ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    JOQ Online คนจริงลวงโลก <มี E-Book>

    ลำดับตอนที่ #67 : บทที่65: โซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.16K
      101
      22 ธ.ค. 54

    บทที่65 โซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์

    “ทำไมถึงเป็นพวกโซล่าร์ซิสฯล่ะคะ ถ้ามาตาร์รวมกลุ่มกับพวกพี่เมโลดี้สามคนแล้วก็ชวนพี่ซารีน่าอีกคนก็ครบห้าเหมือนกันนี่นา” คลาร่าสงสัยถึงตัวเลือกของมาตาร์

    “คลาร่าว่ายัยแม่มดจะร่วมสู้กับพวกเมลได้จริงๆเหรอ” มาตาร์ถามย้อนกลับไป

    “ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่คะ” คลาร่ายังไม่เข้าใจ ทำไมซารีน่าถึงจะสู้กับคนอื่นไม่ได้

    “คลาร่าลืมเรื่องที่มัลโก้มีค่าหัวไปแล้วรึยัง” มาตาร์สะกิดคลาร่า

    “อ๊ะ!!” คลาร่าถึงบางอ้อทันที

    มันมีอะไรรับประกันได้ว่าซารีน่าจะไม่ลอบฆ่ามัลโก้ทีเผลอบ้าง เพราะคนอย่างซารีน่าไม่ใช่คนประเภทรวมกลุ่มกับคนอื่นด้วยใจหรือความชอบเฉยๆแน่นอน แต่จะรวมกลุ่มกับคนอื่นเพราะผลประโยชน์ แล้วยิ่งซารีน่าเป็นคนชอบแกล้งอีกต่างหาก เกิดมาปั่นหัวพวกเมโลดี้กับราตรีเล่นระหว่างแข่ง ทีมคงเละแน่ๆ

    “โซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์มาแล้ว!” โมเรน่าร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

    “ซิลเวอร์แปลงร่าง!” บราวนี่ตะโกนตามมา ดูเหมือนช่วงหลังมานี่เธอจะคึกบ่อยขึ้น

    ดูท่าสองคนนี้จะสมัครสมานกันเรื่องขบวนการห้าสีได้เรื่องเดียวนี่ล่ะมั้ง

    “เอ่อ สาวๆ เราไปฝึกกันก่อนดีกว่านะ” มาตาร์ตัดบท แค่เขาคิดว่าจะต้องรวมกลุ่มสู้พร้อมพวกโซล่าร์ซิสฯก็กลุ้มใจนิดๆแล้ว ไม่ใช่เรื่องฝีมือ แต่เป็นเรื่องภาพลักษณ์มากกว่า หวังว่าคงไม่ต้องร่วมพูดในประโยคเปิดตัวนะ

    แล้วมาตาร์ก็พาสามสาวเข้าไปในป่าฝูงนก ซึ่งโมเรน่ารับหน้าที่เขียนยันต์ไฟแล้วแจกให้สาวอีกสองคนเพื่อคุ้มครองตัวเองในกรณีที่มาตาร์ไม่สามารถคุมฝูงนกอยู่ โดยเป็นยันต์กับดักไฟแบบโปรยลงพื้นใช้แทนกำแพงไฟเตี้ยๆได้ในระยะเวลาสั้นๆ

    มาตาร์ต้องการฝึกใช้พลังจิตของเขาด้วย จากที่ปกติใช้ลมคุมฝูงนกให้บินเข้ามาหา เขาก็เพิ่มพลังจิตฉุดนกที่หลุดฝูงแล้วจะเข้าไปทำร้ายสามสาวให้กลับไปด้วย

    ผัวะ! ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ! ตุบ!

    มาตาร์ต่อยไปหมัดหนึ่ง นกก็ร่วงกราวลงมา มาตาร์สู้ไปก็ถอยไปด้วยเพื่อให้นกเรียงแถวกันมา ไม่ยอมให้ถูกรุม ซึ่งวิธีสุดท้ายที่เขาจะใช้ก็คือปล่อยกำแพงไฟรอบทิศ ดังนั้นจึงมีหลักประกันได้ว่าจะไม่ตายเพราะถูกนกรุมแน่นอน แต่แบบนั้นจะไม่ได้ฝึกอะไรเท่าไหร่

    ตูม! ตุบ! ตุบ!

