คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #68 : บทที่66: การต่อสู้ที่มีแต่ประโยชน์
บทที่66 การต่อสู้ที่มีแต่ประโยชน์
“เราไปฝึกกันพื้นที่ว่างแถวๆสนามต่อสู้ละกัน ตรงนั้นกว้างดี แถมไม่ค่อยมีสัตว์อสูรด้วย” มาตาร์เสนอ
“สนามต่อสู้นี่อยู่เลยป่าฝูงนกไปอีกใช่มั้ยครับ” คริมซั่นถาม
“ใช่แล้ว” มาตาร์ตอบ
“...คือว่าพวกเรายังไม่ได้ฝ่าป่าฝูงนกเลยครับ” คริมซั่นตอบแบบเขินๆ
“หา!?” มาตาร์อุทานออกมาอย่างตกใจ เขานึกว่าพวกโซล่าร์ซิสฯจะฝ่าป่าฝูงนกกันได้แล้วเสียอีก ‘อย่างนี้จะประลองไหวเหรอเนี่ย’
“ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ แค่พวกเรายังไม่ได้ลองเท่านั้นเอง ที่ผ่านมามัวแต่ซ้อมกันเองกับสู้กับพวกหมาหมู่อยู่น่ะ” อาเชอร์ให้ความมั่นใจ ซึ่งมันก็ไม่ทำให้มาตาร์หายกังวลเลย คนที่ยังฝ่าป่าฝูงนกไปไม่ได้แล้วจะประลองในวันมะรืนไหวได้อย่างไร
“งั้นเดี๋ยวพี่ช่วยด้วยละกัน” มาตาร์เริ่มปลงว่าบางทีเขาอาจจะไม่สามารถฝ่าการประลองเข้าสู่รอบจริงได้ด้วยซ้ำถ้าร่วมทีมกับพวกโซล่าร์ซิสฯ
“อืม ก็ดีฮ่ะ จะได้เร็วขึ้นหน่อย” มาเจนต้าตอบรับข้อเสนอของมาตาร์
หลังจากที่ทั้งห้าคนไปร้านเสริมสวยเพื่อสั่งอุปกรณ์เปลี่ยนทรงผมและสีตาแล้ว ทั้งหมดก็ออกจากเมืองไปทางใต้เพื่อเข้าสู่ป่าฝูงนก
“พี่มาตาร์คอยช่วยด้วยนะคะ ซ้ำตัวที่หลุดไปให้ตายเลย” โรสพูดขึ้นมา ก่อนที่ทุกคนจะจัดแถวเป็นรูปหัวลูกศรโดยมีมาตาร์และสามสาวเดินรั้งท้าย
‘อย่างน้อยก็ขอดูฝีมือพวกนี้ก่อนล่ะ’ มาตาร์คิดขึ้นมาขณะเดินอยู่หลังสุด
แกว้ก!! แกว้ก!! แกว้ก!!
ฟู่วว!! ฟิ้ว! ฟิ้ว! เปรี๊ยะ!! ตูม! ตูม!
เมื่อฝูงนกบินออกมา ทั้งสี่ใช้พลังธาตุของตัวเองออกมาทันที คริมซั่นปล่อยกำแพงไฟออกมาเหมือนที่มาตาร์ใช้ได้ไม่มีผิด เพราะเขาใช้ผลึกเวทเหมือนกัน แต่เป็นผลึกลมประสานกับปราณธาตุไฟ โรสปล่อยเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆที่แหลมคมแล้วให้ลมพัดพาไปกรีดพวกนกร่วงลงมาเป็นแถบ มาเจนต้าปล่อยสายฟ้าได้เหมือนซารีน่า แต่มีการปามีดแฝงปราณไฟฟ้าช็อตนกในระยะไกลด้วย ส่วนอาเชอร์ใช้ค้อนทุบอากาศ ทำให้พวกนกที่อยู่ไม่ห่างนักกลับร่วงลงมาเป็นแถบๆ
