ตอนที่ 18 : Lovely you : เธอน่ารัก ตอนสิบแปด
“แบคฮยอน เปเปอร์ตัวนี้ไม่ต้องรีบส่ง เดดไลน์ตั้งวันจันทร์” แบคฮยอนสบตากับอี้ชิง รายนั้นเท้าคาง ยิ้มตาใส
“จะวันจันทร์นี้แล้วต่างหาก”
“เอาน่า เดี๋ยวเราแบ่งทำบางส่วนไปก่อน แบคฮยอนไปช่วยชานยอลหาหนังสือให้เพื่อนก่อนดีกว่า ห้องสมุดจะปิดแล้ว เดี๋ยวไม่ทัน”
“ถ้าคุณแบคฮยอนไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ ฉันพอคุ้นกับระบบการสืบค้นแบบเดียวกันนี้ คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน ไปกันเถอะค่ะชานยอล เดี๋ยวก็ต้องไปร้านต่อนะคะ” แบคฮยอนยังคงจดจ่ออยู่กับการวาดรูปบนขอบกระดาษ คราวนี้มือป้อมเปลี่ยนมาวาดรูปสายฟ้าฟาดแต่มันดูบิด ๆ เบี้ยว ๆ พิกล
“ไปก่อนนะคะ” สาวสวยกล่าวลาโดยไม่ระบุคน อี้ชิงจึงยกยิ้ม โบกมือให้ไหว ๆ
“จ้ะ ไปดีเถอะ”
“.............”
“เป็นอะไรไปเนี่ย โกรธชานยอลหรือแบคฮยอน” คนที่ควรจะตอบเอาแต่มองตามแผ่นหลังกว้าง อี้ชิงถามไปแล้วเพื่อนสนิทยังนั่งนิ่ง ใบหน้าน่ารักไม่แสดงอารมณ์ใดนอกจากอาการเม้มกลีบปากเข้าหากัน แบคฮยอนปิดหนังสือเก็บของเสร็จก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเรียกพลขับนามว่าจงอิน สั่งสั้น ๆ ว่าให้มารับที่คณะแล้วก็หันมาบอกอี้ชิง
“ไม่ได้โกรธหรอก แค่ขุ่นนิดหน่อย รู้อยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นคิดยังไงกับตัวเองแล้วยังเปิดโอกาสให้เค้าเข้าใกล้ สงสัยอยากติดกับใยแมงมุม”
“ไหนจงอินบอกชานยอลยังไม่อยากมีใคร ไม่ชอบให้ใครมาหวังในตัวเอง ทำไมที่เห็นมันตรงข้ามล่ะ หรือการข่าวของแบคฮยอนผิดพลาด” แบคฮยอนกลืนเสียงเหอะลงคอ เคาะปลายนิ้วซ้ำ ๆ “ไม่พลาดหรอก ไม่ใช่แค่จงอินทั้งคุณจุนมยอนกับฮิมชันก็พูดเหมือนกันหมด”
“นั่นสิ เมื่อกี้เราก็เห็นว่าชานยอลพยายามชวนแบคฮยอนไปด้วย ตัวเองนั่นแหละเอาแต่งอน สุดท้ายเลยปล่อยปลาย่างให้แมวคาบไป”
“เราก็อยากจะไปด้วยนะแต่ถ้าไปมันก็คงเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ พอมีเรื่องโชรงก็ต้องมีเราเข้าไปเกี่ยวข้อง ตอนนี้เรายังพอมีใจยิ้มให้แต่กลัวว่าในอนาคตจะเบื่อแล้วก็รำคาญจนเผลอทำอะไรไม่ดีใส่แม่คุณเข้า แล้วรับรองว่ายาวแน่ ถ้าชานยอลยังยึดหลักสุภาพบุรุษไม่เลิกโชรงก็คงจะเนียนเอาความเป็นเพื่อนบังหน้าเข้าหาตลอด”
