ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} DISABLE..พิการ [ChanBaek] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #17 : - Disable - 16

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.4K
      127
      21 ส.ค. 57

     

     

    SIXTEEN

     

     

     

     

    ย่างเข้ายี่สิบแปดสัปดาห์ของความเป็นแม่ แบคฮยอนเริ่มตื่นเต้นมากขึ้นไปกว่าเดิม ครั้งล่าสุดที่ไปพบแพทย์ คุณหมอจงแดทำอัลตร้าซาวด์แล้วลูกหมูน้อยเพศหญิงของเขามีสภาพสมบูรณ์ดีทุกอย่าง ร่างกายครบสามสิบสองอย่างที่เขาปรารถนาอย่างให้เป็น ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุด

    ตอนนี้ก็แค่ตั้งตานับวันรอที่จะเจอเจ้าตัวป่วนเสียที อยากได้ยินเสียงร้องไห้กระจองอแงของเด็กตัวน้อยจนแทบทนไม่ไหว

    แบคฮยอนหยิบจับเสื้อผ้าใส่ตระกร้าของตัวเองอยากขะมักขเม้น ทั้งที่ปกติเซฮุนมักจะช่วยเขาอยู่เสมอแต่เด็กหนุ่มวานให้บอดี้การ์ดคนเก่งไปซื้อของใช้เล็กๆน้อยที่ขาดใช้ในห้องจึงไม่ได้อยู่ช่วย เพราะตอนแรกก็ว่าจะออกไปเอง เซฮุนก็ไม่ยอมให้ไป เลยต้องวานให้เซฮุนออกไป เจ้าตัวอิดออดอยู่นานด้วยกลัวความไม่ปลอดภัยของแบคฮยอนเพียงแต่อีกไม่ถึงสิบนาทีลู่หานก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาแล้วเซฮุนจึงยอมออกไป

    นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ได้มีเวลาเป็นส่วนตัวบ้างเล็กๆน้อยๆ

     

    ก๊อก..ก๊อก

     

    เสียงเคาะประตูดึงความสนใจแบคฮยอนไปเล็กน้อย คนตัวเล็ดเดินไปเปิดต้อนรับบด้วยอารมณ์ดี..ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่คิด เพื่อนสนิทหน้าหวานของเขายืนยิ้มร่าหน้าบานเลยทีเดียว เจ้าของดวงตากลมโตยิ้มเสียจนตายิบหยีน่ามองหอบเอาของพะรุงพะรังมาวางไว้ที่โต๊ะทานอาหารอดที่จะมองสอดส่ายสายตาไปมาไม่ได้ที่เดินเข้ามาในห้องของเพื่อนตัวเอง

     

    “โหย..อะไรเนี่ยเราไม่ได้มาแค่สองสามอาทิตย์เองนะ ทำไมห้องสวยจังเลย”ลู่หานวางขนมนมเนยคาวหวานเอาไว้ แล้วจึงเดินมานั่งลงตรงโซฟาตัวนิ่มตัวใหม่ที่เขาเพิ่งเคยเห็น

    “คุณพ่อของกูซึลเขาเป็นคนทำให้น่ะ เขาบอกว่าของใช้อันเก่ามันทำให้เราเคลื่อนไหวลำบาก”แบคฮยอนบอกแค่นั้นกลับได้สายตาหรี่เชิงรู้ทันของลู่หานตามมา

    “นั้นแน่…แน่เหรอคุณบยอน เปลี่ยนเตียงเป็นเตียงควีนไซส์เนี่ยพ่อของกูซึลก็คงไม่ต้องลงไปนอนพื้นแล้วล่ะซิ เอ…นอนตรงไหนนา…”ลู่หานทำเป็นนึกไปอย่างนั้นเอง

    “ไม่ต้องเลยคุณลู่ ไม่ต้องมาแซวเราเลย ว่าแต่เรื่องงานน่ะเสร็จแล้วใช่ไหม ถึงมีเวลามาหาเราอย่างงี้น่ะ”แบคฮยอนสับเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่องอื่นทันที ไม่อยากโดนเพื่อนแกล้งมากกว่านี้เดี๋ยวจะตอบอะไรไม่ถูก

    “เรียบร้อยแล้ว นี่เราผ่านโปรเจ็คแรกมาได้อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไรแล้วด้วย เราเลยมีเวลามาหาคุณบยอนไง ดีใจไหมล่าาาา”ลู่หานบอกอย่างมีความสุข

     

    สายการเรียนของเขาค่อนข้างมีงานเยอะไม่เหมือนกับคยองซู รายนั้นเรียนบริหารงานเลยน้อย เน้นสอบเน้นรายงาน แต่ลู่หานน่ะเรียนนิเทศน์งานเยอะ แต่แทบไม่ต้องอ่านหนังสือเลยด้วยซ้ำไป ทำงานอย่างเดียวก็ผ่านแล้ว

     

