ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #16 : สามอาทิตย์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 608
      2
      25 พ.ค. 48

    เจ้าหนี้สุดป่วนกับลูกหนี้ตัวแสบ 16



        ภายในสนามบินขวักไขว่ไปด้วยผู้คนต่างชาติต่างภาษา บรรยากาศดูครึกครื้นยิ่งนัก บ้างก็มาส่งญาติ บ้างก็จะเดินทางไปไกล แต่ก็ไม่มีใครหดหู่ใจเท่าคุราปิก้า หญิงสาวเดินลากกระเป๋าเดินทางเงียบๆคนเดียว เธอขอร้องไม่ให้ใครมาส่ง เธอตัดสินใจจะย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ลากันทีญี่ปุ่น ลากันทีเกียวโต…และที่สำคัญคนไม่มีหัวใจ!!

        เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องดังไปทั่วบริเวณ คุราปิก้ารีบเดินไปที่ประตูทางออกเพื่อขึ้นเครื่องตามคำประกาศทันที

        เธอได้นั่งติดกับหน้าต่าง ระหว่างที่รอผู้โดยสารคนอื่นขึ้นเครื่องครบก็ไพล่คิดไปถึงเรื่องราวสามอาทิตย์ที่ผ่านมา…



        

        …..วันนี้เป็นวันที่สองแล้วที่ฉันได้กลับมาอยู่ใต้หลังคาเดียวกับคุโรโร่อีกครั้ง เมื่อคืนเราไม่ได้นอนห้องเดียวกัน เขาสละห้องนอนที่เคยเป็นของเขาให้ฉันแล้วอัปเปหิตัวเองออกไปนอนที่ห้องพักแขกแทน

        

    เช้านี้อากาศสดใสเหมือนเช่นทุกๆวัน  นกน้อยร้องเพลง ดอกไม้เต้นรำแต่ทำไมหัวใจฉันกลับหมองหม่นนะ ฉันรีบส่ายหน้าสลัดความรู้สึกเหล่านั้นออกไปแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปพบหน้าคุโรโร่

        

    นหยุดยืนอยู่หน้าห้องคุโรโร่นานสองนาน หากเป็นเมื่อสามปีก่อนคงจับลูกบิดแล้วผลักเข้าไปได้โดยสนิทใจแต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนคนอาศัย เป็นใครก็ไม่รู้ที่กำลังเข้ามา

    สร้างความรำคาญให้เจ้าของบ้าน ระหว่างที่ฉันคิดไร้สาระ คุโรโร่ก็เปิดประตูออก เขาชะงักเล็กน้อยที่เห็นฉันยืนอยู่

        “คุณมาทำอะไรตรงนี้!?” คุโรโร่ถามเสียงใสอย่างคนอารมณ์ดีทั่วๆไป แต่ฉันรู้ดีว่ามันเป็นไปตามมารยาทเท่านั้น

        “เอ่อ..ฉันจะมาชวนคุโรโร่ไปทานอาหารเช้า” ประโยคธรรมดาๆที่พูดง่ายๆแต่ทำไมเวลานี้มันช่างพูดอย่างยากลำบากนักนะ แค่เห็นดวงตาสีนิลที่ไม่มีเงาผู้หญิงที่ชื่อคุราปิก้าอยู่ คำพูดต่างๆนานาพาลจะกลืนหายไปกับสายลมจนหมด

        “อืม..ก็ไปซิครับ”

        ฉันหลีกให้คุโรโร่เดินลงไปก่อน ฉันเฝ้ามองแผ่นหลังของเขา มันดูต่างไปจากทุกครั้งที่เห็น ฉันรีบสั่งเท้าทั้งสองข้างให้รีบตามไป ฉันรู้สึกว่าหากฉันยังยืนอยู่ตรงนั้นฉันจะไม่มีวันวิ่งตามเขาทัน ฉันจะไม่ได้ผู้ชายคนนี้กลับมาอีก..ฉันกลัว!!

