คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : |; chapter 8
HEARTLESSII
หากจะเกิดมาไร้หัวใจ *
Leading Couple.. Kibum x Donghae
Written By.. PRETTY.KKZ
08/06/2552 20.29 PM.
Part 8
.
.
.
.
สายลมหนาวพัดแรงเข้ามาภายในบ้านพักตากอากาศริมทะเล
เสียงเกลียวคลื่นกระทบฝั่งดังขึ้นมาไม่ขาด ได้กลิ่นแดดกรุ่นจากดวงอาทิตย์ร้อนแรง
ไอร้อนจากท้องฟ้าเบื้องบนบรรจบกับความหนาวตามสภาพฤดูกาล ผสมผสานให้เกิดเป็นอากาศที่อบอุ่น
ฝูงนกบินร่อนเร่ไปมาเต็มฟ้า ปุยเมฆขาวเบาบางเดินทางอย่างไร้จุดหมาย
เหมือนกับจิตใจของใครหลายๆคนในขณะนี้ . . . ก็ไม่มีจุดหมายเช่นกัน
ร่างของซองมินนั่งอยู่ภายในห้องพักกว้าง การตกแต่งประดับประดา ทาสีล้วนเป็นไปด้วยสีชมพูหวาน
ไม่ว่าจะไปที่ไหน คุณหนูซองมินจะต้องได้รับห้องพักที่ใหญ่ไม่แพ้กับคุณชายคิบอมเสมอ
ไม่ใช่เพราะมีกิจต้องทำอะไรแบบคุณชาย...หากแต่เพราะ ‘เผื่อ’ ว่าคุณหนูซองมินจะอยากทำอย่างอื่นบ้าง
ไม่ใช่นั่งอยู่เฉยๆ ริมหน้าต่างเช่นทุกวันแบบนี้
“ไม่ออกไปเดินเล่นเหมือนกับคนอื่นๆบ้างล่ะคุณ?”
เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นจากเบื้องหลัง
คุณหนูซองมินหันหน้ากลับไปมองช้าๆตามฉบับ รอยยิ้มไร้พิษสงปรากฏบนมุมปากบาง
ร่างยาวเดินเข้ามาใกล้กว่าหากแต่เว้นระยะห่างเอาไว้มากพอสมควร
ถึงแม้คำพูดจะดูเหมือนเป็นห่วงเป็นใย แต่การกระทำที่ห่างเหินเช่นนี้
ก็ทำให้ดวงใจอันเปราะบางเจ็บปวดขึ้นมาได้ไม่ยาก
“ข้างนอกแดดร้อน อยู่ในนี้น่ะดีแล้ว”
เสียงหวานพูดออกมาอย่างเรียบ ๆ
สายตาหลุบลงมองต่ำเพราะไม่อยากให้คยูฮยอนได้รับรู้ถึงความปวดร้าวในหัวใจ
มาตามให้ไปเดินเล่นงั้นหรือ?
ทำตามหน้าที่? สงสาร? หรือต้องการให้ไปเองกันแน่ล่ะ?
“ใครว่าข้างนอกร้อน? นี่มันยังไม่หมดฤดูหนาวเลยนะ”
“แต่ฉันไม่อยากไป...”
ใบหน้าหวานหันกลับมา สายตาทอดมองออกไปยังด้านนอก
ร่างยาวทรุดตัวลงตรงหน้าคนตัวเล็ก ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นได้องศา
นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องตรงอย่างห่วงใย ใบหน้าของซองมินเริ่มร้อนผ่าว
มือหยาบเอื้อมแตะบนหลังมือสวยเบาๆด้วยความอ่อนโยน
“จะไม่ไปด้วยกันจริงๆหรอ?”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มกับกิริยาอาการที่เป็นโดยกำเนิดของผู้ดีโดยแท้
ไม่อาจทำให้คนอย่างคุณหนูซองมินจะใจแข็งต่อไปได้อีกแล้ว
ไม่ว่าอะไรที่คนอื่นจะมองว่ายากเย็นที่จะเอาอกเอาใจคุณหนูที่ชอบเก็บตัวคนเดียว
โจ คยูคยอนกลับสามารถทำมันให้เป็นเรื่องที่ง่ายดายได้แม้แทบไม่ต้องออกแรง
“นั่นมันคือความต้องการที่จะไปกับฉันจริงๆใช่ไหมคยูฮยอน?”
หรือเพียงแค่ ‘สงสาร’ คนอย่างฉันกันล่ะ?
