ตอนที่ 20 : Mad Dog : Chapter 17
Note : คุณแม่น้องเธียร์หายใจเข้าลึกๆนะคะ
แสงสว่างภายจากเชิงเทียนในห้องถูกดับลงโดยฝีมือของไทเลอร์ หลังจากที่ทรูอัลฟ่าหนุ่มจัดการดับเตาผิงภายในห้อง ความอบอุ่นที่หลงเหลือยังคงมากพอที่จะสร้างความอบอุ่นให้กับคนที่พักผ่อนอยู่บนเตียง กลิ่นไม้ไหม้ผสมผสานกับกลิ่นประจำตัวของไทเลอร์ ย่อมหอมอบอวลไปทั่วห้องพักขนาดย่อม ไม่ต่างจากกลิ่นบำบัดที่กล่อมให้เพียวโอเมก้าจาฮาร์เดนเจอร์ได้คลายความกังวล
“นายไม่กลัวเราฮีทขึ้นมาหรือ?” เพียวโอเมก้าตัวขาวที่นอนจมอยู่กับกองผ้าห่มเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนผิวเข้มนั้นเดินเข้ามาหาตัวเอง หลังจากที่จัดการทุกอย่างในห้องจนเรียบร้อย
“ถ้าฉันกลัว ฉันคงไม่อยู่ตรงนี้”
“ถึงนายจะไม่กลัว แต่เรากลัว..” ดวงตาใสสะท้อนล้อแสงสว่างจากด้านนอกที่ลอดเข้ามาในห้อง ยังคงชัดเจนในสายตาของคนที่หยุดยืนมองอยู่ข้างเตียงนอน
“….”
“ถึงเราจะรู้สึกกับนายแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะยอมให้นายทำอะไรเรา”
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ไม่เคยต้องการคิดจะผูกมัดคู่แห่งโชคชะตาของตัวเอง ด้วยเหตุผลที่เกิดจากเพียงแค่สัญชาตญาณเช่นนี้
“ฉันดูเป็นคนแบบนั้นมากหรือ?” ทรูอัลฟ่าหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ หลังจากที่ได้ฟังคนตัวขาวพูด
“….”
“ถ้าคนอย่างฉันจะทำแบบนั้น ฉันไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอให้คุณหนูฮีทด้วยซ้ำ”
เพราะแค่ความเป็นทรูอัลฟ่าของ แมดส์ ไทเลอร์ มันก็สามารถข่มเพียวโอเมก้าอย่าง เธียร์ เยลเวอร์ตัน ได้อย่างไม่ยาก หากเจ้าตัวคิดจะทำเช่นนั้นจริง ๆ
เธียร์ไม่อาจหลอกตัวเองให้เชื่อใจใครสักคนได้ในตอนนี้ เขาขยาดเหลือเกินกับความไว้ใจที่มักจะถูกทำลายลงง่าย ๆ เพียงเพราะความรู้สึกชั่ววูบ ความไม่แน่นอนของร่างกายที่กำลังปั่นป่วนไม่น้อยในตอนนี้ ก็เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คุณหนูเยลเวอร์ตันหวาดระแวงจนไม่สามารถข่มตาหลับได้
“ยาที่ได้มา มันยังใช้ได้ผลกับฉันอยู่..” ไทเลอร์เอ่ยบอกอีกฝ่าย เพื่อให้เจ้าตัวคลายความกังวล ก่อนที่คืนนี้จะไม่ได้นอนพักผ่อน
แต่อะไรมันก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
“เราไม่อยากเป็นความผิดพลาดของนาย..” เพราะแค่เป็น เธียร์ เยลเวอร์ตัน เขาก็เป็นตัวปัญหามากพอแล้ว
“ฉันก็ไม่เคยคิดอยากเป็นความผิดพลาดของคุณหนู”
