[OS] It's Cold,You Know ? [Hiroomi x Akihito] - [OS] It's Cold,You Know ? [Hiroomi x Akihito] นิยาย [OS] It's Cold,You Know ? [Hiroomi x Akihito] : Dek-D.com - Writer

    [OS] It's Cold,You Know ? [Hiroomi x Akihito]

    ผู้เข้าชมรวม

    1,248

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.24K

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    25
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ต.ค. 56 / 19:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    :)
    Shalunla
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    Title : [OS] It’s  Cold , You  Know ?      

    Pairing  :  Hiroomi  x  Akihito  [Kyoukai  no  Kanata]

    Rate : PG

    Genre : Comedy

    Writer : SaNooKiiZ

     

     

              เบื่อ...ในหัวตอนนี้มีแต่คำๆ นี้เท่านั้น  วิชาที่เรียนนี่มันน่าเบื่อสุดๆ บอกตรงๆ ว่าผมแทบจะหลับตั้งแต่ได้ยินเสียงลากสลิปเปอร์ของอาจารย์แล้วด้วยซ้ำ อ่า...น่าเบื่อจริงๆ  ในเวลาแบบนี้ควรจะทำอะไรดีนะ ?

    และในชั่วขณะนั้น  ผมก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้  อะไรบางอย่างที่สัมผัสนุ่มมือ และอุ่นยิ่งกว่าการเอามือไปอังในไมโครเวฟ (?)

                ใช่แล้ว  เอวของอัคกี้ยังไงล่ะ !

    แค่นึกถึงสัมผัสนุ่มๆ หยุ่นๆ นั่นก็แทบจะทำให้ผมนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้ว ไม่ได้การ ต้องไปตามหาอัคกี้เดี๋ยวนี้เลย !

    “ขอโทษครับ ผมมีธุระด่วน !  ผมยกมือขึ้นบอกกับอาจารย์ที่เพิ่งจะเข้ามาสอนได้ไม่ถึงสิบนาทีพร้อมกับพุ่งออกจากห้องไปอย่างรีบร้อนโดยไม่รอฟังคำอนุญาตของอาจารย์  เพราะจริงๆ ก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าอาจารย์แกคงจะพูดตามหลังผมว่า...

    “เฮ้ย ธุระอีกแล้วเรอะ นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้วฮะ นาเสะ !  นั่นไงล่ะ  พูดยังไม่ทันขาดคำ  แต่เอาเถอะ ถ้าได้จับเอวอัคกี้ ถึงจะแค่เสี้ยววินาทีก็เถอะ โดนแค่นี้มันก็คุ้มค่าล่ะนะ

    เอาล่ะ สำหรับที่ๆ อัคกี้น่าจะอยู่ก็มี  ห้องชมรม  แต่นี่มันเวลาเรียน คิดว่าคงไม่น่าใช่  ดาดฟ้ากับโรงอาหารนี่ตัดไปได้เลย  งั้นตัวเลือกก็เหลือแค่ห้องเรียนสินะ  อ่า แต่จะให้ไปหาถึงห้องเรียนเพื่อขอจับเอวเนี่ยมันก็...นะ

                แต่เดี๋ยวก่อน  จะว่าไป  ยังมีอีกที่นึงนี่ ที่ๆ อัคกี้น่าจะอยู่...

    ผมยิ้มให้กับความฉลาดหลักแหลม (ในเรื่องไร้สาระ) ของตัวเอง ก่อนจะคลายผ้าพันคอออกนิดหน่อยเพื่อลดความอึดอัดที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อผมไปถึงที่นั่น  ก็นะ มันก็ไม่ใช่ที่ดีๆ นักหรอก  ตรงกันข้ามเลยล่ะ

                ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที  ผมก็มาถึงสถานที่ที่ว่า กลิ่นอันไม่น่าพิสมัยที่เป็นเอกลักษณ์เป็นตัวบอกได้อย่างดีว่าที่นี่คือ “ห้องน้ำชาย” ระเบียงทางเดินนั้นร้างผู้คน  แต่ประตูตรงหน้านั้นมีเสียงที่บ่งบอกว่ามีคนกำลังใช้งานอยู่ภายใน  ก็ขอให้ผมเดาถูกแล้วกันนะ

    ผมกลั้นใจเปิดประตูเข้าไป  พร้อมกับสอดส่ายสายตาไปรอบๆ  แล้วก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างๆ หนึ่งที่กำลังก้มหน้าก้มตาล้างมืออย่างเอาเป็นเอาตายจนผมนึกกลัวว่ามือของเขาจะเปื่อยยุ่ยคาอ่างไป  ดูท่าทางว่าอีกฝ่ายจะเก็บเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาคิดให้รกสมองอีกแล้วล่ะมั้ง  อัคกี้เนี่ย  เป็นแบบนี้เสมอเลยน้า...

