ตอนที่ 7 : แกลลอนที่ 3 (50%)
“นี่ๆ นายจอดรถตรงหน้ารีสอร์ตนี่เลย” ลัลนาชี้นิ้วสั่งคนขับด้วยความรีบร้อน
จิรเมธหักพวงมาลัยเข้าเทียบริมทางเท้าด้านหน้าหมู่เรือนไม้ที่ปลูกสร้างขึ้นด้วยวัสดุตามธรรมชาติ ก่อนจะหันมาเอ่ยปากถาม
“ที่นี่น่ะเหรอ?” ชายหนุ่มชำเลืองมองดูบ้านไม้หลังคามุงจากหลายสิบหลังที่ตกแต่งได้อย่างน่ารักสวยงาม และมุ่งเน้นไปในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติเกือบทั้งหมดด้วยความสนใจ ก่อนจะดับเครื่องยนต์ให้หยุดสนิท
ผลัก! เสียงเปิดประตูออกอย่างแรง ทำให้ผู้เป็นเจ้าของรถหันมามองอีกฝ่ายตาเขียว ทว่าสิ่งที่เขาได้เห็นเบื้องหน้ากลับเป็นมวลธาตุและความว่างเปล่า เมื่อร่างผอมบางปราดเปรียวกระโดดลงจากรถของเขาไปเสียแล้ว จิรเมธจึงรีบพลิกกายหันมือมาดันประตูฝั่งตนให้เปิดออก แล้วจึงก้าวขาออกมายืนอยู่ข้างรถ โบกมือร้องเรียกหล่อนด้วยความงุนงง
“นี่คุณ... จะไปไหนล่ะ?”
คนที่กำลังอยู่ในชั่วโมงเร่งด่วนรีบหันกลับมาตะโกนบอกเขา
“นายรออยู่ตรงนั้นสักสี่ห้าชั่วโมงก็แล้วกันนะ พอถึงหกโมงเย็นเมื่อไหร่ ฉันจะรีบกลับมารับนายทันทีเลย แต่ตอนนี้ฉันขอไปทำธุระก่อนละ”
แล้วลัลนาก็วิ่งปรูดปราดจากไปด้วยความว่องไวชนิดที่เรียกได้ว่า ซอยเท้าซะฝุ่นตลบเลยทีเดียว
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนสิ นี่มันผิดจากที่ตกลงกันไว้นี่” คนที่เพิ่งจะรู้ตัวว่าถูกหลอกใช้ร้องโวยอย่างหัวเสีย
“ผิดที่ไหนกันล่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าขอทำธุระให้เสร็จก่อน ถึงจะพานายไปส่งที่หมู่บ้าน” คนหูดียังไม่วายส่งเสียงเถียงกลับมา ทำให้คนฟังยิ่งฉุนเฉียวในความเจ้าเล่ห์แสนกลของหล่อน
“โธ่เว้ย! ใครเขาจะไปรอเธอไหว...”
ยังไม่ทันที่จิรเมธจะได้เอ็ดตะโรแม่สาวจอมแสบให้หนำใจ เจ้าหล่อนก็พลันหายวับไปไหนเสียแล้วก็ไม่รู้ มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะมายืนฟาดหัวฟาดหางเหมือนคนบ้าอยู่ตรงนี้ และมันคงดีกว่าถ้าเขาจะเข้าไปลากแม่ตัวต้นเหตุให้ออกมารับโทษของการโกหกอย่างสาสม!
