ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} DISABLE..พิการ [ChanBaek] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #16 : - Disable - 15

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.2K
      120
      19 ส.ค. 57

     

     

    FIFTEEN

     

     

     

     

    “นี่คือตั้งใจนั่งเสียห่างเอง หรือมีใครบอกให้นั่งห่างขนาดนี้เนี่ย น้องแบคฮยอน พี่สังเกตมาหลายวันแล้วนะ ปกติไม่ขนาดนี้ นับวันๆนี่ยิ่งห่างไปเรื่อย”ยงฮวาเหล่มองคนตัวเล็กที่นั่งตรงข้ามกับเขาทั้งๆที่ปกติจะต้องนั่งข้างๆกันจนเกือบเกยเลยด้วยซ้ำ

     

    ยงฮวาแปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้แบคฮยอนทำท่าสำรวมเก็บมือเก็บเท้ามิดชิดมากกว่าครั้งที่แล้ว ใช่ครั้งที่แล้วก็เป็นแบบนี้ ตอนแรกเขาไม่ได้ติดใจสงสัยหรอกนะแต่พอหลายๆครั้งเข้าจนผ่านมาสองสัปดาห์ได้ แบคฮยอนก็ไปนั่งคนละฟากกับเขาเสียแล้ว นี่ใช้แผนการณ์ได้แยบยลจริงๆ

    แบคฮยอนยิ้มแหยๆเล็กน้อยมองเซฮุนที่พยักหน้าให้เขาเป็นเชิงบอกว่า คุณแบคฮยอนครับทำดีแล้วผมจะได้สบายใจเวลารายงานคุณชาย จริงๆก็แอบอยากยกนิ้วให้ไปด้วยแต่ก็เกรงใจพอสมควรเดี๋ยวจะหาว่าทำออกหน้าออกตาจนเกินไป

    แบคฮยอนเองก็ไม่อยากทำให้ชานยอลโกรธเหมือนกัน อย่างน้อยๆเรื่องที่ชานยอลพูดออกมาในวันนั้นก็ทำให้เขาเข้าหน้าชายหนุ่มไม่ติดไปเกือบทั้งวัน เพราะพอจะมองหน้ากันทีไรก็…..

    เง้อ…คำว่าสามี มันติดที่กลางหน้าผากหล่อของปาร์ค ชานยอลเลยซิเฮ้อ

    ไม่ๆๆๆ!!! แบคฮยอนจะใจอ่อนไม่ได้นะ แค่คุณชานยอลมาพูดว่าเป็นสามี ทำท่าเหมือนหึงหวงเท่านี้แล้วจะมาทำปลาบปลื้มไม่ได้นะ อย่าลืมสิเขาร้ายกาจมากแค่ไหน เขาเคยทำร้ายเราตั้งเท่าไหร่ เขาร้ายมากๆเลยนะ

    ……แต่……ตอนที่เขาบอกว่า ‘สามี’ มันก็ทำให้หัวใจเต้นแรงจริงๆนั่นแหละเนอะ โอย..แบคฮยอนจะไหวไหมเนี่ยต้องแย่แน่ๆเลยนะ

    นี่ขนาดผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้วเสียงยังก้องในหัวอยู่เลย

     

    “เอ่อ..ท..ทำข้อต่อไปเถอะครับ”แบคฮยอนไม่ตอบพร้อมทั้งสะบัดไล่ไอ้ความคิดเรื่องสามีอะไรนั่นออกไป ไม่ให้มันลอยไปลอยมาจนเต็มสมองเดี๋ยวจะไม่ได้งานได้การอะไรเลยสักอย่างเดียว

    “เอาครับ หลักไวยากรณ์เรื่องนี้แบคฮยอนลองทำดูนะครับ”ยงฮวามองใบหน้าแดงสลับขาวของคุณแม่ยังวัยรุ่นแล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่อยากคิดให้ตัวเองชอกช้ำหรอกนะ แต่ก็เอาเถอะ..อย่างไรก็ดีสิ่งที่แบคฮยอนคิดคงไม่พ้นเรื่องของชานยอลเป็นแน่

     

    จะว่าไประหว่างสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากเปิดศึกอย่างเป็นทางการระหว่าง จอง ยงฮวาและปาร์ค ชานยอลไปแล้ว บางวันที่คุณชายว่างก็จะมานั่งเฝ้าแบคฮยอนเรียนหนังสือบ้าง เวลาที่ยงฮวาเผลอโน้มตัวเข้าไปใกล้ที่ไรพ่อคุณชายที่ทำเหมือนจะอ่านหนังสือนี่มีกระแอมไอทุกครั้งเลยซินะ ไม่รู้ว่าอะไรติดคอนักหนาอยากจะช่วยล้วง

    ก็รู้ว่าไม่มีสิทธิ์เข้าแทรกความสัมพันธ์ในเมื่อคนทั้งสองมีพยานรักปักใจเสียหนึ่งคนในท้องของแบคฮยอนขนาดนี้ แต่บางทีก็ขอให้เขามีความสุขเล็กๆน้อยๆบ้างไม่ได้เลยหรือยังไงนะ

     

    “กลับมาแล้ว”เสียงทุ้มดังขึ้นเล็กน้อย วันนี้ชานยอลออกจากบ้านไปด้วยชุดลำลองสบายๆ ชายหนุ่มบอกแบคฮยอนแล้วว่าจะไปทำธุระ และแบคฮยอนก็ไม่ได้ซักไซ้เพราะเห็นว่าไม่ควรก้าวก่ายหากชายหนุ่มไม่บอกเอง

     

