คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : SF : You Are My Sunshine. KookJin. EP 04 110%
“อะ”
แรงโอบกอดจากด้านหลังทำให้ร่างบางสะดุ้งตกใจ
เอวบางถูกรวบเข้าไปกอดหลวมๆก่อนปลายจมูกโด่งจะกดลงที่แก้มนุ่มอย่างหมันเขี้ยว และหอมซ้ำอีกทีเป็นการลงโทษเด็กน้อยที่หายออกไปข้างนอกโดยไม่บอกกล่าวกันซักนิด
ปล่อยให้เขาเดินหาทั่วบ้านอยู่ได้ตั้งนานสองนาน
“ไปไหนมาหืม”
“ไปซื้ออาหารให้คุณนุ่มมาครับ”
โกหก
คิมซอกจินโกหก…
ทูน่ากระป๋องยังอยู่อีกเป็นลังจะต้องซื้อเพิ่มอีกทำไม
ปกติเรื่องของกินของใช้ก็ไม่ใช่หน้าที่ของคนตัวเล็กอยู่แล้ว และถึงจะใช่ก็ใช้แม่บ้านไปซื้อได้นี่
ไม่จำเป็นต้องออกไปตลาดด้วยตัวเองอย่างวันนี้หรอก
เด็กน้อยของเขาโกหกไม่เก่งเลยจริงๆ
แม้จะไม่ได้ถามเอาความกับแม่บ้านที่ติดตามไปด้วยแต่จองกุกก็พอรู้ว่าเด็กน้อยหายไปไหน
และรู้… ว่าคิมซอกจินกำลังแอบทำอะไรลับหลังเขาอยู่
“ในมือนั่นอะไรเหรอ”
“วิตามินน่ะครับ”
แผงยาเม็ดเล็กถูกยัดลงกระเป๋ากางเกงไวๆเหมือนไม่ต้องการให้ใครเห็น
ท่าทางร้อนรนของเด็กน้อยเรียกให้ปากเรียวคลี่ยิ้มขึ้น
ก่อนจะยื่นมือไปจับมือบางเอาไว้แล้วหยิบแผงยาในกระเป๋าออกมาดูใกล้ๆ
“วิตามินเหรอ”
“ทำไมมันเขียนว่ายาคุมกำเนิดล่ะ หนูซื้อมาผิดหรือเปล่า”
แสร้งถามออกไปพลางรอดูท่าทีของเด็กน้อยว่าจะตอบออกมาอย่างไร
จะยอมรับหรือโกหกต่อเขาก็ไม่โกรธหรอก ก็พอจะเข้าใจว่าลึกๆคิมซอกจินก็คงลำบากใจในเรื่องนี้ไม่น้อย
และเขาก็มีส่วนผิดอยู่เหมือนกันที่ไม่ป้องกัน
เขาผิด..
แต่ไม่ว่ายังไงเด็กน้อยก็ต้องถูกลงโทษอยู่ดี
ข้อหาโกหกผู้ใหญ่
“คือผม”
“ผมไม่อยากท้อง”
เสียงเล็กเอ่ยตอบสั่นๆทั้งยังกำมือแน่นอย่างกดดัน
ทุกครั้งที่มีอะไรกันอาจองกุกก็ไม่เคยป้องกันมันซักครั้ง ตัวเขาเองก็ไม่กล้าแนะนำอะไรมาก
ถึงแม้ร่างสูงจะใจดีกับเขามากขนาดไหนแต่ลึกๆก็ยังจำภาพคนใจร้ายคนนั้นได้อยู่ดี
และยังกลัวว่าซักวันผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะกลับมาอีก…
ร่างเล็กถูกจับให้หันมาเผชิญหน้า
แต่ใบหนาหวานก็ยังก้มมองพื้นไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากันอย่างทุกครั้ง
ปลายคางมนถูกเชยขึ้นเพื่อที่จะสามารถพูดคุยกันได้ถนัด ตอนแรกแค่อยากแกล้งเล่นแต่พอได้เห็นน้ำตาที่กำลังเอ่อนองใจมันก็เริ่มเสีย
ก็ไม่นึกว่าคิมซอกจินจะกังวลถึงขนาดนี้
“ไม่เอาไม่ร้อง อาไม่ดุหนูหรอก”
“ไม่ร้องนะคนดี”
เอ่ยปลอบพลางยื่นมือไปซับน้ำตาที่กำลังรินไหล
ยิ่งไหล่บางสั่นสะอื้นมากเท่าไหร่คนแกล้งก็รู้สึกผิดมากเท่านั้น ดึงร่างผอมบางเข้ามากอดแนบอกแล้วลูบหลังปลอบเบาๆให้คนตัวเล็กหยุดร้องไห้
น้ำตาพวกนี้เขาไม่เคยรำคาญแต่ก็ไม่อยากเห็นมันเช่นกัน
คิมซอกจินน่ะมีแค่รอยยิ้มก็พอแล้ว
ร่างเบาหวิวถูกวางลงบนเตียงนุ่มตามด้วยร่างสูงที่ตามมาโอบกอด
ซอกจินหยุดร้องไห้ไปแล้วแต่แววตาคู่สวยก็ยังเจือความเศร้าอยู่ในนั้น
คงเพราะความกังวลที่ถมทับถึงทำให้เด็กน้อยซึมลงอย่างนี้
“อาไม่ให้หนูกินยาพวกนี้หรอกนะ”
“แต่ผมไม่อยากท้อง”
“ทำไมล่ะ ไม่อยากมีลูกเหรอ”
ลูก…
อาจองกุกพูดเรื่องลูกกับเขา
อยากมีลูกกับเขางั้นเหรอ?