ทันเท่าความคิด หนุ่มร่างสูงตัดสินใจล็อคประตูรถ ก่อนจะเร่งสาวเท้าเดินตามแม่ปูลมเข้าไปในอาคารไม้ด้วยความมุ่งหมาย เพราะเชื่อมั่นว่าเจ้าหล่อนจะต้องหายเข้าไปที่นั่นอย่างแน่นอน พอเปิดประตูก้าวเข้ามาหยุดยืนตระหง่านกลางห้องโถง สายตาแหลมคมก็คอยสอดส่องมองหาแม่สาวร่างเพรียวไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่สุ้มเสียงหวานจ๋อยจะเอ่ยขานดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ บ้านหาดปากเมงยินดีต้อนรับค่ะ” พนักงานสาวช่างจำนรรจาหน้าเคาน์เตอร์ ที่อาศัยการแต่งหน้าให้พอไปวัดไปวาได้ ลุกขึ้นพนมมือไหว้ชายหนุ่มอย่างอ่อนช้อย พร้อมกับรอยยิ้มฉันท์มิตร
“เอ่อ... สวัสดีครับ” คนที่ดินทะเร่อทะร่าเข้ามารีบปรับเปลี่ยนสีหน้าของตนให้เป็นปกติ หันมาส่งยิ้มตอบรับแก่เจ้าหล่อน “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีผู้หญิงตาคม ผมยาว ใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์ผ่านเข้ามาบ้างรึเปล่าครับ?”
“นอกจากคุณแล้ว ก็ยังไม่มีแขกท่านใดเข้ามาเลยค่ะ” อีกฝ่ายตอบกลับอย่างสุภาพ
“ไม่มีเลยเหรอครับ” จิรเมธขมวดคิ้วสงสัย พลางชะโงกหน้ามองหาสาวแสบเข้าไปที่ด้านใน
แต่ก็ยังไร้วี่แวว...
“ค่ะ” พนักงานสาวกล่าวย้ำอีกครั้งด้วยรอยยิ้มละไม
“แต่เมื่อกี้ผมยังเห็นหลังเธอไวๆ อยู่เลยนะครับ” หนุ่มเมืองกรุงแย้งขึ้นด้วยความมั่นใจ
“อ๋อ...คนที่คุณเห็นเมื่อสักครู่อาจจะเป็นพนักงานของที่นี่ละมั้งคะ” พนักงานสาวก็ยังคงตอบเสียงดังฟังชัดโดยไม่มีพิรุธ แถมหล่อนยังหันไปถามเพื่อนข้างๆ ให้ช่วยยืนยันขันแข็งเสียอีกต่างหาก “ใช่ไหมจ๊ะเธอ?”
คนพูดขยิบตาส่งซิกให้แก่กัน
“ชะ...ใช่ค่ะ” แม้จะไม่รู้ว่าเพื่อนสาวกำลังเอ่ยถึงเรื่องอันใด แต่คนถูกถามก็รีบรับมุขได้อย่างดีเยี่ยม
“คุณลองนึกทบทวนดูอีกทีได้ไหมครับ?” จิรเมธยังคงกล่าวอ้อนวอนหล่อน เพียรชะเง้อคอมองหายายตัวดีไปด้วยอย่างไม่ลดละ
“ไม่มีจริงๆ ค่ะ” เจ้าหล่อนก็ยังยืนยันคำเดิม น้ำเสียงฟังดูเข้มขึ้นนิดๆ เสียด้วย