    นกตัวหนึ่งบินหลุดออกจากฝูงมา เนื่องจากมาตาร์ใช้ทั้งปราณ เวท และพลังจิตพร้อมๆกันตลอดเวลา โดยใช้ปราณลมคุมฝูงนกเอาไว้ เวลาต่อยก็จะผนึกเวทลงไปด้วยทุกครั้งตามคำสอนของโฆเซ่ที่บอกว่าทำให้ชินเอาไว้ แล้วยังมีพลังจิตที่ใช้ลากนกหลงฝูงกลับไปอีก แต่คราวนี้เขาใส่พลังจิตลงไปในหมัด แล้วก็พบเรื่องบังเอิญว่า เจ้านกเป้าหมายที่เขาต้องการจะลากมันกลับฝูง กลับร่วงลงมาตายเพราะพลังจิตที่ส่งออกไปพร้อมหมัดของเขา

    “หมัดพลังจิตเหรอเนี่ย” มาตาร์อุทานออกมาด้วยความแปลกใจที่สามารถใช้หมัดส่งพลังจิตออกมาได้ด้วย

    หลังจากนั้นมาตาร์ก็เลยลองต่อยหมัดที่ใส่พลังจิตออกมาอีกหลายหมัด ระยะการโจมตียืดออกไปเพราะพลังจิตไกลกว่าสิบเมตร หมัดพลังจิตของมาตาร์ทะลวงนกได้เกือบทั้งฝูง และเขายังลองเพิ่มพลังเวทไฟจากผลึกไฟเข้าไปอีกด้วย ซึ่งมันก็สามารถทำงานด้วยกันได้ ร่างของนกติดไฟลุกขึ้นกลางอากาศเป็นสายจากแนวหมัดที่ชายหนุ่มต่อยออกมา

    จริงๆแล้วพลังจิตสามารถใช้ออกได้แม้จะไม่ออกท่าทาง แต่พลังจิตส่งผลมากต่อความรู้สึกของผู้ใช้ เมื่อมาตาร์คิดว่าต่อยออกมาแล้วหมัดพลังจิตถึงจะใช้ได้ มันก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการไม่ออกท่าทางใดใดเลย

    เวลาสามชั่วโมงตั้งแต่ประมาณแปดโมงถึงสิบเอ็ดโมง มาตาร์ล่านกไปได้เจ็ดฝูง สลับใช้ทั้งปราณ เวท แล้วก็พลังจิต ทำให้พลังใช้ได้นาน เนื่องจากใช้อย่างละน้อย สลับกับการพักเพื่อฟื้นฟูด้วย ระดับหลังจากที่ตายไปก็กลับไปเป็นหนึ่งร้อยเหมือนเดิม พร้อมๆกับค่าสถานะที่พุ่งขึ้นไม่มีหยุด

    ถ้าพูดถึงผู้เล่นใหม่ที่สามารถตะลุยป่าฝูงนกได้ด้วยตัวคนเดียวแล้ว หาได้ไม่ง่ายเลย เนื่องจากผู้ที่สามารถฝ่าป่าฝูงนกได้แล้วส่วนใหญ่ก็จะออกจากเกาะเริ่มต้นไป แล้วก็ไปหาภารกิจเผ่าหรือเสริมพลังอื่นๆเอานอกเกาะ มีแต่มาตาร์นี่แหละที่ลุยแล้วลุยอีก จากครั้งแรกที่ต้องรวมกลุ่มกับคนอื่น แล้วก็ร่วมมือกันสองคน จนตอนนี้เขาตะลุยป่าฝูงนกได้ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ต้องพึ่งพาการโจมตีแบบวงกว้างด้วย

    “เอาล่ะ กลับเมืองไปเก็บเงินแล้วก็ไปตามนัดกันเถอะ” มาตาร์พูดกับสามสาวพร้อมกับเดินออกจากป่าฝูงนกกลับไปที่สนามต่อสู้เพื่อจะใช้พื้นที่พิเศษวาร์ปกลับเมือง

     

    “นี่ไงเห็นมั้ยรางวัลนี่คือโมโนไบค์ที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบเลยนะ” เสียงชายคนหนึ่งในกลุ่มชายห้าคนพูดขึ้นมา เขามีผมสั้นสีทองที่ชี้ตั้งเกือบทั้งหัว

    “อะไรกัน โมโนไบค์อีกแล้วเหรอ นายบ้ารถให้มันน้อยๆหน่อยเถอะคลาวด์” ชายผมขาวยาวประบ่าในกลุ่มพูดขึ้น

