คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : |; chapter 7
HEARTLESSII
หากจะเกิดมาไร้หัวใจ *
Leading Couple.. Kibum x Donghae
Written By.. PRETTY.KKZ
10/05/2552 08.50 PM.
Part 7
.
.
.
.
ใบหน้าหวานภายใต้แว่นกันแดดสีดำยังคงนิ่งเฉยเช่นเดียวกับปกติ
ร่างเล็กเดินเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้าที่หรูหรา ใหญ่โต
ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน สายตามากกว่าร้อยคู่ก็หันมามองที่เขาเป็นจุดๆเดียว
เหตุเพราะเป็นทายาทคนกลางของตระกูลคิม น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ‘คุณหนูคิมซองมิน’
“ซองมิน...รบกวนแวะร้านนี้เป็นเพื่อนผมได้ไหมครับ?”
แขนใหญ่รั้งร่างของคนตัวเล็กเอาไว้
ใบหน้าหวานหันมามองตามอย่างเชื่องช้า
ก่อนที่จะสบัดแขนออกจากเงื้อมมือของอีกฝ่าย
“ขอโทษนะซีวอน ฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัว”
แม้จะเป็นถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจของใครเอาได้ง่ายๆ
หากแต่เป็นคุณหนูคิมซองมินผู้มีเบื้องลึกของจิตใจที่อ่อนโยนเป็นคนพูดมันออกมา
ถึงจะไม่ใช่ซีวอนก็ตาม...ก็จะไม่ได้โกรธเคืองหรือนึกน้อยใจในคำพูดนั้นๆเลย
เรียวขาเล็กก้าวเข้าไปในร้านขายเครื่องประดับ
แสงแววระยับรอบด้านจากทุกมุมร้านเหมือนจะไม่มีความหมายอะไร
เมื่อคนที่ดูดีและทรงคุณค่ากว่าเพชรน้ำงามได้ย่างเข้ามาแล้ว
พนักงานสาวทุกคนผายมือต้อนรับ พร้อมๆกับที่ซองมินกระตุกยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า
“คุณหนูซองมินมาเองเลยหรอคะ? ปกติดิฉันเจอแต่คุณจองซู”
หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาอย่างคุ้นเคย
“มาเป็นเพื่อนซีวอนฮะ”
เสียงหวานตอบออกมาอย่างเช่นทุกครั้ง
หากไม่มีกิจจำเป็นจะต้องมาหาอะไรที่เร่งด่วนหรือจะต้องมาเป็นเพื่อนใคร
ซองมินก็คงจะไม่มีทางออกมานอกบ้านอย่างแน่นอน
เพราะซองมินรู้สึกอับอาย...ที่ใครๆก็รู้ไปทั่วว่า ซองมินมีความผิดปกติทาประสาท
หากแต่ไม่เคยรู้เลยว่า ความผิดปกตินี้ไม่ได้ทำให้สังคมไม่ยอมรับแต่อย่างใด
คุณหนูแห่งตระกูลที่สูงศักดิ์ ก็ย่อมจะสูงศักดิ์วันยังค่ำ
ขายาวเริ่มก้าวเดินวนไปวนมาในร้าน แต่ก็ไม่ได้ทิ้งปล่อยให้คนตัวเล็กต้องอยู่เดียวดาย
ปลายหางตายังเหลือบมองคนที่เขารักอยู่เป็นระยะๆ
ถึงแม้ดวงตาคู่นั้นจะไม่เคยมีสักครั้งที่จะหันมองกลับมา แต่ซีวอนก็มีความสุข
สุข...ที่ได้แอบมองคุณหนูซองมินอยู่ฝ่ายเดียว
ร่างเล็กยืนอยู่หน้าตู้กระจกใสที่โชว์สร้อยข้อเท้าทองคำขาวรูปกระต่ายตัวเล็กๆ
อยู่ดีๆก็นึกถูกใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาคู่สวยจ้องมองมันจนขึ้นประกาย
ถ้าหากได้สิ่งนี้เป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆจากคยูฮยอน...มันก็คงจะดีสินะ
“ชอบอันนี้หรอ?”
