ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เถื่อนรักจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #27 : บทที่ 6 แทบขาดใจ (4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.75K
      30
      27 พ.ย. 64


    านเท่าไรไม่รู้ที่สมองพร่าเลือนสามัญสำนึกลบหายจนไม่อาจหักห้ามความปรารถนาที่กำลังแล่นไปตามกระแสเลือด รู้ตัวอีกทีมือหนาไต่ไปตามเรียวขาเนียน ขึ้นมาตามสะโพกแล้วสอดปลายนิ้วเข้าไปใต้ผ้าลูกไม้บางเบา ปัดปลายนิ้วผ่านจุดอ่อนไหวจนเธอสะดุ้งเฮือก

    ชั่ววินาทีแห่งความตื่นตระหนกนั้น รัดเกล้าก็รู้สึกตัวทันทีว่าตัวเองกำลังปล่อยตัวปล่อยใจให้ทำในสิ่งที่ไม่สมควรอยู่ เธอดิ้นขลุกขลักอย่างร้อนรน ผลักร่างหนาออกแล้วกลิ้งออกจากใต้ร่างหนาจนหล่นตุบลงจากโซฟาตัวยาว พื้นพรมหนานุ่มราคาแพงรองรับร่างเธอไว้ไม่ให้บาดเจ็บ แต่ถึงจะเจ็บตอนนี้เธอก็คงไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น หญิงสาวรวบสาบเสื้อที่แหวกห่างเข้าหากัน ลนลานลุกขึ้นแล้วถอยห่างจากร่างสูงทั้งที่หอบหายใจจนร่างสะท้าน

    บรรยากาศน่าอึดอัดขึ้นทุกทีเมื่อไม่มีใครพูดอะไรออกมา แล้วคนที่โดนกระทำก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป รัดเกล้าพุ่งพรวดตรงไปยังประตูทางออกของเพ้นท์เฮาส์ มือเล็กโยกลูกบิดแล้วกระชากประตูให้เปิดออก

    “ทำบ้าอะไร!” แต่เพียงก้าวเดียวที่เธอก้าวผ่านประตูออกไปเสียงคำรามลั่นอย่างไม่พอใจก็ดังขึ้น พร้อมกับมีแขนข้างหนึ่งเอื้อมมาโอบรอบเอวบางไว้ ยกเธอจนลอยหวือและอุ้มร่างของเธอกลับเข้ามาในห้องก่อนจะใช้มืออีกข้างดันประตูให้ปิดลงเสียงดังสนั่น

    “ปล่อยฉัน!” รัดเกล้าระเบิดเสียงใส่เขา มือทั้งสองข้างพยายามแกะแขนที่รัดรอบร่างออก ทว่าแรงที่รัดร่างเธอกับรัดแน่นขึ้นจนเธอเริ่มหายใจไม่ออก

    “จะออกจากห้องทั้งอย่างนี้หรือไง”

    แม้เสียงที่ตอบกลับมาจะเป็นเพียงเสียงคำรามต่ำในลำคอ ทว่าความเกรี้ยวกราดที่ปนอยู่ในกระแสน้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้แตกต่างจากเสียงของเธอนัก แต่ก็นั่นแหละ! เขามีสิทธิ์อะไรมาโกรธเธอ

    “ทำไมฉันจะไปไม่ได้ ปล่อย!

    สิ้นเสียงของเธออีกฝ่ายก็ยอมปล่อยมือออกจากร่างเธอจริงๆ ถอยห่างจากร่างของเธอคล้ายจะยินยอมง่ายๆ และถ้าเขาจะไม่ปล่อยเธอไว้กลางห้องแล้วเอาร่างของเขาขวางไว้ระหว่างเธอกับประตู เธอคงคิดว่าเขายอมแพ้แล้วจริงๆ

    “หลีกทางด้วย” รัดเกล้าว่าพลางพยายามเดินผ่านเขาไปยังประตูห้อง แต่ชายหนุ่มก็ขยับร่างใหญ่โตกว่ามาขวางทางเอาไว้

    “ถ้าคุณจะออกจากห้องนี้ เพื่อคนมองจนตาถลน หรือให้ใครสักคนฉุดคุณไปทำเรื่องอย่างว่า ผมว่าผมน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าใครสักคนคนนั้น” แม็กซิมัสว่า นัยน์ตาสีน้ำเงินที่ยังคงฉายชัดถึงไฟปรารถนาอันแรงกล้ากวาดตามองเรือนร่างบอบบางตั้งแต่ผมยุ่งฟู ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากบวมช้ำ ลงไปยังเนินอกอิ่มที่เผยออกมาจากสาบเสื้อเชิ้ตที่แยกออกจากกัน ชั้นในที่เขารั้งมันขึ้นมาไว้เนื้อทรวงอกร่วงลงมาในที่ของมันแล้วแต่เมื่อไม่ได้ติดตะขอภาพที่เห็นจึงน่าลุ้นเสียจนเขาต้องกลั้นหายใจไว้

