คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : . 14 .
. 14 .
Incoming call from ชานยอล
" อื้อ ฮัลโหล "
( ยังไม่ตื่นหรอตัวเล็ก )
" หื้อ .. พี่ชานยอลหรอ " แบคฮยอนเบิกตาโพลงหลังจากได้ยินปลายสายเรียกตัวเองว่า ตัวเล็ก ก็คนที่เรียกเขาแบบนี้มีแต่พี่ชานยอลหนิ ผมยกโทรศัพท์ออกจากหูแล้วเพ่งตาตี่ ๆ ของตัวเองที่ยังไม่ตื่นดีมองชื่อไลน์ของคนที่โทรเข้ามา
อือหือ ชัดเจน
( ฮัลโหล หลับไปแล้วหรอ )
" หื้อ ยัง ๆๆ "
( นี่แปดโมงแล้วนะ พี่ว่าเรารีบออกแล้วไปหามื้อเช้ากินด้วยกันเลยดีมั้ย )
" อื้อ ก็ดีนะ .. พี่ชานยอลตื่นนานแล้วหรอ "
( ซักพักแล้วล่ะ .. หรือเรายังอยากนอนต่อหรือเปล่า ไม่เป็นไรนะ ไปสาย ๆ หน่อยก็ได้ )
" เราตื่นแล้วววววว ไปหาอะไรกินเช้า ๆ ด้วยก็ดีเหมือนกันนะ "
( ถ้างั้นเจอกันที่ล็อบบี้เก้าโมงละกันเนอะ )
" โอเคครับ "
( ครับ งั้นวางแล้วนะครับ )
" ได้ครับ "
( เดี๋ยวเถอะ เด็กแสบ )
พี่ชานยอลพูดพร้อมเสียงหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะวางสายไป ผมนั่งอมยิ้มอยู่บนเตียงจนเกือบลืมไปว่าควรจะรีบลุกไปอาบน้ำ โชคดีที่คนนอนอยู่ข้าง ๆ ดันหันมาถามคำถามด้วยเสียงงัวเงียพอดี เลยทำให้สติของผมกลับคืนมา
" คุยกับใครแต่เช้าวะ "
" ไม่บอก " พูดแล้วยื่นหน้าล้อเลียนเข้าไปใกล้ใบหน้าเซฮุนที่นอนปรือตามองอยู่
" เดี๋ยวเหอะ "
" ไปอาบน้ำดีกว่า ฮิฮิ "
" กวนตีนแต่เช้าเลยนะ มานี่เลย ! " คนตัวสูงยันตัวขึ้นจากที่นอน ส่งแขนไปล็อกคอเพื่อนสนิทให้ล้มลงมานอนทับตัวเอง แล้วใช้มืออีกข้างกำปั้นกดลงไปที่หัวแบคฮยอน
" ไอฮุนนนนนนนนนนน "
" สมน้ำหน้า "
" ปล่อยได้แล้วจะรีบไปอาบน้ำ " คนโดนแกล้งได้แต่ดิ้นอย่างขัดใจ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าแขนเซฮุนที่ล็อกอยู่นั้นจะหลุดออกจากคอของเขาเลยซักนิด เซฮุนหัวเราะชอบใจกับเสียงโวยวายและใบหน้าบึ้งตึงของคนตัวเล็กอยู่ซักพัก เมื่อรู้สึกว่าได้แกล้งสมใจอยากแล้วคนตัวสูงจึงตัดสินใจปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระซักที แต่ก่อนจะปล่อย ..
ขอซักหน่อยละกันนะ J
จุ้บ
" สัด จะปล่อยแล้วยังมาแกล้งตบท้ายอีกนะ " แบคฮยอนถลึงตาใส่เพื่อนสนิทที่แกล้งเขาไม่เลิก ก็ดูสิ จะปล่อยแขนจากคอเขาอยู่แล้วแท้ ๆ ยังจะมีหน้ามาแกล้งกดจูบลงบนหัวอีก เซฮุนนี่มันเซฮุนจริง ๆ
" ไปอาบน้ำเหอะ เดี๋ยวไปหาพี่ชานยอลไม่ทันนนนนน "
" เอออออออ " คนตัวเล็กพูดแล้ววิ่งไปหยิบผ้าขนหนูที่ราวตากผ้า ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจคนที่ยังนอนอยู่บนเตียงเลยซักนิดว่ามันมีอะไรให้อารมณ์ดีนักหนา ถึงได้เอาแต่นอนหลับตาพริ้มยิ้มกว้างอยู่แบบนั้น
.