เสียงหนึ่งดังขึ้นโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว
น้ำเสียงที่เขาคุ้นเคยดีเพราะเป็นน้ำเสียงที่ดังก้องอยู่ในหัวใจของซองมินตลอดมา
ใบหน้าหวานเงยขึ้นช้าๆเพื่อมองให้แน่ชัดว่าใช่ใครที่เขาคิดไว้หรือเปล่า?
แล้วมันก็ใช่อย่างนั้นจริงๆ...
“คะ...คยูฮยอน”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองดูคนตรงหน้าเต็มๆร่าง
ใบหน้าคมคายส่งยิ้มให้มาเจื่อนๆ แต่แค่นั้นซองมินก็ดีใจขึ้นมามากแล้ว
“นายมาทำอะไรที่นี่?”
“มาหาซื้อของขวัญน่ะ”
ได้ยินเพียงเท่านั้นหัวใจก็กระตุกวูบ
ของขวัญ งั้นหรือ ?
ของขวัญที่เป็นเครื่องประดับราคาแพงลิบลิ่วในร้านนี้อย่างนั้นหรือ ?
“อย่างนั้นหรอ?”
จะมีสักครั้งบ้างไหมที่คยูฮยอนจะเดินหาซื้อของขวัญเพื่อซองมิน?
ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ได้รับเพียงแค่การ์ดหนึ่งใบในโอกาสพิเศษ
ใครๆก็พูดว่าคุณชายคยูฮยอนเลือกของขวัญให้ใครเขาไม่เป็น
ซองมินจึงได้รับแต่การ์ดเท่านั้น...
แต่วันนี้ ทำไม คยูฮยอนจึงได้มาเดินหาของขวัญด้วยตัวเองเช่นนี้?
คนที่ได้รับ ก็คงจะเป็นคนพิเศษมากสินะ..
“ซีวอน...กลับเถอะ”
น้ำเสียงหวานใสเอ่ยเรียกคนที่กำลังยืนเลือกอะไรบางอย่าง
แพทย์หนุ่มหันกลับมามองช้าๆก่อนที่จะวางเงินก้อนโตพร้อมกับหยิบของตรงหน้าออกมา
ร่างเล็กก้าวออกพ้นร้านหรู ทิ้งคยูฮยอนไว้ที่เบื้องหลัง..
ซองมินทนไม่ได้หรอกนะ ที่จะต้องมายืนมองคยูฮยอนเลือกของขวัญให้ คนอื่
“ขอโทษนะซีวอน ที่ทำให้นายไม่ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดในร้านนั้น...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...เพราะเมื่อกี๊ผมก็เลือกดูสิ่งที่ดีที่สุดอยู่พอดี”
ประตูรถปิดสนิท พร้อมๆกับที่รถคันใหญ่ค่อยๆเคลื่อนตัว
ภาพของชายหนุ่มร่างยาวในชุดสูทเดินออกจากห้างดังปรากฏแก่สายตา
ไหนใครบอกว่าคยูฮยอนเลือกของขวัญไม่เป็น?
ทำไมถึงได้เลือกไวอย่างนั้นล่ะ? ทุกอย่างทุกคนพูด...คงเป็นแค่คำปลอบใจอย่างนั้นซินะ
--------------------------------------------------------------------------
ทงเฮจัดกระเป๋าสัมภาระของตัวเองให้ห้องหับเล็กๆ
หยาดน้ำตาไหลร่วงลงมาเป็นเวลากว่าชั่วโมงแล้ว
ทั้งๆที่ควรจะเลิกเสียใจแล้วแท้ๆ แต่น้ำตาก็กลับไหลออกมาไม่หยุด
ยิ่งนึกถึงภาพของคุณชายตัวร้ายมากเท่าไร..มันก็ยิ่งนึกเจ็บแปลบใจมากขึ้นเท่านั้น
“จะไปไหน?”
เสียงทุ้มต่ำที่ย่อมคุ้นเคยดีดังขึ้นภายหลัง
ทงเฮสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล้าหันกลับไปมองอยู่ดี
มือบางปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแบบลวกๆ ก่อนที่จะฝืนใจทำเสียงแข็ง
“เจ้านายยังไม่ได้บอกคุณชายหรอกหรือฮะ? ว่าพรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกัน”
“เดินทาง? ไปไหน?”
