คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Dugeun :: chapter 2 ♡
Chapter 2
อากาศภายในกรุงโซลในตอนกลางคืนที่หนาวจนถึงขั้นติดลบทำให้ผู้คนไม่ค่อยนิยมเลือกที่จะออกมาเดินเล่นในตอนดึกๆอย่างเช่นกลางวันนัก อากาศในตอนกลางวันค่อนข้างจะสบายกว่าตอนลางคืนมาก ถ้าไม่ใช่คนเกาหลีหรือคนที่อาศัยอยู่ในภูมิอากาศหนาวเย็นมาก่อนล่ะก็ คงต้องบ่นว่าหนาวตั้งแต่ลมพัดผ่านแล้วล่ะ ภายในหมู่บ้านใหญ่แห่งนี้กลับมีเพียงบ้านไม่กี่หลังที่เปิดไฟสว่างจ้าภายในตัวบ้าน และบ้านหนึ่งในนั้นคือบ้านที่มีเจ้าของเป็นคนขายซูชิยังไงล่ะ
แบคฮยอนนอนไม่หลับ เขาเลยเลือกที่จะเดินลงมาอุ่นนมและนั่งดูทีวีไปเรื่อยๆถึงแม้ตอนดึกจะไม่ค่อยมีรายการอะไรที่น่าดูเหมือนตอนกลางวันก็ตามแต่มันก็ยังดีกว่าที่จะให้เขานอนพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับน่ะนะ
“ฟู่ว” คนตัวเล็กเป่าลมออกมาจากริมฝีปากบางที่ขอบแก้ว เพื่อจะทำให้นมอุ่นลง ก่อนจะค่อยๆประคองแก้วขึ้นจิบนมอุ่นๆ เขากดเลื่อนเปลี่ยนช่องไปเรื่อยอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย ช่วง5ทุ่มกว่าแบบนี้ บรรยากาศเย็นๆ กับความเงียบสงัด คงไม่มีอะไรมากวนใจเขาหรอกนะ เขาอยู่ที่บ้านคนเดียวซะด้วยสิ คิดแล้วมันก็..
อึ๋ย พอๆ ไม่เอาไม่คิดดีกว่า ขนลุกหมดละเนี่ย คนตัวเล็กขมวดคิ้วพร้อมส่ายหน้าไปมาก่อนจะยู่หน้าใส่แก้วที่เขาถืออยู่ โดยไม่รู้ว่าการกระทำของตัวเองกำลังตกอยู่ในสายตาคนๆหนึ่งมาโดยตลอด..
ทำตัวตลกชะมัดเลยพี่แบคฮยอน
เลยเวลาเที่ยงคืนกว่ามาแล้ว แบคฮยอนเงยหน้ามองนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนังนิดหน่อยก่อนจะเดินนำแก้วไปวางไว้ที่ซิงค์ล้างจาน เขาหยิบฟองน้ำและบีบน้ำยาล้างจานจากในขวด สองมือบรรจงขยำฟองน้ำจนเป็นฟองและหยิบแก้วขึ้นมาล้างอย่างเพลิดเพลิน เขาชอบทำงานบ้านด้วยล่ะ มันให้ความรู้สึกสนุกยังไงไม่รู้สิ
“ว่าแต่จงอินไปไหนนะ ปกติต้องมากวนตั้งแต่เย็นๆนี่นา” คนตัวเล็กพลันคิดถึงเพื่อนข้างบ้านของเขาขึ้นมา จะว่าไปเช้าวันนั้นที่เขานอนหลับอยู่แล้วจงอินมาปลุกตั้งแต่เช้าๆทำให้เขาพอนึกอะไรออกบ้างว่าแต่จงอินกำลังจะพูดอะไรกับเขานะ แล้วทำไมในสัปดาห์นี้มีใครหลายคนต้องการที่จะพูดหรือบอกอะไรกับเขาแต่ก็ยังไม่ได้บอกและเขาก็ยังไม่รู้ด้วยนะ อา ครั้งนึงก็จงอินส่วนอีกครั้งก็ลูกค้าร่างสูงคนนั้นน่ะ