    “อะไรกันพี่เซซิล โมโนไบค์นี่แหละคือความฝันของผู้ชายทุกคน” ชายผมทองคนเดิมเถียงกลับไป

    “นายเอาอะไรมาพูดเนี่ย ฮาเร็มตะหาก คือความฝันของบุรุษทุกคน” ชายผมทองยาวประบ่าท่าทางเจ้าชู้ในกลุ่มพูดขัดขึ้นมา

    “บ้าผู้หญิงเกินไปแล้วครับพี่ซีดาน เล่นกีฬาซะบ้างนะจะได้ไม่หมกมุ่น” ชายผมสีน้ำตาลอ่อนดูกระเซิงเหมือนไม่ได้ดูแลในกลุ่มเดียวกันกล่าว

    “แกนี่มันเด็กซะจริง หัดมองสาวๆซะบ้างนะทีดัส จริงมั้ยสควอล” ชายท่าทางเจ้าชู้พูดกลับแล้วหันไปทางชายหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มที่ท่าทางเงียบขรึม

    “ฮึ” ชายคนผมน้ำตาลเข้มไม่ตอบคำ แต่ส่งเสียงออกมาเหมือนกับจะบอกให้รู้ว่า พูดกันเรื่องไร้สาระอยู่ได้

    มาตาร์มองคนทั้งห้าอย่างระแวดระวัง เพราะดูท่าทางคนพวกนี้จะมีฝีมืออยู่พอตัว แถมคนหนึ่งในกลุ่มยังอยากได้โมโนไบค์ด้วย ดูท่าเขาอาจจะต้องประมือกับคนกลุ่มนี้ถ้าอยากจะได้ของรางวัลประจำสัปดาห์ชิ้นนี้

    “คุณมองพวกผม มีธุระอะไรรึเปล่าครับ” ชายคนผมขาวที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มพูดขึ้นเมื่อเห็นมาตาร์มองมาทางพวกตน

    “เอ้อ เปล่าครับ คือผมมาดูรายชื่อของรางวัลของการแข่งประจำสัปดาห์น่ะครับ” มาตาร์รีบหาข้ออ้างทันที

    “อ้อ ประลองแบบเดี่ยวเหรอพี่ชาย” ชายผมสีน้ำตาลอ่อนกระเซอะกระเซิงท่าทางสดใสพูดขึ้นมา

    “อื้ม ใช่ครับ ผมอยากจะลองวัดฝีมือดูน่ะ ว่าตัวเองจะเก่งแค่ไหน” มาตาร์ตามน้ำไปเรื่อยเมื่อโดนชวนคุย

    “โอ้ว สาวๆว่างไปดื่มน้ำชากับพี่มั้ยจ๊ะ” ชายผมทองประบ่าท่าทางเจ้าชู้เข้ามาประชิดพวกสามสาวทันทีด้วยความรวดเร็ว

    มาตาร์ตกใจมาก เพราะแม้เขาเองจะระวังอยู่ตลอดแต่ก็แทบจะจับความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้เลย

    ส่วนสามสาวเห็นคนท่าทางไม่น่าไว้ใจเข้ามาจีบก็เกาะแขนมาตาร์เอาไว้แน่น

    “อ๋า! นี่พี่ชายควบคนเดียวสามคนเลยเหรอเนี่ย สาวๆตั้งสามคน น่าอิจฉาเป็นที่สุด” ชายผมทองท่าทางเจ้าชู้กล่าว

    “เอ้อ พวกเธอเป็นน้องสาวของผมน่ะครับ ไม่ค่อยได้เจอคนอื่นเท่าไหร่ก็เลยออกจะติดผมน่ะครับ” มาตาร์กล่าวพร้อมๆกับลูบหัวคลาร่าที่เกาะแขนเขาอยู่ไปด้วย

    “ซีดาน ถอยออกมา เสียมารยาทน่ะ” ชายผมขาวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มพูดเตือนชายท่าทางเจ้าชู้

    “แหม พี่เซซิลนี่จะเคร่งไปไหนเนี่ย” ซีดานตอบคำแล้วก็ถอยออกไป รวดเร็วจนมาตาร์ยังคงมองไม่ทันเหมือนเดิม

    “ตกลงมะรืนนี้พวกเรามาสนามประลองกันนะ” ชายผมสั้นสีทองที่อยากได้โมโนไบค์กล่าวอย่างกระตือรือล้น

