ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [The Walking Dead: Negan] Bad At Love

    ลำดับตอนที่ #4 : ll Chapter 4 ll Distraction

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 351
      20
      4 พ.ย. 60


    MUSIC: Basic Space - The XX








    "เอาล่ะ นี่ก็ค่ำแล้ว เดี๋ยวฉันจะแกล้งไปเข้านอนแล้วนะ แล้วจะแอบออกไปจากที่นี่อีกชั่วโมงนึง" จีซัสเอ่ยกับลิลา


     


    "จีซัส...ฝากบอกแดริลด้วยนะ ว่าไม่ต้องกลับมาช่วยฉัน ห้ามกลับมาอีกเด็ดขาด ฉันขอร้อง" ลิลาเอ่ยเสียงสั่น...เธอรู้จักนิสัยแดริลดี ถ้าเขาหนีออกกมาได้แล้ว เขาต้องพยายามวางแผนกลับมาช่วยเธอหนีออกไปแน่ๆ ถ้าเขากลับมาอีก...เขาอาจไม่มีวันได้ออกมาอีก




    "เขาคงไม่ยอมง่ายๆ...แต่ฉันกับริคจะพยายามบอกให้เข้าใจเองนะ เธอไม่ต้องห่วง....แม้เธอจะไม่ได้หนีพ้นจากนีแกน แต่เธอก็จะได้เจอกับแดริลอีกแน่ ฉันสัญญา"




    บทสนทนาของทั้งคู่ต้องยุติลงเมื่อนีแกนเปิดประตูเข้ามาในห้องหลังจากเพิ่งไปอาบน้ำมา และคืนนี้เขายังเปลือยท่อนบนอีกด้วย จีซัสเมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของลิลาจึงกระซิบกับเธอ "ทนหน่อยนะ...เขาไม่ทำอะไรคนแขนขาหักหรอก นึกถึงแดริลเข้าไว้"




    "ไปได้แล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยปากไล่ จีซัสหันมายิ้มให้กำลังใจเธอก่อนที่จะเดินออกไป นีแกนปิดประตูลงทันทีเมื่อร่างสูงเดินออกไปก่อนที่จะเดินมาหาหญิงสาวบนเตียงใหญ่และนอนหันหน้าเข้าหาเธอ 



    "ในที่สุด เราก็ได้นอนด้วยกันแล้วสินะ โดยที่เธอหนีฉันไม่ได้เสียด้วยสิ เพราะตอนนี้เธอยังเดี้ยงอยู่"




    ร่างบางค่อยๆเขยิบหนีเขาอย่างทะลักทุเล แต่เขาก็สวมกอดเธอเอาไว้ เมื่อตัวสัมผัสโดนแผ่นอกเปลือยเปล่าของคนตัวโต เธอก็มีปฎิกิริยาต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด




    "นี่ ห้ามขยับนะ ไม่งั้นฉันจะทำมากกว่ากอด อยากกระดูกเคลื่อนรึไง เดี้ยงขนาดนี้ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก แค่จะนอนกอดเฉยๆ"




    "เอ่อ ไม่กอดได้มั้ยคะ"




    "หืม วันนี้มาแปลกนะ ทำไมพูดเพราะผิดปกติ หรือเป็นเพราะตกบันไดหัวแตกเลยเพี้ยน" เสียงทุ้มถามด้วยน้ำเสียงเย้ายวน จมูกโด่งเข้ามาถูไถแก้มเธอ หญิงสาวเบี่ยงหน้าหนีแต่เขาก็ยังตามมานัวเนีย




    "นี่คุณ..."




    "อะไร"




    "ช่วยเอาหน้าออกไปห่างๆหน่อยได้มั้ยคะ"




    "ไม่ ตัวเธอหอมดี ฉันชอบ" ไม่ว่าเปล่า เขาบุกรุก ระดมจูบใบหน้าเธออย่างโหยหา 




    "หยุดนะนีแกน" หญิงสาวหลับตาปี๋ด้วยความขยะแขยงขนลุกพองและพยายามใช้แขนข้างที่ใช้การได้ดันใบหน้าเขาออกไป



    "ฉันชอบเวลาเธอเรียกชื่อฉัน เรียกอีกสิ" เสียงทุ้มกระซิบ มือหนาจับคางเธอไว้ก่อนที่จะกดริมฝีปากอุ่นลงมาบนแก้มเธอ 



    "พะ พอแล้ว ฉันขอร้อง" ร่างบางร้องขอด้วยน้ำเสียงเว้าวอน ต่างจากครั้งก่อนๆที่เวลาไม่สมยอม เธอจะมีกิริยาแข็งกร้าวและปากร้าย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเธอพยายามอดทน ไม่ทะเลาะกับเขา...หรือเธอกำลังคิดว่าทำตัวดีๆแล้วเขาจะเปลี่ยนใจเลิกจ้องจะครอบครองเธอ? เขาจ้องมองใบหน้าสวยหวานที่ไม่ยอมสบตาเขาอย่างพิจารณาก่อนที่จะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่หนักแน่น 



    "วันหลังห้ามทำอะไรแผลงๆแบบนี้อีกนะ เธออาจจะตายได้ถ้าเกิดฉันพาเธอมาที่นี่ไม่ทัน และฉันก็โกรธมากที่เธอทำแบบนี้"



