ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    EXO :: XTRA { BAEKHYUN D.O }

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER :: XX

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.71K
      20
      3 มิ.ย. 56

    :)  Shalunla

     





    CHAPTER XX







     

    สิ่งที่คยองซูไม่ค่อยจะพอใจเท่าไรคือการรอคอย แล้วการรอคอยมันก็คือสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่ตอนนี้ จริงๆแล้วแบคฮยอนไม่ได้บอกให้เขามารอหรอกแต่เขาอยากเสนอหน้ามาเองระหว่างทางเดินก็เช็คเรทติ้งของตัวเองไปด้วย คยองซูเริ่มหงุดหงิดที่แบคฮยอนไม่ยอมเลิกเรียนสักทีนี่เขานั่งรออยู่หน้าตึกขณะนานจนเริ่มรู้สึกเขินกับสายตาคนรอบข้างที่มองเข้ามาแล้วนะ

     

    เมื่อสวรรค์ขี้เกียจกลั่นแกล้งพักเดียวกลุ่มนักศึกษาจำนวนหนึ่งก็เดินลงมาจากตึกและคนที่ปะปนอยู่กับคนในกลุ่มนั้นก็คือแบคฮยอน


    “ แบคฮยอนนั่นเมียมึงมารอรับนะ “








    “ เพื่อนกูครับไอสัด “








    “ ทำท่าเหมือนมารอรับผัว “








    “ กูไม่ใช่ผัวมันครับไอ้เหยิน “  เพื่อนผมทองตัวสูงเดินลงบันไดพร้อมกันกับแบคฮยอนก็คือคริส จริงๆแล้วคริสเป็นชื่อที่มันกระแดะตั้งเองพ่อแม่ไม่ได้ตั้งให้หรอก








    “ อ้าวเตี้ย หาเรื่องกูหรอ “ คริสผลักหัวแบคฮยอนจนอีกคนแทบตกจากบันได








    “ เปล๊า “








    “ เตี้ยแล้วเสือกทำเสียงสูง “








    “ ไอ้เชี่ยคริส “ แบคฮยอนพอเดินลงมาถึงพื้นราบก็ทุบตีคริสเป็นพัลวัน เพื่อนตัวสูงจัดการล็อคคอแบคฮยอนเอาไว้ในวงแขนแล้วดึงจมูกเล็กอย่างแรงจนแบคฮยอนร้องโอดโอย คยองซูที่ได้ยินเสียงคุ้นๆก็เลยหันไปดู ตัวเล็กดูดริมฝีปากด้านบนของตัวเองแล้วหรี่ตามอง ไอ้เปรตนั่นใครแล้วทำไมเขาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน








    “ เตี้ยมึงดูสิเพื่อนมึงมันทำหน้ายังไง “








    “ ปกติมันก็ทำหน้าแบบนั้นอยู่แล้ว “  แบคฮยอนยิ้มให้คยองซูแล้วโบกให้หยอยๆ คยองซูตีหน้านิ่งใส่แล้วเดินกลับออกไปจากที่ม้าหินอ่อนหน้าคณะทันที คริสกับแบคฮยอนหันมามองหน้ากันงงๆว่าอีกคนเป็นอะไร








    “ กูทำไรผิดปะเตี้ย “








    “ มึงไม่ได้ทำไรผิดหรอก ไว้เจอกันใหม่วันนี้กูไปละ “ คริสยอมปล่อยแขนออกจากคอแบคฮยอนเขามองตามแบคฮยอนที่กำลังวิ่งไปหาคยองซูด้วยใบหน้าสงสัย








    “ ไอ้สองเตี้ยนี่ทำยังกะเป็นผัวเมียกัน “











     

