คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : . 15 .
. 15 .
แรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือภายในกระเป๋าเรียกให้คนตัวเล็กละสายตาออกจากการยืนมองเพื่อนสนิทที่กำลังประกอบหัวเตาแก๊สกลับเข้าที่หลังจากยกไปล้างทำความสะอาด เจ้าของมือเรียวล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา สไลด์หน้าจอเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ขึ้นเตือนอยู่ เพื่อพิมพ์ข้อความตอบกลับ
ชานยอล : เราเลิกเรียนหรือยัง
แบคฮยอนนี่ : อีกแปปนึงก็เลิกแล้ว
ชานยอล : แปปนึงนี่ถึงสิบนาทีมั้ย
แบคฮยอนนี่ : น่าจะสิบห้านาทีนะ
แบคฮยอนนี่ : พี่ชานยอลมีอะไรหรือเปล่า
ชานยอล : เลิกช้าจัง
ชานยอล : อย่าเพิ่งกินข้าวในครัวมาจนอิ่มนะ
แบคฮยอนนี่ : จะให้เราไปกินข้าวด้วยล่ะสิ :D
ชานยอล : พี่หุงข้าวไว้เผื่อเราแล้ว
ชานยอล : เดินกลับดีดีนะ ข้างนอกฝนตกน่ะ
แบคฮยอนนี่ : ครับผม J
แบคฮยอนละสายตาออกจากโทรศัพท์ มองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอก ฝนตกมาซักพักแล้วแถมยังมืดอีกต่างหาก วันนี้คลาสของพวกเขาถูกเปลี่ยนเวลาจากแปดโมงเช้ามาเข้าเรียนตอนบ่ายสองแทนเพราะอาจารย์แจซอกติดประชุมเมื่อเช้า ทำให้เวลาเลิกเรียนก็ถูกเลื่อนออกไปด้วย
แล้วเขาจะกลับยังไงล่ะเนี่ย ร่มก็ไม่มี กล่องอุปกรณ์ก็ต้องแบก ถุงใส่อาหารที่ยังไม่ได้กินก็ต้องถือ วิ่งก็ไม่ได้ แบบนี้ต้องเปียกแหง ๆ
" เลิกคลาสได้ เดินกลับกันดี ๆ ล่ะ ข้างนอกฝนตกค่อนข้างแรงนะ .. ระวังไม่สบายกันด้วย "
" ครับอาจารย์ "
นักศึกษาปีสองทยอยกันเดินออกจากห้องครัว โต๊ะสีขาวตัวยาวหน้าห้องเรียนถูกจับจอง เต็มไปด้วยสัมภาระต่าง ๆ ของเพื่อนร่วมห้อง แบคฮยอนหาช่องว่างเพื่อวางถุงอาหารและกระเป๋าลงเพื่อถอดหมวก ผ้าผันคอและเสื้อครัวออกให้เหลือเพียงเสื้อยืด
เด็กหนุ่มทั้งสองคนก้าวขาไปตามทางเดิน จนกระทั่งสุดทางที่มีวัตถุปกคลุมหัวป้องกันฝนให้ แบคฮยอนและเซฮุนหันมามองหน้ากันอย่างชั่งใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าดี แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาและค่อย ๆ ก้าวเดินออกไปกลางแจ้ง
