ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {BTS} OS/SF KookJin. In a relationship.

    ลำดับตอนที่ #26 : SF : You Are My Sunshine. KookJin. EP 03 150 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.42K
      82
      3 ก.พ. 61








    ซอกจินลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงดึก ร่างเล็กสะลืมสะลือขยับกายลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบห้อง แสงไฟจากระเบียงด้านนอกที่ส่องเข้ามาทำให้มองเห็นได้บ้างแบบสลัวๆ เลื่อนสายตาลงไปมองยังเอวตัวเองที่มีท่อนแขนของใครอีกคนพาดอยู่พลันปากอิ่มก็คลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ



    อาจองกุกนี่ติดหมอนข้างเนอะ..



    ละสายตาจากร่างที่นอนหลับแล้วหันไปตามเสียงธรรมชาติที่ดังอยู่ด้านนอก เสียงคลื่นซัดหาดทรายดังกึกก้องไปทั่วบริเวณเรียกความสนใจจากคนตัวเล็กได้ไม่น้อย จัดการนำแขนหนักๆของอีกคนวางให้พ้นตัวแล้วลุกขึ้นจากเตียงเดินมาเกาะอยู่ที่กระจกบานใหญ่อย่างสนอกสนใจ แสงจันทร์ยามค่ำคืนส่องกระทบผืนน้ำเกิดเป็นประกายริยิบระยับ ปากอิ่มระบายยิ้มชอบใจกับภาพตรงหน้าเพราะมันทั้งสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ




    ปกติเคยเห็นแค่ในทีวี พอได้มาเห็นของจริงแล้วมันสวยกว่าในทีวีอีกเนอะ แถมบรรยากาศก็ดีด้วย




    ซอกจินน่ะชอบทะเลที่สุด




    โดยเฉพาะทะเลที่มีอาจองกุกอยู่ด้วย





    ฮื่ออ.. ซอกจิน


    เสียงทุ้มต่ำคล้ายคนละเมอดังขึ้นมาจากด้านหลัง พอหันไปดูก็พบว่าคนบนเตียงกำลังใช้มือตบปุๆไปทั่วเหมือนกำลังควานหาหมอนข้างมากอด ยิ่งหาไม่เจอคนละเมอก็ยิ่งตีสีหน้ายุ่งกว่าเดิม ทั้งยังเรียกหาหมอนข้างที่หายไปอยู่อย่างนั้น คล้ายกับว่าหากขาดไปคงนอนไม่หลับ




    ซอกจิน…”




    ปากอิ่มอมยิ้มขำกับท่าทางหลุดๆของคนบนเตียง ยิ่งหาไม่เจอก็ยิ่งควานหาหนักเข้าจนผ้าห่มผืนหนานั่นร่วงไปอยู่บนพื้น ลำบากคนตัวเล็กต้องเข้าไปหยิบมาคลุมตัวให้ใหม่ กายบางทิ้งตัวลงข้างเตียง วางมือไว้ที่มือแกร่งแผ่วเบา และเหมือนคนละเมอจะหาหมอนข้างเจอจึงเคลื่อนตัวมานอนหนุนตักแล้วใช้แขนกอดรอบเอวบางเอาไว้


    มือบางลากสัมผัสไปตามโครงหน้าคมแผ่วเบา ตั้งแต่หน้าผากมน คิ้วหนาเข้ม เปลือกตาสีหม่นที่ซ่อนดวงตาแสนอันตรายเอาไว้ เรียวจมูกโด่งเป็นสัน จนถึงรีมฝีปากเรียวสวยที่เจ้าตัวชอบใช้ดุใช้ว่ายามเขาทำผิด



    บ้างก็ใจร้าย




    บ้างก็ใจดี




    แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รัก



    รักผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่มีสายตาดุดันแสนน่ากลัว ผู้ชายที่มีน้ำเสียงแข็งกร้าว ผู้ชายใจร้ายที่ชอบดุว่าให้ตัวเองเสียใจ ผู้ชายใจร้ายที่ไม่เคยรักเขาซักนิด



    อาจองกุกเกลียดเขา..



    นั่นคือความจริงที่ร่างสูงมักเน้นย้ำมันอยู่เสมอ อาจองกุกบอกว่าเพราะสงสารเลยเลี้ยงเอาไว้ เพราะหากปล่อยให้ตายคงใจร้ายเกินไป เพราะฉะนั้นซอกจินจึงเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูที่ทำไปเพราะความจำเป็น ไม่ได้ทำเพราะความรัก ซึ่งแม้แต่ความสงสารเห็นใจก็ไม่เคยได้รับ


    น่าแปลกที่ตัวเขาเองไม่เคยนึกโกรธร่างสูงเลยซักครั้ง มีเพียงความน้อยอกน้อยใจเท่านั้นที่มักประดังมาเวลาถูกทำร้าย และถึงแม้หัวใจจะบอบช้ำแค่ไหนมันก็ยังคงอดทนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้