    แค่บอกว่าไปทำธุระข้างนอก ก็ถือว่ามากเกินพอแล้ว

     

    “ยังเรียนไม่เสร็จอีกหรอ แบคฮยอน”ชานยอลถามเสียงทุ้มน่าฟังหากแบคฮยอนเองก็ส่ายหัวเบาๆแทนคำตอบ ทำให้ชานยอลมองนาฬิกาติดฝาผนังห้องอีกรอบ

    “จะบ่ายสามแล้ว ไหนบอกเรียนวันสามชั่วโมงไง”ชานยอลถามพร้อมทั้งขมวดคิ้วเข้มของตัวเอง เผลอตัวทำเสียงงวดเล็กน้อย

     

    อันที่จริงตามปกติแล้วแบคฮยอนจะเรียนประมาณสองถึงสามชั่วโมงต่อวัน แต่เพราะว่าเขาท้องแก่มากแล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะคลอดดังนั้นอีกไม่นานเขาต้องหยุดเรียน จึงคิดว่าควรหาเวลาเรียนเพิ่มมากขึ้น โดยปกติจะเรียนช่วง เก้าโมง ถึงเที่ยง ก็กลายเป็น เก้าโมงถึงบ่ายสอง คือเพิ่มมาอีกสองชั่วโมงและเว้นทางอาหารในช่วงเที่ยง ช่วงสามชั่วโมงเรียนเนื้อหาและอีกชั่วโมงคือทบทวน

    ไหนๆเรื่องงานที่เขาทำแลกเงินก็ถูกระงับไปอีกเพราะชานยอลบอกว่าจะมานั่งหลังขดหลังแข็งทำอีกทำไมในเมื่อเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆเขาก็เป็นคนช่วยออก ทั้งในฐานะสามี พ่อของลูก และคนที่มาอยู่อาศัย ทั้งนี้ยิ่งมีเซฮุนมาคอยจัดการหุงหาอาหารดูแลความสะอาดบ้านอีกแรง ดังนั้นเวลาของแบคฮยอนในหนึ่งวันจึงมีเพิ่มมากขึ้นมาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว

     

    “เหลืออีกนิดเดียวเองครับคุณชานยอล ขอทำอีกแค่ข้อเดียวนะครับ”แบคฮยอนยิ้มเล็กน้อยเป็นเชิงขอ ชานยอลจึงตวัดสายตาคมดุไปมองยงฮวาเสียแทน ลงกับแบคฮยอนไม่ได้ก็ลงกับไอ้คุณครูนี่ล่ะวะ

    “คนอยากมีความรู้ก็ไม่เห็นจะต้องห้ามอะไรนี่ครับ ว่าแต่วันนี้ไม่มีงานอะไรทำหรือครับ..คุณชานยอลถึงกลับมาแต่หัววัน”ยงฮวาชิงอธิบายแทรกขึ้นมา เขากับชานยอลน่ะไม้เบื่อไม้เมาทุกครั้งที่ได้เจอกันเสมอ อันที่จริงก็พยายามจะเกรงใจเพราะเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทแล้วนะ แต่เห็นท่าทางแบบนี้ของชานยอลแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้

    “ไม่ใช่ธุระ”ชายหนุ่มตอบแค่นั้นก่อนจะยกมือลูบหัวเล็กเบาๆ แบคฮยอนมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อยกับสถานการณ์ตรงหน้า จะห้ามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก่อนก็เห็นทีจะไม่ยุติธรรม

    “งั้นทำไปก่อนเดี๋ยวจะรอแล้วกัน”มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเบา ไม่วายเหลือบตามองยงฮวาอย่างคาดโทษ

     

    นี่ถ้าไม่เห็นว่าสอนหนังสือดี และเป็นเพื่อนของพี่สาวเขา คุณปาร์ค โซราล่ะก็นะ เขาจับยงฮวาโบกปูนถ่วงก้นแม่น้ำฮันให้ไปนอนปากดีกับสัตว์โลกน้ำจืดไปนานแล้ว

     

    เพียงแต่ไม่นานเกินที่ชานยอลจะหายใจเหนื่อย แบคฮยอนก็ทำเสร็จซึ่งมันถูกต้องดีอย่างไม่น่าเชื่อจนคนสอนเองก็อดภูมิใจในตัวลูกศิษย์คนนี้ของเขาไม่ได้ แบคฮยอนทำให้เขารู้สึกว่าการเป็นครูที่มีนักเรียนอยากได้ความรู้จากเขาทำให้คนประกอบอาชีพครูมีความสุขมาแค่ไหน

    ซึ่งชายหนุ่มเองก็ไม่ได้อยู่นานนักเขามีสอนต่อเด็กคนอื่นในช่วงเย็นเช่นกันจึงขอลากลับบ้านไปทั้งๆที่ยังจดจ้องสายตากับชานยอลไปด้วย ทำให้คนที่มองอย่างแบคฮยอนอดคิดจินตนาการอะไรตลกๆไม่ได้เลย

    นี่เห็นพี่ยงฮวากับคุณชานยอลจ้องตากันบ่อยๆ ถ้าเกิดจ้องไปจ้องมาตกหลุมรักกันขึ้นมา แบบนี้กูซึลน้อยของเขาคงร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่ๆ คิดแล้วทั้งตลกทั้งขนลุกเลยทีเดียวเชียว

     

    “คิดอะไรอยู่น่ะ จะหัวเราะก็ไม่หัวเราะ”ชานยอลบอกเล็กน้อยเดินลงมานั่งข้างคนตัวเล็กที่กลั้นหัวเราะเอาไว้จนตัวสั่นคลอนเบาๆ

