ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Special one ♡ ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #16 : . 15 .

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.47K
      7
      17 พ.ค. 58

    . 15 .

     

     

         แรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือภายในกระเป๋าเรียกให้คนตัวเล็กละสายตาออกจากการยืนมองเพื่อนสนิทที่กำลังประกอบหัวเตาแก๊สกลับเข้าที่หลังจากยกไปล้างทำความสะอาด เจ้าของมือเรียวล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมา สไลด์หน้าจอเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ขึ้นเตือนอยู่ เพื่อพิมพ์ข้อความตอบกลับ

     

              ชานยอล : เราเลิกเรียนหรือยัง


              แบคฮยอนนี่ : อีกแปปนึงก็เลิกแล้ว


              ชานยอล : แปปนึงนี่ถึงสิบนาทีมั้ย


              แบคฮยอนนี่ : น่าจะสิบห้านาทีนะ


              แบคฮยอนนี่ : พี่ชานยอลมีอะไรหรือเปล่า


              ชานยอล : เลิกช้าจัง


              ชานยอล : อย่าเพิ่งกินข้าวในครัวมาจนอิ่มนะ


              แบคฮยอนนี่ : จะให้เราไปกินข้าวด้วยล่ะสิ :D


              ชานยอล : พี่หุงข้าวไว้เผื่อเราแล้ว


              ชานยอล : เดินกลับดีดีนะ ข้างนอกฝนตกน่ะ


              แบคฮยอนนี่ : ครับผม J

     

         แบคฮยอนละสายตาออกจากโทรศัพท์ มองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอก ฝนตกมาซักพักแล้วแถมยังมืดอีกต่างหาก วันนี้คลาสของพวกเขาถูกเปลี่ยนเวลาจากแปดโมงเช้ามาเข้าเรียนตอนบ่ายสองแทนเพราะอาจารย์แจซอกติดประชุมเมื่อเช้า ทำให้เวลาเลิกเรียนก็ถูกเลื่อนออกไปด้วย


         แล้วเขาจะกลับยังไงล่ะเนี่ย ร่มก็ไม่มี กล่องอุปกรณ์ก็ต้องแบก ถุงใส่อาหารที่ยังไม่ได้กินก็ต้องถือ วิ่งก็ไม่ได้ แบบนี้ต้องเปียกแหง ๆ

     

              " เลิกคลาสได้ เดินกลับกันดี ๆ ล่ะ ข้างนอกฝนตกค่อนข้างแรงนะ .. ระวังไม่สบายกันด้วย "


              " ครับอาจารย์ "

     

         นักศึกษาปีสองทยอยกันเดินออกจากห้องครัว โต๊ะสีขาวตัวยาวหน้าห้องเรียนถูกจับจอง เต็มไปด้วยสัมภาระต่าง ๆ ของเพื่อนร่วมห้อง แบคฮยอนหาช่องว่างเพื่อวางถุงอาหารและกระเป๋าลงเพื่อถอดหมวก ผ้าผันคอและเสื้อครัวออกให้เหลือเพียงเสื้อยืด


         เด็กหนุ่มทั้งสองคนก้าวขาไปตามทางเดิน จนกระทั่งสุดทางที่มีวัตถุปกคลุมหัวป้องกันฝนให้ แบคฮยอนและเซฮุนหันมามองหน้ากันอย่างชั่งใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าดี แต่สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาและค่อย ๆ ก้าวเดินออกไปกลางแจ้ง


     

              " พี่บอกให้เดินกลับดีดีไง ตากฝนแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก " แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็มีร่มจากมือใครคนหนึ่งที่คุ้นตาเข้ามาบังฝนให้ พร้อมกับคำพูดกึ่งบ่นคล้ายกับคนแก่


              " เห้ย มาได้ไงเนี่ย "


              " เดินมาไง "


              " พี่ชานยอลออกมาทำไม เดี๋ยวเปียกเละเทะหมดหรอก "


              " ใครกันแน่ที่ต้องเปียกเละเทะ ถ้าพี่ไม่ออกมารับ "