                ผมค่อยๆ เดินเข้าไปด้านหลังของอีกฝ่าย  หยุดยืนในตำแหน่งที่เหมาะสม  พร้อมทั้งยื่นมือออกไปสัมผัสเอวนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายได้สำเร็จ

                อ่า...นี่มัน สุดยอดจริงๆ ให้ตายสิ สัมผัสแบบนี้  ความอุ่นแบบนี้มันหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว  ผมนี่ช่างเป็นคนที่โชคดีอะไรอย่างนี้นะ  แย่ล่ะ พอได้สัมผัสแบบนี้แล้วก็รู้สึกอยากจะใช้ฝ่ามือนี้ขยำให้เต็มแรง อยากจะสัมผัสความอุ่นมากกว่านี้อีก !

                หา ?  คิโม่ย ??  ไม่นะ  พูดเรื่องอะไรกัน  ผมไม่ใช่คนแบบนั้นซักหน่อย  ที่สำคัญ พูดแบบนั้นหยาบคายนะครับ

     

    หลังจากที่จับจนพอใจ  อีกฝ่ายก็ยังไม่มีท่าทีตกใจอะไร  ก็แน่ล่ะ คนที่ทำแบบนี้น่ะมีแต่ผมคนเดียวนี่  ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองสบตากับอัคกี้ที่ก็จ้องผมกลับเช่นกันจากเงาในกระจกตรงหน้า  แต่สิ่งที่สายตาสื่อออกมานั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง...

    “เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย ฮิโรโอมิ” เสียงไม่สบอารมณ์สุดๆ เลยนะเนี่ย แต่อัคกี้เวลาโกรธน่ะน่ารักสุดๆ เลยล่ะ เวลาโวยวายก็น่ารัก คนแบบอัคกี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าผมน่ะ โชคดีสุดๆ

    “เอ๋ ก็จับเอวอัคกี้ไง เอวอัคกี้เนี่ยถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์เลยนะ ทั้งอุ่นทั้งนุ่มนิ่ม ทั้งที่ดูยังไงก็เป็นแค่เด็กผอมแห้งแท้ๆ แต่เอวกลับนิ่มอย่างไม่น่าเชื่อ พอได้จับทีนึงก็ติดใจเลยล่ะ ยิ่งอากาศเย็นๆ แบบนี้  ช่วยทำให้มืออุ่นสุดๆ เลยนะ”

    “หา ? ถ้าหนาวมือนักล่ะก็ ทำไมไม่เอามือล้วงกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงเล่า มายุ่งอะไรกับเอวฉันเนี่ย น่าขนลุกชะมัด” พูดพลางทำท่าขยะแขยงอย่างน่ารัก (?) เจ้าตัวใช้แขนถูๆ ส่วนที่ผมเพิ่งจับไปเมื่อครู่อย่างเอาเป็นเอาตายจนผมหลุดขำ

    “ถ้าเอามือล้วงกระเป๋าตัวเองแล้วมันจะไปมีประโยชน์อะไรกันล่ะ อย่างน้อยก็ต้องล้วงกระเป๋ากางเกงอัคกี้นะ เพราะอัคกี้น่ะตัวอุ่นแถมบริสุทธิ์ผุดผ่อง”

    “พอเลย นายนี่มันสุดยอดในหลายๆ ความหมายจริงๆ ฉันไปล่ะ มาทำอะไรแบบนี้ในห้องน้ำนี่มันทุเรศสิ้นดี แค่กลิ่นก็ไม่เหมาะแล้วเฟ้ย !” ตะโกนออกมาจนเสียงก้องห้องน้ำก่อนจะเดินกระทืบเท้าออกไปเหมือนเคย ผมเองก็เคยสงสัยนะว่าทำแบบนี้บ่อยๆ เนี่ยเป็นเด็กโกงอายุมาเรียนม.ปลายรึเปล่า แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ ขืนพูดออกไปสิ ผมคงได้ลงไปนอนกับพื้นจมกองเลือดกำเดาเพราะโดนตั๊นหน้าแน่ๆ

