ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [The Walking Dead: Negan] Bad At Love

    ลำดับตอนที่ #3 : ll Chapter 3 ll Hill top

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 403
      18
      20 ก.ค. 61




    MUSIC: Two Weeks - FKA Twigs




    เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เชอร์รี่ก็พาลิลามาทานอาหารเช้าในห้องโถงซึ่งมีนีแกนและเหล่าผู้หญิงของเขานั่งอยู่ก่อนแล้ว นีแกนที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะเมื่อเห็นร่างบางเดินเข้าห้องมาก็หันไปมองเชอร์รี่ตาขวางก่อนที่จะถามเสียงเข้ม 


    ทำไมแม่ตัวแสบถึงไม่ใส่ชุดที่ควรจะใส่"



    "เอ่อ...ฉันพยายามเกลี้ยกล่อมให้ใส่แล้ว แต่เธอไม่ยอม" เชอร์รี่อธิบาย ชุดที่นีแกนหมายถึงคือชุดเดรสสั้นสีดำรัดรูปที่ภรรยาของเขาทุกคนต้องใส่ แต่แม่สาวน้อยจอมดื้อกลับมาในชุดกางเกงยีนสีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาวที่พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก ความจริงแล้วเธอใส่อะไรก็ดูดีไปหมด แต่จะได้ดั่งใจกว่านี้ถ้าเกิดเธอยอมทำตามกฎระเบียบ ยิ่งเธอทำแบบนี้ก็เหมือนเป็นการอวดดี และท้าทายเขา ทำให้เขาเสียการปกครองหมด




    นีแกนมองคนตัวเล็กด้วยสายตาดุดันแต่เธอก็หันหน้าหนีไม่ยอมมองเขา 



    "ยอมให้แค่วันนี้วันเดียวนะ...ถ้าเกิดพรุ่งนี้ฉันไม่เห็นเธอในชุดที่ฉันต้องการให้เธอใส่ แดริลจะไม่ได้กินอะไรเลย จากที่ธรรมดาก็ได้กินแค่แซนวิชไส้อาหารสุนัข" เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ ทำให้ลิลาหันมามองเขาด้วยสายตาตื่นตระหนกก่อนที่แววตาเธอจะเปลี่ยนมาฉายแววเกรี้ยวโกรธ จากที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังเชอร์รี่เธอก็เดินเข้ามายืนค้ำหัวพูดกับเขาอย่างไม่กลัวตายเมื่อรู้ว่าแดริลต้องได้กินอาหารทุเรศๆแบบนั้น



    "คุณมันโรคจิต! เปลี่ยนอาหารให้แดริลเดี๋ยวนี้นะ"




    นีแกนหันมามองเธออย่างไม่สกทกสะเทือนกับท่าทีเอาเรื่องของหญิงสาว 



    "นี่ เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงมาออกคำสั่งฉัน...การเป็นอยู่ของแดริลน่ะ ขึ้นอยู่กับเธอล้วนๆ ถ้าเธออยากให้หมอนั่นได้กินของดีๆ มากกว่าวันละหนึ่งมื้อ ได้มีคุณภาพชีวิตดีๆ เธอก็รู้ใช่ไหม...ว่าควรจะทำตัวยังไง"




    "คุณต้องการอะไร" เธอถามเสียงห้วน




    "นั่งลงสิ" เสียงทุ้มเอ่ยและผายมือมายังที่นั่งข้างๆเขาที่ว่างอยู่ เธอจำใจนั่งลงก่อนที่เชอร์รี่จะนั่งประกบเธออยู่อีกข้างนึง




    "ในเมื่อเธอรู้จักกับเชอร์รี่แล้ว ฉันก็จะแนะนำให้เธอรู้จักกับแอมเบอร์ แฟรงกี้ และธัญญ่า" ภรรยาอีกสามคนที่เหลือของเขาที่เขาพูดถึงซึ่งก็นั่งอยู่ตรงข้ามกับลิลานั่นเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่พวกเธอจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรกับเธอ ยกเว้นก็แต่ผู้หญิงผมทองที่ชื่อแอมเบอร์...ดูเธอใจลอย และไม่ได้สนใจกับบทสนทนาบนโต๊ะอาหารสักเท่าไหร่




    "ทานนี่สิ อร่อยนะ" นีแกนเอ่ยพร้อมกับตักไส้กรอกมาใส่ในจานของลิลาอย่างอารมณ์ดี...แต่รอยยิ้มอันชื่นมื่นของเขาก็ค่อยๆจางลงเปลี่ยนมาเป็นสีหน้ายักษ์เมื่อคนตัวเล็กเลือกที่จะไม่แตะไส้กรอกที่เขาให้เลยสักนิดแต่ทานอย่างอื่นในจานหน้าตาเฉย... แม้เชอร์รี่จะสะกิดเธอ แต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเจ้าตัวจะยอมแตะไส้กรอกนั่น...ในเมื่ออุตส่าห์พยายามเอาใจแล้วยังดื้อ กล้าหักหน้าเขาต่อหน้าคนอื่นๆ...เห็นทีเขาจะต้องใช้ไม้แข็งกับเธอเป็นการสั่งสอน




    "มานั่งบนตกฉันเดี๋ยวนี้" เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน... และเมื่อคนตัวเล็กยังคงนั่งนิ่งเฉยทำหูทวนลมใส่เขา เขาจึงหันไปสั่งดไวท์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง 



    "เช้านี้ อาหารเช้าของแดริล จัดไปเป็นการเฆี่ยนสักห้าสิบครั้งก็แล้วกัน" สิ้นคำของเขา ดไวท์ก็ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องเพื่อจัดการในสิ่งที่นีแกนมอบหมาย หญฺิงสาวกดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือดและบีบกำมีดและส้อมในมือแน่นด้วยความอัดอั้นจนมืดสั่น ขอบตาร้อนผ่าวราวกับจะร้องไห้ด้วยความโกรธเมื่อโดนนีแกนจงใจกดดันบีบคั้นเธอ 



    เธอจำใจทิ้งมีดและส้อมในมือแล้วลุกขึ้นมาทิ้งตัวลงบนตักของคนตัวโต เมื่อเห็นดังนั้นดไวท์จึงหยุดกึก นีแกนยิ้มอย่างพอใจเมื่อสามารถกำหราบเธอได้... อ้อมแขนข้างนึงของเขาโอบกอดเอวเธอเอาไว้โดยมือก็จับต้นขาของเธอเอาไว้พร้อมกับลูบไล้นิ้วไปมาบนเรียวขาของเธอ ใบหน้าคมจ้องมองใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้กำลังนิ่วหน้าพยายามสะกดอารมณ์ตัวเอง... 