    “ดีแล้ว แต่ที่บอกว่ามีเวลามาหาเราน่ะ..แน่ใจนะคุณลู่ ไม่ใช่ว่ารู้ว่ามีคนมาเฝ้าเราบ่อยๆแล้วอยากจะมาหาคนนั้นกันแน่หรอ..อย่าเอาเราเป็นสะพานเลยดีกว่า”แบคฮยอนแกล้งหยอกเพื่อนคืนเสียบ้างลู่หานเบิกตาโต ใบหน้าขาวเปลี่ยนสีเป็นแดงจัดน่ามองเลยทีเดียว

    “พูดอะไรของนายเนี่ยคุณบยอน เราคิดถึงคุณบยอนเราก็ต้องมาหาคุณบยอนซิ ใครจะมาหาคนเย็นชาอย่างนั้นกัน”ตอนแรกก็เสียงดังดีอยู่หรอกแต่หลังๆพึมพำเหมือนพูดกับตัวเองชอบกล

     

    ก็นั่นแหละนะ หลังจากที่เขามีเบอร์โทรศัพท์ของเซฮุน เขาก็เริ่มเซฟเบอร์แล้วก็แอดไลน์อีกคนเอาไว้ จะหาว่าลู่หานใจง่ายนิสัยไม่ดีก็ได้นะแต่เขาก็ทักทายเซฮุนไปก่อนจริงๆ ซึ่งเวลาคุยกันลู่หานมักจะเป็นฝ่ายพิมพ์เยอะในขณะที่คนตอบก็ตอบน้อยจนลู่หานชักเริ่มหมดกำลังใจแล้ว

    แต่คนมันชอบไปแล้วจะให้ทำไงได้ เขาตอบมานิดๆหน่อยๆก็ดีใจจนเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว

     

    “ว่าแต่วันนี้ทำไมอยู่คนเดียวได้ล่ะ ปกติเห็นต้องมีคนคอยเฝ้าอยู่ตลอดไม่ใช่หรอ หายไปไหนกันหมดล่ะ แปลกชะมัดเลยไหนบอกว่ากลัวมีอันตรายไง”ลู่หานทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนเรื่องตัวเองโดยพยายามถามถึงเรื่องของแบคฮยอนบ้าง เดี๋ยวจะเตลิดกันไปใหญ่แล้วจะยุ่งไปหมด

    “ถ้าเป็นคุณชานยอลล่ะก็ออกไปประชุมกับคุณจงอินแต่เช้าแล้วล่ะ เห็นจะกลับมาเย็นๆ อืม..แต่ถ้าคุณลู่จงใจจะถามถึงคนอื่นล่ะก็เราก็จะช่วยตอบให้ว่า….เราวานเขาออกไปซื้อน้ำมันพืชกับกระดาษที่ทิชชู่น่ะ”แบคฮยอนยังคงแกล้งแหย่เพื่อนหน้าขาวของตัวเองไม่เลิกจนอีกคนแทบลุกขึ้นเต้น

    “ย่าห์!!! คุณบยอนเดี๋ยวนี้ไปติดนิสัยแบบนี้จากใครมานะ!! หรืออยู่กับคุณโดมากไป ไม่ดีๆๆๆอย่าไปเอานิสัยแบบนั้นมาเชียวนะ”ลู่หานโวยวายไม่ดังมากนักจนสุดท้ายก็พาดพิงไปยังเพื่อนอีกคนที่ไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ด้วยกันในตอนนี้

     

    ก๊อก…ก๊อก..

     

    “นั้นไง..เห็นไหม พอบ่นถึงเขาก็มาเลย สงสัยเนื่อคู่กันเขาจะสื่อถึงกันได้แฮะ ตายยากเนอะคุณลู่เนอะ”แบคฮยอนยิ้มหวานชอบใจและนึกสนุกที่ได้แกล้งเพื่อนของตัวเองเล็กก่อนเดินไปเปิดประตูให้คนในหัวข้อสนทนา

     

    เพียงแต่เมื่อเปิดประตูออกมากลับไม่ใช่คนที่ตัวเองคาดว่าจะได้เจอ เป็นชายในชุดสูทสีดำที่ดูสุภาพหากใบหน้าคร้ามเข้มทำให้แบคฮยอนนึกแปลกใจ

     

    “ไม่ทราบว่าคุณแบคฮยอนใช่ไหมครับ”เสียงเข้มถามอีกคนเจ้าตัวพยักหน้าเบาๆ

    “ใช่ครับไม่ทราบว่า….!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

      

     

     

     

    กลิ่นเบาะหนังราคาแพงและรถคันหรูไม่ได้ทำให้แบคฮยอนรู้สึกปลอดภัยอะไรสักอย่างเดียว ลู่หานกับเขาจับมือกันแน่นราวกับจะบอกว่าจะปลอดภัยหากอยู่ด้วยกันอย่างนี้

    แบคฮยอนถูกจับตัวมาอย่างละมุนละม่อม และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยแต่คนที่เจ็บตัวนิดหน่อยน่ะคือลู่หานที่ใบหน้าสวยมีรอยช้ำ รอยแตกที่มุมปากกับรอยถลอกเพราะเส้นพลาสติกที่รัดข้อมือเอาไว้