    เรื่องบางอย่างมันก็ไม่มีเหตุผลที่แน่ชัดมากพอที่จะเอาออกมาเรียบเรียงเป็นคำพูดได้ โดยเฉพาะความรู้สึกของคนที่บางทีก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาซะดื้อๆ บางครั้งเพียงแค่เห็นอะไรเล็กๆน้อยๆก็รู้สึกขัดอกขัดใจไปหมด .. อาการที่หงุดหงิดง่ายกับเรื่องเล็กๆน้อยๆแพทย์ทางจิตวิทยาได้บอกว่ามันคืออาการที่ต้องการความรัก






    “ คยองซูมึงเป็นอะไรเนี่ย “








    “ ไม่ได้เป็นอะไร กูสบายดี “








    “ แล้วเดินหนีกูทำไม ? “








    “ ก็เห็นว่ามึงมีเพื่อนแล้วกูคงไม่สำคัญ “








    “ คิดเชี่ยอะไรอยู่เนี่ย ไอ้คริสมันก็เพื่อนกูนะเว้ย “








    “ เรื่องของมึงสิมาบอกกูทำไม “ คยองซูยังเดินต่อไปโดยไม่หันมามองหน้าแบคฮยอน นี่ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่คยองซูทำตัวไม่มีเหตุผล แต่เดี๋ยวนะถึงจะมีเหตุผลแต่ว่าทำไมคยองซูจะต้องโกรธเขาด้วยละนี่แหละคือสิ่งที่แบคฮยอนไม่เข้าใจ








    “ คยองซูมึงไม่อยากขี่หลังกูแล้วหรอ “








    “ ไม่ “








    “ โอ๋ๆ หมีโกรธหมาหรอ “  คยองซูได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินแล้วหันหน้ากลับมามองแบคฮยอนจนอีกคนต้องชะงักเท้าตาม








    “ หมีพ่อมึงสิ!!








    “ เห้ยเชี่ยมึงเป็นสัดอะไรเนี่ย “








    “ เรื่องของกู “ พูดจบก็สะบัดตัวเดินนำหน้าแบคฮยอนไป ถึงจะงงแต่แบคฮยอนก็ยังคงวิ่งตามไปจนทันเหมือนเดิม เขาจัดการคว้ามือคยองซูเอาไว้แต่คยองซูก็หันมาแกะมือเขาออก








    “ ปล่อยกูสิ กูจะกลับบ้านกู “








    “ มึงหมายความว่ายังไง มึงจะไม่กลับหอกับกูหรอคยองซู “








    “ ใช่ “








    “ คยองซูกูจ่ายค่าหอคนเดียวไม่ไหวหรอกนะ “ เป็นเชิงว่าจะขอร้องไม่ให้คยองซูทำอย่างที่พูดไว้จริงๆ เงินค่าหอแค่ไม่กี่พันเขามีปัญญาจ่ายอยู่แล้วแต่ที่สำคัญคือแบคฮยอนไม่อยากให้คยองซูทิ้งเขาไปไหนมากกว่า








    “ เห็นกูสำคัญแค่ช่วยแชร์ค่าห้องหรือไง “








    “ มึงสำคัญมากกว่านั้นนะ “








    “ ......... “








    “ มึงเป็นเพื่อนกูนะ จะทิ้งกูไปจริงๆหรอ “








    “ มึงก็ให้ไอ้คริสอะไรนั่นมาอยู่ด้วยสิ มึงจะได้มีคนช่วยแชร์ “








    “ คริสมันก็อยู่กับเมียมันสิมันจะมาอยู่กับกูทำห่าอะไร “  เมื่อคยองซูนิ่งไปนั่นก็หมายความว่าคยองซูคงสงบสติอารมณ์แล้วเลิกทำตัวไร้เหตุผลได้แล้ว แบคฮยอนฉีกยิ้มให้คยองซูกว้าง ถึงเขาไม่รู้ว่าคยองซูเป็นอะไรไปแต่เขาเป็นเพื่อนเขาก็ต้องง้ออย่างถึงที่สุด