              " ไม่เห็นต้องทำหน้าดุเลยอ่ะ :( "


              " พี่ว่าแล้วว่าเราต้องไม่มีร่ม กลัวจะไม่สบาย ก็เลยออกมารับน่ะ " คนตัวสูงพูดแล้วคว้ากล่องอุปกรณ์จากมืออีกคนมาถือไว้ให้


              " เราถือเองได้นะ ไม่เป็นไร "


              " เดี๋ยวพี่ถือให้ เราแค่เดินอย่าให้เปียกฝนก็พอ "

     

         คนอายุน้อยกว่าพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทตัวสูงที่เดินมาด้วยกันด้วยความเป็นห่วง แต่พอเอี้ยวตัวกลับไปมองก็ต้องยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าเซฮุนก็มีคนเดินถือร่มกันฝนให้อยู่เหมือนกัน

     

              " ขอบคุณนะพี่ชานยอล "


              " ไม่เป็นไรหรอก .. หิวมั้ย "


              " หิววววววววว เรากินมาแค่นิดเดียวตามที่พี่ชานยอลบอกเลย ! "


              " ดีมาก "


              " เป็นเด็กดีต้องได้รางวัลนะ "


              " เอาอะไรดีล่ะ "


              " เราอยากกินซี่โครงหมูตุ๋นมากเลยอ่ะ แต่ว่า .. "


              " ไว้ไปซื้อมาทำกินมั้ย พี่ทำอร่อยนะ "


              " จริงหรอ ! " แบคฮยอนหันไปมองอีกคนด้วยดวงตาเป็นประกาย ตอนแรกคิดไว้แค่จะชวนอีกคนไปซื้อเป็นเพื่อนก็เท่านั้น แต่หลังจากได้ยินคำตอบคนตัวเล็กก็ไม่ได้พูดออกไปตามที่คิด เพราะถ้าต้องเลือกไปซื้อตามร้านที่รสชาติเป็นยังไงก็ไม่รู้ เขาอยากจะทานฝีมือคนที่อยู่ข้าง ๆ มากกว่า


              " อื้ม แต่ต้องรอพรุ่งนี้เย็น ๆ หน่อยนะ .. พอดีพี่มีสอบ "


              " เรารอได้ สบายมาก .. แต่พี่ชานยอลสอบอะไรหรอ พรุ่งนี้วันเสาร์นี่นา "


              " ภาษาอังกฤษของมหาลัยน่ะ ที่ต้องสอบก่อนไปฝึกงาน " ปาร์คชานยอลตอบพลางวางกล่องอุปกรณ์ของรุ่นน้องลง แล้วกดหุบร่มหลังจากเดินเข้ามาถึงบริเวณที่จอดรดใต้ตึกแล้ว


              " จะไปฝึกงานแล้วหรอ "


              " อื้ม อีกเดือนกว่า ๆ "


              " เราต้องเหงาแน่ ๆ เลย "


              " พี่ก็คงเหงาเหมือนกัน "


    .

         เจ้าของห้องปลดล็อกประตู เปิดเข้าไปแล้วเอื้อมมือเปิดไฟทางขวามือ วางกล่องอุปกรณ์ของอีกคนลง เดินตรงไปยังระเบียงเพื่อวางร่มผึ่งลมเอาไว้ให้แห้ง ก่อนจะเดินกลับมายืนอมยิ้มพิงกรอบประตูใสกั้นห้องครัว มองอีกคนเปิดหม้อตักข้าวใส่จานสองใบ

        

              " พรุ่งนี้พี่ชานยอลสอบตอนไหนหรอ "


              " ตอนบ่ายโมงน่ะ พี่ลงช้ารอบแรกมันเลยเต็ม "


              " แบบนี้ก็ต้องตั้งใจอ่านหนังสือน่ะสิ "


              " อื้อ .. ถามแบบนั้น เราตั้งใจจะมาป่วนพี่หรอ "