“แต่ถ้าหนูยังไม่พร้อมอาจะป้องกันให้ แต่ห้ามกินยาพวกนี้เข้าใจไหม”
“ทำไมล่ะครับ”
“มันอันตราย”
“อาเป็นห่วงเข้าใจมั้ย”
ร่างเล็กพยักหน้าตอบก่อนจะฉีกยิ้มบางๆให้คนเป็นผู้ใหญ่
อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ตนเองจะตั้งท้อง
ไม่ใช่ว่าไม่อยากมีแต่ตอนนี้มันยังไม่พร้อมที่จะมีเสียเท่าไหร่
ตอนนี้เขาอายุ
18 เอง จะรีบมีลูกไปทำไมเล่า
“อ๊ะ”
กายบางถูกคร่อมทับโดยไม่ทันได้ตั้งตัวพร้อมกับแขนทั้งสองข้างที่ถูกตรึงด้วยมือหนา
เงยหน้ามองคนด้านบนก็พบว่ารอยยิ้มอบอุ่นเมื่อครู่นั้นหายไปกลายเป็นรอยยิ้มร้ายกับสายตาเจ้าเล่ฉายชัดขึ้นมาแทน
ลิ้นหนาลอบเลียริมฝีปากอย่างหื่นกระหาย
แก้มนุ่มถูกปลายจมูกโด่งรังแกจนบวมช้ำตามด้วยริมฝีปากที่ถูกบดขยี้จนเห่อบวม
ร่างเล็กไม่ได้ห้ามเพราะเข้าใจว่าคนเป็นผู้ใหญ่คงหมันเขี้ยวเลยจับฟัด
แต่ก็เริ่มไม่แน่ใจในความคิดตัวเองเมื่อมือหนานั้นเริ่มแตะไต่เข้ามาในเสื้อ
“อ๊ะ ฮื่ออ…อะ อาจองกุก”
ยอดอกสีหวานถูกเขี่ยเบาๆจนเด็กน้อยร้องครางออกมาเสียงกระเส่า
ความร้อนแล่นผ่าไปทั่วใบหน้า ถ้าให้เดาตอนนี้หน้าของเขามันต้องแดงมากแน่ๆ
แล้วยิ่งอาจองกุกจ้องเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้มแบบนี้อีก
ทำยังไงดีล่ะ ใจเต้นแรงไม่หยุดเลย
“เรียกอาทำไมคะ”
อาจองกุกเอาอีกแล้ว
ตอนอยู่บนเตียงชอบพูดคะขาตลอดเลย
“จะทำอะไรครับ”
“ลงโทษเด็กดื้อที่ออกไปข้างนอกโดยไม่บอก แถมยังโกหกเรื่องยาคุมอีก”
“ก็ผม..”
“ทีหลังมีอะไรก็ต้องบอกอาเข้าใจไหม อย่าเก็บเอาไว้คนเดียวแบบนี้นะคะ”
ใบหน้าหวานพยักเบาๆก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อคนด้านบนนั้นกำลังถอดเสื้อผ้า
จะห้ามก็คงไม่ทันเพราะในตอนนี้กระดุมบนเชิ้ตนั้นถูกปลดออกจนหมดเผยให้เห็นแผงอกและหน้าท้องที่ขึ้นลอนสวย
ยิ่งได้มองรอยยิ้มที่ส่งมาก็ยิ่งพาให้ใจสั่น
“ส่วนเรื่องลงโทษ ไม่ว่าหนูจะแก้ตัวยังไงอาก็จะลงโทษอยู่ดี”
อาจองกุกกำลังมองมาที่เขาพร้อมกับเลียปากตัวเองไปมา
ท่าทางแบบนี้คงไม่เรียกว่าลงโทษแล้วล่ะ
“และถ้ารอบหน้ายังทำอีก”
“ในท้องหนูมีลูกของอาอยู่แน่”
อ่า.. ตอนนี้แค่ขย้ำ แต่ถ้าทำผิดอีกก็จะเสกเด็กเข้าท้องเขาด้วยสินะ
อาจองกุกอะ
บ้า
“น้องซอกจินพูดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”
“จีจี้ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
เสียงหวานเอ่ยถามพลางกระแซะกายเข้าหาชายหนุ่มอย่างแนบชิด
ร่างเล็กก็ได้แต่เสมองไปทางอื่นเพราะไม่อยากเห็นภาพเหล่านั้น
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความรู้สึกเจ็บจี้ดที่อกข้างซ้ายมันคืออะไร
แต่พอได้เห็นอาจองกุกกับผู้หญิงคนนั้นใกล้ชิดกันเขาก็ยิ้มไม่ออกซักนิด
ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นจะกำลังฉีกยิ้มกว้างให้เขาอยู่ก็ตาม
“ซักพักแล้วครับ”
“พอดีซอกจินได้รับการรักษาเลยกลับมาพูดได้”
ร่างสูงตอบขณะกำลังพยายามดึงท่อนแขนของตัวเองออกมาจากการกอดรัด