    เธอนิ่งเงียบไม่ตอบเขา... นึกถึงแต่คำพูดของเชอร์รี่กับจีซัส เธอต้องอดทน...กลั้นใจอดทนให้ได้ เธอจะต้องหลีกเลี่ยงการมีเรื่องกับนีแกนตามคำสั่งของเชอร์รี่ เพื่อที่จะให้นีแกนได้อยู่กับเธอในห้องนี้ทั้งคืน แผนจะได้เป็นไปอย่างราบรื่น....เธอต้องทำให้ได้ ตอนนี้เธอนึกถึงแต่หน้าแดริล พยายามข่มใจไม่ให้ตัวเองตบะแตกกับนีแกน




    "ฉันจะคิดบัญชีกับเธอแบบเต็มๆเมื่อเธอหายดี แต่ตอนนี้ ฉันจะลงโทษเธอแบบเบาๆ แต่ขอให้รู้ไว้ว่า นี่น่ะเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น" ไม่รอให้เธอได้เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด นีแกนก็ก้มใบหน้าลงมาประกบปากเธอโดยเธอไม่ทันได้ตั้งตัว 



    กลีบปากนุ่มโดนบดเบียดอย่างเร่าร้อนและดูดดื่มอยู่นานแสนนานโดยไม่สนแรงทุบตีที่ปะทะลงมาบนบ่าของเขา แขนก็ใช้อยู่ได้แค่ข้างเดียว ไม่รู้เธอยังจะพยายามสู้อยู่อีกทำไม เขาบรรจงดูดความหวานจากริมฝีปากนุ่มและพยายามใช้ลิ้นดันเข้ามาและเมื่อเธอดื้อเขาก็กระชับกอดเธอแน่นกว่าเดิมพอที่จะให้กระตุ้นให้เธอเจ็บแผลสักนิดจนเผลออ้าปากร้องออกมา 



    ลิ้นของเขาดันเข้ามาในโพรงปากหวาน เธอพยายามเอาลิ้นหลบแต่เขาก็ไม่เลิกละความพยายามและบุกรุกเอาลิ้นเขามาเกี่ยวกับเธอจนได้ แน่นอนว่าคนตัวโตรู้ได้จากปฎิกิริยาต่อต้านของเธอว่าสัมผัสนี้สำหรับเธอนั้นเป็นครั้งแรก ที่ผ่านมาเขาเคยแค่จูบแบบธรรมดาเท่านั้น แต่คืนนี้เพิ่มระดับความรุนแรงเร่าร้อนใช้ลิ้นกับเธอ 



    ลิลาเล็ดเสียงสะอื้นออกมาเมื่อหนุ่มใหญ่ล่วงเกินเธอขนาดเข้ามาลุกล้ำในโพรงปากของเธอ เป็นสัมผัสที่น่ารังเกียจกว่าครั้งไหนๆจนเธอทนไม่ได้และความโกรธเกลียดนั้นก็พุ่งขึ้นถึงสุดขีดจนใบหน้าสระสวยบิดเบี้ยวไปหมด หัวใจเต้นแรงด้วยความโกรธและเสียใจเกินบรรยายที่สู้แรงเขาไม่ได้ นีแกนค่อยๆหยุดการกระทำของเขาเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นบนใบหน้าจากน้ำตาของคนตัวเล็ก




    "ไม่ร้องไห้สิ...ฉันไม่ได้จะปล้ำเธอนะ แค่จูบเฉยๆ" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าและค่อยๆเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเธออย่างนุ่มนวล ดวงตาสีน้ำตาลอันทรงเสน่ห์จับจ้องลงมาบนใบหน้าเธอด้วยความหลงใหล 



    "น่าเสียดายจริงๆ ถ้าเธอไม่ได้บาดเจ็บ เราคงไปได้ไกลกว่านี้..."



    หญิงสาวปัดมือใหญ่ออกจากใบหน้าของเธอก่อนที่จะพยายามขยับตัวหนีแต่เขาก็เขยิบตามมาแนบชิดเธอและกอดเธอเอาไว้ 



    "โอเค...ไม่แกล้งแล้ว ฉันลงโทษเธอแค่นี้แหละ ของจริงเก็บไว้ตอนเธอหายแล้วกัน อย่างที่บอก...ว่านี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม"



    มือเล็กกำผ้าห่มแน่นและขบฟันแน่นพยายามสกัดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมามากกว่านี้ ...ถ้านี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าของจริงจะเป็นอย่างไร โดนแค่นี้เธอก็เจ็บช้ำใจยากที่จะเยียวยา เธอมีชีวิตอยู่มาได้ยี่สิบเอ็ดปีโดยไม่เคยถูกผู้ชายคนไหนล่วงเกินเธอขนาดนี้มาก่อน ถ้าเธอจะต้องมีจูบแรก มันก็ไม่ควรต้องเป็นปีศาจอย่างนีแกนที่เธอชิงชังและขยะแขยง เขาช่วงชิงจูบแรกของเธอไปตั้งแต่เมื่อวาน พอมาวันนี้ แม้ว่าเธอจะลงทุนบาดเจ็บขนาดนี้แต่เขาก็ยังข่มเหงเธอได้อีก...แต่เธอก็พยายามปลอบใจตัวเอง เพราะรู้ว่านีแกนสามารถทำได้มากกว่านี้ โดนแค่นี้ก็โชคดีแค่ไหนแล้ว




    "ง่วงหรือยัง...เรามาคุยมาทำความรู้จักกันหน่อยดีมั้ย" เสียงนุ่มดุจแพรไหมเอ่ยกับเธอขณะที่ยังกอดเธออยู่ หญิงสาวหันหน้าหนีก่อนที่จะตอบห้วนๆ 



    "ง่วงแล้วค่ะ



    เสียงทุ้มหัวเราะนิดๆกับท่าทีแง่งอนของเธอก่อนที่จะเอาคางเกยไหล่เธอ "คุยกับฉันก่อนสิ...โกรธฉันเหรอ"




    "ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธคุณหรอก" เธอตอบเสียงห้วน น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด




    "โกรธได้นะ ถ้าเกิดมีเหตุผลที่ควร" เขาเอ่ยยิ้มๆก่อนที่่จะหยิบมือเธอมาจับไว้แล้วลูบคลึงอย่างนุ่มนวลและพยายามชวนเธอคุย "ก่อนที่จะเกิดApocalypse เธอมีชีวิตยังไง หืม"




    ร่างบางไม่ตอบ และรู้สึกอึดอัดมากกว่าอะไร สิ่งสุดท้ายที่เธออยากทำบนโลกนี้คือการทำความรู้จักกับนีแกน...