น้ำเสียงเรียบเย็นแสดงออกมาเป็นเอกลักษณ์
ทั้งๆที่เป็นงานใหญ่โตแท้ๆแต่กลับไม่มีใครได้ใส่ใจ
ร่างบางถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนที่จะหันหน้าไปหาอีกฝ่าย
“งานเลี้ยงต้อนรับคุณชายและงานวันเกิดคุณหนูซองมินที่จัดฉลองพร้อมกันนี่ไงฮะ”
ใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้ากลบเกลื่อน
ความจริงคิบอมรู้แก่ใจดีอยู่แล้ว ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใส่ใจ
งานใหญ่งานโตถึงเพียงนี้ ใครเขาจะลบลืมไปได้ลง
หากแต่มีเหตุผลอื่นๆที่ทำให้คิบอมต้องมาหยุดยืนอยู่ตรงนี้...หน้าห้องของทงเฮ
“คุณชายต้องการอะไรหรือเปล่าฮะ?”
เสียงหวานเอ่ยถามก่อนจะลอบถอนหายใจอีกครั้ง
คุณชายคิบอมทอดมองมาด้วยแววตาเรียบเฉยเช่นธรรมดา
ทว่าในหัวใจของเจ้าตัวนั้น กลับไม่ได้เรียบเฉยอย่างที่ใครๆเห็น
คิบอมรู้สึกเหมือนมีความผิดติดตัว..
ถ้าหากในเวลานี้ไม่ได้ขอโทษ ทงเฮ กับสิ่งที่ตนได้ทำลงไป
“ทงเฮ ฉัน...”
ใบหน้าสวยเลิกคิ้วขึ้นสูง รอดูอยู่ว่าสิ่งที่คุณชายพูดนั้นจะตรงกับที่คิดไหม?
แต่ก็ถูกสมองสั่งให้ลืมไปได้เลย เพราะคนอย่างคุณชายไม่มีทางขอโทษทงเฮอย่างแน่นอน
และทงเฮก็คิดเอาไว้แล้วว่า ต่อให้คุณชายคิบอมมาขอโทษทงเฮตอนนี้ ทงเฮคงจะไม่ให้อภัย
เพราะทงเฮเกลียดแววตาเรียบเฉยนั่น...เกลียดทุกคนที่คอยแต่ผลักไสไล่ส่งเขาให้ไปให้ใกล
เช่นเดียวกับที่คุณชายคิบอมปล่อยทิ้งให้ทงเฮสะอื้นจนตัวโยนอยู่เพียงลำพังแบบนั้น...
“คุณชายมีอะไรจะพูดกับทงเฮหรอฮะ?”
“ทงเฮ คือ...ฉันขอ...”
การเต้นของหัวใจกลับรัวและแรงขึ้นผิดจังหวะ
ภายในแววตาและสีหน้านิ่งสนิทนั้นกลับแฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ยากต่อการคาดเดา
ทงเฮเริ่มจะใจอ่อนแล้วงั้นหรือ?
ถ้าหากคุณชายพูดว่าขอโทษออกมา...ทงเฮจะให้อภัยคุณชายทั้งหมดเลยงั้นหรือ?
“ฉันขอ...”
“...”
“ขอ...น้ำแก้วหนึ่งสิ”
กำแพงความหวังของทงเฮกลับถูกพังทลายลง
นัยน์ตาเริ่มชื้นแฉะขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ความผิดหวังอย่างมากมายเข้าถาโถมในจิตใจที่เปราะบางทั้งๆที่ก็ได้เตรียมใจรับไว้แท้ๆ
ใบหน้าหวานหลุบหน้าลงต่ำพร้อมทั้งหันหลังให้
ไม่มีอีกแล้ว...ทงเฮจะไม่คาดหวังอะไรที่ไม่เคยเป็นไปได้จากคุณชายคิบอมอีกแล้
“ออกไปนั่งรอเถอะฮะ แล้วทงเฮจะเอาน้ำหนึ่งแก้วพร้อมกับของว่างไปให้”
ร่างสูงเดินคอตกออกไปทางด้านนอก
แม้จะคิดไว้แล้วแท้ ๆ ว่าจะต้องสารภาพผิดออกมาให้เสียจนได้
แต่กลับพลั้งปากออกไปแบบนั้นได้อย่างไรกัน?
ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมๆกับที่คนตัวเล็กเดินเข้ามา
ทงเฮวางอะไรบางอย่างไว้บนโต๊ะกระจกใสภายในห้องทำงานของคุณชายตัวดี
แม้จะชั่งใจอยู่สักพักว่าควรจะอยู่ที่นี่ต่อดีหรือไม่
แต่เมื่อพบว่าไม่มีใคร จึงเดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบๆ
“อ๊ะ...”
แขนเล็กถูกกระชากเข้าหาใครบางคน
ดวงตาคู่สวยมองหยั่งเข้าไปในดวงตาของเจ้าของแรงมหาศาล
แววตาสีนิลยังคงเรียบสนิทเช่นเดิม..
แต่ช่างแปลกนัก ทุกครั้งที่ทงเฮได้มองหยั่งเข้าไ
ทงเฮกลับหวั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“ไม่รู้หรือไงว่าทุกครั้งที่เอาของว่างและเครื่องดื่มมาให้ต้องอยู่รับใช้กันก่อน”
“ก็คุณชายไม่อยู่...”
“เธอไม่มีสิทธิ์เถียง!! อี ทงเฮ!”
ก็แน่สิ..
คนต้อยต่ำอย่างทงเฮจะมีสิทธิ์เถียงอะไรกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ได้
ใบหน้าสวยจึงหลุบลงต่ำด้วยความจำใจยอม
คิบอมพลิกร่างของคนตรงหน้าเข้าหา ชายหนุ่มก้มลงมองคนตัวเล็กอย่างพินิจพิเคราะห์
มือหยาบเชยคางมนให้แหงนขึ้น ทว่าดวงตาคู่นั้นยังคงมองต่ำอยู่เช่นเดิม
อี ทงเฮไม่อยากสบตากับคุณชายจอมเจ้าเล่ห์..
เพราะทงเฮไม่อยากจะใจอ่อนอีกแล้ว
“มองหน้าฉันสิทงเฮ!”
“.....”
“ฉันสั่งให้มองหน้าฉันไง!!!!!”
ร่างสูงพูดเสียงกร้าว คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างอดกลั้น
เพราะในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณชาย...ทงเฮก็ต้องทำ
หยาดน้ำใสไหลรื้นขึ้นมารอบดวงตาคู่สวย
หากแต่เจ้าตัวกลับปล่อยให้มันรินไหลโดยไม่คิดจะปาดมันออก
นี่ไงฮะ...คุณชาย คิม คิบอม
นี่ไงน้ำตาของ อี ทงเฮ...
“เธอจะร้องไห้ทำไม?”
“แล้วคุณชายจะอยากรู้ไปทำไมล่ะฮะ? คุณชายเคยใส่ใจสิ่งของของคุณชายด้วยหรอฮะ?”
คำพูดที่ระบายออกมาเป็นน้ำเสียงปนสะอื้น
กลับบาดฉึบแล่นลึกลงกลางหัวใจของคุณชายผู้ไร้ความรู้สึกได้โดยแท้จริง
น้ำตาบริสุทธิ์...ที่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทงเฮก็ยอมต้องหลั่งออกมาเพื่อเขา
สามารถทำให้หัวใจของผู้ชายคนหนึ่งปวดร้าวขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
คิบอมไม่มีหัวใจไม่ใช่หรือ?
แล้วที่รู้สึกรวดร้าวอยู่นี่ มันส่วนไหนกัน?
“เธอกำลังจะพูดว่าทั้งหมดนี่ฉันเป็นคนผิดอย่างนั้นหรอ?”
แม้จะรู้สึกพลาดผิดมหันต์สักปานไหน
คนอย่างคุณชายคิมคิบอมผู้ไม่เคยก้มหน้าขอโทษใครก็ยังคงพลั้งปากออกมาไม่รู้กี่หน
ใจคิดอย่าง แต่ปากกลับไปอีกอย่าง
เรื่องแบบนี้จะไปคาดหวังอะไรกับคนที่ไม่เคยมีหัวใจ ไม่มีความรู้สึกกันล่ะ?
