คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : บทที่ 6 แทบขาดใจ (4)
นานเท่าไรไม่รู้ที่สมองพร่าเลือนสามัญสำนึกลบหายจนไม่อาจหักห้ามความปรารถนาที่กำลังแล่นไปตามกระแสเลือด
รู้ตัวอีกทีมือหนาไต่ไปตามเรียวขาเนียน ขึ้นมาตามสะโพกแล้วสอดปลายนิ้วเข้าไปใต้ผ้าลูกไม้บางเบา
ปัดปลายนิ้วผ่านจุดอ่อนไหวจนเธอสะดุ้งเฮือก
ชั่ววินาทีแห่งความตื่นตระหนกนั้น
รัดเกล้าก็รู้สึกตัวทันทีว่าตัวเองกำลังปล่อยตัวปล่อยใจให้ทำในสิ่งที่ไม่สมควรอยู่
เธอดิ้นขลุกขลักอย่างร้อนรน ผลักร่างหนาออกแล้วกลิ้งออกจากใต้ร่างหนาจนหล่นตุบลงจากโซฟาตัวยาว
พื้นพรมหนานุ่มราคาแพงรองรับร่างเธอไว้ไม่ให้บาดเจ็บ
แต่ถึงจะเจ็บตอนนี้เธอก็คงไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น
หญิงสาวรวบสาบเสื้อที่แหวกห่างเข้าหากัน ลนลานลุกขึ้นแล้วถอยห่างจากร่างสูงทั้งที่หอบหายใจจนร่างสะท้าน
บรรยากาศน่าอึดอัดขึ้นทุกทีเมื่อไม่มีใครพูดอะไรออกมา
แล้วคนที่โดนกระทำก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป รัดเกล้าพุ่งพรวดตรงไปยังประตูทางออกของเพ้นท์เฮาส์
มือเล็กโยกลูกบิดแล้วกระชากประตูให้เปิดออก
“ทำบ้าอะไร!” แต่เพียงก้าวเดียวที่เธอก้าวผ่านประตูออกไปเสียงคำรามลั่นอย่างไม่พอใจก็ดังขึ้น
พร้อมกับมีแขนข้างหนึ่งเอื้อมมาโอบรอบเอวบางไว้
ยกเธอจนลอยหวือและอุ้มร่างของเธอกลับเข้ามาในห้องก่อนจะใช้มืออีกข้างดันประตูให้ปิดลงเสียงดังสนั่น
“ปล่อยฉัน!” รัดเกล้าระเบิดเสียงใส่เขา มือทั้งสองข้างพยายามแกะแขนที่รัดรอบร่างออก ทว่าแรงที่รัดร่างเธอกับรัดแน่นขึ้นจนเธอเริ่มหายใจไม่ออก
“จะออกจากห้องทั้งอย่างนี้หรือไง”
แม้เสียงที่ตอบกลับมาจะเป็นเพียงเสียงคำรามต่ำในลำคอ
ทว่าความเกรี้ยวกราดที่ปนอยู่ในกระแสน้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้แตกต่างจากเสียงของเธอนัก
แต่ก็นั่นแหละ! เขามีสิทธิ์อะไรมาโกรธเธอ
“ทำไมฉันจะไปไม่ได้
ปล่อย!”