        

        มื้อเช้าของเราผ่านไปอย่างเรียบง่าย เราสองคนต่างคนต่างตักอาหารผ่านปาก บดมันด้วยฟัน แล้วก็กลืนลงไปในหลอดอาหารส่งต่อให้กะเพาะอาหารทำหน้าที่ต่อไปจนสิ้นกระบวนการ ไม่มีใครพูดอะไร มีบางครั้งที่เขาหันมายิ้มให้คงรู้ว่าฉันเกิดอาการเกร็ง แต่ก็ไม่มีวี่แววของคุโรโร่คนเดิมที่มีฉันอยู่ในสายตาเลย



        แสงแดดยามสายอบอุ่นนักแต่ทำไมความอบอุ่นนั้นไม่ซึมแทรกเข้าไปในหัวใจของฉันบ้างเลยนะ ฉันรู้สึกหนาว ทั้งเหงาทั้งอ้างว้าง ทั้งๆที่คนที่ฉันรักที่สุดนั่งอยู่ใกล้ๆ เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นกันและกัน แต่คงเป็นเพราะเขาเป็นเพียงคนที่เคยรักฉันกระมัง “เคยรัก” กับ “กำลังรัก” ทำไมสองคำนี้มันให้ความรู้สึกต่างกันนักนะ ว่าแต่เมื่อก่อนคุโรโร่รักฉันรึเปล่านะ หรือแค่ฉันคิดไปเองฝ่ายเดียว เค้าก็เคยทำให้ฉันเสียใจนี่นา หรือจริงๆแล้วเขาไม่เคยรักฉันเลย นี่ฉันคิดไปเองฝ่ายเดียวจริงๆหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะยังดึงดันที่จะยื้อเขาไว้ทำไม…ทำไมไม่ปล่อยเค้าไปกับคนที่เค้ารัก..คิดไม่ตก แต่เพราะรักนะซิ รักมากด้วย จึงอยากเป็นเจ้าของ อยากทำให้ในสายตาของเขามีแต่เราคนเดียว ทั้งหัวใจของเขามีแต่คุราปิก้าคนเดียว …เห็นแก่ตัวไปรึเปล่า?…



        สายตาของฉันเหม่อมองไปที่ใบหน้าซึ่งอ่อนเยาว์กว่าวัยนั้น ดวงตาสีนิลที่ทั้งสุขุมลุ้มลึกหรือขี้เล่นเป็นบางเวลากำลังจับจ้องไล่เรียงไปตามตัวหนังสือภาษาอังกฤษในมือของตัวเอง แล้วจู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นราวกับรู้ว่าฉันกำลังมองอยู่

        “หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรอ” เขามุ่นคิ้วนิดๆน่ารักชะมัด เฮ้อ…แต่ก็บอกออกไปไม่ได้ ได้แต่แก้ตัวอย่างขัดๆเขินๆ

        “ปะ..เปล่า..ไม่มีอะไร”

        “ผมว่า เราไปทำอาหารกันมั้ย  เนี่ยะผมเพิ่งอ่านวิธีทำอาหารจบอยากกินจัง” เขายื่นหนังสือมาตรงหน้าเพื่อให้ฉันเห็นภาพประกอบ

        “อะ อืม” คุโรโร่ขอร้องละ อย่าทำเป็นเหมือนเราสนิทสนมกันได้มั้ย ฉันรู้ว่านายฝืน ฉันเองก็ปวดใจจะเเย่อยู่แล้ว นายทำแบบนี้ทั้งๆที่ใจนายร่ำร้องจะไปหาคุณลิเลียนะหรอ…



        ฉันเดินตามหลังเขาเข้าไปในครัว ป้ายูยะที่กำลังอบคุกกี้อยู่มองหน้าเราสองคนแปลกๆ แต่ก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ตามเคย ก่อนจะขอตัวออกไปเมื่อเตาอบคุกกี้ส่งเสียงบอกว่ามันทำงานเสร็จพอดี



        คุโรโร่รื้อเครื่องมือทำครัวด้วยท่วงท่าเก้ๆกังๆ นึกอะไรขึ้นมานะที่จะมาจับมีดเข้าครัว แต่ช่างเถอะ ทำอะไรก็น่ารักไปหมดอยู่ดี นี่ฉันแอบหน้าแดงรึเปล่า

        “นี่คุณ..ช่วยหั่นพริกหยวกหน่อยซิ”

        “ค่ะ..” หากเขายังใช้คำว่าคุณกับฉันก็แปลว่าเค้ายังจำเรื่องของเราไม่ได้ อยากร้องไห้จัง