    “ ทำตามที่มึงสัญญากับกูเมื่อเช้าด้วย “








    “ ที่แท้ก็โกรธกูเรื่องนี้นี่เอง ปัญญาอ่อนวะ “








    “ ไอ้เชี่ยแบค “








    “ เออๆ ถึงแค่หน้าตึกคณะนู้นนะ “ แบคฮยอนชี้นิ้วไปที่ตึกเรียนขนาดใหญ่ที่อยู่ถัดจากนี่พอสมควร








    “ จะไหวหรอมึงอะ “








    “ มึงจะหนักสักเท่าไรกันเชียว “  คยองซูหัวเราะหึหึแล้วรีบกระโดดขึ้นหลังแบคฮยอน สองมือเล็กเกาะไหล่แบคฮยอนเอาไว้แน่น แล้วพออีกคนกระโดดขึ้นมาแบคฮยอนก็แกล้งทำเข่าทรุด








    “ เชี่ย นี่มึงคนหรือช้างเนี่ย “ คยองซูฟาดมือลงบนหัวแบคฮยอนจนผมสีน้ำตาลอ่อนชี้ฟูขึ้น








    “ พูดมากไอสัด แบกกูไปเลย “








    “ กูล้อเล่นมึงตัวเบาเหมือนผู้หญิงเลย “








    “ นี่มึงเคยอุ้มผู้หญิงด้วยหรอแบคฮยอน “








    “ เคยสิวะ มีน้องคณะเดียวกันเป็นลมกูเลยอุ้มไปส่งห้องพยาบาลให้ “








    “ น้องคนนั้นอยากให้มึงอุ้มมากว่ามั้ง “ คยองซูบ่นอุบอิบ แบคฮยอนไม่ได้โต้เถียงอะไรนอกจากเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง สักพักก็กระชับอีกคนให้นั่งอยู่บนหลังแบบมั่นคงขึ้น คยองซูเลื่อนมือไปกอดรอบคอแบคฮยอนเอาไว้แล้วเกยคางลงบนแถวๆต้นคอ







    แบคฮยอนไม่สนว่าสายตาคนรอบข้างจะมองว่ายังไง บ่อยครั้งที่เพื่อนร่วมคลาสเรียนมักแซวเขาว่าเป็นผัวเมียกับคยองซูแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักเพราะถึงจะทำตัวเหมือนคนรักกันมากแค่ไหนแต่เขาก็ยังคงเป็นแค่เพื่อนกันกับคยองซูอยู่ดี แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้มันลึกซึ้งไปมากกว่านี้อีกแล้ว เพื่อนคือสถานะที่ยั่งยืนที่สุดสำหรับแบคฮยอน








    “ พี่คยองซูครับ “  เสียงทุ้มหนักของเด็กหนุ่มดังขึ้นจากด้านหลังทำให้แบคฮยอนต้องหันกลับไปดู เมื่อเด็กหนุ่มผิวเข้มร่างสูงที่เป็นที่รู้จักกันเป็นจำนวนมากอย่างจงอินเดินเข้ามาใกล้คยองซูก็ปล่อยตัวลงมายืนกับพื้นตามเดิม








    “ผมจะชวนพี่ไปดินเนอร์กับผม “  เด็กหนุ่มผิวเข้มยิ้มส่งมาให้คยองซู แบคฮยอนเหลือบมองคยองซูที่หน้าแดงเป็นแทบ ถึงจงอินจะหล่อและดูน่าคบหาสักแค่ไหนแต่แบคฮยอนก็รู้สึกไม่ไว้ใจในสายตาของจงอินเอาซะเลย ดวงตาคมเท่ห์ดูเหมือนว่ากำลังคิดอะไรเจ้าเล่ห์อยู่








    “ ไปดีไหมแบคฮยอน “








    “ กูว่าอย่า...”