คุณหนูเยลเวอร์ตันเป็นฝ่ายพลิกตัวนอนหันหลังให้กับทรูอัลฟ่าผิวเข้ม เมื่อเจ้าตัวเหนื่อยเกินกว่าที่จะพูดกับไทเลอร์ในตอนนี้ แม้จะพยายามข่มตานอนแต่ทว่าความกระวนกระวายในใจ ก็ทำให้เธียร์ไม่สามารถนอนหลับได้ จนกระทั่งรับรู้ถึงน้ำหนักที่กดยุบผืนเตียงที่ว่างข้าง ๆ พร้อมกับกลิ่นไม้หอมที่ลอยแตะจมูกอย่างชัดเจน
“อย่างน้อยกลิ่นของฉัน ก็น่าจะกลบกลิ่นคุณหนูไม่ให้อัลฟ่าที่อยู่แถวนี้กล้าเข้ามายุ่ง”
เพราะขนาด เมเลค ฟิทซ์รอย เองก็ยังยอมถอยห่างออกไปจากบริเวณนี้ โดยเลือกที่จะไปอยู่กับ วินซ์ คลาเวน ที่พักอยู่ทางอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและตัวคุณหนูเยลเวอร์ตันที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ว่าอีกฝ่ายจะมีอาการฮีทเมื่อไหร่
กลิ่นไม้หอมของทรูอัลฟ่าหนุ่มที่แผ่กระจายไปโดยรอบ ย่อมเป็นตัวข่มขวัญอัลฟ่าที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง จนไม่อาจแสดงความเป็นอัลฟ่าออกมาได้อย่างภาคภูมิใจเช่นดังก่อน
กลิ่นของความอันตรายและอำนาจที่น่าเกรงขาม ล้วนแล้วแต่ทำให้ไม่มีใครกล้าเฉียดกรายเข้าใกล้บริเวณนี้ และนั่นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับตัวคุณหนูเยลเวอร์ตันเป็นอย่างมาก
“ถ้าเอนยาอยู่กับเราตอนนี้ มันก็คงจะดี” ที่พึ่งที่เป็นความสบายใจของเธียร์ในอดีต ไม่สามารถที่จะเรียกร้องให้กลับคืนมาได้ดั่งใจปรารถนา
“เรื่องนั้นย่อมไม่มีทางเป็นไปได้”
เธียร์อดไม่ได้ที่จะร้องไห้อย่างเงียบ ๆ เมื่อนึกถึงใครอีกคนที่ต้องสูญเสียไปอย่างไม่คาดคิด ความทรงจำดี ๆ ที่เป็นเศษเสี้ยวในความทรงจำอันเลวร้ายในชีวิตที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำว่าชีวิตของคุณหนูเยลเวอร์ตันนั้นมีช่วงเวลาของความสุขที่น้อยนิดเหลือเกิน
“นายผ่านความสูญเสียพวกนั้นมาได้ยังไงกันไทเลอร์”
“ความสูญเสียมันไม่เคยผ่านไปสำหรับคนที่ต้องสูญเสีย”
“….”
“สิ่งที่ผ่านไปมันมีเพียงแค่เวลา..”
การสูญเสียทำให้ความรู้สึกที่เคยมีนั้นเลือนลางหายไป กลายเป็นความรู้สึกเฉยชาและไร้ซึ่งความรู้สึกจนน่าใจหาย ความขลาดกลัวลึก ๆ ภายในใจ เป็นผลทำให้คนเราสร้างหน้ากากขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองจากสิ่งเลวร้ายที่อยู่รอบตัว
คุณหนูเยลเวอร์ตันพลิกตัวกลับมานอนตะแคงหันหน้าเข้าหาทรูอัลฟ่า ก่อนที่จะจ้องมองใบหน้าด้านข้างของคนที่นอนหงายอยู่อย่างเงียบ ๆ ดวงตาคู่คมยังคงจ้องมองเพดานห้องนิ่ง เมื่อเจ้าตัวถูกดึงกลับเข้าไปในห้วงของความรู้สึกที่ยากจะดึงตัวเองกลับออกมา
“เราทั้งคู่ต่างก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน..”