“แล้วการปล่อยให้อยู่สองต่อสองมันดียังไง”
“ก็ให้โดนผู้หญิงรุกในบรรยากาศส่วนตัวเสียบ้าง จะได้อึดอัดใจเยอะ ๆ ต่อจากนั้นจะตัดจะต่อยังไงก็สุดแล้วแค่คุณท่าน” อี้ชิงร้องว้าว ปรบมือชื่นชมความล้ำลึกในแผนการจิตวิทยาของเพื่อนรักแปะ ๆ ๆ “แล้วถ้าเกิดชานยอลอยากต่อแทนที่จะตัดล่ะคะ คุณแบคฮยอนจะทำยังไง”
คุณแบคฮยอนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง โพล่งอย่างเหลืออด
“ใครจะไปยอม!” อี้ชิงหัวเราะยังไม่ทันจบม้วนเบนซ์คันงามก็โฉบเข้ามาจอดชิดขอบถนน คนขับที่เปิดประตูลงมาสวมแว่นกันแดดหากก็ยังไม่สามารถบดบังรัศมีความดูดีของคุณชายคิมได้ แบคฮยอนมองรอยกระตุกมุมปากสีเข้มแล้วก็ถอนใจเหนื่อยหน่าย บอกให้พรางตาคนหน่อยมันก็ไม่ยอมทำตาม มาหล่อครบสูตรแบบนี้กลัวไม่ได้เป็นข่าวฉาวคู่กับลูกพี่นายหรือไงจงอิน
“หวัดดีครับพี่อี้ชิง สามีและลูกชายสบายดีไหมครับ”
“สบายดีทั้งคู่ แล้วทำไมมาขับรถให้แบคฮยอนได้ รถนายไปไหน” จงอินไหวไหล่ “พี่ชายคนดีของผมถอยไปขูดกระถางต้นไม้ที่คอนโดเมื่อสองสามวันก่อน ตอนนี้เลยยังนอนนิ่งอยู่ในศูนย์ครับ”
“ไม่ต้องเท้าความ รถคันอื่นก็มีไม่ยอมถอยมาใช้ ดื้อจะใช้รถฉันอยู่ได้”
“ก็แบคฮยอนเป็นคนทำแบคฮยอนต้องรับผิดชอบสิ จะขึ้นรถได้หรือยัง ต้องไปอีกที่ตามสัญญา เดี๋ยวกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจัดหน้าทำผมไปทำงานพิเศษไม่ทันนะครับคุณพนักงานพาร์ทไทม์ร้านหนังสือ” ปากคอมันนะ แบคฮยอนตวัดตาคาดโทษเสียทีหนึ่ง ฝ่ายนั้นไม่สะเทือน โบกมือลาอี้ชิงแล้วก็ผลุบเข้าไปในรถดังเดิม แบคฮยอนหันมาบอกลาเพื่อนรัก ไม่ลืมฝากให้อี้ชิงติดตามสถานการณ์คู่ในห้องสมุดอย่างใกล้ชิดแล้วก็ขึ้นรถไปนั่งคู่กับพลขับผิวเข้มตาคม
คุณหนูมองกระจกข้างที่สะท้อนภาพตึกห้องสมุดของคณะ แม้จะย้ำบอกตัวเองเช่นเดียวกับที่บอกอี้ชิงไปแต่ใจอีกหลายส่วนก็ยังอดกังวลไม่ได้ หวังว่าโชรงคงไม่ฉวยโอกาสใช้บรรยากาศโรแมนติกในห้องสมุดทำมิดีมิร้ายแฟนเขาหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงแบคฮยอนจะทุ่มเงินเก็บ(?)ในบัญชีทั้งหมดทุบตึกนั้นทิ้งจริง ๆ ด้วย
