ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Infinity online (จบแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #88 : ตอนที่ 7 หมู่บ้านฮะจามาน 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.91K
      43
      16 ก.ย. 59




                       ตอนที่ 7 หมู่บ้าน ฮะจามาน   

                     หลังจากพุ่งมาไกลได้ 60 กว่ากิโลเมตร อาณาเขตพิษก็หายไป เหลือแต่เพียงพืชและผลไม้พิษอ่อนๆที่ขึ้นอยู่ตามทาง ยิ่งไปไกลก็ยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ไม่เหลือของมีพิษที่ขึ้นเป็นกลุ่ม จะมีก็แต่ต้นที่ขึ้นเฉพาะที่เท่านั้น  กิโลเมตรที่ 100 ก็เจอป่าไม้ที่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์เท่าไหร่ แต่ก็มีสัตว์ป่าอยู่ชุกชุมอ่ะนะ
                   ข้างทางมีสมุนไพรมากมาย เพียงแต่ตอนนี้ไม่สามารถเก็บยัดไปไหนกระเป๋าได้ เมื่อสายตาส่องเห็นกลุ่มคนกำลังล่าสัตว์ ผมก็เปลี่ยนจากพุ่งเป็นเดินอย่างช้าๆทันที เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย(แต่การที่แกแบกกระเป๋า 2 ใบ แถมยังมีผู้หญิงบนบ่าอีก 1 คน เขาคงจะไม่สงสั้ยมั๊งฟระ)

                   ผมแสร้งแบกน้องเขากับของเดินอย่างทุลักทุเล เมื่อกลุ่มคนสังเกตเห็นผมทำท่าเหมือนกับเหนื่อยแล้วทรุดลงใกล้ๆต้นไม้จ้นหนึ่ง หอบหายใจถี่ๆ แสดงถึงอาการเหนื่อยอย่างมาก
                     หนึ่งในกลุ่มคนถือธนูเดินเข้ามาใกล้ๆ
                      "ไอ้หนู มาจากไหนเนี่ย แล้วสภาพหอบแบบนี้เจ้าไปทำอะไรมาล่ะ"  ลุงคนหนึ่งถาม และแสดงท่าทีเหมือนกับเจอเรื่องแบบนี้เป็นปกติ แถมยังไม่มีท่าทีระแวงอะไรด้วย
                    "อืม ดูจากชุดที่เจ้าใส่แล้ว คงจะเป็นนักผจญภัยสินะ แล้วจะไปไหนกันล่ะ"  เขาถามคำถามมาอีก คำถามแรกผมยังไม่ตอบเลย

                   "ขอตอบคำถามแนกก่อนนะครับ  ‹‹ผมมาจากอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่มาก แล้วก็พึ่งออกมาจากป่าด้านในนั่น  ส่วนคำถามสอง‹
    พวกเราเจออะไรหลายอย่างระหว่างเดินทางนิดหน่อย ส่วนน้องสาวของผมกำลังไม่สบาย ผมเลยแบกเธอมาเพื่อหายารักษาที่หมู่บ้านใกล้ๆนี่แหละครับ เพียงแต่ไม่รู้ว่ามาถูกทางหรือเปล่า แต่พอมาเจอลุงแล้วก็โล่งใจขึ้นเยอะเลยครับ  คำถามสาม ‹‹ผมกับน้องผมเป็นนักผจญภัยที่ออกเดินทางมาด้วยกัน แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆน่ะครับ"  ผมตอบเขาเป็นข้อๆ

        
                     "อืมๆ   งั้นมากับข้าไหมล่ะ พอดีข้ากับพรรคพวกออกมาล่าสัตว์แถวนี้ ตอนเย็นๆถึงจะกลับ เจ้าก็มาร่วมเดินทางกับข้าก่อนสิ เดี๋ยวเย็นนี้ก็ไปพักที่บ้านข้าเลย ส่วนน้องสาวของเจ้าข้าจะให้ลูกสาวข้าช่วยรักษาให้" ลุงแกตอบด้วยท่าทางเป็นมิตร
                          
                            "โอ้ ขอบคุณมากครับ งั้นผมขอตามไปด้วยเลย"  ผมตอบด้วยท่าทีดีใจ ลุงเขาก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
                     "งั้นเดี๋ยวข้าช่วยเจ้าถือสัมภาระก็แล้วกัน เห็นเจ้าแบกมาอย่างทุลักทุเล ดูท่าจะหนักใช่ย่อย"  ลูงแกพูด แล้วบอกให้พรรคพวกที่เดินมาสมทบเข้ามาช่วยถือกระเป๋าของผม