“อ๋อ...อย่างนั้นเหรอครับ” จิรเมธยิ้มรับแกนๆ แล้วจำใจเป็นฝ่ายถอยทัพกลับไปแต่โดยดี เมื่อคิดคำนวณดูแล้วว่า การที่เขาจะมาทำตัวเป็นอันธพาลยืนกร่างอยู่ต่างถิ่นเช่นนี้ คงจะไม่ใช่เรื่องที่สมควรสักเท่าไรนัก ดีไม่ดีเขาอาจจะได้รับของกำนัลเป็นยำสหบาทาแถมกลับบ้านไปด้วยก็ได้
“ขอบคุณมากนะครับ” รอยยิ้มหวานหยดจึงถูกส่งมอบไปยังพนักงานสาวอย่างเอาใจ “แล้วก็ขอโทษด้วยที่ผมมารบกวนเวลางานของคุณ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” คนมองตอบราวกับคนละเมอ เมื่อความหล่อเหลากระแทกเข้าเบ้าตาเสียเต็มรัก นี่ถ้าไม่ติดภารกิจที่ต้องช่วยเพื่อนละก็ ป่านนี้เธอคงจะแอบถกคอเสื้อ โชว์หัวไหล่ พร้อมกับชม้ายชายตา เผยอปากรอท่าพ่อรูปหล่อเหมือนกับนางแมวยั่วสวาทให้รู้แล้วรู้รอดไปซะเลย
“ผมลาละครับ” จิรเมธบอกอย่างสยองพองขน เมื่อพอจะรับรู้ความในใจของอีกฝ่ายได้ลางๆ ก่อนที่เขาจะรีบหันหลังเดินตรงออกไปทางประตูอย่างรวดเร็ว โดยมีเสียงเจื้อยแจ้วสำทับตามหลังมาติดๆ
“เดินระวังๆ นะคะ” พนักงานสาวส่งสายตาหยาดเยิ้มมองตามเจ้าตัวไปโดยไม่ปิดบัง พลางนึกอยากจะคว้าไม้หน้าสามมาตีหัวพ่อหนุ่มมาดแมนซะให้สลบเหมือด แล้วลากกลับบ้านไปด้วยเสียจริงๆ
จิรเมธเดินกลับมาที่รถหรูอย่างจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนงงๆ อยู่ตรงนั้นเป็นเวลาหลายนาที ไม่รู้จะเริ่มต้นแกะรอยยายเด็กเลี้ยงแกะต่อไปทางไหนดี แถมเขายังไม่เห็นหนทางว่าจะไปหมู่บ้านลับแลได้อย่างไรอีกด้วย เมื่อสิ่งที่เขามองเห็นเบื้องหน้านั้นมีเพียง...
แผ่นฟ้า ผืนน้ำ และ ความว่างเปล่า
หนุ่มเมืองกรุงผู้ถูกลบเหลี่ยมโดยแม่สาวบ้านนา เลยต้องหันมาระบายโทสะด้วยการเตะฝุ่นที่พื้นพร้อมกับบ่นอาฆาตเสียยกใหญ่ว่า
“ยายเด็กบ้า! อย่าให้ฉันเจอหน้าอีกเชียวนะ ไม่อย่างนั้นเธอได้เจอดีแน่!!”
จิรเมธก้มมองเวลาบนหน้าปัดที่ข้อมือ และพบว่าเขาเสียเวลากับเด็กเปรตไปมากโขทีเดียว เลยตัดสินใจเลิกติดตามยายตัวแสบที่กล้าหลอกให้เขาพามาส่งฟรีๆ ก่อนจะก้าวขึ้นรถ กระชากคันเร่งบึ่งตรงกลับบ้านด้วยความฉุนเฉียว รวมทั้งพานล้มเลิกแผนการค้นหาหมู่บ้านเขากะหมอกในวันนี้ทั้งหมดลงด้วย แล้วค่อยคิดเริ่มตั้งต้นสืบเสาะกันใหม่ในวันพรุ่งนี้แทน
แต่เจ้าตัวไม่ได้รู้เลยว่า... ไอ้ความคลางแคลงสงสัยของตนในคราแรกนั้นจะถูกต้อง!
