ตอนที่ 51 : แกลลอนที่ 25 (35%)
ชายหนุ่มร่างสูงค่อยๆ ย่องเข้าไปหาหญิงสาวสูงโปร่ง ที่ยืนก้มหน้าทำงานอยู่ภายใต้ศาลาผลิตน้ำมันด้วยเสียงฝีเท้าที่เบากริบ
จิรเมธจำต้องยอมรับกับตัวเองอย่างไม่อาจหลีกหนีความปรารถนาของหัวใจได้ว่า ช่วงเวลาแค่ไม่กี่วันที่ห่างหายจากกันไป เขาคิดถึงแม่สาวหน้าคม ตาโต ผิวเนียนคล้ำ ช่างยียวนกวนประสาทคนนี้แทบทุกลมหายใจ ตราบจนตอนนี้ในสมองของเขามีแต่ภาพของคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเพียงเท่านั้น
แต่... เพราะภาระและหน้าที่ที่เขาต้องแบกรับ เลยทำให้ไม่มีเวลาว่างโทร. มาหาเธอสักครั้ง ดังนั้นพอลงจากเครื่องปุ๊บ เขาก็ให้นายบ่าวรีบบึ่งรถตรงมายังที่นี่ทันที ซึ่งเต็มไปด้วย…
‘ความคิดถึง’ และ ‘ความรัก’
จิรเมธยังไม่ให้เสียงแก่สาวร่างบาง กระทั่งเขาเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของเจ้าหล่อน ร่างสูงจึง กระแอมเบาๆ เพื่อให้เธอรู้ตัว
“อะแอ้ม”
คนใจลอยหันขวับมาทางต้นเสียง แล้วเมื่อเธอได้เห็นคนที่อยู่ในห้วงคำนึงมายืนใกล้ๆ ในระยะประชิดแบบนี้ หญิงสาวจึงอดสงสัยไมได้ว่า
‘นี่เธอไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม!?
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ คือเขาจริงๆ แน่นะ?’
ลัลนากระพริบตาถี่ๆ เผื่อว่าบางทีสมองของเธอจะฟั่นเฟือน เพราะคิดถึงเขามากเกินไปจนเกิดเป็นภาพลวงตาขึ้นมาก็เป็นได้
แต่...จิรเมธก็ยังคงยืนอยู่ตรงนี้ ต่อหน้าต่อตาของเธอ
ดวงตาคมคู่สวยจึงค่อยๆ คลี่ยิ้มละมุนขึ้นทีละนิด…ทีละน้อย…จนระบายเต็มดวงหน้างาม เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น ดีใจ ห่วงหาและคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนลืมแล้วซึ่งความขุ่นข้องหมองใจต่อกัน ทั้งเรื่องที่เขาจะร่วมลงทุนกับวิรดา เรื่องที่เขาหายหน้าไปโดยไม่บอกกล่าว เรื่องที่เขาไม่ติดต่อกับมาหาเธอเลยสักนิด
เฉกเช่นเดียวกันกับคนมองที่ยิ้มแฉ่งด้วยความเบิกบานใจ พลางสบตากับสาวใต้ดุจดั่งอยู่ในมนต์สะกด
เอี๊ยด!!!
แล้วเสียงเบรกก็ดังกึกก้องขึ้นในหัวของลัลนา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกระซิบว่า
‘ใครบอกว่าเธอลืม เธอไม่โกรธ กันล่ะ!
เธอโกรธที่เขาจะหุ้นกับยายชะนีหลงฝูง เคืองที่เขาหายไป ไม่พอใจที่เขาไม่โทร. มา
และที่สำคัญ...เธอโมโหที่เขาทำเหมือนลืมเลือนเธอไป’
รอยยิ้มละไมจึงหายวับไปทันตา เหลือแต่เพียงร่องรอยหงิกงอบูดบึ้งเข้ามาแทนที่
“นายมาทำไม!?” นอกจากยิ้มจะหุบแล้ว น้ำเสียงก็ยังห้วนจัดเสียอีก
จิรเมธงงเป็นไก่ตาแตก ที่จู่ๆ แม่สาวทโมนก็เปลี่ยนท่าทีไปอย่างปรูดปราดชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ จนเขาตามไม่ทัน จากที่คิดว่าจะได้รับการต้อนรับขับสู้ด้วยความอ่อนหวานแสนประทับใจ เพราะต่างก็ไม่ได้เจอหน้าพูดคุยกันมาตั้งหลายวัน กลับกลายเป็นอาการแง่งอนไปเสียนี่
“อะไร... ไม่ได้เจอกันตั้งนาน จะพูดจาให้มันเพราะๆ กว่านี้ไม่ได้รึไง?” จิรเมธโวยวาย
คนหน้าหงิกยิ่งทำหน้าตูม เมื่อถูกเขาต่อว่า แล้วยิ่งมาเห็นพ่อตัวดีเอาแต่ยืนทำหน้าระรื่นอย่างอารมณ์ดี ในขณะที่เธอต้องเฝ้าทนทุกข์หมองเศร้าอันเกิดมาจากความหงอยเหงาที่เพียรเก็บกดมาตลอดเกือบหนึ่งอาทิตย์ด้วยแล้ว ลัลนาจึงพาลพาโลสะบัดหน้าเดินหนีเจ้าตัวไปเสียดื้อๆ
“อ้าว...จะไปไหนล่ะ?” จิรเมธร้องถามอย่างงงๆ พร้อมทั้งรีบสาวเท้าเดินตามหลังเจ้าหล่อนไป แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมตอบคำอันใดกลับมา อารมณ์แจ่มใสเมื่อครู่เริ่มจางหาย เมื่อหล่อนแสดงท่าทีหมางเมินต่อเขา
“นี่เธอเป็นอะไรไปอีกล่ะ?”