              " ใช่ ให้พี่ชานยอลสอบไม่ผ่าน จะได้ไปฝึกงานไม่ได้ " แบคฮยอนพูดแล้วคีบเนื้อปลาย่างไปวางลงในจานอีกคน ก่อนจะใช้ช้อนตักซุปหอยตลับเข้าปากตัวเองหนึ่งคำ


              " แค่ตอนนี้พี่ยังไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่าเลย "


              " พี่ชานยอลเครียดหรอ " เงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนอายุมากกว่าด้วยท่าทางที่สลดลงนิดหน่อย เพราะแอบรู้สึกผิดที่พูดเล่นออกไปก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะเครียดจริง ๆ จัง ๆ นี่นา


              " เครียดสิ พี่ไม่ถูกกับภาษาอังกฤษจริง ๆ นะ "


              " พี่ชานยอลทำได้อยู่แล้ว เรายังเชื่อในตัวพี่ชานยอลเลย แล้วพี่ชานยอลทำไมไม่เชื่อใจตัวเองล่ะ :D "


              " … "


              " … "  ไม่มีใครพูดอะไรต่อ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ทั้งสองคนวางช้อนส้อมในมือลงและหยุดทานข้าว แบคฮยอนนั่งสบตากับคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามนิ่ง ๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ชานยอลนั่งมองคนอายุน้อยกว่าซักพัก ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกไป


              " พรุ่งนี้ .. "


              " … "


              " เราลงมาอยู่เป็นเพื่อนพี่อ่านหนังสือหน่อยสิ  " คนฟังเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อยกับสิ่งที่ได้ยิน แต่สุดท้ายแล้วก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะแกล้งแหย่ถาม


              " แน่ใจหรอ อ่านไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ด้วยนะ " ชานยอลยิ้มขำกับคำถามที่ถูกส่งมา ก่อนจะตอบกลับด้วยประโยคที่ทำให้คนตัวเล็กต้องยิ้มกว้างกว่าเดิม

     
     

              " แน่ใจสิ "

              " … "

              " ก็พี่อยากได้กำลังใจนี่ "

    .

              30 %

         เจ้าของดวงตาเรียวนั่งมองแผ่นหลังกว้างของคนตัวสูงมาเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ แบคฮยอนแอบคิดอยู่เหมือนกันว่าพี่ชานยอลอาจจะเผลอหลับกลางอากาศไปแล้วเพราะไม่เห็นส่วนใดของร่างกายอีกคนขยับเขยื้อนเลย นอกจากข้อมือขวาที่ใช้จับดินสอทำแบบฝึกหัดอยู่


         เลือกคลายความสงสัยด้วยการเดินเข้าไปชะโงกหน้ามองอีกคนเงียบ ๆ ปาร์คชานยอลสะดุ้งนิดหน่อยด้วยความตกใจ ทำให้ทั้งสองคนเผลอหัวเราะออกมา

     

              " เรานึกว่าเผลอหลับไปแล้วซะอีก " คนตัวเล็กพูดแล้วเดินไปยกเก้าอี้ที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่น เข้ามาวางและนั่งลงตรงโต๊ะหนังสือข้างกันกับเจ้าของห้อง


              " พี่จะไปกล้าหลับได้ยังไง ยังทำไม่ค่อยได้เลย "


              " อย่าไปกดดันตัวเองมากสิ เราเชื่อว่าพี่ชานยอลทำได้นะ " มือเล็กวางทาบลงบนขมับคนตัวสูงทั้งสองข้าง ใช้นิ้วโป้งนวดคลึงเบา ๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ดวงตากลมโตปิดลงถือโอกาสพักสายตา ก่อนที่คิ้วหนาจะคลายออกจากการเป็นปมและปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก


              " ขอบคุณนะตัวเล็ก "


              " เราปอกแอปเปิ้ลให้เอามั้ย " คนถามได้รับคำตอบเป็นการส่ายหัว ทำให้เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ได้ลุกไปห้องครัวอย่างที่คิดเอาไว้ ตามจริงแอปเปิ้ลปาร์คชานยอลก็อยากกินและความเกรงใจก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาปฏิเสธออกไป หากแต่เป็นเพราะเขายังอยากตีเนียนกุมมือเล็กนี้ไว้อีกซักพักก็เท่านั้น