    "ไม่ต้องเกร็งขนาดนี้ก็ได้...ดูสิ ตัวสั่นเชียว ไม่ต้องอาย ไม่ต้องประหม่าหรอก เดี๋ยวก็ชิน ฉันจะให้เธอทำอย่างนี้ทุกเช้าเลย คนดีของฉัน" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างนุ่มนวลใกล้ๆหูเธออย่างยั่วยวนก่อนที่อีกมือนึงของเขาจะจิ้มไส้กรอกขึ้นมาจ่อที่ปากของเธอ




    "อ้าสิ...อ้ำ เร็วเข้า..." เขาคะยั้นคะยอด้วยน้ำเสียงรื่นเริงเวลาป้อนข้าวเด็กและจ้องมองใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้แดงก่ำราวกับจะร้องไห้...แต่เธอก็พยายามกลั้นเอาไว้ คนตัวโตรู้ดีว่าร่างบางที่นั่งตัวแข็งทื่อบนตักเขาอย่างฝืนใจกำลังรู้สึกเหมือนโดนบีบคั้นให้ตัวเล็กเท่ามด บังคับฝืนใจเธอ ให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นแบบนี้ เพื่อให้เธอได้รู้ว่าเธอไม่สามารถเลือกทำตามใจตัวเองได้...เขาคือเจ้าชีวิตเธอ เขาเนี่ยแหละ ผู้ที่ชี้เป็นชี้ตาย บอกให้เธอทำอะไร เธอก็ต้องทำอย่างนั้น... 



    เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังดื้อเม้มริมฝีปากแน่น เขาจึงหันไปเอ่ยกับดไวท์ด้วยน้ำเสียงอำมหิต 




    "ดไวท์..." ไม่ทันได้ออกคำสั่ง น้ำตาที่คลอเบ้าตาของหญิงสาวก็หยดไหลลงมาก่อนที่จะชิงกัดกินไส้กรอกในที่สุดและเคี้ยวมันอย่างขมขื่นขณะที่น้ำตาหยดไหลลงพวงแก้มของเธอเป็นสาย




    "นั่นแหละ...ดีมาก เห็นมั้ย ไม่เห็นจะยากเลย" นีแกนยิ้มร่าและกระชับกอดเธออย่างเหย้าแหย่ ยิ่งเป็นการจี้ให้เธอน้ำตาไหลพรากลงมาขณะที่กัดกินไส้กรอกอย่างเงียบๆ.... ภรรยาที่เหลือของเขานั่งมองอย่างตะลึงและอึดอัดโดยไม่มีใครกล้าพูดอะไร 



    เชอร์รี่มองมาด้วยสายตาที่เว้าวอนราวกับจะขอร้องให้นีแกนหยุดข่มเหงจิตใจผู้หญิงที่นั่งอยู่บนตักเขา แต่นีแกนก็ยังจะเล่นกับความอดทนของคนตัวเล็กและทรมานเธอต่อไปด้วยการป้อนอาหารเธอจนหมดจาน ซึ่งตลอดการป้อนนั้นก็ยากเย็นสำหรับคนถูกป้อนที่ต้องทนเคี้ยวกลืนกินอย่างทรมานที่ถูกคนใจดำประจานเธอด้วยวิธีทุเรศๆแบบนี้ 



    เมื่อเธอทานอาหารจนหมด นีแกนก็หยิบผ้ามาเช็ดปากเธออย่างนุ่มนวลและเช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าสวยหวาน 



    "คราวหลังอย่าดื้อกับฉัน...เข้าใจมั้ย ไม่งั้นฉันจะจับเธอนั่งตักป้อนข้าวแบบนี้ทุกมื้อเลย" เสียงทุ้มเอ่ยอย่างแผ่วเบาและใช้นิ้วเชยคางเล็กมาสบตาเขา...เธอเบี่ยงหน้าหนีเมื่อเจอแววตาเจ้าเล่ห์แพรวพราวที่มองลึกเข้ามาในดวงตาเธอราวกับจะกลืนกิน




    "เอาล่ะ ในเมื่อกินเสร็จแล้ว ฉันจะให้ดไวท์พาเธอไปทัวร์รอบๆสถานที่ จะได้คุ้นเคย ส่วนฉันกับไซม่อนจะออกไปข้างนอก ตอนค่ำจะกลับมา" นีแกนเอ่ยและค่อยๆคลายอ้อมกอดลงหญิงสาวจึงเด้งตัวลุกขึ้นทันทีแล้ววิ่งร้องไห้ออกไปหลังจากที่อัดอั้นมาตลอดโดยมีดไวท์เดินตามออกไปติดๆ




    เชอร์รี่หันมามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ "คุณไม่น่าบังคับจิตใจเธอแบบนั้นเลย" เธอตำหนิ




    "นี่เธอว่าฉันเหรอ" นีแกนถามด้วยใบหน้าเหลอหลาราวกับไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันผิดก่อนที่จะเอ่ยต่อ "เธอไม่เห็นหรือไงว่าแม่นั่นดื้อแค่ไหน ก็ต้องโดนแบบนี้แหละ จะได้เข็ด"




    "คุณไม่ควรเล่นสงครามประสาทกับเธอแบบนี้นะ เธอยังเด็กอยู่เลย ไปบีบเธอมากๆ...ฉันสงสาร ระหว่างที่คุณป้อนข้าวเธอน้ำตาไหลเผาะจนแทบจะกินน้ำตาแทนข้าวอยู่แล้ว คุณก็ยังไม่เลิกใจร้ายกับเธอ ประจานเธอแบบนี้ใช้ไม่ได้เลย คืนนี้เธอคงจะยอมคุณหรอก"




    "ฉันว่าแม่นั่นเรียกร้องความสนใจมากกว่า" หญิงผมดำภรรยาของนีแกนอีกคนนึงเอ่ยขึ้น




    "ธัญญ่า ถ้าเธอไม่สงสารก็ไม่ควรพูดจาแบบนั้นนะ" เชอร์รี่หันมาเอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจ




    "ก็มันจริงมั้ยล่ะ เธอก็คิดเหมือนฉันใช่มั้ยแฟรงกี้" ธัญญ่าหันมาเอ่ยกับหญิงผมแดงใบหน้าสวยเปรี้ยว 



    "ใช่ ทำเป็นบีบน้ำตา...ไหนจะกิริยาก้าวร้าวนั่นอีก แม่นั่นนิสัยแข็งกระด้างหักหน้าคุณได้ตลอดเวลา คุณเอามา..." เมื่อเจอสายตาคมเฉียบของนีแกนที่มองมาอย่างดุดันเธอจึงต้องเงียบปากและปั้นหน้ายิ้มพร้อมกับเริ่มพูดใหม่ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน




    "คืนนี้นอนห้องฉันนะคะ"




    "เอ๊ะ ได้ยังไง อาทิตย์นี้คุณยังไม่ได้มานอนห้องฉันเลยนะคะ" ธัญญ่าแทรก




    "หยุด ฉันไม่ไปนอนห้องใครทั้งนั้นแหละ คืนนี้ฉันจะนอนห้องลิลา" นีแกนเอ่ยอย่างดุดันก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆเมื่อเอ่ยชื่อหญิงสาวพร้อมกับยกกาแฟขึ้นมาจิบ




