NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิวาห์ใต้อาณัติ

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ 6 อุบัติเหตุ (50%) รีไรท์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.29K
      81
      20 ม.ค. 66


    บทที่ 6 อุบัติเหตุ

     

    คืนนั้นหลังกลับจากบ้านวรโชติพงศ์ มาวินก็หอบความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ข้างในไปยังบาร์แห่งหนึ่ง นั่งดื่มจนเกือบสว่าง จึงหอบร่างโซซัดโซเซเรียกแท็กซี่กลับบ้านด้วยสภาพ ‘เมาเหมือนหมา’ ที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของบ้านผู้ทำหน้าที่เปิดประตูยังต้องผงะถอยหลังไปไกล กลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้งจนต้องกลั้นหายใจเวลาพยุงกายปวกเปียกของผู้เป็นนายขึ้นยืน

    คุณวินดื่มหนักไปแล้วนะครับ”

    มาวินยกศีรษะขึ้น หยัดกายเล็กน้อยแล้วยิ้มตอบ

    โธ่ น้าแสวง นาน ๆ ทีผมดื่มนี่ครับ”

    แสวงขมวดคิ้ว จำได้ว่าไม่กี่วันก่อนมาวินก็เมาเละเทะกลับมาแบบนี้ไม่มีผิด ด้วยความที่เห็นกันมาตั้งแต่เล็กย่อมต้องแปลกใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของเจ้านายไม่น้อย อดถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอ่ยถามไม่ได้

    คุณวินมีอะไรเล่าให้ผมฟังได้นะครับ ผมเห็นคุณวินเป็นแบบนี้แล้วเป็นห่วงจริง ๆ”

    มาวินไม่ได้ตอบ ยิ้มแล้วพยักหน้ารับความห่วงใย ก่อนหยัดกายขึ้นอีกครั้ง พยายามก้าวขาไปข้างหน้า ทว่าร่างกายไม่ให้ความร่วมมือ เขาเซจนทิ้งน้ำหนักไปข้างหน้าแทบจะล้มคว่ำลงไป ลุงแสวงเห็นว่าตนแบกเจ้านายกลับไม่ไหว ด้วยวัยที่ต่างกันมากจึงค่อย ๆ พยุงคนเมาไปนั่งที่เก้าอี้ในป้อมยามใกล้ๆ ประตูใหญ่

    คุณวินรอผมตรงนี้นะครับ ผมจะไปตามไอ้มีมาช่วยแบกกลับห้อง” ร่างผอมของชายวัยกลางคนวิ่งหายไปในความมืดทันที

    มาวินแค่นหัวเราะ ส่ายหน้าแรง ๆ เรียกสติ ก่อนพยุงกายขึ้นยืนอีกครั้ง เดินโซซัดโซเซไปข้างหน้าด้วยสายตาพร่าเบลอ ครองสติได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ลากสังขารอ่อนระโหยของตนมาจนถึงบ้านหลังหนึ่ง

    เขาเพ่งสายตามอง ก่อนหรี่เล็กลงยามขบคิดด้วยสติไม่เต็มร้อย

    บ้านเราเหรอวะ ทำไมมันหลังเล็ก ๆ” เขาถามตนเองพลางสะบัดหัวแรง ๆ อีกที เห็นบานประตูใกล้เพียงเอื้อมถึง ความนึกคิดที่พยายามเค้นก็เลอะเลือนไปบ้าง จึงพาร่างโซเซไปถึงบานประตู หมุนลูกบิดแรง ๆ สองครั้ง เห็นว่าข้างในล็อกเอาไว้ก็ขมวดคิ้วมุ่น

    นมแม้นล็อกบ้านแล้วเหรอวะ”

    ปกติถ้าเขากลับบ้านช้า จะมีคนคอยรอเปิดประตูให้

    เช่นนี้หรือเขาต้องกลับไปหาลุงแสวง แต่ตอนนี้แค่หันหลังเขาก็ยังทรงตัวไม่ไหวแล้ว ขืนลากสังขารกลับไปอีกรอบมีหวังล้มหัวทิ่มบ่อน้ำพุตรงลานหน้าตายคาที่แหง 

    สุดท้ายหลังจากใคร่ครวญพักหนึ่งจึงตัดสินใจเคาะประตู

    เขายื่นมือสั่นเทาไปที่บานประตู ออกแรงที่มีทั้งหมดเคาะออกไป

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    เคาะเสร็จ ร่างสูงก็ทรุดลงไปกองกับพื้น จนต้องขยับกายเอนหลังพิงบานประตูเอาไว้ ด้วยลุกขึ้นไม่ไหวแล้วจริงๆ แรงเฮือกสุดท้ายเขาใช้เคาะประตูไปหมดแล้วจึงไม่เหลือแม้กระทั่งพลังในการลืมตา

    แอ๊ด

    อัก!

