0:03 TALE ดวงตากลมโตของนานาช้อนขึ้นมามองผม ก่อนจะผลุบต่ำลง พวงแก้มใสเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ รวมไปถึงท่าทางของคนตรงหน้าที่ดูเปลี่ยนไป
ร่างบางจิกมือลงมาบนแขนผม
ลมหายใจอุ่นๆเป่าอยู่ตรงปลายคอ
ผมกำลังตกหลุม... ไม่รู้เมื่อไรที่ความอุ่นที่ริมฝีปากประดังเข้ามา ... ริมฝีปากผมแตะกับริมฝีปากบางนั่นแผ่วเบา เหมือนมีบางอย่างที่สั่งให้ผมไม่ละออกไป จากแผ่วเบา เริ่มกลายเป็นหนักหน่วงเมื่อมือเรียวเล็กจิกแขนผมจนเจ็บ เสียงหอบหายใจของร่างบางดังอยู่ข้างหูผม ขาทั้งสองข้างของคนตรงหน้าเกี่ยวเอวผมไว้กันร่วงลงไปในน้ำ ผมจับขานานาเอาไว้ อุณหภูมิในร่างกายที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆทำให้ผมถอนตัวไม่ขึ้น ผมสอดลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหวานในโพรงปากของร่างบาง ยิ่งได้ลองยิ่งติดใจ ก่อนจะรุกเร้าหนักหน่วงอย่างกระหายเหมือนต้องการมันอย่างหนัก ครอบครองราวกับไม่อยากปล่อยไป เหมือนเท่าไรก็ไม่พอ ลมหายใจที่เหมือนจะขาดห้วงไม่ได้ทำให้เราทั้งสองคนหยุด ร่างบางจูบไม่เป็นซะด้วยซ้ำ แค่เพียงลิ้นผมแตะลิ้นเล็กๆนั่น มันก็กระถดถอยกลับราวกับกลัว มือเรียวก่ายสะเปะสะปะไปหมด ราวกับภูเขาไฟที่ร้อนระอุ
ผมดันร่างของนานาไปติดกับขอบสระแล้วดันคนตัวเล็กขึ้นเล็กน้อย ขาเรียวยังเกี่ยวอยู่ที่เอวผม ในขณะที่ตัวของนานาลอยอยู่สูงกว่าตัวผม ร่างบางก้มหน้าลงมาเพื่อรับสัมผัสวาบหวามของรสจูบ มือเรียวจับไหล่ผมแน่น ปรอยผมสีดำสนิทตกลงข้างๆแก้ม “แฮ่ก
ทะเล” เสียงแหบพร่าของนานาเหมือนไฟฟ้าที่พุ่งเข้าช็อต ผมดันตัวร่างบางออกพรวดเดียวจนสุดแขน!!!! ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกพลางมองไปที่คนตรงหน้า ริมฝีปากบางรูปกระจับบวมเจ่อ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดลามไปถึงหูและคอ นานาทำตาโตกลมดิ๊กมองผมกลับมาอึ้งๆเช่นกัน นี่มึงทำอะไรลงไปวะ
ทะเล!!! “ทะ
!!” ผมไม่รอให้นานาขยับปากพูดไปมากกว่านี้ก็จัดการคว้าร่างบางเข้ามากอดเอาไว้ ขืนเป็นแบบนี้ผมอาจจะพลาดพลั้งไปกดจูบลงบนริมฝีปากสีเชอร์รี่นั่นอีกก็ได้
นี่มัน
ไม่ดีเลยจริงๆ “ขอโทษ” ผมพูดแค่นั้นแล้วพานานาขึ้นจากสระก่อนจะตรงดิ่งไปที่รถอย่างรวดเร็ว นานาเปิดประตูไปนั่งเบาะหลังรถทั้งที่ตัวเปียกๆแบบนั้น ผมวิ่งไปหยิบเป้ที่ท้ายรถแล้วคว้าเสื้อผ้าออกมา
เฮ้ย
