ตอนที่ 4 : Chapter 1 (100%)

“ใช่!!!!”
แล้วฉันก็สะบัดมือสไบนางทิ้ง แล้ววิ่งหน้าตั้งออกมาจากโรงอาหารเพื่อหาที่หลบซ่อนตัวเพื่อความปลอดภัยแล้วแอบมองเหตุการณ์น่าขนลุกอยู่ห่างๆ หวังว่าเพื่อนทั้งสองของฉันจะรับมือพี่ชายแสนดีแอบโหดของฉันไหวนะ สู้ๆ นะเพื่อน แง
“อ่าว อามิไปไหนแล้วครับ”ไอ้ชิวาว่าหัวหยิกยิงคำถามพิฆาตใส่สองคนนั้นทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะของเรา
“เอ่อ คือ”ไอ้ยิ้มผู้ไม่เคยโกหกมนุษย์โลกได้แต่ทำหน้าไม่ถูก ฉันจะถูกจับได้ไหมเนี่ย แง
“อ่อ มันไปห้องน้ำนะคะ อยู่ดีๆมันก็ปวดอึ”และไอ้สไบจอมเจ้าเล่ห์และสตรอตัวแม่คือผู้ช่วยชีวิตเราทั้งสามไว้ได้ เห้อ โล่งอก
“อ่อ หรอครับ งั้นพี่ฝากไปบอกอามิด้วยนะครับว่า…”พี่อาชิพูด ก่อนจะยิ้มหวานให้เพื่อนฉันตามสไตล์ แต่อยู่ๆ มันก็หุบยิ้มเปลี่ยนเป็นกระตุกยิ้มที่มุมปากเหมือนมีแผนชั่วไม่ก็กำลังรู้ทันฉันกับเพื่อนอยู่
รอยยิ้มอันตรายส่งมาแล้ว ฮือออ
เพื่อนรักทั้งสองคนของฉันถึงกำลังกลืนน้ำลายลงคอ ไอ้ชิวาว่าหัวหยิกโหมดนี้น่ากลัวชะมัด
“เรื่องอะไรค่ะ”รอยยิ้มถามกลับเสียงเครียด เมื่อพี่ชายฉันส่งยิ้มแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นให้มันสองคน เสียวสันหลังชะมัด
“เย็นนี้ให้อามิไปรอพี่ที่คณะนะเพราะพ่อกับแม่ไม่อยู่บ้านอามิเลยต้องกลับพร้อมพี่”
O.O ห๊า กลับพร้อมกัน!!!
ให้ตายเถอะ เป็นตายร้ายดีก็ไม่มีทางร่วมเดินทางไปกับสองผัวเมียนั้นแน่
ไม่เอาอามิไม่เอา อามิรับไม่ได้
“เอ่อ”ไอ้สไบถึงกับทำหน้าไม่ถูก เพราะพวกมันรู้ดีว่าฉันไม่มีวันยอมโดยสารรถไปพร้อมพี่สะใภ้ที่มีคำนำหน้าว่า ‘นาย’ แน่นอน
“อ่อ บอกอามิด้วยนะว่า ถ้าไม่กลับพร้อมพี่เงินค่าขนมอาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์จะถูกตัดเหลือครึ่งนึง”
O.O อ๊ากกกก ค่าขนมอาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์จะถูกตัดเหลือครึ่งหนึ่ง นี่มันฆ่ากันทางอ้อมชัดๆ
ฉันไม่ยอมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
ไอ้ชิวาว่าหัวหยิก ไอ้พี่เฮงซวย ไอ้พี่บ้า ไอ้พี่เกย์ อุ๊บ!! ไม่ๆ ไม่แช่งพี่ตัวเองเป็นเกย์ ไม่เอาๆ แง T^T
“ครึ่งหนึ่ง!!!”ทั้งสไบและรอยยิ้มร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินประโยคบาดใจเหมือนฉัน แกสองคนช่วยฉันด้วยนะ แง
“แบบนี้ไอ้มิก็หมดตูดตั้งแต่วันแรกเลยสิค่ะ”ไอ้สไบคือผู้ที่พยายามช่วยชีวิตฉันอีกครั้ง ใช่เลยสไบ ขนาดได้เงินครบฉันยังไถตังค์แกเลย T^T