มาตาร์มองดูด้วยความตื่นตะลึง พวกโซล่าร์ซิสนั้น ถ้าเทียบฝีมือต่อสู้นั้น เก่งสู้เมโลดี้กับราตรีไม่ได้หรอก แต่ว่าถ้าฝีมือเล่นเกมนั้น มันคนละเรื่อง พวกนี้สามารถใช้ความสามารถในเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดว่าวิธีการต่อสู้ใกล้เคียงกับมาตาร์มาก ไม่มีนกแม้สักตัวที่เล็ดรอดการโจมตีของทั้งสี่ออกมาหาเขาได้เลย
ที่ผ่านมาหลังจากที่พวกโซล่าร์ซิสฯไปทำภารกิจธาตุประจำตัวแล้ว ทั้งหมดก็ฝึกซ้อมวิธีใช้พลังด้วยกันตลอด อาจจะไม่ได้สู้กับสัตว์อสูรมากนัก แต่การฝึกซ้อมกันเองสามาถช่วยเพิ่มค่าสถานะได้เป็นอย่างดี และน่าจะเพิ่มได้มากกว่าการสู้กับสัตว์อสูรด้วยซ้ำ แถมยังปลอดภัยกว่า สิ่งที่พวกโซล่าร์ซิสขาดไปก็แค่ระดับตัวละครกับประสบการณ์สู้จริงเท่านั้นเอง
‘พวกนี้มันก็เก่งเหมือนกันนี่หว่า’ มาตาร์มองแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา
เหมือนกับที่อาเชอร์พูดพวกเขาแค่ ‘ยังไม่เคยลอง’ ฝ่าดูเท่านั้นเอง แต่ด้วยฝีมือแล้วสามารถฝ่าป่าฝูงนกได้สบาย
หลังจากนั้นเพียงแค่ชั่วโมงเดียว ทั้งหมดก็สามารถฝ่าทะลุป่าฝูงนกมาได้ เร็วกว่าครั้งไหนๆที่มาตาร์เคยฝ่า เพราะพวกโซล่าร์ซิสฯนั้น มีสิ่งที่เหนือกว่าผู้เล่นกลุ่มอื่นๆอยู่หนึ่งอย่าง นั่นก็คือ ‘ทีมที่รู้ใจกันสุดๆ’ คงเป็นเพราะความบ้าที่มีเหมือนกันทั้งทีมนี่แหละ ทำให้พวกเขาเข้าขากันได้ขนาดนี้
“ไชโย! ออกมาอีกข้างได้แล้ว” โรสตะโกนออกมาอย่างดีใจ
“ที่เห็นไกลๆนั่นคือสนามต่อสู้สินะฮ้า” มาเจนต้าชี้ไปที่สนามต่อสู้แล้วหันมาถามมาตาร์
“อา ใช่แล้วล่ะ เราไปบันทึกที่นั่นกันก่อนดีกว่านะ แล้วไปฝึกไม้ตายกัน” มาตาร์ตอบพร้อมกับชวนทั้งทีมไปฝึกกันต่อ
แล้วขบวนทั้งแปดคนก็ยกโขยงกันไปที่หน้าสนามต่อสู้เพื่อบันทึกพื้นที่พิเศษเอาไว้
“อ้า ...โมโนไบค์รุ่นพิเศษจริงๆด้วย” คริมซั่นที่บันทึกเสร็จแล้วเดินมาดูตารางของรางวัลประจำสัปดาห์
“อ้า ...อยากด้ายย!!”
ชายผมทองคนข้างๆที่ยืนอยู่ก่อนบ่นออกมาจนคริมซั่นต้องหันไปมอง
“หืม? มองอะไร มีปัญหาหรือไง” ชายผมทองมองคริมซั่นกลับพร้อมกับพูดจาหาเรื่อง
“มีครับพี่ ผมสงสัยว่าพี่อยากได้อะไร เห็นบ่นออกมาซะดัง” คริมซั่นไม่ได้อยากมีเรื่องกับใครจึงถามกลับแบบสุภาพ แต่รูปประโยคมันดูหาเรื่องไปหน่อย
