คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 11 :: Kiss
CHAPTER 11
Kiss
ชานยอลโดนหมายสั่งให้เข้าไปอาบน้ำก่อน เราใส่ร่วมกันได้เพราะเสื้อยืดของคุณแบคฮยอนไซส์ใหญ่กว่าตัวเองประมาณสองไซส์เกือบทุกตัว อ้างว่าใส่แล้วสบายดี
เด็กหนุ่มอ้าปากหาวโดยอัตโนมัติ เพียงเพราะเห็นว่าเข็มสั้นของนาฬิกาชี้อยู่ที่เลขสอง ใจมันอยากตาสว่างไปจนกว่าคุณแบคฮยอนจะหลับ แต่ร่างกายมันก็ซื่อสัตย์จนคิดว่าคงรอดไม่ถึงตีสามแน่ ๆ โชคดีที่ล็อกบ้านเรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นคืนนี้ปาร์คชานยอลคงกระสับกระส่ายเพราะทิ้งน้องสาวให้นอนกรนอยู่บ้านคนเดียว
คุณแบคฮยอนเดินออกมาจากห้องน้ำ หยุดอยู่หน้าโต๊ะกระจกที่มีขวดครีมและน้ำหอมสำหรับผู้ชายเรียงกันอยู่ ทุกอย่างล้วนเป็นโทนสีเข้ม ชานยอลไม่แน่ใจว่าเขาไม่ค่อยสนใจตัวเอง หรืออีกฝ่ายดูเป็นผู้ชายเจ้าสำอางกันแน่
เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคนตัวเล็กหันมาสบตากัน เขาแกล้งทำเป็นมองไปอีกทาง พร้อมเช็ดผมตนเอง ไม่ถึงห้าวินาทีเลยด้วยซ้ำ... เด็กอายุสิบเก้าก็ต้องนั่งตัวเกร็งเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่อยู่ใกล้จมูก ซึ่งต้นเหตุมาจากคุณแบคฮยอนที่ไม่รู้ว่าเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ เด็กหนุ่มหลับตาแน่น ยู่หน้าลงเมื่อฝ่ามืออุ่น ๆ กำลังทาครีมลงบนใบหน้าให้กับเขา
“ดูแลตัวเองบ้างสิ”
“หมายถึงทาครีมเหรอครับ”
“อืม ของแบบนี้ไม่ได้กำหนดว่ามีแค่ผู้หญิงที่ใช้ได้สักหน่อย” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย ไม่แน่ใจเลยว่าระหว่างครีมหรือมือคุณแบคฮยอนที่นุ่มกว่ากัน
“ตอนที่รู้จักคุณแรก ๆ ผมคิดว่าคุณคงเป็นวิศวกรที่ลงไซต์งาน คุมคนงานก่อสร้างอะไรแบบนั้นเสียอีก”
เด็กหนุ่มรู้สึกใกล้เคียงการเป็นเจ้าบัดดี้เข้าไปทุกทีแล้ว เมื่อตอนนี้เขาเอาแต่เงยหน้ามองอีกคนที่กำลังเช็ดผมให้ แววตาของเขามันเชื่องแค่ไหน คงวัดได้จากรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แต่งแต้มอยู่บนใบหน้าคุณแบคฮยอน
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าจะไปทางนั้นเหมือนกัน แต่พอคิดว่าถ้าอยู่กับไซต์งานโดยตรงก็คงไม่มีเวลาให้กับชีวิต ก็เลยเลือกเป็นที่ปรึกษาโครงการดีกว่า” คนตัวเล็กหัวเราะ
“คุมก่อสร้าง อยู่กับคนงานทั้งวันอย่างนั้น คุณต้องเหนื่อยจนไม่ดูแลตัวเองแน่ ๆ” แบคฮยอนมองแววตาของเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะรู้ทันเขาบ้างแล้ว คนตัวเล็กอมยิ้ม แล้วเช็ดผมต่อโดยทิ้งจังหวะไปครู่หนึ่ง
“เลยหันมาทำคอนซัลท์นี่ไง อาจจะยุ่งหน่อย แต่อย่างน้อยฉันก็มีเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง” งานที่เขาทำมักจะเกี่ยวกับเอกสารเสียส่วนใหญ่ คอยตรวจสอบการก่อสร้างว่าตรงไปตามแบบหรือไม่ รวมถึงการซื้ออุปกรณ์ก่อสร้าง ที่ทางไซต์งานต้องมาขอคำอนุมัติจากเขาก่อน
“ที่คุณเคยบอกว่าพอเรียนจบแล้วคงนัดเจอเพื่อนยากขึ้น มันทำให้ผมกลัวอยู่ลึก ๆ ว่าอนาคตจะเดินไปในทางไหน” การเป็นเด็กอย่างมากก็แค่เหนื่อยกับการเรียนและการบ้านที่โถมเข้ามาพร้อมกัน แต่พอเรียนจบไปชีวิตก็คงพลิกผันไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งคุณแบคฮยอนกับคุณจงอินก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
“ใส่ใจกับวันนี้ดีกว่า อย่าเพิ่งกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเธอทำวันนี้ได้ดี วันพรุ่งนี้ก็คงไม่อะไรต้องกังวลถึงเรื่องเมื่อวานแล้ว”
“แต่มันก็ห้ามยาก ใช่ไหมครับ?” เด็กหนุ่มยังไม่ละสายตาจากคนอายุมากกว่า “อย่างเช่นการที่คุณยืนอยู่ตรงหน้าผมแบบนี้ ทาครีมให้ เช็ดผมให้”
“...”
“ผมอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าถ้าพรุ่งนี้ มะรืน หรือวันถัด ๆ ไป ผมจะมีโอกาสได้ทำแบบนี้อีกหรือเปล่า แล้วถ้าไม่... ผมจะทำยังไง”
แบคฮยอนไม่ได้อธิบายใด ๆ ทั้งนั้น มือที่เคยเช็ดผมชะงักลงเมื่อเด็กหนุ่มคว้ามือเขาเอาไว้ทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปไหน เราต่างหลีกหนีความจริงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ และเรื่องของความรู้สึกระหว่างเขากับเด็กอายุสิบเก้าที่มันเริ่มจะเลยเถิดไปทุกขณะ
สายตาของชานยอลแน่วแนวอย่างไร วันนี้ก็ยังคงไม่ต่างไปจากเดิม และมันทำให้เขาชั่งใจในการพูดอ้อมค้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดในสิ่งที่ควรพูด บยอนแบคฮยอนไม่มีความกล้ามากพอที่จะทำร้ายเด็กคนนี้ด้วยความจริงอีก
“ฉันก็อยู่ตรงนี้แล้วไง”
“คุณ... จะแต่งงานจริง ๆ เหรอครับ”
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่บยอนแบคฮยอนปล่อยให้อีกฝ่ายมีอิทธิพลต่อใจขนาดนี้ หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงไม่ลังเลที่จะพยักหน้าพร้อมตอบไปว่า ‘ใช่’ แต่คำถามของชานยอล มันก็เป็นอีกคำถามหนึ่งที่แบคฮยอนถามตนเองมาตลอดว่า ‘เขาพร้อมที่จะแต่งงานแล้วจริง ๆ หรือ’
มันเป็นสิ่งที่คนตัวเล็กรอมานาน ตั้งแต่ตอนเรียนจบและมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง มีเงินก้อนหนึ่งที่สะสมมาตลอดสองปี มันอาจจะไม่มากจนสามารถจัดงานแต่งใหญ่โตได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องแบมือขอเงินพ่อกับแม่เพื่อไปสู่ขอผู้หญิง
แบคฮยอนวางเคยแผนเงียบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขอให้เพื่อนออกแบบเรือนหอให้ แม้ว่าในช่วงแรกเขาและจูฮยอนอาจจะต้องไปอยู่คอนโดด้วยกันก่อน แน่ล่ะ วิศวกรหนุ่มที่เพิ่งทำงานกินเงินเดือนได้แค่สองปี คงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อที่ดินและตกแต่งบ้านสองชั้นได้อย่างสวยหรูในใจกลางกรุงโซลได้
ยังมีอีกเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างมันกลายเป็นฝันลม ๆ แล้ง ๆ ซึ่งก็คือการวางแผนว่าถ้ามีลูกคนแรกจะตั้งชื่อว่าอะไร หากเป็นเด็กผู้หญิงแบคฮยอนคงสอนให้เธอเป็นเด็กแข็งแกร่ง ส่งเรียนฮับกิโด และถ้าเป็นลูกชาย จะส่งให้เล่นกีฬาไม่ก็เครื่องดนตรีสักสองสามชนิด แต่ถ้าลูกไม่ชอบ เขาก็พร้อมที่จะปล่อยให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ต้องการ
แต่ทุกอย่างก็ถูกพับเก็บ เมื่อรู้ว่าเบจูฮยอนยังไม่พร้อม แบคฮยอนรอมาหลายปี รอจนเขาและเธอเริ่มห่างกันออกไปเรื่อย ๆ เพราะแฟนสาวต้องเป็นอินเทิร์น ต้องเรียนแพทย์เฉพาะทาง ต้องทำงานในโรงพยาบาลจนไม่มีใครพูดถึงเรื่องแต่งงานอีก จนถึงตอนนี้ที่มันถูกจุดขึ้นมาอีกครั้งเพราะทางผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามว่าทั้งคู่ควรร่วมหอลงเรือนด้วยกันเสียที และด้วยความที่เขาและเธอ ‘รักกัน’ จึงไม่มีใครแย้งอีก
แม้ว่าในใจของบยอนแบคฮยอนจะเต็มไปด้วยเรื่องของเด็กคนนี้ก็ตาม
“ขอโทษนะครับ แต่ผมหยุดคิดเรื่องนี้ไม่ได้เลย” คนอายุมากกว่ายืนนิ่ง เมื่อคนตรงหน้าซุกศีรษะลงกับหน้าท้องของเขา “คุณคงลำบากใจที่ต้องแบกรับความรู้สึกของผมเอาไว้ ส่วนคุณจูฮยอนก็ดีกับผมทุกอย่าง แต่ผมไม่กล้าสู้หน้าเธออย่างสนิทใจตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบคุณ และผมก็รู้ว่าผมคงเห็นแก่ตัวไปได้อีกไม่นาน”
“...”
“ผมดีใจมากเลยครับที่คุณป้าโทรมา ท่านชวนคุยเรื่องสัพเพเหระเหมือนผมเป็นลูกชายคนหนึ่ง อีกทั้งยังบอกว่าถ้าผมว่างก็อยากให้ไปช่วยคุณเลือกชุดแต่งงานด้วย”
แบคฮยอนยังคงยืนนิ่ง ในขณะที่เด็กหนุ่มค่อย ๆ เอื้อมมือขึ้นมากอดเอวเขาเอาไว้ราวกับต้องการที่ยึดเหนี่ยวทางใจ ความอึดอัดจากเรื่องที่กำลังพูดถึงถูกส่งมาจากมือใหญ่ซึ่งกำเสื้อนอนสีเข้มไว้แน่น
“เธอไม่ต้องทำตามที่แม่พูดก็ได้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมรับปากท่านแล้วว่าจะไป”
“...”