ชานยอลสวมเสื้อยืดสีขาวล้วนกับกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้ม และรองเท้าผ้าใบสีขาว ลงมานั่งรออยู่ได้ไม่นาน ประตูลิฟท์ที่เพิ่งเคลื่อนตัวลงมาถึงก็เปิดออก พร้อมกับคนตัวเล็กที่วันนี้ดูจะแต่งตัวน่ารักเป็นพิเศษ
แบคฮยอนสวมเสื้อสีขาวลายทางสีน้ำเงิน แขนสามส่วนกับกางเกงยีนส์สีซีดขายาวพับขาเกงเกงขึ้นมาถึงบริเวณข้อเท้าและใส่รองเท้าผ้าใบสำหรับวิ่งสีขาว
" J "
" ไปเลยมั้ยยยย "
" หิวแล้วล่ะสิ "
" มากมาก " คนตัวสูงยิ้มขำกับคำตอบของคนตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินนำไปที่ประตูล็อบบี้ ยื่นบัตรไปสแกนที่เครื่อง ผลักประตูออกแล้วยืนหลบให้คนตัวเล็กเดินออกไปก่อน ค่อยตามออกมาแล้วปิดประตู
" พี่ชานยอลดูไว้หรือยังว่าเราจะไปกินอะไรกัน .. เราจะได้ลองหาดู " แบคฮยอนหันไปถามคนที่เดินอยู่ข้างกันในขณะที่เดินไปตามทาง
" อืมม .. เราชอบกินอาหารอิตาลีมั้ย "
" อาหารอิตาลีหรอ ก็ชอบนะ เรากินได้หมดแหละ "
" งั้นเดี๋ยวพี่พาไปร้านนึง อาหารอร่อยมากกกกกก "
" จริงหรอ "
" อื้อ พี่กินมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลย "
" โอเคเลย J "
เด็กหนุ่มทั้งสองคนเดินไปหยุดรอที่ป้ายรถประจำทาง นั่งรอจนกระทั่งรถประจำทางสายที่ไปเส้นทางร้านอาหารมาถึง ก็เดินก้าวขึ้นรถไป ชานยอลหันไปจ่ายเงินสำหรับสองคนที่เครื่องสแกนบัตรบนรถ ก่อนจะดันหลังคนตัวเล็กที่กำลังล้วงบัตรในกระเป๋าขึ้นมาเพื่อจ่ายเงิน ให้เดินไปหาที่นั่ง
" พี่ชานยอลจ่ายไปแล้วหรอ ? "
" อื้อ "
" จ่ายทำไมอ่ะ เดี๋ยวเราจ่ายเอง เปลืองเงินพี่ชานยอลอ่ะ "
" ไม่เห็นเป็นไรเลย .. วันนี้พี่ตั้งใจว่าจะเลี้ยงเราทั้งวันเลยนะ เป็นรางวัลไง "
" โหย ไม่เอาอ่ะ เราเกรงใจ " แบคฮยอนพูดพร้อมกับทำหน้ายุ่ง คิ้วขมวดด้วยความเกรงใจ ที่คนตัวสูงจะมาออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้
" ทำหน้ายุ่งทำไมเนี่ย มีคนเลี้ยงไม่ดีหรือไง " พูดพลางยิ้มขำกับท่าทางไม่พอใจของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วใช้นิ้วชี้เคาะไปที่คิ้วขมวดของอีกคน อย่างเอ็นดู
" ดีมันก็ดีอยู่แล้ว แต่มันมากไป เรากินเปลืองนะ ! "
" ตัวเล็กคนเดียวทำไมพี่จะเลี้ยงไม่ได้ :) "
" L "
" ไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่ได้เอาเงินที่พ่อแม่ให้มาเลี้ยงเรานะ ช่วงปิดเทอมพี่ไปทำงานโรงแรมมามีเงินเก็บอยู่ ว่าจะเอามากิน เที่ยวอยู่แล้ว ดีซะอีกมีเรามาด้วย .. ถือว่าเป็นค่าไกด์เดินทางละกัน "
" ก็ได้ แต่ถ้าอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เราออกเองนะ "
" อื้ม "
แบคฮยอนหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ใช้สายตามองผ่านถนน ต้นไม้ ผู้คนตามเส้นทาง ภายนอกกระจกไปเรื่อย ๆ โดยที่ภายในหัวไม่ได้สนใจอะไรมากเป็นพิเศษเลย นอกจาก ..