ดวงตาเรียวละจากกระจกเมื่อจงอินชี้ให้ดูกลุ่มนักศึกษาที่กำลังซ้อมเต้นสันทนาการอยู่กลางสนาม แบคฮยอนละความสนใจจากตึกคณะเร็วเกินไปจึงไม่ทันเห็นว่าพอรถเคลื่อนตัวออกร่างสูงของคนที่คิดถึงอยู่ตลอดเวลาก็ปรากฏตรงระเบียงตึก ตำแหน่งเดียวกับที่คุณหนูบังเอิญเดินชนกับชานยอลเมื่อครั้งก่อน ชายหนุ่มหยุดช่วงขายาวกับที่ เขม้นมองตามคนที่เมื่อครู่บอกว่ากำลังตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ไม่ว่างเพราะต้องเขียนเปเปอร์แล้วทำไมตอนนี้ถึงขึ้นรถไปกับผู้ชายคนนั้นได้ ผู้ชายที่มองจากตรงนี้ชานยอลก็นึกรู้ทันทีว่าเป็นคนเดียวกันกับเมื่อคืนนั้น
“อ้าว หาหนังสือเสร็จแล้วหรือชานยอล”
“ยังครับ ผมลงมาใช้ห้องน้ำ...แล้วคุณแบคฮยอน...” ใบหน้าหล่อเหลาสงบนิ่ง หากอี้ชิงเห็นคำถามหนึ่งเดียวในหน่วยตาคมกล้า คุณแม่ผู้ผ่านประสบการณ์ความรักมาพอตัวยิ้มบาง เปล่งเสียงหัวเราะอย่างมีจริต
“แบคฮยอนกลับไปแล้วค่ะ เพิ่งไปเมื่อกี้นี้เอง”
“ผมทันเห็นแวบหนึ่ง วันนี้คุณแบคฮยอนขับเบนซ์มาหรือครับ” อี้ชิงร้องโอ้ในใจ ประกบมือเข้าหากันในท่าที่คิดว่าชวนฝันอย่างที่สุด
“ใช่แล้วค่ะ วันนี้ใช้เบนซ์แต่ไม่ได้ขับเองหรอกนะคะ รถคุณแบคฮยอนแต่มีหนุ่มหล่ออาสาเป็นสารถีให้ น่าอิจฉาเนาะ” ตอนนี้ ไม่แน่ใจแล้วว่าแรงอิจฉาเล่นหลอกจากอี้ชิงกับความอิจฉาในใจชายหนุ่มตัวสูง ของใครจะแรงมากกว่ากัน อี้ชิงภาวนาด้วยใจรักเพื่อน ยกนี้ขอให้เธอแพ้ชานยอลเถอะ
ถ้าชานยอลจะมาทำงานพร้อมโชรงแบคฮยอนก็บอกตัวเองให้ทำใจไว้แล้ว ถึงแม้ชานยอลจะยอมให้หญิงสาวผู้นั้นซ้อนท้ายคุณเวสป้าคันเก่งแบคฮยอนก็จะไม่ว่า(มีสิทธิ์?) ไม่ประท้วง ไม่เคืองและไม่งอน เขาจะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เดินตามคิมฮิมชันไปทุกที่ที่พี่เลี้ยงจะพาไปเหมือนเช่นทุกวัน ถ้าใครบางคนไม่มาง้อก่อนแบคฮยอนก็จะไม่ยอมให้รู้หรอกว่าเขากระหายอยากรู้ความเป็นไปในห้องสมุดมากจนอยู่ไม่สุข
แบคฮยอนตั้งใจมั่นแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคู่กรณีตั้งแต่ห้านาทีแรกของการเริ่มงาน พอไม่ทันได้ตั้งตัวก็เลยทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนทำตาปริบ ๆ มองคนตัวโตยัดเป้ใส่ไว้ในล็อคเกอร์
“เริ่มงานแล้ว ทำไมยังไม่ออกไปล่ะครับ”
“คือ เรา เราเข้ามาเอารถเข็นน่ะ จะไปเก็บหนังสือมาห่อพลาสติกใหม่”
“หนังสือเยอะไหมครับผมจะรีบออกไปช่วย”