    “อืม ...ก็ได้ จะได้ทดสอบฝีมือด้วยว่าเราพอจะออกไปผจญโลกนอกเกาะได้รึยัง” ชายผมขาวกล่าวอีกที แล้วก็เดินนำทั้งกลุ่มเข้าไปยังพื้นที่พิเศษ

    เซซิล

    ระดับ 100

    คลาวด์

    ระดับ 100

    สควอล

    ระดับ 100

    ซีดาน

    ระดับ 100

    ทีดัส

    ระดับ 100

     

    มาตาร์รีบสำรวจคนกลุ่มนั้นก่อนที่ทั้งหมดจะเข้าไปที่พื้นที่พิเศษ

    “หึ” ชายผมน้ำตาลเข้มในกลุ่มมองกลับมาที่มาตาร์พร้อมส่งเสียงออกมาคำหนึ่ง ก่อนที่ทั้งหมดจะหายไป

    แล้วมาตาร์ก็ต้องสงสัยออกมาถึงสายตาสุดท้ายของชายที่พูดน้อยสุดในกลุ่มนั่น อย่างกับรู้ตัวว่าโดนเราสำรวจเลยแฮะ

    “ท่าทางการประลองครั้งนี้จะไม่ง่ายแฮะ” มาตาร์บ่นออกมาเมื่อเห็นว่าพวกห้าคนนั้นมีระดับร้อยกันทุกคนและท่าทางจะเก่งมากด้วย

    “มาตาร์เคยทำอะไรง่ายๆด้วยเหรอ” โมเรน่าพูดออกมา ทำเอามาตาร์ต้องทบทวนตัวเองอยู่สักพัก

    “...ไม่เคยแฮะ งั้นเปลี่ยนคำพูดใหม่เป็น ท่าทางการประลองนี้ก็คงลำบากเหมือนเคยสินะ ฮ่าๆๆ” มาตาร์พูดออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับหัวเราะให้โมเรน่า

     

    เวลาเที่ยงที่ร้านกาแฟบริเวณไม่ห่างจากลานกลางเมืองมากนัก มาตาร์และสามสาวกำลังนั่งเล่นและกินเค้กกับกาแฟอย่างสบายอารมณ์

    และแล้วผู้ที่นัดหมายมาตาร์ก็ปรากฏตัว

    “อ้า พี่มาตาร์สวัสดีครับ ขอโทษที่ปล่อยให้รอ” ชายหนุ่มในชุดแดงพูดขึ้นขณะเดินเข้ามาใกล้ๆโต๊ะที่มาตาร์นั่ง พร้อมๆกับพรรคพวกอีกสามคนในชุดต่างสีกัน

    “ไม่เป็นไร มานั่งเล่นในร้านกาแฟก็สนุกดี เค้กก็อร่อยด้วย” มาตาร์ตอบกลับชายหนุ่มในชุดแดง

    และแล้วคนอีกสี่คนก็มานั่งล้อมโต๊ะตัวใหญ่ที่มีโซฟาอยู่สองข้าง ทำให้กลายเป็นมีคนแปดคนนั่งล้อมโต๊ะตัวนี้

    แล้วบทสนทนาอันร้อนแรงก็เริ่มขึ้น

    “ที่ผมเรียกประชุมกันวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสำคัญมากต้องมาปรึกษาทุกคนนี่แหละ” คริมซั่นชายในชุดแดงเปิดประเด็นทันที

    “อืม มันคือเรื่องอะไรเหรอ” มาตาร์ถามขึ้นมา

    ปึ้ง!!

    “พวกเราคิดว่าสิ่งสำคัญของกลุ่มนักสู้ผู้ผดุงคุณธรรมคืออะไร!” คริมซั่นตบโต๊ะเสียงดังแล้วพูดออกมาเสียงดังเพื่อปลุกใจ

    มาแนวนี้อีกแล้วนะเอ็ง มาตาร์เหมือนเห็นภาพย้อนเมื่อครั้งที่แล้วที่ประชุมกับพวกโซล่าร์ซิสฯ

    “มีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ไง” อาเชอร์ชายในชุดสีฟ้าตอบ ซึ่งนั่นมันก็เป็นคำตอบของการประชุมครั้งที่แล้วด้วย