สิ้นเสียงของเธออีกฝ่ายก็ยอมปล่อยมือออกจากร่างเธอจริงๆ
ถอยห่างจากร่างของเธอคล้ายจะยินยอมง่ายๆ
และถ้าเขาจะไม่ปล่อยเธอไว้กลางห้องแล้วเอาร่างของเขาขวางไว้ระหว่างเธอกับประตู
เธอคงคิดว่าเขายอมแพ้แล้วจริงๆ
“หลีกทางด้วย”
รัดเกล้าว่าพลางพยายามเดินผ่านเขาไปยังประตูห้อง
แต่ชายหนุ่มก็ขยับร่างใหญ่โตกว่ามาขวางทางเอาไว้
“ถ้าคุณจะออกจากห้องนี้
เพื่อคนมองจนตาถลน หรือให้ใครสักคนฉุดคุณไปทำเรื่องอย่างว่า
ผมว่าผมน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าใครสักคนคนนั้น” แม็กซิมัสว่า
นัยน์ตาสีน้ำเงินที่ยังคงฉายชัดถึงไฟปรารถนาอันแรงกล้ากวาดตามองเรือนร่างบอบบางตั้งแต่ผมยุ่งฟู
ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากบวมช้ำ
ลงไปยังเนินอกอิ่มที่เผยออกมาจากสาบเสื้อเชิ้ตที่แยกออกจากกัน
ชั้นในที่เขารั้งมันขึ้นมาไว้เนื้อทรวงอกร่วงลงมาในที่ของมันแล้วแต่เมื่อไม่ได้ติดตะขอภาพที่เห็นจึงน่าลุ้นเสียจนเขาต้องกลั้นหายใจไว้
สายตาของเขาทำให้ใบหน้าหวานแดงก่ำขึ้นมาฉับพลันอย่างนึกขึ้นได้
เพราะมัวแต่คิดจะดิ้นรนหาอิสระจากอ้อมแขนของเขาทำให้เธอลืมไปเสียสนิท
หญิงสาวรีบหันหลังให้เขาเอื้อมมือสั่นระริกไปจัดการกับตะขอเสื้อชั้นในที่ถูกปลดออกแบบไม่รู้ตัว
ก่อนจะรีบติดกระดุมเสื้อที่ถูกปลดออก เสื้อเชิ้ตที่เธอสวมอยู่นี่อำนวยความสะดวกต่อเขาเหลือเกิน
แต่ก็โชคดีที่วันนี้ชั้นในเพียงชุดเดียวที่เธอมีอยู่แห้งพอดีหลังจากที่เธอซักตากไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น
ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายและน่ากระอักกระอวนกว่านี้มากแค่ไหน
“หลีกทางด้วย”
พอจัดการกับสภาพของตัวเองเสร็จ รัดเกล้าก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับคนที่ยืนขวางประตูไว้
แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ปกปิดความขุ่นเคือง
เธอยังโกรธและก็อับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
และก็ยังไม่สามารถปรับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ ผิดกับชายหนุ่ม
ตอนนี้เขากลับมามีสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคยแล้ว
ความเกรี้ยวกราดก่อนหน้านี้หายวับไปราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อเขาไม่ได้ตอบว่าอะไร
รัดเกล้าก็เลยเลือกที่จะเดินผ่านเขาไป
แต่แทนที่เธอจะผ่านไปได้โดยง่ายแขนของเธอกลับถูกยึดเอาไว้ด้วยมือหนา
ก่อนที่คำพูดที่ทำให้เธอต้องเดือดจัดขึ้นมาอีกหนจะหลุดออก
“คุณจะผิดคำพูดงั้นเหรอ”
“คุณเป็นคนผิดสัญญาก่อน
เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำตามคำพูดที่เคยให้กับคุณไว้” แม้เขาจะไม่พูดออกมาตรงๆ
ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร
แต่รัดเกล้าก็รู้ว่าเขากำลังหมายถึงเรื่องที่เธอบอกเขาว่าจะไม่หนีไปไหนจนกว่าจะเซ็นสัญญาให้เขาเรียบร้อยแล้ว
แต่มันบ้าชัดๆ ที่เขากล้าทวงสัญญากับเธอทั้งๆ
ที่เขาเองนั่นแหละที่เป็นคนผิดคำพูดก่อน
“สัญญาอะไร”
“ก็ที่เราตกลงกันไว้ว่าฉันจะไม่ทำหน้าที่บนเตียงให้คุณไง
คุณลืมไปแล้วหรือไง” เลือดสูบฉีดไปตามใบหน้าและลำคอจนแดงก่ำ
ทั้งโกรธ และอายไปในเวลาเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเสียงที่ตะโกนกลับไปก็ยังมีเพียงความเกรี้ยวกราดเท่านั้น
“ถ้าเป็นเรื่องนั้น
ผมไม่ได้ผิดอะไร อีกอย่างผมก็ยังไม่ได้ร่วมรักกับคุณ”
“ถึงจะยังไม่ได้ถึง...ขนาดนั้น