    “ป..เปล่าครับ”แบคฮยอนปดอีกคนเบาๆ จะให้บอกได้อย่างไรว่าเขาจินตานาการเรื่องชานยอลกับยงฮวาอยู่

    “หึ..โกหกไม่เก่งเลยนะ เอ่อ..วันนี้ฉันมีเรื่องจะปรึกษา อย่าหาว่าเจ้ากี้เจ้าการหรือตำหนิเลยแต่เพราะตั้งแต่ฉันมาอาศัยที่นี่ห้องเธอมันไม่สะดวกสบายเอาเสียเลย”ชานยอลยอมพูดออกมาตรงๆก่อนมองสำรวจพื้นที่ใช้สอยที่แม้จะเป็นระเบียบแต่ก็ใช้งานลำบากพอสมควร

    “ไหนว่าจะไม่วิจารณ์เรื่องห้องของผมไงครับ”แบคฮยอนพูดเสียงอ่อย

     

    อันที่จริงเขาก็อยากให้ห้องมันดูดีกว่านี้ แต่ด้วยงบทางการเงินของเขาจำกัดอะไรที่พอหาได้ใช้ได้เขาก็ไม่เกี่ยงงอน

    เนื่องจากก่อนที่ชานยอลจะกลับเข้ามาในชีวิต เขาจำเป็นต้องประหยัดเงินทุกทางเพื่อเจ้าตัวเล็กในท้องของเขาทั้งหมด ไหนจะค่าอาหารดีๆ ไหนจะค่าคลอดที่เป็นเงินมากมายก็อีก จึงได้แต่ตกแต่งอย่างตามมีตามเกิดจนออกมาเป็นอย่างนี้

     

    “ฉันไม่ได้หมายความว่ามันไม่ดี แต่เพียงแค่มันไม่เหมาะกับคนท้องอย่างเธอ”ชานยอลพยายามใจเย็นบอกทั้งๆที่เขาอยากจะโยนข้าวของห้องแบคฮยอนออกไปให้หมดเร็วๆด้วยซ้ำแต่ก็ไม่อาจหักน้ำใจทำได้ลง

    “แล้วหมายความว่าอย่างไรล่ะครับ”แบคฮยอนถามเสียงหงอยๆมองห้องตัวเองตามไปด้วย

     

    อย่างไรก็ดี…ในสายตาของชานยอล แบคฮยอนก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กชายสำหรับเขาจริงๆ

     

    “อย่างฟูกนอนของเธอมันสะอาดก็จริงแต่มันแข็งและเตี้ยเกินไปมันทำให้เธอลุกนั่งลำบาก พวกโต๊ะ โซฟาเตี้ยๆนั่นก็ด้วยเวลานั่งนานๆเธอก็จะปวดหลัง อีกหน่อยท้องใหญ่กว่านี้มันก็จะลำบากมากกว่านี้อีกรู้ไหม”ชานยอลอธิบายให้คนตัวเล็กนึกภาพตาม

     

    นั่นจึงไม่ยากเลยที่แบคฮยอนจะเข้าใจเพราะอันที่จริงทุกวันนี้เขาก็ทราบซึ้งพออยู่แล้วที่เวลาจะเดินเหินทำอะไรต้องมีใครสักคนคอยฉุดให้เขานั่งให้เขายืนตลอด และนับวันทุกครั้งที่ตื่นนอนก็ยิ่งปวดหลังมากขึ้นเพราะน้ำหนักกดทับที่มากขึ้นและเตียงนอนที่ไม่สามารถรองรับน้ำหนักของเขาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     

    “แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ คุณชานยอลก็น่าจะทราบว่าความสามารถของผมก็หาได้เท่านี้”อาการน้อยใจเหมือนถูกดุว่าดูแลตัวเองและลูกน้อยไม่ดีพอทำให้คุณแม่ที่มีอาการอ่อนไหวง่ายเป็นทุนเอ่ยปากราวตัดพ้อชานยอลอย่างไม่รู้ตัว และไม่รู้เลยว่าชานยอลชอบใจที่จะฟังอยู่เหมือนกัน

    “ฉันไม่ได้ว่าเธอทำไม่ดี เพราะก่อนหน้านี้เธอเองก็ทำดีที่สุดแล้วแต่ตอนนี้มีฉันแล้วเธอจะยอมให้ฉันช่วยไหม”ชานยอลบอกความต้องการของตัวเองทันทีที่เห็นช่อง

     

    แบคฮยอนมองหน้าอีกคนจนเต็มตา ใบหน้าคม และดวงตาสวยดุที่จ้องมองเขา แม้อีกคนไม่ได้ยิ้มแต่สายตาทอดอ่อนนั้นกลับตราตรึงเขาอย่างดี

    แม้ตลอดเวลาหนึ่งเดือนเศษที่ชายหนุ่มได้อาศัยกินอยู่หลับนอนที่นี่ ชานยอลก็ได้ช่วยเหลือเขาในเรื่องค่าน้ำค่าไฟ หุงหาอาหาร พยุงพาเขาเดินเหินยามที่เขาลำบากจะลุกยืน หรือแม้แต่พูดคุยเล่านิทานให้ลูกฟังก็จริง แต่ครั้งนี้ตามความรู้สึกของแบคฮยอนแล้ว ชานยอลกำลังจะยื่นมือเข้ามาทำหน้าที่สามีจริงๆเสียที มันทำให้เขายากที่อดใจรับไว้ไม่ได้

     