มีชุดของผมชุดเดียวนี่หว่า ผมเปลี่ยนกางเกงที่นอกรถเพราะบริเวณนี้มืดไม่ค่อยมีใครผ่านไปผ่านมา ก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปแล้วโยนเสื้อแขนยาวสีน้ำตาลอ่อนให้ร่างบางใส่ ขืนอยู่ในชุดนั้นปอดบวมตายก่อนแน่ๆ “มีเสื้อแค่ตัวเดียว
ใส่ไปก่อนนะ” แล้วผมก็ปิดประตูรถเพื่อรอร่างบางเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ พลันภาพตอนที่อยู่ในสระน้ำก็ประดังเข้ามา เสียงลมหายใจของนานายังดังก้องอยู่ในหัวผม
ผมแตะริมฝีปากตัวเองเบาๆ
ก่อนจะขยี้หัวด้วยความหงุดหงิด บ้าเอ้ยทะเล
ทำอะไรลงไปวะเนี่ย
NANA ผมนั่งนิ่งๆตัวแข็งเป็นก้อนหินอยู่ในรถมาเกือบชั่วโมงเศษได้เพราะทะเลขับรถหลงทาง มีเพียงเสียงแอร์หึ่งๆกับเสียงเครื่องของรถที่ยังย้ำว่าผมยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่กระดิกไปไหน แถมยังเลือกที่จะนั่งเบาะหลังและย้ำว่าหลังทะเล!!! ผมนั่งเอาขาชันขึ้นแล้วสอดเข้าไปในเสื้อไหมพรมตัวใหญ่ของร่างสูงพลางกอดตัวเองเอาไว้ด้วยแขนที่อยู่ภายใต้แขนเสื้อที่ยาวเลยนิ้วออกมาเกือบคืบ สาเหตุน่ะเหรอ อ่าให้ตายสิ (./////.) มันคงจะไม่เป็นแบบนี้ถ้า
อ๊ากกกกกกกกกกกก ผมกำลังจะตาย!!!! ผมกัดแขนเสื้อที่ยาวเกินพอดีไม่ปล่อย ไม่รู้ว่าขนไหมพรมมันเข้าปากไปเยอะขนาดไหน รู้เพียงแค่ว่าผมไม่กล้ามองไปที่กระจกมองหลังที่ทะเลจะต้องใช้ในการดูรถ พอผมและทะเลเงยหน้าขึ้นไปมองกระจกนั่นพร้อมกัน เราสองคนก็หลบตากันมาตลอด
ผมไม่รู้ว่าทะเลกำลังคิดอะไรอยู่ เห็นเจ้าตัวเอื้อมมือไปเปิดเพลงคลอเบาๆไม่ให้เงียบ นั่นทำให้ผมค่อยยังชั่วขึ้นมานิดนึง นิดนึงจริงๆนะ U///U ผมใช้นิ้วไล่แตะไปตามริมฝีปากของตัวเองเป็นครั้งที่ร้อย พลางก้มหน้างุดๆเหมือนหาเศษเหรียญ ให้ตายเถอะ ผมเขินจนหน้าร้อนไปหมด อย่างกับภูเขาไฟจะระเบิด ไม่รู้จะทำวิธีไหนเลยได้แต่นั่งเงียบๆอยู่เบาะหลัง นิ้วก็จิกเบาะทุบเบาะจนไม่รู้เป็นรอยไปเยอะขนาดไหน แต่ผมกำลังจะกลั้นมันไว้ไม่อยู่
จู่ๆทะเลก็จอดรถ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองกลุ่มผมสีดำสนิท “ไปซื้อของแปปนะ” ทะเลว่า ก่อนจะเปิดประตูรถลงไปที่เซเว่น ผมมองแผ่นหลังของทะเลที่หายวับเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงนั่น
ก่อนจะ
“อ๊ากกก!!!!!” ใช้มือปิดปากตัวเองแล้วร้องออกมาเต็มเหนี่ยว!!!!!!! “ไม่ไหวแล้วนานา ไม่ไหวแล้ววววว!!!!! >/////<!!!!!!” ทะเลจูบผม จูบ จูบ จูบ จูบ จูบจริงๆ >////< !!! ผมเอาฝ่ามือจับที่อกด้านซ้ายแล้วกุมมันไว้แน่น ทำไมมันใจเต้นตึกตักแบบนี้ เต้นดังจนกลัวว่าทะเลจะได้ยิน!!!