“ครับ”แต่ไอ้พี่อาชิก็ยังคงยิ้มตอบเหมือนเดิม มันไม่ทุกข์ร้อนไปกับฉันเลยหรอ แง
ฉันขยับตัวเพื่อพยายามมองพวกนั้นให้ชัดขึ้น แต่สายตาดันไปปะทะกับสายตาของไอ้คู่ขา เอ่อ ผัว เอ่อ เมีย เห้ยยย ไอ้หัวขาวแฟนพี่ชายตัวเองเข้าจังๆ ตายแน่ มันจะต้องฟ้องพี่ฉันแน่ๆว่าฉันแอบมาหลบอยู่ข้างถังขยะตรงนี้ ฮือออ
“ค่ะ เดี๋ยวยิ้มจะบอกอามิให้นะคะ”ไอ้ยิ้มพูดเสียงอ่อน ก่อนจะยิ้มแห้งๆ ให้พี่ชายฉัน ตอนนี้ฉันใจตุ้มๆ ต่อมๆ เมื่อไอ้หัวขาวแฟนพี่ชายฉันสะกิดแขนแฟนตัวเอง ซึ่งก็คือพี่ชายบังเกิดเกล้าของฉัน แง ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนใจร้าย ไอ้คนขี้ฟ้อง T^T
“ไปเรียนเถอะเดี๋ยวจะสาย”
แป๋วแว๋ววววววววววว ไอ้หัวขาวดันไม่บอก แต่ชวนพี่ฉันไปเรียนแทน หน้าแตกเลยเรา ด่าไปก่อนแล้วด้วย =_=
“นั่นดิ ไปเรียนเหอะ น้องสาวแกไม่หายไปไหนหรอก”นั่นคือเสียงของพี่ทิวสน พี่อาชิหันไปพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มหวานจนเห็นฟันครบทุกซี่ตามแบบของมันเพื่อบอกลา
“ถ้างั้นพี่ไปเรียนก่อนนะครับ ยังไงก็อย่าลืมบอกเพื่อนเราด้วยนะ”ไอ้หัวหยิกยังคงย้ำเรื่องหักเงินค่าขนมฉันอีกครั้ง มันสะเทือนใจดวงน้อยของฉันนะ พ่อกับแม่ก็ไม่รู้ไปไหน แล้วทำไมพ่อจะต้องเอาเงินค่าขนมของฉันไปไว้ที่พี่อาชิด้วยนะ ก็รู้ว่ามันชอบแกล้งน้อง T^T
“เห้อ”ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เมื่อทุกคนไปได้สักที โล่งอกที่ไอ้หัวขาวไม่ได้บอกอะไรพี่ฉัน ไม่งั้นโดนเขกกะโหลกแตกแน่
ฉันลุกขึ้นเพื่อจะยืนแต่เพราะความรีบร้อนเลยทำให้ทรงตัวไม่อยู่จนเซล้มหน้าเกือบจะทิ่มลงไปในถังขยะ แต่เหมือนในละครไอยเพราะดันมีมือของใครบางคนดึงฉันเอาไว้ได้ทัน ฉันหันไปมองผู้มีพระคุณเพื่อจะขอบคุณแต่ก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเทวดาผู้มีพระคุณของฉันคือใคร
“ภูพิงค์”ฉันพูดด้วยรอยยิ้ม
“เกือบหน้าทิ่มขยะแต่เช้าแล้วนะอามิ”ภูพิงค์ตอบเสียงหวานพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน กรี๊ดดดดด พ่อเทพบุตรเดินดินของฉัน
ภูพิงค์ หรือ ภู คือ เพื่อนสมัยมัธยมของฉัน เขาเรียนนิเทศศาสตร์เหมือนไอ้หัวหยิก แต่ภูพิงค์เรียนเอกภาพยนตร์ ส่วนไอ้หัวหยิกเรียนเอกการแสดง แน่ละพี่ชายของฉันมันหล่อลากกระชากไส้ติ่งขนาดนั้นต้องเรียนนิเทศอยู่แล้ว
ภูพิงค์เองก็หล่อจนเคยได้ตำแหน่งเดือนโรงเรียนเหมือนกัน รอบตัวฉันมีแต่คนหน้าตาดีมีแต่ฉันนี้แหละแหกคอกหน้าตาขี้เหล่อยู่คนเดียว T^T ส่วนดาวโรงเรียนก็คือรอยยิ้มเพื่อนฉันเอง แต่แม่นางอินดี้เลยสละตำแหน่งให้รองอันดับสองซึ่งก็ คือ ไอ้สไบนางนั้นแหละ
