจนดิฉันต้องกอดและปลอบโยนจนกระทั่งหลับผล็อยไปด้วยกัน...แล้วฝันร้ายถึงตุ๊กตาผีด้วยค่ะ

    ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก
    ใบหนาด
    - ข่าวสด หน้า 38 - ฉบับวันที่ 6 กันยายน 2547
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×