    "อืม งั้นถ้าเธอไม่ประสงค์ที่จะคุยกับฉัน ก็นอนเถอะ ฉันจะออกไปหาหนังสือมาอ่าน"




    ลิลาเบิกตากว้างก่อนที่จะตัดสินใจยอมพูดกับเขาแม้ว่าจะไม่อยากทำเช่นนั้นก็ตาม แต่หน้าที่ของเธอคือทำทุกทางไม่ให้เขาออกจากห้องไปได้ "ฉัน...เรียนมหาลัยอยู่ปีสุดท้าย"




    ร่างสูงมองเธออย่างประหลาดใจนิดๆที่จู่ๆเธอก็ยอมพูดเรื่องของตัวเองทั้งๆที่เมื่อครู่ยังมีกิริยาปิดกั้นไม่อยากเสวนา 




    "เรียนอะไรเหรอ"




    "กฎหมาย"




    "ก็แสดงว่าเธอฉลาดใช่เล่นเลยสิเนี่ย แล้วมีพี่น้องกี่คน" เขาซักถามต่อ แม้จะรู้ว่าหญิงสาวถามคำตอบคำ คุยกับเขาอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ แต่เขาก็อยากรู้จักตัวตนของเธอให้มากกว่านี้




    "ฉันเป็นลูกคนเดียว..."




    "แล้วมีแฟนหรือเปล่า แดริลคงไม่ใช่แฟนของเธอหรอกใช่มั้ย"




    หญิงสาวขมวดคิ้วนิ่วหน้ากับคำถามละลาบละล้วงของอีกฝ่าย "ไม่ใช่



    ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่าน้ำเสียงของเธอแข็งกระด้างเกินไป เธอจึงพยายามควบคุมน้ำเสียงและถามเขาบ้าง เพราะไม่อยากเป็นฝ่ายพูดเรื่องของตัวเอง ถ้ามัวแต่คุยเรื่องของเธอ เธอก็ได้แต่ตอบสั้นๆ ซึ่งบทสนทนาก็คงจะจบในไม่ช้า แต่ถ้าลองให้นีแกนเป็นฝ่ายพูด ก็จะช่วยถ่วงเวลาให้คุยกันนานขึ้น 



    "แล้วคุณล่ะคะ"



    "ฉันเหรอ....ฉันเคยเป็นครูมาก่อน" เขาตอบเสียงเรียบก่อนที่จะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าคนตัวเล็กที่มองมาที่เขาอย่างตกตะลึง..นีแกนเนี่ยนะเคยเป็นครูมาก่อน 



    "ทำไม นึกไม่ถึงเหรอว่าอย่างฉันจะเคยเป็นครูมาก่อน"




    "คุณคงเป็นครูที่ดุมากสินะ"




    "ก็คงใช่ ฉันโดนผู้ปกครองร้องเรียนกับทางโรงเรียนทุกอาทิตย์เลยล่ะ เพราะปากเสียๆของฉันที่ชอบพูดจาไม่ดี"




    "แล้ว..." หญิงสาวมีท่าทีลังเล ราวกับกำลังคิดว่าควรจะถามออกไปดีหรือไม่ 




    "สงสัยอะไรเหรอ" แต่เมื่อนีแกนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มและแววตาที่เขามองมา...ไม่ดุร้ายเหมือนทุกครั้ง เธอจึงกล้าที่จะถามออกไป 



    "คุณมีภรรยาหลายคนแบบนี้มาตั้งแต่ต้นเลยเหรอคะ"



    เขาจ้องดวงตากลมโตอย่างแน่นิ่ง "ไม่หรอก ก่อนหน้านี้ ฉันมีภรรยาคนเดียว ชื่อลูเซียล...แต่ฉันเป็นสามีที่ไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่ ชีวิตแต่งงานมันคงไม่ใช่สำหรับฉัน...หลังจากที่ฉันนอกใจเขา ฉันก็มารู้ว่าเขาเป็นมะเร็ง"



    ลิลาฟังอย่างนิ่งเงียบ...ทั้งรู้สึกเศร้าและสงสารผู้หญิงคนนั้น และจู่ๆความรู้จักเกลียดชังขยะแขยงเขาก็ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งทำให้เธอพาลชักมือของตัวเองที่ถูกเขากุมอยู่กลับมา นีแกนมองการกระทำของเธออย่างนิ่งๆและยอมปล่อยมือเธอแต่โดยดี เขามองใบหน้าสวยหวานตอนนี้ที่บิดเบี้ยวราวกับอึดอัดที่ต้องอยู่ข้างๆเขา ถึงกระนั้นเขาก็เล่าต่อ 



    "ฉันกลับมาอยู่กับเขาจนถึงวินาทีสุดท้าย...และหลังจากนั้น ฉันก็เป็นอย่างที่เธอเห็นทุกวันนี้"