“ผมตั้งใจว่าจะถอยออกมาหลังจากคุณแต่งงาน” เด็กหนุ่มหายใจเข้าลึก ๆ กับคำพูดที่ขัดแย้งกับสิ่งที่เขาอยากทำ “มันยากจังเลยครับ แค่คิดผมก็เจ็บจะแย่แล้ว”
“...”
“แต่อีกใจผมก็ไม่อยากรั้งคุณเอาไว้ ทั้งที่ผมอยากกอดคุณอย่างนี้ แล้วขอร้องทุกคนบนโลกว่าอย่าเอาคุณไป ผมเลวได้ที่สุดแค่ก่อนวันงานแต่งงานของคุณกับเธอเท่านั้น”
เสียงของชานยอลสั่น คาดว่าเด็กคนนี้คงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเพราะเขาเป็นต้นเหตุอีกแล้ว แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงแวงแขนที่กระชับกอดแน่นยิ่งขึ้น กับความรู้สึกในทุก ๆ ทางที่ถาโถมเข้ามาให้เด็กอายุสิบเก้าต้องจำใจเลือก
“แต่ตอนนี้คุณอย่าเพิ่งไปไหนนะครับ ได้โปรดทนลำบากใจอยู่กับผมต่ออีกสักนิดนะ”
ท่ามกลางสายฝนด้านนอกที่ตกลงมาอย่างหนัก หากแต่ในห้องนี้กลับเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจตนเอง ความอึดอัดในแบบผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างตรงไปตรงมาเหมือนเด็ก มันถูกฝังไว้ในก้นบึ้งของความรู้สึกโดยจิตใต้สำนึกฝ่ายดี จนกระทั่งเด็กคนนี้พูดมันออกมาจนหมดเปลือก จิตใต้สำนึกฝ่ายร้ายจึงสั่งให้เขาโอบใบหน้าเด็กหนุ่มขึ้นมา เพื่อสบตากันหวังจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเลย
ดวงตาแดงก่ำคลอไปด้วยน้ำตาเพราะความอ่อนไหวด้านอารมณ์ คนอายุมากกว่าไล้น้ำตาออกจากใบหน้าคมด้วยปลายนิ้วหัวแม่มือ แม้จะอ่อนโยนและบางเบา แต่แบคฮยอนก็รู้ดีว่าสัมผัสของเขาเป็นเหมือนน้ำยาล้างแผลที่ทำให้เจ็บแสบและช่วยบรรเทาไปพร้อม ๆ กัน
“รู้ไว้นะ ว่าการเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะเป็นคนดี”
เด็กหนุ่มพยายามยิ้มทุกครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย แต่ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่สามารถกดความกลัวในใจเอาไว้ได้เลย คุณแบคฮยอนเป็นบุคคลต้องห้าม ทั้งที่ควรพยายามตัดใจ แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ปาร์คชานยอลก็ยิ่งถลำลึกมากขึ้นเท่านั้น
“ฉันยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่มากจนคิดว่าเธอคงคาดไม่ถึง”
บยอนแบคฮยอนก็แค่เด็กคนหนึ่งที่อายุสามสิบสี่ ทุก ๆ เรื่องในโลกอาจใช้สมองหาเหตุผลให้ได้ แต่ยกเว้นเรื่องของหัวใจ แม้มนุษย์พยายามให้สมองหาทางออกให้กับมัน แต่สุดท้าย... ความรู้สึกก็เป็นคำตอบได้ดีที่สุด แม้ว่ามันจะผิดบาปก็ตาม
“ขอโทษที่ฉันไม่อยากให้เธอไปไหน”
หัวใจของเด็กหนุ่มกำลังเต้นแรงเพราะเหตุผลใด เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นเพราะความเจ็บปวดของความจริง หรือเป็นเพราะคุณแบคฮยอนกำลังโน้มใบหน้าลงมาใกล้จนภาพคืนนั้นซ้อนทับขึ้นมาอีกครั้ง มือทั้งสองข้างยังคงวางอยู่บนเอวคนอายุมากกว่า หากแต่กลิ่นของคนตรงหน้านั้นไม่ใช่กลิ่นเหล้าเหมือนความทรงจำแรก
กลิ่นสบู่... กลิ่นแชมพู... กลิ่นประจำตัวของคนตัวเล็กกำลังดึงเด็กหนุ่มวัยสิบเก้าให้ดำดิ่งลงไป
“อยู่กับฉันได้ไหม ...ชานยอล”
ประโยคนี้แผ่วลงคล้ายกระซิบ เด็กหนุ่มสบตากับคนตัวเล็กที่ใบหน้าอยู่ห่างกันแค่ปลายจมูก พร้อมพยักหน้าตกลงหลังจากนิ่งไปราว ๆ ห้าวินาที กับคำขอร้องที่หลุดออกมาจากคุณแบคฮยอนนั้น มันเป็นเรื่องที่เขาไม่ได้คาดคิดไว้เลย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่เด็กหนุ่มจะปฏิเสธคำขอที่ตรงกับใจตัวเอง