    “ถ้าคุณไม่คิดว่ามันจะรบกวน..หรือมันเป็นการเอ่อ..เอาเปรียบคุณจนเกินไป ก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ”แบคฮยอนตอบรับเสียงเบาจนแทบกระซิบ ที่ตอบอย่างนั้นเพราะประเด็นเรื่องเงินทองข้าวของนั้นเป็นต้นเหตุมาแต่แรก เขาจึงไม่อยากให้ชานยอลมองเขาเป็นคนจ้องจะตระครุบรับของที่อีกฝ่ายมอบให้เหมือนที่ชานยอลเคยมอง

    “อย่าคิดเรื่องนั้นอีกนะแบคฮยอน ฉันเต็มใจทำให้เธอแน่นอนอยู่แล้ว”

     

     

      

    ไม่มีอะไรที่ปาร์ค ชานยอลทำไม่ได้ในสายตาของแบคฮยอน เรื่องนั้นเขารู้ดีเพราะชานยอลกำลังพาเขาไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าหรูที่ชาตินี้ถ้าไม่ได้มากับคนข้างๆเขาก็ไม่รู้จะได้มาเหยียบไหม ไม่รู้จะมาทำไมหรือมาซื้ออะไรที่นี้ ของบางชิ้นอาจจะสามารถจ่ายค่าเช่าห้องของแบคฮยอนได้หลายเดือนเลยทีเดียวเพราะอย่างนั้นจึงไม่ได้มีความคิดจะมาที่นี่เลย

    ผิดกับคนด้านข้างของแบคฮยอนที่เดินทำหน้าเฉยชาราวกับว่าที่นี่ช่างไม่มีอะไรน่าสนใจ ในขณะที่เซฮุนกับจงอินเดินตามเขาต้อยๆยิ่งทำให้ดูมีรังสีบางอย่างออกมาจากตัวของชายหนุ่มอีกแน่ะ

    ณ จุดนี้แบคฮยอนเริ่มก้มลงมองตัวเอง เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่เขาสวมใส่แม้มันจะเทอะทะไปมากสำหรับคนตัวเล็กอย่างเขาแต่มันก็อำพรางหน้าท้องกลมนูนของเขาได้อย่างดี เขาไม่ได้อายที่มีลูกแต่การที่ผู้ชายสามารถท้องได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่สังคมเกาหลีจะสามารถยอมรับได้ อย่างยิ่งเด็กในท้องของเขาเป็นของปาร์ค ชานยอลผู้โด่งดังแล้วล่ะ สื่อต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพียงแต่เสื้อผ้าที่เขามีนั้นมันก็มีเพียงแต่เสื้อผ้าราคาถูกๆที่พอสวมใส่ได้ไม่ได้หรูหราดูดีอะไร

     

    “อยากได้เสื้อผ้าใหม่บ้างไหม ใส่ชุดนี้แล้วอึดอัดไปหรือเปล่า”ชานยอลหันมามองแบคฮยอนที่มัวแต่ก้มๆเงยๆมองกางเกงมองเสื้อเลยนึกสงสัยขึ้นมา

    “ไม่ครับๆมันยังใส่สบายอยู่เลย ไม่ต้องซื้อให้เปลืองหรอกครับผมไม่ได้ไปไหน อยู่บ้านก็ใส่กางเกงผ้าตลอด”คนตัวเล็กรีบเอ่ยปัด เขาไม่ได้มีความต้องการเรื่องเสื้อผ้าหรือข้าวของอะไรเลยแม้แต่ชิ้นเดียว

     

    แต่ที่ก้มๆเงยๆดูเสื้อผ้าตัวเองน่ะ เพราะคิดว่าตนเองดูไม่ค่อยเหมาะสมนักที่จะเดินเคียงข้างชายที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่างแบบปาร์คชานยอล แม้ว่าชานยอลจะอยู่ในชุดลำลองธรรมดาที่คลุมด้วยเสื้อกันลมที่ทำให้ชายหนุ่มดูอ่อนวัยกว่าชุดทำงาน หากมันก็ยังน่ามองอยู่ดี แล้วดูตัวเขาเองสิจะเอาอะไรไปเหมาะไปคู่ควร

    คิดแล้วก็กระเถิบตัวเองออกห่างจากชานยอลเล็กน้อย เพียงแต่มือใหญ่ของชานยอลกลับกวาดโอบคนตัวเล็กมาแนบกายอย่างรู้ทัน

     

    “ไม่เห็นต้องคิดมาก”ชายหนุ่มบอกเพียงเท่านั้น แบคฮยอนจึงทำเพียงแค่อมยิ้มก้มหน้างุดๆ จนแม้แต่กูซึลน้อยที่นอนนิ่งอยู่พักใหญ่ กลับเป็นฝ่ายกระโดดโลดเต้นเตะแขนเตะขาไปมาในท้องของแบคฮยอนเสียได้จนคุณแม่ได้แต่ร้องโอดครวญเบาๆ

    “..ลูกหมูขา..เป็นอะไรคะลูก…แม่เจ็บไปหมดแล้วนะคะกูซึล”แบคฮยอนชะงักขาเล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวเล็กเตะขาแรงเหลือเกินจนท้องของเขาสะเทือนจนเจ็บ แบคฮยอนรู้ดีว่าไม่ใช่อันตรายอะไรเพียงแต่เจ้าตัวเล็กอาจจะแข็งแรงไปหน่อย หรือไม่ก็คงจะอารมณ์ดีมากไปนิดตามความรู้สึกของมารดา

    “มีอะไรหรือเปล่า”ชานยอลมองสีหน้าไม่สู้ดีของคนข้างกายจึงรีบหาที่นั่งพักให้กับแบคฮยอนอย่างรวดเร็วเพียงแต่คนตัวเล็กยื้อมือเอาไว้ก่อน