    รู้ไหมหัวใจของเขาแข็งแรงมากนะ เจ็บหนักขนาดไหนก็ไม่เคยแตกสลายซักครั้ง ยังคงทำตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อที่จะได้เก็บกักความรู้สึกน้อยๆของตัวเองเอาไว้



    ซึ่งนั่นก็คือความรู้สึกรักเป็นความรู้สึกที่ต้องเก็บให้ลึกจนสุดขั้วหัวใจ



    ทุกคนเอาแต่บอกว่าซักวันนึงเขาต้องไปจากอาจองกุก ซักวันนึงถ้าอาจองกุกยังทำนิสัยแย่ๆอยู่แบบนี้ก็อาจต้องเสียเขาไป ซอกจินไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมคนอื่นต้องพูดแบบนั้น แต่ความคิดที่อยากจะไปจากผู้ชายคนนี้ไม่เคยอยู่ในหัวเขาซักนิด



    เขาจะอยู่ตราบที่อาจองกุกอยากให้อยู่



    และจะไป



    เมื่อมันต้องไป



    มือบางลูบผมนุ่มเบาๆพลางระบายยิ้มสุขใจ เหมือนฝันเลยแฮะที่ได้มาอยู่แบบนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนอาจองกุกไม่แม้แต่จะให้เขาแตะต้องตัว แต่ในตอนนี้ร่างสูงกลับมานอนหนุนตักแล้วโอบเอวเขาเอาไว้ ไม่ใช่จะบ่อยหรอกนะที่เขาได้อยู่ใกล้อาจองกุกขนาดนี้ ได้มองเห็นทุกส่วนสัดของใบหน้าที่ตนเองหลงรัก ได้สัมผัสองค์ประกอบแสนงดงามที่บางครั้งก็นึกอิจฉา




    อะ….อา….จอง..กุก” 




    เสียงเบาหวิวคล้ายใบไม้ต้องลมดังขึ้นมาท่ามกลางความมืด มันทั้งแผ่วเบาและพร่าเลือนจนแทบกลืนไปกับเสียงแอร์ในห้อง มือเล็กยกขึ้นมาลูบปากตัวเองอย่างอึ้งๆกับเสียงที่หลุดออกไปเมื่อครู่ เป็นครั้งแรกที่เขานึกอยากจะพูดมันก็เปล่งเสียงออกมาได้ เพราะปกติกว่จะเปล่งเสียงได้แต่ละคำพี่หมอจีมินก็ต้องบิ้วแทบแย่



    แต่ตอนนี้ก็พูดบางคำออกมาเองได้โดยไม่ต้องให้พี่หมอช่วยแล้ว คงเป็นเพราะเขาตั้งใจรับการรักษาจากพี่หมอล่ะมั้ง ทั้งการฝึกพูด การสะกดจิต รวมถึงการรักษาทางจิตเวช ตั้งแต่มีพี่หมอจีมินซอกจินรู้สึกได้ว่าตัวเองฝันร้ายน้อยลง มีความสุขมากขึ้น และที่น่าดีใจสุดๆคือเขากำลังจะกลับมาพูดได้




    น่าดีใจจังเลยเนอะ




    ซอกจิน


    กายบางสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ดีๆคนหลับก็ลืมตาขึ้นมาแล้วเอ่ยเรียก ตากลมหลบสายตาเลิ่กลั่กพลางเม้มปากแน่นเพราะกลัวถูกดุ อาจองกุกเอาแต่นอนจ้องเขาอยู่อย่างนั้นโดยไม่ปริปากพูดอะไรออกมาซักนิด แล้วยิ่งสายตาคมๆที่คาดเดาอะไรนั่นไม่ได้อีก



    เกร็งชะมัด




    ตื่นมาทำอะไร


    นอนไม่หลับเหรอ


    ส่ายหน้าเบาๆเป็นเชิงปฏิเสธ นึกโล่งใจที่คนบนตักไม่ได้ดุหรือว่าอย่างที่เคยคิด แต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อคนแก่กว่านั้นผละตัวออกจากตักแล้วดึงให้เขาลงไปนอนบนเตียง



    นอนกันเถอะ



    ดึกแล้ว




    และทันทีที่แผ่นหลังบางสัมผัสกับเตียงนุ่ม ร่างของคนด้านข้างก็ล้มตัวลงนอนตามแล้วเอื้อมแขนมาเกี่ยวเอวเขาเอาไว้ อีกครั้งที่ร่างนุ่มนิ่มถูกดึงเข้าไปกอด สองร่างนอนหันหน้าเข้าหากันและในระยะประชิดเช่นนี้เด็กน้อยอย่างซอกจินจึงหายใจลำบาก



    ก็อาจองกุกไม่ยอมหลับตาซักที ได้เขาเป็นหมอนข้างแล้วก็นอนซักทีสิ



    เอาแต่จ้องกันอยู่ได้



    ใจดวงน้อยเต้นแรงจนน่ากลัวว่าคนตรงหน้าจะได้ยิน ซอกจินกลัวความรู้สึกตัวเองเหลือเกิน เขาไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดที่จะไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่เพราะรู้และเข้าใจในความเป็นไปต่างหากถึงได้กลัว