ทันทีที่เห็นจิรเมธลากลับไป พนักงานสาวที่คอยสังเกตการณ์อยู่ตลอดก็รีบตะโกนร้องเรียกเพื่อนรักให้โผล่หน้าออกมาจากที่ซ่อนได้ เมื่อเห็นว่าหนทางนั้นปลอดโปร่งโล่งสบายไร้กังวล
“ออกมาได้แล้วยายหนูนา พ่อรูปหล่อคนนั้นเขาไปแล้ว”
นั่นแหละ...ร่างบางจึงยอมเดินออกมาจากซอกหลีบของตู้เก็บเอกสารใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางด้านหลัง เหมาะสำหรับใช้เป็นที่กำบังกายจากชายหนุ่มเป็นที่สุด ก่อนจะเดินไปแอบมองจากช่องหน้าต่างเล็กๆ เห็นว่าชายหนุ่มยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่ตรงด้านนอกอีกสักครู่ จนกระทั่งเจ้าตัวนั้นทะยานรถแวนทรงยุโรปออกไป
“ขอบใจแกมากนะปูไข่ ถ้าไม่ได้แกละก็ ฉันต้องแย่แน่ๆ เลย” ลัลนาเดินยิ้มกริ่มเข้ามาหาเพื่อนสนิท
“ไม่เป็นไรหรอก” ปูไข่โบกไม้โบกมือ พลางพูดเพ้อพกถึงพ่อหนุ่มคมสันไม่ยอมเลิก ตาเยิ้มราวกับอยู่ในความฝันอันแสนหวาน “ว่าแต่คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อไม่บันยะบันยั้งเลยเนอะ”
“หล่อตรงไหนกันยะ หน้าขาวยังกะลิงไม่มีผิด”
แต่สาวห้าวกลับดับฝันของเธอเสียนี่
“แกมันตาถั่ว ไม่เห็นเหรอไงว่าตอนที่เขายิ้มน่ะ มันละลายใจฉันขนาดไหน” คนฟังหันมาเอ็ดลัลนาเสียงเขียว เพราะระหว่าง ‘เพื่อน’ กับ ‘ผู้ชาย’ แน่นอนละว่า...
เธอจะต้องเข้าข้างพ่อคนดูดีมีชาติตระกูลเอาไว้ก่อน
คนที่ถูกต่อว่าเลยได้แต่ถอนหายใจ เมื่อเพื่อนของเธอเข้าโหมดบ้าความหล่อไปเรียบร้อยแล้ว
‘เฮ้อ! เพื่อนฉันสติสตังหลุดไปซะแล้ว’
“เออ...แต่จะว่าไป เมื่อกี้ตอนที่เขาซักฉันซะละเอียดยิบ ฉันเกือบจะหัวใจวายแน่ะแก” ปูไข่เป่าปากโล่งอก
“เหรอจ๊ะ แต่ที่ฉันเห็นเนี่ย แกเอาแต่ทำหน้าเคลิ้มอย่างเดียวเลยนะยะ” ลัลนาเอ่ยประชดอย่างหมั่นไส้
“แหม...ก็จะไม่เคลิ้มยังไงไหว เขาออกจะหล่อโฮกยังกะพระเอกหนังเสียขนาดนั้น”
“พระเอกตรงไหน ดูยังไงก็พวกลิเกชัดๆ แถมหูตาก็หลุกหลิกไม่น่าไว้ใจอีกต่างหาก”
“ยังไงเหรอแก?” ปู่ไข่ถามกลับอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะคำพูดของเพื่อนสนิทมันช่างสวนทางกับรูปลักษณ์ที่ดูดีของเขาเสียเหลือเกิน
“ก็หมอนั่นดันมาโกหกว่าจะไปเที่ยวที่หมู่บ้านของเราน่ะสิ” คนเล่าเบ้หน้าอย่างไม่ค่อยจะพอใจนัก ยามเมื่อนึกไปถึงใบหน้าขาวๆ ของคนที่เธอกำลังเอ่ยถึง ก่อนจะตั้งข้อสังเกตให้เพื่อนรักฟังต่อไปว่า “แล้วที่บ้านเรามันใช่แหล่งท่องเที่ยวซะที่ไหนล่ะ มีแต่ป่ากับเขา และก็น้ำมันเท่านั้นแหละ”
“แหม...เขาอาจจะเป็นพวกชอบธรรมชาติก็ได้นี่นา แกมองเขาในแง่ร้ายไปรึเปล่า?” ปูไข่พยายามหาข้อแก้ต่างให้ชายหนุ่ม
“ไม่มีทางหรอก! คนบ้าที่ไหนจะนึกพิเรนทร์มานั่งวิจัยพืช วิจัยผักและก้อนหินดินกรวดที่บ้านเรากันล่ะ ขนาดฉันบอกความจริงเขาไปแบบนั้นนะ หมอนั่นยังดึงดันจะไปที่หมู่บ้านให้ได้อยู่ดี แกว่ามันน่าสงสัยไหมล่ะ?”