    "ในเมื่อคุณให้เธอมาเป็นผู้หญิงของคุณเหมือนกับพวกฉันแล้ว...คุณน่าจะเปลี่ยนห้องให้เธอนะ" เชอร์รี่พูดขึ้น เพราะห้องที่ลิลาอยู่นั้นไม่สมฐานะของภรรยาเลย ซึ่งก็ทำให้เธอแปลกใจเพราะนีแกนไม่เคยปฎิบัติกับภรรยาของเขาคนไหนแบบนี้ ผู้หญิงทุกคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาก็ต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน




    "เธอจะได้ห้องแบบเดียวกับพวกเธอก็ต่อเมื่อเธอเป็นผู้หญิงของฉันอย่างสมบูรณ์ ในเมื่อเธอยังไม่ยอมทำตามข้อตกลง เธอก็จะไม่ได้สิทธิ์ของภรรยาในเมื่อฉันยังไม่ได้เธอมาเป็นภรรยาจริงๆ"




    "ลิลาไม่น่าจะใช่คนกลัวลำบากนะ คุณให้เธออยู่ในห้องรูหนูนั่นก็ใช่ว่าเธอจะยอมเป็นเมียคุณเพื่อจะได้อัพเกรดไปอยู่ห้องที่ดีกว่านี้ คุณก็น่าจะรู้ดี...ไม่งั้นเธอยอมคุณไปนานแล้ว"




    ชายหนุ่มหันมาสบตาเชอร์รี่ผู้มีความคิดความอ่านก่อนที่จะเอ่ยกับแฟรงกี้และธัญญ่า "พวกเธอสองคนออกไปก่อน"




    "แต่..." ธัญญ่าทำท่าจะแย้ง แต่เมื่อโดนสายตาคมกริบมองมาอย่างดุดันเธอกับแฟรงกี้จึงต้องจำใจออกไปโดยไม่สามารถโต้เถียงได้




    .




    .




    .




    ขณะเดียวกัน ดไวท์ที่เดินตามลิลามาได้พักใหญ่ก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้กับเธอ เธอร้องห่มร้องไห้มาตลอดทางจนเริ่มเหนื่อยและหยุดไปเองแต่ก็ยังสะอึกสะอื้นตัวสั่นอยู่ 



    "ขะ..ขอบคุณ ฮึก" เธอรับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนที่จะหันมาเอ่ยกับเขา "แล้วก็ขอบคุณนะ...สำหรับช็อกโกแล็ต"




    "อื้อ...วันหลังถ้าไม่อยากโดนบีบคั้นให้เจ็บใจแบบนี้ ก็อย่าดื้อให้มาก" ดไวท์เอ่ยเสียงเรียบกับหญิงสาว ใจจริงแล้วเขาเองก็อดสงสารเธอไม่ได้เหมือนกันตอนเห็นเธอนั่งกินข้าวน้ำตาไหลเผาะๆบนตักนีแกนแบบนั้น แต่เธอก็น่าตีจริงๆนั่นแหละ ดื้อและพยศเสียเหลือเกิน นีแกนลงโทษแบบนั้นก็ถือว่าประหลาดและใจดีอยู่มาก คนอย่างนีแกนไม่ชอบให้ใครมาหักหน้า และถ้าไม่ใช่ลิลา ก็คงโดนทุบหัวแบะไปนานแล้ว แต่นีแกนก็เลือกวิธีลงโทษเธอได้เหมาะสมแล้ว เขาพอจะรู้นิสัยผู้หญิงจอมพยศอย่างลิลาว่าเป็นพวกฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ เลยใช้วิธีที่ไม่สร้างความเจ็บทางกาย แต่มีผลกระทบกับจิตใจและศักดิ์ศรีของเธอเป็นอย่างมาก ในเมื่อเธอรังเกียจเขายิ่งกว่ากิ้งกือไส้เดือน เขาก็จะให้เธออยู่ใกล้เขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้




    "ร้องไห้เสร็จแล้วใช่มั้ย ฉันจะได้พาเธอไปทัวร์"




    ลิลาพยักหน้าหงึกหงักก่อนที่จะเดินตามดไวท์ไปยังห้องต่างๆ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ฟังที่เขาอธิบายนักหรอก มัวแต่สังเกตพิจารณาเขาอยู่จนดไวท์ต้องเลิกอธิบายแล้วหันมาเอ่ยกับเธอ "มีอะไรจะถามฉันหรือเปล่า"




    "เอ่อ...ฉันแค่สงสัยว่า ทำไมนายต้องดีกับฉันด้วย"




    "ฉันน่ะเหรอดีกับเธอ?"




    "นายก็...ไม่ได้นิสัยเหมือนกับเจ้านายสักหน่อย ทุกอย่างที่นายทำไปน่ะ นายแค่ทำไปตามคำสั่ง แต่นายไม่ได้เต็มใจใช่มั้ย?"




    ดไวท์นิ่งเงียบไป...แน่นอนว่าเขาไม่สามารถตอบคำถามของเธอได้ มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะมาจุ้นจ้านและเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากจะคุย 



    "ก็แล้วแต่เธอจะคิด" เขาตอบห้วนๆก่อนที่จะพาเธอมาออกมาที่ระเบียงด้านนอกซึ่งมองออกไปก็เป็นสวนซึ่งมีรั้วกั้นพวกวอล์กเกอร์เอาไว้




    "อีกไม่นานแดริลก็จะต้องมาทำงานที่รั้วนี่ คอยจัดการพวกวอล์กเกอร์ไม่ให้เยอะจนเกินไป แต่ก็มากพอที่จะเป็นเกราะคุ้มกันได้"




    "กลางแจ้งเนี่ยนะ? ทั้งวันเลยเหรอ? แดดมันร้อนมากเลยนะ ไม่มีงานอื่นเหรอ"




    "มี แต่นีแกนไม่ให้ทำ ก็ต้องเริ่มจากงานแบบนี้แหละ แต่ถ้าเธอทำตัวดีๆ...ให้เขาพอใจ แดริลก็อาจจะไม่ต้องมาตากแดดทั้งวี่ทั้งวันก็ได้"




    "ทำยังไงเขาถึงจะพอใจล่ะ" เธอถามไปโดยไม่ทันคิด ก่อนที่จะหันมาเจอดไวท์ที่มองหน้าเธออย่างแน่นิ่ง 



    "ก็อย่าทำตัวแบบเมื่อคืนยังไงล่ะ แต่เธอควรจะทำตรงกันข้ามนะ เธอนี่ทำไมถึงเข้าใจอะไรยาก"




    เมื่อดไวท์พูดถึงเรื่องเมื่อคืน ก็ทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้...จริงด้วยสิ เธอต้องหาวิธีเอาตัวรอดจากนีแกนในคืนนี้ให้ได้...ถ้าหนี แดริลก็จะต้องลำบาก ทำยังไงดีนะ หญิงสาวมองซ้ายมองขวาอย่างกระวนกระวายก่อนที่จะมองลงไปที่บันได..จากตรงนี้ไปถึงด้านล่าง ก็สูงอยู่พอสมควร...