    กับผู้ชายใจร้ายคนนี้



    ที่บางครั้งก็ใจร้ายจนตัวเองก็นึกโกรธจนอยากเกลียด แต่ก็ไม่เคยทำได้



    กลัวจะรักแต่มันก็เผลอรักไปเสียแล้ว



    ทั้งที่รู้สถานะตัวเองดี รู้ทั้งรู้ว่ามันคงไม่มีวันนั้น ไม่มีวันที่อาจองกุกจะคิดแบบเดียวกับเขา ไม่มีวันที่ผู้ชายคนนี้จะสนใจเด็กที่ตัวเองเก้บมาเลี้ยง แค่ให้เลิกเกลียดกันคงเป็นไปได้ยากเลยมั้ง


    และในความจริง พอถึงวันนึงอาจองกุกก็ต้องมีคนของตัวเอง นึกแล้วก็น่าอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังนะ หรือจะเป็นเด็กหนุ่มน่ารักคนไหนซักคนก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่เอาเป็นว่าหากวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ ซอกจินก็ต้องเตรียมใจและยอมรับ



    และไม่แน่นั่นอาจเป็นเวลาที่เขาควรออกไปจากชีวิตผู้ชายคนนี้




    ซักวัน ไม่เร็วไม่ช้า แน่นอนว่ามันต้องมาถึง




    นอนตาแป๋วอยู่อีก



    หลับได้แล้ว


    เสียงทุ้มพูดออกมาทั้งที่ยังจ้องหน้าเขาอยู่อย่างนั้น ตากลมมองใบหน้าคมคายอย่างอึ้งๆเพราะรู้สึกเหมือนระยะห่างเริ่มลดลงเรื่อยๆ ซอกจินมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ขยับตัวเพราะฉะนั้นคนที่เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้คงมีแค่อาจองกุก


    สัมผัสอุ่นนุ่มที่ทาบทับลงมาบนริมฝีปากทำให้ร่างบางนิ่งงัน สติที่มีอยู่เริ่มเลือนรางไปทีละน้อย รับรู้เพียงแค่แรงดูดดึงเบาๆที่ริมฝีปากเท่านั้น และมันเริ่มรุกล้ำขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจ้าของริมฝีปากเรียวนั้นสอดลิ้นเข้ามาด้านใน ตากลมค่อยเคลื่อนปิดลงพร้อมรับรสจูบนั้นโดยไร้การขัดขืน ยื่นมือไปกำชายเสื้ออีกคนเอาไว้แน่นเพื่อกลัดกลั้นเสียงบางอย่างที่อาจดังออกมาจากลำคอ


    จูบนุ่มละมุนเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ชักพา กายหนาเคลื่อนคล่อมทับร่างเล็กเอาไว้แล้วประครองโครงหน้ามนปรับเอียงองศาให้พอดีเพื่อที่จะสามารถรับรสจูบได้ถนัด รสชาติหวานละมุนของเด็กน้อยทำให้ลิมิตในการหักห้ามใจนั้นลดลง จากที่อยากลิ้มลองความหวานจากริมฝีปากเฉยๆแต่ในตอนนี้มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น



    เขาอยากได้คิมซอกจินอยากกลืนกินเด็กน้อยใต้ร่างแทบบ้า



    จูบร้อนแรงจำต้องถอนออกมาเมื่อเด็กน้อยทำท่าจะหายใจไม่ออก แก้มนุ่มที่เห่อแดงทำให้คนมองอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปประทับจูบพร้อมสูดดมกลิ่นหอมละมุนที่ฝังอยู่ตามผิวเนียนนุ่ม อกบางหอบกระเพื่อมโกยอากาศเข้าปอดเต็มที่พร้อมกันนั้นที่ตากลมก็พยายามปรับโฟกัสภาพตรงหน้าให้ชัด



    แต่มันก็พร่าเลือนเสียเหลือเกิน




    นอนซะ



    ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว


    ร่างบางถูกดึงไปกอดอีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นการกอดจากด้านหลัง ใครอีกคนที่เป็นเจ้าของอ้อมกอดซุกใบหน้าเข้ากับซอกคอขาวแล้วปิดตาลงเพื่อหลับต่อ ต่างจากเด็กอีกคนที่ยังคงนอนหน้าแดงอยู่อย่างนั้นเพราะยังมึนงงกับสัมผัสเมื่อครู่ที่ร่างสูงปรนเปรอให้



    อาจองกุกจูบเขา




    แล้วก็บอกให้เขานอนก่อนตัวเองจะทนไม่ไหว




    แล้วไอ้ทนไม่ไหวนี่มันทนอะไรกันล่ะ



    เขาอยากรู้




    ::: You're my sunshine :::






    เปลือกตาบางเปิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะรีบปิดลงเพราะแสงสีขาวที่แยงตา จนเมื่อเริ่มคุ้นชิ้นกับแสงวันใหม่จึงเปิดเปลือกตาขึ้นมาช้าๆ ภาพแรกที่ปรากฏสู่สายตาคือใบหน้าของใครอีกคนที่อยู่ห่างไปไม่ถึงคืบ ปากอิ่มคลี่ยิ้มบางเบายามได้มองใบหน้าที่ตนเองนั้นแสนหลงใหล ใบหน้าคมคายที่ประกอบไปด้วยเครื่องหน้าอันทรงเสน่ห์ เปลือกตาสีเข้มที่ปกปิดสายตาดุดันเอาไว้ ไหนจะปลายจมูกโด่งสันที่กำลังเป่าลมหายใจรดหน้าผากเขาอยู่ตอนนี้



    อาจองกุกหล่อดีเนอะ



    ไรหนวดบางๆทำให้เด็กน้อยอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบไล้เล่น นิ้วเรียวแตะลงที่โครงหน้าคมแผ่วเบาแล้วไล้สัมผัสตั้งแต่เปลือกตาสีขุ่นจนมาถึงริมฝีปากเรียวนุ่ม ที่คนใจร้ายแสนเย็นชาใช้มันดุว่าและพูดจาใจร้ายใส่เขานับไม่ถ้วน



    นอกเหนือจากความใจร้ายที่เคยได้รับ



    ก็ยังมีความหวานแสนวาบหวามที่เขาได้สัมผัสมาแล้วว่ามันชวนให้ใจสั่นแค่ไหน จูบที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร กว่าจะรู้ตัวอีกทีสติมันก็ถูกพรากไปเกือบหมด หัวสมองขาวโพลนแถมใจยังเต้นแรงสุดๆอีกด้วย




    ทำอะไร


    ตกอยู่ในภวังค์ความคิดอยู่นาน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ใครอีกคนนั้นตื่นขึ้น ไม่รู้ว่าร่างสูงตื่นแล้วนอนจ้องเขาอยู่อย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สายตาที่คาดเดาอะไรไม่ได้นี่น่ากลัวชะมัด




    จะดุเขาไหมนะที่เอานิ้วไปจิ้มหน้าเล่น




    ใบหน้าหวานส่ายเบาๆพลางคลี่ยิ้มน้อยๆอย่างคนจำนนในความผิด กำลังจะลุกออกแต่ก็พบว่าแขนแกร่งของใครอีกคนยังคงโอบกอดเอวตัวเองเอาไว้แน่น และไม่มีท่าทีที่จะปล่อยแม้แต่นิดจนมือบางต้องยื่นไปแกะออก แต่ยิ่งแกะก็เหมือนจะถูกรวบเข้าไปกอดแน่นกว่าเก่าจนคนตัวเล็กยอมแพ้แล้วล้มตัวลงนอนไปอีกครั้งอย่างจำยอม


    อาจองกุกกอดแน่นเกินไปแล้ว ทั้งแน่นทั้งใกล้จนได้กลิ่นกายเฉพาะที่แผ่ออกมาจากกายหนา ต่างคนต่างสูดดมกลิ่นเฉพาะของกันและกัน ความหอมละมุนจากกายหนาเป็นสิ่งที่แสนจะน่าหวาดกลัวทั้งยังคงมีอำนาจต่อตัวเขาเสมอ




    ทว่าในขนาดเดียวกัน..




    มันก็เป็นกลิ่นที่ซอกจินฝันถึงอยู่หลายครั้ง




    แก้มกลมที่ขึ้นสีชมพูระเรื่อทำให้คนมองอดไม่ได้ที่จะฝังปลายจมูกลงไปอย่างหมันเขี้ยว



    ฟอดดดดดด



    และฝังลงไปที่แก้มใสอีกข้างอย่างเต็มแรง



    ฟอดดดดด


    จนคนถูกหอมได้แต่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นอย่างอึ้งๆ สัมผัสอุ่นร้อนจากจูบเมื่อครู่ยังคงหลงเหลืออยู่ที่แก้มทั้งสองข้าง การกระทำแปลกประหลาดที่มาพร้อมกับสายตาอบอุ่นเช่นนี้เป็นสิ่งที่คิมซอกจินไม่ชินซักนิด



    หน้าร้อนแปลกๆแฮะ ระรู้สึกไม่ค่อยดีแล้วก็ใจสั่นแปลกๆ ไม่สิ มันเต้นแรงเลยต่างหาก แรงจนน่ากลัวว่าอาจองกุกจะได้ยินมันเข้า



    โครงหน้ามนถูกประคองแผ่วเบาก่อนริมฝีปากเรียวจะเคลื่อนมาทาบทับ เยลลี่สีหวานถูกละเลียดชิมอีกครั้งอย่างอ่อนโยน แรงดูดดึงแผ่วเบาทว่ากับสร้างสัมผัสร้อนผ่าวอยู่ทั่วร่างไปหมด อีกทั้งเรียวลิ้นหนาที่กำลังสอดเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นเล็กมันก็ทำให้เด็กน้อยเผลอครางเสียงพร่าออกมาอย่างลืมตัว จนมือบางต้องกำชายเสื้อของใครอีกคนเอาไว้เพื่อกลัดกลั้นเสียงน่าอายไม่ให้หลุดออกมาเป็นรอบที่สอง