“คุณชายไม่ผิดหรอกฮะ!! ไม่เคยผิดอะไรเลยด้วยซ้ำ ทงเฮผิดเอง!!
ทงเฮผิดเองคนเดียวมาตั้งนานแล้ว..ฮึก...ทงเฮผิดเองที่.....”
Knock! Knock!
เสียงประตูเจ้ากรรมกลับดังขึ้นผิดจังหวะตามเคย
ร่างสูงชะงักชั่วครู่ก่อนที่จะก้มลงมองคนตรงหน้าอีกครั้ง
ถ้อยคำที่ขาดหายไป...คิบอมได้แต่ภาวนาให้มันเป็นสิ่งดีๆ
คุณชายคิมคิบอม...คาดหวังในเรื่องพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไร?
“ฮึก...ทงเฮผิดเองที่...รักคุณชาย”
“.....”
“พอใจหรือยังฮะ?”
ร่างบางสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนนั้นไปเสียง่ายๆ
ภายในหัวใจของคิมคิบอมกลับรู้สึกสับสนไปทั้งหมด
นี่มันอะไรกัน คิบอม ?
เกิดมาชาตินี้เขารู้สึก หวั่นไหว เป็นด้วยหรือ?
“รู้เอาไว้นะฮะคุณชายว่าทงเฮไม่เคยคาดหวังและจะไม่เรียกร้องขอความรักจากคุณชาย
ถึงทงเฮจะไม่ได้มีตัวเลือกเข้ามามากมาย...แต่กรุณาจดจำไว้ด้วยนะฮะ ว่าถึงแม้จะให้ทงเฮเลือก
...ทงเฮก็ไม่เลือกคนไม่มีหัวใจอย่างคุณชายคิมคิบอมแน่นอน”
--------------------------------------------------------------------------
ชายหนุ่มร่างโปร่งบางนั่งคร่ำเคร่งภายในห้องทำงานที่มีกลิ่นยาฉุนจมูก
กองเอกสารวางทับๆกันสูงเกือบจะเท่าภูเขา นั่นหมายถึงว่ามีงานมากมายที่รอให้ฮันคยองต้องสะสาง
เลยเวลาพระอาทิตย์ตกดินมาแล้ว...
มือเรียวถอดแว่นตาหนาเตอะออกจากใบหน้าเนียนละเอียด
เปลือกตาปิดทับกันอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่หวังจะไม่ให้มีอะไรมาขัดใจ
ฮันคยองเหนื่อยล้าจากการทำงานมากมายแล้ว...หวังเพียงให้ได้พักผ่อนลงก็เท่านั้น
“คุณฮันคยอง...”
เสียงหนึ่งดังขึ้นจากเบื้องหน้า
ดวงตาทั้งคู่ค่อยๆเปิดขึ้นเล็กน้อย เส้นคิ้วบางขมวดเข้าหากันอย่างขัดใจ
ทั้งๆที่กำลังจะได้งีบแล้วแท้ๆ กลับมีอะไรมากวนใจซะได้
“คุณ...ซีวอน”
ร่างสูงใหญ่ค่อยๆล้มลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงาน
ใบหน้าคมเข้มระบายยิ้มออกมาเป็นการทักทาย
หากแต่เจ้าของห้องไม่ได้มีอารมณ์ร่วมด้วยสักเท่าไร
“ทีหลังคุณก็ควรเคาะประตูก่อน เวลาเย็นๆแบบนี้มันเวลาที่ผมควรพักผ่อน”
“นี่มันเลยเวลากลับบ้านแล้วนะคุณ ผมก็นึกว่าคุณจะกำลังเก็บข้าวเก็บของอยู่เสียอีก”
ใบหน้าเนียนส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะมองไปรอบๆห้อง
ห้องทำงานที่ไม่มีอะไรเลยนอกจาก ตู้ โต๊ะ มากมายและกองเอกสารกองใหญ่เบ้อเริ่ม
แม้เวลาจะจัดห้องของตัวเอง...ฮันคยองก็ยังไม่มี
นี่มันใช่วิสัยของคนที่ย้ายที่ทำงานวันแรกซะที่ไหนล่ะ?
“งานเยอะแบบนี้นี่เอง คุณถึงยังไม่ยอมกลับบ้าน”
“จะช่วยผมทำงานหรือไง?”