                     "ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมแบกเอง เกรงใจเปล่าๆ"   ผมปฏิเสธ ก็เพราะว่ากระเป๋านี่ผมยัดอะไรต่อมิอะไร มันคงจะหนักยิ่งกว่าหนักแหละมั้ง ถึงผมจะไม่รู้สึกว่าหนักก็เถอะ
                     "ไม่เป็นไรพ่อหนุ่มอย่าเกรงใจเลย มาข้าช่วย"  ลุงแกพูดแล้วยกกระเป๋าที่ผมวางไว้ข้างต้นไม้

                               กึก..!
             ไร้ซึ่งการกระดิกของกระเป๋า   ลุงแกทำท่าตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ เร่งพลังแฝงตัวเองเพิ่มพลังทันที

                                 กึก..!
             ก็ยังเหมือนเดิม ยกไม่ขึ้น  ลุงแกจึงหันไปยกกระเป๋าอีกใบ ปรากฏว่ายกขึ้นอย่างง่ายดาย 

                     "กระเป๋าใบนั้นเจ้าใส่อะไรไว้บ้างเนี่ย ขนาดข้ายกสุดแรงยังไม่ขึ้น"  ลุงแกพูด แล้วสะพายกระเป๋าของน้องแสตมป์เองเลย  เหมือนว่ามันจะหนักเอาการเหมือนกันนะนั่น

             สักพักลุงเขาก็พาผมเดินล่าสัตว์ แล้วก็แนะนำชื่อตัวเอง และคนในกลุ่มให้ฟัง 
                             
             
                 ลุงแกชื่อ แกเอียว  อายุ 126 ปี สภาพร่างกายเหมือนคนอายุ 30 ต้นๆ  ใช้ธนูเป็นอาวุธ
               
              ลุงหัวโล้นอีกคนชื่อ  อั๋นได อายุ 177 ปี ใช้ขวานยักษ์เป็นอาวุธ
                  
          ลุงผมตั้ง ชื่อ วาสุ  อายุ 117  ปี  ใช้ดาบใหญ่
                      ลุงผมแดง ชื่อ สัน  อายุ 142 ปี  ใช้หอกเป็นอาวุธ  
                      ส่วนคนสุดท้ายชื่อ  กะมะเหล่  อายุ 113 ปี  ใช้โล่กับดาบ
                              
                ส่วนผมก็แนะนำชื่อตัวเองกับน้องสาวอีกคนที่อยู่บนบ่าให้


             ตอนนี้อาวุธที่เหลืออยู่ของผมก็คือมีดสั้นสำหรับแล่เนื้อ แต่ก็ต้องเอามาใช้แหละนะ  นี่ถ้าหากเฟิร์สไม่ถูกทำลายล่ะก็ ป่านนี้ผมคงเลือกอาวุธได้อย่างหนำใจแล้ว

              สัตว์กลุ่มแรกที่เจอเป็นหมูป่า มีอยู่ 4 ตัว  ลุงแกเอียวส่งสัญญานให้พวกเราค่อยๆย่อง  พอได้ระยะ ลุงถือดาบกับโล่ก็พุ่งไปฟันหมูป่าตัวหนึ่ง ตามด้วยลุงถือดาบใหญ่เข้าไปดักอีกตัว ลุงแกเอียวยิงธนูบังคับทิศทางไม่ให้หมูป่าหนีออกจากแผน จากนั้นก็ลุงหอก ที่พุ่งตัวเข้าไปขวางอีกตัวแล้วจัดการอย่างรวดเร็ว  การประสานงานเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม หมูป่าสิ้นชีพโดยใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที

              เมื่อตัวสุดท้ายถูกจัดการลุงแกเอียวก็จัดการแล่เนื้อแล้วนำใส่กระเป๋าทันที 

              ส่วนผมก็ช่วยเล็กๆน้อยๆ เพราะไม่มีอาวุธใหญ่ไปฟัดกับสัตว์ 
                                     
                     "ฮ่าๆ  อย่าหงอยเลยเจ้าหนู กลับไปถึงหมู่บ้านเมื่อไหร่ข้าจะพาเจ้าไปเลือกอาวุธที่ร้านตีดาบของหมู่บ้าน"   ลุงแกเอียวพูดปลอบ
                                     