    จนเมื่อได้รับความหวานจากปากอิ่มจนหนำใจจึงยอมถอนจูบออก อกบางหอบกระเพื่อมพลางโกยอากาศเข้าปอดอย่างไวต่างจากใครอีกคนที่มีท่าทีสบายๆทั้งยังนอนมองเด็กน้อยด้วยรอยยิ้มอยู่อย่างนั้น



    หน้าผากเกลี้ยงเกลาถูกกดจูบ



    ปลายจมูกโด่งรั้นก็ด้วย



    รวมถึงริมฝีปากที่เพิ่งถูกรังแกไปเมื่อครู่ก็ถูกจรดจูบลงมาอีกครั้งก่อนจะผละออก




    ไม่ได้ล่วงล้ำแต่ก็ลึกซึ้ง





    มอนิ่งคิสของอาจองกุกน่ะทำปากของเขาบวมไปหมดแล้ว



    ความใสบริสุทธิ์ในดวงคู่สวยทำให้คนมองละสายตาไปไหนไม่ได้ ทว่าในขนาดเดียวกันเจ้าของดวงตากลมสวยนั้นก็ละสายตาออกจากความดุดันนั้นไม่ได้เช่นกัน




    หมันเขี้ยว




    คงเป็นความรู้สึกเดียวที่เขารู้สึกกับคิมซอกจินในตอนนี้ และมันมากขึ้นทุกทีเมื่อได้สัมผัส จนอดไม่ได้ที่จะต้องฝังปลายจมูกลงไปที่แก้มนุ่มอีกรอบเพื่อระบายความหมันเขี้ยวของตัวเองให้เบาลง




    ลองนับดูสิเช้านี้เขารังแกเด็กน้อยด้วยจูบไปกี่ครั้งแล้วนะ




    ฉันอยากได้ยินเสียงนายนะ



    อย่าทำให้ฉันต้องทรมานนักได้ไหม


    ใบหน้าหวานพยักเบาๆทั้งพยายามหลบสายตาหวานเชื่อมที่ใครอีกคนกำลังส่งมาให้ ไม่ชินซักนิดกับอาจองกุกในโหมดนี้ ปกติโหดร้ายและดุดันกับเขาจะตายไป ทั้งที่เกลียดเขาขนาดนั้นแต่อยู่ๆมาทำดีด้วยแบบนี้ใครกันจะไปชิน



    ตึกตัก ตึกตัก



    เสียงหัวใจไม่รักดีสั่นระรัวอย่างห้ามไม่ได้



    น่าเจ็บใจที่ก้อนเนื้อในอกยังคงชุ่มชื่นทุกครั้งที่ได้รับสายตาแบบนั้น ทั้งน้ำเสียงอ่อนหวานและการกระทำแสนนุ่มนวล สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เด็กน้อยยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่าเก่า



    กลัวว่าจะรักแต่น่ากลัวว่ามันจะไม่ทัน และคงจะรักมากขึ้นเรื่อยๆไปอีกล่ะมั้ง



    ลองออกเสียงหน่อยได้ไหม



    ร่างสูงเอ่ยถามพลางเคลื่อนนิ้วไปคลึงที่ปากนุ่มแผ่วเบา เขาพอรู้มาจากโฮซอกบ้างว่าซอกจินพอจะออกเสียงได้บ้างเล็กน้อย และถ้าเป็นอย่างนั้นร่างเล็กก็คงไม่ต้องไปฝึกกับไอ้หมอคิดไม่ซื่อคนนั้นอีก



    เด็กน้อย




    ฉันจะไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับนายอีกแล้วนะ




    ฉันจะรักษานายด้วยตัวเอง รักษานายด้วยความรักของฉัน



    อะอา..จอ....กุก


    น้ำเสียงเบาไหวดั่งใบไม้ต้องลมดังออกมาจากปากอิ่ม ถึงจะเบาจนแทบกลืนไปกับเสียงคลื่นทะเลแต่ถึงกระนั้นมันก็ชัดเจนเหลือเกินสำหรับคนที่รอคอยมาตลอด ปากเรียวคลี่ยิ้มสุขใจส่งไปให้คนตัวเล็กพลางกอดกระชับร่างในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น




    ดีใจ



    นั่นเป็นความรู้สึกที่เขากำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้




    เสียใจ


    นี่คงเป็นความรู้สึกที่จะติดอยู่ในห้วงความทรงจำของเขาตลอดไป ทั้งปิดกั้น ทั้งทำร้ายและไม่เคยมอบสิ่งดีๆให้ มองข้ามความรู้สึกแสนปวดร้าวและเห็นน้ำตาเป็นสิ่งน่ารำคาญ ภาพในอดีตแสนเลวร้ายพวกนั้นจองกุกยังจำมันได้ดีทั้งหมด และความผิดพวกนี้ก็คงจะไม่มีทางลืมเลือนไปจากหัวใจ