หลังจากที่เขาล้างแก้วนั่นด้วยน้ำยาล้างจานเสร็จ สองมือที่เปื้อนฟองของน้ำยาล้างจาน ทำให้มือของเขาลื่นและไม่สามารถที่จะเปิดก็อกน้ำได้ง่ายๆ แบคฮยอนพยายามที่จะจับที่เปิดก๊อกน้ำไว้อย่างมั่นคงก่อนจะบรรจงใช้แรงกดไปตรงที่จับและออกแรงหมุน หากแต่มันก็ยังคงเปิดไม่ได้เหมือนเดิม
“เปิดออกเร็วๆสิ ง่วงละนะ” ว่าพลางก็บ่น สองมือก็ยังคงพยายามเปิดก็อกน้ำให้ได้ แต่แล้วมือที่ถือแก้วอยู่กลับลื่นปล่อยแก้วใบเล็กนั่นลงในอ่างอย่างแรงจนมันแตกกระจายส่งเสียงดังไปทั่ว
แบคฮยอนถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ เขาไม่มีทางเลือกมากพอจึงใช้มือที่ลื่นด้วยฟองน้ำยาล้างจานหยิบจับเศษแก้วที่แตกขึ้นเพื่อจะทำความสะอาด และด้วยความที่มือของเขาลื่นมันเลยทำให้ขอบคมของเศษแก้วบาดเข้าที่นิ้วชี้มือขวาของเขา ความเจ็บปวดเล่นริ้วขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กร้องเสียงดัง น้ำตาซึมและอีกเหตุผลหนึ่งคือเขากลัวเลือดเข้าสมอง
“โอ๊ยๆ ฮือ เจ็บๆๆ” แบคฮยอนยืนร้องอยู่แบบนั้นพร้อมกับความเจ็บและแสบที่ประดังประเดเข้ามาเพราะฤทธิ์ของน้ำยาล้างจานที่กำลังเข้าสู่แผล
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
แบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูบ้าน เขาพยายามคิดว่าใครกันที่จะมาหาเขาที่บ้านดึกดื่นป่านนี้ คนแรกที่เข้ามาในความคิดของเขาคือ จงอิน ใช่แล้ว จงอินแน่ๆเลย จงอินน่าจะช่วยเขาได้แน่
สองเท้าเล็กพาร่างของเขาเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูก่อนจะเผลอคิด จงอินคงปีนรั้วเข้ามาอีกแล้วใช่มั้ยถึงไม่กดกริ่งหน้าบ้าน เขาใช้มือข้างที่ไม่เจ็บเปิดประตู คราวนี้มันเปิดได้ง่ายกว่าตอนที่เขาพยายามจะเปิดก็อกน้ำเพราะมันเริ่มแห้งและไม่ลื่นเหมือนเคย
“จงอิน ช่วยดะ..ด้วย อ้าว !?” แบคฮยอนเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อพบว่าคนที่เขาคิดว่าเป็นจงอินกลับเป็นลูกค้าตัวสูงที่เขาเพิ่งเจอเมื่อวันก่อน ร่างสูงสวมเสื้อคลุมยาวถึงเข่า สองตาของเขามองมายังนิ้วที่เปื้อนเลือดของแบคฮยอนก่อนจะแสดงสีหน้าขออนุญาตเจ้าของบ้านเข้าไปในบ้าน แบคฮยอนหลีกทางให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้านอย่างง่ายดายก่อนจะปิดประตูเบาๆ
“เอ่อ มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า” คนตัวเล็กเดินตามหลังร่างสูงที่กำลังมุ่งตรงไปในครัวอย่างงงๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น เผื่อบางทีเขาอาจจะช่วยคนแปลกหน้าคนนี้ได้ หรือเขาอาจจะหลงทางอยู่นะ