    “ ไปเถอะนะครับพี่คยองซู “  จงอินพูดขัดขึ้นมา จังหวะเดียวกันแบคฮยอนกับจงอินก็สบสายตาเข้าหากันพอดี จงอินจ้องเขาเขม็งเหมือนจะเคืองอยู่ไม่น้อยเลยที่แบคฮยอนไม่อยากให้คยองซูไปแต่แบคฮยอนก็ไม่ได้หวาดกลัวกับสายตาของจงอินเลยแม้แต่น้อย








    “ โอเค พี่ไปก็ได้ “








    “ แล้วหกโมงเย็นผมจะไปรับพี่ที่หอนะครับ “








    “ แล้วเจอกัน “  คยองซูยิ้มเขินๆแล้วยกมือขึ้นโบกมือให้จงอิน จงอินตวัดตากลับมามองแบคฮยอนที่ชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจอยู่ข้างๆ เจ้าของผิวสีเข้มยกยิ้มขึ้นมาเหมือนจะอวดว่าเขาคือผู้ชนะ








    “ คยองซู กูไม่ไว้ใจไอ้เด็กดำนั่นเลย “








    “ มึงไปเรียกจงอินแบบนั้นได้ไง “ สองคนหันกลับมาเดินตามปกติ คยองซูกุมมือเข้าหากันแล้วแอบก้มหน้ายิ้มเขิน แบคฮยอนเองก็เห็น








    “ มันตามจีบมึงนานรึยัง “








    “ กะ..ก็สองสามอาทิตย์แล้ว“








    “ มึงไม่เห็นเคยบอกกูสักคำ “








    “ เอ่อ..กู “








    “ กูว่าไอ้เด็กนั่นแม่งไม่น่าไว้ใจ มึงอย่าไปเลยนะ “








    “ แต่กูก็..เอ่อ ชอบน้องเขานิ “








    “ งั้นก็ตามใจมึง  “ แบคฮยอนยักไหล่ ในเมื่อคยองซูตัดสินใจเปิดทางให้เด็กคนนั้นเข้ามาจีบแบคฮยอนก็คงต้องยอมเห็นดีเห็นงามด้วย คยองซูรักใครเขาก็ต้องทำใจให้รักคนคนนั้นด้วยให้ได้ ถึงเขาจะรู้สึกไม่ค่อยชอบจงอินเท่าไรก็เถอะ..








    “ เหย แบคฮยอนงอนกูหรอ “








    “ ไร้สาระน่าคยองซู เพื่อนเจอคนถูกใจแล้วกูก็ต้องดีใจสิวะ “








    “ นั่นสิมึงจะงอนกูทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย “ จริงๆแล้วคำถามนี้แบคฮยอนอยากเป็นฝ่ายถามคยองซูมากกว่า แบคฮยอนยิ้มแล้วพยักหน้า








    “ อืม มึงอะคิดมาก “

     










     

    เย็นวันนั้น


    คยองซูให้แบคฮยอนเลือกเสื้อผ้าให้ซึ่งแบคฮยอนก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไร แล้วในที่สุดก็ได้เสื้อผ้าสีสะอาดตาออกมาใส่ คยองซูหมุนตัวหน้ากระจกอยู่พักใหญ่

    “ สวยแล้วครับคุณคยองซู “








    “ สวยพ่องมึงสิ กูดูความเรียบร้อยเฉยๆ เกิดนั่งแล้วเห็นร่องตูดจะทำไง “








    “ ก็อายไงไอสัด “ แบคฮยอนหัวเราะร่วน คยองซูไม่ได้ลุกไปตีเหมือนอย่างเคยเขาแค่ยู่หน้าใส่แล้วหันลับไปส่องกระจกตามเดิม