" พี่บอกให้เดินกลับดีดีไง ตากฝนแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก " แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีร่มจากมือใครคนหนึ่งที่คุ้นตาเข้ามาบังฝนให้ พร้อมกับคำพูดกึ่งบ่นคล้ายกับคนแก่
" เห้ย มาได้ไงเนี่ย "
" เดินมาไง "
" พี่ชานยอลออกมาทำไม เดี๋ยวเปียกเละเทะหมดหรอก "
" ใครกันแน่ที่ต้องเปียกเละเทะ ถ้าพี่ไม่ออกมารับ "
" ไม่เห็นต้องทำหน้าดุเลยอ่ะ :( "
" พี่ว่าแล้วว่าเราต้องไม่มีร่ม กลัวจะไม่สบาย ก็เลยออกมารับน่ะ " คนตัวสูงพูดแล้วคว้ากล่องอุปกรณ์จากมืออีกคนมาถือไว้ให้
" เราถือเองได้นะ ไม่เป็นไร "
" เดี๋ยวพี่ถือให้ เราแค่เดินอย่าให้เปียกฝนก็พอ "
คนอายุน้อยกว่าพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทตัวสูงที่เดินมาด้วยกันด้วยความเป็นห่วง แต่พอเอี้ยวตัวกลับไปมองก็ต้องยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าเซฮุนก็มีคนเดินถือร่มกันฝนให้อยู่เหมือนกัน
" ขอบคุณนะพี่ชานยอล "
" ไม่เป็นไรหรอก .. หิวมั้ย "
" หิววววววววว เรากินมาแค่นิดเดียวตามที่พี่ชานยอลบอกเลย ! "
" ดีมาก "
" เป็นเด็กดีต้องได้รางวัลนะ "
" เอาอะไรดีล่ะ "
" เราอยากกินซี่โครงหมูตุ๋นมากเลยอ่ะ แต่ว่า .. "
" ไว้ไปซื้อมาทำกินมั้ย พี่ทำอร่อยนะ "
" จริงหรอ ! " แบคฮยอนหันไปมองอีกคนด้วยดวงตาเป็นประกาย ตอนแรกคิดไว้แค่จะชวนอีกคนไปซื้อเป็นเพื่อนก็เท่านั้น แต่หลังจากได้ยินคำตอบคนตัวเล็กก็ไม่ได้พูดออกไปตามที่คิด เพราะถ้าต้องเลือกไปซื้อตามร้านที่รสชาติเป็นยังไงก็ไม่รู้ เขาอยากจะทานฝีมือคนที่อยู่ข้าง ๆ มากกว่า
" อื้ม แต่ต้องรอพรุ่งนี้เย็น ๆ หน่อยนะ .. พอดีพี่มีสอบ "
" เรารอได้ สบายมาก .. แต่พี่ชานยอลสอบอะไรหรอ พรุ่งนี้วันเสาร์นี่นา "
" ภาษาอังกฤษของมหาลัยน่ะ ที่ต้องสอบก่อนไปฝึกงาน " ปาร์คชานยอลตอบพลางวางกล่องอุปกรณ์ของรุ่นน้องลง แล้วกดหุบร่มหลังจากเดินเข้ามาถึงบริเวณที่จอดรดใต้ตึกแล้ว
" จะไปฝึกงานแล้วหรอ "
" อื้ม อีกเดือนกว่า ๆ "
" เราต้องเหงาแน่ ๆ เลย "
" พี่ก็คงเหงาเหมือนกัน "
.