    ทำไมเขาถึงได้ทำให้เสียงหวานๆแบบนี้ต้องมีแต่เสียงร้องไห้กันนะทั้งที่มันรอคอยที่จะเรียกชื่อเขาอยู่ตลอด รอคอยที่จะได้พูดหรืออธิบาย รอคอยในสิ่งที่ตัวเองไม่สามารถแสดงออกมาได้




    ทำไมเขาถึงใจร้ายกับคิมซอกจินได้ขนาดนั้น




    พอที ต่อจากนี้จะไม่ทำให้เสียใจอีกแล้ว


    จุ๊บ


    เก่งมาก





    ลมทะเลพัดเข้าสู่ฝั่งด้วยสายลมอุ่นๆและไม่แรงเกินไปทำให้ร่างบางรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก หลังจากอาบน้ำเสร็จซอกจินก็ออกมาเดินสูดอากาศข้างนอกโดยปล่อยใครอีกคนเอาไว้ข้างใน วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาได้เที่ยวและเล่นน้ำทะเลอย่างที่อยากเล่น นอกเหนือจากนั้นอาจองกุกก็พาไปกินอาหารทะเลตามร้านริมชายฝั่งที่นั่งกินไปก็ได้สูดกลิ่นไปของทะเลไปด้วย


    แต่พอกลับมาถึงโรงแรมคิมซอกจินก็ถูกทวงค่าพาเที่ยวเป็นจูบหวานๆจนปากแทบเปื่อย พอจูบเสร็จก็ต้องเรียกชื่ออาจองกุกซ้ำๆ พูดตะกุกตะกักนิดหน่อยก็ถูกจุ๊บปากเบาๆแล้วก็ถูกให้พูดใหม่ ถึงแม้การฝึกพูดของอาจองกุกจะแปลกไปบ้างแต่มันก็ทำให้เขาสามารถเรียกชื่อใครอีกคนได้ดีขึ้น



    และถ้าเรียกชื่ออาจองกุกได้ชัดๆเมื่อไหร่ปากของเขาก็จะไม่ถูกรังแกแล้วล่ะ




    ออกมาทำอะไร!”



    น้ำเสียงดุดันที่มาพร้อมกับแรงกระชากที่มือทำให้ร่างบางสะดุ้งตกใจ ยิ่งได้เห็นดวงตาแข็งกร้าวกับสีหน้าเรียบสนิทที่มีแววกรุ่นโกรธนิดๆมันก็ทำให้กายบางเริ่มสั่น รวมถึงดวงตากลมที่เริ่มร้อนผ่าวเพราะน้ำตาที่กำลังเอ่อคลอทีละนิด




    ฉันถามว่าออกมาทำอะไรข้างนอก!!”



    จนเสียงทุ้มเอ่ยตวาดอีกรอบหยาดน้ำที่เอ่อคลอก็ไหลออกมาเป็นสาย  ขาเล็กก้าวถอยหลังอย่างหวาดกลัวพร้อมกันนั้นกายบางก็เริ่มสั่นสะอื้นอย่างเสียใจ


    ก็นึกว่าจะใจดีแต่เขาคงหวังมากไป อาจองกุกเกลียดเขาขนาดนี้จะใจดีกับเขาได้ยังไง อยากจะอธิบายแต่มันก็ทำไม่ได้ อยากเปล่งเสียงออกไปแค่ไหนมันก็ส่งออกมาแค่ลม ส่วนน้ำตาก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้และมันอาจจะทำให้เรื่องทุกอย่างหนักขึ้นกว่าเดิมเพราะร่างสูงไม่ชอบน้ำตาของเขา




    ก็แค่เป็นคิมซอกจินไม่ว่าจะทำอะไรก็ผิดไปหมดนั่นแหละ แค่ออกมาเดินเล่นข้างนอกยังถูกดุเลยเห็นไหม




    ร่างเล็กพยายามแกะพันธนาการที่มือออกแต่มันกลับรัดแน่นขึ้นจนน่ากลัว อยู่ที่นี่ไม่มีใครช่วยเขา ไม่มีป้าแม่บ้านหรือพี่เลี้ยงคอยกันออกมาเวลาที่อาจองกุกโมโห ไม่มีอาโฮซอกหรือพี่หมอจีมินคอยปลอบเวลาที่เขาร้องไห้ ไม่มีคุณนุ่มให้กอดเวลาที่เขาเสียใจ




    ไม่มีใครเลย




    มีแต่อาจองกุกคนใจร้าย




    ฮึกก..ปะ..ปล่อย


    พยายามเปล่งเสียงเบาหวิวของตัวเองออกมาเต็มที่เพื่อขอให้ร่างสูงปล่อยมือ และดูเหมือนหยาดน้ำตากับเสียงสะอื้นจะทำให้คนโมโหนั้นใจเย็นลงจนยอมคลายแรงบีบที่มือออกแต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้แขนเล็กเป็นอิสระ ดวงตาคู่คมจดจ้องไปทั่วใบหน้าหวานที่อาบไปด้วยน้ำตา และเพียงครู่เดียวสายตากรุ่นโกรธก็อ่อนลง กลายเป็นความรู้สึกผิดที่เข้ามาแทนที่