ลัลนายังคงก้มหน้าก้มตาเดินลิ่วต่อไปโดยไม่มีปฏิกิริยาอันใด ไม่แม้แต่จะหันหน้ามามองเขาด้วยซ้ำ
คนที่ไม่เข้าใจในท่าทีขึ้งโกรธของหล่อน ที่จู่ๆ ก็ฟาดงวงฟาดงาใส่ฃแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จึงรีบเร่งฝีเท้าเดินอาดๆ ไปดักหน้าหญิงสาว เพื่อคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้
“หนูนา เธอเป็นอะไรไป ทำไมไม่พูดล่ะ แล้วอย่างนี้ฉันจะได้รู้ยังไงว่าเธอไม่พอใจอะไร?”
ปลายเสียงนั้นกลายเป็นแววงอนง้อไปโดยปริยาย เมื่อคนพูดเห็นหน้าตาบึ้งตึงแกมโศกเศร้าของเจ้าตัวแล้ว มันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเลยสักนิด
“.....”
แต่คนดื้อรั้นก็ยังไม่ยอมพูดและเบือนหน้าหนีเขาอีกตามเคย จริเมธเลยได้แต่ยืนถอนหายใจ ยกมือเสยผมอย่างจนปัญญา ไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ดีไปกว่านี้ คนตรงหน้าถึงจะยอมหันมาคุยกับเขาดีๆ
“เธอโกรธอะไรฉันกันแน่ฮึ?” จิรเมธเริ่มเกิดความเหนื่อยหน่ายแกมรำคาญใจเล็กๆ
คนฟังที่จับได้ถึงอารมณ์และน้ำเสียงของคนถาม จึงยิ่งมองเขาด้วยความโมโหผสมปนเปไปกับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ติดแนบแน่น จนไม่สามารถแยกออกจากกันได้
ดูฟังเขาพูดเข้าสิ ทำเหมือนกับเธอเป็นคนผิดซะอย่างนั้น ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนหายหน้าไปเองแท้ๆ
เท่านั้นยังไม่พอ! เขายังเป็นต้นเหตุทำให้ยายวิรดาถ่อมาหาเรื่องพูดจาทับถมเธออีกต่างหาก ทั้งเรื่องที่เขาจะแปรพักตร์ไปลงทุนหุ้นเงินและหัวใจกับหล่อนบ้างละ... เรื่องที่เขาจะละทิ้งโครงการไบโอดีเซลบ้างละ... มิหนำซ้ำเธอยังถูกตบฟรีๆ ด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบได้ รู้แต่ว่ามีตัวพ่อคนกะล่อนนี่แหละเป็นสาเหตุหลัก
‘แล้วแบบนี้มันน่าน้อยใจไหมล่ะ?’