    ทว่า… ตอนที่สติเลือนราง เขาเห็นร่างเล็กของใครสักคนก้มลงมอง เพราะมาวินหงายหลังลงตอนที่บานประตูเปิดแง้ม คนตัวน้อยที่ยืนก้มมองเขาหรี่ตา เบ้ปากเล็ก ๆพร้อมทำเสียงฮึดฮัดขัดใจ

    มาโผล่ที่นี่ได้ไงเนี่ย!” เสียงหวานใสบ่มพึมพำ ก่อนก้าวข้ามร่างสูงที่นอนขวางประตูออกไป มองซ้ายมองขวามีแต่ความเงียบงัน และมืดสนิทจึงหันกลับมามองร่างใหญ่โตของคนเมาอีกครั้ง

    แม้จะไม่ชอบใจ และ ‘ไม่ชอบเขา’ เท่าไรนัก แต่ก็ไม่ใจร้ายพอจะปล่อยให้คนเมาที่เป็นถึงลูกชายเจ้าของบ้านนอนขวางหน้าประตูอยู่แบบนี้ อัยรินกัดฟันสอดมือเข้าใต้รักแร้คนเมา กึ่งลากกึ่งถูคนตัวสูงเข้าไปในบ้านอย่างทุลักทุเลโดยไม่ปิดประตู ตั้งใจว่าเมื่อนำเขาไปนอนดี ๆ แล้วจึงจะเดินไปปลุกนมแม้น

    ทว่าเพียงทิ้งร่างคนเมาลงตรงพรมหน้าทีวีเท่านั้นแหละ คนเมาที่เหมือนจะไม่มีสติกลับคว้ามือสะเปะสะปะมาทางเธอ

    อย่ามาแตะนะ!” เสียงหวานตวาดแว้ดพร้อมใบหน้าไม่ชอบใจส่งผลให้คนเมาสะดุ้งเล็กน้อย หากตอนปรือตามองก็เห็นเพียงเงาเลือนรางของยายตัวจ้อย ไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าคนที่ออกแรงเท่ามดงานลากเขาเข้ามาในบ้านคือใคร

    ด้วยความที่พอจะหลงเหลือสติอยู่บ้าง ชายหนุ่มจึงพยุงกายลุกขึ้นนั่ง เงยหน้าเพ่งสายตามองหาเจ้าของเสียง พบว่าคนที่แว้ดใส่เขาเมื่อครู่ ยืนเท้าสะเอวอยู่เบื้องหน้าในระยะสายตา ตามด้วยเสียงสบถว่าเบา ๆ 

    เมาเหมือนหมา”

    มาวินขมวดคิ้ว ได้ยินชัดเจนว่าคนเล็กกว่าที่ยืนเท้าสะเอวมองมากล่าววาจาเช่นไร แม้ตัวเขาจะเมาเหมือนหมาจริง ๆ แต่ก็อดขุ่นใจในคำพูดตรงไปตรงมาที่บอกชัดถึงความไม่ชอบใจของอีกฝ่ายไม่ได้

    มือหนาคว้ามับเข้าที่ข้อเท้าเล็ก แล้วออกแรงที่เหลือทั้งหมดกระชากร่างน้อยจนเสียหลังล้มทับลงมา

    ว้าย” เสียงหวีดร้องไม่เบานัก มาวินจึงแค่นเสียงเยาะในลำคอ

    ตาเฒ่าบ้ากาม”

    แต่พอได้ยินคำบริภาษต่อมาหัวคิ้วที่ขมวดมุ่นขมวดเป็นปมยุ่งเยิงทันที มาวินรวบร่างน้อยที่เล็กจนเขาเริ่มสงสัย ผลักเพียงเล็กน้อย คนบนร่างก็กลายเป็นคนใต้ร่าง

    เขาใช้มือหนาดึงข้อมือน้อยทั้งสองข้างเอาไว้ สะบัดใบหน้าแรง ๆ เพื่อเรียกสติ พยายามเพ่งมองคนใต้ร่างอย่างพิจารณา

    อยากรู้นักว่าเป็นใครในบ้านหลังนี้ที่กล้าเรียกเขาว่า ‘ตาเฒ่า’ ได้เต็มปากเต็มคำ

    ทว่ากลิ่นกายหอมละมุนผ่อนคลายที่มาจากคนถูกตรึงใต้ร่างส่งผลให้หัวคิ้วของชายหนุ่มผูกแน่นกว่าเดิม กลิ่นนี้ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแบรนด์หรูที่เคยได้กลิ่นจากสาวๆ ที่ผ่านมา แต่คล้ายกลับว่า จะเป็นกลิ่นแป้งเด็ก

    ดวงตาคมกล้าหรี่แคบลง

    ธะ เธอ”

    ริมฝีปากหนาขยับเอ่ยได้เพียงเท่านี้ เสียงบานประตูก็แง้มเปิด ตามมาด้วยเสียงฝีเท้า และ…

    กรี๊ด คุณวินทำอะไรหนูอัยย์ของนม กรี๊ด!”