“ฮึ พูดอย่างนี้แปลว่าอยากมีเรื่องจริงๆสินะ แกรู้รึเปล่าว่าข้าเป็นใคร” ชายผมทองท่าทางจะเอาเรื่องคริมซั่นให้ได้
‘ซวยล่ะตู ดันมาเจอคนความจำเสื่อม จำไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง’ คริมซั่นคิดขึ้นมาในใจ
“เฮ่ยคราวด์ อย่าเที่ยวไปหาเรื่องคนอื่นได้มั้ย” ชายผมขาวยาวประบ่าเดินเข้ามาแล้วลากชายผมทองออกไป “ขอโทษนะน้อง เพื่อนพี่มันมีปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์กับความทรงจำนิดหน่อย มันชอบจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร ถามคนโน้นคนนี้ไปทั่วอย่างนี้แหละ”
“ไม่เป็นไรครับ” คริมซั่นโล่งอกที่ไม่ต้องมีเรื่องกัน ‘ตกลงมันความจำเสื่อมจริงๆเหรอเนี่ย นึกว่าแกล้งหาเรื่องซะอีก’
“อ้าว นั่นมันพี่ชายที่มีน้องสาวสามคนเมื่อเช้านี่นา อ๊ะ! มีเพิ่มมาอีกคนแล้วแฮะ” ชายผมทองผมยาวประบ่าท่าทางกรุ้มกริ่มพูดขึ้นมาขณะที่เดินออกมาจากพื้นที่พิเศษ
“พี่ซีดานนี่ในหัวมีแต่เรื่องผู้หญิงหรือไงครับเนี่ย” ชายผมสีน้ำตาลอ่อนกระเซอะกระเซิงพูดขึ้น
“ว่าไงจ๊ะน้องสาว ไปกินน้ำชากับพี่มั้ย” ชายผมทองไม่สนใจคำพูดของพรรคพวกพุ่งตัวเข้ามาประชิดโรสทันที
“ว้าย!” โรสอุทานออกมาอย่างตกใจที่จู่ๆก็มีผู้ชายที่เธอไม่รู้จักพุ่งเข้ามาหาแถมรวดเร็วจนแทบจะไม่รู้ตัวว่าเข้ามาประชิดขนาดนี้ได้อย่างไร
“พ่อลิงน้อยฮ้า น้องเค้าไม่ชอบผู้ชายแบบคุณ แต่เดี๊ยนยินดีนะฮ้า” มาเจนต้าเคลื่อนตัวเข้ามารวดเร็วพอกันแล้วเกาะบ่าโรสเอาไว้ทันทีเป็นเชิงปกป้อง แถมส่งสายตายั่วยวนกลับไปที่ชายผมทองด้วย
“อะ ...เอ้อ พอดีว่าผมมีรสนิยมชอบสาวแท้อ่ะนะ แบบคุณคงไม่ถูกสเป๊กผมเท่าไหร่” ชายผมทองท่าทางอึกอักแล้วถอยไปทันที ในขณะที่มาเจนต้าก็ส่งยิ้มให้ไม่คลาย
“ฮ่าๆๆๆ เป็นไงล่ะพี่ซีดาน เจอตอเข้าจนได้” ชายผมน้ำตาลอ่อนกระเซอะกระเซิงหัวเราะเมื่อเห็นพรรคพวกจอมซ่าของตนเสียท่า
“เงียบไปเลยทีดัส” ชายเจ้าชู้ตอบกลับ
“อ๊ะ! พวกคุณมีกันห้าคน อย่าบอกนะว่าอยากจะได้โมโนไบค์เหมือนกัน” อาเชอร์ถามออกมาเมื่อเห็นว่ากลุ่มชายพวกนี้มีกันห้าคน
“อะไรกัน! พวกแกก็อยากได้โมโนไบค์เหมือนกันเหรอ” ชายผมสั้นสีทองผู้อยากได้โมโนไบค์โพล่งออกมาอย่างเอาเรื่อง “ถ้าอย่างนั้นก็ตายซะ!!”
เคร้ง!!