หากเป็นเมื่อก่อนเขาก็ปล่อยให้กอดได้ไม่ได้ว่าอะไร แต่ในตอนนี้ที่สถานะเปลี่ยนไปเขาก็ไม่อยากให้ซอกจินมาเห็นภาพอะไรอย่างนี้
ไม่ได้โสดและตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อนที่ปล่อยตัวยังไงก็ได้
กลับกันแล้วในตอนนี้ก็ยังมีความรู้สึกของอีกคนให้ต้องแคร์
ก็เลยไม่อยากทำอะไรให้เด็กน้อยของตัวเองต้องรู้สึกแย่อีก
แค่เรื่องในอดีตก็มากพอแล้ว…
“หมอเก่งน่าดูเลยนะคะ”
“น้องซอกจินถึงได้พูดไวขนาดนี้”
“เปล่าหรอกครับ”
“หมอไม่เก่งหรอก…”
“ซอกจินของผมต่างหากล่ะที่เก่ง”
คำชมที่มาพร้อมกับแรงโอบกอดที่เอวบางทำให้ร่างเล็กสะดุ้งตกใจ
ไม่รู้ว่าอาจองกุกหลุดจากผู้หญิงคนนั้นแล้วเดินมากอดเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
รู้ตัวอีกที่ก็ตอนที่ปลายจมูกโด่งกำลังคลอเคลียกับแก้มใสไปมาอย่างหยอกล้อ
กายบางดิ้นเบาๆเพื่อขัดขืน
ถ้าอยู่กันสองต่อสองเขาจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าร่างสูงจะกอดจะหอม
แต่นี่อยู่ต่อหน้าคนอื่นจะมาทำบ้ากามแบบนี้ไม่ได้นะ!
อีกอย่าง
ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย เขาไม่อยากมีปัญหากับหล่อนอีก
“ดิ้นทำไมหืม”
“อากอดอาหอมเราออกบ่อย”
“ยังไม่ชินอีกหรือไง”
ฟอดดดดดดด
จมูกโด่งกดน้ำหนักลงบนแก้มนุ่มเบาๆแล้วคลอเคลียอยู่อย่างนั้น
อาจองกุกนี่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ อยากจะมาอ้อนอะไรกันตอนนี้ก็ไม่รู้
เขาก็อายเป็นนะ!
“มีคนมองอยู่นะครับ”
เสียงเล็กกระซิบบอกขณะกำลังพยายามแกะท่อนแขนให้หลุดออกจากเอว
กอดแน่นขนาดนี้จะรวมร่างกับเขาหรือไง
รู้ว่าอยากอ้อนแต่ก็น่าจะห้ามใจเอาไว้ทำตอนอยู่ด้วยกันสองคนสิ
แค่นี้เขาก็อายสายตาแม่บ้านกับคนสวนแย่แล้ว
ก็อาจองกุกเล่นฟัดเขาทุกที่ในบ้านเลยนี่
“อายทำไม”
“ก็อารักหนู”
จบประโยคปากเรียวก็กดจูบที่แก้มนุ่มหนักๆเหมือนหมันเขี้ยวหนักหนา
ก็แน่ล่ะ เมียตัวน้อยของเขาทั้งน่ารักน่ารังแกขนาดนี้ใครจะไม่หลงกัน
แล้วที่มาคลอเคลียคนตัวเล็กต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้ใช่ว่าเขาไม่ใส่ใจความรู้สึกหรอกนะ
แต่เพราะใส่ใจน่ะสิถึงได้ทำ
ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้น่ะคิดอะไร
จีจี้กับเขารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมหาลัยโดยที่ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นฝ่ายเข้าหาเขาตลอด
ไม่เคยเล่นด้วยแต่เธอก็ไม่เคยท้อที่จะตามตื้อเขาเช่นกัน
ส่วนเขาที่ไม่ได้คิดอะไรก็เลยคบเป็นเพื่อนเอาไว้
จนมาวันนี้ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองคิดผิดที่ไม่สลัดเธอออกไปตั้งแต่แรกตามคำแนะนำของโฮซอก
แต่ตอนนี้ที่เขาชัดเจนกับซอกจินขนาดนี้… เธอก็น่าจะหยุดแล้วล่ะ
“คุณซอกจินคะ”
“คุณหมอมาหาค่ะ”
“พี่หมอจีมินเหรอครับ”
เสียงหวานเอ่ยอย่างตื่นเต้นแล้วหันไปมองเจ้าของอ้อมกอดอย่างออดอ้อนเพื่อขอให้ปล่อย
ตั้งแต่กลับจากทะเลก็ยังไม่เจอหน้าพี่หมอเลย อยากอวดแย่แล้วว่าตัวเองพูดได้
ถ้าพี่หมอได้ยินเสียงของเขาต้องดีใจมากแน่ๆ
“อาจองกุกครับ”