“ไม่เป็นไร เราทำไหว แล้ว...ทำไมชานยอลเพิ่งมา รถติดหรือ?” ชานยอลเป็นฝ่ายมองหน้าก่อน พูดกับเขาก่อน แบคฮยอนก็ถือว่านั่นคือการง้ออย่างหนึ่ง ถ้าเขาจะห่วงใยชานยอลตอบกลับมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหม คนหล่อของแบคฮยอนยิ้มด้วยการเหยียดริมฝีปากออกเล็กน้อย หล่อมากนะแต่ดูซึม ๆ เหงา ๆ ชอบกล
“รถไม่ติดหรอกครับ ผมมัวแต่ขับรถเล่นจนลืมเวลา”
“เอ๋? ขับรถเล่น เวลานี้น่ะนะ” ยิ้มแบบเดิมอีกแล้ว “ทำไมถึงอยากขับรถเล่น มีอะไรหรือเปล่าหรือแค่ความอยากเฉย ๆ”
ถ้าเป็นสามอาทิตย์ก่อนแบคฮยอนไม่กล้าถามหรอก ระดับความสัมพันธ์ของคนเพิ่งรู้จักกันคำถามทำนองนี้มันซอกแซกเกินไป แต่วันนี้ ผลของการพยายามนับตั้งแต่แรกพบทำให้เขาสนิทใจมากพอจะถามต่อยอดทุกเรื่องที่ชานยอลเอ่ยออกมาก่อนได้แล้ว
“ชานยอลเป็นอะไร ใครทำอะไรให้ บอกเราได้นะ”
“ผมแค่มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย”
“คิด? มีเรื่องต้องคิดแล้วก็ไปขับรถเล่นนี่นะ ได้ยังไง ขับรถมันต้องใช้สมาธิ ต้องระวังสารพัด วันหลังไม่เอานะ อย่าทำแบบนี้อีก ถ้ามีเรื่องต้องคิดก็จอดแล้วก็ค่อยคิด มันอันตราย นายอาจบาดเจ็บหรือทำคนอื่นบาดเจ็บได้ เข้าใจไหม”
“ก็ไม่เชิงว่าคิดหรอกครับ พอมีเรื่องให้คิดผมก็มักขับรับลมเล่นไปเรื่อย ๆ พอสบายใจขึ้น สมองก็จะปลอดโปร่งขึ้นแล้วค่อยกลับมาหาเรื่องที่ค้างคาไว้” สีหน้าเคร่งเครียดจริงจังลดลงเหลือเพียงความโล่งใจ ชานยอลมองคุณหนูตัวขาวคลึงปลายนิ้วกับหน้าผากแล้วก็รวบมือเข้าหากัน เมื่อกี้ เขาเห็นภาพตัวเองกดคลายรอยพับตรงหัวคิ้วเรียวให้คุณแบคฮยอน!
อย่า ชานยอล อย่าให้มันมากกว่านี้
“ออกไปทำงานกันเถอะ คุณโชรงถามหาชานยอลตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” คิ้วเข้มเลิกขึ้นแทนคำถาม แบคฮยอนปรับสายผ้ากันเปื้อน เล่าต่ออย่างไม่ติดขัด “เห็นบ่นว่าเป็นห่วง เพราะออกจากห้องสมุดมาด้วยกันแต่คุณโชรงมาถึงร้านก่อนเวลางานตั้งครึ่งชั่วโมงเลยสงสัยว่าชานยอลหายไปไหน แปลกจัง ถ้าห่วงมากทำไมไม่โทรหานะ มีเบอร์กันอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“ฮิมชันคงให้ไปเพราะคุณโชรงต้องไปหาหนังสือที่คณะผม” นับว่าเป็นการก้าวล้ำหน้าที่แบคฮยอนอดทึ่งไม่ได้ โชรงได้เบอร์โทรศัพท์ชานยอลไปแล้ว ในขณะที่เขาได้(มาจากคนอื่นแถมยังบอกเจ้าตัวไม่ได้ว่ามี)มานานแต่ไม่เคยกล้าโทรหรือส่งข้อความไปหา แบคฮยอนจะแก้เกมนี้อย่างไรดี