    สายตาของเขาทำให้ใบหน้าหวานแดงก่ำขึ้นมาฉับพลันอย่างนึกขึ้นได้ เพราะมัวแต่คิดจะดิ้นรนหาอิสระจากอ้อมแขนของเขาทำให้เธอลืมไปเสียสนิท หญิงสาวรีบหันหลังให้เขาเอื้อมมือสั่นระริกไปจัดการกับตะขอเสื้อชั้นในที่ถูกปลดออกแบบไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบติดกระดุมเสื้อที่ถูกปลดออก เสื้อเชิ้ตที่เธอสวมอยู่นี่อำนวยความสะดวกต่อเขาเหลือเกิน แต่ก็โชคดีที่วันนี้ชั้นในเพียงชุดเดียวที่เธอมีอยู่แห้งพอดีหลังจากที่เธอซักตากไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายและน่ากระอักกระอวนกว่านี้มากแค่ไหน

    “หลีกทางด้วย” พอจัดการกับสภาพของตัวเองเสร็จ รัดเกล้าก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับคนที่ยืนขวางประตูไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ปกปิดความขุ่นเคือง เธอยังโกรธและก็อับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น และก็ยังไม่สามารถปรับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ ผิดกับชายหนุ่ม ตอนนี้เขากลับมามีสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคยแล้ว ความเกรี้ยวกราดก่อนหน้านี้หายวับไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    เมื่อเขาไม่ได้ตอบว่าอะไร รัดเกล้าก็เลยเลือกที่จะเดินผ่านเขาไป แต่แทนที่เธอจะผ่านไปได้โดยง่ายแขนของเธอกลับถูกยึดเอาไว้ด้วยมือหนา ก่อนที่คำพูดที่ทำให้เธอต้องเดือดจัดขึ้นมาอีกหนจะหลุดออก

              “คุณจะผิดคำพูดงั้นเหรอ”

    “คุณเป็นคนผิดสัญญาก่อน เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำตามคำพูดที่เคยให้กับคุณไว้” แม้เขาจะไม่พูดออกมาตรงๆ ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่รัดเกล้าก็รู้ว่าเขากำลังหมายถึงเรื่องที่เธอบอกเขาว่าจะไม่หนีไปไหนจนกว่าจะเซ็นสัญญาให้เขาเรียบร้อยแล้ว แต่มันบ้าชัดๆ ที่เขากล้าทวงสัญญากับเธอทั้งๆ ที่เขาเองนั่นแหละที่เป็นคนผิดคำพูดก่อน

              “สัญญาอะไร”

              “ก็ที่เราตกลงกันไว้ว่าฉันจะไม่ทำหน้าที่บนเตียงให้คุณไง คุณลืมไปแล้วหรือไง” เลือดสูบฉีดไปตามใบหน้าและลำคอจนแดงก่ำ ทั้งโกรธ และอายไปในเวลาเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเสียงที่ตะโกนกลับไปก็ยังมีเพียงความเกรี้ยวกราดเท่านั้น

    “ถ้าเป็นเรื่องนั้น ผมไม่ได้ผิดอะไร อีกอย่างผมก็ยังไม่ได้ร่วมรักกับคุณ”

    “ถึงจะยังไม่ได้ถึง...ขนาดนั้น แต่ก็เกือบ ถ้าฉันไม่...โอ้ย! ช่างเถอะ ยังไงคุณไม่มีสิทธิ์มาขังฉันไว้ที่นี่อีก” ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งกระดาก ยิ่งพูดหน้าเธอก็ยิ่งร้อนเห่อ ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งอับอายจนอยากเอาหน้าซุกแผ่นดินหนี จนสุดท้ายเธอก็ตัดบทเมื่อทุกคำที่เธอตั้งใจจะพูดออกมามันช่างออกมายากเย็นเหลือเกิน

     “คุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ไปไหน เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิดอย่างที่คุณกล่าวหา ก็ในเมื่อทั้งคุณและผมยังไม่ได้เซ็นสัญญานั่น ก็ยังไม่ถือว่าสัญญานั้นมีผลที่ต้องปฏิบัติตาม”