    หญิงสาวเงียบราวกับกำลังใช้ความคิดประเมิลข้อมูลที่เพิ่งได้รับรู้... การที่นีแกนกลับไปอยู่ดูแลภรรยาของเขาในช่วงวาระสุดท้ายของเธอ ก็คงแปลว่าเขารักเธอและยังมีหัวจิตหัวใจอยู่บ้าง...เขาคงจะรู้สึกผิดที่ทำผิดต่อเธอ....แต่ถ้ารู้สึกอย่างนั้นแล้ว ทำไมเขากลับใช้ชีวิตอย่างนี้ได้ ทำไมไม่ทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงภรรยาของเขา แต่เขากลับมามีภรรยาหลายคนเป็นฮาเร็ม แย่และหนักกว่ากว่าเดิมเสียอีก คนที่ผ่านโลกมาก่อนพอจะอ่านสีหน้าและความคิดของเธอออกจึงตอบคำถามที่เธอข้องใจแต่ไม่ได้พูดออกมา 



    "ฉันบอกแล้วไง ชีวิตแต่งงาน ผัวเดียวเมียเดียว มันไม่ใช่สำหรับฉัน"




    "คุณ....ไม่สงสารผู้หญิงเหรอ พวกภรรยาของคุณ รวมทั้งเชอร์รี่ คุณไม่นึกถึงจิตใจพวกเขาบ้างเหรอ"




    นีแกนเลิกคิ้วสูง "ผู้หญิงทุกคนของฉัน มาเป็นภรรยาของฉันด้วยความเต็มใจทุกคน ฉันดูแลปกป้องอย่างดี ให้ชีวิตที่ดี ดีกว่าการต้องไปเสี่ยงตายในโลกภายนอก เธอจะบอกว่าฉันยังไม่เมตตาพวกเขาเหรอ?"




    "คุณเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น เป็นที่ระบายอารมณ์ คุณจำสีหน้าที่เจ็บปวดภรรยาของคุณตอนที่เธอรู้ว่าคุณนอกใจได้มั้ย คุณควรจะจำไว้ให้ติดตาเลยนะ แต่คุณคงลืมไปแล้ว ไม่งั้นคุณคงไม่มีภรรยาถึงสี่คน"




    เจ้าของใบหน้าคมเข้มมองเธอด้วยสายตาแข็งกร้าวก่อนที่จะพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา 



    "ห้าคน...ห้าคนต่างหาก เธอก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน เลิกโลกสวยฝันหวานได้แล้ว ความรักมันไม่มีอยู่จริงหรอก เธอเลิกหวังไปได้เลยว่าเธอจะได้แต่งงานอยู่แบบผัวเดียวเมียเดียวกับผู้ชายที่เธอใฝ่ฝัน เพราะความจริงคือ ฉันเป็นสามีเธอ เธอเป็นผู้หญิงของฉัน ฉันสามารถดูแลเธอทั้งชีวิตให้เธอปลอดภัยได้ แค่นี้ก็ถือว่าหรูแล้ว



    ดวงตากลมโตมองเขาด้วยสายตารังเกียจโกรธ....ไม่รู้ทำไม แต่มันเป็นสายตาที่เขาไม่อยากเห็นจากเธอ เขารู้ดีว่ามันเป็นเพราะคำพูดของเขา แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อมันเป็นความจริง




    "เอาล่ะ ฉันว่าเราเลิกเถียงกันดีกว่า นอนกันเถอะ ดึกแล้ว" เขากล่าวก่อนที่จะสวมกอดเธอแล้วหลับตาลง แม้ว่าเธอจะดิ้นขลุกขลักปฎิเสธอ้อมกอดนั้นแต่เขาก็ไม่มีท่าว่าจะปล่อยเธอ แต่กลับพูดกับเธอในขณะที่ยังหลับตาอยู่ 



    "ดิ้นอย่างนี้คือหายแล้วใช่มั้ย ฉันจะได้ทำมากกว่ากอด" ได้ผล...เธอนิ่งราวกับท่อนไม้ จนได้ยินแค่เสียงลมหายใจของทั้งสอง...ไม่รู้ว่าลิลานอนนิ่งอยู่นานเท่าไหร่แล้ว แต่เธอก็รู้สึกได้ว่านีแกนหลับไปแล้วจริงๆ ซึ่งก็ทำให้เธอรู้สึกเบาใจลง หลับไปได้เสียก็ดี เพราะตอนไม่หลับก็ถกเถียงเล่นสงครามประสาทจนน่าปวดหัว หญิงสาวมองเพดานห้องและนึกถึงแดริล...ป่านนี้จะหนีออกมาได้รึยังนะ และเมื่อนีแกนรู้เรื่องในวันรุ่งขึ้น เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าปฎิกิริยาของเขาจะเป็นเช่นไร...




    .




    .




    .




    ลิลาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงนุ่มพูดปลุกเธอใกล้ๆหู "ตื่นได้แล้ว สาวน้อย



    เสียงของเขาทำให้หัวใจเธอพองโตขึ้นมาทันที ที่แน่ๆ...ไม่ใช่เสียงของนีแกน แต่เป็นเสียงของจีซัสนั่นเองที่มองมาที่เธอด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น...เขากลับมาพร้อมกับข่าวดีใช่มั้ย...




    "นีแกนออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้วล่ะ ดไวท์มาบอกว่าแดริลหนีไป ตอนนี้ก็คงจะวุ่นวายกันน่าดู"




    "แดริลล่ะ??" เธอถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก 



    "ตอนแรกก็ว่าจะพาไปหลบที่อเล็กซานเดรีย แต่มันอันตรายไป เพราะที่แรกที่นีแกนจะไปเมื่อรู้ว่าแดริลหนีออกไปได้ ก็คืออเล็กซานเดรีย ก็เลย..."