เจ้าของห้องปลดล็อกประตู เปิดเข้าไปแล้วเอื้อมมือเปิดไฟทางขวามือ วางกล่องอุปกรณ์ของอีกคนลง เดินตรงไปยังระเบียงเพื่อวางร่มผึ่งลมเอาไว้ให้แห้ง ก่อนจะเดินกลับมายืนอมยิ้มพิงกรอบประตูใสกั้นห้องครัว มองอีกคนเปิดหม้อตักข้าวใส่จานสองใบ
" พรุ่งนี้พี่ชานยอลสอบตอนไหนหรอ "
" ตอนบ่ายโมงน่ะ พี่ลงช้ารอบแรกมันเลยเต็ม "
" แบบนี้ก็ต้องตั้งใจอ่านหนังสือน่ะสิ "
" อื้อ .. ถามแบบนั้น เราตั้งใจจะมาป่วนพี่หรอ "
" ใช่ ให้พี่ชานยอลสอบไม่ผ่าน จะได้ไปฝึกงานไม่ได้ " แบคฮยอนพูดแล้วคีบเนื้อปลาย่างไปวางลงในจานอีกคน ก่อนจะใช้ช้อนตักซุปหอยตลับเข้าปากตัวเองหนึ่งคำ
" แค่ตอนนี้พี่ยังไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่าเลย "
" พี่ชานยอลเครียดหรอ " เงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนอายุมากกว่าด้วยท่าทางที่สลดลงนิดหน่อย เพราะแอบรู้สึกผิดที่พูดเล่นออกไปก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะเครียดจริง ๆ จัง ๆ นี่นา
" เครียดสิ พี่ไม่ถูกกับภาษาอังกฤษจริง ๆ นะ "
" พี่ชานยอลทำได้อยู่แล้ว เรายังเชื่อในตัวพี่ชานยอลเลย แล้วพี่ชานยอลทำไมไม่เชื่อใจตัวเองล่ะ :D "
" … "
" … " ไม่มีใครพูดอะไรต่อ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ทั้งสองคนวางช้อนส้อมในมือลงและหยุดทานข้าว แบคฮยอนนั่งสบตากับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามนิ่ง ๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ชานยอลนั่งมองคนอายุน้อยกว่าซักพัก ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกไป
" พรุ่งนี้ .. "
" … "
" เราลงมาอยู่เป็นเพื่อนพี่อ่านหนังสือหน่อยสิ " คนฟังเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยกับสิ่งที่ได้ยิน แต่สุดท้ายแล้วก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะแกล้งแหย่ถาม
" แน่ใจหรอ อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ด้วยนะ " ชานยอลยิ้มขำกับคำถามที่ถูกส่งมา ก่อนจะตอบกลับด้วยประโยคที่ทำให้คนตัวเล็กต้องยิ้มกว้างกว่าเดิม
" แน่ใจสิ "
" … "
" ก็พี่อยากได้กำลังใจนี่ "
.
30 %
เจ้าของดวงตาเรียวนั่งมองแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูงมาเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ แบคฮยอนแอบคิดอยู่เหมือนกันว่าพี่ชานยอลอาจจะเผลอหลับกลางอากาศไปแล้วเพราะไม่เห็นส่วนใดของร่างกายอีกคนขยับเขยื้อนเลย นอกจากข้อมือขวาที่ใช้จับดินสอทำแบบฝึกหัดอยู่
เลือกคลายความสงสัยด้วยการเดินเข้าไปชะโงกหน้ามองอีกคนเงียบ ๆ ปาร์คชานยอลสะดุ้งนิดหน่อยด้วยความตกใจ ทำให้ทั้งสองคนเผลอหัวเราะออกมา