เธียร์ เยลเวอร์ตัน ยังจดจำคำพูดและน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของไทเลอร์ได้ คำพูดที่เอ่ยถามเขาแต่กลับเหมือนเป็นการย้อนถามตัวเอง สร้างความสับสนและไม่เข้าใจให้กับเธียร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จูบอันบางเบาซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกของไทเลอร์ที่มอบให้มันมีแต่ความขมขื่น
“ฉันไม่เคยคิดจะกลับมาเหยียบที่นี่..”
“….”
“ถึงแม้มันจะเป็นความทรงจำ แต่มันก็ทำให้ฉันขยะแขยงเกินกว่าที่จะรับได้”
“เราขอโทษ..”
“ฉันเป็นคนตัดสินใจเข้ามาที่นี่เอง มันไม่ใช่ความผิดของคุณหนูเลยสักนิด”
“แต่เพราะเรา นายถึงต้องเลือกทางนี้”
เจ้าของดวงตาดุพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาคนตัวขาว เพื่อมองหน้าอีกฝ่ายก่อนที่ริมฝีปากหยักจะเอ่ยในสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธียร์แทบหยุดเต้นในวินาทีนั้น
“ถึงจะเป็นคู่แห่งโชคชะตา ฉันก็ไม่คิดจะเอาเปรียบคุณหนูด้วยเหตุผลมักง่ายพวกนั้น”
แววตาของไทเลอร์ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธียร์ในตอนนี้ มันไม่ต่างจากตอนนั้นเลยสักนิดเดียว..
เสียงร้องอื้ออึงในลำคอที่ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ทำให้ทรูอัลฟ่าผิวสีเข้มที่กำลังนอนหลับ ลืมตาตื่นขึ้นมาในทันทีเพราะความผิดปกติ ดวงตาสุกใสที่กำลังจ้องมองเขาอย่างอ้อนวอน ร่างกายขาวเนียนที่บิดเร้าจนผ้าห่มที่เคยปกคลุมร่างกายนั้นร่นไปกองอยู่ที่ปลายเท้า หลงเหลือแค่เพียงผิวเนียนซึ่งบดบังด้วยเสื้อผ้าสีเข้มที่ตัดกับสีผิวขาว
เหงื่อเม็ดโตผุดซึมขึ้นตามขมับขาว รวมไปถึงร่างกายที่ร้อนผ่าวอย่างน่าตกใจ จากการไหลเวียนของเลือดที่สูบฉีดอย่างเต็มที่ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกแม็กโนเลีย กลับกลายเป็นกลิ่นหอมฟุ้งที่แม้จะไม่ได้ใกล้ชิด ก็สามารถได้กลิ่นหอมหวานอย่างชัดเจน
แมดส์ ไทเลอร์ ผุดลุกขึ้นยืนข้างเตียงในทันทีเมื่อตั้งสติได้ มือใหญ่ที่สั่นอย่างควบคุมไม่ได้พยายามที่จะปิดจมูกของตัวเอง ก่อนที่จะใช้มือที่ว่างอีกข้างค้นหายาที่เก็บไว้ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทั้งตัวเองและคุณหนูเยลเวอร์ตัน
“ทะ ไทเลอร์…”
เปลือกตาสีอ่อนพยายามปิดเปลือกตาเพื่อตั้งสติของตัวเอง เสียงหวานเอ่ยเรียกคนที่อยู่ในห้องกับตัวเองเสียงแผ่ว แม้จะทำใจมาแล้วว่าช่วงฮีทจะต้องมาถึงในไม่ช้านี้ แต่เธียร์ก็ไม่สามารถตั้งตัวรับมันได้เมื่อเกิดขึ้นจริง ๆ
เช้าตรู่ที่คุณหนูเยลเวอร์ตันตื่นมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ร่างกายร้อนผ่าวชวนให้อึดอัดจนแทบอยากจะร่ำไห้ ความต้องการจากภายในก็มากล้นเกินกว่าที่เคยฮีทครั้งไหน ๆ ตัวกระตุ้นชั้นดีจากกลิ่นของอัลฟ่าคู่แห่งโชคชะตา คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เธียร์ต้องเผชิญกับความยากลำบาก ที่ก็ไม่รู้ว่าจะผ่านพ้นไปในตอนไหน