                      "จริงเหรอครับ " ผมแสดงท่าทีดีใจ โดยในใจหวังจะไปขอยืมห้องตีอาวุธสักหน่อย จะทำอาวุธใช้ (ในตัวมันก็มีครับ ตั้งหกอย่าง แล้วก็โซ่นั่นอีก แต่เสือกไม่ใช้)
                      "เออ ก็จริงสิวะ ป่ะ ไปล่ากันต่อ"  ลุงแกพูด
                      "เดี๋ยวก่อนลุง"  ผมขัดจังหวะแก
                      "อะไรอีกเจ้าหนุ่ม"
                      "ครั้งนี้ผมขอล่าบ้าง"   ผมพูดยิ้มๆ
                      "แล้วเอ็งจะเอาอาวุธไหนไปล่าวะ มีดสั้นงั้นเหรอ" ลุงแกแขวะแล้วหัวเราะ
                      "เปล่า ผมจะใช้ธนู"   
                      "แล้วไหนล่ะธนูเอ็ง" ลุง
                      "ยังไม่มีหรอก แต่จะขอยืมของลุงใช้ไง (ธนูน้องแสตมป์มันทิ้งไว้ในป่า)"    แล้วในที่สุดผมก็ได้ธนูมาใช้ โดยให้ลุงแบกน้องแทนผม

              คราวนี้ผมเป็นคนนำทางเอง โดยสัมผัสทั่วป่าว่ามีสัตว์อยู่จุดไหนบ้าง พอรู้จุด ผมก็เดินดุ่ยๆไปทันที ลุงๆแกก็ตามมา
                      "ไหนดูซิ ว่าฝีมือนักผจญภัยเช่นเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหน"  ลุงแกเอียวพูดตามหลัง
                      "คอยดูเลยลุง " ผมพูดกวนๆ ลุงแกก็หัวเราะชอบใจ

              ผมพามาถึงทุ่งหญ้าใกล้ๆ แล้วให้สัญญานทุกคนหยุด  ตรงหน้าคือฝูงกวาง มีทั้งหมด 7 ตัว  ผมง้างลูกธนูพร้อมกัน 7 ดอก ง้างสุดแขน ขนาดที่ลุงแกยังหวาดเสียวกลัวธนูเหล็กแกหัก
                               
                            ฉึก!!!!!!!        เสียงดังพร้อมกันจนกลายเป็นเสียงเดียว แล้วกวางเหล่านั้นก็ล้มตึง ในจังหวะใกล้ๆกัน


                           เสียงของลูกธนูปักพื้นดินจนมิดศร  กวางทั้งเจ็ดตัวล้มลงไล่เรียงกัน ตรงคออีกด้านของมันมีรูขนาดเท่ากำปั้น เลือดไหลซึมออกมา

                    พวกลุงๆเงียบกริบ มองดูผลการยิงธนู 7 ดอกอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

     

                ธนู 1 ดอกต่อกวาง 1 ตัว  มันเหลือเชื่อเกินไปแล้วววว!!

     

                    “เอ้าลุง รีบๆไปแล่เนื้อมันมาสิครับ เดี๋ยวก็ค่ำซะก่อนหรอก จะไม่ได้ล่าต่อเอานา”   ผมพูดติดตลกเรียกสติของลุงๆแล้วเดินนำ ดึงมีดที่เหน็บข้างเอวมาแล่เนื้อกวางโดยไม่ปล่อยให้ลุงๆถามคำถาม

                    ส่วนลุงๆนะเหรอ ก็ยักไหล่แล้วมาช่วยกันแล่นะสิ

                   

                    มหกรรมล่าสัตว์ดำเนินไปจนถึงช่วงเย็น ลุงๆก็นำทางกลับหมู่บ้าน โดยแต่ละคนช่วยกันหามแคร่ที่มีเนื้อสัตว์เต็มไปหมดอย่างทุลักทุเล

                    สิ่งที่ล่าได้วันนี้

                    หมูป่า 12 ตัวของลุงๆเขา กับอีก 26 ตัวของผมที่ใช้ธนูสังหาร

                    กวาง 4 ตัวของลุงๆเขา กับอีก 17 ตัวของผม

                    หมีที่ผมล่า 6 ตัว

                    เสืออีก 4 ตัว (ซึ่งตรงนี้ลุงๆแกดูดีใจเป็นพิเศษ เนื่องจากแค่เจอตัวแรกก็พากันวิ่งหนีไม่เป็นท่า ยกเว้นผมที่ยิงธนูสังหารถึง 2 ดอก หลังจากตัวแรกแล้วตัวต่อๆไปลุงแกก็เริ่มชิน)