ช่วยบอกให้ฉันได้หัวใจชื้นกับเขาบ้างจะได้ไหม?
แค่สักวินาทีที่นายต้องการจะเดินเคียงคู่กับฉันท่ามกลางบรรยากาศที่มีแค่เราเท่านั้น
ถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่ง...
แต่ช่วงเวลาแบบนั้น ฉันอาจจะไม่อาจหาได้ที่ไหนอีกต่อไปแล้ว
“ผมอยากให้คุณไปด้วยกันจริงๆนะ อย่าอยู่คนเดียวเลย...”
ใบหน้าหวานระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าเพียงเล็กน้อย
แต่นั่นก็สื่อถึงความสุขที่มากล้นพอแล้ว แม้นัยน์ตาจะเศร้าสร้อย
ที่ไม่อาจได้หัวใจจากคยูฮยอนมาแม้เพียงเสี้ยว
แต่ซองมินก็ดีใจ..เพราะได้เพียงความห่วงใยก็ดีแค่ไหนกันแล้ว
เสียงคลื่นกระทบครืนเข้าสู่หาดทรายขาว ข้อเท้าเปลือยสัมผัสผิวน้ำที่ท่วมถึง
แต่แล้วน้ำทะเลสะอาดก็ถูกดูดกลับลงไปยังถิ่นของมันอีกครั้ง
ผืนน้ำไม่เคยหยุดนิ่ง เช่นเดียวกับสายลมแห่งห้วงทะเลที่ไม่ได้หยุดพัด
ความรู้สึกของคนก็เช่นกัน...เมื่อมันเกิดขึ้นก็อาจจะไม่สามารถหยุดมันได้เลย
ยิ่งกับความรักเข้าแล้ว...ซองมินก็ยิ่งไม่อาจหยุดมันได้เลย
“ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ คิมซองมิน”
ใบหน้าคมคายก้มลงมองคนที่ตัวเตี้ยกว่าข้างๆ
คนตัวเล็กยังคงมองลงไปที่เท้าของตนที่กำลังย่างก้าวไปบนผืนทราย
กลุ่มผมนิ่มสีน้ำตาลเข้มสะบัดพริ้วไปตามแรงลมหนาว
ใบหน้าหวานเงยหน้าขึ้นอีกครั้งพร้อมกับอมยิ้มในพวงแก้มสีชมพูระเรื่อ
“นายพูดเหมือนกับว่า ฉันเป็นคนช่างเจรจาอย่างนั้นแหละ”
ก็จริงอย่างที่คุณหนูคนเก่งพูดทุกประการ
คิมซองมินเป็นคนไม่ค่อยพูดค่อยจา วันๆเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง
มักจะหวาดกลัวกับเสียงดังและบรรยากาศที่วังเวง
คุณหนูซองมินเป็นคนขี้ตกใจและวิตกจริตมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่านัก
ใครๆก็รู้ดี...แต่คุณหนูซองมินไม่ชอบแสดงจุดที่ออนแอที่สุดออกมาให้ใครเห็น
“ผมได้ยินมาว่าตอนเด็กๆคุณหนูซองมินร่าเริงและชอบออกไปเที่ยวข้างนอกอยู่เรื่อยนี่นา...”
“แล้วเป็นยังไงล่ะคยูฮยอน...เที่ยวเสียจนได้เรื่อง...”
ปลายเสียงเริ่มแผ่วลง
ภาพความทรงจำเลวร้ายเมื่อหลายปีก่อนย้อนหลอกหลอนเข้ามาภายในความคิด
ดวงตาสีเทาอ่อนรื้นขึ้นมาด้วยน้ำสีบริสุทธิ์หากแต่เจ้าตัวสามารถกักเก็บมันไว้ไม่ให้รินไหล
มือหยาบสัมผัสลงบนหัวไหล่กลมมนอย่างแผ่วเบา
ใบหน้าหวานเชิดขึ้นสบตากับอีกฝ่ายโดยไม่ได้เจตนาแต่อย่างใด
คยูฮยอนรวบร่างของคนตรงหน้าเข้ามาชิดแนบกาย และไม่มีทีท่าใดๆที่ซองมินจะขัดขืน
“ขอโทษที่บางครั้งผมเองก็เผลอพูดอะไรทำให้คุณต้องรู้สึกแย่ๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะ...ผมอยู่ตรนี้”
จังหวะการเต้นของก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกลับรัวแรงขึ้นม
ไม่ได้มีความเขินอายเข้ามาภายในความรู้สึกหรือห้วงขอการนึกคิด
คิมซองมินกำลังรู้สึกงุนงงและสับสนในทุกๆการกระทำของโจคยูฮยอน
บางครั้งก็พูดราวกับคนรักกัน...หากแต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลยสักนิด
“จิตใจของคุณเปราะบาง ผมควรจะถนอมรักษาให้มากกว่านี้จริงไหม?”