' ตัวเล็กคนเดียวทำไมพี่จะเลี้ยงไม่ได้ :) '
ประโยคนั้นมัน น่ารักเป็นบ้าเลย ว่ามั้ย .
.
" สวัสดีค่ะ " พนักงานหญิงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กระโปรงสีดำ ผูกผ้ากันเปื้อนครึ่งตัวสีน้ำตาลอ่อน กล่าวทักเด็กหนุ่มทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มทันทีเมื่อเห็นว่าลูกค้าเดินตรงเข้ามาในร้าน
" สองที่ครับ "
" เชิญทางนี้เลยค่ะ " พนักงานสาวพายมือออกและเดินนำลูกค้าทั้งสองท่าน ไปที่โต๊ะติดกระจกหน้าร้าน เนื่องจากตอนนี้ยังค่อนข้างเช้าอยู่ ภายในร้านอาหารจึงมีคนอยู่ไม่มากนัก เด็กหนุ่มทั้งสองคนนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะได้รับรายการอาหารจากพนักงาน
" กินอะไรดี … " พูดยังไม่ทันจบ พนักงานสองสามคนก็เดินเข้ามาวางจานอาหารต่าง ๆ ลงบนโต๊ะตรงหน้า ทั้ง ๆ ที่เขากับคนตัวสูงยังไม่ทันได้สั่งอะไรเลยด้วยซ้ำ
" เอ่อ .. เขาเสิร์ฟผิดโต๊ะหรือเปล่าอ่ะ "
" ไม่ผิดหรอก "
" แต่เรายังไม่ทันได้ .. "
" ชานยอลลลลลลลลลลลลลล "
" ยูรา " แบคฮยอนมองไปที่หญิงสาวหน้าตาสะสวย ที่เพิ่งเดินเข้ามากอดพี่ชานยอลแน่น ด้วยความสงสัย ยูรา ? ยูราไหนกันล่ะเนี่ย ?
" คิดถึงจังเลยอ่ะ ทำไมถึงหายไปนาน " กอดไม่พอ นางยังหอมแก้มด้วย โอ้ว
" ผมก็คิดถึงเหมือนกัน "
" อาหารพอมั้ย เดี๋ยวให้แม่ทำเพิ่ม .. แล้วนี่ใครกันล่ะเนี่ย "
" แบคฮยอน "
" หื้อ "
" นี่ แบคฮยอน เป็นรุ่นน้องที่มหาลัย .. ส่วนนี่ปาร์คยูรา พี่สาวพี่เอง "
" อะ อ๋อ .. สวัสดีครับ " คนตัวเล็กพูดสวัสดีก่อนจะโค้งหัวให้นิดหน่อย
" จ้ะ แบคฮยอนหรอ ? น่ารักจังเลย .. ว่าแต่ที่มหาลัยชานยอลไม่น่าจะมีรุ่นน้องแค่คนเดียวนะ แต่ทำไมถึงพาแบคฮยอนมาที่ร้านคนเดียวล่ะ เฮ้อ พี่ล่ะสงสัยจริง ๆ เลย " ปาร์คยูรากอดอกพูด แกล้งล้อเลียนน้องชาย จนคนตัวสูงต้องรีบลุกขึ้นแล้วเบี่ยงประเด็น ไปถามถึงแม่แทน
" แม่ล่ะ อยู่ในครัวหรอ "
" อื้อ ไปแกล้งเซอไพรส์มั้ย "
" อือ ไป .. เดี๋ยวพี่มานะ แปปเดียว เรากินก่อนได้เลย "
" โอเค "
" ชานยอล ไม่พาน้องแบคฮยอนไปหาแม่ด้วยกันหรอ ทำไมล่ะ " คนตัวสูงรีบดันหลังพี่สาวคนสวยขี้แกล้งให้รีบเดินนำไปที่ห้องครัว พร้อมกับยกมือข้างที่เหลืออยู่ขึ้นมากุมขมับ ปาร์คยูรานี่ จะแกล้งก็ให้มันรู้เวลาบ้างไม่ได้หรือยังไงนะ แซวแบบนี้เขาก็แย่น่ะสิ
" อ้าว ไม่กินหรอ "
" เรารอพี่ชานยอลไง "