“ผมขอไปหาพี่หมอหน่อยนะ”
เอ่ยอ้อนพลางช้อนสายตาขึ้นมองอย่างรอคอยคำตอบ
ร่างสูงถอนหายใจเบาๆก่อนจะยอมปล่อยแขนออกแล้วปล่อยให้คนตัวเล็กวิ่งออกไป
ไม่รู้ว่าจะดีใจอะไรนักหนาแค่หมอมาเยี่ยมไข้
อีกอย่างนึง
รักษาหายแล้วก็ควรจะจบได้แล้วสิ จะกลับมายุ่งกับเด็กของเขาอีกทำไมกัน
“ไหนลองเรียกชื่อพี่หน่อยสิครับ”
“พี่หมอจีมิน”
“ฮ่าๆ เสียงน่ารักจัง” เอ่ยชมคนไข้ตัวเล็กพลางยื่นมือมาลูบผมนุ่มเบาๆอย่างเอ็นดู
วันนั้นที่ได้รู้ว่าซอกจินถูกคนใจร้ายนั่นพาไปทะเลใจเขาก็ร้อนรนแทบบ้า
อยากจะตามไปแต่ก็ติดเคสคนไข้ แต่พอได้รู้ว่าร่างเล็กไม่ได้เป็นอะไรก็รู้สึกโล่งอก
วันนี้ที่ว่างก็เลยรีบมาหา อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าคนตัวเล็กปลอดภัยจริงหรือเปล่า
เพราะเขาไม่เคยไว้ใจคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอานั่นหรอก
ทำน้องตัวน้อยเขาบอบช้ำมาเท่าไหร่ทำไมจะไม่รู้
“เรียกพี่จีมินเฉยๆก็ได้นะ”
“ไม่ต้องมีคำว่าหมอหรอก”
“พี่จีมิน”
เสียงหวานพูดตามที่พี่ชายเอ่ยขอ
พี่จีมินดูจะดีใจที่เห็นเขาพูดได้แถมยังพูดเก่งขนาดนี้
และรางวัลของคนเก่งก็คือการดึงแก้มเบาๆอย่างเอ็นดู
แก้มบนหน้าเขาที่เป็นของอาจองกุก
คนแก่ขี้ตู่ที่ชอบบอกว่าตรงนู้นตรงนี้บนร่างกายเขาเป็นของตัวเอง
ฟังไปหน้าเขาก็แดงไป
ไม่อยากฟังแต่คนแก่ก็พูดกรอกใส่หูทุกวันจนเขาจำได้ขึ้นใจ
‘แก้มนุ่มๆนี่เป็นของอาจองกุก’
‘ตาสวยๆก็เป็นของอาจองกุก’
‘ปากหวานๆ’
‘ผิวหอมๆนี่ก็ด้วย’
‘หนูจินเป็นของอาจองกุกไปหมดทั้งตัวเลย’
“พี่อยากรู้จังว่าเราพูดได้ยังไง”
“ฝึกเองเหรอ”
คำถามจากพี่หมอทำให้ร่างเล็กนิ่งงันไปพักใหญ่
พอนึกสาเหตุที่พูดได้หน้ามันก็ร้อนผ่าวไปหมด จะเรียกว่าฝึกเองก็คงไม่ใช่
แต่จะให้ตอบความจริงออกไปทั้งหมดเขาก็ทำไม่ได้
วิธีฝึกพูดของอาจองกุกเหมือนชาวบ้านที่ไหนล่ะ
เขาอายนี่
พอพูดไม่ชัดก็โดนจูบโดนหอม
พูดช้าแก้มก็ช้ำไปข้าง กว่าจะพูดได้คล่องและชัดถ้อยชัดคำขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องเปลืองตัวไปเท่าไหร่
บางครั้งพูดชัดดีแล้วยังโดนรังแกเลย… อาจองกุกขี้โกงขนาดไหนคิดดูสิ
“ครับ”
“จินฝึกเอง”
ตอบออกไปพลางไขว้นิ้วไว้ข้างหลัง
พี่หมอก็ดูจะปลื้มใจที่เห็นเขาฝึกพูดจนสามารถพูดเป็นประโยคได้
โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าเบื้องหลังการฝึกของเขานั้นต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวไปเท่าไหร่
“เก่งมากเด็กดี”
มือหนาลูบเบาๆที่ผมนุ่มพลางส่งยิ้มใจดีมาให้
ร่างเล็กก็ยิ้มตอบออกไปพร้อมทั้งชวนคุยต่อโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าบทสนทนาของตัวเองจะมีคนแก่ขี้น้อยใจแอบฟังอยู่ตรงมุมไหนของบ้าน
ย้ำอยู่ตั้งหลายครั้งว่าแก้มนุ่มๆนั่นเป็นของใครก็ยังยอมให้คนอื่นมาจับมาบีบ
ผมหอมๆๆนั่นอีก บอกแล้วไงว่ามีแค่เขาคนเดียวที่ลูบได้ แล้วก็ไม่รู้ว่าเด็กน้อยของเขาจะพูดไปยิ้มไปอะไรนักหนา
คราวหลังต้องบอกแล้วล่ะว่ารอยยิ้มนี่เป็นของอาจองกุก
จะได้ไม่กล้าไปส่งยิ้มหวานๆให้คนอื่นอีก