แม้ผมหวังลึกๆว่าอยากให้ทะเลจูบก็เถอะ แต่แบบ
มันครั้งที่สองเองนะ อันที่จริง
ผมถือว่ามันเป็นจูบแรกที่รู้สึกตัวได้มั้ย!!! ผมแลบลิ้นออกมาพร้อมทั้งใช้นิ้วแตะมันเบาๆ พลางนึกภาพตอนที่อยู่ในสระ ทะเลค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้ามาก่อนริมฝีปากสีซีดนั่นจะแตะลงมาบนริมฝีปากผม มันอุ่นและน่าอายมาก -///-
เหมือนสมองมันขาวโพลนไปหมด ที่ผมทำคือจูบตอบทะเลแม้จะกล้ากลัวๆเพราะผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ... จริงๆนะ!!!! ที่ผมยั่วทะเลก็เพราะอยากให้ทะเลสนใจ ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้น นี้ นู้น
แต่
ไม่นึกเลยว่าทะเลจะจูบเก่งขนาดนั้น
ทำผมไปไม่เป็นเลย
แถมยัง
เอ่อ
อ่า
ยิ่งเป็น
ลิ้น
ของทะเล
(.//////.) อา
แย่แน่
เขินนนนนนนนนนนอ่ะ!!!!!!!!!!! >////////////////////<!!!!!!!!!!! TALE “นานา
นานา ตื่น
ถึงบ้านแล้ว ไปนอนต่อในบ้านไป” ผมเอื้อมตัวไปปลุกร่างบางที่นอนขดอยู่ที่เบาะด้านหลังรถ คงเป็นเพราะแอร์เย็นๆกับเพลงเบาหูที่ทำให้นานาหลับไปเฉยๆ โชคดีที่ผ้าเช็ดตัวผมไม่เปียกมากเลยใช้คลุมขามันไว้ซะก่อน เพราะรู้ว่านานาเป็นคนนอนดิ้น ขืนไม่คลุมไว้อะไรต่อมิอะไรคงได้หลุดออกมาประเจิดประเจ้อน่ะสิ “อือออ บ้านไหน” ร่างบางงัวเงียขึ้นมานั่ง
แปปๆก็เลื้อยกลับลงไปนอนต่อ ผมมองภาพตรงหน้าแล้วเลิกคิ้ว หัดขี้เซาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร? “บ้านตัวเองไง ลืมแล้วเหรอวะ?” ผมลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูหลังก่อนจะดึงแขนเรียวๆนั่นให้ลุกขึ้นมา นานาลุกขึ้นมาทำหน้างงๆ ผมเลยดึงร่างบางให้ลุกมายืนข้างนอกดีๆแล้วจะได้รีบเข้าบ้าน ขาขาวๆกับเสื้อสั้นจุ๊ดจู๋นั่นคงดูไม่ดีเท่าไร
ผมละจากนานาเพื่อหันไปปิดประตูรถไม่ถึงสามวิ พอหันมาอีกที ร่างบางก็ลงไปนอนกองที่พื้นแล้ว!!!! “นานา!!!” ให้ตายสิ
ผมช้อนตัวร่างบางขึ้นก่อนจะรีบพาเข้าบ้านแล้ววางร่างบางลงที่โซฟา นานาหลับปุ๋ย อกกระเพื่อมขึ้นลงเร็วๆเหมือนคนหายใจไม่ทัน ขอบตาคล้ำๆเหมือนคนไม่ได้นอนนั่นเริ่มปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ผมขมวดคิ้วแล้วใช้นิ้วไล่ไปตามความคล้ำนั่น เพิ่งสังเกตชัดๆก็ตอนนี้เนี่ยแหละ ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมาเนี่ย ... ผมละออกจากนานาแล้วเดินไปเก็บรถ เบาะชื้นไปหมด เลยเปิดประตูรถค้างไว้เพื่อให้มันระบายความอบ ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง นานาไม่อยู่ที่โซฟาแล้ว!!? หายไปไหน?!! “นานา
” เท้ายาวๆของผมสาวหาร่างบางทั่วบ้าน ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่บันได
ผมเสยผมลวกๆแล้วถอนหายใจมองคนตัวเล็กที่นอนกอดราวบันไดอยู่