    ร่างบึกบึนปรากฎตัวเข้ามาในห้อง... "พามาหลบที่นี่แทน" จีซัสเอ่ยยิ้มๆ และเห็นว่าบัดนี้ น้ำตากำลังไหลลงมาจากดวงตาคู่สวยเมื่อเห็นร่างที่เดินเข้ามาหาเธอ 



    "แดริล..." ร่างสูงโผเข้าสวมกอดเธอโดยไม่พูดอะไรนอกจากกอดกันอย่างแน่นหนา... 



    "นายเป็นยังไงบ้าง ฮึก..ฉันนึกว่าจะไม่ได้เจอนายอีกแล้ว"



    "ตอนแรกหมอนี่ก็ไม่ยอมจะหนีหรอก จนฉันต้องบอกว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว เลยยอมออกมาแต่โดยดี" จีซัสอธิบาย



    "เธอ...เป็นอะไร" แดริลค่อยๆผละออกจากตัวหญิงสาวและสังเกตว่าเธอมีแต่ผ้าก็อตสีขาวพันทั้งที่หัว และแขนขา



    "ไม่ใช่ฝีมือนีแกนหรอก....ฉันทำเอง" ลิลาสารภาพ



    "ตอนแรกก็แค่ทำเพราะอยากหาทางหนีทีไล่เพราะไม่อยากโดนเคลม แต่ดันเป็นการเปิดโอกาสให้นายหนีออกมาได้ ถือว่าโชคดีจริงๆ" จีซัสเอ่ยยิ้มๆก่อนที่จะเปลี่ยนมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "แดริล ช่วงนี้นายต้องเก็บตัวอยู่ที่ห้องลับใต้ดินไปก่อนนะ เพราะยังไงนีแกนก็ต้องกลับมาดูลิลาแน่ๆ" แดริลพยักหน้าเบาๆอย่างรับรู้




    "เป็นยังไงบ้าง...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ลิลา" เสียงอันคุ้นหูที่ไม่ได้ยินมานานทำให้ลิลาและแดริลต้องหันไปมองก็เห็นหญิงสาวผมสั้นเดินเข้ามาในห้อง...




    "แม็กกี้!" ลิลาร้องออกมาด้วยความตะลึงและดีใจ นานมากแล้วที่เธอไม่ได้เจอแม็กกี้...เธอเปลี่ยนไปมาก ทั้งผมที่ตัดสั้นและแววตาที่บ่งบอกว่าผ่านมรสุมชีวิตมาหนักจนทำให้เธอแข็งแกร่งมากกว่าเดิม...และลิลาก็สะดุดตากับท้องโตของเธอ 



    "ท้องโตเชียว...กี่เดือนแล้ว" หญิงสาวทักทายเสียงแผ่วพยายามกลั้นน้ำตา ทั้งดีใจและเสียใจไปในตัว...เธอดีใจ ที่ได้เจอคนในกลุ่มอีกครั้ง แต่ก็เสียใจกับเรื่องของเกล็น แม็กกี้คงต้องเจ็บปวดมาก หญิงสาวพอจะอ่านสายตาของลิลาที่มองมาที่เธอได้ มันมีทั้งความรักและสงสาร เธอเดินเข้าไปสวมกอดลิลาที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้



    "ความจริงฉันอยากจะมาเจอเธอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว...แต่ไม่สะดวก" แม็กกี้หลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงชื่อนีแกน เธอรู้เรื่องจากจีซัสแล้วว่าลิลาอยู่ที่นี่ เธอเองก็ต้องเก็บตัวอยู่ที่ห้องลับใต้ดิน... ขณะนั้นนั่นเอง เธอก็หันมาหาแดริลที่ยืนนิ่งก้มหน้าเมื่อเธอเดินเข้ามาหา 



    "ตั้งแต่มาถึง...นายไม่พูดอะไรกับฉันเลยนะ"



    คนตัวโตไม่กล้าสู้หน้าเธอ...เพราะเขาโทษตัวเองมาโดยตลอดว่าเป็นสาเหตุให้เกล็นต้องตาย ทำให้เขารู้สึกผิดต่อแม็กกี้และลูกในท้องของเธอมาก... 



    "ฉันขอโทษ..." เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้ หญิงสาวส่ายหน้าทั้งน้ำตาก่อนที่จะเอ่ยกับเขา 



    "ไม่ใช่ความผิดของนาย...เลิกโทษตัวเองเถอะ เรามีกันอยู่แค่นี้นะ..."  ว่าแล้วเธอก็สวมกอดกับแดริล...ลิลาที่อยู่บนเตียงก็น้ำตาไหลกับภาพตรงหน้าด้วยความตื้นตันและเจ็บปวดพอๆกัน



    "เฮ้อ...เอาล่ะ เลิกร้องไห้กันดีกว่า ทานอาหารเช้ากันดีกว่านะ" แม็กกี้ค่อยๆคลายกอดและปาดน้ำตาบนใบหน้าของเธอแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มอันสดใส



    "ฉันให้คนจัดอาหารเช้ามาทานกันในห้องนี้แล้วล่ะ ในเมื่อลิลายังไม่สามารถขยับออกจากเตียงได้" จีซัสเอ่ย



    "แล้วฉันต้องอยู่ในสภาพนี้อีกนานแค่ไหน ฉันเมื่อยไปหมดแล้ว" หญิงสาวโอดครวญ



    "คราวหลังก็อย่าทำอะไรแผลงๆสิ" จีซัสหัวเราะกลั้วก่อนที่จะตอบเธออย่างจริงจัง "ฮาร์แลนบอกว่าอีกไม่กี่อาทิตย์ก็น่าจะเริ่มทำกายภาพบำบัดได้แล้วนะ"