“พี่อิ่มครับ… จะออกไปตลาดใช่ไหม” เสียงใสเอ่ยเรียกแม่บ้านคนสนิทที่ถือตะกร้าและกระเป๋าเงินเหมือนเตรียมตัวจะไปตลาด
ตอนนี้อาจองกุกยุ่งอยู่ในห้องทำงาน นี่คงเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดที่เขาจะทำอะไรบางอย่างที่ร่างสูงห้ามเอาไว้
“ใช่ค่ะ คุณซอกจินมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ยื่นมือมาหน่อยสิครับ”
ร่างเล็กหันมองซ้ายขวา
ก่อนจะยัดเงินจำนวนหนึ่งลงบนมือของแม่บ้าน
“พี่อิ่มซื้อยาคุมมาให้จินหน่อยนะครับ เอายี่ห้อเดิมแบบที่เคยฝากซื้อ”
“อีกแล้วเหรอคะ”
“นะครับ”
เอ่ยขออย่างออดอ้อนพลางส่งสายตาให้แม่บ้านเห็นใจ
เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากเราสองคน
พี่อิ่มเป็นพี่คนนึงที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กเธอจึงเป็นคนที่น่าไว้ใจมากที่สุด
เพราะพี่อิ่มรักเขา คงไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกอาจองกุกหรอก
“ได้ค่ะ”
“พี่อิ่มอย่าให้ใครรู้เด็ดขาดนะครับ”
“โดยเฉพาะอาจองกุก”
“ค่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
เสร็จธุระคนตัวเล็กก็หันมองซ้ายขวาก่อนจะหยิบจานขนมแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน
บอกอาจองกุกเอาไว้ว่าจะลงมาเอาคุกกี้ให้
เห็นบ่นว่าอยากของหวานแล้วมองมาทางเขาก็น่าจะอยากกินขนมนี่แหละ
แล้วก็โชคดีสุดๆที่มาเจอพี่อิ่มกำลังจะออกไปตลาดพอดี
ทีนี้ก็ไม่ต้องแอบออกไปซื้อเองแล้ว
"ซอกจินให้เธอซื้ออะไร"
หญิงสาวสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ดีๆเจ้านายก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า
เมื่อกี้เพิ่งคุยกับคุณซอกจินเรื่องฝากซื้อของไปแหมบๆก็ได้แต่หวังว่าคุณจองกุกของเธอจะไม่ได้ยิน
เรื่องนี้น่ะเป็นความลับที่เรียกได้ว่าลับสุดยอด
ให้ใครรู้ไม่ได้หรอก…
“ฉันถามก็ตอบสิ”
"ยะ…ยาคุมค่ะ"
…แต่ก็เผลอบอกไปจนได้
ปากเรียวหลุดขำหลังจากได้ยินคำตอบจากสาวใช้
นึกเอาไว้ไม่มีผิดว่าคิมซอกจินต้องดื้อแล้วแอบกินมันจนได้ ถึงว่าสิ
มีอะไรกันแต่ละครั้งเด็กน้อยไม่เคยบ่นเรื่องท้องเลยซักนิด บางครั้งที่เขาสดเจ้าตัวยังไม่กลัวเลย
เพราะแอบกินยาคุมอยู่นี่เอง
"เอาเงินนี่ไป...แล้วซื้อยาบำรุงครรภ์มา"
แบงค์สีเทาถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นใส่มือสาวใช้
ถ้าซอกจินดื้อไม่ยอมทำตามคำสั่งก็ถึงคราวที่เขาต้องลงโทษเช่นกัน ตกลงอะไรกันเอาไว้แต่ก็มาแอบฝ่าฝืนกัน
ดื้อแบบนี้ก็เหมาะสมกับบทลงโทษของเขาแล้วล่ะ
เดี๋ยวจะเสกเด็กเข้าท้องให้ได้เลยคอยดูสิ
“ทำตามที่ฉันสั่งแล้วเก็บเรื่องนี้เป็นความลับด้วยล่ะ”
“เข้าใจไหม”
“อุก!!”
มือบางอุดปากตัวเองเอาไว้เมื่อรู้สึกถึงของเหลวที่กำลังพุ่งขึ้นมาจากคอ
พักนี้เข้าครัวทีไรก็คลื่นไส้ตลอด
จะเครียดลงกระเพาะก็ไม่น่าใช่เพราะช่วงนี้เขามีความสุขดี
เรื่องท้องยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ใหญ่เพราะยาคุมที่ฝากพี่อิ่มซื้อก็กินมันอยู่ตลอดจนครบโดส
หรือเขาป่วยกันนะ?