    “ ทำผมให้มันเหมือนคนหน่อยเถอะ “ แบคฮยอนลุกจากเตียงขึ้นมาหาคยองซูพร้อมกับเจลใส่ผม เขาจัดการเทน้ำยาลงบนฝ่ามือแล้วเรียกให้คยองซูหันมา มือเรียวค่อยๆเซ็ตผมให้คยองซูด้วยความตั้งใจจนทรงผมคยองซูดูดีขึ้นมากว่าเดิมอยู่มากโข แบคฮยอนปัดผมหน้าม้าให้อีกนิดหน่อยก็ละมือออกจากนั้นก็ก้มลงไปหยิบกระปุกวาสลีนที่เพิ่งจะซื้อเมื่อช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาแล้วแต้มลงบนนิ้วตัวเอง








    “ มึงจะไปเดทด้วยสภาพปากแห้งแตกเป็นรากแบบนี้ไม่ได้นะเว่ย “   คยองซูพยักหน้าเข้าใจแล้วแบคฮยอนก็ป้ายเนื้อครีมมันวาวลงบนริมฝีปากของตัวเอง ตอนที่กำลังบรรจงลากนิ้วอยู่นั้นหน้าของแบคฮยอนดูจริงจังมากกว่าปกติ คยองซูช้อนตามองอีกคนที่กำลังค่อยๆลากนิ้วตามริมฝีปากของเขาอย่างทะนุถนอม









    “ เสร็จละ ปากมึงนี่ทำครีมกูแทบหมดกระปุก “







    “ กูจะเอาปากกูนี่แหละงับหัวมึง “ แบคฮยอนจงใจจะหยอกล้อคยองซูว่าริมฝีปากใหญ่ แต่จริงๆแล้วคยองซูนะปากอิ่มมากแถมยังเป็นลักษณะคล้ายๆรูปหัวใจอีกต่างหาก








    “ มา เดี๋ยวกูเดินลงไปส่ง “








    “ ขอบคุณมาก “ คยองซูยิ้มแล้วเดินออกไปนอกห้องเลย แบคฮยอนเดินไปหยิบมือถือของคยองซูที่วางอยู่บนตู้เย็นแล้วเดินตามออกมา







    แล้วไม่นานจงอินก็จอดรถคันหรูหราของเขาลงพร้อมกับเดินมาเปิดประตูให้คยองซูเข้าไปนั่ง แบคฮยอนโบกมือให้คยองซูในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกไป แต่แล้วก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เอามือถือให้คยองซูเลย แบคฮยอนรีบวิ่งตามรถของจงอินไปพร้อมกับส่งเสียงตะโกนเรียก








    “ จงอินจอดก่อนได้ไหมพี่ลืมโทรศัพท์ “  คยองซูหันกลับไปมองก็เห็นว่าแบคฮยอนกำลังวิ่งตามอยู่พร้อมกับในมือมีโทรศัพท์ของเขา








    “ ไม่ต้องหรอกพี่ เดี๋ยวจะเสียเวลานะ “








    “ งั้นก็ไม่เป็นไร ไม่เอาก็ได้ “ จงอินยิ้มแล้วเหยียบคันเร่งเร็วขึ้นกว่าเดิมจนในที่สุดแบคฮยอนก็หายลับตาไป แบคฮยอนยืนเท้าเข่าแล้วหอบเหนื่อย จงอินจะรีบอะไรนักหนาจอดเอามือถือก่อนก็ไม่ได้ แล้วทีนี้ถ้ามีอะไรฉุกเฉินขึ้นมาคยองซูจะโทรหาเขายังไง...














     

    TBC

     

    สวัสดีวัยรุ่น
    เราลงอย่างรวดเร็วโดยไม่รอคอมเม้น ฮ่าาาๆๆๆ
    เผื่อมีคนหลงเข้ามาอ่าน เพราะเรารู้ว่าการรอคอยอะไรนานๆมันน่าเบื่อ
    กราบสวัสดีนะคะแฟนพันธุ์แท้ทั้ง 4 ท่าน แอร๊ ;P
    แล้วเจอกันอีกตอนหน้า :'33


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×