    “ไม่ใช่!! เรื่องนั้นไม่ว่าทีมไหนๆก็มีอยู่แล้ว” คริมซั่นไม่พอใจกับคำตอบนี้

    “หรือว่าต้องมีสาวน่ารักๆอยู่ในกลุ่มคะ” โรสสาวน้อยชุดชมพูพูดขึ้นมา ดูเธอออกจะมั่นใจในคำตอบของตัวเองมาก

    “หึ เรื่องนั้นมันยังไม่สำคัญเท่าไหร่หรอก แต่ก็ถือว่าตอบได้ดีมากโรส” คริมซั่นยิ้มยิงฟันแล้วชูนิ้วโป้งให้โรส

    “เดี๊ยนก็เคยบอกไปแล้วไงล่ะ ว่ากลุ่มนักสู้ต้องมีความแปลกฮ่า” มาเจนต้ากะเทยในชุดบานเย็นพูดขึ้นมาบ้าง

    “ละอ่อนกันทั้งนั้น!! ของพวกนั้นมันจะเอาไว้ปราบเหล่าร้ายได้หรือไง” คริมซั่นเริ่มหมดความอดทน ยังไม่มีใครสามารถตอบได้ตรงใจของเขาเลย

    “ต้องมีหุ่นยนต์ยักษ์ค่า!!” คลาร่าแทรกขึ้นมา เธอหาโอกาสมีส่วนร่วมมานานแล้ว

    ปึ้ง!!

    “อึ๊!!!” คริมซั่นตบโต๊ะอย่างแรงแล้วชี้มาที่คลาร่าอย่างตื่นตกใจ “เยี่ยมมากคลาร่า แม้แต่ชั้นเองก็ยังคาดไม่ถึง สมแล้วที่อยู่กับพี่มาตาร์”

    ไม่เกี่ยวเฟ่ย ตูไม่เคยสอนอะไรเทือกนี้ให้สาวๆ มาตาร์ลอบคิดในขณะที่หน้ายิ้มออกมาแบบแปลกๆ

    “แต่ว่า มันยังไม่ใช่สิ่งที่ชั้นคิดเอาไว้ในตอนแรก ...ส่วนเรื่องหุ่นยนต์ยักษ์เอาไว้ประชุมครั้งหน้าละกันนะ” คริมซั่นพูดออกมากลางที่ประชุมแล้วหันมาพูดกับคลาร่าในประโยคสุดท้าย

    “ฮี่ๆๆ” คลาร่ายิ้มออกมาอย่างดีใจเมื่อความคิดของเธอถูกนำไปใช้ในการประชุมครั้งหน้า

    “หรือว่า ...ท่าไม้ตาย?” โมเรน่าพูดออกมาอย่างครุ่นคิด

    ปึ้ง!!

    “ใช่แล้ว!!! นั่นแหละสิ่งที่ชั้นอยากจะบอกตั้งแต่แรก” คริมซั่นตบโต๊ะเสียงดังก่อนที่จะชี้หน้าโมเรน่าอย่างตื่นเต้น ในที่สุดก็มีคนคิดอย่างเขาสักที

    “ฮี่ๆๆๆ” โมเรน่ายิ้มกว้างเมื่อคำตอบของเธอเป็นคำตอบที่ถูกต้อง

    “หมายความว่ายังไงคริมซั่น ไม้ตาย?” อาเชอร์ถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ

    “พวกเราแต่ละคนก็มีไม้ตายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ” โรสก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะแต่ละคนก็มีสไตล์การต่อสู้เฉพาะตัวอยู่แล้ว มันก็ถือว่าเป็นไม้ตายของแต่ละคนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ

    “ที่ชั้นพูดถึงนี่มันคือไม้ตายใหญ่ที่ใช้พร้อมกันห้าคนต่างหากเล่า” คริมซั่นเฉลยสิ่งที่เขาคิด

    “ห้าคนพร้อมกันเหรอ!?” มาเจนต้าอุทานออกมาอย่างตื่นเต้นและแปลกใจ

    “ใช่แล้ว มีทีมนักสู้ผู้ผดุงความยุติธรรมที่ไหนบ้างไม่มีท่าไม้ตายตอนจบที่ใช้พร้อมๆกันทั้งห้าคน” คริมซั่นพูดเตือนสติเพื่อนร่วมทีมทุกคน

    มันจำเป็นด้วยเหรอเนี่ย ถ้าเกิดตายไปคนนึงระหว่างสู้ก็อดใช้น่ะสิ มาตาร์คิดขึ้นมาถึงความจำเป็นของท่าไม้ตายที่ต้องใช้คนถึงห้าคนในการปล่อยออกมา