    มือหนาเคลื่อนไปปาดน้ำตาแต่เด็กน้อยกลับเบี่ยงตัวหลบ ปฏิกิริยาที่ร่างเล็กแสดงออกมาทำให้ก้อนเนื้อในอกซ้ายนั้นปวดหนึบ พอก้าวเข้าหาร่างเล็กก็ถอยหนีอย่างไม่ต้องการ ยิ่งดวงตาคู่สวยที่มีแววน้อยอกน้อยใจกำลังหลั่งน้ำตาออกมาเต็มที่ กับเสียงสะอื้นที่จะฟังดูกี่ทีก็เจ็บปวด



    อีกแล้ว



    เขาทำซอกจินร้องไห้อีกแล้ว




    กลัวเหรอ



    ไม่ต้องกลัวนะ



    ฉันขอโทษ


    เอ่ยเสียงนุ่มพลางพยายามขยับเข้าหาคนตัวเล็กที่ยังคงสะอึกอื้นไม่หยุด เคลื่อนมือออกไปปาดน้ำตาออกจากดวงหน้าหวานแล้วจึงดึงร่างน้อยเข้ามากอดแนบอกตัวเองเอาไว้แล้วลูบหลังปลอบเบาๆ



    ฉันขอโทษ



    ไม่ร้อง



    ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ดุนายแล้ว ไม่ดุแล้ว


    ทั้งกอดทั้งปลอบพลางจรดริมฝีปากลงที่หน้าผากมนเบาๆอย่างอ่อนโยน พออออกมาจากห้องน้ำแล้วไม่พบใครอีกคนนั่งอยู่ในห้องใจของเขามันก็ร้อนรุ่มไปหมด ทั้งกลัวว่าจะมีใครมาพรากไป กลัวว่าคิมซอกจินจะหายไปไหน ถึงจะเป็นในเขตโรงแรมก็จริงแต่มันก็ทั้งมืดทั้งเปลี่ยว แล้วออกมาเดินเล่นมืดๆคนเดียวจะไม่ให้โมโหได้อย่างไร


    แต่จากน้ำตาและแรงสะอื้นพวกนี้เขาคงโมโหมากไปจนเผลอทำร้ายจิตใจคนตัวเล็กเข้า คงห่วงมากไปจนเผลอทำสิ่งแย่ๆใส่อย่างเช่นขึ้นเสียงและชักสีหน้า ทั้งที่สิ่งพวกนั้นมันไม่ควรทำที่สุด ทั้งที่ท่าทางพวกนั้นมันเป็นสิ่งที่ซอกจินไม่ชอบแต่เขาก็ยังเผลอเรอแสดงมันออกมาจนได้




    ก็ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กจะโกรธมากไหม แต่ท่าทางผลักไสและแววตาน้อยใจที่ได้เห็นมันก็ทำเอาใจเขากระตุกวูบไปพักใหญ่




    กลัวว่าจะถูกเกลียดกลัวว่าจะไม่รัก




    จนเมื่อเด็กน้อยหยุดร้องไห้จึงได้พากลับห้อง ซอกจินนิ่งเงียบมาตลอดทางจนพาให้จองกุกใจเสีย มาอยู่ในห้องร่างเล็กก็ขึ้นเตียงนอนโดยไม่หันมาสนใจเขาซักนิดแถมยังนอนหันหลังให้เหมือนไม่อยากให้เข้าใกล้อย่างไงอย่างงั้น


    และเมื่อทนไม่ไหวร่างสูงจึงขึ้นไปนอนบนเตียง  ค่อยๆสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับคนตัวเล็กอย่างเงียบเชียวแล้วกระเถิบตัวเข้าหาใครอีกคนที่นอนหันหลังให้ พาดแขนลงที่เอวบางแล้วรวบร่างเล็กเข้ามากอดแนบอก ซึ่งซอกจินไม่ได้ขืนตัวออกทั้งยังนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นเหมือนไม่ใส่ใจอะไร


    อาการแบบนี้มันทำให้เขาใจเสียยิ่งกว่าเดิมเสียอีก อย่างน้อยดิ้นหนีบ้างก็ยังดี นอนนิ่งๆแบบนี้ก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน แล้วเขาเคยง้อใครที่ไหน ที่ผ่านมาก็ปล่อยให้คนตัวเล็กหายเองตลอดนั่นแหละ



    แต่ตอนนี้ปล่อยไม่ได้แล้วไง..