" เดี๋ยวอาหารเย็นหมดนะ กินสิ อร่อยทุกอย่างเลย พี่รับรอง :) " ชานยอลพูดแล้วเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามคนตัวเล็กออกแล้วนั่งลง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบพิซซ่าหน้าซีฟู้ดหนึ่งชิ้นไปวางลงบนจานของแบคฮยอน
" เรางงแล้วอ่ะ .. ตกลงนี่ร้านแม่พี่ชานยอลหรอ "
" ใช่แล้ว "
" แล้วคนเมื่อกี้ก็พี่สาวพี่ชานยอลหรอ "
" ใช่ "
" ไม่น่า ถึงได้บอกว่ากินมาตั้งแต่เด็ก " พูดแล้วใช้ส้อมตักเส้นพาสต้าคาโบนาร่าตรงหน้าขึ้นมา ม้วนลงบนช้อนเป็นคำ วางลงบนจานของอีกคนพร้อมกับตักเห็ดและแฮมวางลงไปด้วย
" ฮ่า ๆ ก็มันจริงหนิ "
" ทำไมไม่บอกเราก่อนเนี่ย "
" ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่นา .. เดี๋ยวแม่พี่ออกมาหานะ " แบคฮยอนพยักหน้าตอบกลับเป็นคำตอบ เพราะตอนนี้ในปากล้วนเต็มไปด้วยพิซซ่าที่พี่ชานยอลวางเอาไว้ให้
" อร่อยมั้ย "
" อื้อ อร่อยทุกอย่างเลย " คนตัวสูงนั่งมองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม แบคฮยอนตอบโดยไม่ได้มองหน้าเขา เพราะกำลังเอื้อมมือหยิบไก่บาร์คิววางลงในจานตัวเอง และก็ไม่ลืมที่จะหยิบมาวางเผื่อในจานของเขาด้วย
" ชานยอล "
" แม่ " ลูกชายลุกจากเก้าอี้เดินเข้าไปจูงมือแม่ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ข้างที่นั่งตัวเองออกเพื่อให้แม่นั่งลง
" หนูชื่ออะไรนะ แบคฮยอน ใช่มั้ย "
" ครับ :D "
" อาหารเป็นยังไงบ้าง ถูกปากมั้ยจ้ะ "
" อร่อยมาก ทุกอย่างเลยครับ "
" พูดรักษาน้ำใจแม่หรือเปล่าเนี่ย "
" เปล่าเลยครับ อร่อยมากจริง ๆ :D "
" ให้แม่ทำอะไรกลับไปเผื่อเราสองคนมั้ย " หญิงวัยกลางคนที่ยังคงดูสาวกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เอ่ยถามด้วยความอ่อนโยนพร้อมกับเอื้อมมือไปกุมมือหนาของลูกชายไว้
" ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปเดินเที่ยวกันต่อ .. แบคฮยอนอยากได้อะไรกลับไปหรือเปล่า "
" ไม่เป็นไร เราอิ่มแล้ว .. ขอบคุณมากนะครับคุณน้า "
" เรียกแม่ก็ได้จ้ะ "
" เอ่อ .. ขอบคุณมากครับคุณแม่ :) "
" จะไปเที่ยวเดินเล่นที่ไหนก็ระวังกันด้วยนะลูก "
" ครับ "
" จ้ะ ดูแลตัวเองกันดีดี ว่าง ๆ ก็แวะมาอีกนะแบคฮยอน "
" ครับ .. คุณแม่พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ "
" จ้ะ " ทั้งสามคนพากันลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินไปที่ประตูร้าน คุณแม่ของชานยอลเดินออกมาส่งและจะล่ำลากัน คนตัวสูงเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่อยู่ซักพักแล้วผละออกมา โบกมือให้ ก่อนจะเดินออกจากร้านไปกับคนตัวเล็ก
" พี่ชานยอลไปหาของหวานกินกัน ! "
" อันนี้นอกรอบ ไม่เกี่ยวกับร้านเค้กที่เราจะไปกันใช่มั้ย "
" แน่นอน "
" กินเก่งจริง ๆ เลยนะ " แบคฮยอนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก้าวขาเดินนำ มองของตามข้างทางไปเรื่อย จนกระทั่งได้ยินเสียงทุ้มเรียกชื่อตัวเองถึงได้หันหลังกลับไปมองอีกคน
" แบคฮยอน "
" หื้อ "
" หนักมั้ย "
" อะไรหนักหรอ ? " คนตัวเล็กแบมือสองข้างของตัวเองด้วยความสงสัย พร้อมกับหันซ้าย หันขวา หาสิ่งที่จะทำให้เขารู้สึกหนัก แต่ที่ตัวเขาก็ไม่ได้มีอะไรนะ หรือพี่ชานยอลจะหมายถึงตัวเขาหนัก
" มือเราน่ะ หนักมั้ย "
" … "
" เดี๋ยวพี่ช่วยถือนะ :) "
ในขณะที่แบคฮยอนยังคงงงเป็นไก่ตาแตก มือซ้ายที่เคยว่างอยู่ก็ถูกอีกคนคว้าไปจับ สอดประสานนิ้วมือเข้าหากัน ก่อนจะได้รับแรงดึงนิดหน่อยให้เดินตาม เมื่อตั้งสติได้ริมฝีปากเล็กนั้นก็เผยยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
" มาจับมือเราแบบนี้ได้ไงเนี่ย ทำแบบนี้ถ้าเราหวั่นไหว .. ต้องรับผิดชอบนะ " คนตัวเล็กหันไปแกล้งพูดใส่อีกคน เพื่อดึงให้สถานการณ์เป็นปกติกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง
" … " ปาร์คชานยอลหันกลับมามองเจ้าของมือที่ถูกกุมอยู่ด้วยรอยิ้ม หลังจากที่เบนหน้าหนีทำเป็นสนใจร้านรวงข้างทางอยู่นาน ก่อนจะตอบออกมาด้วยไปหน้างองุ้มเล็กน้อย
" … "
" ทีเราทำให้พี่หวั่นไหวตั้งหลายครั้งแล้ว "
" ไม่เห็นจะรับผิดชอบเลย "
ปัง
50%
.
" เราอยากกินของหวานใช่มั้ย "
" อื้อ ๆ "
" อืมมม .. มีร้านหนึ่งแถว ๆ นี้ พี่ว่าเราต้องชอบแน่ ๆ เลย "
" ร้านอะไรหรอ " คนตัวเล็กที่ตอนแรกมัวแต่สอดส่ายสายตาไปตามร้านค้าต่าง ๆ ข้างทาง รีบหันมาถามคนอายุมากกว่าทันทีที่ได้ยิน
" ไปถึงเดี๋ยวก็รู้ :) "
.
เด็กหนุ่มทั้งสองคนใช้เวลาไปเกือบยี่สิบนาทีได้ ในการเดินทางมาร้าน Café I’m C ตามที่คนตัวสูงได้ทิ้งปริศนาเอาไว้ให้ต้องเดาด้วยความตื่นเต้นมาตลอดทาง ทันทีที่ฝีเท้าของทั้งสองคู่หยุดลง คนที่พามาก็หันไปมองปฏิกิริยาของคนข้างกายทันที
ก็มันไม่แน่ใจ ว่าแบคฮยอนจะชอบอย่างที่หวังเอาไว้หรือเปล่า .