“มะม่วงเปรี้ยวมาแล้วค่ะ”
“ขอบคุณนะครับ” เอ่ยขอบคุณพลางยื่นมือไปหยิบมะม่วงเปรี้ยวจานใหญ่ที่แม่บ้านปอกให้
กลืนน้ำลายอึกใหญ่ขณะมองชิ้นมะม่วงในจานที่ถูกหั่นมาอย่างดีพร้อมน้ำจิ้มรสเด็กที่ใส่ถ้วยวางอยู่ข้างๆ
มือเล็กหยิบมะม่วงเข้าปากแล้วเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจน้ำจิ้มที่แม่บ้านทำมาให้
สายตาหลายคู่ของแม่บ้านก็ต่างมองการกินของเขาอย่างแปลกใจ
แต่คนตัวเล็กก็หาได้สนใจไม่เพราะกำลังเอร็ดอร่อยอยู่กับมะม่วงเนื้อกรอบที่อยู่ในจาน
พักนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่กินมะม่วงแล้วมีความสุขกว่ากินข้าวอีก
“เบื่ออาหารแถมยังอยากของเปรี้ยวแบบนี้ อาการเหมือนคนท้องเลยนะคะ”
“ผมแอบกินยาคุมที่พี่อิ่มไปซื้อให้ จะท้องได้ยังไงล่ะครับ”
เสียงหวานว่าขำๆขณะกำลังหวีขนให้คุณนุ่มอยู่บนโซฟา
ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ตรงนี้นอกจากพี่อิ่มเราจึงคุยเรื่องนี้กันได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาได้ยิน
พี่อิ่มนี่ก็วังวลไปเรื่อย
ทั้งที่ตัวเองเป็นคนซื้อยาคุมให้เขาเองแท้ๆก็ต้องรู้สิว่าเขาน่ะท้องไม่ได้
ถึงจะคนละยี่ห้อกับที่สั่งไปก็เถอะ
แต่กินไปแล้วมันก็คงไม่ท้องหรอก
นอกจากว่า…
“พี่อิ่มคงไม่ซื้อยาผิดหรอกใช่ไหมครับ”
ปากเรียวคลี่ยิ้มขณะแอบฟังคนตัวเล็กพูดคุยกับแม่บ้านเสียงแจ้ว
ไม่ผิดหรอกที่คนชื่ออิ่มจะถามซอกจินไปอย่างนั้น
ส่วนเรื่องยาอะไรนั่นเขาน่ะให้คำตอบซอกจินได้ดีกว่าแม่บ้านชื่ออิ่มเสียอีก
ถามว่าซื้อยามาผิดไหม?
ไม่ผิด
ไม่ผิดหรอก
เพราะเขาสั่งให้แม่บ้านซื้อยาบำรุงครรภ์มาเอง
…ทีนี้ก็เตรียมตัวเป็นหม่าม้าได้เลยเด็กน้อย
::: You're my sunshine :::
“อาจองกุกยังไม่ตื่นอีกเหรอครับ”
เสียงหวานเอ่ยถามแม่บ้านที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ
นี่ก็ได้เวลาอาหารเช้าแล้วแต่อีกคนก็ยังไม่ลงมา
ปกติอาจองกุกจะไปนอนกับเขาที่เรือนหลังเล็ก
หรือบางวันที่ใครอีกคนมีงานต้องเคลียร์เขาก็ต้องมานอนด้วยเพื่อให้อีกคนกอดระหว่างเซ็นเอกสาร
แต่เหมือนเมื่อคืนอาจองกุกจะยุ่งๆอยู่กับงานเขาก็เลยไม่ได้เข้าไปดู
สุมตัวอยู่ในห้องทำงานแถมยังล็อคห้องอย่างนั้นก็อาจจะไม่อยากให้ใครมากวน
ซอกจินคิดแบบนั้น
เมื่อคืนเขาก็เลยหลับไปโดยไม่มีอาจองกุกคอยกอด
แต่เขาก็หลับได้เพราะมีคุณนุ่ม
แมวสีขาวขนฟูที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาตั้งแต่เล็กๆ
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เห็นล็อคห้องนอนเอาไว้ก็เลยไม่กล้าเข้าไปตาม”
“ล็อคห้องนอนเหรอครับ”
“ค่ะ”
คิ้วเรียวขมวดเป็นปมอย่างแปลกใจ
อาจองกุกไม่เคยล็อคห้องนอนเว้นเสียแต่ตอนที่อีกคนจะนอนกับเขา
หรือว่าทำงานหนักจนเบลอถึงได้ล็อคห้องเอาไว้ พอถึงเวลาทานข้าวแม่บ้านถึงเข้าไปตามไม่ได้
ไม่รู้ว่าเบลอหรือป่วย… แต่อย่างน้อยเขาก็ควรขึ้นไปดู
“ขอกุญแจสำรองให้จินหน่อยนะครับ”
หลังจากรับกุญแจสำรองจากแม่บ้านร่างเล็กก็เดินขึ้นไปชั้นบนทันที
พักหลังมานี้เขาเวียนหัวและหน้ามืดบ่อยอาจองกุกจึงไม่ค่อยชอบให้เขาขึ้นบันไดนัก
จนบางครั้งอีกคนถึงกับต้องแบกเอกสารไปนั่งทำที่เรือนหลังเล็กเพื่อที่จะได้อยู่กับเขา
เมื่อวานก็เห็นบอกว่าจะพาเขาไปหมอ
แต่ไม่รู้ว่าทำไมระหว่างที่พูดอีกคนถึงได้ยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างนั้น
หรือว่าชอบใจที่เขาป่วยจะได้รังแกง่ายๆก็ไม่รู้
ปากอิ่มยิ้มขำไปกับความคิดตลกๆของตัวเอง
ตั้งแต่สลัดคราบคนใจร้ายออกไปอีกคนก็มีภาพใหม่เป็นคนแก่ขี้ลวนลาม
ทั้งที่อายุมากแล้วแต่ก็ยังชอบมาอ้อนเขาเป็นเด็กๆ ลึกๆก็ยังนึกแปลกใจและแอบกลัวว่าอีกคนจะกลับมาใจร้ายแต่การที่อาจองกุกใจดีกับเขาแบบนี้มันก็ดี
เพราะเขาชอบอาจองกุกโหมดนี้มากกว่าโหมดปีศาจนั่นอีก
ไขกุญแจเสร็จก็เปิดประตูเข้าไปเพื่อปลุกคนแก่ขี้เซาที่นอนตื่นสาย
ทว่าภาพตรงหน้าก็ทำให้เรียวขาที่กำลังขยับต้องชะงักกึก
เคร้ง!