ฮันคยองเลิกคิ้วสูง พูดหยอกล้อให้บรรยากาศไม่ได้ตึงเครียดมากนัก
ร่างสูงเอนหลังพิงพนักก่อนที่จะหยิบเอกสารต่างๆขึ้นมาดูทีละเล่ม
“ถ้าทำได้ก็จะช่วยนะครับ แต่นี่มันคนละอย่างกับที่ผมรู้เลยนะ...”
“ผมพูดเล่นน่ะ ไม่ต้องช่วยหรอก ผมทำคนเดียวได้”
ร่างโปร่งรวบเอกสารกองโตออกจากที่ตรงนั้น เคลียร์พื้นที่ให้โต๊ะว่าง
ก่อนที่จะกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม
แก้วกาแฟที่บรรจุน้ำสีดำสนิทอุณหภูมิเย็นชืดถูกกระดกดื่มขึ้นอีกครั้ง
“มีอะไรหรือเปล่า?”
“ผมอยากให้คุณช่วยดูนี่ให้หน่อย...”
กล่องกำมะหยี่สีแดงที่ถูกล้วงมาจากกระเป๋าเสื้อสูทนำขึ้นวางบนโต๊ะ
ซีวอนเปิดมันออกอย่างเก้ๆกังๆ แสงระยิบระยับจากจี้ห้อยคอสะท้อนเข้าดวงตาของอีกฝ่าย
ใบหน้าเนียนมองสิ่งนั้นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าอีกครั้ง
“คุณซื้อมาให้ใคร? ราคาไม่ใช่เล่นๆเลยนะ”
“ซื้อเป็นของขวัญวันเกิดคุณหนูครับ คุณคิดว่าคุณหนูเธอจะชอบหรือเปล่า?”
ซีวอนเป็นคนที่รักใครแล้วทุ่มเทให้โดยแท้จริง
นี่เป็นข้อดีและน่ายกย่องของผู้ชายคนนี้..
ฮันคยองทอดมองคนตรงหน้าด้วยแววตาละห้อย
รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไงซีวอน? ว่าคุณหนูเขาไม่คิดจะมีเยื่อใย
แล้วจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?
“คุณหนูเธออาจจะชอบก็ได้นะ”
“ขอบคุณสำหรับคำตอบนะครับ อ้อ...เกือบลืม”
มือใหญ่ควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าใบโต
ดอกกุหลาบสีแดงดอกใหญ่ที่บานแย้มกลีบสวยงามปรากฏตรงหน้า
ชายหนุ่มยื่นให้ร่างโปร่งบางโดยไม่ได้มีความคิดใดแอบแฝง
แต่นั่นกลับทำให้หัวใจของจิตแพทย์คนเก่งเต้นโครมครามขึ้นผิดปกติ
“ให้ผมทำไม?”
“ก็ให้เพื่อต้อนรับการเริ่มทำงานที่โรงพยาบาลอันดับหนึ่งในประเทศของคุณไงครับ”
“.....”
“เก็บเอาไว้ดีๆนะ ผมขอตัวก่อนครับ”
“.....”
“พักผ่อนเยอะๆล่ะ อย่าโหมงานหนัก ดูแลตัวเองดีๆนะครับ”
แผ่นหลังกว้างเดินออกจากห้องไปด้วยความรวดเร็ว
ทิ้งให้ใครคนเดิมยังคงนิ่งค้างกับการกระทำแปลกๆนี้เพียงลำพัง
มันไม่แปลกหรอกสำหรับคนที่เคยพูดคุยและรู้จึกซีวอนดีอยู่แล้ว...
เพราะซีวอนเป็นคนโรแมนติกและเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็มักจะเห็นเขาเป็นตัวเลือกในการร่วมชีวิต
หากแต่ฮันคยองไม่เคยสัมผัสถึงตัวตนที่แท้จริงของซีวอนได้ด้านนี้มาก่อน
หลงรักเข้าให้แล้วสินะ...ฮันคยอง
-----------------------------------------------------------------
TO BE CONTINUE ON PART 8
THANKS FOR COMMENT
THANKS FOR ATTENTION
>>>
ความคิดเห็น