    "เห็นตรงนั้นมั้ย...ถ้าเธอคิดจะหนีล่ะก็ มีการ์ดเฝ้าอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงจากทุกมุม เพราะฉะนั้น..."




    ตึก! ตุ้บๆๆๆ ผลั่กก!!!




    "เฮ้ย!!!" ดไวท์หันมามองข้างตัวก็ไม่พบหญิงสาว แต่เธอกลับพลัดตกบันไดอย่างแรงศีรษะกระแทกพื้นจนสลบไป 




    "บัดซบ...นี่อย่าบอกนะว่าจงใจ เธอบ้าไปแล้วรึไง!" ชายหนุ่มรีบวิ่งตามลงมาดูอาการของเธอที่ตอนนี้มีเลือดไหลนองจากศีรษะและสลบไป เขาเลี่ยงที่จะจับขยับเธอตอนนี้เพราะเธอตกลงมาจากระยะที่สูงและแรงอยู่พอควร โอกาสที่กระดูกหักนั้นก็มีอยู่สูง เขารีบหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาแจ้งนีแกนทันที




    เมื่อนีแกนมาถึงก็แทบจะคลั่งเมื่อเห็นหญิงสาวนอนจมกองเลือด "พาไปหาเอ็มเม็ตเดี๋ยวนี้เลย!!!"




    "เอ่อ วันนี้เอ็มเม็ตไม่อยู่นะครับ อยู่ที่ฮิลท็อปกับฮาร์แลน" ไซม่อนเอ่ยขึ้น นีแกนเองเป็นคนอนุญาตให้เอ็มเม็ตซึ่งเป็นหมอของที่นี่ได้เจอกับฮาร์แลนน้องชายของเขาซึ่งเป็นหมออยู่ที่ฮิลท็อปได้เดือนละครั้ง




    "บัดซบเอ๊ย!!! รีบพาขึ้นรถเดี๋ยวนี้เลย ระวังอย่าขยับเขยื้อนเยอะ ไม่รู้เธอกระดูกหักส่วนไหนหรือเปล่า" นีแกนออกคำสั่งเสียงดัง สมุนของเขารีบพาร่างไร้สติของเธอขึ้นรถอย่างระมัดระวัง




    "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้" ผู้เป็นนายหันมาถามดไวท์อย่างโกรธเกรี้ยว 




    "เอ่อ...ผมว่าเธอคงตั้งใจ"




    "ว่ายังไงนะ?! ตั้งใจกระโดดตกบนไดให้หัวกระแทกพื้นเนี่ยนะ??" เชอร์รี่ร้องเสียงหลง ทำไมเด็กคนนี้ถึงได้พิเรนท์ทำอะไรแปลกๆไม่กลัวตายเลย




    "ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง!" นีแกนเอ่ยก่อนที่จะขึ้นรถไปเพื่อนำพาร่างไร้สติของลิลาไปที่ฮิลท็อปให้เร็วที่สุด 




    "ฉันไปด้วย" เชอร์รี่วิ่งตามไปติดๆและกระโดดขึ้นรถไปโดยเธอยังไม่ทันได้ปิดประตูนีแกนก็เร่งรถออกไปอย่างใจร้อน




    "คอยห้ามเลือดด้วย อย่าให้เป็นอะไรเด็ดขาด" นีแกนเอ่ยกับเชอร์รี่ที่นั่งอยู่ด้านหลังอย่างฉุนเฉี่ยว....ทั้งโมโหและวิตกที่คนตัวเล็กทำอะไรห่ามๆแบบนี้ ที่เธอบอกกับเชอร์รี่ว่าจะชิงตายก่อน เห็นทีว่าจะไม่ได้แค่ประชดสินะ ถ้าฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ เจอดีแน่...




    ชายผมยาวนัยน์ตาสีฟ้ามาดสุขุมเดินออกมาจากคฤหาสน์อย่างตกใจเมื่อเห็นนีแกนอุ้มร่างผู้หญิงร่างบางเลือดโชกหัวเข้ามาพร้อมกับตะโกนลั่น 




    "จีซัส ไปตามฮาร์แลนกับเอ็มเม็ตมาเดี๋ยวนี้!!"




    .




    .




    .




    "แสบใช่เล่นเลยนะเนี่ย..."




    "ใช่ มาวันแรกก็ไปชกหน้านีแกนแถมถมน้ำลายใส่หน้าเขา เมื่อเช้าก็ยังดื้อจนต้องโดนนีแกนทำโทษ กินข้าวทั้งน้ำตาเลย"




    เสียงคุยพึมพำค่อยๆเบาลงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวบนเตียงเริ่มที่จะมีสติลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ "โอ๊ย...เจ็บ"




    "แน่ล่ะ ไปกระโดดลงมาจากบันไดที่สูงเกือบห้าเมตรอย่างนั้น ไม่พิการหรือเลือดคั่งในสมองก็บุญแค่ไหนแล้ว" เชอร์รี่เอ่ยขึ้นและส่ายหน้าอย่างเอือมระอา




    "ก็ฉันไม่อยากเป็นเมียไอ้โรคจิตอำมหิตนั่นนี่..." เธอเถียงเสียงอ่อยก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อหันมาอีกด้านนึงของเตียงก็เห็นว่าเธอกับเชอร์รี่ไม่ได้อยู่กันแค่สองคน แต่มีผู้ชายผมยาวไว้เครายืนประกบเธออยู่อีกด้านนึงของเตียงและมองมาที่เธออย่างยิ้มๆ 



    "สวัสดีสาวน้อย...แสบอย่างที่เค้าว่ากันจริงๆด้วยแฮะ เธอหัวแตก แขนและขาด้านขวาเธอก็หักด้วย ไม่ต้องพยายามลุกหรอก ทางที่ดีเธอควรจะขยับให้น้อยที่สุดนะ จะได้หายไวๆ" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลดุจแพรไหมและมองมาที่เธอด้วยแววตาที่อ่อนโยน 



    "ฉันชื่อพอลนะ...เรียกว่าจีซัสก็ได้"




    "เอ่อ ค่ะ...ฉันอยู่ที่ไหนเหรอ?"




    "ที่นี่ที่ฮิลท็อปนะ เธอชื่ออะไรล่ะสาวน้อย มาจากไหนกัน"




    "ลิลา...ฉัน...โอย" พูดไม่ได้มาก เธอก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา มือเล็กจับศีรษะตัวเองที่ถูกพันด้วยผ้าสีขาวด้วยความเจ็บ




    "เห็นว่ามาจากกลุ่มของริคน่ะ" เชอร์รี่พูดแทน




    จีซัสเบิกตากว้าง "ริคเหรอ? เธอคือลิลาที่เค้าพูดถึงนี่เอง แล้วนี่ไปยังไงมายังไง เธอได้เจอกับแดริลหรือเปล่า? ริคบอกว่าเขาออกไปตามหาตัวเธอจนตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย คลาดกันเหรอ?"