              " จับไว้แบบนี้จะทำแบบฝึกหัดต่อยังไงล่ะ "


              " ไม่อยากทำแล้ว " คนตัวสูงเปลี่ยนอิริยาบถ เอนลงไปฟุบกับโต๊ะหันหน้าไปทางแขกที่ชวนมาเป็นกำลังใจ ยกมือเรียวขึ้นทาบไว้บนแก้มของตัวเองแล้วพูดด้วยเสียงงอแง


              " ดื้อแบบนี้ เดี๋ยวเข้าไปทำข้อสอบไม่ได้นะ "


              " เดี๋ยวเราไม่ต้องกลับห้องนะ อยู่ห้องพี่นี่แหละ "


              " ทำไมอ่ะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรากลับห้องตัวเองก่อนดีกว่า "

             

              " พี่อยากกลับมาแล้วเจอเรา "

              " … "


              " นะ "


              " ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องรีบนะ ยังไงเราก็รออยู่ที่นี่อยู่แล้ว " นัยน์ตาสีเข้มสบกันพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ถูกจุดขึ้นมาบนริมฝีปากของคนทั้งคู่


    .

         โซฟานุ่มและอากาศเย็นภายในห้อง ดึงให้เปลือกตาของคนตัวเล็กค่อย ๆ ปิดลง แต่ยังไม่ทันได้เข้าสู่ห้วงนิทราเสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะกระจกตรงหน้าก็ดังเรียกหาเจ้าของซะก่อน ดวงตาใสเบิกโพลงด้วยความตกใจก่อนจะเอื้อมคว้าเครื่องมือสื่อสารมากดรับแล้วแนบหู

     

              Rr rr r.


              " อื้อ "


              ( ฮัลโหล มึงหลับหรอ อยู่ไหนเนี่ย )


              " อือ อยู่ห้องพี่ชานยอล "


              ( ห้องพี่ชานยอล ? ไปทำอะไรวะ เขาไม่ไปสอบหรอ )


              " ไปดิ เขาฝากห้องไว้ "


              ( อ๋อ )


              " แล้วมึงโทรมา ว่าไง "


              ( ไม่ว่าไง กูตื่นมาแล้วไม่เจอมึงไง )


              " อ๋อ "


              ( อือ เป็นห่วงเฉย ๆ .. งั้นเดี๋ยวกูไปหอจงแดนะ )


              " โอเค หาข้าวกินด้วยนะมึง "


              ( อือ แค่นี้นะ )


              " โอเค "

     

         โทรศัพท์มือถือถูกวางลงที่เดิม แบคฮยอนเอนตัวไปตามโซฟา ขยับหาตำแหน่งพอดีตัวเหมือนก่อนหน้า เปลือกตาค่อย ๆ คล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงแต่ก็โดนขัดไว้อีกครั้งด้วยเสียงประตูห้อง

     

              ก๊อก ก๊อก !


              อา .. โชคดีนะที่บยอนแบคฮยอนไม่ใช่คนหงุดหงิดจากการถูกปลุก
              ไม่อย่างนั้นล่ะก็คนอีกฟากประตูได้หูชาแน่ ๆ

     

         กลอนประตูถูกปลดล็อก ดึงลงเพื่อเปิดออกรับเจ้าของห้องตัวจริง ชานยอลสบตากับคนที่เปิดประตูให้นิดหน่อย ก่อนจะเดินผ่านคนตัวเล็กเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรสักคำแม้กระทั่งคำทักทาย


         คนที่ยังสะลึมสะลืออยู่เมื่อครู่ตื่นเต็มตาทันที เมื่อเห็นว่าอีกคนสีหน้าไม่ค่อยดีนัก คิ้วบางขมวดเข้าหากันน้อย ๆ ก่อนที่ขาเรียวจะเดินไปหยุดตรงหน้าและเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

     

              " พี่ชานยอลเป็นอะไร ทำไม่ได้หรอ "


              " อือ ทำได้น้อยมากเลยอ่ะ "