    ผมเดินอมยิ้มออกมาจากห้องน้ำราวกับไปเจอแบงค์หมื่นเย็นตกอยู่ในโถส้วม (อย่างน้อยคนที่เดินสวนกับผมเมื่อกี้คงคิดแบบนั้น) ใครไม่เป็นผมคงไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนี้แน่ๆ  ก็อากาศแบบนี้น่ะ ก็ต้องเอามือไปซุกกับของอุ่นๆ สิครับ  แล้วเอวของอัคกี้นี่แหละที่อุ่นที่สุดตั้งแต่เคยเจอมา  แต่ว่า เอวอัคกี้น่ะ เป็นของผมคนเดียวนะ ไม่ยกให้ใครทั้งนั้นไม่ว่าจะชายหรือหญิง ! อัคกี้สุดยอด ! เอวอัคกี้สุดยอดคูณสอง !

                อ่ะ...แย่ล่ะสิ เผลอแสดงท่าทางมากไปหน่อย  แต่ผมไม่ใช่คนแปลกๆ หรือน่าสงสัยอะไรหรอกนะครับ เชื่อผมสิ

    วันพรุ่งนี้  อากาศจะหนาวอีกมั้ยนะ ?  แล้วผม จะหาข้ออ้างตอนจับเอวอักกี้ยังไงดีนะ ?  เฮ้อ  อยากให้พรุ่งนี้มาถึงเร็วๆ จังน้า ~

     

     

                เบื่อ...วันนี้มันน่าเบื่อจริงๆ  เหมือนกับว่าความรู้สึกแบบนี้มันวนลูปกลับมาเหมือนเมื่อวาน  เพียงแต่สถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างออกไป  เพราะวันนี้ตัวผมกำลังปั้นหน้ายิ้มใส่เพื่อนร่วมห้องสาวพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเธอที่มาล้อมโต๊ะของผมพร้อมกับส่งเสียงแหลมน่ารำคาญที่ผมพอจับใจความได้ว่าอยากจะชวนไปคาราโอเกะที่เพิ่งเปิดใหม่หลังเลิกเรียน

                เหอะ เสียงถอนหายใจของมิสึกิยังเพราะกว่าเสียงพวกเธอตั้งเยอะ

    “อ่า  โทษทีนะ วันนี้ฉันมีธุระเรื่องน้องสาวน่ะ เธอก็เห็นว่าน้องสาวของฉันน่ะน่ารักขนาดไหน เพราะงั้นก็เลยต้องไปให้ได้ไงล่ะ” อืม เหมือนผมจะพูดอะไรแปลกๆ ออกไปนะ  แต่ช่างเถอะ แค่สลัดยัยพวกนี้ให้หลุดก็พอแล้ว

    “เอ๋ ธุระอีกแล้วเหรอ นาเสะคุงเนี่ยธุระเยอะจริงๆ เลยน้า ว่าแต่ ธุระเรื่องน้องสาวเนี่ยมันอะไรเหรอ หรือว่านาเสะคุงเป็นซิสค่อน ?!” พอเธอพูดจบพวกเพื่อนๆ ของเธอก็หัวเราะคิกคักดูท่าทางสนุกสนาน  แต่ผมเนี่ยสิ รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอะไรในหัวมันขาดดัง ปึ่ด

                ฉันไม่ใช่ซิสค่อนนะเฟ้ย  ฉันน่ะก็แค่รักน้องสาวแล้วแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้นแหละ  ที่สำคัญ คนที่เรียกฉันว่าไอ้ซิสค่อนหรือไอ้โรคจิตได้มีแค่อัคกี้กับมิสึกิเท่านั้น !

    แน่นอนว่าผมก็แค่คิดในใจเท่านั้นแหละ เพราะในความจริง ผมแค่ยิ้มให้พวกเธอแบบสุภาพและเก็บอารมณ์สุดๆ แล้วเดินเลี่ยงออกมาจากห้อง  เฮ้อ ในที่สุดก็หลุดจากสถานการณ์น่าอัดอึดนี่ซักที  พวกผู้หญิงนี่น่าเหนื่อยใจชะมัดเลย อ๊ะ แต่ยกเว้นมิสึกิไว้คนนึงนะ.