" เรานึกว่าเผลอหลับไปแล้วซะอีก " คนตัวเล็กพูดแล้วเดินไปยกเก้าอี้ที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่น เข้ามาวางและนั่งลงตรงโต๊ะหนังสือข้างกันกับเจ้าของห้อง
" พี่จะไปกล้าหลับได้ยังไง ยังทำไม่ค่อยได้เลย "
" อย่าไปกดดันตัวเองมากสิ เราเชื่อว่าพี่ชานยอลทำได้นะ " มือเล็กวางทาบลงบนขมับคนตัวสูงทั้งสองข้าง ใช้นิ้วโป้งนวดคลึงเบา ๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ดวงตากลมโตปิดลงถือโอกาสพักสายตา ก่อนที่คิ้วหนาจะคลายออกจากการเป็นปมและปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก
" ขอบคุณนะตัวเล็ก "
" เราปอกแอปเปิ้ลให้เอามั้ย " คนถามได้รับคำตอบเป็นการส่ายหัว ทำให้เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ได้ลุกไปห้องครัวอย่างที่คิดเอาไว้ ตามจริงแอปเปิ้ลปาร์คชานยอลก็อยากกินและความเกรงใจก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาปฏิเสธออกไป หากแต่เป็นเพราะเขายังอยากตีเนียนกุมมือเล็กนี้ไว้อีกซักพักก็เท่านั้น
" จับไว้แบบนี้จะทำแบบฝึกหัดต่อยังไงล่ะ "
" ไม่อยากทำแล้ว " คนตัวสูงเปลี่ยนอิริยาบถ เอนลงไปฟุบกับโต๊ะหันหน้าไปทางแขกที่ชวนมาเป็นกำลังใจ ยกมือเรียวขึ้นทาบไว้บนแก้มของตัวเองแล้วพูดด้วยเสียงงอแง
" ดื้อแบบนี้ เดี๋ยวเข้าไปทำข้อสอบไม่ได้นะ "
" เดี๋ยวเราไม่ต้องกลับห้องนะ อยู่ห้องพี่นี่แหละ "
" ทำไมอ่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากลับห้องตัวเองก่อนดีกว่า "
" พี่อยากกลับมาแล้วเจอเรา "
" … "
" นะ "
" ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องรีบนะ ยังไงเราก็รออยู่ที่นี่อยู่แล้ว " นัยน์ตาสีเข้มสบกันพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ถูกจุดขึ้นมาบนริมฝีปากของคนทั้งคู่
.
โซฟานุ่มและอากาศเย็นภายในห้อง ดึงให้เปลือกตาของคนตัวเล็กค่อย ๆ ปิดลง แต่ยังไม่ทันได้เข้าสู่ห้วงนิทราเสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะกระจกตรงหน้าก็ดังเรียกหาเจ้าของซะก่อน ดวงตาใสเบิกโพลงด้วยความตกใจก่อนจะเอื้อมคว้าเครื่องมือสื่อสารมากดรับแล้วแนบหู
Rr rr r.
" อื้อ "
( ฮัลโหล มึงหลับหรอ อยู่ไหนเนี่ย )
" อือ อยู่ห้องพี่ชานยอล "
( ห้องพี่ชานยอล ? ไปทำอะไรวะ เขาไม่ไปสอบหรอ )
" ไปดิ เขาฝากห้องไว้ "
( อ๋อ )
" แล้วมึงโทรมา ว่าไง "
( ไม่ว่าไง กูตื่นมาแล้วไม่เจอมึงไง )
" อ๋อ "
( อือ เป็นห่วงเฉย ๆ .. งั้นเดี๋ยวกูไปหอจงแดนะ )
" โอเค หาข้าวกินด้วยนะมึง "
( อือ แค่นี้นะ )
" โอเค "
โทรศัพท์มือถือถูกวางลงที่เดิม แบคฮยอนเอนตัวไปตามโซฟา ขยับหาตำแหน่งพอดีตัวเหมือนก่อนหน้า เปลือกตาค่อย ๆ คล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงแต่ก็โดนขัดไว้อีกครั้งด้วยเสียงประตูห้อง
ก๊อก ก๊อก !