" เห้ย ไอศกรีมเมล่อนนนนนนนน ! "
" ชอบใช่มั้ย "
" ชอบสิ เราอยากกินตั้งนานแล้วเนี่ย แต่ไม่มีใครมาเป็นเพื่อนเลยซักทีอ่ะ "
" จริงหรอ "
" อื้อ ๆ .. เข้าไปข้างในกัน " คนตัวเล็กพูดพร้อมส่งมือมาสะกิดที่ชายเสื้อของอีกคนเบา ๆ ทั้งที่ดวงตายังคงจับจ้องไปที่สติกเกอร์แนะนำเมนูไอศกรีมเมล่อนรูปใหญ่ตรงกระจกติดกับประตูทางเข้า ปาร์คชานยอลจึงคว้ามือเล็กนั้นไว้แล้วพาเดินเข้าไปในร้านด้วยกัน
" เอาไอศกรีมเมล่อนแบบนี้เลยครับ " แบคฮยอนหันไปพูดกับพนักงานพลางใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปที่รูปไอศกรีมเมล่อนลูกใหญ่บนแผ่นรายการอาหารซ้ำ ๆ พร้อมกับดวงตาเป็นประกายจนผมเผลอหัวเราะออกมา
" ได้ค่ะ รับเครื่องดื่มด้วยมั้ยคะ "
" พี่ชานยอลเอาน้ำอะไรดี "
" เราสั่งสิ พี่เอาน้ำเปล่าก็ได้ "
" อืมม .. งั้นเอาชาเขียวปั่นไม่หวานมากแล้วก็น้ำเปล่าครับ " คิ้วหนาเลิกขึ้นนิดหน่อยหลังจากได้ยินคนตัวเล็กสั่งชาเขียวปั่น แต่ถึงอย่างนั้นก็เพียงแค่ปล่อยมันผ่านไป ไม่ได้เอ่ยถามอะไรอย่างที่สงสัย
" ได้ค่ะ รอซักครู่นะคะ "
" เออใช่ .. พี่ชานยอลเคยบอกว่าไม่ค่อยได้ออกไปไหนไม่ใช่หรอ แล้วรู้จักร้านนี้ได้ไงอ่ะ "
" อ๋อ ก็ .. "
จะตอบว่ายังไงดีล่ะ
เขาก็เพิ่งรู้จักร้านนี้ เมื่อคืนตอนสี่ทุ่มกว่ากว่าเอง
พอดีนอนไม่ค่อยหลับ เลยลองหาร้านที่แบคฮยอนน่าจะชอบดู
แล้วดันมาเจอร้านนี้ก็เท่านั้น
แต่ถ้าตอบออกไปตามตรง ไม่น่าจะดีเท่าไหร่แฮะ ..
" ไอลู่มันเคยบ่นให้พามากินน่ะ .. แล้วพี่นึกได้ว่าเราชอบเมล่อนก็เลยพามา "
" อ๋ออออออออ "
" ชอบหรือเปล่า "
" ชอบมาก " คนตัวเล็กตอบพลางยิ้มขำก่อนที่บทสนทนาจะจบลงเพราะพนักงานสาวเดินถือถาดสีดำที่มีรายการอาหารตามที่สั่ง วางอยู่ในนั้นตรงเข้ามาที่โต๊ะ
ไอศกรีมเมล่อนลูกใหญ่ น้ำเปล่าและชาเขียวปั่นกับวิปปิ้งครีมพูน ๆ ในแก้วพลาสติกใสถูกวางลงบนโต๊ะ ก่อนที่คนอายุน้อยกว่าจะเลื่อนแก้วชาเขียวปั่นมาให้ผมพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วหันไปเปิดขวดน้ำเปล่า เทน้ำใส่แก้ววางไว้ข้างตัว
" เราไม่ได้สั่งมากินเองหรอกหรอ "
" เปล่า เราสั่งมาให้พี่ชานยอล "
" แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่ไม่ชอบหวาน ๆ "
" เดาเอาอ่ะ เดี๋ยวพอกินเยอะ ๆ แล้วพี่ชานยอลจะเลี่ยน เหมือนตอนที่เราซื้อเค้กไปฝากไง "
" พี่ชานยอล .. ยิ้มอะไรอ่ะ "
" พี่ไม่ชอบกินหวานเพราะเลี่ยนง่าย อย่างที่เราเดาจริง ๆ นั่นแหละ "
" งั้นวิปครีมนั่นต้องเป็นของเราแล้วล่ะ " คนนั่งฝั่งตรงข้ามหรี่ตา พูดออกมาพร้อมกับใช้ช้อนในมือชี้มาที่แก้วชาเขียวปั่นของผม
" เดี๋ยวป้อนให้เลย "
" พูดแล้วนะ :D "
" พี่เคยผิดคำพูดที่ไหนล่ะ "
เราทั้งคู่หัวเราะออกมาพร้อมกัน ก่อนที่แบคฮยอนจะหยิบช้อนอีกคันส่งมาให้ แล้วเลื่อนถ้วยไอศกรีมมาไว้ที่กลางโต๊ะ ผมตักไอศกรีมเข้าปากบ้างนิดหน่อย แต่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนั่งมองอีกคนกินซะมากกว่า
มีบางครั้งที่ผมตักวิปปิ้งครีมในแก้วชาเขียวปั่นส่งไปให้คนตรงหน้า ซึ่งเขาก็หันมารับมันเข้าปากไปอย่างไม่อิดออด ท่าทางเหล่านั้นล้วนทำให้ผมรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังพาเด็กเด็กอนุบาลมาเลี้ยงขนมมากกว่าจะเป็นคนที่เรียนอยู่ระดับอุดมศึกษา
แต่ไม่ว่าแบคฮยอนจะเป็นเด็กอนุบาล หรือ นักศึกษาปีสอง ..