ทั้งที่ความคิดของเธียร์นั้นสั่งห้ามตัวเองไม่ให้ขยับตัวเข้าใกล้อีกฝ่าย แต่ร่างกายที่ไม่เคยเชื่อฟังมันก็เบียดตัวชิดใกล้กับร่างกายของคนที่กำลังนอนหลับสนิทข้างกาย ช่องทางด้านหลังขับของเหลวสีใสออกมาจนเปียกชุ่มกางเกงผ้าที่สวมใส่ ตามกลไกของร่างกายของโอเมก้าที่พร้อมจะสืบพันธุ์
และเมื่อยามสบตากับคนตาดุที่ลืมตาขึ้นมาเมื่อครู่ ก็ทำให้เธียร์ลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงในลำคอดับคอที่แห้งผากของตัวเอง สัญชาตญาณที่บ่งบอกว่าคนตรงหน้าคือคนที่มีสิทธิ์ครอบครองร่างกายของตัวเอง กำลังกล่อมประสาทให้ตัวเพียวโอเมก้าคล้อยตามความกำหนัดที่เกิดขึ้น
ทางด้านของ แมดส์ ไทเลอร์ ที่พึ่งตั้งสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ก็ไม่รอช้าที่จะหยิบยื่นยาของอีกฝ่ายให้คนตัวขาว แม้ยานี่จะไม่ได้ช่วยได้เต็มร้อย แต่มันก็คงดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลยในสถานการณ์ที่เสี่ยงเช่นนี้
“เป็นอย่างไรบ้าง..”
แมดส์ ไทเลอร์ เอ่ยถามคนตัวขาวที่นั่งกอดตัวเองอยู่บนเตียง เมื่อเวลาผ่านไปสักพักหลังจากที่คนตัวขาวได้กินยาเข้าไป แต่คำตอบที่ได้รับซึ่งเป็นการส่ายหัวก็ทำให้ทรูอัลฟ่าหนุ่มคิดหนักกว่าเดิม
“มันไม่ดีขึ้นเลย..”
เล็บสวยจิกเข้าหาฝ่ามือของตัวเองจนได้เลือด เพื่อพยายามเรียกสติของตัวเองอยู่ตลอด แต่มันก็ช่างเป็นการกระทำที่ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก เขาเกลียดตัวเองในสภาพเช่นนี้เหลือเกิน เกลียดธรรมชาติที่ลงโทษให้เขาต้องเป็นแบบนี้ มันทั้งอับอาย ทั้งสมเพช ที่ความรู้สึกพวกนั้นกำลังจะอยู่เหนือความคิดของตัวเอง
กลิ่นหอมของเจ้าดอกแม็กโนเลียที่เล่นงานทรูอัลฟ่าหนุ่มในตอนแรก เริ่มเจือจางลงเมื่อคนผิวเข้มกินยาเข้าไป จนสามารถข่มการรัทของอัลฟ่าที่จะตอบสนองต่อการฮีทของโอเมก้าลง
เจ้าของแก้มขาวที่ตอนนี้ขึ้นสีซับระเรื่อจนมีสีแดงน่ากัด ซบหน้าลงกับผ้าห่มที่กองอยู่บนเตียงด้วยความทรมาน เสียงร้องที่อื้ออึงในลำคอที่เจ้าตัวพยายามกลั้นไว้ ก็ยังคงไม่สามารถเล็ดลอดผ่านหูของไทเลอร์ไปได้
ท่าทางของเพียวโอเมก้าที่เกลือกกลิ้งตัวอยู่บนที่นอน ทั้งยังบิดเร้าจนเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นเลิกขึ้นเห็นช่วงเอวคอด กางเกงผ้าที่สวมใส่ซึ่งเปียกเป็นวงกว้างบริเวณด้านหลัง ทำให้ แมดส์ ไทเลอร์ ได้แต่เบือนหน้าหนี
ความยั่วยวนของโอเมก้าที่กำลังไม่ได้สติเพราะการฮีท ต่อให้มันจะน่าแตะต้องมากแค่ไหนในสายตาของอัลฟ่า แต่ไทเลอร์ก็ไม่สามารถเอาความเห็นแก่ตัวของตัวเองไปทำร้ายอีกคนได้
ไม่ได้มีแค่เยลเวอร์ตันหรอกที่ไม่อยากเป็นความผิดพลาดของใคร ตัวเองไทเลอร์เองก็ไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นเรื่องผิดพลาดของใครอีกคนเช่นกัน
‘บางที นายอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากเขา..’