ใบหน้าคมคายก้มลงมองต่ำ ดวงตากลมโตยังคงจ้องเข้าในไปสัมผัสในดวงตาสีนิลคู่นั้น
รอยยิ้มผุดประกายขึ้นตามรอยปากหยัก สายตาที่ช่างดูเป็นห่วงเป็นใยในตัวซองมินเหลือเกิน
ยิ่งทำให้ภายในหัวใจของคุณหนูตระกูลคิมยิ่งหลงยิ่งรักมากขึ้นเข้าไปใหญ่
ซองมินรู้ดี...ว่าเพียงเสี้ยววินาทีที่ตนเผลอไผลไปหลงใหลมากมายเสียจนเกินจำกัด
ตนย่อมจะได้รับความทุกข์ทนขมขื่นตามมาภายหลัง เมื่อทุกคำพูดทุกการกระทำของอีกฝ่าย
ซองมินกลับเป็นคนตีความหมายมันขึ้นเองทั้งนั้น..
“จะต้องมีใครสักคนดูแลคุณได้ดีแน่ๆ ซองมิน...แต่บางทีคุณอาจยังไม่พบ”
หัวใจราวกับหยุดเต้นไปชั่วครู่...
จะเป็นนายไม่ได้หรือ โจ คยูฮยอน ที่จะสามารถดูแลฉันได้ ?
ทำไมนายต้องพยายามผลักไสไล่ส่งให้ฉันไปจากนายทั้งๆที่นายก็รู้ว่ามันยากที่ฉันจะไป..
ฉันมีอะไรไม่ดีตรงไหนหรือ ? ตรงไหนที่ฉันสู้พี่จองซูไม่ได้ ?
หน้าตา ยศศักดิ์ การศึกษา ที่ใครๆก็มองว่าเท่าเทียม
ทำไมล่ะโจคยูฮยอน..
ในเมื่อในจุดนั้นพี่จองซูไม่สามารถมอบให้นายได้ ทำไมนายถึงไม่ให้เป็นฉันเสียที ?
--------------------------------------------------------------------------
ทงเฮทอดมองไปยังผืนทะเลกว้างจากห้องนอนชั้นล่างของตัวอาคารบ้านพัก
ร่างบางในเสื้อยืดสีเหลืองอ่อนกับกางเกงขาสามส่วนสีขาวนอนแผ่ยาวอยู่บนเตียงไซส์ปานกลาง
ภายในสมองก็ฉุกคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนชอบฟุ้งซ่าน..
แต่ภายในห้วงแห่งการนึกคิดนั้น ก็ไม่สามารถลบเอาภาพของคุณชายคิบอมออกไปได้เลย
ดวงตาคู่สวยปิดลงช้าๆด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน
อีกไม่กี่ชั่วโมงทั่วทั้งฟ้าจะแปรเป็นสีส้มแสด อ้อมกอดของคนตัวผอมบางนั้นยังคงกอดสิ่งหนึ่งไว้ไม่ปล่อย
นิ้วมือเรียวเล็กไล้ไปตามเนื้อไม้ของเครื่องดนตรีคลาสสิค
ลากผ่านเส้นเอ็นสายเดิมที่ยังคงบรรเลงบทเพลงต่างๆได้ดีเช่นเดิม
แต่บทเพลงนั้นๆจะออกมาดีแค่ไหนก็ตาม...มันก็คงไม่ได้มีอิทธิพลต่อจิตใจของทงเฮสักเท่าไร
ในเมื่อบทเพลงของคนไร้ค่า ไร้ซึ่งผู้ที่ตั้งใจฟังมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
Knock! Knock!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับที่ทงเฮตื่นจากนิทราในชั่วเวลาเพียงครู่หนึ่ง
ใบหน้าสวยหวานในสภาพของคนไม่เต็มตื่นเดินออกมาเปิดประตูอย่างโซซัดโซเซ
ผู้มาเยือนที่ทงเฮไม่ชอบขี้หน้าสักเท่าไรหรือจะเรียกว่าเกลียดเลยก็ได้กำลังยืนทำหน้าจองหองใส่
ทงเฮแสยะยิ้มออกมาเนือยๆ ความหงุดหงิดพลันแล่นขึ้นมาในความรู้สึก
“มาทำไม?”