    "เอ้อ...แล้วแอนเดรียล่ะ อยู่ที่อเล็กซานเดรียกับกลุ่มของริคเหรอ" ลิลาหันมาถามแม็กกี้ ซึ่งสีหน้าของแม็กกี้นั้นดูตกตะลึงกับคำถามของหญิงสาวแต่เมื่อเจอสายตาของแดริลที่มองมาอย่างนิ่งๆเธอก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ




    "อะ อื้ม...อ้ะ อาหารมาแล้ว ทานกันเถอะ มีแฮชบราวน์ของโปรดเธอด้วยนะ" แม็กกี้รีบเปลี่ยนเรื่องและยกถาดอาหารมาวางให้กับหญิงสาวบนเตียง แดริลรีบเข้ามารับต่อก่อนที่จะเอ่ยกับแม็กกี้ 



    "ฉันจัดการเอง เธอกินอาหารของเธอเถอะ เดี๋ยวลูกจะหิว"



    แม็กกี้พยักหน้ายิ้มๆก่อนที่จะไปนั่งกับจีซัสและมองดูแดริลป้อนอาหารลิลาก่อนที่จีซัสจะหันมากระซิบกับเธอ 



    "แอนเดรียคือใครเหรอ" ความจริงจีซัสรู้อยู่แล้วว่าแอนเดรียเป็นใคร แต่เขาอยากรู้ว่าแอนเดรียมีความสำคัญยังไงกับลิลามากกว่า



    "แอนเดรียอยู่กับกลุ่มริคมาตั้งแต่ต้น...ตั้งแต่ที่แอตลานต้าพร้อมๆกับลิลาเลย เค้าสนิทกันมาก แอนเดรียเป็นเหมือนทั้งแม่และพี่สาว แอนเดรียเป็นทนายมาก่อน ส่วนลิลาก็เรียนกฎหมาย เลยเข้ากันได้ดี เวลาคุยกันก็จะมีแต่เรื่องกฎหมายอะไรก็ไม่รู้ที่เค้าเข้าใจกันแค่สองคน...ตลกดี เพราะเวลาถกเถียงกัน แอนเดรียจะบอกเสมอว่าลิลาน่ะโลกสวยเกิน และตามคนอื่นไม่ค่อยทัน ไม่เหมาะจะเป็นทนายเอาเสียเลย แต่เค้าก็เข้ากันได้นะ แอนเดรียคอยช่วยปรับทัศนคติให้ลิลาอยู่บ่อยๆเพราะเธอยังเด็ก ใครๆก็รักและเอ็นดูทะนุทะนอมลิลาทั้งนั้นแหละ เธอเป็นคนน่ารัก" แม็กกี้เล่าให้ชายหนุ่มฟังด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อนึกหวนถึงวันเก่าๆ 



    "แล้ว...เกิดอะไรขึ้นเหรอ"



    "ตอนเกิดสงครามกับไอ้ผู้ว่า...มันทำให้แอนเดรียโดนวอลเกอร์ตัวนึงกัด เธอเด็ดเดี่ยวมากนะ...เธอจบชีวิตเธอเองด้วยกระสุนนัดเดียว"



    "ลิลาคงยังไม่รู้สินะ..."



    "ถ้ารู้ก็คงสติแตกแหละ...แดริลเลยไม่กล้าบอก ลิลารักแอนเดรียมาก"



    จีซัสรับฟังอย่างเงียบๆ...ก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปเห็นรถของนีแกนที่ขับมาแต่ไกล เขาเด้งลุกขึ้นทันที 



    "นีแกนมาแล้ว เธอกับแดริลรีบไปซ่อนตัวเร็ว" แม็กกี้รู้ดีว่าต้องทำอย่างไร เธอมีท่าทีกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วแม้ว่าจะท้องแก่แล้วก็ตามแต่เธอก็เป็นคนนำทางแดริลไปห้องลับใต้ดินที่เธอต้องซ่อนตัวอยู่เป็นประจำเวลาที่นีแกนมา เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยจีซัสก็หันมาเอ่ยกับลิลาที่มีสีหน้าตื่นตระหนก 



    "ไม่ต้องกลัวนะ อย่าทำตัวมีพิรุธ" สิ้นคำของเขาปุ๊บ นีแกนก็เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าทะมึนทึง...ทำให้ลิลาเสียวสันหลังวาบ



    "เธออาจจะดีใจกับสิ่งที่ฉันกำลังจะบอกเธอ....แดริลมันหนีไปได้ แต่ฉันบอกไว้เลย ว่าอย่าดีใจไป...เพราะยังไงซะ ฉันก็จะลากคอมันกลับมาให้ได้ เพราะฉะนั้น เธออย่าคิดที่จะผิดสัญญากับฉัน" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างดุดัน



    "คุณโกรธก็อย่ามาลงกับฉันสิ ที่เขาหนีไปได้ก็เพราะคุณมันไม่รอบคอบเอง ปล่อยให้เขาหนีออกไปได้ง่ายๆ" เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชาโดยที่ไม่สบตากับร่างสูง นีแกนขบฟันแน่นก่อนที่จะเอ่ยเสียงแข็ง 



    "มันหนีไปได้....แต่ฉันไม่มีทางให้เธอหนีตามมันไปได้แน่ๆ"



    "ฉันไม่แคร์ ฉันไม่จำเป็นต้องเป็นอิสระก็ได้ แค่แดริลไม่ต้องอยู่โดนคุณทรมาณทารุณ ฉันก็พอใจ กินอิ่มนอนหลับแล้วล่ะ"