“อืม...ก็น่าคิดเหมือนกันแฮะ”
“ใช่ไหมล่ะ นี่ถ้าแกยิ่งได้เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของหมอนี่อย่างที่ฉันเจอด้วยละก็ แกต้องคิดเหมือนฉันแน่ๆ” สาวห้าวรีบเอ่ยยุยงส่งเสริม พลางนึกไปถึงข้อระแวงที่เธอปักใจ “ฉันว่าบางทีหมอนั่นอาจจะเป็นพวกนายทุนน่าเลือดที่หวังจะฮุบหมู่บ้านของเราก็ได้นะ”
“อุ๊ย! งั้นแกก็ต้องระวังตัวเอาไว้ให้มากๆ ซะแล้วละ คนพวกนั้นน่ะโหดจะตาย มันทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ” หญิงสาวนึกเป็นห่วงจึงร้องเตือนเพื่อนรัก
“จ้า” คนฟังขานรับอย่างนึกขอบใจ ก่อนจะได้ทีรีบอ้างสรรพคุณความเก่งกาจของตัวเองเสียยกใหญ่ “แต่แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก ยี่ห้อลูกสาวผู้ใหญ่ธมซะอย่าง สบายมาก”
“จ้ะ แม่คนเก่ง” ปูไข่ขว้างค้อนส่งให้อย่างหมั่นไส้ นึกเสียดายความหล่อเหลาของชายหนุ่มเป็นนักหนา “เฮ้อ... เสียดายหน้าตาหล่อๆ จัง”
“สมัยนี้หน้าตามันใช้วัดนิสัยใจคอกันได้ซะเมื่อไหร่ล่ะแก ยิ่งหล่อนี่แหละยิ่งน่ากลัว”
“จริงของแก” คนฟังพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนจะพลันนึกอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน “เอ่อ... แล้วแกไปเก็บตกเขาได้จากที่ไหนล่ะ?”
“ก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านเรานี่แหละ พอดีอีแก่ของฉันมันดันเสียระหว่างทางน่ะ”
“โห! อย่าบอกนะว่าแกวิ่งเป็นนางเอกมิวสิคหนีเขามาตั้งแต่ตรงนั้น?” สาวบ้านนาร้องถามประสาซื่อ
“บ้าน่ะสิ!” ลัลนาถึงหัวเราะร่วนกับข้อสงสัยที่เกินจริงของอีกฝ่าย “ขืนให้ฉันวิ่งมาจากตรงโน้นจริงๆ ละก็ ป่านนี้ได้เป็นลมล้มพับตายไปก่อนจะวิ่งมาถึงหน้าหาดแล้วละ ฮะฮ่าๆ”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ” คนช่างคิดจึงพลอยหัวเราะไปด้วย แต่ความอยากรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดก็มิเคยปราณีใคร โดยเฉพาะกับโทร. โข่งประจำหมู่บ้านเช่นเธอ คราวนี้ปูไข่เลยยิ่งทวีข้อสงสัยขึ้นไปอีกอักโข
“แล้วตกลงเขาไล่กวดแกมาที่นี่ได้ยังไงล่ะ แกถึงต้องวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาฉันยังกับคนเจอผีแบบนี้?”