“ถ้าได้อยู่กับคุณ... วันพรุ่งนี้ก็ไม่จำเป็นแล้วครับ”
เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ความผิดชอบชั่วดีคั่นกลางเราทั้งคู่ขณะสบตากัน เพื่อเป็นโอกาสสุดท้ายหากว่ามีใครสักคนหนึ่งสำนึกได้ว่าบรรยากาศในวินาทีนี้มันไม่ใช่เรื่องเหมาะสม แต่บยอนแบคฮยอนเลือกที่จะมองข้ามมัน พร้อมกดจูบลงบนริมฝีปากเด็กหนุ่มในที่สุด
มันต่างจากคราวที่แล้ว เมื่อตอนนี้บยอนแบคฮยอนมีสติครบถ้วน และรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ ชานยอลหลับตาลงแล้วปล่อยให้คนอายุมากกว่าเป็นฝ่ายชักนำ ความกลัวทั้งหมดถูกกลบด้วยความอบอุ่นจากริมฝีปากคนตัวเล็ก เขาไม่กล้าขยับตัวมากนัก เพราะความประหม่า ระหว่างรอดูว่าคุณแบคฮยอนจะผละออกแล้วพูดว่า ‘ขอโทษ’ อีกครั้งหรือไม่
แต่ผ่านไปกว่าสองนาที ลิ้นของเขาก็ยังคงถูกไล่ต้อนในโพรงปากจากคนที่มีประสบการณ์มากกว่า ให้ตายเถอะ... อย่างปาร์คชานยอลยังพูดได้ไม่เต็มปากเลยว่าเคยมีประสบการณ์ ในเมื่อจูบครั้งแรกของเขามันเกิดขึ้นกับคุณแบคฮยอน และครั้งนี้ก็เช่นกัน
คนตัวเล็กถอนจูบออกมาเล็กน้อย สบตากับเด็กหนุ่มที่กำลังหน้าขึ้นสีจัดจากรสชาติของการแสดงความรักในแบบผู้ใหญ่ ชานยอลหอบหายใจเล็กน้อยหลังจากขาดอากาศไปชั่วขณะหนึ่งเพราะจูบเมื่อครู่
ปลายจมูกโด่งรั้นคลอเคลียกระตุ้นความรู้สึก กดจูบย้ำลงไปอีกครั้งแล้วถอนออกมาสบตากัน แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์กับผู้ชายมาก่อน แต่จากสัญชาติญาณ บยอนแบคฮยอนก็พอจะรู้ว่าวิธีไหนที่จะทำให้อีกฝ่ายละลายคามือเขา “พอไหม...?”
“ไม่ครับ... จูบผมอีก”
ไม่เคยเลยสักครั้งที่บยอนแบคฮยอนจะมองเพศเดียวกัน เขาสามารถแยกเสน่ห์ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงออกได้เป็นข้อ ๆ เลยว่าเพศตรงข้ามย่อมกระตุ้นได้ดีกว่า คนตัวเล็กไม่เคยมีความคิดอยากจูบผู้ชายสักคนเพราะความเสน่หา แต่ตอนนี้เขากำลังจูบกับปาร์คชานยอล เด็กผู้ชายที่ลบความคิดเหล่านั้นออกไปจากหัวเขาจนหมดสิ้น
ชานยอลไม่มีหน้าอก และเขาไม่สามารถอุ้มคนตรงหน้าจนตัวลอยได้ ไม่มีส่วนไหนเหมือนผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ แต่ที่ทำให้หยุดจูบเด็กคนนี้ไม่ได้ ก็เพราะ ‘ความชอบพอ’ ซึ่งมั่นใจว่าถ้านานไปกว่านี้ มันคงแปรเปลี่ยนเป็น ‘ความรัก’
เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าแบบไหนถึงจะดี แต่การเงยหน้าจูบแบบนี้คงไม่ใช่แค่เขาที่รู้สึกว่ามันเก้ ๆ กัง ๆ ชานยอลรั้งเอวคนอายุมากกว่าลงมานั่งทับตักตนเองทั้งที่ยังไม่ถอนริมฝีปาก เรายังคงแลกลิ้นกันในค่ำคืนหนาวเหน็บจากกระแสฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก
เขาเห็นว่าคุณแบคฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยกับท่าทางที่เจ้าตัวคงไม่เคยทำมาก่อน แต่ถ้าจะให้สลับตำแหน่งกันก็กลัวว่าคนตัวเล็กจะขาหักเพราะน้ำหนักของเด็กสูงร้อยแปดสิบกว่า ๆ อย่างเขา
ไม่ใช่แค่หัวใจที่ถูกกระตุ้นให้เต้นแรง เมื่อตอนนี้เป้ากางเกงของเขากำลังพองนูนเพราะรสจูบที่ดูดดื่มยิ่งขึ้น บวกกับกลิ่นกายหอมของคนตรงหน้า แต่ปาร์คชานยอลก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะจับคุณแบคฮยอนกดลงบนเตียงแล้วขึ้นคร่อม ปล้ำจูบเท่าที่อยากทำ
ความกล้าเดียวที่เด็กหนุ่มมีก็คือ... การจับมือคนตัวเล็กขึ้นคล้องคอของเขาเอาไว้ และจูบต่อไปเพื่อซึมซับความใกล้ชิด ที่ปาร์คชานยอลได้เข้าใกล้คุณแบคฮยอนเข้าไปอีกก้าวหนึ่ง
.
.