ร่างบางเอ่ยถามเสียงต่ำ
หญิงสาวตรงหน้ายืนเท้าสะเอวก่อนที่จะมองจิกไปยังทงเฮเต็มๆ
หากสายตาของซันนี่เป็นดั่งมีดคม คงจะกรีดให้ทงเฮตัวขาดเป็นสิบซีกก็เป็นได้
“คุณชายคิมคิบอมของฉันเรียกขึ้นไปพบ เห็นว่าจะใช้งานอะไรสักอย่าง”
“แล้วเมื่อกี๊เธอไปไหนมาซันนี่?”
ดวงตาคู่สวยมองไปยังชุดกระโปรงสายเดี่ยวที่ดูยับยู่ยี่ผิดจากเมื่อเช้า
ใบหน้าจัดจ้านปรากฏยิ้มขึ้นมาบนมุมปากเล็กสีแดงจัด
มือไม้ปัดกลุ่มผมยาวสลวยให้กลับไปทางด้านหลัง
รอยแดงเป็นจ้ำที่ซอกคอของหญิงสาวกลับเป็นคำตอบอย่างดีให้กับผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง
ทงเฮอยากจะนึกโกรธ นึกโมโห คุณชายคิบอมเสียเหลือเกิน
แต่สิ่งของไร้ค่าอย่างเขา จะมีสิทธิ์รู้สึกรู้สากับผู้ครอบครองได้ด้วยหรือ?
“ขึ้นไปได้แล้วทงเฮ เดี๋ยวคุณชายของฉันจะโกรธ ฉันไม่ชอบให้คุณชายทำอะไรแรงๆกับฉัน
เวลาโดนคนอื่นทำอะไรแรงๆน่ะ มันเจ็บนะ รู้ไหม?”
ใบหน้าของทงเฮเฝื่อนลงเล็กน้อย ในใจรู้สึกโหวงเหวงไร้ที่ยึดเหนี่ยว
ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจซึ่งทงเฮก็ได้รับรู้มาโดยตลอดเป็นเวลานานแล้ว
แต่ในใจทงเฮกลับไม่เคยยอมรับมันเลยสักนิด...ทงเฮเจ็บใจ
เจ็บใจที่คุณชายก็ทำสิ่งนั้นกับตนเองเหมือนกับที่ทำกับคนอื่น ๆ
“เพราะเธอมันใจง่ายยอมให้คุณชายทำอะไรแรงๆต่างหากล่ะซันนี่”
เพราะเธอใจง่ายไงล่ะซันนี่..
เธอใจง่ายยอมให้คุณชายทำอะไรเธอก็ได้ แต่เธอก็คงจะเป็นเหมือนๆกันกับฉัน
ทงเฮรู้ดีว่าซันนี่รักคุณชายด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ซันนี่จะเกลียดทุกคนที่คุณชายให้ความสนใจ
ซันนี่ยอมหยิบยกร่างกายและหัวใจให้คุณชายย่ำยี ทั้งๆที่รู้ว่าสุดท้ายก็ต้องเสียใจ
เพราะเธอใจง่ายไงล่ะซันนี่..เพราะเธอมันใจง่ายที่เป็นแบบนี้
แต่ฉันก็ใจง่ายเหมือนๆกับเธอ ใจง่าย...ที่ยอมคุณชายทุกอย่างเหมือนๆกับเธอ
--------------------------------------------------------------------------
“คุณชายฮะ เรียกทงเฮมาที่นี่ มีอะไรสำคัญหรือเปล่าฮะ?”
ทงเฮนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นที่ปูด้วยผ้าพรมสีน้ำทะเล
ท่ามกลางห้องพักกว้างที่ถูกทาเป็นสีมืดทึบ ใบหน้าหล่อเหลาหันมาให้เห็นเพียงเสี้ยว
นัยน์ตาเรียบเย็นมองตรงมายังคนตัวเล็กกว่า ใบหน้าหวานหลุบลงต่ำ
มิอาจกล้าสู้สายตาของอีกฝ่ายได้เลยสักนิด
“วันนี้ทั้งวันยังไม่ทันได้เห็นหน้าค่าตาเธอเลยสักนิด ก็เลยจะเรียกขึ้นมาดูว่าสิ่งของของฉัน
ยังปกติดีอยู่หรือเปล่าก็เท่านั้นเอง”
เพียงถ้อยคำที่เรียบง่ายกลับบาดลึกเข้าสู่หัวใจของทงเฮซ้ำแล้วซ้ำเล่า
น้ำเสียงอ่อนทุ้มที่ฟังดูราบลื่นใบหู หากแต่ฟังดีๆกลับเป็นยิ่งกว่าถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม
สิ่งของของคุณชายยังมีชีวิตปกติดีอยู่หรือเปล่าอย่างนั้นหรือ?
ทงเฮยังคงปกติดี แค่มีอะไรทำให้สับสน หัวใจยังคงเจ็บเจียนตาย
แต่แค่ทงเฮ.. ยังไม่ตาย
“ในเมื่อคุณชายได้เห็นว่าสิ่งของของคุณชายปกติดีแล้ว ทงเฮก็ขอตัวก่อนนะฮะ”
เมื่อร่างบางทำท่าจะลุกเดินหนี
ก็กลับมีแรงรั้งจากอีกฝ่ายหยุดฝีเท้าทงเฮลง
“เดี๋ยวสิทงเฮ”
ร่างสูงดึงรั้งข้อมือเล็กเรียวเอาไว้ด้วยหนึ่งมือของเขา
ร่างตรงหน้าหยุดนิ่งเป็นตาย ไม่มีถ้อยคำใดเล็ดลอดออกมาหลังจากนั้น
คิบอมเดินไปอยู่เบื้องหน้า ทงเฮหลุบตาลงต่ำ มือหยาบค่อยๆไล้ไปบนรูปหน้าสวยอย่างแผ่วเบา
“อย่าเลยฮะคุณชาย”
คนตัวเล็กกว่าพยายามบ่ายเบี้ยงใบหน้าหนี แต่ดูเหมือนว่าจะไม่พ้น
คิบอมถอนหายใจยาวก่อนจะเชยคางของอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างแรง
ดวงตาคู่สวยรื้นใสไปด้วยหยาดบริสุทธิ์ ดวงตาสีรัตติกาลยังคงนิ่งสนิท
ทงเฮเจ็บเหลือเกินตอนนี้...เจ็บที่ยังคงมีแค่คุณชายเท่านั้น
“จะร้องไห้ไปเพื่ออะไรทงเฮ? เจอฉันกี่ครั้งๆก็ร้องไห้ ฉันไม่ชอบ!”
“คุณชายเคยชอบใจอะไรในตัวทงเฮบ้างล่ะฮะ! ทงเฮมันไม่ใช่คนของคุณชายเหมือนซันนี่นะฮะ
ที่ไม่ว่าจะทำอะไร หยิบจับอะไร หรือพูดอะไรก็ถูกใจคุณชายไปเสียทุกอย่าง”
ทิ้งระยะไว้เพียงชั่วครู่ พันธนาการจากข้อแขนเริ่มคลายออก
ไม่มีส่วนใดในร่างกายทั้งคู่สัมผัสกันเลยสักนิด คุณชายคิบอมและทาสผู้ซื่อสัตย์
ยังคงยืนสบหน้ากัน และดูเหมือนว่าไม่มีฝ่ายใดจะหลบหนี หยาดน้ำตาของคนตัวเล็กไหลเอื่อย
ริมฝีปากหนาเหยียดเป็นเส้นตรง กำมือสั่นสะท้านเพราะไม่อาจทนดูภาพตรงหน้าได้อีกแล้ว
คุณชายคิบอมกำลังใจอ่อน...
“บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ร้องไห้น่ะ”
นิ้วกร้านยกขึ้นเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าสวยหวาน
แต่ดูเหมือนกับว่าเสียงสะอื้นกลับเพิ่มพูนขึ้นเท่าทวี
ยิ่งคุณชายตัวแสบทำแบบนี้...ก็ยิ่งเท่ากับให้ความใส่ใจในตัวทงเฮมากขึ้นเท่านั้น
“คุณชายอย่าทำแบบนี้กับทงเฮเลยฮะ คุณชายก็รู้ว่าทงเฮ...”