    “ไม่มีอะไรหรอกครับ แกแค่ดิ้นแรงไปนิดไม่รู้ว่าคึกอะไร ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ”คนตัวเล็กว่าพลางเอามือประคองหน้าท้องตัวเองเอาไว้เพียงแต่เจ้าตัวเล็กยังมีทีท่าว่าจะไม่หยุดคึกคักเสียง่ายๆ

    “ลูกจ๋า..หนูค่อยๆพลิกตัวสิคะลูก…”แบคฮยอนเอ่ยเสียงเบาเอามือลูบหน้าท้องของตัวเองไปด้วย

     

    โดยปกติแล้วแบคฮยอนจะคอยสังเกตเสมอเรื่องการดิ้นของกูซึล ในหนึ่งชั่วโมงเขาจะคอยมองนาฬิกาข้อมือยู่ตลอดเพื่อนับว่ากูซึลดิ้นไปมากี่ครั้ง ซึ่งอันที่จริงเขาค่อนข้างสบายใจมาตลอดว่าเจ้าตัวน้อยของเขาแข็งแรงเสียยิ่งกว่าแข็งแรง

    ในเมื่อแพทย์บอกว่าเด็กในครรภ์ที่เริ่มโตเต็มที่ควรมีการดิ้น ยืดตัว เตะ หรือพลิกตัวอย่างน้อยสามครั้งต่อหนึ่งชั่วโมงนับเป็นสัญญาณปกติ แต่หากน้อยกว่านั้นก็ให้นับต่อไปในชั่วโมงที่สอง เพราะบางครั้งเด็กในครรภ์อาจจะหลับอยู่ก็ได้ ซึ่งตามธรรมชาติเด็กจะหลับและตื่นไม่เกินหนึ่งชั่วโมงต่อรอบ ดังนั้นหากภายในสองชั่วโมง ทารกดิ้นไม่เกินสองครั้งก็ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที

    แต่ของกูซึลนี่ดูจะเกินกว่าสามครั้งไปมากโขอยู่เหมือนกัน และที่เขาเจ็บท้องขนาดนี้ท่าทางเจ้าตัวเล้กคงได้พลิกตัวโลดโผนอยู่ในครรภ์เขาเป็นแน่

    หากมือแกร่งของชานยอลกลับช่วยประคองมือเล็กของแบคฮยอนเอาไว้อีกชั้น เขาย่อตัวลงมาให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับท้องนูนของแบคฮยอน

     

    “กูซึลขา ลูกหมูขี้เซาของพ่อ หนูตื่นแล้วใช่ไหมลูก ตอนนี้หนูทำแม่หนูเจ็บนะคะ หนูต้องฟังที่คุณแม่เขาพูดนะคะรู้ไหม”ชานยอลพูดเสียงเบาใขณะที่แบคฮยอนทำหน้าเหรอหรามองซ้ายมองขวาไปด้วย

    “คุณชานยอลลุกขึ้นมาเถอะครับ!! เดี๋ยวคนอื่นก็มองกันหมด”แบคฮยอนว่าเสียงเบาในขณะที่ชายหนุ่มยังปักหลักนั่งลงที่เดิมไม่ไปไหน

    “ฉันคุยกับลูก ใครจะมองก็ช่างเขาสิ”ชานยอลทำท่าไม่สนใจจนแบคฮยอนได้แต่ทำตัวไม่ถูก และนั่นทำให้ชานยอลได้ใจเข้าไปใหญ่

     

    มีแต่เซฮุนกับจงอินน่ะสิที่ไม่รู้ว่าจะเอาลูกตาของเขาไปไว้ตรงไหน เพราะชานยอลแบบนี้เขาก็ไม่เคยเห็น ไม่รู้จะเขิน จะอิน จะซาบซึ้ง หรือจะหัวเราะ ยังตกลงกันไม่ได้แต่ต้องหันหน้าไปทางอื่นก่อนนะ ไม่งั้นพวกเขาสองคงทำหน้าตาประหลาดใส่คุณชายของตัวเองแน่ๆ

    ได้แต่พยายามยืนบังๆเอาไว้ไม่ให้คนอื่นเห็น อันที่จริงก็ไม่ได้อยากให้เป็นเป้าสนใจก่อนเวลาอันควร

     

    “ตัวเล็กของพ่อหนูไม่ทำคุณแม่เจ็บแล้วใช่ไหมคะ”ชานยอลถามวางมือบนหน้าท้องนูนอีกครั้ง เหลือบสายตามองคุณแม่ตัวน้อยที่หน้าแดงเรื่อขึ้นมา เพราะแค่ชานยอลยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อยกับสายตาที่จดจ้องใบหน้าของเขาก็แทบจะทำให้แข้งขาอ่อนไปหมด

     

    คนอะไรก็ไม่รู้ทำอะไรไม่เคยดูกาละเทศะเลย..ชักจะรุกหนักมากเข้าไปทุกทีอย่างนี้แบคฮยอนจะทนได้อีกกี่น้ำนะ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนใจร้าย แข็งกระด้างอย่างชานยอลจะทำอะไรอย่างนี้ได้

     

    “ดิ้นเบาลงแล้วนี่”ชานยอลบอกก่อนยืดตัวขึ้นเหมือนเดิม หากคราวนี้มือเขากลับยื่นมาซ้อนทับมือเล็กเอาไว้แล้วจึงจับจูงให้เดินต่อไปด้วยกัน คนตัวเล็กได้แต่ก้มมองพื้นอย่างเดียวล่ะคราวนี้

     