    ผมเดินขึ้นมาถึงดาดฟ้าแล้วตรงไปที่มุมประจำของตัวเองก่อนจะเริ่มผ่อนคลายด้วยการนอนแบบทุกครั้ง แต่จริงๆ ก็ได้แค่นอนพักสายตานั่นแหละนะ เพราะพอช่วงที่กำลังเคลิ้มๆ ก็จะ...

    “เฮ้ย ฮิโรโอมิ ตื่นเลยนะ !

    อย่างที่คิดเลย เป็นแบบนี้ทุกครั้ง  เพราะอัคกี้รู้ที่ๆ ผมจะไปทั้งหมดเหมือนเป็นสตอกเกอร์เลยล่ะ แต่อย่าไปพูดให้ได้ยินล่ะ เดี๋ยวฝ่ายนั้นเค้าจะโกรธเอา

    ผมค่อยๆ ลุกขึ้นมาด้วยท่าทีสบายๆ เหมือนเคย  ซึ่งมันทำให้เขาหงุดหงิดกับท่าทีของผม  แต่ผมก็ชอบนะ ก็อัคกี้เวลาหงุดหงิดโวยวายน่ะ น่ารักจะตาย...

    “มีอะไรเหรออัคกี้ เสียงดังแบบนี้มันเสียมารยาทกับคนกำลังนอนนะ” ผมยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้าที่กำลังคิ้วขมวดด้วยความหงุดหงิด อ่า อยากจะใช้นิ้วโป้งคลึงหว่างคิ้วนั้นจริงๆ เลย

    “นายน่ะ ลืมกางเขตแดนอีกแล้วใช่มั้ย  นี่จงใจรึเปล่าฟะ แบบนี้มันจะลืมบ่อยเกินไปแล้ว !

    “ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของฉัน  ที่สำคัญ ถึงจะลืมแต่ก็มีหน่วยเก็บกวาดมาจัดการอยู่แล้วนี่ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย อัคกี้น่ะเลิกกังวลเรื่องหยุมหยิมได้แล้ว เดี๋ยวแก่เร็วนะ” พูดแหย่อีกฝ่ายไป และก็ดูเหมือนจะได้ผลดีซะด้วยสิ

    “ฉันจะแก่ยังไงมันก็เรื่องของฉันเฟ้ย ว่าแต่นายน่ะ เรียกอัคกี้ๆ อยู่ได้ ถึงจะแค่เรียกให้สั้นลงแต่ทำแบบนี้ชื่อฉันกำลังโดนดูถูกเหยียดหยามอย่างร้ายกาจอยู่นะ !

    “งั้นอัคกี้เองก็เรียกฉันว่า ฮิโระคุงบ้างสิ จะได้หายกันไง แบบนี้แฟร์ๆ ดีจะตาย” ผมลองยื่นข้อเสนอไป ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าต้องเป็น ไม่ !!!แน่นอน 100 %

    อีกฝ่ายนิ่งไปเหมือนกำลังคิดหนัก เป็นปฏิกิริยาตอบรับที่น่าสนใจดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้มือผมมันเย็นอีกแล้ว...ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

    “อ่ะ นั่นมัน คุริยามะ มิไร ไม่ใช่เหรอน่ะ ?” ผมชี้มือชี้ไม้ไปมั่วซั่ว แต่อีกฝ่ายก็เชื่อซะด้วยสิ ซื่อจริงๆ เลยให้ตาย

    พออัคกี้หันไปให้ความสนใจกับทิศที่ผมชี้ ผมก็เริ่มปฏิบัติการตามสเต็ปเดิม เดินเข้าไปข้างหลัง แล้วสอดมือเข้าไปที่เอวของอีกฝ่าย ทันทีที่สัมผัส ความอบอุ่นที่คุ้นเคยก็แผ่ซ่านมาที่มือของผม อ่า ความรู้สึกนี้มัน...

    “ไม่เห็นจะมี – เฮ้ย ทำอะไรเนี่ย !” อีกฝ่ายโวยวายออกมาอย่างน่าพึงพอใจ ผมเองก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเช่นกัน ก็แหม เวลาโดนอัคกี้โวยวายใส่เนี่ย มีความสุขจริงๆ นะ แต่ผมก็ไม่ได้เป็นเอ็มหรอกนะครับ อย่าเข้าใจผิดกันล่ะ...