ชายผมสั้นสีทองพุ่งเข้ามาแล้วฟาดดาบเล่มใหญ่ที่สะพายอยู่กลางหลังของเขาใส่อาเชอร์ทันที แต่ชายผมสีน้ำตาลเข้มในกลุ่มพุ่งออกมาแล้วใช้ดาบทรงแปลกๆที่ข้างเอวของเขาสกัดเอาไว้ได้ทันท่วงที
“เฮ้ย!” อาเชอร์ร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ จู่ๆดาบก็เกือบจะฟาดลงมาตรงกลางหัวเขา แต่โชคยังดีที่ถูกหยุดเอาไว้ได้ทัน
“คราวด์!ควบคุมอารมณ์หน่อยสิ” ชายผมขาวผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มขึ้นเสียงใส่เมื่อเห็นพฤติกรรมของพรรคพวกตัวเอง
“ชิ!!” คราวด์ชายอารมณ์ร้อนเมื่อได้ยินดังนั้นก็เก็บดาบเล่มใหญ่ของเขาเข้าไปแล้วถอยออกไปโดยดี
“หึ” ชายผมสีน้ำตาลเข้มท่าทางเคร่งขรึมเก็บดาบของตนแล้วถอยออกไปเหมือนกันหลังจากเห็นว่าพวกของตนสงบลงแล้ว
พวกโซล่าร์ซิสฯเห็นว่าเหตุการณ์ไม่ปกติเท่าไหร่จึงเดินเข้ามารวมกลุ่มกันเอาไว้เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ตั้งรับทัน
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่เพื่อนผมทำให้พวกคุณตกใจ” ชายผมขาวที่เป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวขอโทษออกมา
“ไม่เป็นไรครับ” มาตาร์ที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มโซล่าร์ซิสฯรับคำ
“เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวพวกคุณเป็นการขอโทษดีกว่า” ชายผมขาวพูดออกมา ถึงแม้ดูแล้วพวกโซล่าร์ซิสฯจะไม่ติดใจแต่เขาก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
“ไม่เป็นไรจริงๆครับ ...แต่ถ้าอยากจะขอโทษจริงๆ ผมมีเรื่องอยากขอให้ช่วยหน่อย” มาตาร์เหมือนมีความคิดอะไรบางอย่างยื่นข้อเสนอที่จะทำให้ทุกคนแปลกใจ
“อา ...เรื่องอะไรเหรอครับ” ชายผมขาวมีท่าทีลังเลเล็กน้อย เพราะดูแล้วมันจะดูเป็นคำขอที่ไม่ธรรมดา
“พวกผมอยากจะหาประสบการณ์การต่อสู้น่ะครับ คิดว่าพวกเรามาประลองกันสักครั้งน่าจะดี” มาตาร์เสนอ
พวกโซล่าร์ซิสฯมีสีหน้าแตกตื่นขึ้นมาทันที ไม่คิดว่าจู่ๆมาตาร์จะเสนอให้คนพวกนี้มาประลองกับตน ส่วนพวกชายผมขาวทั้งห้าคนก็มีสีหน้าแตกต่างกันไป บางคนก็แปลกใจ บางคนก็เฉยๆ บางคนก็ยิ้มออกมา
“เอ้อ ...จะดีเหรอครับ” ชายผมขาวรู้สึกแปลกใจอยู่พอสมควร ถ้าประลองกันแบบนี้มันจะบานปลายในภายหลังหรือเปล่า
“พวกคุณไม่ต้องกังวลไปครับ พวกผมแต่ละคนเก่งสู้พวกคุณไม่ได้หรอก พวกเราแค่อยากจะหาประสบการณ์จริงๆ เรามาจับคู่ประลองแบบเป็นคู่ๆ พวกเพื่อนๆของผมจะได้รู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วจะได้พัฒนา ผมถือว่ามีประโยชน์กว่าการที่คุณจะมาเลี้ยงข้าวพวกผมมากนัก แถมพวกคุณจะไม่เสียอะไรเลยด้วยนะ” มาตาร์ยกเหตุผลให้ชายผมขาวฟัง และกล่าวเรื่องที่พวกเขาอาจจะกังวล