    แบคฮยอนไม่ได้ตอบโต้อะไรนัก ได้แต่ค่อนขอดลูกสาวตัวน้อยยอดดวงใจว่าเดี๋ยวนี้ชักจะเชื่อฟังคุณพ่อมากไปเสียแล้ว เขาทั้งบอกทั้งขอยังไงก็ไม่ยอม ดิ้นขลุกขลักทำเอาเจ็บท้องไปหมด แต่พอคุณพ่อพูดคำเดียวละกลับมานอนนิ่งเชียวอย่างนี้มันน่าน้อยใจไหมเนี่ย

    จะเข้าข้างเห่อคุณพ่อออกนอกหน้ามากไปไหมคะ กูซึลของแม่

    แต่แบคฮยอนก็ไม่น้อยอกน้อยใจเจ้าตัวน้อยของเขาจริงจังนัก อย่างที่ตัวเองนึกคิดเขาแค่นึกหมั่นไส้เจ้าตัวเล็กอายุหกเดือนกับสิบวันตัวนี้เท่านั้นเอง หากเดินอีกเพียงไม่นานชานยอลก็พาเขามาถึงร้านเสือผ้าแบรนด์หนึ่งที่มันค่อนข้างดูแพงพอสมควร ประเมินจากสายตาแล้วดูเหมือนจะเป็นร้านที่สั่งตัดชุดพร้อมกับขายชุดสำเร็จรูปในคราวเดียว

    เพียงแค่ชานยอลก้าวขาผ่านขอบประตูร้านเท่านั้น พนักงานหญิงชายต่างเข้ามาตอ้นรับเขาอย่างดีประหนึ่งราชาก็ไม่ปาน

     

    “ไม่ทราบว่าวันนี้คุณชานยอลต้องการชุดสำหรับโอกาสอะไรดีคะ”พนักงานสาวมากวัยคนหนึ่งเดินออกมาบอกด้วยท่าทางนอบน้อมและสุภาพ หล่อนสวมเสื้อเรียบหรูและมีสไตล์เก๋ไก๋  แม้จะเป็นชุดที่ดูคล้ายสูทหากก็ประดับลูกเล่นมากมายให้มีระดับและแปลกตา หากยามหล่อนเดินไปมาก็ดูสะดวกสบาย

    “คุณซูอา ขอความเป็นส่วนตัวที”ชานยอลกล่าวเพียงเท่านั้น พนักงานที่เหลืออยู่จึงออกไปเหลือเพียงแค่หล่อนเท่านั้น

    “ค่ะ..คุณชานยอล”หล่อนบอกอีกครั้ง ยังไม่ได้ให้ความสนใจกับแบคฮยอนที่ยืนชิดหลังคนตัวโตนัก

    “ผมต้องการเสื้อผ้าเฉพาะ ต้องสวมสบายยืดหยุดได้ค่อนข้างโปร่งสำหรับคนเคลื่อนไหวลำบาก เนื้อผ้านิ่มใส่สบาย สักสองสามชุดแล้วเสื้อคลุมเสื้อกันหนาว ชุดลำลองสองสามชุด”ชานยอลบอกความต้องการ เขาโอบตัวแบคฮยอนออกมายืนข้างๆ บอกเป็นนัยๆว่าเป็นของคนข้างกาย

    “แล้วก็ชุดที่สามารถขยายได้อีกสักสามสี่นิ้ว พลางหุ่นของเขาได้ด้วย”ชานยอลบอกข้อสำคัญเป็นอย่างสุดท้าย

     

    ช่างตัดเสื้อวัยกลางคนทำหน้าสงสัยเล็กน้อยเมื่อแบคฮยอนเองก็ไม่ได้ตัวใหญ่หรืออ้วนอะไรนัก หล่อนจึงหยิบสายวัดขึ้นมา พร้อมกับถอดเสื้อคลุมกันอากาศของแบคฮยอนออก ดวงตาหล่อนจับจ้องหน้าท้องที่นูนต่ำของแบคฮยอนเล็กน้อยด้วยสายตาสงสัย แน่นอนแบคฮยอนตัวเล็กแต่ไม่น่าจะมีหน้าท้องนูนมากขนาดนี้

    และอาจถูกจับจ้องมากเกินไปจนชานยอลตัดปัญหา

     

    “เสื้อผ้าทั้งหมดเอาให้เหมาะกับคนท้อง คุณคงเข้าใจว่าผมไม่ได้มีหน้าที่มาตอบคำถามในความสงสัยอะไร”ชานยอลดักคออีกคนเอาไว้ก่อน ซูอาจึงคิดว่าหล่อนควรเงียบปากและทำตามหน้าที่ของหล่อนไปแม้ตามนิสัยของผู้หญิงจะอยากรู้อยากเห็นหรืออยากบอกต่อมากเท่าไหร่

     

    แต่ดวงความมีชื่อเสียงที่ดีของร้านที่สั่งสมมา ความเป็นส่วนตัวของลูกค้าชั้นสูงนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะต่อให้ไม่ว่าซูอาจะเก่งกาจเพียงใด หากเขาทำให้ลูกกระเป๋าหนักเหล่านี้ขุ่นข้องหมองใจ

    ลูกค้าของหล่อนสามารถเปลี่ยนใจไปร้านที่ตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ทันที โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องเงินทองเลยสักนิดเดียว

     