‘ฉันไม่ต้องการข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอีก’
‘แต่เยลเวอร์ตันจะแย่เอา ถ้ายังอยู่กับเราแบบนี้’
‘ฉันรู้ว่ามันอันตรายที่จะให้เยลเวอร์ตันอยู่กับฉัน แต่ฉันก็เลือกไม่ได้อยู่ดี’
‘….’
‘นายคิดว่าเกลฟ์กับโบฟอร์ต จะจำฉันไม่ได้จริง ๆ หรือ?’
แม้ว่า เอเลนา ไทเลอร์ จะเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยเยลเวอร์ตันได้ในตอนนี้ แต่ แมดส์ ไทเลอร์ ก็ไม่สามารถเสี่ยงที่จะเอาตัวเองเข้าไปใกล้พวกที่กำลังหมายหัวตัวเองได้ ต่อให้คนพวกนั้นจะไม่เคยเห็นหน้าจริง ๆ ของเขา แต่ก็ใช่ว่าคนพวกนั้นจะจำลักษณะท่าทางของแมดส์ไม่ได้
สุดท้ายแล้วต่อให้ตบตาคนอื่นได้แค่ไหน แมดส์ ไทเลอร์ ก็ยังคงไม่ใช่ เชส ไทเลอร์
‘ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเป็นคนพาคุณหนูไปหาแม่นาย..’
‘ไม่มีทางเป็นไปได้ ลืมหรือว่าต่อให้เขาจะอยู่ที่นี่ แต่ก็ใช่ว่าจะมีอำนาจมากพอ’
เอเลนา ไทเลอร์ ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะมีสิทธิมีเสียงมากพอในฟลัม เมื่อเทียบกับคนในตระกูลเบลเลอมอนท์ และที่สำคัญ แมดส์ ไทเลอร์ ก็ไม่ไว้ใจคนเป็นแม่มากพอที่จะฝากชีวิตของคน ๆ หนึ่งไว้กับเธอได้
‘ช่วงสองสามวันนี้ นายคงต้องออกไปอยู่กับคลาเวนสักระยะหนึ่ง’
‘แล้วนายล่ะ?’ เมเลค ฟิทซ์รอย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง พลางจ้องหน้าเพื่อนตัวเองเขม็ง
‘ฉันจะอยู่กับคุณหนูเยลเวอร์ตัน’ และคำตอบที่ออกมาจากปากของ แมดส์ ไทเลอร์ ก็ทำให้เมเลคแทบจะค้านในทันที มันไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าการตัดสินใจของแมดส์ในครั้งนี้ จะทำให้เยลเวอร์ตันปลอดภัยอย่างที่สมควรเป็น
มันเป็นทางเลือกที่แมดส์เองไม่อยากจะทำเลยสักนิด เพราะถ้าเขาพลาด ทุกอย่างจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
“ขอร้อง.. ขังเราไว้เถอะไทเลอร์” เธียร์ เยลเวอร์ตัน เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนทรูอัลฟ่าตรงหน้า กลิ่นของแมดส์กำลังกระตุ้นความต้องการของเธียร์ให้เพิ่มสูงขึ้น จนเจ้าตัวไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะอดทนต่อความรู้สึกที่กำลังอยู่เหนือการควบคุมนี้ได้ถึงเมื่อไหร่
“….”