    ผมโดนผลักออกมาเหมือนทุกครั้งและอัคกี้ก็ใช้แขนถูๆ บริเวณที่โดนผมสัมผัสแบบทุกครั้งเช่นกัน  ท่าทางน่ารักๆ แบบนั้นน่ะ พอเถอะนะอัคกี้ ~

    “อัคกี้เนี่ย ชอบถามทุกครั้งเวลาที่โดนฉันจับเอวเลยนะ ชินได้แล้วน่า ก็บอกแล้วไงว่าฉันแค่มือเย็นเวลาอากาศหนาวน่ะ พอมือเย็นฉันก็อยากจะซุกกับอะไรอุ่นๆ บ้างแค่นั้นเอง”

    “ฉันว่าฉันก็บอกไปแล้วเหมือนกันว่าให้ซุกกับกระเป๋าเสื้อ ไม่ก็กระเป๋ากางเกงแทนน่ะ  ทำแบบนี้มันน่าลำบากใจสุดๆ เลยนะ !

    “งั้นอัคกี้ก็สละกระเป๋าเสื้อกับกระเป๋ากางเกงให้ฉันสิ ถ้าแบบนั้นล่ะก็ ฉันจะเลิกเอามือมาซุกเอวอัคกี้ไปตลอดชีวิตเลยนะ”

    “ฝันเถอะ ! แล้วก็เลิกเรียกว่าอัคกี้ด้วย นายกำลังดูถูกชื่อสุดแสนไพเราะและมีเกียรติของฉันอยู่นะ”

    “ก็ได้ๆ  งั้นเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน นายเองก็เรียกฉันว่า ฮิ-โระ-คุง ซะ แต่ถ้าไม่ ฉันจะเรียกนายว่า อัค-กี้-จัง โอเคมั้ย ?”

    “หา ? แบบนั้นฉันก็เสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่องเลยไม่ใช่เหรอน่ะ” อัคกี้พยายามจะต่อรอง แต่คิดเหรอว่าผมจะยอมอ่อนให้

    “งั้นฉันเปลี่ยนใจแล้ว ต่อไปฉันจะเรียกนายว่า อัค-กี้-จัง เริ่มตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เอาล่ะ อัค—“ ก่อนที่ผมจะพูดจนจบ อีกฝ่ายก็เอ่ยขัดขึ้นมาซะก่อน ทำไมกันล่ะ ทั้งที่ชื่อแบบนี้มันน่ารักกว่าแท้ๆ เลยนะ

    “โอเคๆ ยอมแล้วๆ เรียกก็ได้ !

    “เห ? จริงเหรอ งั้นเอาเลยสิ เอ้า เอาเลย ฮิ-โระ-คุง” ผมเน้นทีละคำเพื่อกวนโมโหอีกฝ่ายเล่นๆ แต่เจ้าตัวดูจะเขินปนหงุดหงิดแฮะ น...น่ารัก

    “ฮ...ฮิโระคุง..”

                อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก พูดออกมาแล้ว พูดออกมาแล้วล่ะ ถึงเสียงจะเบาไปหน่อยแต่ก็พูดออกมาแล้ว อีกรอบ ขออีกรอบได้มั้ยนะ ?!

    “หืม อะไรนะ เมื่อกี้นายพูดเบาน่ะ ไม่ค่อยได้ยินเลย พูดอีกทีสิ คราวนี้จะตั้งใจฟังอย่างดีเลย เอ้า”

    “ฮ..ฮิโระคุง” คราวนี้เสียงดังกว่าเดิม แถมอัคกี้ยังเขินกว่าเดิมด้วย ให้ตาย นี่ถ้าถ่ายรูปเก็บไว้ได้ล่ะก็ ผมทำไปแล้ว !