เขาก็ทำให้ผมหยุดยิ้มไม่ได้เลยจริง ๆ :)
.
" เรามีที่หนึ่งอยากพาพี่ชานยอลไปเหมือนกัน "
" ที่ไหนหรอ "
" ไปถึงเดี๋ยวก็รู้ :) "
ทั้งสองคนเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านดอกไม้น่ารัก ๆ ร้านหนึ่ง ภายในถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวล้วนซึ่งช่วยขับให้ดอกไม้หลากสีภายในร้านที่ดูสวยอยู่แล้วนั้นดูสวย เด่นชัดมากขึ้นไปอีก คนตัวเล็กไม่รอช้าหันไปคว้ามือหนา ผลักประตูเดินเข้าไปข้างในทันที
กริ๊ง !
" ยินดีต้อนรับค่ะ "
" … " หญิงสาววัยกลางคนหยุดมือที่กำลังจัดกระถางดอกไม้อยู่ แล้วเงยหน้าขึ้น มาให้ความสนใจกับลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาแทน ลูกค้าตัวเล็กใช้หัวพิงข้อมือที่ท้าวข้อศอกไว้กับเคาเตอร์ มองเจ้าของร้านด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะได้ยินเสียงหวานคุ้นหู
" แบคฮยอน ! "
" คิดถึงแบคฮยอนมั้ย คุณเจ้าของร้าน " คนถูกถามวางทุกอย่างในมือลง เดินออกมาจากเคาเตอร์แล้วเข้าไปสวมกอดลูกชายเป็นคำตอบ
" ตอบคำถามดีมาก เอาไปสิบคะแนนเลย "
" แล้วมาได้ยังไง ทำไมไม่เห็นบอกแม่เลย "
" พอดีมาเที่ยวแถวนี้ ก็เลยแวะมาหาแม่ไง :D "
" แล้วนั่นเพื่อนลูกหรอ " บยอนฮเยซอนถามขึ้น ก่อนจะหันไปยิ้มให้เด็กหนุ่มตัวสูงอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังลูกชาย พอโดนผู้อาวุโสกว่าทักเข้าชานยอลก็เลยโค้งทำความเคารพด้วยความสุภาพ
" ไม่ใช่ นี่พี่ชานยอล เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยแบคเอง "
" สวัสดีครับ "
" สวัสดีจ้ะ .. แล้วนี่เราสนิทกันหรอ "
" ก็ค่อนข้างนะครับ "
" แบบนี้เราก็ต้องโดนแบคฮยอนอ้อนน่ะสิ อย่าไปยอมมากนะ รู้มั้ย " ผู้หญิงเพียงคนเดียวในร้านเดินเข้าไปจับแขนรุ่นพี่ของลูกชาย ก่อนจะพูดพร้อมยกมือขึ้นมาป้องปากแกล้งคนตัวเล็ก
" แม่อ่ะ L "
กริ๊ง !
คุยกันไปได้ไม่เท่าไหร่ บยอนฮเยซอนก็ต้องแยกตัวออกไปรับลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาและปล่อยให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนเดินดูดอกไม้ภายในร้านไปพลาง ๆ แทน
" พี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเราเป็นลูกเจ้าของร้านดอกไม้ "
" แบ๊วป่ะล่ะ " พูดแล้วหลับตา ยกยิ้ม ขยับหน้าเข้าไปใกล้ดอกทานตะวันที่จับอยู่เป็นท่าทางประกอบ
" ก็น่ารักดี "
" เราหรือดอกไม้ "
" เอาความจริงหรือโกหก "
" พูดแบบนี้ เราก็รู้คำตอบแล้ว " แบคฮยอนหันไปตอบอีกคนแล้วยู่หน้าให้ทีหนึ่งด้วยความไม่พอใจ
" เราชอบอ้อนคนอื่นหรอ คุณแม่ถึงได้พูดแบบนั้น "
" ไม่รู้สิ อาจจะใช่มั้ง เราไม่ตั้งใจซะหน่อยนี่นา "
" ท่าทางจะจริงแฮะ .. วันนี้พี่ถึงหมดไปเยอะเลย " ชานยอลพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะส่งมือไปประคองดอกไม้สีชมพู ดอกเล็ก ๆ ตรงหน้า
" บอกแล้วไม่เชื่อว่าเรากินเปลือง "
" ไม่เป็นไรหรอก พอดีพี่เต็มใจ :) "
.