ถ้าทำแบบนั้น มันก็ไม่ต่างจากการมองคุณหนูเยลเวอร์ตันเป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่งหรือเปล่า..
“ได้โปรด..”
ดวงตาฉ่ำเยิ้มที่เว้าวอนขอความเห็นใจจากไทเลอร์ นั้นช่างส่วนทางกับคำพูดของอีกฝ่ายสิ้นดี ท่าทางเชื้อเชิญที่เธียร์กำลังแสดงมันออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทั้งการขยับร่างกายที่มีแต่จะทำให้เสื้อผ้านั้นหลุดลุ่ย ผิวกายสีน้ำนมที่เห่อร้อนจนกลายเป็นสีชมพูอ่อนเหมือนกับกลีบดอกไม้สีอ่อนเมื่อยามผลิบาน
ริมฝีปากที่เคยได้ลิ้มลองความหวาน ยังคงเผยอขึ้นหอบหายใจหนัก ราวกับออกไปวิ่งด้านนอกจนเหนื่อยหอบ ภาพที่มองเห็นตรงหน้าย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้ริมฝีปากของทรูอัลฟ่าผิวเข้มแห้งผาก จนต้องลอบเลียริมฝีปากของตัวเองด้วยความประหม่า
“เชื่อใจฉันไหม…”
แววตาของนักล่าที่แสดงออกอย่างฉายชัดในดวงตาของแมดส์ ยามที่จ้องมองเธียร์ในตอนนี้ ช่างน่าอันตรายเกินกว่าที่คุณหนูเยลเวอร์ตันจะหาทางเอาตัวรอดได้
“นายสัญญากับเราแล้วนะไทเลอร์”
“ฉันไม่ผิดสัญญาหรอกเธียร์”
CUT
เนื้อหาค่อนข้างไม่เหมาะสม ขออนุญาติแปะลิงก์ไว้ที่ไบโอทวิต @ninezexsky นะคะ
“นายไม่ได้ทำอะไรคุณหนูใช่ไหม…”
ทันทีที่เมเลคกลับมาหาแมดส์ เจ้าตัวก็เอ่ยถามด้วยความกังวล แม้จะดูแย่มากก็ตามที่กล้าปล่อยแมดส์ไว้กับคุณหนูเยลเวอร์ตัน แต่เพราะความรู้จักกับไทเลอร์ดี จึงทำให้เมเลคยอมรับการตัดสินใจของเพื่อนสนิท
“ไม่มีอะไรเกินเลยมากกว่านั้น”
สามสี่วันที่ผ่านมา มันย่อมเป็นวันที่หนักหน่วงสำหรับเพียวโอเมก้าที่กำลังฮีท จากการสังเกตคุณหนูตัวขาวที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ทั้งหลังคอและร่องรอยตามร่างกายก็ไม่มีให้พบเห็น จนยากเกินกว่าจะเชื่อได้ว่าเพียวโอเมก้านั้นสามารถอยู่ร่วมกับทรูอัลฟ่าได้ในตอนฮีท
“ไม่อยากจะเชื่อว่ายานั่นจะกดสัญชาตญาณนายได้ขนาดนั้น”
อันที่จริงมันก็ไม่ทั้งหมด แต่มันเพราะเป็นไทเลอร์เองที่ฝืนกินยาพวกนั้นเข้าไปอีก เพื่อข่มสันดานดิบของตัวเองให้ได้อย่างแน่ใจ แม้จะรู้ว่าผลข้างเคียงในครั้งต่อไป มันจะทำให้ยาพวกนี้ไม่สามารถใช้ได้กับตัวเองอีกแล้วก็ตาม
“แล้วนี่คลาเวนกลับไปแล้วหรือยัง”
“หมอนั่นกลับไปตั้งแต่วันรุ่งขึ้นแล้ว ขืนช้ากว่านี้ควินน์คงรอไม่ได้..”