    “จ...จริงด้วย ไม่ว่าทีมไหน มันก็ต้องมีท่าไม้ตายเผด็จศึกแบบนี้ทั้งนั้น พวกเราลืมไปได้ยังไงเนี่ย” อาเชอร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวั่นวิตก นี่เขาลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ไปได้อย่างไรเนี่ย

    “ฮือ~อ หนูขอโทษ ที่ไม่เคยคิดแบบนี้มาก่อนเลย หนูผิดไปแล้ว” โรสร้องไห้ออกมาช้าๆ เธอเสียใจจริงๆที่บกพร่องต่อหน้าที่ เพราะโรสถือว่าเป็นเลขาฯของกลุ่มโซล่าร์ซิสฯด้วย เรื่องอย่างนี้เธอควรจะเป็นคนที่เตือนให้กลุ่มรับรู้คนแรกด้วยซ้ำ

    เฮ่ย!! จริงจังขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย มาตาร์เห็นท่าทางของแต่ละคนแล้วก็ตกใจขึ้นมาทันที พวกนี้มันบ้าเข้าเส้นกันหมดแล้วสินะเนี่ย

    “ไม่ต้องเสียใจไปโรส เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดไป แต่อาจจะช้าไปบ้างเท่านั้นเอง” คริมซั่นพูดอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอามือตบที่ไหล่โรสเบาๆ

    “อื้ม ถ้าอย่างนั้นพี่มีอะไรจะเสนอ” มาตาร์ที่นิ่งเงียบมาตั้งแต่แรกพูดออกมาในที่สุด

    ทุกคนต่างเงยหน้ามาแล้วตั้งใจจะฟังสิ่งที่มาตาร์จะพูด

    “พวกเราฝึกไม้ตายให้สำเร็จ แล้วเราก็ไปสร้างชื่อที่สนามประลองกัน” มาตาร์พูดสิ่งที่เขาตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก อุตส่าห์เงียบฟังพวกมันพูดมาตั้งนาน

    “สร้างชื่อที่สนามประลองเหรอครับ” อาเชอร์ถามขึ้นมาอย่างสงสัย

    “อืม ...ประลองเหรอ” คริมซั่นเอ่ยออกมาอย่างครุ่นคิด

    “ใช่พวกเรากลุ่มโซล่าร์ซิสฯจะได้มีชื่อเสียงระบือไกลไง” มาตาร์เริ่มชักแม่น้ำทั้งห้า

    “แต่ว่าถ้าพวกเรามีชื่อเสียงขึ้นมา มันจะมีผลกับตัวตนที่แท้จริงของเรารึเปล่านี่สิ” มาเจนต้าเอ่ยสิ่งที่มาตาร์คาดไม่ถึงออกมา เอ่อ ...ตัวตนที่แท้จริงมันจะมีปัญหาได้มากกว่านี้อีกเหรอเนี่ย

    “การประลองนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี เราจะได้ทำให้ทุกคนรู้จักกลุ่มนักสู้ผู้พิทักษ์ความยุติธรรม แต่ว่า เราก็ไม่ควรจะเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของพวกเรา ไม่อย่างนั้นพวกเหล่าร้ายจะคอยมารังควานเราทีหลังได้” คริมซั่นครุ่นคิดถึงวิธีแก้ปัญหา

    “เรื่องนั้นหนูรู้ค่ะว่าจะทำยังไง” โรสเอ่ยขึ้นมาอย่างสดใส

    “ว่ามาซิโรส” คริมซั่นเร่งสาวน้อยของกลุ่มโดยเร็ว

    “เราก็ใช้อุปกรณ์แปลงร่างไงคะ” โรสกล่าว

    “อุปกรณ์แปลงร่าง!?” โซล่าร์ซิสฯที่เหลืออีกสามคนอุทานขึ้นพร้อมๆกัน

    “เกมนี้มันมีอุปกรณ์แปลงร่างด้วยเหรอเนี่ย” อาเชอร์เอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น

    “เป็นไปไม่ได้ ถ้ามันมีของอย่างนั้นอยู่ชั้นต้องรู้ตั้งแต่แรกแล้วสิ หรือว่ามันเป็นอุปกรณ์ลับที่ได้จากภารกิจลับสุดยอด” คริมซั่นก็ตื่นเต้นเหมือนกันที่มีอุปกรณ์แบบนั้นอยู่ในเกมนี้ด้วย