เหมือนมันจะมีจิตสำนึกนะว่าต้องขึ้นไปนอนบนเตียงน่ะ เฮ้อ ผมเดินเข้าไปช้อนตัวนานาขึ้นไว้ในอ้อมแขนแล้วค่อยๆเดินขึ้นบันไดไป ก่อนจะวางร่างบางลงบนเตียงแล้วห่มผ้าให้มัน พลางลูบหัวนานาเหมือนเด็กๆ แล้วแตะเบาๆที่แก้มใสที่ยังมีรอยมือเด่นชัด
เจ็บน่าดูเลยสิเนี่ย “ทะเล” จู่ๆไอ้คนที่นอนอยู่มันก็ลืมตาขึ้นมาแบบคนงัวเงีย นานามองหน้าผมด้วยดวงตาปรือๆ “ว่าไง
กูจะกลับแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนเช้า” ผมลูบหัวนานาเบาๆ มือเรียวเอื้อมมาแตะหน้าผมแล้วลูบเบาๆเช่นกัน ผมมองดวงตากลมๆของคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ก่อนจะเบือนหนีมันเล็กน้อย จูบนั่นยังติดตาผมอยู่เลย
มันบ่งบอกว่าผมทำผิดต่อนานาขนาดไหน
“ขอโทษนะ
หน้าเป็นรอยเลย” ร่างบางลูบหน้าผมอยู่แบบนั้นก่อนจะหลับตาลงแล้วน็อคหลับไปอีกครั้ง ผมหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทีของคนตรงหน้าแล้วกระชับผ้าห่มให้ร่างบางเบาๆ ต่อให้ไม่ขอโทษ
กูก็ไม่เคยโกรธอยู่แล้ว ผมลุกขึ้นยืนพลางบิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วเขียนกระดาษโน้ตวางไว้บนหัวเตียงร่างบางก่อนจะปิดไฟแล้วเดินออกไปจากห้อง ปิดล็อคประตูบ้านให้นานาเสร็จสรรพ รวมถึงเช็คประตูหน้าต่าง
คุณน้ากับคุณอาไม่กลับบ้านเป็นเดือนแบบนี้ ปล่อยให้นานาอยู่บ้านคนเดียวมันก็อันตรายอยู่หรอก
แต่ถ้าผมอยู่ด้วย
มันจะอันตรายขึ้นรึเปล่าวะ
บ้าเอ้ยทะเล
ถ้ามึงควบคุมอารมณ์หน่อย มึงก็ไม่ต้องมารู้สึกผิดแบบนี้หรอก!!! ผมอยากจะปกป้องนานา อยากจะดูแลมัน ... ไม่ใช่อยากทำให้มันแปดเปื้อน ... ไม่รู้ว่านานาจะคิดยังไง แต่ผมมักจะคิดมากกว่านานาเยอะเกินไปเสมอ ... นั่นอาจจะเป็นจูบแรกของนานาก็ได้ ... จูบแรกที่เก็บไว้ให้คนที่มันรัก ... แต่ผมดันไปขโมยมันมาดื้อๆเหมือนแมวขโมยก้าง ... จะว่าไป ... พรุ่งนี้หลังเลิกคลาสพาไปเลี้ยงไอศกรีมไถ่โทษก็แล้วกัน ... หรือจะน้ำปั่นดีนะ ... *
วันนี้ผมมีเรียนเช้า ไม่ใช่เช้าธรรมดา
มันเช้ามาก เช้าขนาดที่หลายๆคนยังไม่ลุกจากที่นอนซะด้วยซ้ำ
เพราะวันนี้อาจารย์นัดเช็คโปรเจคของคลาสตั้งแต่หกโมงเช้า ให้ทายสิ
ว่าสภาพแต่ละคนจะเป็นยังไง
“โอยยย โอยยยยยยย ง่วงโว๊ยยยยยยยย!!!!!!” ไอ้จอมทัพร้องงอแงอยู่ที่พื้นพลางนอนกลิ้งไปมา ในขณะที่ไอ้ภูมิเพื่อนที่คณะนั่งฟังไอพอดอยู่ข้างๆ แล้วก็ไอ้เจวานที่นั่งกุมขมับ
ผมนั่งท้าวคางมองกระดานวาดแบบของตัวเองและเพื่อนก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
หัวข้อวาดแบบเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคือ วงรี
วาดตามจินตนาการ 1 รูป สเกตเงา 1 รูป
ไอ้คนปกติมันก็วาดของมันไป ลูกรักบี้ หน้าคน คิตตี้ สนู๊ปปี้ เอาให้มันออกมาเป็นวงรี
ในขณะที่ของไอ้จอม
รูปจินตนาการรูปไข่
รูปสเกต
รูปชักโครก?! ...