ลัลนายิ้มเยาะตัวเองด้วยความเจ็บปวด จนพานให้ไม่อยากจะเห็นหน้าเขาอีกต่อไป เธอจึงสะบัดกายหลบหลีกปราการร่างสูง พร้อมทั้งเร่งฝีเท้าเดินผ่านเขาไปอย่างไม่ไยดี ทำเหมือนกับเขาเป็นแค่เงาหรืออากาศธาตุอะไรก็ได้ที่เธอไม่เคยคิดจะใส่ใจ
“นี่หนูนา!” จิรเมธเห็นอีกฝ่ายเดินอาดๆ หนีเขาไปจึงส่งเสียงรั้งหล่อนไว้อีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบอันใดกับเจ้าตัวเลยสักนิด เพราะหล่อนยังคงเดินลิ่วๆ ไปไม่ยอมหยุด
คนที่เข้าใจถึงความดื้อดึงของแม่สาวทโมนอย่างถ่องแท้ จึงจำต้องตัดใจยอมเดินตามหลังหล่อนไปก่อน ด้วยขืนเขาเอาตัวเข้าไปขวางทางไฟในตอนที่เจ้าหล่อนยังอารมณ์บูดอยู่แบบนี้ละก็ เชื่อเถอะว่า...ต่อให้เขาเพียรงอนง้ออ้อนวอนให้ตายยังไง สาวใต้ก็คงไม่ยอมเปิดปากพูดด้วยแน่ๆ
ถ้าอย่างนั้นสู้รอให้หล่อนเหวี่ยงแข้งเหวี่ยงขาจนเหนื่อยหอบซะก่อนดีกว่า แล้วเมื่อนั้นแหละถึงจะเป็นทีของเขาบ้าง
จิรเมธตามคนที่เดินกระแทกเท้าตุปัดตะเป๋มาจนถึงท้ายหมู่บ้านอันเป็นสถานที่สงบสุข มีทัศนียภาพสวยสดงดงามโอบล้อมไปด้วยขุนเขาและสายธารไหลเอื่อย หมู่มวลบุปผชาติสีสันละลานตาหลากชนิดก็ผุดขึ้นจากพื้นดินตามธรรมชาติ เพื่อให้ฝูงแมลงพากันมาดอมดมเก็บเกสรน้ำหวานอยู่ไม่ขาด
ชายหนุ่มเห็นเธอหยุดยืนอยู่ใต้ต้นพฤกษาขนาดใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น เขาเลยเดาเอาว่าที่แห่งนี้คงจะทำให้จิตใจอันร้อนรุ่มของเธอสงบลงได้ไม่ยาก เจ้าตัวจึงรอเวลาอยู่อย่างนั้นอีกเพียงสักพัก เวลาที่ลัลนาจะมีเหตุผลมากกว่านี้ เวลาที่เขาและเธอจะได้พูดจาประสาดอกไม้กันเสียที...
“เป็นไง ใจเย็นลงบ้างรึยัง?” จิรเมธก้าวขาเข้ามาหยุดยืนซ้อนทับด้านหลังของสาวขี้งอน
คนถูกว่าเลยหันขวับมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยดวงตาขุ่นเขียวทันควัน
“ที่นี้เราจะคุยกันได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้น เธอโกรธฉันเรื่องอะไร?” เขาถามคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยน บอกเจตจำนงชัดเจนว่าไม่อยากจะทะเลาะกับเจ้าหล่อนเลยแม้แต่นิด
แต่ดูเหมือนความตั้งใจจริงนั้นจะส่งไปถึงลัลนาสักที คนฟังเลยไม่รับความนัยจากสารที่ถูกส่งไป
“ไม่ได้โกรธ! ไม่อยากคุย! เพราะนายไม่ใช่คนสำคัญถึงขนาดจะมีอิทธิพลกับตัวฉันได้” ลัลนาบอกเสียงห้วน พร้องทั้งก้าวเท้าเตรียมจะเขยิบหนีไปยืนตรงอื่น ที่ซึ่งห่างจากกลิ่นกายหอมกรุ่นของคนตัวสูง ยิ่งห่างเท่าใดก็ยิ่งดี เพื่อที่หัวใจของเธอจะได้สามารถทำตามคำพูดของตนเองที่เอ่ยออกไปว่า
‘เขาไม่ได้สำคัญและมีอิทธิพลกับใจของเธอจริงๆ’
ทว่าจิรเมธก็เอื้อมมือออกไปฉุดรั้งข้อแขนเล็กเอาไว้ แล้วออกแรงดึงเพียงนิด แค่นี้สาวแสนงอนก็กลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
“เอ๊ะ! ปล่อยนะ” คนถูกกักอิสรภาพแว้ดใส่
“ไม่! จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง” เมื่อพูดดีๆ แล้วเจ้าหล่อนยังดื้อ ไม่ยอมฟัง เขาจึงต้องเปลี่ยนโหมดมาเล่นบทโหดที่เจ้าตัวไม่ค่อยจะชอบกระทำกับหญิงสาวสักเท่าไหร่นัก
แต่จะทำไงได้ล่ะ... ในเมื่อคนตรงหน้าเขานั้นแสนพยศ รั้นก็ที่หนึ่ง เขาจึงจำเป็นต้องทำแบบนี้เสียบ้าง!
“บอกไว้ก่อนนะว่าอย่าทำให้ฉันโมโหมากไปกว่านี้ ไม่งั้นนายเจ็บตัวแน่!” ลัลนาตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย
“ถ้าเธอทำได้... ก็เอาเลยสิ” จิรเมธท้ากลับ
สาวใต้จอมแสบผู้ไม่เคยยอมใครเงื้อมือขึ้น หมายจะหวดลงมาที่ใบหน้าหล่อเหลาแสนอวดดี เพื่อให้เขาได้รับความเจ็บปวดจากเพียงเศษเสี้ยวที่เขาสร้างไว้แก่เธอเสียบ้าง
หมับ!