    “ไม่ใช่อุปกรณ์ลับแบบนั้นหรอกค่ะ หนูลองศึกษาเรื่องอุปกรณ์ชนิดนี้มาแล้ว มันเป็นของที่มีขายอยู่ทั่วไปแหละค่ะ” โรสกล่าว

    “มันคืออะไรฮ้าหนูโรส” มาเจนต้าถามออกมาอย่างอดรนทนไม่ได้

    “มันก็คืออุปกรณ์เปลี่ยนทรงผมและสีตาที่สั่งทำได้ที่ร้านเสริมสวยไงคะ” โรสเฉลย

    การเปลี่ยนทรงผมและสีตานั้นสามารถทำได้อย่างอิสระในเกมจ็อคออนไลน์นี้ แต่ก็ยังมีอุปกรณ์ชนิดหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากเปลี่ยนลุคของตัวเองบ่อยๆ แต่ไม่อยากเสียเวลาไปร้านเสริมสวย นั่นก็คืออุปกรณ์เปลี่ยนทรงผมและสีตาอัตโนมัติ ที่สามารถสั่งทำได้ที่ร้านเสริมสวยนั่นเอง

    โดยอุปกรณ์ชนิดนี้ ผู้ที่สั่งทำก็จะเลือกทรงผม สีผม และสีตาเอาไว้ก่อน แล้วก็สั่งให้ร้านเสริมสวยทำอุปกรณ์ที่สวมใส่แล้วเปลี่ยนทรงผมและสีตาได้ตามที่เลือกเอาไว้ อาจจะเป็นเข็มกลัด เข็มขัด สร้อย กำไล หรืออะไรก็ได้ที่ใส่ติดตัวได้

    “เยี่ยมมากโรส พี่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวิธีง่ายๆแบบนี้ด้วย” คริมซั่นเอ่ยออกมาอย่างพึงพอใจ

    “งั้นพวกเราไปสั่งทำอุปกรณ์กันก่อนมั้ย แล้วเดี๋ยวก็มาฝึกไม้ตายกัน” อาเชอร์เสนอ

    “เดี๋ยวก่อน! พี่มีเรื่องอยากจะขอร้องพวกเราอีกเรื่อง” มาตาร์ตัดสินใจอยู่นานก่อนจะพูดออกมาได้ มันเป็นสิ่งที่เขาคิดว่ายากมากในการที่จะพูดสิ่งต่อไปนี้

    “ครับ พี่มาตาร์ว่ายังไง” คริมซั่นเห็นท่าทางอันจริงจังของมาตาร์แล้วก็เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม

    “การประลองประจำสัปดาห์นี้ มีของรางวัลอยู่ และพี่อยากจะขอของรางวัลชิ้นนั้นถ้าเกิดพวกเราชนะ ...ได้มั้ย” มาตาร์เอ่ยขึ้นมาในที่สุด

    มันเป็นเรื่องที่ต้องตกลงกันตั้งแต่แรกถึงเรื่องของรางวัล ซึ่งเขาเคยพลาดไปครั้งหนึ่งแล้วตอนที่จับคู่กับบรันโด้

    ตอนที่มาตาร์จับคู่กับบรันโด้นั้น เป็นไปอย่างฉุกละหุก และไม่มีการตกลงแบ่งของรางวัลเอาไว้ก่อน ซึ่งมาตาร์ก็คาดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าของรางวัลจะมีอยู่ชิ้นเดียว ถ้าเขาจับคู่กับคนที่รู้อยู่แล้วอย่างเมโลดี้ ราตรี หรือซารีน่า เหตุการณ์การท้าสู้เพื่อแบ่งของรางวัลคงจะไม่เกิดขึ้น เพราะถือว่าพวกหญิงสาวนั้นรู้อยู่แล้ว แต่กับบรันโด้ซึ่งมีความต้องการของรางวัลตั้งแต่แรกเหมือนกับเขาแล้ว ถือว่าเอาเปรียบกันเกินไปถ้าเขาจะยึดของรางวัลเอาไว้คนเดียวแม้จะเป็นความสมัครใจของบรันโด้ก็ตาม เพราะถ้าเขาเป็นบรันโด้ เขาก็ย่อมอยากจะได้สิทธิในการได้รับของรางวัลเหมือนกัน