เสียงฝนด้านนอกกลบเสียงอาจารย์ผู้สอนที่อยู่หน้าห้อง บรรยากาศชวนง่วงทำเอานักเรียนหลายคนฟุบหลับไปในช่วงใกล้เวลาเลิกเรียน ชานยอลคิดว่าไม่ใช่แค่ความเศร้าที่ทำให้เขาเหม่อลอยจนไม่มีสมาธิเรียน เมื่อตอนนี้เด็กหนุ่มกำลังถูกความสุขโจมตีอย่างหนักจนพื้นที่ในหัวเต็มไปด้วยหน้าคุณแบคฮยอนตอนกำลังจูบกับเขา
“เฮ้ยชานยอล ไหนมาดูดิ๊ อาจารย์สั่งอะไรไว้บ้าง”
“ห-- หะ?” เจ้าของชื่อหลุดออกจากความคิด พลันหันไปทางเพื่อนสนิทสองคนที่กำลังมองมาอย่างคาดหวัง
เด็กหนุ่มหลุบสายตามองมือตนเองที่ยังคงถือปากกาเอาไว้ หากแต่หน้ากระดาษยังคงว่างเปล่าไร้รอยขีดเขียนอย่างที่ควรจะเป็น พอเงยหน้าขึ้นก็พบว่าอาจารย์ผู้สอนเดินออกไปแล้ว และตอนนี้เพื่อนร่วมห้องกำลังเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้าน
“กูไม่ได้จดไว้ว่ะ”
“ไอหยา” นัมจุนขมวดคิ้วมองอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง “เกิดอะไรขึ้นกับมึงเนี่ย ป่วยเหรอ”
“มึงรีบวิ่งไปถามกลุ่มเด็กหน้าห้องเลย ไอ้ห่า ความผิดมึงล้วน ๆ” มินโฮคาดโทษนัมจุนที่เอาแต่ชวนดูคลิปหลุดของเด็กโรงเรียนสตรีล้วน เพราะคิดว่าชานยอลคงจดไว้แล้ว ทั้งคู่จึงไม่ได้จดรายงานสำคัญที่ได้ยินคร่าว ๆ ว่าต้องส่งวันศุกร์นี้
นัมจุนถอนหายใจอย่างหน่าย ๆ แต่ก็ลุกขึ้นวิ่งตามเพื่อนออกไป จนตอนนี้เหลือแค่มินโฮที่นั่งอยู่กับเขา “เป็นไรเพื่อน”
“เปล่า กูแค่คิดไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีอะไรหรอก”
“เครียดเรื่องคุณเขาจะแต่งงานเหรอ”
“ไม่ต้องย้ำก็ได้” ชานยอลถอนหายใจแล้วเก็บหนังสือใส่กระเป๋า ก่อนจะชะงักมือเมื่ออีกฝ่ายคว้าเอาไว้ พร้อมวางบางอย่างลงมา
เด็กหนุ่มตัวสูงเบิกตากว้าง เมื่อพบว่าหน้าปกของซองสี่เหลี่ยมในมือมันคือรูปผู้หญิงอกอึ๋มนั่งถ่างขาเป็นรูปตัวเอ็ม พร้อมเอามือปิดส่วนนั้นเอาไว้!
“Take this.”
“อะไรของมึงเนี่ย!” ชานยอลดันมือออก กวาดสายตาไปรอบห้องเรียนเพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า
ยังมีเพื่อนบางคนที่ง่วนอยู่กับการตกลงงาน ซึ่งกลุ่มเด็กผู้หญิงหน้าห้องต่างมองมาที่เขาและมินโฮด้วยความสงสัย ชานยอลเลิกลัก ถลึงตามองเพื่อนสนิทที่ไม่ยอมเอาซีดีหนังโป๊กลับไปสักที แถมยังมีหน้ายัดใส่กระเป๋าเขาอีก
“เอาน่ามึง... ดูไว้เป็นบทเรียน เวลาขึ้นครูจะได้ไม่อาย”
“ขึ้นบ้าไรล่ะ ของแบบนี้ดูเอาในเวปก็ได้ ไม่เห็นต้องพกไปไหนมาไหนเลย”
“ในเวปดูฟรีมันงั้น ๆ ว่ะเพื่อน ที่กูให้นี่คอนเฟิร์มเลยว่าเด็ดจริง แผ่นแรกเป็นชายหญิง เป็นกรณีศึกษาน่ะ เผื่อว่ามึงอยากลองชวนจื่อวีทำไรงี้ แต่ถ้าไม่... ก็ยังมีก๊อกสองจ้า” มินโฮยิ้มพร้อมชูซองแผ่นหนังโป๊เกย์ขึ้นมาระดับใบหน้า “ฝ่ายรับหุ่นคล้าย ๆ คุณแบคฮยอนเลย”
“ไอ้มินโฮ!” ชานยอลหน้าขึ้นสีจัด ใช่ว่าเขาจะไร้เดียงสากับเรื่องแบบนี้ แต่การที่ไอ้เวรนี่บอกว่าฝ่ายรับเหมือนคุณแบคฮยอนมัน--
“ขอโทษเว้ยเพื่อน กูพยายามหาแผ่นที่ผู้ชายตัวเล็กเป็นฝ่ายรุกแล้ว แต่มันไม่มีจริง ๆ กูมันอ่อนหัด ที่ไม่ค่อยสันทัดฝั่งเพศเดียวกัน” มินโฮตบบ่าอีกคนพร้อมถอนหายใจ “คุณแบคฮยอนเป็นชายแท้ เขาก็คงเป็นฝ่ายสอดมึงสินะ”
“บ้าไรล่ะ กูกับเขายังไม่ถึงขั้นนั้น” มีไม่กี่ครั้งหรอกที่ปาร์คชานยอลจะสติแตก เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนไปทั้งใบหน้า รวมถึงเหงื่อกาฬที่ซึมออกมาตามขมับและซอกคอ
“คราวหลังเดี๋ยวเอาแบบกล้ามชนกล้ามมาให้ก็ได้เอ้า”
“พอเลยมึง”
“ศึกษาไว้ กูรักมึงนะ”
มินโฮกัดปากแล้วเดินออกไปจากห้องพร้อมเสียงหัวเราะ เรียกความสนใจจากกลุ่มเด็กสาวหน้าห้องให้หันไปมองเด็กหนุ่มตัวสูงซึ่งกำลังอายจนต้องซบหน้าลงกับโต๊ะ ให้ตายเถอะ... แค่เรื่องจูบอย่างดูดดื่มเมื่อสามวันก่อนก็เล่นเอาแทบบ้าแล้วนะ ถ้าให้ดูหนังโป๊แล้วจินตนาการเป็นคุณแบคฮยอนอีก... เขาก็คงรู้สึกผิดบาปจนมองหน้าคนตัวเล็กอย่างสนิทใจไม่ได้แล้ว
.