    ฟอดดดดด

     


    จรดริมฝีปากลงบนแก้มนุ่มแผ่วเบาแล้วผละออกมาก่อนจะเอ่ยขอโทษออกไปเสียงเศร้า




    อาจองกุกขอโทษ




    สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้คิ้วเรียวขมวดเป็นปมอย่างงงๆ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กน้อยก็ยังคงนอนหันหลังให้อย่างเคย ไม่ได้มีท่าทีที่จะหันมาใส่ใจกับคำขอโทษของเขาแม้แต่นิด


    จนเมื่อทนไม่ไหวกายบางจึงถูกจับให้นอนหงายก่อนที่ร่างหนาจะขึ้นไปคร่อมทับ  ไล่สายตาไปทั่วดวงหน้าหานอีกครั้งก็ต้องใจอ่อนยวบเมื่อในดวงตาคู่สวยนั้นยังมีหยาดน้ำเอ่อคลออยู่เต็มหน่วย ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนที่เขาทั้งดุทั้งว่าคิมซอกจินต้องเจ็บปวดจนไปนอนร้องไห้คนเดียวมามากขนาดไหน แต่ดูจากครั้งนี้ที่ได้เห็นกับตาชัดๆก็คงหนักพอดู กี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้ที่คนตัวเล็กต้องทนเจ็บซ้ำซากแถมยังต้องจัดการกับความรู้สึกตัวเองตั้งหลายครั้ง กี่ครั้งที่เขามองว่าน้ำตาพวกนี้มันน่ารำคาญทั้งที่จริงๆนั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ซ่อนอยู่




    ทั้งผิดหวัง โศกเศร้า น้อยใจ และเจ็บปวด




    ปากเรียวจูบซักหยาดน้ำตาที่เปลือกตาบางแล้วไล่สัมผัสมาจนถึงเรียวปากอิ่ม ร่างเล็กเม้มปากแน่นเหมือนไม่ยอมให้เขาได้จูบจองกุกจึงยอมผละออกมาเพราะไม่อยากฝืนใจ



    อาจองกุกขอโทษ



    ขอโทษที่ทำให้ตกใจ



    ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้



    เพราะเราหายไปอาจองกุกเป็นห่วงก็เลยโมโหรุนแรงแบบนั้น



    แต่ต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนั้นกับเราอีก



    หนูจินยกโทษให้อาจองกุกได้ไหมคะ




    เอ่ยขอออกไปเสียงนุ่มพลางจ้องมองปฏิกิริยาของเด็กน้อยด้วยความคาดหวัง



    นะยกโทษให้อาจองกุกนะคะ



    และเอ่ยขอออกไปอีกครั้งด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ร่างบางนิ่งงันไปครู่ก่อนจะพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตอบ ทว่าปฏิกิริยาเหล่านั้นกลับเรียกรอยยิ้มกว้างจากร่างสูงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ปลายจมูกโด่งกดลงที่แก้มนุ่มทั้งสองข้างก่อนจะประกบริมฝีปากลงไปที่ปากอิ่มแล้วดูดดึงเบาๆโดยไร้การรุกล้ำ




    จูบแผ่วเบา..ทว่าหวานเชื่อมจับใจ




    ไหนคนเก่ง…”



    ลองเรียกชื่ออาจองกุกหน่อยซิครับ




    อะ..อาจองกุก



    แล้วรางวัลของคนเก่งก็คือจูบหวานที่คนด้านบนนั้นปรนเปรอให้ จูบรสหวานเริ่มลึกซึ้งและร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ชักพา มือหนาไล้ไปตามส่วนโค้งเว้าตั้งแต่แผ่นอกจนมาถึงเอวคอด ก้นนุ่มถูกบีบขยำอย่างหมันเขี้ยวพร้อมกันนั้นที่คนถูกกระทำก็เผลอร้องออกมาเสียงแผ่ว


    ผละจูบออกมาจ้องมองใบหน้าหวานที่กำลังมัวเมาอยู่ในรสจูบ ตากลมหยาดเยิ้มกับริมฝีปากที่เห่อบวมมันทำให้คนมองแทบทนไม่ไหว ยิ่งกลิ่นกายหอมหวานที่ส่งออกมาจากผิวนุ่มก็ชอบรบกวนให้สติเขาขาดผึงอยู่หลายรอบ



    ก็ว่าจะทนต่อไปแต่ว่ามาถึงขนาดนี้มันก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว



    เป็นของอาจองกุกนะคะ





    Cut.






    ร่างกายหวานๆนี้มีเจ้าของแล้ว หัวใจของเด็กน้อยคนนี้ก็มีเจ้าของแล้ว



    ใช่



    คิมซอกจินเป็นของจอนจองกุกทั้งตัวและหัวใจ



    อารักหนูนะคะ..”




    #shotbts






    มาช้าเพราะเขียนฉากคัทอยู่ค่ะ 5555555 เป็นอะไรที่เขียนยากเวอร์ ไม่รู้จะเขียนยังไงให้มันละมุนและรีดไม่เบื่อ ฮวืออออ พยายามเต็มที่แบ๊ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะก๊ะ ฝากคอมเม้นและสกรีมแท็กนิดนึงนะ

    ฉาก Cut. เจอกันที่เดิมค่ะ

    ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

    รัก.



    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×