              " คิดมากหรือเปล่า อาจจะทำไปถูกแล้วก็ได้นะ "


              " ไม่รู้สิ " ห้องเงียบไปหลังจากจบคำพูดของคนตัวสูง ตามจริงเขาก็ไม่รู้หรอกว่าควรจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ตรงนี้มันดีขึ้น แค่คิดว่าคงต้องทำอะไรสักอย่างที่น่าจะพอช่วยได้บ้าง

     

              " ไหนมาแบ่งความเครียดออกหน่อยสิ "


              " … " ชานยอลกลั้นยิ้มเอาไว้แล้วเดินเข้าไปสวมกอดอีกคนที่ยืนอ้าแขนรอรับเขาอยู่ แต่พอพ้นกรอบสายตาของคนตัวเล็ก ริมฝีปากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมากว้างจนแทบจะถึงหู


              " โอ๋เอ๋ ไม่เป็นไรนะ "


              " … "


              " ไม่เป็นไรนะคนเก่ง "


              " ตัวเล็ก "


              " หื้ม "


              " ไปเอาวิธีปลอบแบบนี้มาจากไหนเนี่ย "


              " แม่เราเอง ทำไมหรอ "


              " อย่าไปเที่ยวกอดปลอบใครแบบนี้นะ "


              " อื้อ " คนตัวสูงสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่าตกลงควรจะต้องเครียดเรื่องไหนก่อน ระหว่างการสอบที่เพิ่งผ่านมาหรือวิธีการปลอบแบบนี้ของคนในอ้อมกอด ถ้าไปทำแบบนี้กับใครมีหวังเขาได้หวั่นไหวกันไปหมดแน่

     

              ขนาดปาร์คชานยอลยังยืนใจเต้นแรงอยู่ตรงนี้เลย


    .

     

         ล้อเล็กของรถเข็นถูกเลื่อนไปตามทางเดินซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้กับคอนโด ล็อกของสดเป็นจุดแรกที่เด็กหนุ่มทั้งสองคนเลือกมาดูสินค้า


         แบคฮยอนกำลังเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปมาเพื่อหารายชื่อวัตถุดิบที่ใช้ประกอบในเมนูซี่โครงหมูตุ๋น ไล่สายตาอ่านให้พอจำได้คร่าว ๆ แล้วหันไปบอกทางคนที่ควบคุมรถเข็นอยู่

     

              " แครอท หอมใหญ่ ต้นหอม พริกหวาน กระเทียม น่าจะอยู่ที่เดียวกันนะพี่ชานยอล .. นั่นไง " คนฟังยิ้มขำเพราะไม่แน่ใจว่าตกลงแบคฮยอนพูดกับเขาหรือเปล่าหรือแค่พึมพำกับตัวเองกันแน่ เงยหน้ามองอีกทีก็เห็นเพียงแค่ไหล่บางไหวไหวซะแล้ว ถ้าไม่รีบตามไปตอนนี้ได้หาเด็กแสบไม่เจอแน่ ๆ

     

              " พี่ชานยอลรออยู่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวเราเดินเอาไปให้เขาชั่งก่อน "


              " มันหนักนะ เดี๋ยวพี่เอาไปเองดีกว่า "


              " ไม่เป็นไรเราไหว ไปแปปเดียวเอง :D " พูดแล้วถือถุงที่ยังไม่ได้มัดดี วิ่งพะรุงพะรังไปหาพนักงานที่เครื่องชั่งไม่ไกล ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่อีกคนอยู่ตลอดไม่คลาดสายตา แต่เพียงแค่ชั่วนาทีคิ้วหนาของคนที่ยืนรออยู่ก็เริ่มขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นว่ามีใครบางคนเข้ามาวุ่นวาย ขายาวไม่รีรอทิ้งรถเข็นไว้ตรงนั้นและเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กทันที


              " มีอะไรหรือเปล่าตัวเล็ก " ไม่พูดเปล่า แขนแกร่งยกขึ้นโอบอีกคนพร้อมกับส่งสายตาไม่พอใจออกไปด้วย

     

    นี่ เป็นไงล่ะ !