    แบคฮยอนตัดสินใจว่าจะไม่สู้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น เขามีเด็กอยู่ในท้องและมันอันตรายมากสำหรับเรื่องรุนแรงพวกนี้ แบคฮยอนไม่ขอเสี่ยงกับชีวิตของกูซึลเด็ดขาดเขาจะปกป้องมันไว้ด้วยชีวิต

    คนตัวเล็กที่ตอนนี้จิตใจของเขากำลังเข้าขั้นวิกฤต ตอนที่เห็นลู่หานถูกทำร้ายเขาคิดว่าต้องแย่แน่เลยยอมจำนนเดินตามคนพวกนั้นมาอย่างง่ายๆ โดยมีลู่หานที่โดนตบด้วยฝ่ามือไปสองทีหลังจากการขัดขืนเอาเท้าไปกระแทกหน้าของหนึ่งในสองของคนชุดดำนั้น

     

    “ต้องไม่เป็นไร เชื่อเรานะคุณบยอน”ลู่หานกระซิบบอก เขารู้ว่าแบคฮยอนกำลังกลัวถ้าหากว่าโดนจับมาคนเดียวก็คงไม่กลัวเท่านี้แต่เพราะว่าแบคฮยอนมีกูซึลอยู่ในท้องจึงกลัวมากกว่าที่เป็น

    “เรากลัว..กลัวมาก”แบคฮยอนพยายามกลั้นความกลัวในใจเอาไว้

     

    รถเคลื่อนตัวเข้าในตึกอาคารพานิชย์ขนาดกลางความสูงประมาณห้าชั้นและดูดีทีเดียว ด้านล่างบ่งบอกว่าเป็นโชว์รูมรถขนาดใหญ่ มีรถหรูหรามากมายคันละหลายสิบล้านจอดอวดโฉมเรียกสายตาแต่มันก็ไม่ได้ทำให้แบคฮยอนสนใจแม้แต่น้อยเลย

     

    รถหยุดลงที่ลานจอดรถใต้อาคารตึกมันวังเวงและน่ากลัว มันไม่ใช่ที่ที่แบคฮยอนอยากมา เขากับลู่หานยังคงจับมือเอาไว้แน่นแม้ว่าเชือกที่รัดข้อมือจะถูกเอาออกตั้งแต่ลู่หานขึ้นรถแต่เชื่อว่าหากคนตัวเล็กทำตัวมีปัญหาชายพวกนี้อาจจัดการเขาด้วยวิธีที่รุนแรงกว่านี้ก็ได้

    แบคฮยอนถูกเชิญตัวอย่างสุภาพให้ตามพวกเขาสองคนไปอย่างเงียบๆ แบคฮยอนเลือกเดินตามไปอย่างดีไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้นจนเขาถูกพาให้ขึ้นลิฟฟ์ไปยังชั้นสูงสุดของตึก ทางเดินตกแต่งอย่างหรูหราและพื้นไม้นั้นก็ขัดเงาอย่างสะอาดเอี่ยมสุดปลายนั้นมีประตูกระจกสีขุ่นอยู่เพียงบานเดียว

    ด้านหลังประตูบานนั้นคือ ชายร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้ปาร์ค ชานยอล หากเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นกลับดูสบายๆ ชายหนุ่มสวมเพียงแค่เสื้อหนังทับเสื้อยืดคอวีและกางเกงยีนส์สีซีดที่พอดีตัว เหมือนคนที่ออกมาจากนิตยสารแฟชั่นก็ไม่ปาน เพียงแต่ดวงตาเรียวเล็กดูขี้เล่นของอีกคนกลับไม่มีอะไรน่าวางใจ

     

    “สวัสดี นายคงเป็น…บยอน แบคฮยอนซินะ”ชายหนุ่มยิ้มเผล่ก้าวเข้ามาหาแบคฮยอนอย่างถูกตัวทันที

    “ครับ ผ..ผมเอง”แบคฮยอนเสียงสั่นน้อยๆ ไม่ใช่แค่เพียงเสียงแต่ตัวเขากลับสั่นไปทั้งตัว

     

    เพี๊ยะ!!!!!

    “คุณ!!!”

     

    เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าขาวอย่างแรง เสียจนแบคฮยอนเกือบถลาลงพื้นหากไม่มีการประคองตัวเอาไว้เสียก่อน

    แก้มขาวของแบคฮยอนชาหนึบไปหมด รสขมปร่าผสม กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอบอวลไปหมดทั้งปากจนเขาอยากอาเจียนออกมา ผิวเนื้อของเขารู้สึกได้ว่ามันเต้นตุบๆด้วยความเจ็บจนหูอื้อ แก้มเขาขึ้นสีแดงจนเป็นรอยนิ้วมือครบทั้งห้าจากฝ่ามือ อีกไม่นานก็คงบวมช้ำเพราะแรงที่ไม่ยั้งมือของคนกระทำอุกอาจคนนั้น

     