“เอาเลยพี่เซซิล ผมอยากจะสู้กับคนอื่นบ้าง นี่ก็ก่อนงานประลองตั้งสองวัน ถึงบาดเจ็บล้มตายไปก็ฟื้นทัน” ชายผมสีน้ำตาลอ่อนกระเซอะกระเซิงท่าทางสดใสที่สุดในกลุ่มกล่าวขึ้น
‘พี่มาตาร์คิดอะไรอยู่ครับเนี่ย มันจะดีเหรอ’ ข้อความจากคริมซั่นถึงมาตาร์
‘อย่างที่พวกนั้นบอกแหละ ถึงบาดเจ็บล้มตายไปวันนี้ก็เก็บระดับกลับมาทันน่า’ มาตาร์ส่งกลับไป
‘ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้นพี่ ...แต่เอากันถึงตายจริงๆเหรอพี่?’ ข้อความจากคริมซั่นถึงมาตาร์
“เพราะว่าพวกผมห้าคนกำลังเล็งโมโนไบค์อย่างที่พวกของคุณคิดนั่นแหละ ยังไงพวกคุณก็อาจจะได้ประลองกับพวกผมเข้าในวันประลอง แต่ตอนนี้พวกผมอยากจะได้โอกาสในการพัฒนาตัวเอง พวกคุณกล้าให้พวกผมรึเปล่าครับ” มาตาร์พูดประโยคท้าทายออกไป
ชายผมขาวทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในขณะที่ชายผมสั้นสีทองทำท่ากระเหี้ยนกระหือรือจะพุ่งเข้ามาได้ทุกเวลา
“ก็ได้ครับ แต่คงไม่ถึงขนาดต้องสู้กันจนตายมั้งครับ” ชายผมขาวตอบรับในที่สุด “เอาแค่รู้ผลก็พอ”
“ไม่ได้ครับ เอาให้เหมือนสู้จริงไปเลย ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้เห็นฝีมือจริงๆกันน่ะสิครับ เพราะผมขอบอกไว้เลยว่าพวกผมคงสู้สุดฝีมือและไม่สามารถยั้งมือเอาไว้ให้ได้ เพราะมันยากเกินไป แต่ถ้าสู้แล้วไม่ตายก็เป็นเรื่องของคู่ประลองแต่ละคู่กันไปดีกว่า” มาตาร์ยังยกเงื่อนไขพร้อมบอกเหตุผลอีก
“ดีเลยนะพี่เซซิล เราก็จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอทำร้ายพวกเขาเกินไปด้วย เพราะพวกเขาบอกเองว่าเอาเหมือนจริง” ชายผมน้ำตาลกระเซอะกระเซิงพูดขึ้น
“พวกเราว่าไง ถ้าบังเอิญตายเพราะการประลองนี้” มาตาร์หันไปพูดเสียงดังกับพวกโซล่าร์ซิสฯเพื่อให้ทุกคนได้ยินชัดๆ
“หนูไม่เสียใจค่ะ พี่มาตาร์อุตส่าห์คิดเพื่อพวกหนู ถึงตายก็ยินดีค่ะ” โรสพูดขึ้นดูเหมือนเธอจะเตรียมตัวตายเต็มที่
“เอ้อ ถ้าผมตายเก็บของให้ผมด้วยนะครับ” อาเชอร์ดูเหมือนจะห่วงเรื่องของมากกว่าเรื่องตาย
“เดี๊ยนยังไงก็ได้ฮ่า” มาเจนต้าพูดบ้าง
“ถ้าจะตายขอแบบไม่ทรมานนะครับ แฮะๆ” คริมซั่นพูดปิดท้าย
มาตาร์ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำตอบของพวกโซล่าร์ซิสฯ ‘พวกนี้มันคล้ายเราอยู่เหมือนกันแฮะ’ เพราะดูท่าทางพวกเขาจะไม่เกรงกลัวความตายกันเท่าไหร่เลย
“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวพวกเรามาจับคู่ประลองกัน เอาแค่รู้ผล แต่ถ้าตายก็ไม่เป็นไรนะครับ” ชายผมขาวตอบรับในที่สุด
“อึ้ม งั้นผมแนะนำคนข้างผมก่อนนะ คนชุดแดงนั่นคริมซั่น สีฟ้าอาเชอร์ สีบานเย็นมาเจนต้า แล้วก็สาวน้อยนี่โรส ส่วนผมมาตาร์ครับ” มาตาร์แนะนำพวกพ้องให้ชายทั้งห้าคนรู้จัก
“พวกผมมีคราวด์” ชายผมขาวแนะนำชายผมทองเจ้าปัญหาก่อน
“คนนี้ชื่อซีดาน” ตามด้วยหนุ่มผมทองจอมขี้หลี
“คนนี้ทีดัส” คือชายผมสีน้ำตาลอ่อนกระเซอะกระเซิงนั่นเอง