     

    " หือ ไม่มีอะไรหรอก .. เขาใจดีจะช่วยเราขนของไปที่รถเข็นเฉย ๆ "


    " ขอบคุณมากนะครับ แต่เดี๋ยวผมดูแลตัวเล็กเอง J "

     

    นี่ เอาไปอีกหนึ่งดอก

     

    " เอ่อ ครับ ถ้าอย่างนั้นขอตัวนะครับ "


    " เชิญเลยครับ " พูดแล้วรวบทุกอย่างจากมือเล็กมาไว้ที่มือซ้าย ยกมือขวาขึ้นโอบไหล่อีกคนพาเดินกลับไปที่รถเข็นคันเดิม แบคฮยอนมองอีกคนด้วยสายตางุนงง แต่ก็ไม่ได้พูดท้วงอะไรออกไป เพียงแค่หัวเราะออกมาเบา ๆ เท่านั้น


    " ดุเนอะ "


    " ใครหรอ "


    " พี่ชานยอลน่ะสิ "


    " พี่ไปทำดุใส่เราตอนไหน " มือหนาจับลงบนรถเข็นและเข็นตามทางต่อไปเรื่อย ๆ โดยมีคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ พูดแหย่ไม่หยุด


    " เมื่อกี้ไง "


    " ไม่ได้ทำใส่เราสักหน่อย "


    " แล้วทำใส่ใครล่ะ "


    " ทำใส่คนนั้นไง "


    " แล้วไปทำใส่เขาทำไมล่ะ "


    " ตัวเล็ก แกล้งหรอ "


    " หือ แกล้งอะไร เราเปล่าเลยนะ " ยืนยันคำพูดด้วยการยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาแบพร้อมกับแสร้งทำหน้าไร้เดียงสา ก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะอีกคนเอาแต่ทำหน้ายุ่ง คิ้วขมวดมุ่นเป็นปม


    " พี่จะทิ้งเราไว้ที่นี่ ไม่พากลับด้วยแล้ว "


    " ตอนเปลี่ยนใจขับกลับมารับ อย่าขับเร็วมากนะ :D "

     

         ชานยอลมั่นใจว่าเขาได้พยายามมากแล้วจริง ๆ กับการตีหน้าขรึมใส่อีกคน แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ ยกธงขาวขึ้นแล้วยิ้มออกมาจนได้


    .

     

              " เราถือเองได้ หม้อสต็อกหนักกว่านี้ตั้งเยอะ เรายังถือไหวเลย "


              " พี่รู้ว่าเราถือไหว แต่ให้พี่ถือดีกว่าไง "


              " ดีกว่ายังไงอ่ะ หนักคนเดียว "


              " ดีตรงที่เราไม่หนักไง "


              " มึงหนักเปล่าวะไอลู่ เดี๋ยวกูช่วยถือ "


              " สมองกูอ่ะหรอ หนักมาก ช่วยถือหน่อยดิกัมจง "


              " เปล่า กูหมายถึงพุงมึงอ่ะ หนักมั้ย "


              " กัมจง ! ตอนนี้เราเป็นพวกเดียวกันอยู่นะเว้ย " ลู่หานหันไปยกมือป้องปากกระซิบเพื่อนสนิทผิวคล้ำ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง


              " พี่ลู่ พี่จงอิน :D "


              " มาทำไมกันวะ " สองคนที่เพิ่งเดินมาตามทางเกือบจะถึงห้อง หันไปทักแขกไม่ได้รับเชิญที่ดูท่าจะรออยู่หน้าห้องมาซักพักแล้ว


              " คิดถึงเพื่อนรักไง "


              " ซารางเฮโย "


              " ปัญญาอ่อน .. จะมา ทำไมไม่โทรบอก " เจ้าของห้องกระแทกถุงที่ถืออยู่ใส่เพื่อนสนิททั้งสองคน เพื่อให้รับไปถือแทนแล้วหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋ากางเกง ปลดล็อกเปิดประตูเข้าห้อง