ส่วนสาเหตุที่เพื่อนหน้าเดียวของฉันยอมลงแข่งครั้งนี้ก็เพราะห้องเราซึ่งมีฉันเป็นตัวแทน แต่วันนั้นฉันดันท้องเสียลงประกวดไม่ได้ รอยยิ้มจึงถูกขอร้องแกมบังคับแถมด้วยขมขู่จากเพื่อนและอาจารย์ประจำชั้นให้ลงประกวดแทน แล้วนางก็สวยจนได้ตำแหน่งแต่ก็อย่างที่บอกเพื่อนฉันมันอินดี้ มันยกตำแหน่งดาวโรงเรียนให้ไอ้สไบด้วยเหตุผลแสนจะงงๆ ก็คือ
ไม่อยากได้ตำแหน่งแต่จะเอาแค่เงินรางวัล จบข่าว!!!
ส่วนไอ้สไบนางดีใจจนแทบปิดโรงเรียนฉลองยังดีที่แค่พาเพื่อนๆไปฉลองที่ร้านอาหารของครอบครัวมันเรียกได้ว่าปิดร้านเลี้ยงเพื่อนกันเลย เอาละตอนนี้ฉันควรกลับมาสนใจเพื่อนสุดหล่อตรงหน้าได้แล้ว
“ขอบคุณนะ”ฉันขอบคุณภูพิงค์พร้อมรอยยิ้ม ภูพิงค์เป็นผู้ชายน่ารัก นิสัยก็ดี แถมเรียนเก่งอีกต่างหาก หล่อเวอร์
“ไม่เป็นไร อามิไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ถ้างั้นเราขอตัวไปเรียนก่อนนะ”แล้วภูพิงค์ของฉัน เอ่อ หมายถึงเพื่อนของฉัน ก็เดินจากไปพร้อมรอยยิ้มบาดใจ ที่มองยังไงมันก็เหมือนรอยยิ้มของพี่อาชิสุดๆ
ฉันเดินกลับมาที่โต๊ะ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งอย่างคนหมดแรง แม้จะได้รับพลังจากการเห็นใบหน้าแสนเพอร์เฟคของภูพิงค์มาแล้ว แต่ตอนนี้พอมานึกถึงหน้าไอ้พี่ชายตัวดีกับเมียของมันฉันก็แทบจะหมดแรง แง
“พี่ชายแกโครตอำมหิตเลยมิ”สไบเอ่ยทันทีที่ฉันหย่อนก้นลงเก้าอี้ ฉันพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะเบะปากจะร้องไห้
“แล้วแกจะทำยังไงต่อไป โดนตัดเงินครึ่งนึงเลยนะ ปกติได้ครบแกยังต้องให้ฉันเลี้ยงข้าวประจำ นี้ถ้าโดนตัดเงินจริงๆ มีหวังฉันกับไอ้ยิ้มโดนไถตังค์ตั้งแต่วันแรกแน่ๆ”ฉันยิ่งเบะปากมากขึ้น ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกถ้าขืนฉันต้องรวมเดินทางไปกับผัวเมียคู่นั้น ฉันขอลาตาย T^T
“เอาน่ามิ แกก็ไปก่อน วันเดียวเอง ไม่งั้นโดนตัดเงินนะ”รอยยิ้มพูดเสียงจริงจัง พลางวางมือลงบนไหล่ฉันเพื่อนปลอบใจ ฉันคงไม่มีทางเลือกจริงๆ สินะ
“ก็ดีเหมือนกันนะมิ แกกลับพร้อมพี่อาชิ แกจะได้คอยเป็นไม้กันหมาให้พี่ชายแกไง พี่ลี่จะได้ไม่เข้ามาใกล้พี่ชายแก แถมดีไม่ดีพอห่างกันมากๆ พี่ชายแกอาจจะกลับใจก็ได้นะเว้ย”
O.O จริงสิ!!! ลืมคิดไปได้ยังไงเนี่ย เอาละสงสัยต้องเริ่มปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่การชุมนุม เอ้ย ทวงคืนพื้นสตรีเพศสักที
“จริงด้วย!!!”