อา .. โชคดีนะที่บยอนแบคฮยอนไม่ใช่คนหงุดหงิดจากการถูกปลุก
ไม่อย่างนั้นล่ะก็คนอีกฟากประตูได้หูชาแน่ ๆ
กลอนประตูถูกปลดล็อก ดึงลงเพื่อเปิดออกรับเจ้าของห้องตัวจริง ชานยอลสบตากับคนที่เปิดประตูให้นิดหน่อย ก่อนจะเดินผ่านคนตัวเล็กเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรสักคำแม้กระทั่งคำทักทาย
คนที่ยังสะลึมสะลืออยู่เมื่อครู่ตื่นเต็มตาทันที เมื่อเห็นว่าอีกคนสีหน้าไม่ค่อยดีนัก คิ้วบางขมวดเข้าหากันน้อย ๆ ก่อนที่ขาเรียวจะเดินไปหยุดตรงหน้าและเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
" พี่ชานยอลเป็นอะไร ทำไม่ได้หรอ "
" อือ ทำได้น้อยมากเลยอ่ะ "
" คิดมากหรือเปล่า อาจจะทำไปถูกแล้วก็ได้นะ "
" ไม่รู้สิ " ห้องเงียบไปหลังจากจบคำพูดของคนตัวสูง ตามจริงเขาก็ไม่รู้หรอกว่าควรจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ตรงนี้มันดีขึ้น แค่คิดว่าคงต้องทำอะไรสักอย่างที่น่าจะพอช่วยได้บ้าง
" ไหนมาแบ่งความเครียดออกหน่อยสิ "
" … " ชานยอลกลั้นยิ้มเอาไว้แล้วเดินเข้าไปสวมกอดอีกคนที่ยืนอ้าแขนรอรับเขาอยู่ แต่พอพ้นกรอบสายตาของคนตัวเล็ก ริมฝีปากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมากว้างจนแทบจะถึงหู
" โอ๋เอ๋ ไม่เป็นไรนะ "
" … "
" ไม่เป็นไรนะคนเก่ง "
" ตัวเล็ก "
" หื้ม "
" ไปเอาวิธีปลอบแบบนี้มาจากไหนเนี่ย "
" แม่เราเอง ทำไมหรอ "
" อย่าไปเที่ยวกอดปลอบใครแบบนี้นะ "
" อื้อ " คนตัวสูงสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าตกลงควรจะต้องเครียดเรื่องไหนก่อน ระหว่างการสอบที่เพิ่งผ่านมาหรือวิธีการปลอบแบบนี้ของคนในอ้อมกอด ถ้าไปทำแบบนี้กับใครมีหวังเขาได้หวั่นไหวกันไปหมดแน่
ขนาดปาร์คชานยอลยังยืนใจเต้นแรงอยู่ตรงนี้เลย
.
ล้อเล็กของรถเข็นถูกเลื่อนไปตามทางเดินซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้กับคอนโด ล็อกของสดเป็นจุดแรกที่เด็กหนุ่มทั้งสองคนเลือกมาดูสินค้า
แบคฮยอนกำลังเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปมาเพื่อหารายชื่อวัตถุดิบที่ใช้ประกอบในเมนูซี่โครงหมูตุ๋น ไล่สายตาอ่านให้พอจำได้คร่าว ๆ แล้วหันไปบอกทางคนที่ควบคุมรถเข็นอยู่
" แครอท หอมใหญ่ ต้นหอม พริกหวาน กระเทียม น่าจะอยู่ที่เดียวกันนะพี่ชานยอล .. นั่นไง " คนฟังยิ้มขำเพราะไม่แน่ใจว่าตกลงแบคฮยอนพูดกับเขาหรือเปล่าหรือแค่พึมพำกับตัวเองกันแน่ เงยหน้ามองอีกทีก็เห็นเพียงแค่ไหล่บางไหวไหวซะแล้ว ถ้าไม่รีบตามไปตอนนี้ได้หาเด็กแสบไม่เจอแน่ ๆ
" พี่ชานยอลรออยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวเราเดินเอาไปให้เขาชั่งก่อน "
" มันหนักนะ เดี๋ยวพี่เอาไปเองดีกว่า "
" ไม่เป็นไรเราไหว ไปแปปเดียวเอง :D " พูดแล้วถือถุงที่ยังไม่ได้มัดดี วิ่งพะรุงพะรังไปหาพนักงานที่เครื่องชั่งไม่ไกล ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่อีกคนอยู่ตลอดไม่คลาดสายตา แต่เพียงแค่ชั่วนาทีคิ้วหนาของคนที่ยืนรออยู่ก็เริ่มขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนเข้ามาวุ่นวาย ขายาวไม่รีรอทิ้งรถเข็นไว้ตรงนั้นและเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที
" มีอะไรหรือเปล่าตัวเล็ก " ไม่พูดเปล่า แขนแกร่งยกขึ้นโอบอีกคนพร้อมกับส่งสายตาไม่พอใจออกไปด้วย
นี่ เป็นไงล่ะ !