“ช่วยดูตัวเองก่อนจะถามคนอื่นเถอะ” คนตัวสูงหันหน้ามาพูดกับแบคฮยอนด้วยน้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกอะไรก่อนที่จะหันตัวกลับไปที่ซิงค์อ่างล้างจานและกดเปิดก็อกน้ำล้างคราบเลือด หยิบเศษแก้วที่เจ้าของบ้านทำแตกไว้ใส่ในถังขยะที่ตั้งใกล้ๆกัน
“ขะ..ขอบใจนะ ว่าแต่คุณเป็นใคร” คนตัวเล็กที่กำลังอยู่ในหมวดสับสนและงงถามขึ้น แผ่นหลังกว้างตรงหน้ายังคงนิ่งเฉยและไม่มีเสียงตอบกลับมา เอ หรือเขาจะมาต่อว่าเรื่องซูชิของร้านเรากันนะ
“อ่า ซูชิไม่อร่อยเหรอ งั้นเดี๋ยวแถมโปรโมชั่นให้ฟรีไปเลยเซ็ตนึงละกันนะ” แบคฮยอนก้มหน้าขมวดคิ้วกับตัวเองเล็กน้อย ไหล่เล็กที่ห่อลงอย่างเสียความมั่นใจ ทำให้คนร่างสูงที่เพิ่งจัดการของตรงหน้าเสร็จแอบลอบขำในใจกับสิ่งที่คนตัวเล็กตรงหน้ามโนไปเอง
“เอาล่ะเสร็จแล้ว ไหนเอาแผลมาดูหน่อย” ร่างสูงใหญ่ถือวิสาสะดึงมือของคนตัวเล็กไปดูโดยไม่ขออนุญาต “อืม ไม่ลึกมาก กล่องปฐมพยาบาลอยู่ที่ไหน” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นถาม
“เอ่อ อยู่ในห้องนั่งเล่นข้างทีวีน่ะ”
“งั้นต้องทำแบบนี้ก่อน...” เสียงทุ้มในลำคอพึมพำ ก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้แผลและเป่าลมร้อนใส่แผลของแบคฮยอนเบาๆ ความอุ่นร้อนพุ่งเข้าสู่นิ้วชี้ของแบคฮยอนอย่างรวดเร็วจนทำให้เขาสะดุ้งแต่เขากลับไม่ได้ชักมือกลับไป เพียงแค่ถามออกมางงๆกับท่าทีของคนตรงหน้า
“ทำอะไรน่ะ !?” อีกฝ่ายยังไม่มีท่าทีจะเงยหน้าขึ้นมาตอบคำถาม ทำให้แบคฮยอนเริ่มใจเสียซะแล้วสิ ถ้าเกิดคนๆนี้เป็นพวกโรคจิตล่ะ เขาไม่โดนปล้นและฆ่าหมกบ้านรึไง
“นี่ ไม่ต้องคิดอะไรอกุศล ผมไม่ได้เป็นโจร ทำแผลก่อนแล้วเดี๋ยวจะบอก”
หลังจากได้ยินประโยคยาวกว่าเดิมจากคนตรงหน้าทำเอาแบคฮยอนอึ้งไปนิดหน่อย คนแปลกหน้าคนนี้ดึงร่างเขาไปใกล้ เปิดน้ำในซิงค์อ่างล้างจานและนำนิ้วชี้ของแบคฮยอนไปล้างน้ำสะอาดและถูนิดหน่อยพอให้เลือดบริเวณนั่นหายไป ความแรงที่ร่างสูงกดลงมาที่แผลถึงแม้จะเบาแต่มันก็ทำให้แบคฮยอนพยายามจะชักมือกลับหลายครั้งเพราะความเจ็บ แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงร้องเบาๆเท่านั้น ในขณะที่แบคฮยอนยายามจะดึงมือกลับแต่ร่างสูงกลับยึดไว้แน่นและส่งสายตาดุๆมาให้แทน เขาคงรำคาญเรามากแน่เลย เฮ้อ หลังจากล้างแผลเสร็จ คนร่างสูงก็จูงมือเขาไปในห้องนั่งเล่น เขาคนนั้นเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาไว้ข้างๆและบรรจงทำแลให้กับแบคฮยอนอย่างรวดเร็ว