.
แต่ตัดภาพมาอีกที... ตอนนี้ปาร์คชานยอลกำลังนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องนอนมืด ๆ พร้อมแผ่นหนังโป๊ที่เพื่อนชั่วให้มา ซูยองไปเข้าค่ายกับโรงเรียนสองคืนสามวัน ดังนั้นคืนนี้เด็กหนุ่มจึงอยู่คนเดียว
จะเรียกว่าเป็นเวลาดีได้หรือไม่ ชานยอลรู้สึกกระดากอายอยู่ในใจเมื่ออยากเปิดดูหนังโป๊แผ่นที่สองดูมากกว่าแผ่นแรกที่เป็นชายหญิง ซึ่งมันก็คงปกติกับเด็กผู้ชายที่ชอบเพศเดียวกันไปแล้ว
โอเค การบ้านทำเสร็จเรียบร้อย ล็อกประตูเรียบร้อย มันคงไม่แย่นักถ้าหากจะดูสิ่งที่เด็กผู้ชายทั้งโลกทำกัน
ชานยอลใส่แผ่นแรกเข้าไปเพื่อกลบความน่าอายที่ใจจริงอยากข้ามไปดูแผ่นที่สองมากกว่า เอาเถอะ ใช่ว่าจะไม่เคยดูหนังโป๊เสียเมื่อไหร่ ตอนนี้ที่ต่างกันก็แค่มันมาในรูปแบบแผ่นซีดีที่ไม่มีไวรัสลงคอมพ์เท่านั้น
เด็กหนุ่มเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ สายตาจดจ้องอยู่กับจอสี่เหลี่ยมที่กำลังฉายภาพครูสาวสุดเอ็กซ์กับนักเรียนชายที่ถูกทำโทษในเวลาหลังเลิกเรียน หนังเล่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งฝ่ายหญิงบอกให้เด็กถอดเสื้อผ้าออก ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนเหมือนหนังโป๊ทั่วไป ชานยอลจึงกดหยุด
เขาอยากรู้แล้วว่าแผ่นที่สองเป็นอย่างไร หุ่นที่ไอ้มินโฮบอกว่าเหมือนคุณแบคฮยอนน่ะมันจะเด็ดสักแค่ไหนกัน ชานยอลเปลี่ยนแผ่นใหม่เข้าไปและเก็บแผ่นแรกใส่ซองพลาสติกใสพร้อมวางไว้ข้างจอ หัวใจเต้นตึกตักเพราะไม่เคยดูมาก่อน เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่ามันจะต่างจากชายหญิงมากแค่ไหน
หนังโป๊เกย์เริ่มต้นจากการเล่าถึงนักศึกษาชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับพี่สาวแอร์โฮสเตสและพี่เขยที่เป็นครู และทั้งคู่แอบมีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ ตอนที่พี่หญิงสาวออกบิน
ชานยอลใจเต้นแรงกับบทรักที่เร่าร้อนจนเผลอกำมือแน่น ไม่อยากเชื่อเลยว่าพอมองจากด้านหลัง ฝ่ายรับจะเหมือนคุณแบคฮยอนได้ถึงขนาดนั้น เด็กหนุ่มเริ่มหายใจติดขัด มือที่กำลังสั่นเทาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปในกางเกงนอนก่อนจะคลึงเบา ๆ และขยับรูดในวินาทีถัดมา
ในหัวฟุ้งไปด้วยสีขาว เด็กหนุ่มหลับตาลงพลางขบกรามแน่นกับจินตนาการในหัวที่แล่นไปพร้อม ๆ หนังในจอ ภาพฝ่ายรับที่กำลังถูกกระทำอย่างรุนแรงด้วยท่าโก้งโค้ง อ้าปากครางหวิวก่อนจะหยุดลงเมื่อฝ่ายรุกสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปาก
มือใหญ่ที่เร่งจังหวะเร็วยิ่งขึ้นกับความแปลกใหม่ที่เพิ่งได้เรียนรู้ เด็กหนุ่มหอบหายใจอย่างหนักจนกระทั่งปลดปล่อยออกมาเต็มมือของตนเอง ชานยอลควานหากล่องทิชชู่ซับทุกหยาดหยด ขยำเป็นก้อนแล้วโยนลงพื้น ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน
นัยน์ตาคมปรือมองเพดานสีขาว มันให้ความรู้สึกว่างเปล่าหลังจากเด็กหนุ่มสำเร็จความใคร่ด้วยมือตนเอง มันคงเป็นสิ่งเดียวที่ปาร์คชานยอลทำได้ถ้าหากมีความต้องการทางเพศ เขารู้สึกผิดทุกครั้งที่นึกถึงใบหน้าคุณแบคฮยอนตอนที่ทำเรื่องลามกอย่างนั้น
‘อา... ชานยอล...’