        ฉันหั่นพริกหยวกอย่างไร้อารมณ์ พยายามทำตัวเองให้สนุกไปพร้อมๆกับคุโรโร่แล้วนะ แต่เมื่อความจริงมันมารุมมาเร้าอยู่ที่สมองมาตอกย้ำอยู่ที่ใจ บรรยากาศมันก็อึมครึมอยู่ดี ถ้าเปรียบเขาเหมือนท้องฟ้ายามฤดูร้อนตอนนี้ตัวฉันก็คงคล้ายๆเมฆฝนละมั้ง

        “โอ๊ย!!” เหม่อจนได้เรื่อง แทนที่จะหั่นพริกดันหั่นนิ้วชี้ตัวเองซะได้

        “เป็นอะไรรึเปล่า!!” คุโรโร่วางทุกอย่างในมือ พุ่งมาหาฉันด้วยหน้าตาตื่นสุดๆ

        “ผมไม่น่าให้คุณหั่นมันเลย” เขาโทษตัวเองทั้งทั้งที่ฉันต่างหากที่ซุ่มซ่าม

        “ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ”

        “ไม่เป็นไรได้ไง ดูซิ เลือดออกตั้งเยอะแน่ะ” คุโรโร่คว้ามือฉันไปและดูดเลือดออกด้วยปากของเขาก่อนจะล้างแผลและทำแผลให้ฉันอย่างนุ่มนวล

        ขอบคุณน้องพริกหยวกมากนะจ๊ะ ฉันขอสาบานจะไม่กินพริกหยวกตลอดหนึ่งปีเป็นการตอบแทน

        

        หลังจากมือฉันบาดเจ็บ เว่อร์ไปมั้ย ที่จริงก็แค่มีดบาด คุโรโร่ก็สั่งให้ฉันมานั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารแทน ส่วนตัวเขาสวมวิญญาณเชฟมือใหม่จัดการเองทุกอย่าง



        และแล้วไก่อบซอสอันหอมกรุ่นก็ลอยมาตรงหน้า มื้อนั้นแม้กับข้าวจะรสชาติห่วยสุดๆแต่ฉันก็มีความสุขสุดๆกับการกินมันลงท้อง เพราะฉันกำลังรับรู้รสชาติไก่ด้วยหัวใจ ..ท่าจะบ้า



        หลายวันผ่านไปเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ดูไปเหมือนฉันมีความสุขแต่ที่จริงไม่ใช่เลย คุโรโร่ที่รักฉันไม่ได้อยู่กับฉัน ตอนนี้ฉันอยู่กับใครก็ไม่รู้ ฉันไม่ได้ทำดีอะไรให้เขามามีรักใหม่กับฉัน ฉันแค่อยากได้คุโรโร่ ลูซิเฟอร์คนเดิมกลับมาก็เท่านั้น ฉันอยากได้คุโรโร่คนเดิมที่มีฉันอยู่ในความทรงจำ ฉันไม่ต้องการเขาที่มีความทรงจำใหม่ๆ ฉันอยากได้อดีต ฉันอยากได้ตัวเขาในอดีต หัวใจดวงเดิม มันจะยังมีอีกมั้ย….ยังมีรึเปล่า…ใครก็ได้ตอบที



        

    วันนี้ดอกซากุระบานเต็มสวนสาธารณะ คุโรโร่ชวนฉันออกมาเดินเล่น มันเป็นวันสุดท้ายแล้วซินะที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน ดูเขาก็ยังมีความสุขดี ฉันจะอยู่หรือจะไปก็ไม่ได้กระทบกระเทือนเศษเสี้ยวความรู้สึกอะไรของเค้าเลยนี่นา นึกแล้วน้ำตาพาลจะไหล ฉันเลยเลือกเดินตามหลังเขาเงียบๆดีกว่า.. หรือเพราะฉันมัวแต่เลือกเดินตามหลังเขาตลอด ตลอด 20 วันที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่ฉันจะเดินเคียงคู่กับเขา ฉันเดินตามหลังเขามาตลอดไม่ว่าจะไปไหนก็ตาม ไปชอปปิ้ง ไปทานข้าว ไปไหนก็ตาม ฉันเป็นคนเลือกเองที่จะเดินตามหลัง เหมือนกลัว ฉันกลัวอะไรกันนะ นี่ฉันทำอะไรอยู่ เวลา 3 อาทิตย์หมดไปอย่างไร้ค่าเพราะความงี่เง่าของฉัน ฉันกลายเป็นคนไม่กล้า คนขี้ขลาดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่กล้าแม้แต่จะต่อสู้กับโชคชะตามากขนาดนี้เลยหรอ ทำไมฉันถึงยอมรับชะตากรรมง่ายๆแบบนี้นะ…ดูซิตอนนี้คุโรโร่กำลังเดินไปเรื่อยๆแต่ฉันกลับหยุดอยู่กับที่ หยุดอยู่กับความทรงจำเก่าๆและความหวังอันเลือนลางว่าเขาจะกลับมาหาฉัน