    เสียงกรีดร้องที่เรียกคนทั้งบ้านมามุงดูเขาเป็นตาเดียว

    พลั่ก!

    เสียงร่างสองร่างชนกันดังอักจนใบหน้าที่ก้มลงจนแทบชิดใบหน้าบิดเบ้ของคนใต้ร่างต้องเงยขึ้นมอง เห็นเงาเรือนร่างคุ้นตากว่าคนที่เขาทาบทับเอาไว้จึงขมวดคิ้ว

    คะ คุณวิน เอ่อ ปล่อยหนูอัยย์เถอะครับ เธอ เอ่อ เธอเพิ่งอยู่ประถมเองนะครับ”

    มาวินเมาจนครองสติแทบไม่ได้ เขาไม่ทันฉุกใจกับคำว่า ‘อยู่ประถม’ เพราะฟังผ่านหูไปเท่านั้น กระทั่งร่างสูงถูกคนมาใหม่ ‘ทั้งหมด’ แบกขึ้นจึงทิ้งกายลงบนร่างสูงใกล้เคียงตน ไม่เอ่ยอะไรอีก สิ้นเรี่ยวแรงอย่างสมบูรณ์

    หากก่อนที่สติของคนเมาจะเลือนหายไปนั้น เขาได้ยินเสียงคุ้นเคยของใครสักคนดังแทรกเข้ามา

    คุณวินรังแกหนูอัยย์ค่ะ!”

    เขาคิดว่าตัวเองหูฝาด เพราะได้ยินชัดบ้างไม่ชัดบ้าง หลังจากนั้นก็มีเสียงฮือฮาของคนหลายคนดังตามมาติด ๆ สุดท้ายก่อนสติจะดับวูบไป เป็นเสียงกังวานใสตวาดแว้ดขึ้นมาด้วย

    ใช่ค่ะ ตาเฒ่าลามกคนนั้นรังแกหนูค่ะ!”

    ให้ตายเถอะ คนอื่นพูดอะไรเขาได้ยินไม่ชัดนัก แต่เสียงหวานใสที่ได้ยินเพียงครั้งเดียวก็ติดหูนี่กลับชัดเจนทุกถ้อยคำ โดยเฉพาะคำว่าตาเฒ่าลามก

    เพียงแต่ชายหนุ่มเมาจนแทบครองสติไม่อยู่จึงไม่ทันได้ไต่ตรอง ถูกแบกกลับไปยังบ้านอีกหลัง ก่อนจะถูกส่งเข้านอนบนเตียงหนานุ่มกลิ่นคุ้นเคยได้อย่างไรยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นเช้าวันต่อมา จำเลย จึงถูกโทษทัณฑ์อย่างไม่เข้าใจอะไรเลย

     

    มีอะไรทานบ้างครับ” ร่างสูงที่ก้าวเข้ามาในห้องรับประทานอาหารพร้อมเสียงแหบแห้งถามหาอะไรสักอย่างเรียกความสดชื่นของตนส่งผลให้ทุกคนที่อยู่ในห้องหันมามองเขาเป็นจุดเดียว

    นมแม้นที่ยืนใกล้คุณหญิงวารีปรี่เข้าไปกระซิบบางอย่างพร้อมใช้สายตาตำหนิแกมหมั่นไส้มองมาอย่างชัดเจน

    มาวินเลิกคิ้วสงสัย หากก็ยังเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวประจำที่ตนเองนั่งเสมอ ก่อนจะหันไปสั่งร่างเล็กที่กำลังเดินถือถาดใส่เครื่องดื่มสมุนไพรของคุณหญิงวารีเข้ามาเสียงเข้ม

    เธอ” เขาชี้ไปที่ร่างเล็กจ้อยซึ่งชะงักทันทีที่ได้ยินเสียงแข็ง ๆ ของเขา “ขอกาแฟดำให้ฉันแก้วนึง”