หลังจากดูแลลูกค้าเรียบร้อยแล้ว แม่ของแบคฮยอนก็กลับมาพูดคุยกับลูกชายและชานยอลนิดหน่อย ก่อนจะถึงเวลาต้องแยกย้าย ปล่อยให้เด็กทั้งสองกลับซักทีก่อนที่ฟ้าจะมืด
ทั้งสองคนล่ำลาผู้อาวุโสกว่าแล้วมุ่งหน้าไปยังร้านที่เป็นจุดหมายปลายทางของวันนี้ เด็กหนุ่มทั้งสองคนเดินเลือกเค้กและขนมหวานต่าง ๆ ภายในร้านประจำของแบคฮยอนไม่นาน ก็ได้ติดมือออกมากันคนละถุง
ปาร์คชานยอลชอบเค้กรสชาเขียวก็จริง แต่ในถุงก็ดันมีเค้กวานิลลาสอดไส้สตอเบอรี่รสโปรดของแบคฮยอนอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับแบคฮยอนที่มีเค้กวานิลลาสอดไส้สตอเบอรี่เป็นรสโปรด แต่ภายในถุงก็มีเค้กชาเขียวที่ปาร์คชานยอลชอบอยู่ด้วยเช่นกัน
" อากาศดีมากเลยอ่ะ "
" ลมพัดเย็นดีนะ .. นั่งก่อนมั้ย " พี่ชานยอลหันมาเอ่ยชวนให้นั่งลงที่เก้าอี้ม้านั่งตัวยาวในสวนสาธารณะระหว่างทางกลับคอนโด และเพราะอากาศเย็นสบาย ไม่ได้เร่งรีบอะไรจึงทำให้ผมตอบตกลงในทันที
เราทั้งคู่นั่งรับลมเย็น ๆ ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมบรรยากาศรอบข้างมาซักพัก จนกระทั่งผมตัดสินใจพูดสิ่งที่อยู่ภายในใจ ทำลายความเงียบออกไป
" วันนี้เราสนุกมากเลยอ่ะ ขอบคุณมากเลยนะพี่ชานยอล :) "
" พี่สิต้องขอบคุณเรา พี่ก็สนุกมากเหมือนกัน .. ไม่ได้ยิ้มจนเมื่อยแก้มแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ "
" อ่ะ ให้ "
" … "
" เราแอบจิ้กมาจากที่ร้าน " คนตัวสูงหันมามองดอกลิลลี่สีขาวที่ถูกยื่นมาให้ตรงหน้าจากมือแบคฮยอน ก่อนจะยิ้มและรับมันมาไว้ในมือของตัวเอง
" พี่ชานยอลมีดอกไม้ที่ชอบมั้ย "
" อืมม .. พี่ชอบดอกฮอลลี่ฮอค "
" รู้จักด้วยหรอ ไม่ค่อยมีคนรู้จักมันเท่าไหร่นะ "
" รู้จักโดยบังเอิญน่ะ "
" ดอกฮอลลี่ฮอคมีความหมายว่า ฉันไม่เคยลืมคุณ "
" แล้วดอกลิลลี่สีขาวล่ะ "
" ความหมายของดอกลิลลี่สีขาว คือ .. "
" ฉันรู้สึกดีที่ได้รู้จักและอยู่ใกล้กับคุณ "
" ถ้าอย่างนั้น ..
" พี่คงจะเปลี่ยนมาชอบดอกลิลลี่สีขาวในเร็ว ๆ นี้แล้วล่ะ :) "
_______________
อยากจะขอ ขอโทษ อยากให้หาย หายโกรธ
แฮ่ เราขอโทษนะ ที่ต้องให้อ่านอีกห้าสิบเปอร์ใหม่
ตอนนั้นอาจจะรีบปั่นไปหน่อย
พอกลับมาอ่านแล้วมันรู้สึกแหม่ง ๆ เลยอยากแก้
ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ ♡
ความคิดเห็น