‘แรงอีก... อา... ดีจัง... พร้อมกันนะ...’
เด็กหนุ่มยกแขนก่ายหน้าผาก ทั้งที่คุณแบคฮยอนไม่เคยพูดอย่างนั้นเลยสักครั้งแต่เขาก็กล้าเอามาคิดเป็นตุเป็นตะได้ถึงขนาดนี้ แล้วภาพในหัวก็ชัดเจนมากจนต้องทึ่งกับจินตนาการตัวเอง ตอนคุณแบคฮยอนหันหลังแล้วเอี้ยวหน้าหันมาดูดนิ้วขณะสบตากันนั่นน่ะ... ชาติหน้าจะได้เห็นหรือเปล่าเถอะ...
เสียงเคาะประตูทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัว ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเพราะในบ้านหลังนี้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น หากบอกว่าหูฝาดก็ไม่ใช่ เมื่ออีกฟากฝั่งของประตูออกแรงเคาะอีกครั้งจนขายาวต้องเดินไปคว้าหนังสือเล่มหนึ่งมาม้วนให้แน่นเพื่อเป็นอาวุธ
“ไง”
ทันทีที่ประตูเปิดออกเด็กหนุ่มก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือคนที่เขาเพิ่งยืมตัวไปจินตนาการในโลกลามกมาสด ๆ ร้อน ๆ ชานยอลเอาแต่ยิ้มโง่ราวกับเด็กเพิ่งทำผิดแล้วถูกจับได้
“คุณมาได้ยังไงครับ...”
“ก็เธอบอกว่าอยู่คนเดียว ฉันเพิ่งเลิกงานเลยแวะซื้อพิซซ่ามากินด้วยกัน” คนตัวเล็กมองอีกคนอย่างสงสัย จากสีหน้าและการแสดงออกของชานยอลมันแปลกไปจนเขาไม่สามารถเดินออกไปนั่งรอในห้องนั่งเล่นได้ “เป็นอะไรหรือเปล่า”
“อ้อ เปล่าครับ คือ--” เด็กหนุ่มเลียริมฝีปาก “ผมทำการบ้านอยู่น่ะ”
“คิดว่าทำเสร็จแล้วเสียอีก วิชาอะไรล่ะ?” ชานยอลรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบหัว เมื่อการโกหกครั้งแรกไม่เป็นผล เด็กหนุ่มนิ่งไปชั่วอึดใจ พลางกลอกตาอยู่ในที “อังกฤษ... ครับ”
“ฉันถนัดวิชานี้ เดี๋ยวช่วยดูให้นะ” คนอายุน้อยกว่าเบิกตากว้างเมื่อคุณแบคฮยอนวางของไว้บนชั้นหน้าห้องก่อนจะแทรกตัวเข้ามา
วินาทีนี้ปาร์คชานยอลเหมือนฆาตกรที่ต้องรีบอำพรางคดี เขารีบวิ่งกลับไปพร้อมเตะเศษกระดาษทิชชู่ที่กระจายอยู่บนพื้นเข้าไปใต้โต๊ะ พร้อมเอาหนังสือวางทับแผ่นซีดีหนังโป๊เอาไว้ แบคฮยอนหยุดยืนอยู่กลางห้อง มองท่าทางแปลก ๆ ของเด็กหนุ่มตัวสูงที่ยืนกึ่งนั่งกึ่งยืนบนโต๊ะคอมพร้อมรอยยิ้ม
“ไหนล่ะการบ้าน?”
“อ้อ นี่ครับ” ชานยอลคว้าเอาหนังสือภาษาอังกฤษขึ้นมา พร้อมยื่นให้คนตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า อยากขอบคุณตัวเองที่สุ่มโกหกได้ตรงวิชา เพราะหนังสือที่อยู่ใกล้มือที่สุดตอนนี้ก็คือวิชาภาษาอังกฤษ
“หน้าไหน?”
“ตรงนี้ครับ... มันเป็นท่องบทสนทนาน่ะ” เขาสุ่มเปิดไปหน้าบทเรียนล่าสุด ให้ตายสิ ปาร์คชานยอลรู้แล้วว่าถ้าหากโกหกครั้งหนึ่ง มันก็ต้องมีครั้งที่สองเพื่อโกหกทับครั้งแรก
“อา... นี่หนังสือเรียนมอปลายจริงเหรอ ทำไมมีแต่ศัพท์ไม่คุ้นเลย เธอมีดิกชันนารีไหม?”
“มีครับ” เด็กหนุ่มว่าแล้วตรงไปค้นชั้นหนังสือ พอหันกลับมาอีกทีดิกชันนารีเล่มขนาดเหมาะมือก็แทบร่วงลงพื้น เมื่อพบว่าตอนนี้คุณแบคฮยอนกำลังถือแผ่นซีดีหนังโป๊ที่เขาเอาหนังสือทับไว้บนโต๊ะคอม
“ว้าว”
ชานยอลรีบตรงเข้าไปแย่งมันมาจากมือคนตัวเล็ก จนดิกชันนารีเล่มหนาตกเฉียดเท้าไปแค่นิดเดียว ชานยอลซ่อนมันไว้ข้างหลัง ยืนตัวเกร็งกลอกตาลอกแลก เพราะอีกฝ่ายเอาแต่จ้องเขาไม่ห่าง
ไอ้บ้าชานยอลเอ้ย!!!!