" หือ ไม่มีอะไรหรอก .. เขาใจดีจะช่วยเราขนของไปที่รถเข็นเฉย ๆ "
" ขอบคุณมากนะครับ แต่เดี๋ยวผมดูแลตัวเล็กเอง J "
นี่ เอาไปอีกหนึ่งดอก
" เอ่อ ครับ ถ้าอย่างนั้นขอตัวนะครับ "
" เชิญเลยครับ " พูดแล้วรวบทุกอย่างจากมือเล็กมาไว้ที่มือซ้าย ยกมือขวาขึ้นโอบไหล่อีกคนพาเดินกลับไปที่รถเข็นคันเดิม แบคฮยอนมองอีกคนด้วยสายตางุนงง แต่ก็ไม่ได้พูดท้วงอะไรออกไป เพียงแค่หัวเราะออกมาเบา ๆ เท่านั้น
" ดุเนอะ "
" ใครหรอ "
" พี่ชานยอลน่ะสิ "
" พี่ไปทำดุใส่เราตอนไหน " มือหนาจับลงบนรถเข็นและเข็นตามทางต่อไปเรื่อย ๆ โดยมีคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ พูดแหย่ไม่หยุด
" เมื่อกี้ไง "
" ไม่ได้ทำใส่เราสักหน่อย "
" แล้วทำใส่ใครล่ะ "
" ทำใส่คนนั้นไง "
" แล้วไปทำใส่เขาทำไมล่ะ "
" ตัวเล็ก แกล้งหรอ "
" หือ แกล้งอะไร เราเปล่าเลยนะ " ยืนยันคำพูดด้วยการยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแบพร้อมกับแสร้งทำหน้าไร้เดียงสา ก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะอีกคนเอาแต่ทำหน้ายุ่ง คิ้วขมวดมุ่นเป็นปม
" พี่จะทิ้งเราไว้ที่นี่ ไม่พากลับด้วยแล้ว "
" ตอนเปลี่ยนใจขับกลับมารับ อย่าขับเร็วมากนะ :D "
ชานยอลมั่นใจว่าเขาได้พยายามมากแล้วจริง ๆ กับการตีหน้าขรึมใส่อีกคน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ ยกธงขาวขึ้นแล้วยิ้มออกมาจนได้
.
" เราถือเองได้ หม้อสต็อกหนักกว่านี้ตั้งเยอะ เรายังถือไหวเลย "
" พี่รู้ว่าเราถือไหว แต่ให้พี่ถือดีกว่าไง "
" ดีกว่ายังไงอ่ะ หนักคนเดียว "
" ดีตรงที่เราไม่หนักไง "
" มึงหนักเปล่าวะไอลู่ เดี๋ยวกูช่วยถือ "
" สมองกูอ่ะหรอ หนักมาก ช่วยถือหน่อยดิกัมจง "
" เปล่า กูหมายถึงพุงมึงอ่ะ หนักมั้ย "
" กัมจง ! ตอนนี้เราเป็นพวกเดียวกันอยู่นะเว้ย " ลู่หานหันไปยกมือป้องปากกระซิบเพื่อนสนิทผิวคล้ำ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง
" พี่ลู่ พี่จงอิน :D "
" มาทำไมกันวะ " สองคนที่เพิ่งเดินมาตามทางเกือบจะถึงห้อง หันไปทักแขกไม่ได้รับเชิญที่ดูท่าจะรออยู่หน้าห้องมาซักพักแล้ว
" คิดถึงเพื่อนรักไง "
" ซารางเฮโย "
" ปัญญาอ่อน .. จะมา ทำไมไม่โทรบอก " เจ้าของห้องกระแทกถุงที่ถืออยู่ใส่เพื่อนสนิททั้งสองคน เพื่อให้รับไปถือแทนแล้วหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกง ปลดล็อกเปิดประตูเข้าห้อง
" ถ้ากูโทร มึงก็ไล่กูกลับสิจ้ะ "
" โชคดีจริง ๆ ที่พวกกูฉลาด ใช่ป่ะกัมจง ฮิฮิ "
" งั้นมาช่วยทำเลย "
" จะทำอะไรกินกันอ่ะ ซื้อของมาเต็มเลย .. ซี่โครงหมูตุ๋นหรอ "
" ใช่เลย พี่ลู่รู้ได้ไงอ่ะ .. เก่งจัง "
" คนตะกละตะกลามน่ะน้องแบค กินเยอะก็เลยจำได้ "