พวงกุญแจหลุดจากมือแล้วร่วงหล่นลงบนพื้นจนเกิดเสียง
เหมือนกับที่เรี่ยวแรงที่มีมันวูบหายไปชั่วขณะ ภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือนเรื่อยๆเพราะม่านน้ำตาที่กำลังรินไหน
หัวเล็กส่ายไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็นอยู่ในตอนนี้
แรงสะอื้นเริ่มหนักขึ้นเมื่อคนบนเตียงเริ่มขยับตัว
อาจเพราะเสียงของลูกกุญแจที่กระทบพื้นเมื่อครู่มันไปรบกวนการนอนหลับของอีกคนเข้า
ยิ่งได้เห็นแผ่นอกเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยลิปสติกซอกจินก็พอจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“ฮึกก..”
ภาพที่พร่าเลือนอยู่ตอนนี้เป็นภาพของคนบนเตียงที่กำลังเดินเข้ามาหา
ทว่าขาเล็กกลับถอยหลังหนีช้าๆ
ร่างเล็กส่ายศรีษะไปมาอย่างไม่ต้องการและปฏิเสธคนตรงหน้า
อาจองกุกกับผู้หญิงคนนั้นนอนด้วยกัน…
เมื่อคืนที่อีกคนไม่ไปนอนกับเขาเพราะอยู่กับหล่อน
ที่ล็อคห้องทำงาน
ขังตัวเองอยู่ในห้องนอนแบบนี้เพราะกำลังพลอดรักกับหล่อน
“ฮึก.. อย่าเข้ามา”
เอ่ยห้ามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
มือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นปาดน้ำตาเพื่อที่จะสามารถมองเห็นภาพตรงหน้าได้ถนัด เขาเห็นปากของอาจองกุกกำลังขยับ
เขาเห็นว่าอาจองกุกกำลังอธิบาย แต่เขาไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
ไม่อยากได้ยิน
ไม่อยากรับรู้ ไม่ต้องการอะไรจากผู้ชายคนนี้ทั้งนั้น
ที่บอกว่ารัก
การกระทำต่างๆมันก็คงเป็นเพียงเรื่องขำๆ
อาจองกุกเห็นเขาเป็นตัวตลกและตัวปัญหามาตั้งแต่ไหนแต่ไร
จู่ๆจะมาอยากรักคนไร้ค่าอย่างเขาทำไมล่ะจริงไหม
ที่ผ่านมา
เรื่องราวต่างๆที่ทะเลและที่บ้านมันก็คงเป็นเพียงการเล่นสนุกของผู้ชายคนนี้
คนที่ไม่เคยเห็นค่าเขาเลยสักครั้ง เอาแต่ดุด่า เอาแต่ตะโกนว่า
ใส่อารมณ์โมโหมากับเขาด้วยความสะใจ และสุดท้ายก็ปล่อยให้เขาร้องไห้คนเดียวอยู่ที่เรือนหลังเล็ก
จะมีก็แต่คุณนุ่มเท่านั้นที่รักเขาจริงๆ
นึกโกรธตัวเองลึกๆที่พอถูกทำดีเข้าหน่อยก็ยอมไปเสียหมดจนถูกหลอกอย่างนี้
ไม่ได้ฉุกใจคิดสักนิดว่าในอดีตผู้ชายคนนี้เคยใจร้ายกับเขาเอาไว้ยังไงบ้าง
…เพราะคำว่ารักคำเดียวที่ทำให้เขาลืมทุกสิ่ง
แค่คำว่ารักคำเดียวที่ทำให้คนโง่อย่างเขายอมทิ้งอดีดแสนเศร้าพวกนั้นและให้โอกาสคนใจร้ายที่ทำร้ายจิตใจมานับไม่ถ้วน
ถ้าในตอนนั้นเขาฉุกใจคิดสักหน่อย
ถ้าในตอนนั้นระวังตัวอีกนิดก็คงไม่ต้องถูกหลอกอย่างนี้
คงไม่ถลำลึกและรักอีกคนมากขนาดนี้
รัก… จนถูกหลอกให้เชื่อใจและสุดท้ายก็เชือดทิ้งอย่างไม่ปราณี
และที่เห็นอยู่ตอนนี้มันก็คงเป็นแผนหนึ่งของผู้ชายคนนี้
แผนที่จะได้เล่นสนุกกับความรู้สึกของเขา ไม่น่าเชื่อว่าอีกคนจะแสดงละครได้แนบเนียน
ยอมเลย เขาแพ้แล้ว
ยอมแพ้… แล้วก็จะไม่อยู่เป็นหมากให้อีกคนได้เล่นสนุกอีกแล้ว
เพียะ!