    “ระหว่างนั้น นี่เป็นแบบที่ดิฉันคิดว่าเหมาะสมกับคุณเขา คุณชานยอลพอใจไหมคะ”หล่อนหยิบแบบเสื้อที่ดีที่สุดและสมวัยกับแบคฮยอนออกมา ชานยอลมองมันเล็กน้อยก่อนยื่นให้เจ้าของเสื้อผ้าดู แบคฮยอนทำท่าจะบอกปัดหากเมื่อเจอสายตาดุๆของชานยอลเขาจึงต้องรับมาดู

    “เลือกแบบที่ชอบเถอะ เดี๋ยวเรื่องรูปแบบตัดเย็บเขาก็ไปแก้ให้เองแหละ”ชานยอลบอกแบคฮยอนจึงจำเป็นต้องเลือกหากเขาก็เลือกชุดที่ชอบเพียงสองสามชุดตามที่ชานยอลตกลงกับช่างเอาไว้

     

    จากนั้นช่างตัดเสื้อชื่อดังจึงตกลงนัดแนะเวลาที่จะได้รับชุดเพียงแต่ชานยอลเพิ่มมันขึ้นมาอีกสามชุดที่เขามองว่ามันสมควรมีติดเอาไว้ ซึ่งทั้งหมดจะได้รับภายในสองวัน ก็ถือเป็นเวลาที่เร็วและงานก็ยากเอาการอยู่แต่ซูอาก็ถือว่าคุ้มเสียเกินคุ้มกับเม็ดเงินที่หล่อนจะได้รับตอบแทน

     

    “เดี๋ยวผมจะให้คนมาเอาแทน และหวังว่าเรื่องวันนี้จะเป็นความลับ”ชานยอลบอกราวกับเตือน

    “ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ด้วยเกียรติเลยค่ะคุณชานยอล”ซูอาตอบรับไม่ใช่แค่ปาก หล่อนคิดจะทำจริงด้วยเพราะหล่อนเชื่อหมดใจว่า คนอายุน้อยวัยกว่าที่หล่อนกำลังเอาอกเอาใจอยู่นี้สามารถทำอะไรได้มากพอที่หล่อนจะหายไปจากโซลก็ยังทำได้ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับปาร์ค ชานยอล

    “คงไม่ผิดหวังเหมือนเคย”ชายหนุ่มไม่ได้ฟังอะไรต่อจากนั้น โอบเอวแบคฮยอนออกมาจากร้านทันที

     

    ชานยอลพาคุณแม่ตัวเล็กทานข้าวอีกนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาอาหารเย็นแล้วก่อนพากลับเข้าห้องพักทันทีที่ทานอาหารเสร็จ จนแบคฮยอนเองก็อดคิดไม่ได้ว่าที่พาเขาไปเดินเล่นก็แค่พาเขาไปตัดชุดเท่านั้น หากเมื่อมาถึงห้องชานยอลก็ทำให้เขาประหลาดใจอีกรอบของวัน

    เมื่อห้องที่เคยตกแต่งอย่างตามมีตามเกิดของเขามันถูกเปลี่ยนให้เป็นห้องที่น่าอยู่มากขึ้นฟูกเล็กถูกเปลี่ยนเป็นเตียงนอนขนาดกลางที่สามารถนอนได้สองคนพร้อมกับหมอนนิ่มมากมายที่น่านอนถูกย้ายมาวางกลางห้อง ซึ่งปลายเตียงก็เป็นโต๊ะเตี้ยสำหรับวางโทรทัศน์และชุดเครื่องเสียงขนาดเล็ก ส่วนเตียงเด็กของเขาถูกพับเก็บแอบเอาไว้ก่อน แทนทีด้วยโต๊ะเขียนหนังสือทำจากไม้ที่มีสีเดียวกับเตียงนอนและเก้าอี้อีกสองตัวที่สามารถนั่งทานอาหารได้อย่างสบายอยู่ติดกับประตูทางออกระเบียงของห้องตู้ใส่เสื้อผ้าขนาดสามชั้น ที่ด้านบนวางอุปกรณ์ของเด็กอ่อนจำพวกที่ล้างขวดนม กาน้ำร้อน วางเป็นระเบียบดูพร้อมใช้งาน

    เตียงนอนที่ชานยอลสั่งทำมานี้ด้านใต้มีช่องสำหรับสอดเอาไว้เก็บของได้ด้วย ซึ่งชายหนุ่มซื้อโต๊ะตัวเตี้ยที่สำหรับกางออกมาใช้รับแขกสำหรับนั่งพื้นเอาไว้ให้เนื่องจากพื้นที่ปลายเตียงค่อนข้างกว้างพอสมควรจึงวางโซฟาตัวเตี้ยที่มีขนาดความสูงพอดีกับความสูงเตียงเอาไว้แทนเก้าอี้รับแขก ห้องจึงดูเป็นระเบียบมากขึ้นทั้งยังมีพื้นที่เหลือให้ดูโปร่งสบาย

     

    “ค…คุณชานยอล”แบคฮยอนทำท่าทางตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม ทำเอาเขาบรรยายออกมาเป็นคำพูดลำบาก

    “ฉันทำตามใจมากไปนิด เธอคงไม่ว่าอะไร”ชานยอลบอกเท่านั้น หากแบคฮยอนต่างหากที่อยากจะบอกว่าเขาจะว่าอะไรชานยอลได้ในเมื่อมันเป็นอะไรที่เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ

    “ม..ไม่ว่าหรอกครับ แต่..มันไม่เกินไปหรอครับ คงแพงน่าดู”แบคฮยอนกัดปากบอก เขาคิดสาระตะไม่ออกเลยว่าการที่จะเปลี่ยนห้องทั้งห้องในเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เขาออกไปเดินซื้อเสื้อผ้าอยู่ครู่เดียวจะต้องใช้แรงงานคนกับแรงเงินอัดฉีดเท่าไหร่จึงจะสามารถออกมาได้ผลลัพธ์แบบนี้