“อืม โอเคแล้วล่ะ” แบคฮยอนนั่งมองคนตรงหน้าทำแผลให้เขาด้วยความอึ้ง นายคนนี้ถึงแม้จะไม่ได้มือเบามากมาย แต่กลับทำแผลได้อย่างเชี่ยวชาญ เอ๊ะหรือนายนี่จะเป็นหมอกันนะ
“ขอบคุณนะ นายเป็นหมอเหรอ” ร่างเล็กเงยหน้าจากแผลขึ้นมามองหน้าคนแปลกหน้า แต่เขากลับได้ยินแค่เพียงเสียงหัวเราะเท่านั้น มันน่าตลกงั้นเหรอ โห่ย เสียเซลฟ์อีกแล้ว
“อ้าว นายไม่ใช่หมอหรอกเหรอ งั้นนายเป็นใครกันล่ะ” แบคฮยอนเลือกที่จะเปลี่ยนสรรพนามจากคำว่าคุณในช่วงก่อนหน้านี้เป็นคำเรียกที่ดูจะสนิทขึ้น ไม่รู้เพราะเหตุผลอะไรเหมือนกัน แต่อาจจะเพราะความคุ้นเคยล่ะมั้ง เห เดี๋ยวนะ ความคุ้นเคยเหรอ เขาไปสนิทชิดเชื้อหรือเคยเจอผู้ชายคนนี้ที่ไหนกัน
“ตลกน่า จำผมไม่ได้จริงๆเหรอ” อยู่ๆชายคนนั้นก็ถามขึ้นมา ผมมองมองหน้าเขาก่อนจะค่อยๆนึก ใบหน้าเรียวยาวได้รูป จมูกโด่ง ปากแบบนี้ ตาแบบนี้ หูกางๆแบบนี้
“หล่อจัง”
“ฮะ ?” อ้าวเห้ย ผมเผลอพูดออกไปผมไม่ได้ตั้งใจนะ คนตรงหน้ามองหน้าผมใหญ่เลยไง อยากแทรกพสุธาอีกหน
“เอ่อ เปล่าๆไม่มีอะไร”
“ลองมองหน้าแล้วนึกดีๆสิ” คนตรงหน้าย้ำผมอีกนิดหน่อย ผมเลยจ้องหน้าเขาอยู่แบบนั้นและพยายามนึกอีกครั้ง
หน้าแบบนี้คุ้นๆอยู่นะ เอ แล้วหูกางด้วย มันคุ้นมากเลย หูกางงั้นเหรอ หูกาง... เห้ย
“เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” เมื่อผมนึกออกผมรีบกระโดดกอดคอเขาทันที คนร่างสูงที่ไม่ทันตั้งตัวก็เลยล้มลงบนโซฟา โดยมีผมที่คร่อมทับอยู่
“โอ๊ย ขอโทษๆ นายเจ็บมั้ย” ผมรีบขอโทษเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำหน้าเหยเกด้วยความเจ็บ ผมคงดีใจเกินไปหน่อย ผมลุกขึ้นมาก่อนจะนั่งลงที่เดิม คนแปลกหน้าที่ไม่แปลกหน้าอีกต่อไปก็ยันตัวขึ้นมานั่งข้างๆผมเหมือนกัน
“จำได้แล้วล่ะสิ”
“อื้อ ตกใจแทบแย่ ไม่ได้เจอกันนาน นายหล่อขึ้นเยอะเลยนะ แล้วทำไมนายไม่บอกฉันเนี่ย ตอนไปซื้อซูชิก็ไม่บอก” ผมพูดรัวใส่คนตรงหน้า
“ใจเย็นสิ ก็ไม่ถามเองนี่ พี่ก็ยังซุ่มซ่ามเหมือนเคยนะ ถ้าผมไม่บังเอิญเห็นเมื่อกี้พี่คงต้องยืนร้องไห้ต่อไปแน่ๆ” แบคฮยอนแทบจะเอามือตีคนตรงหน้าที่ยังคงกวนอวัยวะเบื้องล่างเช่นเคย
“หือ บังเอิญเห็น พูดอย่างกับนายอยู่บ้านใกล้ๆกันงั้นแหละ อ๋า นายมาพักที่บ้านจงอินใช่ไหม”
“อืม ใช่” คนตัวสูงพยักหน้าเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืน
“จะไปแล้วเหรอ” แบคฮยอนที่เดินตามหลังคนร่างสูงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นคนร่างสูงตรงหน้าเดินไปที่ประตู ทั้งตกใจและดีใจที่เห็นเขามาปรากฏตัวที่นี่หลังจากไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน
“อืม ไม่อยากรบกวนคุณป้าคิมน่ะ” ชานยอลตอบก่อนจะคิด ถ้าเขาไม่นั่งมองแบคฮยอนจากห้องนั่งเล่นของบ้านจงอินอยู่ เขาคงไม่ได้มาช่วยทำแผลคนตัวเล็กตรงหน้าหรอกนะ อีกอย่างคือเขาเข้ามาในบ้านของแบคฮยอนด้วยการปีนรั้วและการเปิดปิดประตูบ้านในตอนกลางคืนคงส่งเสียงดังและเป็นการรบกวนคุณป้าคิมแน่ เขาเลยเลือกที่จะกลับเร็วที่สุดหลังจากมาช่วยคนซุ่มซ่ามเสร็จแล้ว
“แล้วจงอินไปไหนอ่ะ รู้ไหม” แบคฮยอนเงยหน้าถามคนที่กำลังจะปีนรั้วไปอีกหนแทนการเปิดประตูรั้วกลับไปดีๆ
“ไปเที่ยวช่วงพักร้อนกับเซฮุนที่ไหนสักที่และทิ้งผมอยู่ที่นี่ไง ญาติผมคนนี้นี่แย่จริงๆ” คนตัวสูงยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะโบกมือลา
“งั้นก็ ฝันดีนะปาร์คชานยอล ยินดีที่ได้เจอกันอีก” ผมยิ้มให้กับผู้ชายคนนั้นเบาๆพร้อมโบกมือลา
“อืม ฝันดี” เสียงทุ้มตอบกลับมาก่อนที่ร่างของเขาจะเดินหายเข้าไปในบ้านที่ติดกันอีกหลัง ร่างเล็กของแบคฮยอนเดินกลับเข้ามาในบ้านโดยที่ไม่ลืมล็อคประตูบ้าน เมื่อล็อคเสร็จ ขาสองข้างก็พาร่างที่ง่วงเต็มทีเดินขึ้นไปที่ห้องนอน เขาเปิดแอร์ทิ้งไว้ ความเย็นของมันทำให้เปลือกตาของเขาหนักอึ้ง เขาที่กำลังเดินผ่านโต๊ะทำการบ้านของตัวเองไปที่เตียงกลับต้องหยุดชะงักเพราะเห็นสิ่งแปลกปลอมนอกเหนือจากกระปุกดินสอและของอื่นๆ กระดาษอะไรน่ะ
แบคฮยอนหยุดอยู่ที่โต๊ะก่อนจะหยิบตุ๊กตาหมีหมุนได้แถมมีเสียงเพลงที่จงอินบ่นนักบ่นหนาว่าน่าเกลียดออกก่อนจะพบกระดาษโพสท์อิทที่เขียนด้วยลายมือของคนคุ้นเคย นี่เขาต้องมานั่งแกะลายประวัติศาสตร์เกาหลีหรือไง ลายมือน่าหนักใจเป็นบ้า
ถึง แบคฮยอนผู้โง่เขลาและขี้เซาเป็นที่หนึ่ง
นายมันขี้เซา เอาล่ะ ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนาย ญาติของฉันกำลังจะกลับมาจากต่างประเทศและแน่นอนนายต้องรู้จัก ปาร์ค ชานยอลไง ฉันจะไปพักร้อนกับเซฮุนที่ไหนสักที่ ไม่บอกหรอก แบร่ และหลังจากนี้ไปยังไงก็ฝากดูแลเจ้านั่นด้วยนะ อย่าอดใจไม่ไหวและทำอะไรเกินเลยกับญาติสุดหล่อฉันล่ะ : P
จาก จงอินผู้หล่อลากในแผ่นดินเกาหลี
ไอ้จงอิน !!!!!!!!!
ผมส่ายหัวนิดหน่อยกับความกวนอวัยวะเบื้องล่างของจงอินที่นับวันจะยิ่งหนักขึ้น อ่า ยังไงซะก็เป็นเรื่องดีน่ะนะ ที่ผมจะมีคนมาคอยเล่นด้วยและไม่เงียบเหงาอย่างเคย
ได้เวลาคิดถึงความหลังตอนเด็กๆกันแล้วล่ะปาร์ค ชานยอล น้องหูกางของฉัน : )
Talk
ตอน2มาแล้วเน้อ
เห้ยมันย่อหน้าแปลกๆอ่ะ โทษนะถ้าอ่านยาก
เม้าท์มอยได้นะจ๊ะ @linnsuju
ความคิดเห็น