“โอเค งั้นแยกย้ายกันไปเรียนได้แล้ว” รอยยิ้มสรุปวาระการประชุมในเช้านี้ของเรา ก่อนที่เราสามคนจะแยกย้ายกันไปเรียนแต่ละคณะ ฉันกับรอยยิ้มเรียนสถาปัตด้วยกัน ส่วนยัยสไบนางเรียนศิลปกรรมศาสตร์เอกภาษาญี่ปุ่น ไม่ต้องบอกก็รู้ทำไมนางเรียนเอกญี่ปุ่น นางอยากไปอยู่ญี่ปุ่น อยากไปเจอไอดอลนาง จุดประสงค์มีแค่นั้น
“สไบแกคิดว่าพี่อาชิจะกลับใจได้จริงหรอ”
“ไม่อ่ะ”
“อ่าว งั้นแกก็…”
“เออ ก็พูดให้ไอ้มิมันสบายใจขึ้นไปงั้น อย่างที่บอกเป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นไข้หวัดจะได้กินยาแล้วหาย ของแบบนี้เป็นแล้วเป็นเลยเว้ย”
“นี่แกอย่าพูดดังไป เดี๋ยวไอ้อามิมันได้ยิน มันยิ่งเครียดๆ อยู่”
“เออๆ ลืมไปกว่าจะกล่อมให้มันสบายใจได้ เกือบตาย”
“แกสองคนซุบซิบไรกัน นินทาฉันหรอ?” ฉันหันไปถามไอ้เพื่อนตัวดีสองคนที่เดินตามหลัง เพราะได้ยินเสียงซุบซิบอะไรกันเบาๆ ทำให้ฉันต้องหยุดเดินแล้วหันกลับไปมอง ไอ้สองคนนั้นรีบส่ายหน้าพร้อมกันจนคอจะหลุด ฉันหรี่ตามองเพื่อจับผิดมันสองคน ก่อนที่ไอ้สไบจะรีบออกปฏิเสธตัวอย่างไว
“ปะ ป๊าวววว”เสียงสูงทำไมฟะ มีพิรุธโครตเลยสองคนนี้ หรือมันกำลังนินทาฉันจริงๆ =_=
“เสียงสูง” ฉันมองหน้าสองคนนั้นสลับกันไปมาอย่างไม่เชื่อ
“ป่าว”ครั้งนี้มันทำเสียงต่ำเวอร์ ฉันว่าฉันจะสงสัยเพราะแกทำตัวแบบนี้เนี่ยแหละไอ้สไบนาง
“เสียงต่ำไป แกสองคนทำตัวมีพิรุธนะ”
“เอ่อ อามิเรารีบไปเรียนดีกว่านะนี้ก็ใกล้เวลาเรียนแล้ว ไปนะสไบ เจอกันตอนเย็นนะ”ฉันอ้าปากจะถามต่อแต่โดนรอยยิ้มลากตัวออกมาทันที เห้ยยยย มันน่าสงสัยก็ตรงเนี่ย
“แกทำตัวมีพิรุธนะยิ้ม”ฉันขืนตัว ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบเมื่อไอ้ยิ้มทำหน้าเหมือนคนมีชนักติดหลัง ก็แม่นางเป็นคนที่ไม่เคยโกหกมนุษย์โลกคนใดเลย แถมเวลาโกหกก็ไม่เนียนโดนจับไตลอด ไม่เหมือนสไบรายนั้นเนียนยิ่งกว่าดาราของต่างๆ ซะอีก เล่นซะเหมือนจริงให้ร้อยเล่นเป็นล้าน =_=