    "คุณรู้จักริคด้วยเหรอคะ?" หญิงสาวถามขึ้น จีซัสมองมาที่เชอร์รี่ที่ยังยืนอยู่...เธอเป็นคนของนีแกน เขาจึงไม่อยากพูดอะไรกับลิลามากในตอนนี้




    "ทำความรู้จักกันไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวฉันจะออกไปบอกกับนีแกนว่าเธอยังไม่ฟื้น ฉันจะให้เวลาเธออีกหน่อย เธอคงยังไม่อยากเจอหน้าเขา" เชอร์รี่เอ่ยก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง เมื่อเห็นว่าเชอร์รี่ออกไปอย่างแน่นอนแล้ว จีซัสจึงหันมาก้มตัวคุยกับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพอที่จะได้ยินกันแค่สองคน




    "ริคอยู่ที่อเล็กซานเดรีย ฉันกับริคกำลังวางแผนทำสงครามกับนีแกนอยู่ เธอจะให้ใครรู้ไม่ได้นะว่าอเล็กซานเดรียกับฮิลท็อปกำลังร่วมมือกัน"




    "แดริล...คุณต้องช่วยแดริลนะคะ ตอนนี้เขากำลังถูกกักคุมตัวอยู่" ร่างบางใช้มือข้างเดียวของเธอที่ยังใช้การได้จับแขนชายหนุ่มไว้แน่นและเขย่าอย่างอ้อนวอน




    "สรุปว่าแดริลก็อยู่กับเธอเหรอ?"




    "ค่ะ..."




    จีซัสพยักหน้าช้าๆสีหน้าคิดวิเคราะห์ "งั้นก็แสดงว่า...ก่อนหน้านี้เธออยู่กับแดริลสินะ เลยโดนหางเลขไปด้วย เพราะธรรมดาถ้าไม่ได้อยู่กับแดริล นีแกนก็ไม่มีทางรู้ว่าเธอมีเป็นคนในกลุ่มริค เพราะเธอพลัดจากกลุ่มของริคก่อนที่ริคจะไปมีเรื่องกับนีแกนเสียอีก"




    ผู้ชายคนนี้ฉลาดใช่เล่น เธอพูดไม่กี่คำ เขาก็สามารถวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำ




    "ช่วยแดริลด้วยนะคะ...ช่วยเขาด้วย บอกริค ให้ไปช่วยแดริลให้เร็วที่สุดเลย" เธอเอ่ยอย่างเร่งร้อน




    "เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ...ฉันว่าเธอห่วงตัวเองก่อนดีมั้ย อีกอย่างนึง ตอนนี้ริคกำลังอยู่ในฐานะที่อ่อนแอกว่านีแกนมาก เขาเสี่ยงไปทำอะไรอย่างนั้นไม่ได้หรอก....พลาดแค่ก้าวเดียว สิ่งที่จะสูญเสียนั้นสาหัสทีเดียวนะ" จีซัสเอ่ยกับเธออย่างจริงจัง ร่างบางสลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าแดริลจะต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ไปอีกแบบไม่มีกำหนด




    "ฉันจะบอกนีแกนว่าอาการเธอยังสาหัสอยู่ ถ้าจะให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ก็ห้ามขยับห้ามเคลื่อนย้ายเด็ดขาด นั่นหมายความว่า เธอจะต้องอยู่ที่นี่ไปสักพัก...เพื่อที่เธอจะได้อยู่เจอริค พรุ่งนี้ริคจะมาที่นี่ เราน่าจะวางแผนช่วยเธอและแดริลได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง"




    รอยยิ้มค่อยๆผุดขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวอย่างมีความหวัง "จริงเหรอ"




    "แหม ยิ้มร่าแววตาเป็นประกายเชียวนะพอรู้ว่าจะไม่ต้องกลับไปกับนีแกน" ชายหนุ่มเอ่ยพลางใช้นิ้วจิ้มแก้มเธออย่างเอ็นดู




    "คุณนี่เป็นจีซัสมาโปรดสมชื่อจริงๆเลย ขอบคุณนะคะ" ร่างบางเอ่ยเสียงสั่นเครือราวกับจะร้องไห้




    "เอ้า แค่นี้ก็จะร้องไห้แล้วเหรอ ไหงเชอร์รี่บอกว่าฤทธิ์เยอะไง ทำไมขี้แยจัง" จีซัสหัวเราะกลั้วก่อนที่จะโอบกอดเธออย่างปลอบประโลม สัมผัสอ่อนโยนนั่นทำให้คนที่อยู่ในสภาพจิตใจบอบบางและวิตกอย่างลิลาร้องไห้ออกมาเป็นเขื่อนแตกด้วยความอัดอั้น 




    "..คุณไม่รู้หรอก ว่าฉันจะต้องเจออะไรถ้าเกิดฉันต้องกลับไปกับเขา ฮึก ฮืออ"




    "โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ...ความจริงฉันก็พอจะรู้แหละว่าเธอจะต้องเจอกับอะไร เชอร์รี่เล่าให้ฉันฟังบ้างแล้ว แต่ฉันก็แปลกใจอยู่อย่างนึงนะ..." จีซัสเอ่ยอย่างครุ่นคิด คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยแววตาฉงน 




    "ก็เธอน่ะสิ...สร้างวีรกรรมไว้ตั้งเยอะ แต่ยังอยู่รอดมาได้ขนาดนี้โดยไม่มีแม้แต่รอยข่วน เว้นแต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่นั่นก็เป็นเพราะเธอทำตัวเอง นี่ก็แสดงว่านีแกนก็ชอบเธออยู่พอตัวเลยนะ" ชายหนุ่มวิเคราะห์ซึ่งทำให้ร่างบางมีปฎิกิริยาขึ้นมา 




    "อย่าพูดอย่างนั้นนะ ฉันขยะแขยง"




    "บางที...อาจจะใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์ก็ได้นะ"




    "นะ..นี่คุณจะให้ฉันไปเป็นเมียของเขาจริงๆงั้นเหรอ?" หญิงสาวร้องลั่นด้วยสีหน้าหวาดผวา




    "เฮ้ย เปล่าๆ แค่คิดอะไรบางอย่างน่ะ โห อย่าขวัญกระเจิงคิดไปไกลสิ เอ้า น้ำตามาอีกแล้ว...ขอโทษๆ ฉันขอโทษ อย่าเพิ่งน้ำตาแตกสิโธ่ นี่นีแกนคงจะทำกับเธอไว้มากสินะเนี่ยถึงได้เป็นเอาขนาดนี้" จีซัสละล่ำละลักขอโทษหญิงสาวและโอบกอดกระชับเธอไว้ในอ้อมแขนปลอบขวัญเธอ 




    "ไม่ร้องนะ ชู่ว์ โอ๋ ขวัญเอ๋ยขวัญมา"




    แกร๊ก...