    สิ้นประโยคของเขา รัดเกล้าก็กัดริมฝีปากที่บวมเจ่อและยังสั่นระริกเพราะฤทธิ์จุมพิตไว้แน่น แล้วการกระทำของเธอก็ทำให้เขาตัวเกร็งขึ้น แม็กซิมัสเบี่ยงหน้าหนีเพื่อไม่ให้ตัวเองมองริมฝีปากของเธอ เพราะหากมองนานกว่านี้เขาคงอดใจไม่ไหวที่จะกระโจนเข้าหาเธอแล้วก้มลงไปบนเคล้าเรียวปากอิ่มที่รู้ซึ้งว่าหวานเพียงใดนั่นอีกครั้ง 

              “ในเมื่อคำสัญญาด้วยปากเปล่ามันไม่มีความหมาย งั้นฉันก็จะไม่เซ็นสัญญานั่นเหมือนกัน”

    “จะเอาแบบนั้นก็ได้ ผมจะได้ส่งตัวคุณคืนให้เสี่ยวิปริตนั่น รู้ไหมว่านอกจากวิปริต เปิดบ่อนผิดกฎหมาย เสี่ยนั่นยังเปิดช่องด้วย”

    “หยุดพูดนะ!” รัดเกล้าร้องขัดเพื่อให้เขาหยุดพูด

    “ผมก็แค่พูดเรื่องจริง ตกลงคุณจะเอาแบบไหน”

    ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อรัดเกล้าไม่ได้พูดอะไรอีก แม็กซิมัสกลั้นใจตอนที่สบประสานสายตากับนัยน์ตาสีดำ ใบหน้าของเขายังเรียบเฉยแม้ว่าภายในใจจะลุ้นระทึก เขาอ่านคนอื่นออกเสมอ รู้ว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่ และพอได้พูดคุยทำความรู้จักกันสักพักเขาก็รู้ว่าควรจะใช้คนๆ นั้นอย่างไรเพื่อให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด มันคงเป็นผลพวงจากการฝึกปรือมาหลายปี ทว่าตอนนี้ตอนที่เขามองเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของตรงหน้าเขากลับคาดเดาไม่ออกว่าเธอจะตอบกลับมาอย่างไร

    “งั้นก็เอาสัญญามาสิ” รัดเกล้าทวงหาสิ่งที่เธอรอมาตลอดสองวันอย่างไร้ทางเลือกพลางระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพื่อขับไล่อารมณ์ที่อึมครึมไม่ต่างจากเมฆฝน

    ผู้ชายตรงหน้าอาจจะมีโปรไฟล์ดีกว่าเสี่ยสมภพหลายร้อยหลายพันเท่า แต่อันตรายที่เธอสัมผัสได้แม้จะแตกต่างรูปแบบแต่ก็น่ากลัวไม่ได้ต่างกันนัก อีกทั้งเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นยิ่งทำให้เธอไม่รู้ว่าจะไว้ใจเขาได้อีกไหม แต่อย่างน้อยเลือกเขาเธอก็ยังมีข้อต่อรอง และถ้าเธอรักษาระยะห่างมากพอ ระวังตัวให้มากขึ้น เธอก็อาจจะไม่ต้องตกเป็นผู้หญิงที่มีค่าเป็นเพียงของเล่นของผู้ชาย แต่ถ้าเธอเลือกเสี่ยสมภพก็เท่ากับเธอไม่มีแม้แต่แสงสว่างริบหรี่ให้คาดหวังว่านั่นคือทางออก  

    ส่วนแม็กซิมัสเขาแทบพ่นลมหายใจออกมาตอนที่ได้ยินคำตอบ แต่คงเป็นเพราะการฝึกปรือมาหลายปีทำให้เขายังเก็บความรู้สึกไว้ภายใต้ความนิ่งเฉยได้อย่างไร้ที่ติ

    เขาประสานสายตากับหญิงสาวที่รอคำตอบจากเขาและรอสิ่งที่เธอทวงถามนิ่งนาน ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วกดออกหาโรเจอร์เพื่อสั่งให้เอาสิ่งที่หญิงสาวต้องการมาให้โดยไม่ได้ละสายตาจากดวงตาสวยที่จับจ้องมายังที่ตัวเอง

    ___________________

    ฝากผลงานหน่อยค่ะ

    "หวานใจเจ้าพ่อเถื่อน" เจ้าพ่อเถื่อนที่หวานมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง เกินใคร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×