“โหย! เล่าแล้วเรื่องมันยาว” ลัลนาบอกหล่อน พลางเหลือบไปมองนาฬิกาบนฝาผนัง จึงต้องรีบบอกปัดตัดบทอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเข็มยาวชี้ไปตัวเลขที่เธอมีนัดกับคณะทัวร์ไว้เรียบร้อยแล้ว “สายแล้วๆ ฉันต้องรีบไปรับแขกก่อนนะแก ตอนเย็นแกอย่าเพิ่งรีบกลับบ้านก่อนนะ รอฉันติดรถไปด้วย”
เรือนร่างปราดเปรียวโบกมือหยอยๆ ให้เพื่อนสาว ก่อนจะรีบเผ่นพรวดออกไปทางประตูทันที โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของปูไข่เลยแม้แต่น้อย
“เดี๋ยวสิแก! กลับมาเมาส์ให้ฉันฟังก่อน...”
คนที่จู่ๆ ก็ถูกทิ้ง แถมยังไม่ได้รับความกระจ่างอันใดเลยสักข้อจึงได้แต่ยืนมองตามร่างบางไปตาปริบๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียยืดยาวด้วยความเหนื่อยอก เมื่อเห็นเจ้าตัวนั้นวิ่งหายลับจากไปแล้ว
“เฮ้อ! มาเร็ว เคลมเร็วไม่เคยเปลี่ยนเลยยายคนนี้”
ปูไข่นึกเห็นใจในความเหน็ดเหนื่อยของเพื่อนสาวอยู่ไม่น้อย เธอเองรู้ดีว่าลัลนาขยันขันแข็งมากมายขนาดไหน ด้วยนอกจากเจ้าหล่อนจะต้องช่วยงานบุพการีทั้งสองทำโครงการไบโอดีเซลของหมู่บ้านแล้ว หญิงสาวยังอาศัยเวลาว่างที่เหลืออยู่มารับจ๊อบเป็นมัคคุเทศก์นำชมหาด รวมทั้งช่วยดูแลและนำพานักท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการังในบางครั้ง เพื่อหาเงินสมทบทุนให้แก่โครงการของบิดาอีกด้วย
ฉะนั้นทุกครั้งที่มีคณะทัวร์มาเยือนรีสอร์ตของเธอทีไร จึงไม่น่าแปลกใจสักนิดที่ปูไข่จะเห็นเพื่อนรักคอยวิ่งวุ่นไปนู่นมานี่อยู่ตลอดเวลาเหมือนดังเช่นวันนี้ เพราะพวกฝรั่งตาน้ำข้าวต่างก็พากันติดอกติดใจแม่ไกด์สาวตาคมเป็นทิวแถวซะด้วยสิ เจ้าของบริษัททัวร์ถึงได้เรียกใช้บริการเธออยู่บ่อยครั้ง
ปู่ไข่ถอนหายใจ ส่ายหน้า เมื่อคนเล่าเรื่องไม่อยู่เสียแล้ว คนอยากรู้เช่นเธอเลยต้องกลับไปทำงานต่ออย่างเดิมเหมือนทุกที
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ดีค่า
คิดถึงไรเตอร์กันบ้างมั้ยเอ่ย????
ขอโทษที่หายไปหลายวันนะคะ ไม่ได้อัปนิยายให้อ่านกันเลย
ตอนนี้ไรเตอร์พร้อมแล้วค่ะ จะเริ่มลงให้อ่านกันรัวๆๆๆๆ ให้ฟินกันถ้วนหน้าเลยดีมั้ยคะ...
ว่าแล้วอย่ารอช้าไปส่องดีกว่าว่าใครจะถูกเท และใครจะเทใคร
บอกได่้คำเดียวว่า...ห้ามพลาดนะเออ!
ส่วนใครอดใจรอไม่ไหว อยากรู้เรื่องก่อนใคร แวะไปโหลดได้ที่เมพและร้านอีบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศค่า เค้ารับประกันความน่ารักนะจ๊ะ อิอิ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