    ขณะนั้นนั่นเอง คนเดียวที่ลิลาไม่พึงประสงค์จะเจอก็เดินเข้ามาในห้อง สีหน้าเขากลายเป็นยักษ์ทันทีเมื่อเห็นภาพจีซัสกำลังโอบกอดคนของเขาอยู่อย่างแนบชิด "จีซัส ทำอะไรน่ะ ปล่อยเมียของฉันเดี๋ยวนี้" เขาเอ่ยเสียงเข้ม




    "ฉันไม่ใช่เมียคุณนะ" เสียงใสแหวขึ้น ร่างสูงถลึงตามองมาที่เธออย่างเอาเรื่อง 




    "เดี๋ยวเถอะ...นี่คดีเก่ายังไม่ได้เคลียร์ เธอยังจะมากอดมาออเซาะกับผู้ชายคนอื่นอีกเหรอ"




    "ความคิดสกปรก...ต่ำ คิดได้แค่นี้สินะ"




    จีซัสเบิกตากว้างเมื่อคำพูดแต่ละคำของคนตัวเล็กนั้นล้วนแต่หาเรื่องตายทั้งนั้น แต่ก็ยิ่งช็อกมากกว่าเดิมเมื่อเห็นว่านีแกนรักษาอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติได้อยู่ 




    "กลับไปเมื่อไหร่เธอโดนทำโทษแน่ๆ แล้วเธอจะเสียใจที่กระโดดลงบันไดแล้วไม่ตายไปซะในวันนี้"




    "ก็แล้วคุณมาช่วยฉันไว้ทำไมล่ะ"




    นีแกนแสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะเชยคางเธอขึ้นมา "ที่รัก ฉันจะปล่อยให้เธอตายไปได้ยังไง ในเมื่อเธอยอมตกลงเป็นภรรยาของฉันแล้ว แต่เรายังไม่ได้เข้าหอกันเลย



    ลิลาเบี่ยงหน้าหนีก่อนที่จะพยายามหาที่ลี้ภัยโดยการเกาะลำตัวจีซัสไว้แน่น ทำให้คนตัวสูงแทบจะควันออกหู 




    "นี่เธอปล่อยมันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นฉันจะหักแขนอีกข้างนึงของเธอ!"




    คนตัวเล็กไม่โต้ตอบแต่ยังคงกอดลำตัวจีซัสไว้ไม่ปล่อย จีซัสอมยิ้มออกมานิดๆในความดื้อเงียบของเธอ... เพราะอย่างนี้นี่เองถึงได้ทำให้นีแกนคลั่งและหัวเสียได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ไม่ยักจะทำอะไรเธอ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนีแกนเดือดเป็นเจ้าเข้าแบบนี้ ปกตินีแกนไม่ใช่คนที่ชอบพูดพร่ำทำเพลงมากนัก มีปัญหาเขาก็สามารถจบลงมันด้วยวิธีโหดร้ายที่พอจะทำให้ใครหลายๆคนฝันร้ายไปอีกนาน




    "ไอ้จีซัส แกเดินออกมาจากเมียฉันเดี๋ยวนี้เลย" เมื่อเห็นว่าสั่งคนตัวเล็กไม่ได้ผล เขาจึงหันมาออกคำสั่งจีซัสด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเหี้ยมโหด แต่จีซัสกลับตอบอย่างยียวน 




    "ผมจะออกไปได้ยังไงล่ะ เธอกอดผมซะแน่นเลย"




    เจ้าของใบหน้าคมเข้มโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ทิ้งไม้เบสบอลแล้วถลาเข้าไปดึงหญิงสาวแยกออกจากจีซัสจนเธอต้องร้องด้วยความเจ็บระบม




    "นีแกน ใจเย็นๆก่อน กระชากเธอแรงๆแบบนั้นไม่ได้นะ" เชอร์รี่รีบเข้ามาห้าม




    "ใช่...ดูสิ เผลอๆเจ็บหนักกว่าเก่าอีก หมอบอกแล้วนะ ว่าถ้าจะให้หายดี ห้ามให้เธอขยับเด็ดขาด" จีซัสสมทบ นีแกนขบฟันแน่น 




    "งั้นก็เอากลับไปทั้งเตียงแบบนี้แหละ ไปกันได้แล้ว"




    "ไม่ได้นะ....ห้ามเคลื่อนย้ายเด็ดขาด ห้ามให้มีการกระทบกระเทือนถ้าคุณไม่อยากให้เธอหายไวๆเพื่อที่จะได้เข้าหอ" จีซัสท้วง




    นีแกนมีท่าทีกระฟัดกระเฟียดและทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่นึงก่อนที่จะเอ่ยขึ้น "งั้นฉันก็จะอยู่ที่นี่แหละ"




    "ฮะ?? แล้วที่นู่นล่ะ คุณไม่กลับไปดูแดริลหน่อยเหรอ" เชอร์รี่ถามขึ้น ซึ่งนีแกนก็สวนกลับทันทีโดยไม่ต้องคิด 




    "ไม่เป็นไร ให้ดไวท์กับไซม่อนดูแลไป ฉันจะอยู่ที่นี่จนกว่าแม่ตัวแสบจะหาย หายปุ๊บฉันจะให้เข้าหอเลย ตั้งใจจะกระโดดบันไดหนีฉันงั้นเหรอ หาเรื่องเจ็บตัวเพื่อที่จะไม่ให้ฉันทำอะไรเธอใช่มั้ย...ฉันก็จะอยู่เฝ้าเธอที่นี่แหละ ขืนฉันไม่อยู่คุม เธอได้ทำอะไรแผลงๆอีกแน่ๆ หึ" นีแกนยักคิ้วอย่างเจ้าเล่ห์รู้ทันหญิงสาว กำปั้นเล็กทุบเตียงอย่างขัดใจเมื่อมีคนรู้ทันและยังจะอยู่เป็นก้างชิ้นโตขัดขวางแผนการของเธออีก ถ้านีแกนอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่สามารถเจอริคได้...นั่นหมายความว่า ความหวังสุดท้ายที่จะทำให้แดริลหนีออกมาได้ก็ดับลงทันที...




    "นี่เธอไม่อยากเข้าหอถึงขนาดน้ำตาตกเลยเหรอ ร้องไห้บ่อยจังนะ เมื่อเช้าก็ทีนึงแล้ว สะสมน้ำไว้ในต่อมน้ำตาเยอะแค่ไหนกัน



    ลิลาสะดุ้งเมื่อมีนิ้วมาเกลี่ยเช็ดหยดน้ำที่ไหลออกมาจากเบ้าตาโดยที่เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ... หญิงสาวสะบัดหน้าหนีสัมผัสของนีแกน พฤติกรรมของทั้งสองแน่นอนว่าไม่รอดพ้นสายตาของเชอร์รี่และจีซัสที่ยังยืนอยู่ในห้องด้วยแต่ดูเหมือนว่านีแกนจะลืมไปเสียสนิท เมื่อรู้ตัว เขาก็หันมาทำหน้าขรึมและเอ่ยเสียงเข้ม 



    "เชอร์รี่ อีกสักพักนึงเธอก็กลับไปพร้อมกับดไวท์กับไซม่อนนะ ฉันจะไปคุยกับเกรกอรี่สักหน่อย...ส่วนแก จีซัส แตะต้องผู้หญิงของฉันแม้แต่ปลายเล็บล่ะก็..."