แต่ก็เกือบ ถ้าฉันไม่...โอ้ย! ช่างเถอะ ยังไงคุณไม่มีสิทธิ์มาขังฉันไว้ที่นี่อีก”
ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งกระดาก ยิ่งพูดหน้าเธอก็ยิ่งร้อนเห่อ
ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งอับอายจนอยากเอาหน้าซุกแผ่นดินหนี
จนสุดท้ายเธอก็ตัดบทเมื่อทุกคำที่เธอตั้งใจจะพูดออกมามันช่างออกมายากเย็นเหลือเกิน
“คุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์ไปไหน เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิดอย่างที่คุณกล่าวหา
ก็ในเมื่อทั้งคุณและผมยังไม่ได้เซ็นสัญญานั่น
ก็ยังไม่ถือว่าสัญญานั้นมีผลที่ต้องปฏิบัติตาม”
สิ้นประโยคของเขา
รัดเกล้าก็กัดริมฝีปากที่บวมเจ่อและยังสั่นระริกเพราะฤทธิ์จุมพิตไว้แน่น
แล้วการกระทำของเธอก็ทำให้เขาตัวเกร็งขึ้น
แม็กซิมัสเบี่ยงหน้าหนีเพื่อไม่ให้ตัวเองมองริมฝีปากของเธอ
เพราะหากมองนานกว่านี้เขาคงอดใจไม่ไหวที่จะกระโจนเข้าหาเธอแล้วก้มลงไปบนเคล้าเรียวปากอิ่มที่รู้ซึ้งว่าหวานเพียงใดนั่นอีกครั้ง
“ในเมื่อคำสัญญาด้วยปากเปล่ามันไม่มีความหมาย
งั้นฉันก็จะไม่เซ็นสัญญานั่นเหมือนกัน”
“จะเอาแบบนั้นก็ได้
ผมจะได้ส่งตัวคุณคืนให้เสี่ยวิปริตนั่น รู้ไหมว่านอกจากวิปริต เปิดบ่อนผิดกฎหมาย
เสี่ยนั่นยังเปิดช่องด้วย”
“หยุดพูดนะ!” รัดเกล้าร้องขัดเพื่อให้เขาหยุดพูด
“ผมก็แค่พูดเรื่องจริง
ตกลงคุณจะเอาแบบไหน”
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
เมื่อรัดเกล้าไม่ได้พูดอะไรอีก แม็กซิมัสกลั้นใจตอนที่สบประสานสายตากับนัยน์ตาสีดำ
ใบหน้าของเขายังเรียบเฉยแม้ว่าภายในใจจะลุ้นระทึก เขาอ่านคนอื่นออกเสมอ รู้ว่าคนอื่นกำลังคิดอะไรอยู่
และพอได้พูดคุยทำความรู้จักกันสักพักเขาก็รู้ว่าควรจะใช้คนๆ นั้นอย่างไรเพื่อให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด
มันคงเป็นผลพวงจากการฝึกปรือมาหลายปี
ทว่าตอนนี้ตอนที่เขามองเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของตรงหน้าเขากลับคาดเดาไม่ออกว่าเธอจะตอบกลับมาอย่างไร
“งั้นก็เอาสัญญามาสิ”
รัดเกล้าทวงหาสิ่งที่เธอรอมาตลอดสองวันอย่างไร้ทางเลือกพลางระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพื่อขับไล่อารมณ์ที่อึมครึมไม่ต่างจากเมฆฝน
ผู้ชายตรงหน้าอาจจะมีโปรไฟล์ดีกว่าเสี่ยสมภพหลายร้อยหลายพันเท่า
แต่อันตรายที่เธอสัมผัสได้แม้จะแตกต่างรูปแบบแต่ก็น่ากลัวไม่ได้ต่างกันนัก อีกทั้งเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นยิ่งทำให้เธอไม่รู้ว่าจะไว้ใจเขาได้อีกไหม
แต่อย่างน้อยเลือกเขาเธอก็ยังมีข้อต่อรอง และถ้าเธอรักษาระยะห่างมากพอ
ระวังตัวให้มากขึ้น
เธอก็อาจจะไม่ต้องตกเป็นผู้หญิงที่มีค่าเป็นเพียงของเล่นของผู้ชาย
แต่ถ้าเธอเลือกเสี่ยสมภพก็เท่ากับเธอไม่มีแม้แต่แสงสว่างริบหรี่ให้คาดหวังว่านั่นคือทางออก
ส่วนแม็กซิมัสเขาแทบพ่นลมหายใจออกมาตอนที่ได้ยินคำตอบ
แต่คงเป็นเพราะการฝึกปรือมาหลายปีทำให้เขายังเก็บความรู้สึกไว้ภายใต้ความนิ่งเฉยได้อย่างไร้ที่ติ
เขาประสานสายตากับหญิงสาวที่รอคำตอบจากเขาและรอสิ่งที่เธอทวงถามนิ่งนาน
ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
แล้วกดออกหาโรเจอร์เพื่อสั่งให้เอาสิ่งที่หญิงสาวต้องการมาให้โดยไม่ได้ละสายตาจากดวงตาสวยที่จับจ้องมายังที่ตัวเอง
___________________
ฝากผลงานหน่อยค่ะ
"หวานใจเจ้าพ่อเถื่อน" เจ้าพ่อเถื่อนที่หวานมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง เกินใคร
ความคิดเห็น