    ชายหนุ่มสั่งเสร็จก็ทิ้งกายพิงพนักเก้าอี้ ยกมือลูบใบหน้าแรง ๆ โดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปของสมาชิกในห้อง กระทั่ง…

    มาวิน!” ชื่อเต็มบวกน้ำเสียงแข็งกร้าวจากมารดาทำให้ชายหนุ่มต้องหยัดกายขึ้นนั่งหลังตรง กะพริบตามองใบหน้าถมึงทึงของมารดาด้วยความไม่เข้าใจ

    ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อคืนเมาหัวราน้ำกลับมาก็เกือบสว่างจึงขยับปากแก้ตัว

    อะ เอ่อ ผมจะพยายามไม่ทำอีกครับ”

    เพียงแต่การแก้ตัวของเขาในเช้านี้ เป็นคนละเรื่องกับความเข้าใจของทุกคนในห้อง ดังนั้นพอเขาเอ่ยปากง่ายๆ ออกมาอย่างไร้ความรับผิดชอบ สีหน้าของทุกคนจึงดำคล้ำทันที

    คุณวิน!”

    คราวนี้นมแม้นร้องขึ้นมาเสียงหลง ถลาเข้าไปโอบกอดสาวน้อยที่มาวินเพิ่งสั่งให้ไปชงกาแฟเอาไว้แน่น แถมส่งสายตามาดร้ายมาให้เขาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    มาวินงงหนักกว่าเดิม จากเลิกคิ้วกลายเป็นขมวดคิ้วแทน

    “อะไรกันครับนม ทำไมต้องร้องเสียงดังขนาดนั้น ผมสัญญาครับวันหลังจะไม่ทำอีก ถ้าทำจะเบามือกว่านี้ครับ”

    เบามือของเขาหมายถึงเรื่องแอลกอฮอล์

    แต่คนฟังกลับคิดไปอีกทาง…

    นมแม้นเม้มปาก มือที่กอดร่างน้อยสั่นเทา ก่อนใบหน้าเหี่ยวย่นจะเชิดขึ้นสูง พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดต่อคุณหญิงวารี

    คุณหญิงต้องจัดการให้เรานะคะ เมื่อคืนเราถูกรังแก” กล่าวจบก็แย่งถาดในมือของอัยรินไปถือเอาไว้ มองส่งสายตาจิกกัดให้มาวินอีกครั้ง ก่อนสะบัดหน้าหนี เดินไปหาคุณหญิงวารีด้วยท่าทีอ่อนโยน แตกต่างจากการปฏิบัติต่อมาวินอย่างสิ้นเชิง

    นมจะพาหนูอัยย์ออกไปก่อนนะคะ”

    คุณหญิงวารีสีหน้าไม่สู้ดีนัก หากก็พยักหน้ารับสองสามที

    ไปเถอะ”

    นมแม้นพาร่างน้อยออกไปจากห้องรับประทานอาหารของบ้าน ทว่ายังก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวเสียงคนตัวโตก็ร้องขึ้นมาอย่างออกคำสั่ง

    เดี๋ยว อย่าลืมกาแฟดำของฉันล่ะ!

    นมแม้นสองคนต่างวัยที่กำลังเดินออกจากห้องรับประทานอาหารชะงัก ก่อนนมแม้นจะเป็นฝ่ายหันมาถลึงตาใส่

    รบกวนคุณมาวินไปชงเองในครัวนะคะ เราสองคนขอตัว!”

    หางเสียงสะบัดอย่างที่มาวินไม่เคยได้ยิน ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว มองหญิงชราแสนรักของตนสลับกับสาวน้อยข้างกายอีกฝ่ายด้วยสายตาตั้งคำถาม เพียงแต่สายตายังไม่ตกบนร่างของเด็กคนนั้น นมแม้นก็ถลาขึ้นหน้า ขวางสายตาของเขาไว้ทันที

    ห้ามมองนะคะ!”

    กล่าวอย่างหวงแหนแล้วลากตัวสาวน้อยจากไป ทิ้งให้มาวินนั่งงงงัน กระทั่งหันหน้ากลับมาหามารดา… สายตาเย็นชาของผู้ให้กำเนิดยิ่งส่งผลให้เขาไม่เข้าใจหนักขึ้นไปอีก

    แม่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันยาว”


    **** เนื้อหายังมีติดขัดต้องขออภัยนะคะ


    ฝากหนูอัยย์กับมาวินด้วยนะคะ 

    เนื้อหาที่ลงยังไม่มีการปรับแก้ ตรวจคำผิด 

    อาจมีบางส่วนผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ

    ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ทุกๆ เรื่องเลยนะคะ

    รัก... เอริณ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×