    “แก…แกมัน..”ลู่หานทำท่าจะวิ่งเข้าใส่เพียงแต่แบคฮยอนรั้งมือเขาเอาไว้เสียก่อน

    “ถ้าเป็นฉันจะระวังคำพูดมากกว่านี้นะคนสวย ส่วนนายก็โทษผัวตัวเองละกัน หมอนั่นมันน่าหมั่นไส้แต่ทำมัน มันก็คงไม่เจ็บเท่าทำกับนาย วิปริตไปหมด เอาคู่หมั้นพี่สาวตัวเอง แถมยังมาท้องได้อีกแน่ะ..นายนี่มันน่าสนใจจริงๆ อยากรู้จริงๆเด็กในท้องจะเป็นตัวอะไร”ชายหนุ่มตรงหน้าบอกอย่างไม่ยี่หระ

     

    คำพูดหยาบคาบไม่น่าฟังทำให้แบคฮยอนเม้มปากแน่น แบคฮยอนโกรธ..ที่ตัวเองโดนว่าไม่เท่าที่อีกคนกำลังว่าลูกสาวของเขา

     

    “ผมไม่รู้หรอกนะ..ว่าคุณกับคุณชานยอลเกลียดอะไรกัน แต่การที่เอาความโกรธของตัวเองไปลงที่คนไม่รู้เรื่องอย่างผมกับเพื่อนของผม เป็นการกระทำของตัวที่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกว่าตัวอะไร”แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นจ้องตาอีกคนด้วยสายตาแข็งความโกรธทำให้อีกคนต่อปากต่อคำกลับไปอย่างที่ไม่เคยคิด

    “หึ..ปากกล้าเหมือนกันนี่ มิน่าล่ะ..ปาร์ค ชานยอลถึงชอบได้ชอบเอานัก เอากันจนท้องขนาดนี้ บนเตียงสงสัยก็คงปากดีแบบนี้ สนใจมามีลูกกับฉันอีกสักคนไหมล่ะ”ชายหนุ่มจับใบหน้าของแบคฮยอนไว้ด้วยมือข้างเดียวมองดวงตาเรียวสวยที่แข็งกร้าวของคนตัวเล็กแล้วนึกสนใจขึ้นมา

    “ต่ำ!!!!”ลู่หานแผดเสียงใส่ เขาทนฟังคำพูดเลวๆของคนตรงหน้ามามากเกินไป

    “ก็ไม่ได้ต่ำไปกว่าไอ้สวะผัวนายหรอก ไม่งั้นคงไม่เอากันจนออกมาเป็นตัวขนาดนี้ ขนลุกนะ..แต่ก็น่าลองสักที”มยองซูยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกคนมากขึ้น

     

    แบคฮยอนเองก็ไม่ยอมหลบตาคนที่จ้องเขาอยู่เหมือนกันแม้ในใจของเขาจะสั่นไหวด้ยความกลัวมากแค่ไหนแต่ก็ไม่ยอมที่จะหลบให้คนคนนี้แน่ เพราะเขากล้าดีอย่างไรมาว่ายอดดวงใจของแบคฮยอน

     

    “ถ้านายเจอฉันก่อน..ฉันคงอยากได้นายน่าดู เอาไปขังไว้ที่ห้องข้างหลัง เฝ้าไว้..อย่าให้หายล่ะ เดี๋ยวถึงตอนสำคัญแล้วมันจะไม่สนุก”เขายักคิ้วกวนโมโหแบคฮยอนกับลู่หาน พลางปล่อยมือจากใบหน้าเล็กของแบคฮยอนไม่วายลูบหลังมือไปที่แก้มช้ำของแบคฮยอนเบาๆไม่ต่างจากการตบหัวแล้วลูบหลัง

    “แล้วจะแวะเข้าไปเล่นด้วยบ่อยๆนะ อย่าคิดทำอะไรโง่ๆล่ะ ถ้ายังอยากให้ไอ้ตัวในท้องมันออกมาดูโลก”คำขู่ของชายหนุ่มที่เขาไม่รู้จักแม้แต่ชื่อนั้นทำให้ แบคฮยอนหน้าซีดจนเกือบขาวแต่ก็เป็นสิ่งที่คนมองชอบใจ

     

    แล้วเขาก็โดนพาไปอีกห้องที่อยู่ติดกันโดยมีคนเฝ้าเขาเอาไว้ในห้องเช่นกัน สภาพห้องไม่ได้เลวร้ายและมันอาจจะหรูหรามากกว่าจะเป็นห้องคุมขังเพราะมันคือห้องนอนของคนใจร้ายที่จับเขามาแน่นอน

     

    “เจ็บมากไหม คุณบยอน”ลู่หานพาแบคฮยอนมานั่งลงบนเตียง จับใบหน้าเล็กหันเพื่อดูร่องรอย

    “เจ็บซิคุณลู่ แต่เราไม่ได้เจ็บที่หน้านะ..ฮึก!! เราเจ็บใจที่เขามาว่ากูซึลของเรา เขามาดูถูกกูซึลของเรา..ฮ..ฮึก.. เขาไม่เคยเป็นแม่คนเขาไม่รู้หรอกว่าเรารู้สึกยังไง มีใครมาว่าลูกเรา เราเจ็บมากเลยนะ กลัวก็กลัวว่าเขาจะทำอะไรเรากับลูก..แต่มันอดไม่ได้จริงๆ..ฮืออออ”แบคฮยอนปล่อยก้อนสะอื้นออกมาทั้งๆที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้