ให้ตายเถอะ
ไอ้เวรนี่ไปนั่งไล่แสงเงาในห้องน้ำเนี่ยนะ!!!
มันอ้างว่ามันคือศิลปะครับ - - ... ศิลปะกับฟิลต้องมาพร้อมกัน...
“ทำไมต้องให้กูตื่นเช้าขนาดนี้วะ ให้ตาย” ไอ้ภูมิบ่นอุบอิบแล้วลุกขึ้นยืนเหมือนซอมบี้ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆผม
“เฮ้ยไอ้ทะเล!!!! หน้ามึงไปโดนอะไรมาวะ!!!” แล้วมันก็แหกปากซะดังลั่นห้อง ไอ้จอมที่ว่านอนกลิ้งอยู่ที่พื้นกระเด้งตัวขึ้นมายืนจ้องหน้าผม ในขณะที่ไอ้เจวานเงยหน้าขึ้นมามองนิ่งๆอึ้งๆ
“นี่มันรอยมือนี่หว่า? มึงไปโดนใครตบมา!!! ห๊ะ?” ไอ้จอมทัพจับหน้าผมแล้วพลิกดู ผมหัวเราะเหอะๆในลำคอพลางนึกไปถึงคนที่ฟาดฝ่ามือลงบนหน้าผม แต่ไม่ยักจะทำให้ผมโกรธ
หมอนั่นหงุดหงิดขนาดนั้น เพราะว่าผมไม่เชื่อใจมัน
นานาก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ
“ไม่มีไร
” ผมว่า ไอ้สามตัวทำตาปริบๆมาเหมือนอยากรู้ แต่ใครก็สู้ไอ้จอมไม่ได้หรอก
ไอ้เวรนี่เซ้นต์ไวอย่างกับอะไรดี
“ทะเลาะกับนานาอีกแล้วหรือไง?” ไอ้จอมเลิกคิ้ว ส่วนไอ้ภูมินี่อ้าปากค้างไปแล้ว
“นานานี่คือคนสวยที่มานั่งเฝ้าไอ้ทะเลใช่มั้ยวะไอ้จอม *0*” ไอ้ภูมิทำตาปิ๊งๆก่อนจะมองมาทางผม ผมเลิกคิ้วนิดหน่อยแล้วหันไปมองไอ้จอม ไอ้จอมพยักหน้าหงึกหงัก
“อย่าแม้แต่คิดเชียวไอ้สัดภูมิ =_= กูแสกหน้ามึงแน่ถ้าคิดจะแตะนานาอ่ะ สาดดด” ห่ะๆ
ไอ้เวรนี่ทำโหด
“ทะเลาะกันแรงเหรอวะ?” ไอ้จอมถาม ผมพยักหน้า ไอ้จอมมักจะจริงจังตลอดเวลาพูดถึงนานา แม้เวลามันเจอหน้ากันจะทะเลาะกันบ้านแตกก็เถอะ ผมยังจำได้อยู่เลย ตอนก่อนที่ผมจะไปอังกฤษ ไอ้จอมเคยทะเลาะกับนานาถึงขั้นจะเผาบ้าน
และนั่นมันแบะเบาะมากสำหรับจอมและนานา
แต่นี่แรงที่สุดเท่าที่ผมกับนานาเคยทะเลาะกันมาเลยมั้ง
“ไม่แปลกนี่มึง =_= แฟนกันทะเลาะกันเรื่องปกติ” ผมหันขวับไปหาไอ้ภูมิทันที
“ไม่ใช่แฟน
แค่เพื่อน” ผมพูดเสียงนิ่ง