“โดนเท้าหรือเปล่าน่ะ อะไรจะรีบขนาดนั้น” เสียงของคนตัวเล็กที่ดูเหมือนว่าจะเป็นห่วงเป็นใย ไม่ได้ช่วยให้เด็กหนุ่มวัยกลัดมันรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด
ชานยอลหลับตาแน่น ก่นด่าตนเองในใจที่ไม่รู้จักรอบคอบให้มากกว่านี้ เขาก็รู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบหัวอีกครั้ง เมื่อคนตัวเล็กลุกขึ้นมาพร้อมดิกชันนารี... และซากทิชชู่เหนียวเป็นก้อนหนึ่งชิ้น
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
“บิงโก”
“...!!!” เด็กหนุ่มหน้าขึ้นสีจัด รีบแย่งทิชชู่จากมือคนตัวเล็กมาซ่อนไว้ข้างหลังพร้อมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ ทั้งที่อุณหภูมิในห้องมันเย็นเพราะฝนด้านนอก แต่เหงื่อในร่างกายต่างพร้อมใจกันซึมออกมาตามขมับ ซอกคอ และฝ่ามือ
“อะไรกัน ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหนเลย” แบคฮยอนหัวเราะแล้ววางแผ่นซีดีลงบนโต๊ะ “ช่วยตัวเองมันเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายที่ไหนก็ทำอยู่แล้ว”
“...”
“มันช่วยคลายเครียดได้นะ ฉันเคยได้ยินมาว่ามันทำให้หน้าสดใสด้วย ไม่รู้จริงไม่จริง” คนตัวเล็กก้มลงเก็บเศษทิชชู่ใต้โต๊ะขึ้นมาทิ้งถังขยะใบเล็กที่อยู่ข้าง ๆ อย่างไม่รังเกียจ ชานยอลอยากเอาหัวโขกผนังให้ตายไปเลย เขาจะได้ไม่ต้องอับอายเพราะเรื่องนี้อีก
“ข-- ขอโทษครับ”
“ขอโทษทำไม” แบคฮยอนพูดกลั้วหัวเราะ หยัดตัวลุกขึ้นมองใบหน้าคมที่กำลังขึ้นสีจัดหลังจากถูกจับได้ว่าช่วยตัวเอง ชานยอลยืนนิ่งและไม่ยอมสบตากับเขา ราว ๆ ครึ่งนาทีคนตัวเล็กจึงนึกบางอย่างขึ้นได้ “หรือว่าตอนทำ เธอนึกถึงหน้าฉัน?”
“...”
คนถูกจับได้แทบจะกัดลิ้นตายตรงนั้น เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนกำลังจมน้ำ หายใจไม่ออกเพราะสายตาของคนตัวเล็กที่จ้องมองมาระหว่างคาดคั้นเอาคำตอบ
“ใช่ไหม?”
ขายาวเดินถอยหลังทีละก้าวเพราะถูกไล่ต้อน ชานยอลกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอโดยไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้าที่เข้ามาประชิดตัวจนกระทั่งแผ่นหลังของเขาชิดกับผนังเย็นยะเยือก
“ถ้าไม่ตอบ ฉันจะเหมาว่าเธอยอมรับนะ”
“ผมขอโทษครับ...”
“ฮึ” เด็กหนุ่มหลับตาแน่นกับเสียงหัวเราะในลำคอ ทั้งอายทั้งรู้สึกผิด ต่อไปนี้คุณแบคฮยอนจะมองเขาอย่างไร คงคิดว่าไอ้เด็กที่ทำตัวหงิมต่อหน้า ลับหลังก็เป็นแค่เด็กลามกที่ชอบเอาคนอื่นไปจินตนาการตอนช่วยตัวเอง
“ชานยอล”
“ครับ...”
“ยืนเกร็งตัวนาน ๆ ระวังเป็นตะคริวนะ” เสียงคุณแบคฮยอนอยู่ใกล้แค่นี้เอง แต่ถ้าจะให้ลืมตาขึ้นเพื่อพบกับความอับอาย สู้ยอมเป็นตะคริวตายเสียยังดีกว่า “นี่...”
...จะฆ่ากันจริง ๆ ใช่ไหม?
ชานยอลกำมือแน่นเพราะลมหายใจอุ่น ๆ ที่รดลงข้างแก้ม อีกทั้งนิ้วชี้และนิ้วกลางที่กำลังไต่จากหน้าท้องของเขาไล่ขึ้นมาจนถึงแผงอก “ตอนนั้นน่ะ... รู้สึกดีไหม?”
“...” เด็กหนุ่มไม่กล้าตอบ
“ตอนที่นึกถึงฉันไปด้วย มันดีกว่าตอนดูหนังอย่างเดียวหรือเปล่า?”
คนอายุมากกว่ายังไม่ละสายตาจากเด็กหนุ่มตัวสูง ใบหน้าคมขึ้นสีระเรื่อเพราะความลับที่ถูกเปิดเผย ซึ่งเจ้าตัวคงอยากฝังมันไว้และตายไปพร้อม ๆ กัน อีกทั้งสัมผัสจาง ๆ จากตัวเขาที่รู้ดีว่ามีอิทธิพลต่อเด็กคนนี้มากแค่ไหน
แบคฮยอนยังไม่เลิกแกล้งเด็กที่ยืนหลับตาอยู่ เขายกยิ้มพอใจโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ เด็กชายชานยอลผู้อ่อนไหวน่าแกล้งน้อยเสียที่ไหนกัน ถ้ายอมรับแล้วทำตัวเหมือนปกติใครเขาจะแกล้ง ดูตอนนี้สิ ยืนตัวสั่นเหมือนลูกหมาตากฝนเชียว
“ถ้าไม่พูด ฉันจะลองพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วนะ”
CUT
TBC
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย เจ้ายังด้อยเร่งศึกษา
ความคิดเห็น