    ดังนั้น มาตาร์จึงต้องพูดเรื่องนี้กับพวกโซล่าร์ซิสฯเสียก่อน ถ้าไม่อยากจะมาวุ่นวายในภายหลัง

    “อืม พี่มาตาร์อยากได้ของรางวัลเหรอครับ” คริมซั่นพูดออกมาเรียบๆ

    “ใช่ ได้มั้ย เดี๋ยวพี่จะจ่ายค่าอุปกรณ์แปลงร่างนี้ให้ด้วยเลยก็ได้” มาตาร์พยายามต่อรอง

    “พี่มาตาร์ พวกเราเป็นทีมห้าคนได้ก็เพราะพี่นี่แหละ พี่ไม่รู้หรอกว่ากว่าเราจะได้พี่เป็นคนที่ห้า พวกเราต้องเจอกับเรื่องอะไรมาบ้าง” คริมซั่นพูดขึ้น

    “พี่มาตาร์ไม่ต้องมามัวเกรงใจพวกเราอยู่หรอก แค่ของรางวัลที่พี่อยากได้น่ะ แค่พี่เอ่ยออกมาพวกเราก็จะร่วมมือกันไปเอามาให้” อาเชอร์เสริม

    “เพราะพวกเราเป็นทีมเดียวกันยังไงล่ะฮ้า” มาเจนต้าพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มซึมเพราะความตื้นตัน

    หมับ!!

    “พี่มาตาร์คะ ขอบคุณที่มาเป็นคนที่ห้าให้เรา ส่วนเรื่องของรางวัล พี่มาตาร์เอาไปได้เลยค่ะ พวกเราจะช่วยพี่เอง” โรสเข้ามากุมมือมาตาร์เอาไว้ แล้วพูดออกมาอย่างอ่อนโยน

    “อืม” มาตาร์คาดไม่ถึง ตัวเขาซึ่งตั้งแง่กับพวกโซล่าร์ซิสฯมาตลอดว่าพวกนี้มันบ้าและปัญญาอ่อน แต่พวกนี้กลับจริงจังกับเรื่องนี้จริงๆ นี่มันเกินขอบเขตของความบ้าตามปกติไปแล้ว พวกนี้มันเจ๋งกว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะเลย

     “ขอบคุณพวกน้องๆมาก ที่เข้าใจพี่” มาตาร์มีน้ำตาซึมออกมาด้วยความซึ้งใจ

    และแล้วแต่ละคนก็ยิ้มกันออกมา ในที่สุดทีมโซล่าร์ซิสฯที่แท้จริงก็ถือกำเนิดขึ้นจนได้

    “แล้วของรางวัลนั่นมันคืออะไรล่ะครับ” คริมซั่นถามขึ้นมาหลังจากที่เรื่องราวลงตัวแล้ว

    “มันคือโมโนไบค์รุ่นคัสตอมตกแต่งเองได้ตามใจน่ะ” มาตาร์เฉลย

    “ฮ้า!!” ทั้งสี่คนอุทานออกมาพร้อมกัน

    “ทำไมเหรอ?” มาตาร์ถามขึ้นมาอย่างสงสัยเมื่อเห็นปฏิกิริยาของแต่ละคน

    “...”

    “...”

    แต่ละคนยังนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร เหมือนมันเป็นเรื่องที่เอ่ยออกมาได้ยากลำบาก

    “เอ่อ ...คือว่า แบบว่า ชนะแล้วมาจับฉลากกันได้มั้ยพี่” คริมซั่นพูดออกมาแบบลังเลนิดๆ

    “แบบว่าใครๆก็อยากได้อ่ะพี่” อาเชอร์พูดออกมาเสียงเอื่อยๆ

    “เฮ้ยย!! ไม่ได้ ก็ตกลงกันแล้วนี่หว่า พี่จะเอาเว่ยย” มาตาร์เสียงแข็งขึ้นมา

    แล้วการต่อรองก็เริ่มขึ้นอีกรอบ จนในที่สุดมาตาร์ก็ต้องแลกสิทธินั้นกับการยอมจ่ายค่าอุปกรณ์แปลงร่างจนได้นั่นแหละ ...อา มิตรภาพของโซล่าร์ซิสฯเรนเจอร์ ช่างเหนียวแน่นยิ่งนัก

     

    Rewrite tag: แก้คำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×