    “ไม่เป็นไรนะ..ไม่เป็นไร เราเชื่อว่าเดี๋ยวคุณชานยอลจะต้องมาช่วยแน่ๆ คุณบยอนต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องกูซึลนะ”ลู่หานกอดเพื่อนตัวเองเพื่อปลอบให้สงบลง

     

    หากเป็นลู่หาน ลู่หานเองก็ต้องกลัว อยู่ดีๆก็โดนจับมา แถมยังถูกว่ากล่าวแบบสาดเสียเทเสียโดยไม่ได้ทำผิด ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าโดนจับมาเพื่ออะไร ไม่รู้แม้กระทั้งว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนหรือตรงไหนของโซล ไม่รู้แม้กระทั้งชื่อของคนที่จับเขามา

    ไม่รู้แม้กระทั้งว่า…จะมีชีวิตรอดกลับออกไปจากที่นี่ได้ด้วยหรือไม่

    ความรู้สึกของการที่ไม่รู้อะไรเลยมันน่ากลัวจริงๆนั้นแหละ ไม่แปลกที่แม่ลูกอ่อนแบบแบคฮยอนจะประสาทเสียแบบนี้

     

    “เรามาภาวนาด้วยกันนะ คุณบยอน..เรามาภาวนาด้วยกัน เราจะขอให้พ่อแม่ของคุณบยอนช่วยคุ้มครองชีวิตน้อยๆที่กำลังเกิดมาให้ปลอดภัย”ลู่หานพยายามปลอบในทางที่ดีแม้ว่าสถานการณ์จะเลวร้าย

    “อ..ฮึก..อือ..เราจะพยายามนะ..เราจะเข้มแข็ง..กูซึลจ๋า ไม่ต้องกลัวนะคะ แม่จะปกป้องหนูด้วยชีวิตของแม่เองนะ..”แบคฮยอนพูดเอาไว้อย่างหมายมั่น

     

    เขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรแต่ชีวิตของลูกเขาจะต้องทำให้ปลอดภัย ไม่ให้เจ็บให้ปวดแม้แต่น้อย ยอมแลกด้วยเลือดด้วยเนื้อแบคฮยอนก็ยอมทำได้

    ในเมื่อกูซึลคือหัวใจเพียงดวงเดียวที่เป็นของทั้งเขาและปาร์ค ชานยอล

     

     

     

     

    Rrrrrrrrr

     

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นคือเป็นสายที่ชานยอลรออยู่แล้ว รออย่างใจจดใจจ่อที่จะให้โทรศัพท์เข้ามาสักที ชายหนุ่มเว้นระยะอยู่เพียงครู่เดียวจึงกดรับ

     

    “สวัสดี..มยองซู”ชาลยอลทำเสียงนิ่งราวกับไม่เกิดอะไรขึ้น

    [สวัสดีครับ คุณชานยอล น่าดีใจนะครับที่คุณมีเบอร์โทรศัพท์ผมแบบนี้]ปลายสายทำน้ำเสียงขี้เล่นกวนประสาทคนฟัง

    “หึ..ก็นายมีของของฉันอยู่นี่”ชานยอลไม่ได้สนุกด้วยเลย

    [รู้เร็วก่อนผมอีกนะครับ แล้วไม่ทราบว่าชอบของที่ผมส่งไปให้ไหมครับ]อีกคนบอกอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรออกไป

    “ก็ดี น่าประทับใจ”ชานยอลพูดเพียงสั้นๆเท่านั้น

    [โถ แค่ประทับใจหรอครับ คงได้แผลพอให้คันๆซินะครับ]ชานยอลฟังนิ่งๆ ในขณะที่อีกฝ่ายพยายามตีรวนเขาให้มีอารมณ์

    “เข้าเรื่องมาเลยดีกว่า มันเสียเวลา”ชานยอลไม่ได้อยู่ในอารมณ์คุยเล่นกับอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้วในตอนนี้

    [ครับ ของแลกของ ผมต้องการเงินของผมที่เสียไปคืน..กับของแถมเป็นหุ้นคาสิโนสัก…สามสิบเปอร์เซ็นต์คงไม่มากเกินไปถ้าเทียบกับชีวิตของลูกเมียหรอกนะครับ]มยองซูเสนอออกมา ซึ่งไม่มากหรอกสำหรับเงินจำนวนนั้น แต่ค่าของมันเป็นศักดิ์ศรีของเขา

    “หึ..ได้ซิ คืนนี้เลยก็ได้ แต่ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่า แบคฮยอนยังปลอดภัยอยู่”ชานยอลถามเพื่อความแน่ใจ

    [งั้นรอสักครู่….]ปลายสายเงียบไปอยู่พักใหญ่ ก่อนจะได้ยินเสียงกุกกักบางอย่าง

     