" ย่าห์ ! มือกูใกล้มีดมากเลยนะคิมจงอิน ระวังลั่น "
" ขอโทษครับ .. แล้วนึกยังไงอยู่ ๆ ถึงมาทำซี่โครงหมูตุ๋นกินวะ "
" แบคฮยอนอยากกิน " เจ้าของห้องตอบในขณะที่กรองน้ำใส่หม้อสำหรับต้มซี่โครงหมู ผู้มาเยือนใหม่ทั้งสองคนได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองหน้ากัน ส่งสายตาวิบวับเก็บข้อมูลเอาไว้แซวเพื่อนสนิท
" เรามารบกวนพี่ชานยอลเองแหละ " ความรู้สึกเกรงใจตีขึ้นมานิดหน่อย ทำให้ต้องรีบพูดออกไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มแหย ๆ ไปให้รุ่นพี่ทั้งสองคน
" โอ้ย กวนได้ กวนไปเถอะน้องแบค "
" ใช่ กวนไปเลย มันเต็มใจจจจจจจ "
" วันนี้จะได้กินมั้ย ไม่หั่นซักทีแครอทกับมันฝรั่งเนี่ย "
" ครับ ๆ "
" ขอโทษครับเชฟ "
อาจเป็นเพราะความโชคดีที่มีนักศึกษาเรียนครัวถึงสี่คน ทำให้สามารถย่นระยะเวลาในการทำอาหารไปได้มาก ข้าวจานที่สี่ถูกวางลงบนโต๊ะเป็นอย่างสุดท้าย เด็กหนุ่มทั้งสี่คนจึงได้เวลาจับจองเก้าอี้เพื่อเริ่มทานมื้อเย็นกันสักที
เพื่อนสนิทเจ้าของห้องทั้งสองคนเบ้ปากจนเมื่อยไปหมด ทั้งที่อาหารบนโต๊ะก็รสชาติถูกปากดี แต่คงเป็นเพราะเห็นคนตัวสูงคีบนู่น ตักนี่วางลงในจานของรุ่นน้องที่นั่งข้างกันมากกว่า เขาทั้งสองคนถึงได้เลี่ยนซี่โครงหมูตุ๋นไม่เลิก
" มึงว่าซี่โครงหมูตุ๋นหวานเปล่าวะกัม "
" กูเลี่ยนแล้วอ่ะ "
" แล้วพี่ปาร์คว่าหวานมั้ยครับ "
" ใครพูดมาก ล้างจาน "
" เดี๋ยวเราล้างให้เอง :D "
" งั้นมึงช่วยน้องแบคละกันเนอะ "
" เนอะปาร์คชานยอล เนอะ "
" พี่ว่าจะแกล้งไอสองคนนี้ซะหน่อย "
" พี่ชานยอลไปแกล้งอย่างอื่นสิ เราอยากช่วย "
" งั้นเดี๋ยวพี่ช่วยเราล้างละกัน "
ใช้เวลาทานไปเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับเวลาทำอาหาร หลังจากทานเสร็จคิมจงอินและลู่หานก็รีบหนีไปนอนเล่นบนโซฟาห้องนั่งเล่นทันที โดยไม่มีท่าทีลังเลอยากจะช่วยเลยสักนิด หน้าที่ทำความสะอาดทั้งหมดจึงตกเป็นของแบคฮยอนและชานยอลโดยปริยาย
ขายาวย้ายตัวมานั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าวตัวเดิมหลังจากล้างจานเสร็จเพราะไม่อยากจะไปวุ่นวายกับเพื่อนสนิททั้งสองคน ดวงตากลมโตมองตามคนตัวเล็กเดินไปเดินมาไม่วางตา ก่อนจะได้ยินเสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ
" เห้ย เราลืมไปได้ไงเนี่ย ! "
" ลืมอะไรหรอตัวเล็ก " แบคฮยอนตอบคำถามด้วยการเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกล่องใสออกมาก่อนจะปิดตู้เย็นแล้วเดินกลับมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม
" ขนมอันนี้ใช่มั้ย ที่พี่ชานยอลเคยบอก " คิ้วหนาขมวดมุ่นหลังจากได้ยินสิ่งที่อีกคนพูด ขนม ? ที่เขาเคยบอก ? หรอ ?