    "ผมแค่เอ็นดูเธอเหมือนน้องสาว ไม่มีใครกล้าคิดกับผู้หญิงของคุณแบบนั้นหรอก" จีซัสแทรกขึ้น ขณะที่นีแกนกำลังจะเดินออกไป ก็กลับมาคนเรียกเขาเอาไว้ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่เขาหวังว่าจะเรียกเขาไว้เสียด้วย 



    "เดี๋ยวก่อน...นีแกน"




    ร่างสูงหันมามองคนบนเตียงที่มองเขาด้วยแววตาที่ไม่แข็งกร้าวเหมือนเมื่อครู่นี้ แต่กลับดูอ่อนลงราวกับกำลังจะเอ่ยขออะไรจากเขา ซึ่งก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด "ให้เชอร์รี่อยู่กับฉันที่นี่ด้วยไม่ได้เหรอคะ.."




    นีแกนเลิกคิ้วสูงก่อนที่จะก้าวเข้ามาหาเธอแล้วนั่งลงบนเตียงข้างๆเธอ 



    "พูดเพราะก็เป็นเหมือนกันนี่...ถ้าพูดแบบนี้กับฉันบ่อยๆนะ อะไรก็แล้วแต่ที่เธอต้องการ ฉันก็ให้เธอได้ทั้งนั้น" เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยอย่างพอใจใช้หลังมือลูบแก้มเนียนเบาๆอย่างเสน่หา




    "ตกลงให้เชอร์รี่อยู่ที่นี่ด้วยได้รึเปล่า...คะ" ลิลาถามด้วยน้ำเสียงแฝงความรำคาญเอาไว้นิดๆแต่ก็พยายามกลบเกลื่อนด้วยหางเสียง จีซัสยืนมองดูเธออย่างนิ่งๆพยายามกลั้นยิ้ม




    "อืมมม...ปากของฉันที่โดนหมัดเธอ และแก้มของฉันที่โดนเธอตบเมื่อคืนยังช้ำอยู่เลย ทำยังไงดีล่ะ"




    "ทะ..ทายาสิคะ"




    "พรืด!! ฮ่าๆๆ" หนุ่มเจ้าของผมยาวสลวยถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับคำตอบซื่อๆของลิลา เมื่อนีแกนหันมามองตาขวางเขาจึงต้องหุบปากแต่ในใจก็ยังหัวเราะอยู่อย่างขำขัน นานๆทีจะได้มีเรื่องตลกๆให้เขาได้เห็น




    นีแกนหันมาเอ่ยกับคนตัวเล็กด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ "ยาที่ดีที่สุด คือการจุมพิตจากเธอนะสาวน้อย จูบตรงรอยที่เธอทำร้ายฉันไว้สิ แล้วฉันจะให้เชอร์รี่อยู่ด้วย



    เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็เกือบจะอ้าปากด่าเขาแต่นึกขึ้นได้ว่ามันคงไม่เป็นผลดีต่อตัวเธอ จึงได้แต่หันหน้าหนีแล้วพูดเสียงห้วนอย่างไม่ค่อยพอใจนัก "ช่างเถอะ คิดว่าฉันไม่ได้เอ่ยปากขอคุณก็แล้วกัน"




    รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้าคมเข้มทันทีเมื่อไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ...เห็นทีว่าเชอร์รี่คงจะไม่สำคัญพอที่จะนำมาบีบบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เขาต้องการได้สินะ เขาก็แค่อยากจะกดดันให้เธอทำตามใจเขาเพื่อให้จีซัสได้เห็น เพราะแววตาเจ้าหมอนั่นที่มองมาที่เธอมันทำให้เขาหงุดหงิด ผู้ชายด้วยกันย่อมดูกันออก แม้จะรู้ดีว่าคนอย่างจีซัสไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทางแกว่งเท้าหาเสี้ยนให้ลำบาก แต่เขาก็ยังไม่ชอบให้ผู้ชายหน้าไหนมามองผู้หญิงของเขาอยู่ดี




    "ไม่เป็นไร...ไม่ยอมทำต่อหน้าคนอื่นก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงซะเธอก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เธอทำแน่ๆ คอยดูสิ" เขาเอ่ยกับเธอด้วยรอยยิ้มและแววตาแพรวพราว 



    "อีกยี่สิบนาทีดไวท์กับไซม่อนจะกลับแล้ว บอกลาเชอร์รี่ให้เรียบร้อยก็แล้วกัน ฉันไม่กวนแล้ว" นีแกนเอ่ยทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง จีซัสแอบไปแง้มประตูดูเพื่อให้แน่ใจว่านีแกนได้ขึ้นชั้นบนไปหาเกรกอรี่แล้ว จึงเดินมาเอ่ยกับลิลาอย่างขบขัน 



    "ดูทำหน้าเข้าสิ ขยะแขยงเขาขนาดนั้นเลยเหรอ"




    "เป็นคุณ คุณชอบหรือไง" หญิงสาวย้อนอย่างเหลืออด จีซัสลูบคางตัวเองก่อนที่จะตอบ 




    "ก็ไม่แน่นะ...ถ้าฉันเป็นผู้หญิง โดนหยอดโดนอ่อยซะขนาดนั้น ใครบ้างจะไม่หวั่นไหว นีแกนน่ะเจ้าเสน่ห์จะตาย"




    "จิตขนาดนั้น ถ้าใครชอบก็คงมีอะไรผิดพลาดทางสมองแล้วล่ะ"




    "ฮ่าๆๆ ฉันอยากให้นีแกนมาได้ยินจัง อยากเห็นเธอกับเขาต่อปากต่อคำกัน ขำดี" จีซัสหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง




    "จีซัส! ขำอะไรนักหนา ไม่ตลกนะ แผนเสียหมด แล้วทีนี้จะทำยังไงในเมื่อนีแกนจะอยู่ที่นี่ ริคก็ไม่สามารถมา.." คนตัวเล็กแหวใส่อย่างหงุดหงิดแต่กว่าจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็ไม่ทันเสียแล้ว...จีซัสแทบจะอยากบีบเธอให้เละคามือ




    "ฉันช่วยได้นะ" เชอร์รี่เอ่ยขึ้น "ฉันรู้ว่านายไม่ไว้ใจฉัน จีซัส แต่ฉันมีแผน...ถ้าเกิดสำเร็จ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ให้นายเห็นว่าฉันไว้ใจได้"




    "แผนอะไร" ดวงตาสีฟ้ามองมาที่เชอร์รี่อย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก




    "ฉันต้องถามลิลาก่อน..." เธอกล่าวพร้อมกับหันมายังร่างบางที่มองกลับมาอย่างงุนงง "ฉันเหรอคะ?"