ใบหน้าคมหันไปตามแรงตบทันทีที่มือบางฟาดมากระทบใบหน้า
ความรู้สึกเจ็บแสบที่ผิวหน้ายังไม่เท่าความปวดหน่วงในหัวใจที่ได้เห็นคนตัวเล็กร้องไห้
เขาไม่รู้สึกโกรธสักนิดกับการที่ใครอีกคนฟาดมือลงบนหน้า
ตรงกันข้ามจองกุกอยากให้ฟาดลงมามากกว่านี้ ฟาดให้แรงกว่านี้
ลงโทษให้สาสมจนกว่าซอกจินจะหายเจ็บ
แต่หากทำมากไปคนตัวเล็กก็คงเจ็บมือ
พยายามจะก้าวเข้าไปหาเพื่ออธิบายแต่คนเสียใจก็ถอยหลังหนีอยู่ตลอด
เขาไม่รู้ว่าเรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง
แต่เรื่องทุกอย่างจองกุกรู้ดีว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ
“ฟังอาก่อนนะคนดี..”
เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
ร่างเล็กส่ายหัวปฏิเสธ
น้ำตาที่ไหลท่วมอย่างเจ็บปวดทำให้เขาอยากจะเข้าไปซับและกอดปลอบแต่ก็ทำไม่ได้เมื่ออีกคนนั้นถอยหนีอยู่ตลอดทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้
“เล่นสนุกกับความรู้สึกของผมพอหรือยัง!”
“ถ้าสะใจแล้วก็ปล่อยผมไปได้ไหม”
คำขอที่มาพร้อมกับสายตาเจ็บปวดทำให้คนมองแทบใจสลาย
ซอกจินกำลังเข้าใจผิดและเขาปล่อยให้อีกคนหายไปไหนไม่ได้
จะเจ็บปวดแค่ไหนก็ต้องอยู่ที่นี่ อยู่ให้เขาได้อธิบาย อยู่เพื่อให้เราได้รักกัน
เพราะจองกุกเชื่อว่าลึกๆแล้วซอกจินก็ยังรัก
หากบอกให้รู้ อธิบายให้เข้าใจ เด็กน้อยของเขาก็ต้องเข้าใจและไม่โกรธ
…จองกุกเชื่ออย่างนั้น
“จินไม่รักอาเหรอ”
“ทำไมผมต้องรักคุณ”
“ในเมื่อคุณไม่เคยรักผมสักนิด”
คำพูดที่ดูเหมือนการปฏิเสธกลายๆทำให้ก้อนเนื้อในอกนั้นบีบตัวกันจนเจ็บ
จะโกรธจะเกลียดกันแค่ไหนจองกุกก็ทนได้แต่ถ้าหากจะเลิกรักเขาไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้น
ซอกจินรักเขาคนเดียว… รักจอนจองกุกได้แค่คนเดียวเท่านั้น
“ไม่จริงหรอก เรารักอา จินรักอาใช่ไหม”
“ไม่.. ผมไม่รักคุณแล้ว”
ตาคมมองเรือนหลังเล็กที่มีใครอีกคนอาศัยอยู่ด้วยความเป็นห่วง
อยากเข้าไปหาแต่ซอกจินก็ล็อคทั้งหน้าต่างทั้งประตูเอาไว้อย่างมิดชิด
ม่านก็ปิดสนิททุกบานเลยทำให้ไม่สามารถรับรู้ความเคลื่อนไหวใดๆได้
เว้นเสียแต่จะถามเอาจากแม่บ้านคนสนิทที่ร่างเล็กยอมให้เข้าหาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ซอกจินยอมกินข้าวไหม”
แม่บ้านพยักหน้าตอบ
จองกุกยิ้มบางๆเมื่อร่างเล็กยอมทานอะไรเข้าไปบ้าง
เพราะตั้งแต่เช้าตั้งแต่วิ่งมาหลบเขาอยู่ที่นี่อีกคนก็ไม่ยอมทานอะไร
แล้วยิ่งคนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังท้องแบบนั้นก็คงจะไม่ห่วงตัวเองเท่าไหร่
ก็จะมีแต่เขาที่ห่วง… ห่วงทั้งแม่ทั้งลูก
“แล้วยาล่ะ.. ซอกจินกินไหม”
“ค่ะ รอบนี้คุณซอกจินยอมทานหมดทุกอย่าง”
“งั้นเหรอ แล้วซอกจินยอมให้ฉันเข้าไปหาไหม”
“ยังหรอกค่ะ คุณซอกจินบอกว่าอยากอยู่คนเดียว”
“งั้นเหรอ อืม… งั้นจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ
ฉันจะเฝ้าต่อเอง”
โค้งหัวให้เจ้านายเสร็จสรรพก็จัดการถือถาดอาหารกลับไปยังส่วนครัวของบ้านใหญ่เพื่อจัดการล้างให้เรียบร้อย
ต้องรีบทำอะไรให้เสร็จเพราะหลังจากนี้เธอต้องรีบไปทำอย่างอื่นต่อ
ทำบางอย่างที่คุณหนูของเธอขอเอาไว้
“จินจะยอมกินข้าวกินยาถ้าพี่อิ่มยอมช่วยจิน”
“ช่วยอะไรหรือคะ”
“โทรหาคนที่ชื่อคิมนัมจุนให้จินหน่อยได้ไหมครับ”
“บอกเค้าว่าที่เคยคุยกันไว้”
“…จินตกลง”
ความคิดเห็น