                    สมุนไพรที่ลุงแกเอียวเก็บมาระหว่างทางอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนนกตัวเล็กๆน้อยๆอีก 20 กว่าตัว

     

                    พอมาถึงหมู่บ้านก็ดึกดื่นแล้ว ลุงแกเอียวจึงพาผมไปพักบ้านแกทันที โดยนัดลุงผู้ร่วมกลุ่มมาเจอกันที่บ้านแกอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง แล้วจะทำการแบ่งชิ้นส่วนกัน

                    พอมาถึงบ้านก็แนะนำภรรยากับลูกสาวให้ผมรู้จัก แล้วไล่ผมไปอาบน้ำ ส่วนน้องแสตมก็ยังสลบไสลไม่รู้เรื่อง จึงเป็นหน้าที่ของลูกสาวลุงที่ชื่อ มิงุระ จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ แล้วทำการตรวจอาการทันที ซึ่งเธอก็ตรวจพบแค่ไข้อ่อนๆเท่านั้น จึงปล่อยน้องแสตมป์พักผ่อนต่อไป

                    ส่วนผมก็ไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวสิครับ  เหนียวตัวแล้วเนี่ย 

     

                    1 ชั่วโมงครึ่งผ่านไปทุกคนในกลุ่มก็มารวมตัวกันที่บ้านลุงแกเอียว โดยวันนี้ภรรยาลุงนำเนื้อบางส่วนไปประกอบอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองกับการออกล่าแล้วได้เนื้อมาเยอะ

                    “ฮ่าๆๆ ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเจ้าหนูออฟมันจะเก่งขนาดนี้ ยิงธนูแค่ดอกเดียวก็สามารถสังหารสัตว์พวกนี้ได้ แถมยังโดนจุดตายอย่างกับจับวาง”  ลุงหัวโล้นพูด

                    “ว่าแต่เจ้าเถอะ มีฝีมือขนาดนี้ทำไมไม่เข้าร่วมกลุ่มกับนักผจญภัยที่แข็งแกร่งล่ะ มาผจญภัยสองคนในป่ามันไม่อันตรายหน่อยหรือ”  ลุงแกเอียวถาม

                    “ก็ว่าจะหากลุ่มเข้าเหมือนกันครับลุง ว่าแต่แถวๆนี้มีเมืองหรือเปล่าครับ”  ผมถามลุงแก

                    “มีสิ อยู่ห่างจากหมู่บ้านนี้ไปอีก 40 กว่ากิโลน่ะ หากเจ้าต้องการจะเดินทางไปยังที่นั่นต้องรออีกสามสี่วัน เพราะจะมีรถม้าจากตัวเมืองมารับเนื้อสัตว์ รวมไปถึงสินค้าต่างๆจากหมู่บ้านเราไปขายในเมืองน่ะ”   ลุงแกเอียวแนะนำ

                    “อืม งั้นคงต้องรออีกสามสี่วันสินะครับ” 

     

                    หลังจากนี้ก็เป็นการพูดคุยไร้สาระ กับร่วมวงทานข้าวกัน พอทานข้าวเสร็จก็จัดการแบ่งเนื้อสัตว์กัน โดยทีแรกลุงแกมอบส่วนที่ผมล่าให้ผมทั้งหมด แต่ผมปฏิเสธ แล้วให้แบ่งเท่าๆกัน เมื่อแบ่งสรรปันส่วนเสร็จ ผมก็ขึ้นไปเยี่ยมน้องแสตมป์ ดูอาการของน้องเขาว่าเป็นไงบ้าง

                    ร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานได้อย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้ก็คงกลับมาเป็นปกติได้แล้วล่ะ

                    ผมจัดการนำผ้าห่มมาปูที่มุมหนึ่งของห้อง แล้วนั่งสมาธิเฝ้าน้องแสตมป์ทั้งคืน เผื่อมีอะไรผิดปกติจะได้จัดการได้อย่างทันท่วงที  

                    ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด เกิดอาการผิดปกติขึ้น เพราะร่างกายเริ่มปรับสภาพไม่ทัน ผมจึงยื่นมือเข้าไปแทรกพลังนิดหน่อย คอยสลายพลังส่วนเกินให้ และช่วยเร่งสภาพการฟื้นฟูของร่างกายทีละนิดๆ

                    ใช้เวลาไม่นานร่างกายก็สามารถต้านทานพิษสำเร็จ ผมจึงกลับไปนั่งที่เดิมแล้วหลับตาทำสมาธิจนถึงเช้า

     

                             
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×