“แล้วก็สิงห์เงียบสควอลครับ” สุดท้ายเป็นชายผมสีน้ำตาลเข้มที่แทบจะไม่พูดอะไรออกมาเลย
“หึ” สควอลขานรับออกมาครั้งหนึ่ง เหมือนกับไม่ค่อยพอใจที่ชายผมขาวแนะนำเขาออกไปแบบนั้น
“ส่วนผมชื่อเซซิล” ชายผมขาวแนะนำตัวคนสุดท้าย
และแล้วในที่สุดการประลองที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นมาจากความคิดของมาตาร์นั่นเอง
“งั้นเราไปหาที่โล่งๆประลองกันดีกว่าครับ” มาตาร์เสนอพร้อมทั้งชวนกันไปประลองบริเวณลานโล่งๆที่ไม่ห่างจากสนามต่อสู้มากนัก
“พี่เซซิล ผมขอคนแรกครับ” ทีดัสที่ดูกระตือรืนล้นกว่าคนอื่นอาสาเป็นคนเริ่มการประลองทันทีเมื่อเดินมาถึงพื้นที่ที่พวกเขาต้องการ
“อืม ...เอาสิ” เซซิลตอบรับคำขออย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะคิดว่าการประลองนี้จะเป็นไปได้อย่างเรียบร้อยหรือไม่
“หนูโรสออกไปก่อนสิฮะ” มาเจนต้าสะกิดโรสเบาๆ
“เอ๋? หนูก่อนเหรอคะ” โรสถามขึ้นอย่างสงสัย
“หรืออยากจะรอให้ตาเจ้าชู้นั่นออกมาแล้วค่อยสู้ล่ะฮ้า” มาเจนต้ากระซิบอย่างมีเลศนัย
“ม...ไม่ค่ะ หนูออกไปสู้เลยดีกว่า” โรสไม่ขัดมาเจนต้า ถ้าต้องรอให้ซีดานออกมาสู้กับเธอคงไม่ดีแน่
“อืม โรสจะออกไปสู้ก่อนเหรอ” มาตาร์เห็นโรสเดินออกมา
“ค่ะ หนูสู้ก่อนเลยค่ะ” โรสตอบอย่างมั่นใจ
และแล้วทีดัสกับโรสก็แลกคำท้ากันก่อนที่จะลงมือต่อสู้
“โรสสู้ๆ” คริมซั่นส่งเสียงเชียร์ออกมา
“ค่า!” โรสตอบรับอย่างสดใส
ฟิ้ว! เคร้ง!
ทันใดนั้นทีดัสก็พุ่งเข้ามาแล้วใช้ดาบที่รูปร่างคล้ายฉมวกของเขาฟันเข้าใส่โรส แต่โรสก็ใช้ดาบเล่มสั้นของเธอรับเอาไว้ได้แต่ก็ต้องเซถอยหลังออกมา
‘เร็วมาก’ โรสคิดขึ้นเมื่อเห็นว่าทีดัสพุ่งตัวเข้ามาได้เร็วพอๆกับซีดานเลย
ฟิ้ว! ผัวะ!
จู่ๆก็มีบอลปรากฏขึ้นกลางอากาศตรงหน้าทีดัส แล้วทีดัสก็หมุนตัวเตะมันใส่โรสทันที
“อ๊าย!” โรสร้องออกมาพร้อมกับเซถลาไปเมื่อบอลลูกนั้นอัดเข้าหน้าเธอเต็มๆ
‘บอลพลังจิต?’ มาตาร์คิดขึ้นหลังจากเห็นสิ่งที่ทีดัสทำ
“โรส!” พวกโซล่าร์ซิสอุทานออกมาอย่างเป็นห่วง
ยังถือว่าทีดัสยั้งมือไว้ไมตรีอยู่บ้าง เพราะตั้งแต่การฟันดาบครั้งแรกนั่นก็ยังโจมตีออกมาในช่วงที่พอจะรับได้ แล้วลูกบอลก็ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นปลิดชีวิต
โรสเริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าเธอประมาทเกินไป จะสู้กับชายคนนี้เธอต้องทุ่มสุดตัวถึงจะสามารถสู้ได้อย่างสูสี
สิ่งที่โรสมีนั้นคือปราณน้ำแข็ง ดาบสั้นที่ยาวประมาณข้อมือถึงข้อศอกเน้นที่ความคล่องตัว และผลึกเวทลมที่มือข้างซ้ายเอาไว้ใช้ร่วมกับปราณน้ำแข็งของเธอ
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
โรสเปล่งปราณรวมมาไว้ที่แขนซ้าย ปรากฏเป็นโล่น้ำแข็งขึ้นมา แล้วพุ่งเข้าใส่ทีดัสทันที
เคร้ง! เคร้ง!