นิ้วเรียวยาวหยุดที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อน
ถ้อยคำกลืนหายลงไปในลำคอของทงเฮโดยอัตโนมัติ
รอยยิ้มผู้ชนะปรากฏบนมุมปากสีเข้ม
ร่างบางหยุดสะอื้นชั่วขณะเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
เสียงกระซิบแผ่วเบาทำเอาวิญญาณของใครคนหนึ่งหลุดลอย
“ฉันพูดอะไรก็ต้องเชื่อฟังสิ ทาสของฉัน”
ทงเฮไม่รู้ว่าจะยินดีหรือช้ำชอกกับถ้อยคำนั้นดี..
ทาส งั้นหรือ?
มันดีกว่าสิ่งของใช่ไหมนะ? อย่างน้อย ได้เป็นทาสก็มีชีวิตและหัวใจ
คุณชายคิบอม มอบชีวิตและหัวใจให้กับสิ่งของของคุณชายแล้ว
“เข้าใจหรือยัง อีทงเฮ?”
ใบหน้าหวานพยักหน้าเบาๆ
มือหยาบลูบไปบนปรอยผมบางสีน้ำตาลเข้ม
ทงเฮอยากยิ้มเพราะอย่างน้อยก็เหมือนกับว่าคุณชายอนุญาติให้ทาสคนนี้รักคุณชายได้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม..
ทาสผู้ซื่อสัตย์ จะไปเทียบอะไรกับ คนของคุณชาย อย่างซันนี่ได้
“ที่เธอพูดวันนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า?”
ดวงตาคู่สวยจับจ้องไปยังนัยน์ตาสีรัตติกาล
แววตาของคุณชายดูอ่อนโยนกว่าเดิมหลายเท่านัก
ทงเฮไม่อาจหยุดความคิดที่จะหลงใหลในตัวคุณชายได้เลย
แม้จะรู้ว่า ต่อจากนี้คงต้องเจ็บหนักเพียงไร แต่ทงเฮก็ยังคงเต็มใจยอมรับมัน
และทุกๆครั้งก็ได้แต่โทษตัวเองภายหลังโดยคุณชายตัวดีไม่มีทางได้รับรู้
“วันไหนหรือฮะคุณชาย?”
ตัวทงเฮรู้ดีว่าคุณชายคิบอมกำลังพูดถึงอะไร
หากแต่แสร้งแกล้งโง่เพื่อหลบเลี่ยงการตอบคำถามนั้น
“วันที่เธอบอกฉันว่า...”
“.....”
“เธอรักฉัน”
ใบหน้าสวยเบิกตาโพลง อยากจะได้ยินอีกสักครั้ง
เพราะไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าที่ตนได้ยินนั้นหูฝาดไปหรือไม่?
คุณชายที่ทงเฮรักสนใจกับเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ?
คุณชายอยากได้รับความแน่ใจนี้ไปเพื่ออะไรกัน?
ทงเฮจะผิดมากไหม หากจะคิดเข้าข้างตัวเองดูสักครั้ง
“ทงเฮรักคุณชาย แต่ทงเฮจะไม่เรียกร้องอะไรจากคุณชายทั้งนั้นฮะ”
ร่างบางพูดเสียงใส นัยน์ตาซื่อดูเศร้าสร้อยไม่ได้เปลี่ยนแปลง
นิ้วหยาบไล้ไปตามโครงหน้าหวาน
สะกิดหางตาปล่อยให้สายธารแห่งความโศกเศร้าไหลระบายออกมา
“ไม่เรียกร้องก็ดีแล้ว เธอจะต้องเป็นทาสก็ฉันตลอดไป เข้าใจไหมทงเฮ?”
ราวกับมีดกรีดลึกให้หัวใจดวงน้อยแทบแหลกสลาย..
ถึงขนาดนี้แล้วคุณชายก็ยังคงเป็นเช่นคนเดิม
คนเดิมที่ไม่รักทงเฮ...
เห็นหรือยังล่ะคุณชาย?
เห็นน้ำตาทงเฮไหม?
น้ำตาที่หลั่งออกมาให้คุณชายอีกครั้ง ไม่รู้ครั้งที่เท่าไร
สอนตัวเองให้เข็ดกับความรู้สึกบ้าๆ แต่กลับไม่เคยหลาบจำ
ทงเฮผิดเองอีกแล้วใช่ไหม?
ผิดเองที่รักคุณชาย
------------------------------------------------------------------
TO BE CONTINUE ON PART 9
THANKS FOR COMMENT
THANKS FOR ATTENTION
>>>
ความคิดเห็น