    "ถ้าเธอต้องเลือก...แค่ใครคนใดคนนึงที่จะหนีจากนีแกนออกมาได้ ระหว่างเธอกับแดริล เธออยากจะให้ใครได้สิทธิ์นี้"




    "แดริล" เธอตอบโดยไม่ต้องคิด "ถ้าแดริลออกมาได้ ฉันก็ไม่เป็นไร นีแกนก็ไม่มีอะไรมาขู่บังคับฉันได้ค่ะ...แต่ถ้าฉันได้เป็นฝ่ายรอดพ้นออกมา แดริล...แดริลที่ติดอยู่จะต้องรับผลกระทบ คุณช่วยให้แดริลออกมานะคะ... ยังไงซะถ้าเขาได้ออกมา เขาก็เป็นประโยชน์มากกว่าฉัน"




    "ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะลิลา...ไม่ให้เครดิตตัวเองเลย ใครว่าเธอไม่มีประโยชน์กันล่ะ" จีซัสแย้งก่อนที่จะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่หนักแน่น "ฉันเห็นด้วยกับเธอนะเรื่องที่ให้แดริลออกมา นีแกนจะได้ไม่สามารถใช้แดริลเป็นจุดอ่อนบังคับจิตใจเธอ แต่ตัวเธอเองก็มีค่าและมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าแดริลเลย..." 



    ดวงตาสีฟ้าสบตากับเชอร์รี่ราวกับว่าคิดอะไรตรงกันแม้ไม่ได้พูดออกมา แต่คนที่อยู่ตรงกลางอย่างลิลากำลังนั่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรและไม่เข้าใจในคำพูดกำกวมของจีซัส




    "ฉันนับถือน้ำใจเธอนะ ที่เป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง...เสียสละอิสระของตัวเองให้กับผู้อื่นแม้ว่าตัวเองก็อยากจะรอดพ้นจากนีแกน" ชายหนุ่มมองมาที่ลิลาด้วยแววตาที่อ่อนโยน




    "คุณกำลังจะบอกอะไรฉันเหรอคะ"




    จีซัสมีสีหน้าลังเลใจที่จะพูด เพราะรู้ดีว่ามันต้องทำให้เธอใจสลายแน่ๆและเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากทำ...เชอร์รี่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มอ้ำอึ้งเลยต้องเป็นฝ่ายพูดแทน 



    "การที่แดริลออกมา เป็นผลดีกว่าการที่จะให้เธอออกมาก็จริง...แต่คนที่สำคัญจริงๆ ที่เป็นความหวังของทุกคน...คือเธอต่างหากล่ะ"




    จีซัสมองหล่อนอย่างอึ้งๆ ไม่นึกว่าเชอร์รี่จะมีความคิดความอ่านเหมือนกับเขาได้ถึงเพียงนี้...แสดงว่าสิ่งที่เขาคิดไว้มันไม่ใช่แค่การคาดเดา แต่มันมีความเป็นไปได้ เชอร์รี่เองก็มองเห็น...ว่านีแกนปฎิบัติกับผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้อย่างไร เขาเผยมุมที่ไม่เคยมีใครได้เห็น ทำให้คนอื่นๆแปลกใจ...ซึ่งบางที ลิลานี่แหละ อาจจะเป็นคนที่สามารถโน้มน้าวนีแกนได้...หรือแม้กระทั่ง...เปลี่ยนแปลงเขา




    "มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวมากไปมั้ย ถ้าฉันจะขอให้เธอ..." จีซัสเอ่ยปากพูดกับคนตัวเล็กอย่างลำบากใจ แต่เชอร์รี่ก็มองเขาตาขวางและส่ายหน้าเบาๆบอกใบ้ไม่ให้เขาพูดในสิ่งที่กำลังจะพูด...ขืนบอกเธอตรงๆ ว่าสิ่งที่เธอต้องทำไม่ใช่แค่สละสิทธิ์ที่จะเป็นอิสระ เรื่องหลังจากนี้ต่างหากที่สำคัญ เธอจะต้องทำให้นีแกนเปลี่ยนแปลงให้ได้...และคงหนีไม่พ้น การใกล้ชิดลึกซึ้ง ที่อาจจะก่อตัวเป็นความรัก...ความสัมพันธ์แบบนี้ เชอร์รี่รู้ดีว่าลิลาไม่เอาแน่ๆ ธรรมดาก็รังเกียจและเกลียดนีแกนยิ่งกว่าสิ่งใดบนโลกนี้ 




    "จีซัส เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง ไว้ฉันคุยกับเธอเอง...ฉันมีเวลาไม่มาก เดี๋ยวจะต้องกลับแล้ว เพราะฉะนั้น ฟังแผนการให้ดีๆนะ...ลิลา คืนนี้เธอทำยังไงก็ได้ ให้นีแกนอยู่กับเธอทั้งคืน เพราะจีซัสจะต้องเป็นคนไปหาริค จะให้นีแกนรู้ไม่ได้ว่าจีซัสหายตัวออกไป จีซัส...นายไปหาริค บอกเรื่องของลิลาให้เขารับรู้ซะ แล้วพวกนายก็ไปวางแผนกันเอาเองนะว่าจะไปช่วยแดริลยังไงให้กลับมารอดฝั่ง ตอนฉันกลับไป ฉันทำได้แค่ช่วยเปิดทางให้แดริลออกมาจากทางด้านหลังได้ แต่หลังจากนั้น พวกนายต้องสานต่อและจัดการกันเอาเอง เข้าใจใช่มั้ย"




    "อื้ม...เข้าใจ ขอบคุณมากนะ" จีซัสเอ่ยจากใจจริง ทั้งสองยิ้มให้กันบางๆ 



    "ฉันช่วยได้แค่นี้แหละ...ลิลา ฉันแอบยึดวิทยุสื่อสารของนีแกนตอนที่เขาลืมไว้ในรถตอนอุ้มเธอมาในนี้ เพราะฉะนั้น หน้าที่ของเธอในคืนนี้มีแค่เพียงทำให้เขาอยู่กับเธอให้ได้ตลอดคืน ยิ่งนานเท่าไหร่ยิ่งดี ห้ามไม่ให้เขาสื่อสารหรือรับรู้เรื่องใดๆจากทางนั้นเด็ดขาด ต้องถ่วงเวลาให้ได้นานที่สุด"




    ก๊อกๆ 



    "กลับกันได้แล้ว" ไซม่อนเคาะประตูส่งเสียงเรียกเชอร์รี่จากด้านนอก 




    "ฉันต้องไปแล้วนะ...โชคดี"

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×