        

    สายลมบางเบาพัดมาพร้อมกับกลีบซากุระสีชมพูอ่อน รอบข้างฉันมีแต่คนที่กำลังมีความสุข บ้างมาเป็นกลุ่ม บ้างมากับคนรัก ต่างส่งเสียงเฮฮา ไม่ว่าใครก็ไขว่คว้าความสุขตรงหน้าเอาไว้ทั้งนั้น มีแต่ฉันที่ยังจมอยู่ในทะเลสาปความเศร้าอันหนาวเหน็บ ฉันมันโง่เอง..ใช่มั้ย



    “คุโรโร่…” ฉันร้องเรียกเขาสุดเสียง ชายหนุ่มที่ฉันเรียกหยุดหันหน้ามามองอย่างสงสัย ฉันปาดน้ำตาบนใบหน้าแล้ววิ่งเข้าไปหาเขา ซบหน้าที่เปียกชื้นไว้กับหน้าอกกว้างนั้น ที่ที่เคยเป็นของฉัน ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้นพร่ำเพ้อไม่เป็นภาษา

    “คุโรโร่ นายกลับมาเถอะนะ..ฮึก ฮึก เรากลับมารักกัน กัน..นะนะ ฮึก”

    แม้เขาจะยังคงงงงงแต่ก็เอื้อมมือมาลูบศีรษะฉันช้าๆพร้อมโยกตัวไปมาราวจะปลอบประโลมใจผู้หญิงบ้าๆคนนึง

    “ฉะ ฉันระ รู้ดี ฮึก..ว่ามัน..เป็นไปไม่ได้ ฮึก..ฮึก..ฉันรู้ว่าตะ.ตอ..ตอนนี้..ฮึก…คุ..คุโรโร่..จำฉัน..จำคุ..คุราปิก้า ฮึก…ไม่ได้…แต่ระ..เรา ยัง..จะ จะ..สร้างความทรงจะ.จะจำ ฮึก ฮึก..หมะ..ใหม่ๆ..ได้ได้..ใช่มั้ย..” ฉันสะอื้นตัวโยน และแล้วความเงียบก็โอบอุ้มเราทั้งสอง ความเงียบที่ไม่มีใครปริปากเอ่ยคำใดใดออกมานั้นดำเนินไปอย่างเชื่องช้า นานแสนนานราวเทพแห่งกาลเวลาจะหยุดเราสองไว้เช่นนั้น

    สายลมอีกระลอกหนึ่งพัดเข้ามาต้องเนื้อ ทำไมสายลมครั้งนี้ช่างหนาวนักนะ

    “ขอโทษนะ ฉันมีลิเลียอยู่แล้ว” คำพูดช้าๆแต่รุนแรงดุจอสนีบาตยามหน้าแล้งดังขึ้น ฉันผลักตัวออกจากอกเขา มองดวงตาคู่นั้น ดวงตาสีนิลเบือนไปทางอื่น ราวกับไม่อยากมองฉัน ฉันพยายามฝืนยิ้ม ..เป็นยังไงละสมน้ำหน้า..ฉันหันหลังกลับแล้ววิ่งจากไป น้ำตาไหลเป็นทาง ฉันไม่สนใจจะปาดมันทิ้งหรอก…ช่างมัน….ช่าง..ง…ง.ม..มั..น….มัน…..



    ……………To BE Con………

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×