ดาบกับโล่ปะทะกัน โรสยกโล่น้ำแข็งของเธอกันดาบของทีดัสได้ตลอดในขณะที่ดาบเล่มสั้นของเธอก็เฉี่ยวร่างของทีดัสไปมา
“โอ้โห! สาวน้อยคนนี้เก่งเหมือนกันแฮะ” ซีดานเอ่ยชมโรสหลังจากเห็นฝีมือของเธอ
มาตาร์สังเกตเห็นท่าทางของกลุ่มพวกห้าคนนั้นแล้วก็พอจะเดาได้ว่าทีดัสยังไม่ได้เอาจริง เพราะดูพวกเขายังสบายๆอยู่เลย
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
โรสเองก็รู้ดีเพราะถึงแม้จะเห็นว่าดาบของเธอเฉี่ยวทีดัสไปมาแต่นั่นก็เพราะคู่ต่อสู้ของเธอหลบมันได้แบบฉิวเฉียดทุกครั้งต่างหาก
เชียะ!
แต่แล้วปลายดาบของโรสกลับสะกิดถูกทีดัสเข้าจนได้ เพราะดาบของเธอยืดออกเพราะเสริมด้วยปราณน้ำแข็ง
“ทีดัส อย่าประมาท นายกำลังดูถูกคู่ต่อสู้อยู่นะ” เซซิลร้องเตือนขึ้นมาให้ทีดัสเอาจริง
“โอ้ว!” ทีดัสขานรับ แล้วทันใดนั้น เหมือนความเร็วของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกทันที จากที่เร็วมากอยู่แล้ว
ทีดัสวิ่งวนอยู่นอกระยะดาบของโรสจนเธอไม่รู้จะโจมตีเขาให้โดนได้อย่างไร เธอพยายามาพุ่งเข้าใส่พร้อมยืดดาบน้ำแข็งฟันใส่ แต่กลับถูกดาบของทีดัสฟันสวนกลับมาจนน้ำแข็งหักกลางตลอด
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
แล้วลูกบอลพลังจิตนับสิบก็พุ่งออกมาจากทิศทางที่ทีดัสวิ่งผ่าน โรสเหมือนถูกลูกปืนใหญ่อัดใส่จากทุกทิศทาง ตัวเธอกระเด็นเซไปมาทุกครั้งที่โดนลูกบอลอัดใส่
“อ๊าย!” หญิงสาวผมสีชมพูร้องออกมาเมื่อได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ
“โรส! ยอมแพ้ได้แล้ว” อาเชอร์ร้องเตือนด้วยความเป็นห่วง
แต่มาตาร์กลับยังนิ่งเฉยไม่แสดงปฏิกิริยาใดใดออกมา
ทันใดนั้นรอบตัวโรสเหมือนมีฝุ่นสีขาวบังเกิดขึ้น
ปรุก! ปรุก! ปรุก!
ลูกบอลพลังจิตโดนฝุ่นสีขาวนั้นชะลอเอาไว้ได้ก่อนที่โรสจะใช้ดาบของเธอฟันใส่จนมันสลายไปทุกลูก
‘ฮึๆๆ นี่แหละที่ต้องการ’ มาตาร์ยิ้มขึ้นมาทันที
การต่อสู้ครั้งนี้ที่มาตาร์เรียกร้องนั้น ไม่ได้หวังชนะ แต่หวังให้พวกโซล่าร์ซิสฯที่ขาดประสบการณ์พัฒนาขึ้นมาต่างหาก เนื่องจากพวกโซล่าร์ซิสฯนอกจากสู้กับสัตว์อสูรแบบเล่นรุมตลอดแล้ว ก็ฝึกซ้อมกันเองเสมอๆ ทำให้ขาดแรงกดดันจากสภาวะตึงเครียด การต่อสู้แบบสบายๆที่จะชนะหรือแพ้ก็ไม่เป็นไรนี้จึงถือเป็นโอกาสอันมีค่ามาก เพราะบาดเจ็บและตายได้จริงๆ แต่ในขณะที่แพ้ก็เสียแค่ระดับและทักษะที่สามารถไปเก็บมาใหม่ได้ในเวลาหนึ่งวันสบายๆ แต่ถ้าไปแพ้ในการประลองจริงๆ เขาจะเสียของรางวัลไปด้วย
เซซิลเห็นแล้วก็เริ่มหน้าเครียดขึ้นมาทันที ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ว่าชนะหรือแพ้ ก็ได้สร้างคู่แข่งที่ร้ายกาจขึ้นมาในการประลองประจำสัปดาห์ครั้งนี้เสียแล้ว
หนูโรสสู้ๆ
สำหรับคนที่ไม่รู้จัก ใส่รูปให้ดูเล่นๆ
เซซิล คลาวด์ สควอล ซีดาน ทีดัส
ความคิดเห็น