“แล้วได้หนังสือครบไหม”
“ครบครับ”
“หานานหรือเปล่า ขอโทษนะไม่ได้ไปช่วย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเห็นแล้ว คุณแบคฮยอนคงยุ่ง...” ชายหนุ่มว่าพลางดึงรถใส่หนังสือมาเข็นเสียเอง แบคฮยอนมองแล้วก็ยิ้มกว้าง แสดงว่าวันนี้เขาจะมีพี่เลี้ยงชื่อชานยอลคอยสอนงานให้สินะ “ตอนกลับออกมาคุณก็ออกไปแล้ว”
“อือ แต่ไม่ได้ตรงกลับคอนโดเลยหรอกต้องไปส่งน้องชายที่ร้านขายรองเท้าก่อน หมอนั่นเลือกของน๊านนาน เราก็เกือบมาทำงานสายเหมือนกัน”
“น้องชาย? คนที่ขับรถให้น่ะหรือครับ”
“อ่า ใช่ ลูกพี่ลูกน้องน่ะ” คนตัวเล็กยิ้มสดใส ท่องอยู่ในใจทุกคำว่าอย่าหลุดชื่อ ๆ ไม่อย่างนั้นชานยอลต้องรู้แน่ว่าแบคฮยอนใช้น้องชายเป็นไส้ศึกล้วงเอาข้อมูลเชิงลึกของเป้าหมายมาตั้งแต่ต้น คนฉลาดอย่างคุณแฟนต้องรู้ตัวในทันทีและเมื่อนั้นแบคฮยอนไม่มั่นใจว่าตนเองจะได้รับการอภัยให้โดยการตีตัวออกห่างหรือเปล่า “เจ้านั่นเป็นลูกคุณอา ญาติคนอื่นก็มีนะแต่คนนี้สนิทที่สุด”
“คุณอี้ชิงบอกว่าอิจฉาเพราะมีหนุ่มหล่อมาขับรถให้คุณ” คุณแบคฮยอนเผลอกระตุกคิ้วเข้าหากัน อะไร ยังไง จางอี้ชิงคิดจะวางยาพิษเพื่อนอย่างนั้นหรือ
“จะมีได้ยังไง แฟนเฟินก็ไม่มีกับใครเค้า”
“ถ้าไม่ใช่แฟนขับรถให้คุณแบคฮยอนไม่ได้หรือครับ”
“ม่ายยยยยได้”
“แล้วทำไมผมถึงขับให้ได้”
แบคฮยอนทำหนังสือคู่มือการดูแลรักษาไม้เรือนกระจกหลุดจากมือ สันหนังสือเล่มหนากระทบพื้นดังตุบ คุณหนูปล่อยมันนอนนิ่งอยู่บนพื้นพรมเหมือนเช่นชานยอลที่ไม่สนใจสิ่งใดนอกจากสบตากับอีกฝ่าย ดวงตาสองคู่สบประสานท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของร้านหนังสือ ร่างเล็กถูกปักตรึงอยู่กับที่ด้วยสายตาคมกริบ หัวใจดีดตัวเองชนกับแผ่นอกจนร้าวไปหมด ในหัวมีแต่คำถามของชานยอลลอยวนไปมาและในใจก็มีแต่ความสับสนตีกันให้ยุ่งไปหมด
“เพราะอะไรครับ?”
“เพราะ...ที่ชานยอลขับให้ได้ก็เพราะ...”
บอกไปเลยดีไหม
เอาให้รู้ไปเลยดีหรือเปล่า
สิ่งที่อยู่ในใจไปทั้งหมด ถึงเวลาที่ต้องสารภาพออกไปแล้วใช่ไหม
เอายังไงดีแบคฮยอน!
#lovelycb
เหมือนจะค้างกว่าตอนที่แล้ว
พรุ่งนี้แลวันถัดไปเกรงว่าจะบ่ว่างเลยอัพให้สองตอนค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ก็แล้วแต่ๆๆๆๆๆ