“อามิจังคร๊าบบบบบ”ทันทีที่ขาก้าวเข้ามาในห้องเรียน มนุษย์โลกที่ฉันไม่พึงประสงค์มากที่สุดก็กระโดดเข้ามาขว้างหน้าฉันทันที นี้ขายังก้าวไม่พ้นธรณีประตูเลยนะ =_=
“หลบไปไอ้หล่อ”เอ่อ นั่นคือชื่อของมันจริงๆ ค่ะ ผู้ชายตรงหน้าของฉันชื่อสุดหล่อ และเป็นชื่อที่พ่อกับแม่มันตั้งให้มาตั้งแต่เกิด ทำไมถึงรู้ก็มันตามวนเวียนสิงสถิตในทุกๆ ที่ที่ฉันอยู่ตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย เหมือนเจ้ากรรมนายเวร =_=
แล้วฉันจะบอกว่าชื่อ สุดหล่อ นี้มันแปรผกผันกับหน้าตาของมันสุดขีดเลยนะ คนอะไรตัวดำแล้วยังชอบแต่งตัวเป็นไฟจราจร ไอ้สุดหล่อมันชอบสีแดงมาก และมันจะชอบใส่เสื้อผ้าที่แดงจนขนาดที่ว่าฉันขาวกว่ายังไม่กล้าใส่เลย =_= แต่ไม่ใช่ว่าฉันรังเกียจรูปร่างหน้าตาของมันนะ ฉันรังเกียจนิสัยของมันต่างหาก ก็มันเล่นจ้องจะเขมือบฉันตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย ชอบทำหน้าตาหื่นกามและหาจังหวะสิงฉันอยู่ตลอดเวลา น่าขนลุกชะมัด
“ถอย-ไป!!!”เสียงเข้มๆ ของรอยยิ้มทำให้ไอ้สุดหล่อหุบยิ้ม ก่อนจะรีบโค้งตัวเพื่อให้เราสองคนเดินเข้าห้อง
ทันทีที่แม่นางยิ้มเดินผ่านบุคคลผู้ยืนขว้างทางถึงกลับแหวกทางให้แม่นางรอยยิ้มผู้มีอำนาจเด็ดขาดในเอกทันที เจ๊เขาโหดบอกแล้วเขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด
ขอเล่าถึงวีรกรรม เอ้ย พฤติกรรมของรอยยิ้มเพื่อนรักสักนิดนะคะ รอยยิ้มเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยน่ารักเหมือนตุ๊กตาบลายอันนี้บอกไปแล้ว และใบหน้าของนางแปรผกผันกับชื่อเช่นเดียวกับไอ้หล่อ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ รอยยิ้มเป็นแชมป์คาราเต้ตั้งแต่ม.4 ยัน ม.6 สามสมัยซ้อน!!!