“นายจะกลับไปกรีนเลคก่อนก็ได้นะเมเลค” อยู่ ๆ ไทเลอร์ก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่เกริ่นอะไร
“แล้วนายล่ะ?”
“ฉันยังมีธุระที่ต้องไปจัดการ”
“นายจะยอมให้คุณหนูกลับไปที่กรีนเลคกับฉันหรือ?” ไม่มีทางเสียหรอกที่คนอย่างแมดส์จะทำเช่นนั้น
“แค่นายคนเดียวที่กลับไป…”
“?”
“คนที่กรีนเลคจะยังรู้ไม่ได้ว่าเธียร์คือคนของเยลเวอร์ตัน โดยเฉพาะควินน์..”
เมื่อแมดส์เอ่ยเช่นนั้น ก็ย่อมทำให้เมเลคเข้าใจถึงสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะสื่อกับตัวเอง หมอนี่คงไม่ไว้ใจมากพอที่จะปล่อยคุณหนูเยลเวอร์ตันกลับไปที่กรีนเลคก่อนพร้อมกับเขา ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่อาจจะนำมาสู่ปัญหาและความวุ่นวาย
“นายคงไม่ได้จะไปที่เดอะฮิลล์หรอกใช่ไหม..” เมเลคได้แต่ภาวนาขอให้ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองคิด
“สมกับเป็นเพื่อนฉันดี..”
“….”
“มันแปลกตรงไหนที่ฉันอยากไปเยี่ยมน้องชายตัวเอง”
“….”
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน หมอนั่นคงคิดถึงฉันน่าดู”
แต่แววตาของ แมดส์ ไทเลอร์ มันไม่ได้หมายความอย่างที่ปากเจ้าตัวพูดเลยสักนิด
“ขนลุกน่าแมดส์..” เมเลคลูบแขนตัวเองปอย ๆ “ไม่กลัวว่าคุณหนูจะปรับตัวไม่ได้หรือไง ถ้าขึ้นทางเหนือไปกว่านี้ อากาศมันจะยิ่งต่ำลงกว่าเดิม”
“แล้วใครว่าฉันจะพาเยลเวอร์ตันไปเดอะฮิลล์”
เดอะฮิลล์ที่เต็มไปด้วยอัลฟ่าและเบต้า คงไม่ใช่ที่ที่เหมาะสมสำหรับเพียวโอเมก้าที่ตื่นกลัวกับอัลฟ่าแปลกหน้า
“คงไม่ได้คิดจะทำอะไรแผลง ๆ หรอกใช่ไหม..”
“มองฉันในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่าฟิทซ์รอย”
“ฉันเกลียดหมาบ้าในตัวนายที่สุดเลยแมดส์ ขอร้องเถอะ ถ้าจะกัดก็ช่วยเลือกคนหน่อย”
“….”
“อย่างน้อยก็เว้นคุณหนูเยลเวอร์ตันไว้เสียคนหนึ่ง”
“ถ้าฉันจะกัด ฉันทำแล้ว”
“….”
“หรือบางที นายอาจจะหารอยที่ฉันกัดไม่เจอก็ได้นะฟิทซ์รอย..”
Hashtag #maddogmn
TALK : แมดส์ ไทเลอร์ อดทนได้มากกว่าที่ทุกคนคิดนะคะ! แม่จะปกป้องหนูเองค่ะน้องเธียร์ T-T น้องใกล้จะได้ไปเดอะฮิลล์แล้วนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณสำหรับฟิคนะคะ ไรท์สู้ๆน๊าาา