แต่มือหนาใหญ่ก็คว้าหมับเข้าที่ข้อแขนกลมกลึงไว้ได้ทัน
“ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
คนพลาดท่าถูกเขาจองจำแขนทั้งสองข้างไว้ด้วยมือแกร่งพยายามดิ้นขลุกขลัก ชักมือกลับ พร้อมทั้งสะบัดแขนไปมา เพื่อให้หลุดออกจากการเกาะกุม แต่เหมือนยิ่งเธอพยายามเท่าไหร่ ปลายนิ้วดุจคีมเหล็กก็ยิ่งออกแรงบีบรัดข้อมือของเธอหนักขึ้นเท่านั้น เมื่อความเจ็บแล่นผ่านเข้าสู่ผิวเนื้อมากขึ้นจนเกินจะทน ลัลนาจึงหยุดดิ้นรน แล้วเปลี่ยนมาใช้แผนใหม่ทันที เธอยกขาขึ้นเตรียมจะเหยียบลงไปที่เท้าของอีกฝ่ายให้เต็มรักด้วยความรวดเร็ว เขาจะได้ปล่อยมือจากเธอเสียที
ทว่าจิรเมธก็ยังรู้ทันความคิดของเธออยู่อีก พอสาวแสบย่ำเท้าลงมา เขาจึงชักขาหลบได้ทันควัน
ผลก็คือ... นอกจากเธอจะทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว ตัวเธอเองนั่นแหละที่กลับเป็นฝ่ายเจ็บตัวแทน ด้วยส้นเท้ากระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างไม่ยั้งจากความตั้งใจของตน
“อู๊ย!” คนเจ็บซู้ดปากลั่นความปวดแปลบ แต่ก็หาได้รับความใส่ใจจากชายหนุ่มเหมือนเมื่อครั้งก่อนเก่าไม่ เพราะจิรเมธตั้งใจไว้แล้วว่า ถึงเวลาที่เขาจะต้องปราบพยศแม่สาวซ่าก๋ากั่นคนนี้เสียบ้าง
“อย่ามาใช้มุขเดิมๆ เลย ไม่ได้ผลหรอก” จิรเมธบอกเสียงเรียบ แกล้งทำเป็นเมินเฉยไม่แยแสอีกฝ่าย ทั้งที่ใจจริงนั้นอยากจะคุกเข่าก้มลงสำรวจปลายเท้าของคนเจ็บจะแย่อยู่แล้ว
“ถ้ามุขเดิมไม่ได้ผล งั้นก็เจอมุขใหม่หน่อยเป็นไง” สาวชอบลองของก้มหน้า อ้าปากหมายจะกัดแขนที่กักขังเธอไว้ดีนักซะให้จมเขี้ยว
แต่คนที่เคยเจอลูกไม้ของหล่อนจนล้มกลิ้งรีบปล่อยมือข้างนั้นออกทันที แล้วใช้มืออีกข้างที่ยังควบคุมเธออยู่ หมุนร่างบางให้พลิกหันหลังกลับมาหาเขา ส่วนมือที่ตอนนี้เป็นอิสระก็ตรงเข้าโอบกระชับเอวคอดกิ่ว ก่อนจะไปจดกับมืออีกข้างหนึ่งที่เคลื่อนมาสอดประสานเอาไว้โดยฉับพลัน
นั่นจึงเท่ากับว่า...นอกจากลัลนาจะแก้เผ็ดคนหัวแหลมไม่ได้แล้ว เธอยังต้องตกอยู่ในการจองจำของเขาอีกครั้ง
และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ มันเป็นพันธนาการอันแสนหวาน วาบหวิว อยู่ในอ้อมอกกว้างเสียด้วยสิ!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอโทษๆๆๆๆๆๆๆ ที่หายไปนานนะคะ
สาบานเลยว่าไรฯไม่ได้ลืมคนอ่าน
แต่เกิดแอคซิเดนท์ คอมเสีย แล้วไฟท์นิยายก็อยู่ในนั้นด้วย
ไรฯเลยจนปัญญาเอาออกมาไม่ได้ ต้องรอจนซ่อมเสร็จถึงจะมาลงต่อให้คนอ่านนี่เเหละค่ะ
เอาเป็นว่าไรฯขอชดเชยลงให้อ่านบ่อยๆ จะพยายามลงให้ทุกวันหรือวันเว้นวันน้า
จะได้ไม่ขาดช่วง
เค้าน่ารักขนาดนี้ ยอโทษให้แล้วเนอะๆๆๆๆ
ใครอดใจรอไม่ไหว อยากรู้เรื่องก่อนใคร แวะไปโหลดได้ที่เมพและร้านอีบุ๊คชั้นนำทั่วประเทศค่า เค้ารับประกันความน่ารักนะจ๊ะ
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