แถมแต่ละคนที่แข่งกับมันไม่เข้าโรงบาลก็หยอดน้ำเข้าต้มหายหน้าหายตาหายหัวไปจากโรงเรียนหลายวัน โดยส่วนมากจะเป็นผู้ชายที่เข้ามาวุ่นวายกับมัน ดังนั้นจึงไม่มีบุรุษคนใดในโลกสามารถเข้าชนะใจผู้หญิงไทยหัวใจแกร่งคนนี้ได้เลย สุดยอดผู้หญิงยุคใหม่มั่นใจไม่ต้องการผู้ชายดูแล(มั้ง) =_=
ฉันกับรอยยิ้มเดินมานั่งที่แถวด้านหน้า เพราะไม่อยากอยู่ใกล้ๆ ไอ้หล่อ มันทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียน แถมมองไม่ค่อยเห็น ไม่ใช่ว่าตั้งใจเรียน แต่เพราะอยู่ข้างหน้านะดี อาจารย์สรพงศ์แกชอบเดินไปสอนข้างหลัง แปลกปะละอาจารย์เอกฉัน แปลกพอๆ กับลูกศิษย์อย่างพวกฉันเลยแหละ
เอกเราเป็นเอกที่มีคนเรียนน้อยที่สุดมีกันแค่ 22 คน จำหน้ากันได้หมดในเวลาแค่วันเดียว แถมแต่ละคนมีเอกลักษณ์ในการแต่งตัวและทรงผมอย่างที่ว่าเดินไปกลางโรงอาหารยังรู้ว่ามันเรียนอะไร เพราะเหตุผลนี้เลยไม่ค่อยมีอิสตรีคนใดหลงมาเรียน ในเอกมีผู้หญิงแค่ 5 คน เป็นทอมสาม อีกสองคือฉันและไอ้ยิ้ม เลยทำให้เป็นดาวเด่นที่สุด และนั่นทำให้ฉันต้องพลีชีพตัวเองยอมลงประกวดดาวมหาลัยให้คณะ เพราะทั้งคณะมีผู้หญิงรวมกันไม่ถึง 30 คน ขาดแคลนไปไหน =_=
อาจารย์สรพงศ์เดินย่างกรายเขามาในเวลาต่อมาและก็เริ่มบรรเลงบทเรียนที่ทำให้หนังตาฉันหนักขึ้นมา ตั้งแต่ประโยคที่ว่า ‘วันนี้เราจะเรียนเรื่อง…’ แล้วฉันก็ต้านทานพลังหนังตาไม่ไหว จนหลับไปในที่สุด ฝันดี คร๊อกกกก Zzzzzz
อ่อ ไม่ต้องห่วงเรื่องแลคเชอร์แม่นางรอยยิ้มผู้หน้าเดียวจดทุกคำของอาจารย์ แถมด้วยการบันทึกเสียงไว้ฟังเป็นที่ระทึกอีก บอกเลยไม่ต้องกังวล นอนต่อ =_=
“อามิ!!!”รอยยิ้มสะกิดจนฉันตื่น อย่าเรียกว่าสะกิดเลย เรียกว่าเขย่าเลยดีกว่า ฉันไม่ใช่นมนะเว้ยไม่ต้องเขย่าก่อนเปิด
“ห่าววว”ฉันหาวยาวๆ ก่อนจะบิดขี้เกียจไปมาเมื่อพบว่าหมดคาบแล้ว
“แกนี่น่าหลับตลอด”รอยยิ้มส่ายหัวเบาๆ ให้ฉัน ก่อนจะทำหน้าเอือมระลาในความขี้เกียจของเพื่อนตัวเอง ฉันเลยต้องทำตัวเป็นลูกแมวขี้อ้อนมันด้วยการเอาแก้มไปถูแขนมันเบาๆ เพื่อเปลี่ยนประเด็น ^^
“ก็เค้าง่วง รอยยิ้มอย่าดุเค้าสิ”ฉันแอ๊บเสียงให้น่ารัก จนเพื่อนที่แสนดีอย่างยัยรอยยิ้มเผลออมยิ้มออกมา ก่อนจะดีดหน้าผากฉันทีนึง
“โอ๊ยยยย เจ็บนะ”ฉันร้องเสียงหลงก่อนจะจับที่หน้าผากตัวเองเพราะถึงมันจะดีดไม่เต็มแรง แต่แม่นางเป็นถึงแชมป์คาราเต้สามสมัยซ้อนนะ มันต้องแรงควายกว่าคนธรรมดาอยู่แล้ว แง เจ็บ T^T
“สมน้ำหน้า”ไอ้ยิ้มว่ายิ้มๆ เอ่อ เรียกว่าเกือบยิ้มน่าจะดีกว่า แล้วหันไปสนใจสมุดแลคเชอร์ของตัวเอง
“ยิ้ม ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ ปวดฉิ่งฉ่อง”ฉันบอกเพื่อน เพราะตอนนี้เริ่มปวดฉี่ขึ้นมาตงิดๆ แล้ว
“อือ ให้ไปเป็นเพื่อนไหม”ยิ้มบอก ก่อนจะทำท่าเหมือนจะเก็บของลงกระเป๋า