    “ดีมาก ต่อไปนี้ก็เรียกฉันว่าฮิโระคุงตลอดไปเลยนะอัคกี้”

    “แต่ฉันว่าแบบนี้มัน....เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้เรียกฉันว่าอัคกี้สินะ เฮ้ย !” อ๋า โวยวายอีกแล้ว เป็นคนอารมณ์แปรปรวนซะจริง

    “แล้วฉันบอกตอนไหนว่าจะเลิกเรียกว่าอัคกี้ล่ะ แค่บอกว่า ถ้าไม่เรียกฉันว่าฮิโระคุง ฉันจะเรียกนายว่า อัค-กี้-จัง แค่นั้นเอง ไม่มีคำไหนเลยนะที่บอกว่าจะเลิกเรียกน่ะ แต่ถ้าอัคกี้โกรธล่ะก็ ฉันยอมให้จับเอวฉันคืนเป็นการไถ่โทษก็ได้นะ เอ้า มาสิ” ผมผายมือให้อัคกี้อย่างเต็มใจ  แต่อีกฝ่ายกลับทำท่าทางขนลุกขนชันเต็มที่ ทำไมล่ะ ผมทำอะไรผิด ?

    “อยู่กับนายแล้วมีแต่บั่นทอนปัญญาสุดๆ เลย ฉันไปห้องชมรมก่อนล่ะ  นายน่ะ นานๆ ทีก็มาเข้าห้องชมรมบ้างนะ ไหนๆ ก็เป็นรุ่นพี่ หัดทำตัวอย่างที่ดีให้รุ่นน้องได้เห็นหน่อยเป็นไง ?”

    “ถ้ามีอารมณ์อยากเข้าล่ะก็นะ” ผมตอบพร้อมกับยิ้มให้ อัคกี้นิ่งไปนิดหน่อยก่อนจะหันหลังเตรียมลงบันได  แต่ก็หยุดกะทันหันก่อนจะพูดอะไรงึมงำในลำคอได้ยินไม่ค่อยชัดจนผมต้องเดินไปเงี่ยหูฟังใกล้ๆ

    “...น่ะ จะพยายาม...ชิน”

    “หืม อะไรนะ นายพูดในลำคอแบบนี้ฉันจะไปฟังรู้เรื่องได้ยังไง” อัคกี้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเริ่มพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเก่า (แค่นิดเดียว) แต่ก็ยังไม่หันมามองผมอยู่ดี

    “ฉันบอกว่า เรื่องจับเอวน่ะ จะพยายามชิน”  พอพูดจบอีกฝ่ายก็วิ่งลงบันไดไปปล่อยให้ผมยืนยิ้มเป็นคนบ้าอยู่อย่างนั้น  ให้ตาย...อัคกี้เนี่ยจะน่ารักไปถึงไหนกัน...

     

    รู้อะไรมั้ย อัคกี้  ที่นายพูดเมื่อกี้น่ะ  มันทำให้มือฉันเย็นอีกแล้วนะ...

    อ่า  สงสัยว่า ผมคงต้องไปที่ “ห้องชมรม” ซะแล้วล่ะ

     

     

    End.

     

     

    Talk.

            ทุกคนยืนขึ้น  ชี้นิ้วไปทางพี่ฮิโระพร้อมกล่าวตามข้าพเจ้าสามครั้งว่า  “ โม่ยจริงๆ โม่ยจริงๆ โม่ยจริงๆ ”

    มันมาแล้วววววว อนิเมออกมาได้ 3 ตอนอินี่เอาแล้วววว 55555555  แบบว่า ฟีลมันมาค่ะ ชอบเวลาพี่ฮิโระจับเอวอัคกี้ ที่สำคัญ อยากแต่งฟิคพี่ฮิโระโม่ยค่ะ เพราะพี่แกออกลายมาก ถ้าแต่งออกมาโม่ยไม่สุดก็แย่เลยสิคะ ถถถถถถถถถถ

    ก็หวังว่าทุกคนจะชอบฟิคเรื่องนี้นะคะ เป็นฟิคที่พยายามตลก (?) และพี่ฮิโระโม่ยแบบไม่ต้องพยายาม (??) แต่เราก็ซ่อนความหวานมุ้งมิ้งไว้ในฟิคอย่างแนบเนียน....เนียนมากจนหาไม่เจอ orz

    ยังไงก็ขอฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ ไว้มีฟีลแบบนี้อีกก็คงจะมีเรื่องอื่นตามมาแน่นอน ถึงตอนนั้นก็หลงเข้ามาอ่านกันให้ได้นะคะ ย่ะห์ !  *เต๊ะท่าแว่น*

     

     

                   

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×