ไอ้ภูมิงี้ถอยหลังกรูดไปหลบหลังไอ้เจวานอย่างรวดเร็ว ผมไม่รู้ว่าผมทำหน้าตาน่ากลัวออกไปรึเปล่า แต่การที่บอกว่าผมเป็นแฟนนานามันทำให้นานาเสียหาย เพราะยังไงเราก็เป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันมากๆซะมากกว่า
“แหมๆไอ้สัด เพื่อนก็เพื่อน ไม่เห็นต้องทำหน้าเหมือนจะฆ่ากูอย่างงั้นเลย T__T”
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันหน้ามองกระดานวาดแบบอีกครั้ง รูปที่ผมวาดเป็นรูปที่ดูไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร เหมือนจะเป็นรูปร่างคน แต่มองไปมองมาก็เหมือนแมวตัวรีๆ
ผมตั้งใจวาดเขาขึ้นมา
ใช่
นานานั่นแหละ
กะว่าหลังโปรเจคจะให้เป็นของขวัญ
“ทำอะไรก็ทำให้มันชัดหน่อยนะมึง” ไอ้จอมตบไหล่ผมก่อนจะลงไปนอนกลิ้งที่พื้นต่อ ผมขมวดคิ้วกับประโยคนั้นแล้วมองไปที่รูปอีกครั้ง
เพราะแคร์มากเลยไม่อยากทำให้เสียใจ เพราะห่วงมากเลยไม่อยากทำให้เจ็บ
“นี่มันยังชัดไม่พอเหรอวะ”
จะต้องทำยังไงถึงจะชัดกว่านี้ล่ะ
ว่ากูเป็นห่วงมันมากขนาดนี้น่ะ
“เฮ้อ
อย่าว่าแต่มึงเลยทะเล
กูก็เครียดจะตายอยู่แล้วววววว อ๊ากกกกกกก!!!” ผมมองไอ้คนที่นอนกลิ้งที่พื้น ไอ้จอมเปลี่ยนอารมณ์เร็วโคตรๆ จะว่าไปสองสามวันนี้ผมไม่ค่อยได้เจอหน้ามันเพราะมัวแต่ไปขลุกอยู่กับนานา
“เครียดไรวะ? อย่างมึงมีหรือต้องเครียด” ไอ้เจวานถามไอ้จอม ผมแทคมือไอ้เจวานไปที
ชีวิตอย่างไอ้จอมน่ะเหรอมีหรือต้องเครียด แม่งคำถามโดนชิบ
“โหย พวกมึงไม่เข้าใจกู!!!!!!! ไม่เข้าใจเลยยยยยยยย T____T”
"เหอะ กูเห็นแม่งเครียดตั้งแต่เมื่อวานละ สาดดด" ไอ้ภูมิส่ายหัวก่อนจะเดินออกไปสูบบุหรี่นอกห้อง
“เรื่องคนที่มึงเตะบอลใส่หรือไง” ผมโพล่งออกไป ก็เห็นจะมีแต่ไอ้ตัวเล็กนั่นคนเดียวที่ไอ้จอมมันดูจะสนใจตามตื้อเป็นพิเศษ ถึงมันจะเป็นเดือนคณะ แต่แบบ
ผมไม่เคยเห็นมันจีบใครจริงๆจังๆนะ
รายนี้รายแรกเนี่ยแหละ ถึงจะจีบแบบน่าเกลียดหน่อยก็เถอะ
“โหยยยย จี๊ดเลยไอ้สัด จี๊ดดดดดดด นี่สิถึงจะเรียกว่าเพื่อนซี้” ไอ้จอมลุกขึ้นมานั่งบนโต๊ะพลางแทคมือกับผม ผมไม่แทคกลับ ปล่อยให้มันเก้อแบบนั้นน่ะแหละ