              " ถ้ากูโทร มึงก็ไล่กูกลับสิจ้ะ "


              " โชคดีจริง ๆ ที่พวกกูฉลาด ใช่ป่ะกัมจง ฮิฮิ "


              " งั้นมาช่วยทำเลย "


              " จะทำอะไรกินกันอ่ะ ซื้อของมาเต็มเลย .. ซี่โครงหมูตุ๋นหรอ "


              " ใช่เลย พี่ลู่รู้ได้ไงอ่ะ .. เก่งจัง "


              " คนตะกละตะกลามน่ะน้องแบค กินเยอะก็เลยจำได้ "


              " ย่าห์ ! มือกูใกล้มีดมากเลยนะคิมจงอิน ระวังลั่น "


              " ขอโทษครับ .. แล้วนึกยังไงอยู่ ๆ ถึงมาทำซี่โครงหมูตุ๋นกินวะ "


              " แบคฮยอนอยากกิน " เจ้าของห้องตอบในขณะที่กรองน้ำใส่หม้อสำหรับต้มซี่โครงหมู ผู้มาเยือนใหม่ทั้งสองคนได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองหน้ากัน ส่งสายตาวิบวับเก็บข้อมูลเอาไว้แซวเพื่อนสนิท


              " เรามารบกวนพี่ชานยอลเองแหละ " ความรู้สึกเกรงใจตีขึ้นมานิดหน่อย ทำให้ต้องรีบพูดออกไปพร้อมกับส่งรอยยิ้มแหย ๆ ไปให้รุ่นพี่ทั้งสองคน


              " โอ้ย กวนได้ กวนไปเถอะน้องแบค "


              " ใช่ กวนไปเลย มันเต็มใจจจจจจจ "


              " วันนี้จะได้กินมั้ย ไม่หั่นซักทีแครอทกับมันฝรั่งเนี่ย "


              " ครับ ๆ "


              " ขอโทษครับเชฟ "

     


         อาจเป็นเพราะความโชคดีที่มีนักศึกษาเรียนครัวถึงสี่คน ทำให้สามารถย่นระยะเวลาในการทำอาหารไปได้มาก ข้าวจานที่สี่ถูกวางลงบนโต๊ะเป็นอย่างสุดท้าย เด็กหนุ่มทั้งสี่คนจึงได้เวลาจับจองเก้าอี้เพื่อเริ่มทานมื้อเย็นกันสักที


         เพื่อนสนิทเจ้าของห้องทั้งสองคนเบ้ปากจนเมื่อยไปหมด ทั้งที่อาหารบนโต๊ะก็รสชาติถูกปากดี แต่คงเป็นเพราะเห็นคนตัวสูงคีบนู่น ตักนี่วางลงในจานของรุ่นน้องที่นั่งข้างกันมากกว่า เขาทั้งสองคนถึงได้เลี่ยนซี่โครงหมูตุ๋นไม่เลิก

     

              " มึงว่าซี่โครงหมูตุ๋นหวานเปล่าวะกัม "


              " กูเลี่ยนแล้วอ่ะ "


              " แล้วพี่ปาร์คว่าหวานมั้ยครับ "


              " ใครพูดมาก ล้างจาน "


              " เดี๋ยวเราล้างให้เอง :D "


              " งั้นมึงช่วยน้องแบคละกันเนอะ "


              " เนอะปาร์คชานยอล เนอะ "


              " พี่ว่าจะแกล้งไอสองคนนี้ซะหน่อย "


              " พี่ชานยอลไปแกล้งอย่างอื่นสิ เราอยากช่วย "


              " งั้นเดี๋ยวพี่ช่วยเราล้างละกัน "

     

         ใช้เวลาทานไปเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับเวลาทำอาหาร หลังจากทานเสร็จคิมจงอินและลู่หานก็รีบหนีไปนอนเล่นบนโซฟาห้องนั่งเล่นทันที โดยไม่มีท่าทีลังเลอยากจะช่วยเลยสักนิด หน้าที่ทำความสะอาดทั้งหมดจึงตกเป็นของแบคฮยอนและชานยอลโดยปริยาย