    [คุณชานยอล..ครับ]เสียงเบาๆปลายสายทำให้ใจชายหนุ่มร้อนรนจนเกือบทนไม่ไหว เพียงแต่ยังรักษาท่าทีเพื่อไม่ให้ศัตรูได้ใจไปมากกว่านี้

    [ผมอยาก..ฮึก..กลับบ้าน พาผมกลับบ้านที…อ๊ะ!! // ได้ยินเสียงแล้วนะครับ หวังว่าคงไม่ผิดคำพูดกับผมหรอกนะครับ..เจอกันเที่ยงคืนนี้ ผมไม่ห้ามให้ขนคนมาบุกหรอกนะครับ แต่ทำอะไรก็…คิดถึงชีวิตลูกหมาน้อยไว้ก็ดีเนอะ]เสียงเปลี่ยนไปเป็นเสียงของเจ้าของโทรศัพท์อีกครั้งทำให้ชานยอลเกือบระงับความโกรธเอาไว้ไม่ไหว

    “ไม่ผิดหรอก”ชานยอลบอกเล็กน้อยก่อนหยิบปืนมาจากจงอิน

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    เสียงปืนลั่นดังจนเกือบเสียดแก้วหูเขาไปผ่านสายโทรศัพท์จนปลายสายนึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นและออกจะตกใจอยู่มากพอควรแต่หากก็รอจนกว่าเสียงจะเงียบไปเอง

     

    “โทษที บังเอิญว่าฉันเจอหนอนอยู่ในบ้านเลยต้องกำจัด มันสกปรก”ชานยอลบอกก่อนตัดสายทิ้งอย่างไม่มีเยื้อใย

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

    ชานยอลยังคงคว้าปืนในมือมายิงต่อไปเรื่อยๆจนกระทั้งจงอินเดินมาแตะบ่าของเขาเอาไว้เพื่อเตือนสติ บอกว่าศพที่นอนกองตรงหน้านั้นต่อให้เขายิงอีกกี่ครั้งก็ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาใหม่เพื่อทำร้ายใครได้อีกแล้ว 

    กลิ่นเลือดเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง และบางส่วนก็กระเด็นถูกใบหน้าและตามตัวของชานยอล  เพียงแต่เขาไม่ได้ใส่ใจกับมันเลยสักนิดเดียว

     

    “เซฮุนเป็นยังไงบ้าง”ชานหนุ่มรับผ้าเช็ดหน้าจากจงอินมาเช็ดไปที่ข้างแก้มเปื้อนเลือดแล้วโยนมันลงไปกองกับซากศพ ทั้งยังเดินข้ามเพื่อออกมาจากตรงนั้น ยิ่งเห็นอารมณ์พลุ่งพล่านแบบนี้กลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้

    “ไม่ได้เป็นอะไรมากครับ กระสุนทะลุต้นขาออกมาที่เหลือแค่ถากๆเท่านั้นครับ”จงอินบอกเขารู้ดีว่าชานยอลโมโหมากแค่ไหนกับเรื่องที่เกิด

     

    เขารู้อยู่แล้วว่ามันต้องเกิด รู้อยู่แล้วว่าสักวันก็ต้องเกิด พยายามควบคุมแล้ว..แต่ก็ยังหลุดรอดหนอนเข้ามาจนได้

    หนอน..หรือเรียกอีกอย่างว่าพวกที่แฝงตัวเข้ามาตามองค์กรณ์อื่นเพื่อสืบความลับ ส่วนใหญ่มักทำงานอยู่ไกลตาเขาเสียมาก และครั้งนี้พวกนั้นแฝงตัวมาทำงานเป็นทีมบี คือคนที่คอยสุ่มระวังอยู่ระยะไกล แทนทีมเอที่เขาเคยเอาไว้ดูแลแบคฮยอน เรื่องนี้ทำให้เขาคิดถึงการคัดกรองคนมากขึ้นอย่างเคร่งครัดและมันจะไม่มีครั้งหน้าอีก พวกหนอนน่ารำคาญต้องตายทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่

    คำถามคือ..ทำไมต้องเปลี่ยน เพราะวันนี้มีมือปืนกำลังลอบยิงเขาจากตึกอื่น จงอินจึงถือวิสาสะเรียกทีมเอมาคุ้มกันทั้งเขาและพี่โซราเพิ่มขึ้น ซึ่งเขายอมรับว่านี่เป็นความผิดพลาดของการตรวจสอบที่เมื่อคนในเปลี่ยนตัว จึงทำให้ง่ายต่อการลักลอบเข้ามา แต่เพราะมีเซฮุนเขาจึงวางใจ มันคงไม่พอเมื่อเซฮุนแค่เพียงคนเดียวจะรับมือกับมือปืนเป็นสิบที่ถูกสั่งมาดักยิงเมื่อเห็นช่องทาง ที่รอดมาได้ก็นับว่าบุญมากแล้ว เพราะเขาเองก็เพิ่งผ่าตัดกระสุนออกจากไหล่ตัวเองไปเมื่อบ่ายนี่เอง

    ถึงคิม มยองซูจะไม่โทรศัพท์มาหาเขาเพื่อเยาะเย้ย เขาก็รู้ว่าแบคฮยอนจะอยู่ที่ไหน เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ายังคงปลอดภัย มยองซูไม่ยอมที่จะให้แบคฮยอนเป็นอะไรหากยังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ

    ไม่ใช่ความผิดของใครเลย มันเป็นความผิดของปาร์ค ชานยอลคนเดียว เพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้น เพื่อแบคฮยอนกับลูกเขาเอาชีวิตตัวเองวางเดิมพันเอาไว้

    มยองซูไม่ได้อยากได้เงินหรอก นั่นคือข้ออ้าง มยองซูอยากได้…หัวของปาร์คชานยอลต่างหาก

     

    “ต่อสายหาเทากับซูโฮ”ชานยอลบอกกับจงอินในขณะที่เขากำลังเดินขึ้นรถเพื่อกลับไปเข้าสำนักงานเตรียมการทุกอย่างให้เสร็จอย่างเรียบร้อย ความวางใจเดียวตอนนี้ที่เขามีอาจไม่พอแต่มันก็ยังทำให้โอกาสรอดของแบคฮยอนมีมากขึ้นกว่าที่เขาคิด ไม่ว่าเขาจะเข้าปะทะในรูปแบบไหน

     

    ไม่นานนักโทรศัพท์ของจงอินก็ถูกยื่นใส่มือหนาของชานยอล ชายหนุ่มไม่มองแม้กระทั่งหน้าจอนั้นถูกต่อหาใคร แค่เพียงจับแนบหูเท่านั้นก็เพียงพอ

     

    “ไปถึงไหนแล้ว”ชายหนุ่มกรอกเสียงถาม

    [ใกล้ได้ตัวแล้วครับ คุณชาย]เสียงใสของปลายสายบอก ท่าทางรีบร้อนนั้นทำให้เขารู้ว่ามันเป็นไปตามที่วางเอาไว้

    “หาเจอใช่ไหม ซูโฮ”ชานยอลกรอกเสียงถามอย่างเลือดเย็น

    [เจอครับ เป้าหมายยังไม่รู้ตัว ว่าแต่คุณชายโดนยิง ไหวนะครับ]ซูโฮรางงานอีกครั้ง ทำให้ชายหนุ่มพอใจกับคำตอบ การเจรจาครั้งนี้อาจจะดีกว่าที่คิด เขาก็ยังคาดหวังอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

    “สนใจเรื่องคัดกรองทีมบีเถอะซูโฮ ถ้านายทำพลาด..คงรู้ว่าฉันจะทำยังไงกับเทา”ชายหนุ่มวางสาย ในขณะที่มีโทรศัพท์อีกสายต่อเข้ามาแล้วจึงกดรับต่อเลย

     

    [คุณชายครับ ผมเทา]ปลายสายเรียก หากชานยอลไม่ได้ตอบกลับไป

    [ตอนนี้คุณมยองซูให้ผมเป็นคนดูแลคุณแบคฮยอนอยู่ครับ ตามที่คุณชายบอกทุกอย่าง]ชานยอลคิดอะไรอยู่เพียงครู่เดียว ก่อนจะกรอกเสียงถาม

    “เขาเป็นยังไงบ้าง”

    [ตอนนี้หลับไปแล้วครับ คุณมยองซูลงมือเล็กน้อยแต่ไม่ได้กระทบกระเทือนร่างกายที่น่าเป็นห่วงครับ คุณมยองซูพามาไว้ที่ชั้นห้า ของอาคารสำนักงานส่งออกรถ การคุ้มกันแน่นหนาพอตัวครับ] เทาบอกอย่างละเอียด

    “ทำหน้าที่ให้ดี ชีวิตแลกชีวิต เข้าใจใช่ไหม แล้วก็ยังไม่ต้องบอกแบคฮยอนนะ ว่าเป็นคนของฉัน”ชานยอลถามเหมือนขู่แต่เทารู้ดีว่าชีวิตที่แลกกันกับแบคฮยอนจะไม่ใช่ชีวิตของเขาแต่เป็นของซูโฮ

    [ด้วยชีวิตครับ]ตอบรับแค่นั้นก่อนตัดสายไปอีกครั้ง

     

    เทากับซูโฮเป็นอีกคนที่ทำงานด้วยกันมานานจนไว้ใจ ซูโฮมีหน้าที่ฝึกและคัดเลือกคนเพื่อแบ่งเป็นทีมเอ คือหัวกะทิ และทีมบีคือรองลงมาแต่ก็ไม่ได้เก่งน้อยไปกว่ากันนัก เพียงแต่การที่ซูโฮพลาดที่สุดในครั้งนี้คือปล่อยหนอนให้เข้ามาปะปนกับคนของเขา

    ในขณะที่เทาคนที่เขาเคยชุบชีวิตเมื่อนานมาแล้ว การมีบุญคุณกับใครสักคนทำให้เขารู้ว่ามันมีประโยชน์มากในยามนี้ เพราะถ้าชานยอลไม่ช่วยวันนั้น ครอบครัวชาวจีนที่อพยพมาอยู่ในโซลครอบครัวนี้คงโดนฆ่าปิดปากตายทั้งครอบครัวเพราะมีหนี้ท่วมหัวไปแล้ว แต่งานที่เขาให้อีกคนทำก็ไม่ได้เสี่ยงน้อยเหมือนกัน 