" อ๋อ .. จากในคาบเรียนหรือเปล่า "
" ใช่ ๆ อันนี้ใช่มั้ย เราดูแล้วนะมันมีอยู่แค่ Pate a choux เมนูเดียวที่มีอัลมอนต์กับแป้งเป็นส่วนผสม "
" เราจำได้ด้วยหรอว่าพี่เคยพูด .. พี่ยังเกือบลืมไปแล้วเลย "
" เราตั้งใจจะเอามาให้กินเลยแหละ :D "
" ขอบคุณนะ " อีกแล้ว ปาร์คชานยอลยิ้มอีกแล้ว รอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ อาจจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่เขาคิดว่าแบคฮยอนต้องมีเวทมนต์อะไรสักอย่างแน่ถึงได้ทำให้เขาเอาแต่ยิ้มกว้างทุกครั้งที่อยู่ด้วย
" กินเลยสิ เราสัญญาว่าจะไม่แย่ง "
" พี่ไม่ปล่อยให้เราแย่งหรอก ไอสองตัวนั้นก็เหมือนกัน .. เพราะมันเป็นของพี่ "
ดวงตากลมโตหลุบสายตาลงมองขนมตรงหน้า ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกำลังชั่งใจที่จะพูดบางอย่างออกมา แต่เพียงแค่ชั่ววินาทีนัยน์ตาสีเข้มนั้นก็กลับมาสบกันอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากจะค่อย ๆ คลายออกและพูดสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมา
" ตัวเล็ก "
" หื้อ "
" พี่ให้เราเป็นฟักทองของพี่นะ "
" หะ ฟักทอง ? "
" อื้อ พั้มกินส์ :) "
" ว่าเราหรือ .. " พูดยังไม่ทันขาดคำ รุ่นพี่สองคนในห้องนั่งเล่นก็ดันตะโกนเสียงดังแทรกเข้ามาซะก่อน
" กูได้ยินนะเว้ย ไอยอล ! "
" ไหนบอกว่าปัญญาอ่อนไงวะ "
" ขี้โม้นี่หว่า "
" หมายความว่าไงอ่ะพี่ชานยอล "
" ไม่บอกหรอก "
" ทำไม่ล่ะ มาทำให้อยากรู้แล้วจะไม่บอกหรอ "
" ถ้าอยากรู้ ไว้ไปถามไอลู่เอาละกันนะ J "
_______________
คุณสองคนคิดว่าเป็นข้าวใหม่ปลามันกันหรอคะ
ไม่ค่ะ ฉันยอมไม่ได้
ขอส่งตัวป่วนไปสองอัตรา อิอิ
ส่วนเรื่องฟักทอง ถ้าอยากรู้ก็ไปถามพี่ลู่เอาละกันนะ
นี่ Pate a choux ที่น้องแบคให้พี่ชาน
อร่อยมากจริง ๆ ลองหาซื้อกินดูนะ :D
ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ ♡
ความคิดเห็น