“กูทำสารพัดเลยนะเว้ย แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะชอบกูกลับเลยซักนิด T^T” ผมพยักหน้า
ถ้าเขาชอบมึงก็บ้าแล้ว
ก็ดูมึงสิ -_- เตะบอลอัดตัวเล็กๆนั่นทุกเย็น
พวกผมนั่งคุยกันซักพักอาจารย์ก็เข้ามาเช็คงาน และมันจะไม่อะไรเลยถ้าแม่งจะเช็คแค่สิบนาที ไอ้จอมนี่แหกปากลั่นตึกบอกว่าแล้วจะเรียกกูมาทำไมเช้าขนาดนี้ กว่าจะเข้าคลาสต่อไป นู่น
บ่ายสอง
พวกผมก็เดินเล่นนอนเล่นแถวนี้ไปนั่นแหละ
‘ตี๊ด ตี๊ด’ เสียงข้อความเข้าทำให้ผมต้องควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา เบอร์ที่คุ้นเคยและชื่อปรากฏอยู่บนหน้าจอพร้อมข้อความสั้นๆได้ใจความ
‘ที่เขียนไว้เมื่อวานว่าจะมารับอ่ะ ไม่ต้องมานะ เดี๋ยวไปหาที่ม.’
ผมปิดโทรศัพท์แล้วเก็บเข้ากระเป๋าก่อนจะวิ่งตามพวกไอ้จอมไปกินข้าวที่โรงอาหาร จะว่าไปผมยังไม่เคยไปมหา’ลัยของนานาเลยซักครั้ง รู้เพียงแค่ว่ามันเรียนวิศวะ จะว่าไปคุณพ่อของนานาก็เคยพูดไว้บ่อยๆว่าอยากให้ลูกเป็นวิศวกร เหอะ ผมอยากจะขำ ให้ตายเถอะครับพ่อ
ตัวเรียวขนาดนั้นให้เป็นวิศวะ
ดีไม่ดีเป็นลมตายก่อนสร้างตึกพอดี
“เออ ไอ้จอม
มึงรู้จักร้านไอศกรีมที่ดังๆหน้าม. ป่ะวะ?” ผมถามไอ้จอมทัพ มันหันมาทำหน้างงๆก่อนจะร้องอ๋อ
“รู้จัก แต่กูไม่เคยกินว่ะ เห็นเขาว่าอร่อย
ทำไม สนใจเหรอไอ้น้อง เดี๋ยวพี่พาไป แถวนี้พี่เซียน” ไอ้จอมอวยตัวเองใหญ่ ผมส่ายหน้าให้กับความบ้าของเพื่อน
“ใครน้องมึง” ไอ้เจวานตอบแทนผม ผมยกนิ้วให้มัน
อันที่จริงถ้าเรื่องนิสัยผมกับไอ้เจวานจะเข้ากันได้ดี แต่ในขณะที่เรื่องความเกรียนล่ะก็ต้องไอ้จอมทัพกับไอ้ภูมิ มันเข้ากันได้
“มึงไง ไม่เจียมบอดี้นะน้อง
” มือหนาของไอ้จอมชี้หน้าไอ้เจวานแล้วเดินต่อ
“ตกลงมึงจะพากูไปใช่ป่ะจอม?” ผมย้ำอีกครั้ง ไอ้จอมพยักหน้าหงึกหงักแล้วร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี “ลูกผู้ชายห้ามคืนคำนะไอ้สัด
”
“เออ!!! ไม่คืนคำเว้ย!!! เชี่ยนี่เน้นจังนะ!”
#8220;นานามาด้วยนะมึง”
“ว่าไงนะ!!!!!!!! =[]=!!!!”
|
ความคิดเห็น