    เทาเป็นสายของเขาที่ทำงานอยู่กับมยองซู ตั้งแต่มยองซูทำงานวันแรก เทาเป็นบอดี้การ์ดที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสามคนต้นๆที่มยองซูไว้ใจ ห้าปีที่เทาอยู่ที่นั่นมันนานมากพอที่จะไม่มีใครสงสัย

    เรื่องวันนี้เขารู้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดไหม..รู้แต่เดาทางไม่ออกว่าจะเกิดวันไหนและมันสายไปเพียงก้าวเดียวที่ชานยอลจะกันได้ ดังนั้นความหวังของชีวิตแบคฮยอน อย่างน้อยก็ยังปลอดภัยส่วนหนึ่ง

     

    “……”ชานยอลถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เลือดยังคงซึมออกมาจากแผลที่กระสุนที่ไหล่ซ้ายของเขา ชีวิตของชานยอลเสี่ยงอยู่ทุกวัน แล้วแบบนี้แบคฮยอนจะยังรับไหวหรือไม่

     

    ชีวิตแบคฮยอนกับลูกอยู่ในมือของเขา ไม่ต่างจากอีกหลายชีวิตอย่างลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่พร้อมจะสละอย่างซื่อสัตย์เพื่อปกป้องคนอย่างปาร์ค ชานยอล

    แต่ที่เหนือกว่าอะไรทั้งหมดอะไรที่พลาดไปแล้วไม่มีใครย้อนกับไปแก้ไขอะไรได้อีก แต่หมากเกมส์ต่อไปนี้ที่กำลังจะเริ่มขึ้นเขาจะเดินพลาดไม่ได้แม้แต่ตาเดียว หากพลาดไปแค่เพียงนิดเดียวหมายถึงเขาจะไม่มีสิทธิ์ได้เดินต่อไปอีกเลย

    ชีวิตแบคฮยอนแขวนอยู่บนเส้นด้ายเส้นบางๆ พอๆกับชีวิตของชานยอล

    เขาไม่เคยกลัวอะไรเท่านี้มาก่อนแต่วันนี้พูดได้เต็มปากว่ากลัว ไม่ได้กลัวตายแต่กลัวว่าแบคฮยอนกับกูซึลน้อยจะเป็นอะไรไป มือของเขาสั่น ใจของเขาเต้นช้าลงทั้งๆที่ในอกบีบอัดเหมือนจะหายใจไม่ออกเพราะเพียงแค่คิดถึงเรื่องๆร้ายของคนตัวเล็กนั้น

    ชายหนุ่มหลับตาลง..พยายามกอบโกยสมาธิ กับความคิดที่ถูกตีกระจัดกระจายด้วยความกลัวที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัสนักให้กลับมารวมอีกครั้ง

     

    “เตรียมเอกสารให้พร้อมจงอิน”เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป มันมั่นคงหากก็เต็มไปด้วยโทสะและอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดออกมา

    “ผมเตรียมเรียบร้อยแล้วครับ”ไม่ใช่จงอินแต่กลับเป็นเซฮุนที่บอกออกมาแทน ชายหนุ่มอยู่ในชุดที่เรียบร้อยไม่มีวี่แววของคนป่วยที่ถูกระดมยิงมาเลย

     

    ชานยอลมองหน้าเซฮุนนิ่งนานเหมือนเขาจะพูดคุยอะไรบางอย่างกันผ่านสายตา ชานยอลไม่ใช่คนละเอียดอ่อนขนาดมานั่งถามไถ่ว่าเป็นอย่างไรไหวไหม หรือสบายดีหรือเปล่า

     

    “อย่าทำตัวให้เกะกะก็แล้วกัน เรียกประชุมคน”ชานยอลพูดแค่นั้น หันหลังกลับไปมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดินใจเขาไม่สงบเหมือนใบหน้าเลย แต่มันเหมือนความสงบก่อนที่คลื่นลมพายุกำลังจะถาโถมเข้าทำลาย

    “ตอนนี้ฉันไม่วางใจใครทั้งสิ้น..นอกจากคนของพวกเราเท่านั้น อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”ชานยอลเอ่ยหันมาบอกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เกือบทั้งหมด

     

    อะไรที่มันจะเกิดก็ต้องเกิด อะไรที่มันจะจบก็ต้องจบ..ถ้าความแค้นจะล้างด้วยความแค้น เลือดต้องล้างด้วยเลือด เพราะไม่ว่าที่ไหนมีความความตาย ที่นั่นก็ต้องมีคนตายอยู่เสมอ

     

    ********************************************************************************************

     

    TBC  ตัดตอนนี้ตรงนี้แหละไม่งั้นเดี๋ยวมันไม่ คอนตินิว…. มาช่วยลุ้นกันนะว่าต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างงงงง  #แบคพิการ จะเป็นยังไงงงงงงง เชียร์ #ปาร์คไม่แคร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×