    ร่างสูงโกรธเลือดขึ้นหน้า แต่เขาก็พยายามระงับอารมณ์เพราะรู้ว่าคนตัวเล็กจงใจกวนประสาทยั่วโมโหเขา 



    "เฮอะ ในที่สุดพอมีโอกาสมันก็เลือกตัวเอง มันทิ้งเธอไป มันไม่ได้รักเธอเลยสักนิด เธอรู้สึกยังไงบ้างที่รู้แบบนี้" เขาจงใจพูดจาถากถาง แต่คนตัวเล็กกลับตอบมาอย่างเจ็บแสบ




    "คุณไม่ใช่แดริล คุณอย่าพูดแทนเขา คนที่คิดถึงแต่ตัวเอง เอาแต่ใจตัวเองอย่างคุณ... คนแบบนี้ไม่รู้จักความรักเลยสักนิด เพราะฉะนั้นคุณอย่ามาตัดสินว่าใครจะรักหรือไม่รักใครด้วยความคิดกลวงๆของคุณ...คุณมันไม่เข้าใจอะไรเลย"



    ดวงตาสีน้ำตาลคมเข้มเกรี้ยวกราดกว่าครั้งไหนๆ จีซัสได้แต่ยืนมองอย่างเงียบๆแทบจะหยุดหายใจกับคำพูดที่ออกมาจากปากของผู้หญิงตัวเล็กๆที่กล้าพูดแทงใจดำคนอย่างนีแกน ดูเหมือนว่าเธอจะจี้ถูกจุดเพราะตอนนี้เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่านีแกนจะมีปฎิกิริยาอย่างไร แต่ที่แน่ๆ มันไม่เป็นผลดีกับลิลาแน่ๆ 



    แต่เธอดูจะแข็งข้อกับเขาหนักกว่าเดิมเพราะแดริลหนีรอดปลอดภัยแล้ว นีแกนก็ไม่สามารถขู่จะทารุณแดริลเพื่อให้เธอทำในสิ่งที่เขาต้องการได้ แน่นอนว่านีแกนรู้ดีถึงจุดนี้ ว่าถ้าไม่มีแดริลแล้ว หญิงสาวจะต้องดื้อกับเขาแน่ๆ  แต่คนอย่างนีแกนจะไม่ยอมหัวเสียกับคำพูดของผู้หญิงตัวเล็กๆแน่นอน เขาเดินเข้ามาจับคางเธอก่อนที่จะเอ่ยเสียงเข้ม 



    "ไว้เธอหายดีเมื่อไหร่...เธอก็จะได้รู้ ว่าถึงไม่มีแดริล เธอก็ยังเป็นเพียงลูกนกตัวน้อยๆในกำมือของฉัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง" เขาเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มอันชั่วร้ายและมองลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ



    ขณะนั้นนั่นเอง เชอร์รี่ก็เดินเข้ามาในห้อง นีแกนจึงถอยออกห่างหญิงสาว 



    "ลิลา ทานอาหารเช้าแล้วเหรอ แย่จัง ฉันอุตส่าห์ทำแพนเค้กมาให้ มีน้ำผลไม้คั้นสดๆด้วยนะ"



    "กินอีกก็ได้ค่ะ ฉันยังกินได้อีก" หญิงสาวเอ่ยเสียงร่า ผิดกับตอนที่คุยกับนีแกน



    "โห ยังจะกินอีกเหรอเนี่ย กินเก่งจัง" จีซัสเอ่ยอย่างทึ่งๆ



    "ก็เค้าอุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้นี่" เธอหันมาตอบด้วยรอยยิ้มอันสดใส และทำราวกับว่าทั้งห้องนี้มีอยู่แค่เธอ เชอร์รี่ และจีซัส



    "ไม่จริง เธอกินจุและเห็นแก่กินมากกว่า เมื่อกี๊ฉันเห็นเธอกินขนมปังปิ้งไปสองแผ่น ไส้กรอกสองชิ้น แฮชบราวน์อีกสาม น้ำองุ่นอีกแก้วโต กินอย่างนี้อีกไม่กี่วันเธอก็มีแรงไปสู้กับวอล์กเกอร์สิบตัวแล้วล่ะมั้ง" จีซัสแหย่



    "ฉันกินจุซะที่ไหนล่ะ ก็..." เธอกำลังจะบอกว่าแดริลต่างหากที่เป็นคนป้อนเธอไม่หยุด แต่นึกขึ้นได้ว่านีแกนยังอยู่ 



    "ก็มันอร่อยนี่..."



    นีแกนมองคนตัวเล็กอย่างเงียบๆด้วยสายตาแน่นิ่งก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไร



    "อ้าว...งอนออกไปเสียแล้ว" จีซัสหัวเราะกลั้ว



    เมื่อเห็นว่านีแกนไปแล้ว เชอร์รี่จึงเปิดประเด็น "แดริลหนีออกมาได้อย่างปลอดภัยใช่มั้ย"



    "อื้ม...ขอบคุณนะ" จีซัสเอ่ยเสียงนุ่มแต่หนักแน่น แววตาที่มองมาที่เธอได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอเองก็สัมผัสได้ ว่าจีซัสได้เลิกตั้งแง่กับเธอ และเริ่มเห็นเธอเป็นมิตรแล้ว



    "ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยแดริล ทั้งๆที่ไม่ใช่ธุระของคุณเลย" ลิลาเอื้อมมือมาจับแขนของเชอร์รี่ด้วยความซาบซึ้ง เชอร์รี่ลูบหัวหญิงสาวเบาๆอย่างเอ็นดู



    "นั่นสิ...ทำไมเธอต้องดีกับพวกฉันขนาดนี้ด้วย ความจริงเธอก็เป็นภรรยาของนีแกน เธอควรจะเกลียดลิลาไม่ใช่เหรอ" จีซัสถามด้วยความสงสัย



    เชอร์รี่นิ่งไปก่อนที่จะถอนหายใจและหันมาสบตาลิลาและจีซัส... 