“ไม่ต้องหรอกแก เรามีเรียนต่อที่สวน ไว้เจอกันที่สวนเลยนะ ฉันไปนะไม่ไหวแล้ว”ฉันรีบคว้าสมุดแลคเชอร์และกระเป๋าดินสอหมีพูห์ของตัวเองเข้ากระเป๋า ก่อนจะรีบสะพายไว้ที่ไหล่ข้างเดียว แล้ววิ่งไม่คิดชีวิต ห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ตึกนิเทศ
แง ไกลไปนะกว่าจะไปถึงฉี่แตกพอดี ฉันกลั้นใจก่อนจะรีบวิ่งไปที่ตึกคณะนิเทศศาสตร์ที่อยู่ถัดไปทันทีเพราะถ้าคิดนานกว่านี้ฉี่แตกจริงๆ แน่ ที่ฉันต้องวิ่งไปห้องน้ำไกลขนาดนี้เพราะห้องน้ำที่คณะปิดซ่อมมาเป็นเดือนแล้วไม่เสร็จสักที
ฉันวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำชั้นหนึ่งทันทีแต่ก็ต้องพบความผิดหวัง เมื่อมีป้ายบอกว่าแม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่ แง จะมาทำอะไรกันตอนนี้ ฉันเม้มปากแน่น ก่อนจะกลั้นใจวิ่งขึ้นไปที่ห้องน้ำชั้นสอง
ผ่าง!!!! ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป … เต็ม!!!!!!
ใครมันมาเข้าพร้อมกันตอนนี้วะ ฉันยืนบิดไปมาเพื่อรอให้คนที่เข้าห้องน้ำก่อนออกมา แต่พอรอได้สัก 5 นาที ความปวดที่มีมานานเริ่มทวีความรุนแรงจนรู้สึกว่ามันใกล้เขื่อนแตกเต็มทีแล้ว ฉันตัดสินใจเดินบิดออกมาจากห้องน้ำหญิง ก่อนจะมองซ้ายมองขวา แล้วแอบชำเลืองเข้าไปมองว่าห้องน้ำชายมีมนุษย์เพศชายสิงสถิตอยู่ไหม
“ไม่มีคน”ฉันเอ่ยเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินอย่างระแวงเข้าไปไหนนั้น ขออย่าให้มีใครเข้ามาตอนนี้เลยนะ สาธุ
ฉันรีบเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะรีบปิดประตูจัดการปลดปล่อยความทุกข์ที่แสนทรมานทันที ฉันจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินยิ้มหวานออกมาจากห้องน้ำด้วยความสบายใจ
O.O!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“เห้ย!!!”
O.Oอ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
มีผู้ชายกำลังยืนส่งกระจกอยู่หน้าห้องน้ำที่ฉันเพิ่งเดินออกมา แง แกจะมาเข้าห้องน้ำทำไมตอนนี้ฟะ แล้วเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เอ๊ะ หน้าตาไอ้คนนี้มันคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอได้มองดีๆ แล้ว หน้าสวยๆ แบบนี้ ปากเรียวๆแบบนี้ ตาหวานๆ แบบนี้ แล้วไอ้ทรงผมหน้าม้าแบบนี้ หัวขาวๆ แบบนี้ เห้ยยยย นี่มัน…
“นาย!!!”
ฉันชี้หน้าหมอนั่น ก่อนจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจ โลกมันจะกลมเกินไปแล้วนะ ทำไมต้องเป็นไอ้บ้าคนนี้ด้วยที่มาเข้าห้องน้ำตอนนี้แล้วมาเจอฉันในสภาพแบบนี้
ทำไมต้องเขา อามิจังไม่เข้าใจ T^T
แนะนำและสั่งสอนได้เลยนะคะ
รบกวนนักอ่านที่น่ารักทุกท่านที่แวะมาอ่านนิยายของนักเขียนมือใหม่ช่วยคอมเม้นเป็นกำลังให้ด้วยนะคะ
ยัยอามิเจอใครในห้องน้ำชาย!!!
มาร่วมลุ้นและให้กำลังใจนางเอกไม่เต็มของไรท์ด้วยนะคะ อิอิ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอ๊ยยยย ตื่นเต้น
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 7 เมษายน 2558 / 21:53