    “ไม่หรอก ฉันว่าอย่างนี้นะดีกว่ากันเยอะ ฉันซื้อความปลอดภัยให้ลูกให้ภรรยาก็ไม่ถือว่าผิดนี่”ชายหนุ่มบอกมาหน้าตาเฉย แบคฮยอนได้แต่อ้าปากพะงาบๆอย่างนั้นพลางถอนหายออกมาแรงๆไม่ได้

     

    ตอบโต้เขาไม่ไหว เพราะรู้เลยว่าถ้าต่อปากต่อคำกับชานยอลทีไรเขาไม่เคยชนะ ถ้าเป็นสมัยก่อนล่ะก็ถ้าเขาเถียงชานยอลจะโดนตอกกลับมาให้น้ำตาตกใน แต่ตอนนี้ก็เดาไม่ยากว่าถ้าเถียงหนึ่งคำชายหนุ่มคงหาคำพูดอะไรมาทำให้ใจเขาต้องเต้นแรงกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ

    แบคฮยอนเลยเอาความสนใจของเขาไปลงที่ข้าวของเครื่องใช้ใหม่ที่ชานยอลหามาให้เสียดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะตู้เตียงที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ของมันดูจะเหมาะเจาะพอดีกับการใช้สอยของคนที่มีความสูงขนาดแบคฮยอน ไม่ว่าจะเป็นเตียงที่มีความสูงพอดีกับการลุกนั่งของเขาที่สามารถลุกยืนได้อย่างสบายโดยไม่ต้องให้ใครคอยพยุง โซฟาปลายเตียงหรือโต๊ะ เก้าอี้ทานอาหารมันพอดีเสียจนราวกับถูกสั่งทำ

     

    “เป็นไงบ้างสบายพอดีไหม”ชานยอลถามย้ำจนเขามั่นใจว่ามันเป็นของเฉพาะจริงๆ

    “สบายครับ สบายมากๆเลย ดูไม่ลำบากเหมือนก่อนหน้านี้แล้วครับ”แบคฮยอนบอกอย่างไม่ปกปิดความชอบใจ เขาก็เป็นเด็กคนหนึ่งเมื่อมีใครมาทำเอาให้พิเศษอย่างนี้ก็ย่อมดีใจเสมอ

     

    ยิ่งคนคนนั้นเป็นปาร์ค ชานยอลยิ่งแล้วใหญ่

    ชานยอลปล่อยให้แบคฮยอนสนุกกับข้าวของที่ได้มาใหม่โดยที่เขาเองก็นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟาตัวใหม่ปลายเตียง เขาน่ะได้สิ่งตอบแทนจากแบคฮยอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการอะไรที่มากกว่านั้น

    ชายหนุ่มนั่งยิ้มจางๆเขาไม่ได้ยิ้มกับภาพที่ชายออกมาจากโทรทัศน์ด้านหน้าเขาเลย แต่มันมาจากรอยยิ้มหวานของแบคฮยอนยามหยิบจับลูบคลำของที่เขาหามาให้ นั่นถือว่าเป็นสิ่งที่แบคฮยอนได้ทำตอบแทนการเนรมิตรห้องของชานยอลได้ทั้งหมดแล้ว

    แรงยวบด้านข้างของเบาะทำเอาคนที่ทำเป็นไม่สนใจคนตัวเล็กมาแต่แรก ต้องเหลือบตามองนิดๆ

     

    “เอ่อ..คุณชานยอลฮะ ขอบคุณมากนะครับ”แบคฮยอนเอ่ยปากบอกเล็กน้อย ดวงตาเรียวเล็กที่เคยเศร้าบัดนี้ถูกแทนทีด้วยประกายสดใสจนชานยอลต้องมองมันอยู่นาน

    “ขอบคุณจริงๆที่ทำเพื่อเราขนาดนี้ คงทำให้คุณลำบากแย่”แบคฮยอนเอ่ยปากอย่างนึกเกรงใจหากเป็นชานยอลที่ขยับไปดึงคุณแม่ท้องแก่เข้ามาใกล้ตัว

    “งั้นยิ้มให้ฉันบ่อยๆก็พอ”ชานยอลกระชับกอดแรงขึ้นอีกนิดแต่ก็ไม่ทำให้แบคฮยอนต้องอึดอัดตัว แบคฮยอนไม่ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรออกมา แต่เขากลับยิ้มอย่างที่อีกคนขอเอาไว้ให้แทนคำพูดทั้งหมด

     

    เขาถือว่าเขากำลังใกล้ความสำเร็จเข้าไปอีกแบบก้าวกระโดด มันดีที่แบคฮยอนดีใจและยอมรับของของเขามากกว่าโดนปฏิเสธอย่างไร้เยื้อใย ดังนั้นจากนี้ไปก็คงต้องกัดฟันต่อไปอีกสักนิด

    ผลในอนาคตที่ชานยอลได้รับอาจจะยิ่งมีค่างดงามกว่านี้อีกแน่ๆ

     

     

    **************************************************************************************

     

    TBC ตอนนี้อาจจะสั้นๆไม่ค่อยมีอะไร(หรอ) นินึงนะคะ สำหรับ #แบคพิการ คงมีความสุขแหละเนอะ นี่ก็เลิกสาปแช่ง #ปาร์คไม่แคร์ กันเลยดิ ขออภัยสำหรับคำผิดมากมายที่ยังไม่แก้นะคะ ยังไงกล้วยจะตามมาแก้ทีหลังนะคะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×