    "ฉันอยู่กับนีแกนมานาน...นานจนฉันเคยชิน นานกว่าพวกผู้หญิงคนไหนๆของเขา การอยู่ที่นั่น มันก็เหมือนอยู่ไปวันๆ...ถามว่าสบายมั้ย ก็สบาย ฉันไม่ต้องทำอะไรเลย... แต่นายก็เข้าใจใช่มั้ย ว่ามันไม่ใช่ชีวิตที่ฉันเลือก ฉันอยู่อย่างเงียบเหงา ไร้ความหมาย จนกระทั่งมีลิลาเข้ามา..." เธอทอดสายตามายังเด็กสาวที่มองเธอตาแป๋ว มือเรียวยื่นมาบีบแก้มเธอเบาๆอย่างเอ็นดู 



    "ตั้งแต่วันแรกที่ลิลามาอยู่ ก็เกิดเรื่องเลย" เชอร์รี่หัวเราะก่อนที่จะเอ่ยต่อ "หมายถึงว่า...จากเดิมที่ฉันมีชีวิตน่าเบื่อ ไม่ค่อยได้คุยกับใคร ผู้หญิงของนีแกนก็มัวแต่อิจฉากันเอง พอเจอลิลา นีแกนก็ให้ฉันมีหน้าที่คอยดูแลเธอ...ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันกลับมามีความหมายอีกครั้ง เพราะฉันมีอะไรให้ทำตลอด ไม่รู้สึกเหงาเลย...รู้มั้ย ฉันชอบมากเลยนะ ที่ตื่นมาตอนเช้า สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงคือลิลา พาลิลาไปแต่งตัว ไปกินข้าว หรือเวลาเธอดื้อกับนีแกนขึ้นมา เขามักจะบอกให้ฉันไปปรับทัศนคติเธอ ฉันชอบมากเลย...ที่ต้องคอยตักเตือนเธอประจำเวลาเธอเกเร ก่อนนอน ฉันก็จะอดนึกถึงเธอไม่ได้ ห่วงว่านีแกนจะอ่อนโยนกับเธออย่างที่เขาสัญญาหรือเปล่า แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเธอมันจอมสร้างวีรกรรม เลยกลายเป็นห่วงนีแกนมากกว่า ฮะๆ..ฉันล้อเล่น"




    ลิลานั่งฟังอย่างเงียบๆ รู้สึกจุกที่อกอย่างบอกไม่ถูกและขอบตาร้อนผ่าว...เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหงาของเชอร์รี่ เธอแค่ต้องการเพื่อน อยากมีมิตรภาพดีๆที่เธอไม่เคยได้มี มันน่าเศร้ามาก ที่สิ่งเล็กๆ แค่การดูแลลิลา จะทำให้เธอรู้สึกมีความหมายขึ้นมาบ้าง... จีซัสเองก็นิ่งพูดไม่ออก 



    "เอ่อ...ฉันก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเธอหรอกนะ จากที่ฉันเห็น เธอก็ดีกับลิลามาโดยตลอด...เธอเป็นคนดีนะ ฉันเห็นเธอเป็นเพื่อนคนนึงของฉัน"




    น้ำใสๆเริ่มพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวย "จริงเหรอ...นายพูดจริงๆเหรอ"




    "จริงสิ เฮ้ย ร้องไห้ทำไม อย่าร้องนะ ฉันแพ้น้ำตาผู้หญิง ลิลาก็ขี้แย นี่เธอก็อีกคนเหรอ"




    เชอร์รี่หัวเราะพลางเช็ดน้ำตา "ลิลาก็ขี้แยอยู่เรื่องเดียวนั่นแหละ เรื่องบนเตียงกับนีแกน พูดทีไร เป็นต้องน้ำตาแตกทุกที จริงมั้ย"




    "อ้าว...ไหงกลายมารุมหัวเผากันอย่างนี้ล่ะ" ลิลาเอ่ยด้วยสีหน้าเหลอหลา เชอร์รี่ลูบหัวเธออีกครั้งอย่างรักใคร่เอ็นดูก่อนที่จะเอ่ยในสิ่งที่เธอคาดว่าจะต้องทำให้เธอดีใจแน่ๆ 



    "อ้อ ลืมบอกไป...นีแกนให้ฉันมาอยู่ดูแลเธอที่นี่นะ เพราะช่วงนี้นีแกนต้องยุ่งกับการตามหาตัวแดริลมาให้ได้"



    "จริงเหรอคะ" ลิลาเผลอทิ้งส้อมขณะที่กำลังจิ้มกินแพนเค้กอยู่ ทำเอาจีซัสหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้กับปฎิกิริยาของหญิงสาว



    "ถึงกับตาเป็นประกายเชียวนะพอรู้ว่านีแกนจะไม่อยู่" เขาเอ่ยอย่างเอ็นดูหญิงสาวแล้วลูบหัวเธอ




    มาอัพแล้วค่า ดีใจมากที่มีคนอ่านแล้วชอบแล้วคอมเม้นท์มา ทำให้ไรเตอร์รู้ว่ามีคนอ่านอยู่ด้วย

    แล้วไรเตอร์จะพยายามมาอัพบ่อยๆนะคะ ฝากฟิคเรื่องนี้ไว้ในใจทุกคนด้วยนะงับ :)





    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×