         ขายาวย้ายตัวมานั่งลงที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าวตัวเดิมหลังจากล้างจานเสร็จเพราะไม่อยากจะไปวุ่นวายกับเพื่อนสนิททั้งสองคน ดวงตากลมโตมองตามคนตัวเล็กเดินไปเดินมาไม่วางตา ก่อนจะได้ยินเสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ

     

              " เห้ย เราลืมไปได้ไงเนี่ย ! "


              " ลืมอะไรหรอตัวเล็ก " แบคฮยอนตอบคำถามด้วยการเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกล่องใสออกมาก่อนจะปิดตู้เย็นแล้วเดินกลับมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม


              " ขนมอันนี้ใช่มั้ย ที่พี่ชานยอลเคยบอก " คิ้วหนาขมวดมุ่นหลังจากได้ยินสิ่งที่อีกคนพูด ขนม ? ที่เขาเคยบอก ? หรอ ?


              " อ๋อ .. จากในคาบเรียนหรือเปล่า "


              " ใช่ ๆ อันนี้ใช่มั้ย เราดูแล้วนะมันมีอยู่แค่ Pate a choux เมนูเดียวที่มีอัลมอนต์กับแป้งเป็นส่วนผสม "


              " เราจำได้ด้วยหรอว่าพี่เคยพูด .. พี่ยังเกือบลืมไปแล้วเลย "


              " เราตั้งใจจะเอามาให้กินเลยแหละ :D "


              " ขอบคุณนะ " อีกแล้ว ปาร์คชานยอลยิ้มอีกแล้ว รอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ อาจจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่เขาคิดว่าแบคฮยอนต้องมีเวทมนต์อะไรสักอย่างแน่ถึงได้ทำให้เขาเอาแต่ยิ้มกว้างทุกครั้งที่อยู่ด้วย


              " กินเลยสิ เราสัญญาว่าจะไม่แย่ง "


              " พี่ไม่ปล่อยให้เราแย่งหรอก ไอสองตัวนั้นก็เหมือนกัน .. เพราะมันเป็นของพี่ "

     

         ดวงตากลมโตหลุบสายตาลงมองขนมตรงหน้า ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่นเพราะกำลังชั่งใจที่จะพูดบางอย่างออกมา แต่เพียงแค่ชั่ววินาทีนัยน์ตาสีเข้มนั้นก็กลับมาสบกันอีกครั้งก่อนที่ริมฝีปากจะค่อย ๆ คลายออกและพูดสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมา

     

              " ตัวเล็ก "


              " หื้อ "


              " พี่ให้เราเป็นฟักทองของพี่นะ "


              " หะ ฟักทอง ? "


              " อื้อ พั้มกินส์  :) "


              " ว่าเราหรือ .. " พูดยังไม่ทันขาดคำ รุ่นพี่สองคนในห้องนั่งเล่นก็ดันตะโกนเสียงดังแทรกเข้ามาซะก่อน


              " กูได้ยินนะเว้ย ไอยอล ! "


              " ไหนบอกว่าปัญญาอ่อนไงวะ "


              " ขี้โม้นี่หว่า "

              " หมายความว่าไงอ่ะพี่ชานยอล "


              " ไม่บอกหรอก "


              " ทำไม่ล่ะ มาทำให้อยากรู้แล้วจะไม่บอกหรอ "


              " ถ้าอยากรู้ ไว้ไปถามไอลู่เอาละกันนะ J "

     

     

     

     

     

    _______________

     

    คุณสองคนคิดว่าเป็นข้าวใหม่ปลามันกันหรอคะ
    ไม่ค่ะ ฉันยอมไม่ได้
    ขอส่งตัวป่วนไปสองอัตรา อิอิ
    ส่วนเรื่องฟักทอง ถ้าอยากรู้ก็ไปถามพี่ลู่เอาละกันนะ
    นี่ Pate a choux ที่น้องแบคให้พี่ชาน
    อร่อยมากจริง ๆ ลองหาซื้อกินดูนะ :D


    ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
    รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์
     

    O W E N TM.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×